มาคิดกันดีกว่าว่า "ทำไมก้วยเซียงถึงตามหาเอี้ยก้วยไม่พบในภาค 3"

แล้วลูก ของเฮียก้วยจะแต่งงานกะใครว่ะ มึนว่ะ

ไม่รู้สิคะ

เอ่อ นั่นดิ แล้วลูกเอี้ยก้วยแต่งงานกับใครฟร่ะ ปวดหมอง

ฟายยย ถ้าเมืองไม่แตกดิแปลกแน่ เพราะในประวัติศาสตร์มันแตกไง ฟาย ก็บทมันเขียนมาให้เป็นยังงี้ จะคิดอะไรกันมากวะ

คห.43 ปัญญาอ่อนหรือเปล่าครับ ที่เขาวิเคราะห์กันเขาวิเคราะห์หลักการในเรื่องที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวกับเมืองแตก ประวัติศาสตร์นะมันแตกแน่ แต่มันแตกอย่างไงเกี่ยวกับพันในเรื่องมังกรหยกอย่างไงนี่สิที่เขาวิเคราะห์กัน ถ้าไม่มีความเห็นที่มันดีกว่านี้ ก็อย่าแสดงเลยดีกว่า มีแต่คนเกลียดเปล่าๆ

ไอมังกรหลับ มาป่วนอีกแล้ว

อีคห. 43 รีบๆหลับไปเถอะค่ะ เสร่อ

ที่หาไม่เจอก็เพราะสงสัยอาจเสียชีวิตก่อนก็เป็นได้ เพราะไม่มีอะไรที่แน่นอนเพราะไม่ได้กล่าวไว้

มังกรหลับครับ อย่าพูดแนวนี้ได้มั้ยมันไม่ดีครับ ส่วนคุณ AKK พูดมีเหตุผลมากๆเลย อยากอ่านแล้วสิ อิอิ อีก 2 ปี ค่อยไปซื้อ

ผมว่านะ เอียก้วย กับ เซียวเล้งนึ่ง ไม่ได้อยู่ผาไส้ขาดแน่นอน เพราะ

""เล้งนึ่ง เคยบอกว่า ศิษย์สำนักสุสานโบราณ ต้องกลับมาตายที่ สุสานโบราณ""

เดี๊ยนว่าอยุ่ที่สุสานกระบี่ต๊กโกวคิ้วป้ายค่ะ แล้วก็แรดร่านไปเรื่อย หาที่จับจุดไม่ถูก เหมือนกับอึ้งเอี๊ยซือ หาตัวยากค่ะ สมัยก่อนไม่มือถือกับอีเมล

ดิฉันผู้ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา อ่านเหตุผลของทุกท่านแล้ว ก็เริ่มตั้งสมมติฐานใหม่ โน้มเอียงว่าเอี้ยก้วยและเหล่งนึ่ง คงจะอยู่ที่สุสานโบราณนั้นแหละ

แต่คงจะไม่ได้กลับไปอยู่ในทันที หลังจากออกจากเมืองเซียงเอี้ยง แต่นะจะกลับไปเมื่อเริ่มอายุมากแล้ว และจะกลับไปตายที่นั่น

ไม่เช่นนั้นก้วยเซียงคงตามหาเอี้ยก้วยเจอแล้ว

สถานที่ที่คาดว่าทั้งสองน่าจะไป ที่ดิฉันตั้งสมมติฐานใหม่คือ

1.เอี้ยก้วยพาเหล่งนึ่งไปดูที่ฝังศพของเอี้ยคัง และเล่าถึงการตายของพ่อที่ตนเองรู้มาให้เหล่งนึ่งฟัง

2.พาไปเคารพหลุมศพพ่อบุญธรรมของเอี้ยก้วย และเล่าถึงการได้วิชาที่เป็นท่าแก้ไขไม้ตีสุนัขที่พ่อบุญธรรมคิดค้นไว้

3.พาไปรู้จักสหาย (ลูกน้อง) ของเอี้ยก้วย ที่ได้ช่วยเหลือกันมา

นอกจากนี้ หลังจากที่ได้อ่านความเห็นของผู้แสดงความคิดเห็นท่านอื่นๆ แล้ว คิดว่าเอี้ยก้วยน่าจะพาเหล่งนึ่งไปที่อื่นๆ อีกดังนี้

4.เอี้ยก้วยพาเหล่งนึ่งไปคารวะที่ฝังศพโกวคิ้วป้าย และเล่าเรื่องการฝึกวิชาจากพี่อินทรีย์ตลอดเวลา 10 กว่าปีที่รอนาง

5.พาไปเที่ยวสุสานกระบี่

เหตุนี้อาจทำให้ทั้งสองสวนทางกับก้วยเซียง จนก้วยเซียงหาเอี้ยก้วยไม่พบ

พี่น้อง สกุล บู๊ ก็พลีชีพไปกับ ก๊วยเจ๋ง อึ้งย้ง ตั้งแต่เมืองแตกแหละ ครับ จะเป็นคนสอน เก้าอิมให้ ลูกหลาน เอี้ยก้วยได้ไง

ผมอ่านมาหลาน ค.ห ผมว่า ค.ห ที่51 มีเหตุผม และกลมกลืนกับเนื้อ ที่สุด

แจกเพลงประกอบภาพยนตร์จีนมังกรหยก2 ภาคเอี้ยก้วยและเซียวเหล่งนึ่ง ใครจะเอา
Add มาที่ lovestory_liuyifei@hotmail.com ไม่หลอกของจริงNoเกรียน

ดังที่คุณประจิมคุ้มคลั่ง ความเห็นที่15 ได้แสดงทัศนะไว้ว่า เหตุใดรุ่นเหลนของเอี้ยก้วย จึงรู้วิชาเก้าอิงกรงเล็บกระดูกขาว ฉบับสมบูรณ์

คำถามนี้ ตอนแรกดิฉันก็คิดไม่ออก พยายามจินตนาการว่าทำไม เพราะอะไร?

พอดีอ่านกระทู้ของท่านอื่นๆ ไปๆ มาๆ อยู่ๆ ก็เกิดปิ้งคำตอบนี้ขึ้นมาได้ ซึ่งดิฉันได้ตอบคำถามในกระทู้เป็นสมมติฐานไว้ที่กระทู้ชื่อ "ยาวหน่อยแต่ก็สนุกนะครับ พอดีไปเจอมา โดยคุณแจม"

โดยได้แสดงความคิดเห็นเรื่องเกี่ยวกับ "ทำไมแม่นางเสื้อเหลือง "แซ่เอี้ย" จึงทราบวิชาเก้าอิมกรงเล็บกระดูกขาวฉบับสมบูรณ์"

โดยดิฉันได้คิดหรือจินตนาการออกมาเป็นภาพของเอี้ยก้วยคุยกับก้วยเจ๋ง สมมติฐานที่ดิฉันตั้งไว้มี 2 การดังนี้

สมมติฐานที่ 1ก้วยเจ๋งมีความเข้าใจผิดอยู่ครั้งหนึ่ง ในตอนที่เอี้ยก้วยจะฆ่าก้วยเจ๋งเพื่อแลกยาถอนพิศดอกรักว่า ที่เอี้ยก้วยทำอย่างนั้นเพราะธาตุไฟเข้าแทรก เนื่องจากเอี้ยก้วยโหมฝึกวรยุทธ แล้วเอี้ยก้วยก็ตอบรับด้วยว่า "ใช่" และขอบคุณก้วยเจ๋งที่ช่วยเหลือ ไม่เช่นนั้นธาตุไฟที่เข้าแทรกคงทำให้เขาตาย

ก้วยเจ๋งจึงเข้าใจว่า เอี้ยก้วยบ้าฝึกวิชามากๆ ถึงมากที่สุด ดังนั้นเพื่อเป็นการตอบแทนเอี้ยก้วยในการมอบกระบี่เหล็กนิลดำให้ตนเป็นที่ระลึก (หรือเพื่อให้นำไปตีเป็นกระบี่ใหม่ก็แล้วแต่) นอกจากนี้ เพื่อระลึกถึงเอี้ยคังผู้มีวรยุทธชุดนี้เป็นวิชาติดตัว จึงได้มอบคัมภีร์กรงเล็บกระดูกขาวให้เอี้ยก้วย เพื่อเป็นการตอบแทน ตามนิสัยลูกตัดแขนใคร พ่อก็จะกลั้นใจตัดแขนลูกไปคืนเขา

ภาพที่ดิฉันจินตนาการถึงการพูดคุยกันระหว่างก้วยเจ๋งและเอี้ยก้วย ถึงเรื่องคัมภีร์เก้าอิมกรงเล็บกระดูกขาวมีดังนี้

หลังจากสิ้นสงคราม เอี้ยก้วยอาจถามถวงคำสัญญา ที่ก้วยเจ๋งเคยสัญญากับเอ้ยก้วยว่า หลังเสร็จสิ้นสงครามรบกับมองโกลแล้ว ตนเองจะเล่ารายละเอียดการตายของพ่อให้ฟัง
ดังนั้นเมื่อสิ้นสงคราม เอี้ยก้วยอาจถามถวงคำสัญญานั้น

ไม่ใช่เพราะตนเองยังไม่รู้เรื่องการตายของเอี้ยคังกระจ่าง แต่อาจเพราะอยากลองดูว่าก้วยเจ๋งจะว่าอย่างไร? หรือถ้าเป็นศาล การเรียกได้ว่าจำเลยยังไม่เคยให้การเลย จึงควรให้ความเป็นธรรมกับจำเลยด้วย

และอีกประการหนึ่งคือ แม้จะทราบว่าพ่อเป็นคนไม่ดี แต่เวลาที่ก้วยเจ๋งพูดถึงเอี้ยคัง มักจะตำหนิตัวเองทุกครั้งว่า "เป็นเพราะข้าไม่ดี ข้าเป็นพี่ร่วมสาบาน แต่กลับไม่สามารถพูดเกี้ยกล่อมให้เอี้ยคังกลับใจได้"

ตรงนี้เป็นสิ่งที่ทำให้เอี้ยก้วยรู้สึกดีขึ้น เพราะคำพูดเช่นนี้อาจช่วยปรอบประโลมใจเอี้ยก้วยในทำนองที่ว่า "ทั่วยุทธภพมีแต่คนด่าทอสาบแช่งเอี้ยคัง มีแต่ก้วยเจ๋งเท่านั้นที่ต่างออกไป"

เมื่อก้วยเจ๋งเล่าจบ ก้วยเจ๋งคงจะนึกว่า เอี้ยก้วยคงจะแค้นเคืองตน แต่ก็ต้องแปลกใจว่า เอี้ยก้วยรับทราบเรื่องดังกล่าวทั้งหมดแล้ว ก่อนที่ก้วยเจ๋งจะเล่าเสียอีก

และเอี้ยก้วยคงจะขอให้ก้วยเจ๋งเล่าต่อไป ว่าในช่วงเวลาที่ก้วยเจ๋งอยู่กับเอี้ยคัง มีชีวิตที่ดีๆ ร่วมกันอย่างไร ซึ่งก้วยเจ๋งก็อาจจะเล่าชีวิตตั้งแต่ในวัยเด็กของเอี้ยคัง จนกระทั้งโต และมีชื่อเสียงในด้านไม่ดีอย่างไร ซึ่งก็คงกล่าวถึงวิชาที่เอี้ยคังและก้วยเจ๋งฝึกด้วยกันด้วย นั้นก็คือวิชาเก้าอิมหรือกรงเล็บกระดูกขาว ที่ผู้ฝึกจะฝึกออกมาแล้วสำเร็จไม่เหมือนกัน ทั้งนี้แล้วแต่นิสัยใจคอของผู้ฝึก

เอี้ยก้วยอาจจะสงสัยต่ออีก เนื่องจากวิชานี้ช่างแปลกประหลาดนัก จึงอาจถามต่อไปถึงเนื้อหา ความลึกซึ้ง ลงไปถึงกระบวนท่าของวิทยายุทธชุดนี้

ดังนั้นเพื่อให้เป็นการระลึกถึงพ่อ(เอี้ยคัง) ก้วยเจ๋งก็อาจจะออกกระบวนท่ากรงเล็บกระดูกขาวให้ดู (ซึ่งก้วยเจ๋งก็มีความเข้าใจผิดๆ อยู่แล้ว ในความคิดที่ว่า เอี้ยก้วยบ้าการฝึกวิชา ถึงกับเคยธาตุไฟเข้าแทรก เอี้ยก้วยมีพรสรรค์ในการฝึกวิชา แค่ดูก็จำได้ เช่นวิชาไม้ตีสุนัข ก็เกิดจากการลักจำมา

หรืออาจเป็นไปได้ว่า ก้วยเจ๋งอาจมอบคัมภีร์ให้ โดยลอกเป็น 2 ชุด

ชุดแรกใส่ไว้ในกระบี่ฆ่ามังกร

และชุดที่2 มอบให้เป็นที่ระลึกถึงความสัมพันธ์ระหว่างก้วยเจ๋งและเอี้ยคัง โดยมอบให้เอี้ยก้วย และเพื่อเป็นการมอบของที่ระลึกแลกเปลี่ยนกับกระบี่เหล็กนิลดำ ที่มีเนื้อเหล็กที่หายากในยุทธภพ ตามนิสัยของก้วยเจ๋งที่มักตอบแทนผู้อื่นอย่างเท่าเทียม เช่น "ลูกตัดแขนใคร พ่อก็จะกลั้นใจตัดแขนลูกไปคืนเขา "


สมมติฐานที่2 เอี้ยก้วยเคยไปไหว้หลุมศพเอี้ยคังผู้เป็นพ่อ เป็นไปได้ไหมว่า หลังจากให้คนช่วยบูรณาหลุมศพของพ่อ หลังจากออกจากเมืองเซียงเอี้ยงแล้ว จะพบคัมภีร์โดยบังเอิญ ก็เพราะเอี้ยคังรู้และฝึกวิชากรงเล็บกระดูกขาวไม่ใช่หรือ? (ตามประเพณีตั้งแต่โบราณกาล ชาวจีนส่วนใหญ่จะกลับไปไหว้หลุมศพบรรพบุรุษของตนเองทุกปีทั้งนั้นแหละ)

มีความคิดเห็นที่อยู่ในกระทู้"ชื่อยาวหน่อยแต่ก็สนุกนะครับ พอดีไปเจอมา โดยคุณแจม" บอกว่าคลับคล้ายคลับคราว่า เคยเห็นคำตอบนี้จากที่อื่น

ซึ่งดิฉันก็อยากจะยืนยัน นั่งยัน นอนยันว่า ดิฉันเป็นผู้คิด จินตนาการเอง มิได้คัดลอกจากผู้ใด ถ้าบังเอิญไปตรงกับความคิดของใคร ก็ไม่ได้หมายความว่าดิฉันไปลอกของเขามาแน่ๆ เพราะไม่ใช่นิสัยของดิฉัน หากมีผู้วิเคราะห์มาก่อนหน้านี้แล้ว ดิฉันมักให้เกียรติคนผู้นั้นเสมอ โดยจะใส่ข้อมูล หรือชื่ออ้างอิงของคนผู้นั้นไว้ ซึ่งจะเห็นได้จากกระทู้อื่นๆ ที่ดิฉันทำอย่างนั้นเสมอๆ

เอาเป็นว่าดิฉันขอรับรองว่า เนื้อความที่ดิฉันเขียนไว้ในกระทู้นี้ ดิฉันคิดวิเคราะห์ด้วยตัวเอง และเหตุที่นำมา paste ใส่ไว้ในกระทู้นี้ด้วย ก็เพราะกระทู้นี้ ดิฉันเป็นผู้ตั้งกระทู้ขึ้นมา และมีความคิดเห็นของบางท่าน กล่าวถึงข้อสงสัยในเรื่องวิชาเก้าอิม กรงเล็บกระดูกขาวด้วย จึงอยากจะนำมา paste ไว้ให้เป็นกลุ่มเป็นก้อนเดียวกัน

ก็อ่านเเล้วสนุกดีนะครับ

ผมก็มีสมมุติฐานของผมเหมือนกัน ที่น่าจะเป็นไปได้ คิดไว้นานแล้วแล้วคนส่วนใหญ่ก็จะคิดแบบเดียวกันคือ แต่ผมวิเคราะห์ออกมาแล้วว่าน่าจะเป็นไปได้ อ่านแล้วลองออกความเห็นหน่อย
สมมุติฐาน
คัมภีร์เก้าอิมกรงเล็บกระดูกขาว ก็คือคัมภีร์ที่เซียวเหล่งนึ่งและเอี้ยก้วยได้เรียน เพื่อแก้เพลงกระบี่สุรางคนางใจพิสุทธฺที่เฮ้งเต่งเอี้ยงได้สลักไว้ และทั้งคู่ก็ได้ฝึกสำเร็จ
แต่ผมสงสัยว่า ทั้งคู่ไม่เคยใช้วิชานี้เลย แม้แต่ตอนที่ทั้งคู่สู้กับกิมลุ้งที่ลานประลองยุทธ์ แม้ใช้ก็จริงแต่ไม่ได้ออกมาในรูปของกรงเล็บกระดูกขาว ที่ใช้ออกมาเป็นแนวลมปราณอะไรนี่แหละ กระบวนท่าก็ต่างจากกรงเล็บกระดูกขาวอย่างสิ้นเชิง จึงได้เข้าใจว่าที่เซียวเหล่งนึ่งและเอี้ยก้วยได้เรียนไม่ใช่กรงเล็บกระดูกขาว
แต่เมื่อผมลองย้อนกลับมาคิดใหม่ว่า "เก้าอิมที่สลักไว้ในสุสานโบราณสามารถแก้เพลงกระบี่สุรางคนางของลิ้มเฉียวเองได้" เลยมาคิดว่า มันก็ถูกที่เราจะไม่เห็นวิชานี้ เพราะเซียวเหล่งนึ่งกับเอี้ยก้วยไม่จำเป็นต้องใช้แก้กระบี่สรางคนาง เพราะว่าคนที่ใช้กระบี่สุรางคนางก็มีแค่เอี้ยก้วยและเซียวเหล่งนึ่งเท่านั้น จะให้ใช้แก้กับตัวเองก็ยังไงอยู่ จึงพอจะบอกได้ว่าเอี้ยก้วยกับเซียวเหล่งนึ่งน่าจะได้เรียนกรงเล็บกระดูกขาวซึ่งเป็นเก้าอิมที่เฮ้งเต่งเอี้ยงสลักไว้ แต่ไม่ได้ใช้ เพราะว่ากรงเล็บกระดูกขาวไว้ใช้แก้กระบวนท่ากระบี่สุรางคนาง แต่ก็อย่างที่บอก ไม่ได้ใช้ เพราะไม่จำเป็น เพราะไม่มีกระบี่สุรางคนางให้ต้องแก้
แต่มีข้อสงสัยว่า ทำไมถ้ารู้กรงเล็บกระดูกขาวจริง ทำไมไม่ใช้ เพราะถ้ากรงเล็บกระดูกขาวไว้แก้เพลงกระบี่สุรางคนางจริง ก็ย่อมเหนือกว่าเพลงกระบี่สุรางคนางใจพิสุทธ์ แต่ทำไมเซียวเหล่งนึ่งกับเอี้ยก้วยไม่ใช้ เป็นไปได้ไหมว่า เอี้ยก้วยและเซียวเหล่งนึ่งยังไม่รู้อนุภาพที่แท้จริงของกรงเล็บกระดูกขาว เพราะไม่เคยใช้ต่อสู้ว่าร้ายกาจแค่ไหน หรือทั้งคู่เข้าใจว่ากรงเล็บกระดูกขาวไว้แก้เพลงกระบี่สุรางคนางแค่นั้น อีกหนึ่งคือ ทั้งคู่ภูมิใจในวิชาสุสานโบราณมากกว่า และใช้วิชานี้เรื่อยมาและเป็นวิชาที่ปรมาจารย์ลิ้มเฉียวเองบัญญัติขึ้นมา ซึ่งทั้งคู่ก็เลือกที่จะใช้วิชากระบี่สุรางคนางเพื่อไม่ผิดต่อบรรพจารย์ และใช้ออกท่องยุทธ์เพื่อให้ชาวยุทธ์รู้จักวิชาของสุสานโบราณด้วย
ถ้าเป็นแบบที่กล่าวมาข้างตนจริง ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าแม่นางเสื้อเหลืองจะเอากรงเล็บกระดูกขาวมาจากไหน ก็คงจะไม่พ้นสุสานโบราณแน่นอน
ไปก่อนนะครับ มีสงครามยืดเยื้ออีกกระทู้นึง

หล่อนคะ ตั้งแต่ตอนสู้กับราชครู เอี้ยก้วยยังคิดว่าน่าจะนำกระบี่เหล็กนิลติดมาด้วย แสดงว่าตอนนั้นยันตอนจบที่เดินจากไปกับเหล่งนึ่ง ยังไม่ได้มีการมอบกระบี่เหล็กนิลให้ก๊วยเจ๋งเลยนะคะ แสดงว่าหลังจากนั้น เอี้ยก้วยกับเซียวเหล่งนึ่งน่าจะย้อนกลับไปหาก๊วยเจ๋งกับอึ้งย้งอีกที ตั้งแต่ตอนเมืองยังไม่แตก แต่ตอนนั้นก๊วยเซียงก็ดันออกมาแรดตามหาเอี้ยก้วยก็เลยสวนทางกันเลยไม่เจอกันไงคะ กว่านังก๊วยเซียงจะกลับไปหาพ่อแม่ พ่อแม่นางก็พลีชีพเพื่อชาติแร๊วค่ะ นางเลยไม่ทราบมาก่อนว่า เอี้ยก้วยกับพี่สะใภ้กลับไปหาพ่อแม่ตัวเอง เพราะตัวเองมัวแต่ออกมาตามหาเอี้ยก้วย

บวกกับระหว่างที่เอี้ยก้วยไปหาก๊วยเจ๋ง อาจจะมีการคุยกันในหลายๆเรื่อง รวมทั้งเรื่องคัมภีร์และการนำกระบี่เหล็กนิลไปตีนั่นแหละค่ะ เพราะฉะนั้นเดี๊ยนว่า ลูกหลานเอี้ยก้วยใช้วิชานั้น คือฉบับสมบูรณ์แน่นอนค่ะ

สวยยยย

ตอบคุณสวย ความคิดเห็นที่58

คือ เขาไม่ได้ถามว่าลูกหลานเอี้ยก้วยใช้วิชาคัมภีร์เก้าอิมกรงเล็บกระดูกขาวฉบับสมบูรณ์หรือไม่ แต่ที่เขาสงสัยกันอยู่ก็คือ ลูกหลานเอี้ยก้วยได้ฝึกฉบับสมบูรณ์ได้อย่างไรต่างหากคะ อ่านแล้วยังรู้สึกว่าคุณตอบไม่ค่อยกระจ่างแบบตรงคำถามนะคะ

ส่วนคำตอบของคุณประจิมคุ้มคลั่ง ความเห็นที่57

ก็มีเหตุผลเอามากๆ เลย ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง จะได้ไม่นำมาคิดให้เปลืองสมองกันต่อไป แต่ที่ยังต้องนำมาคิดต่อ และเขียนต่อมาอีกจนถึงบรรทัดนี้นั้น เพราะมีความคิดเห็นอื่นๆ ของกระทู้อื่นๆ ว่าที่ผนังถ้ำในสุสานนั้น สลักคัมภีร์เก้าอิมไม่สมบูรณ์ เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่เขียนเฉพาะท่อนที่ใช้ปราบกระบี่สุรางคนางค์(หรือกระบี่สตรีหยก, กระบี่สาวหยก, กระบี่ดรุณี) เท่านั้น

การถกเถียงกันเช่นนี้ จึงทำให้ต้องมานั่งคิดวิเคราะห์กันต่อมาเนี่ยละคะ ว่าถ้ามันเป็นแบบที่ว่าจริง แล้วลูกหลานของเอี้ยก้วยได้ฝึกวิชาฉบับเต็มจากไหน? และได้อย่างไร?