วิชาเพลิงมหากาฬระเบิดวิญญาณ
มีอยู่ทั้งหมด 9 ขั้นด้วยกัน
ขั้นแรก สามารถรวบรวมเปลวเพลิงเข้ามาอยู่ในฝ่ามือ รวมถึงดูดซับบรรยากาศเพื่อสร้างเป็นเปลว
เพลิงเผาผลาญได้
ขั้นที่สอง สามารถดูดซับวิญญาณของผู้ตาย แล้วสร้างเป็นเปลวเพลิง ควบคุมวิญญาณเพื่อใช้ในการต่อสู้
ขั้นที่สาม หลอมรวมพิษร้ายเข้ากับเปลวเพลิง ทำให้เปลวเพลิงกลายเป็นสีน้ำเงิน สามารถแผดเผาได้แม้แต่กำลังภายใน
ขั้นที่สี่ เปลี่ยนแปลงร่างกายให้เข้าหลอมหลวมกับเปลวเพลิง สามารถปล่อยเปลวเพลิงออกจาก ปาก หู ตา จมูก และผิวหนังได้
ขั้นที่ห้า เปลี่ยนรูปแบบเพลิงให้สามารถกลายสภาพเป็นวัตถุหรือสิ่งของที่มี รูป รส กลิ่น เสียง ได้ หรือก็คือ เพลิงมายานั่นเอง ผู้ใดสัมผัสสิ่งของนั้นจะต้องลุกเป็นจุน
ขั้นที่หก สามารถเปลี่ยนแปลวเพลิงให้เป็นแสงสีขาว สามารถสลายสรรพสิ่งที่เป็นรูปธรรมให้เป็นเถ้าธุลีในพริบตา
ขั้นที่เจ็ด ผนึกหลอมรวมเปลวเพลิงเข้ากับบรรยากาศ และสรรพสิ่งรอบตัวในระยะร้อยลี้ สามารถควบคุมดิน ฟ้าอากาศ รวมถึงให้ลูกไฟตกลงมาจากท้องฟ้าได้
ขั้นที่แปด อัคคีร้อนแรงถึงขีดสุดจนกลายสภาพเป็นสีดำ แผดเผาทุกอย่างได้แม้กระทั่งเหล็กกล้าก็สลายไปในพริบตา
ขั้นที่เก้า หลอมรวมอัคคีขั้นต้นเข้ากับออร่า เปลวเพลิงจะแปรเปลี่ยนเป็นสีทอง สามารถเรียกจิตวิญญาณในธรรมชาติมาช่วยรบ และยังมีความสามารถในการใช้เปลวเพลิงรักษาตัวเอง และผู้อื่นได้ด้วย (แต่ต้องทำลายขั้นที่แปดถึงหนึ่ง แล้วเริ่มฝึกใหม่ถึงจะบรรลุได้)
วิชาเงาวายุมหาประลัย
มีทั้งหมด 9 ขั้นเช่นกัน
ขั้นที่หนึ่ง สามารถสร้างปีศาจที่ลอยบนบรรยากาศด้วยเซลล์ร่างกายของตัวเอง และเรียกสายฟ้าให้จู่โจมบนฝ่ามือได้
ขั้นที่สอง สามารถถ่ายทอดเซลล์ร่างกายของตัวเองให้แก่ผู้อื่น จนสามารถเรียกสายฟ้าบนฝ่ามือได้เหมือนผู้ใช้วิชา
ขั้นที่สาม สามารถพัฒนาเซลล์ร่างกายของตัวเอง แล้วสร้างสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะคล้ายงู ฉกกัดคู่ต้อสู้ ยิ่งตัวใหญ่มากก็ยิ่งกลืนกินศูตรได้ด้วย
ขั้นที่สี่ สามารถสร้างกระจกแก้วด้วยบรรยากาศที่อยู่รอบตัว เป็นชั้นๆในการสะท้อนพลังจู่โจมคู่ต่อสู้ได้ ยิ่งมากชั้น แรงกระแทกก็ยิ่งรุนแรง
ขั้นที่ห้า เปลี่ยนแปลงสายลมให้กลายเป็นเพลิงกาฬ สามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์ เป็นดาบเพลิง ธนูเพลิง หรืออะไรก็ได้ โดยเฉพาะพายุเพลิง
ขั้นที่หก หลอมหลวมให้เปลวเพลิง สายลม และบรรยากาศ ดูดกลืนพิษจนเปลี่ยนเป็นหมอกควันขาวมีพิษที่สามารถละลายทุกอย่างได้ ที่เป็นรูปธรรม
ขั้นที่เจ็ด ผู้ใช้สามารถรวมสายฟ้าเข้าประสายกับสายลมจนเกิดเป็น พลังวายุอัศนีบาตร มีพลังในการควบคุมดินฟ้าอากาศได้ตามความต้องการ
ขั้นที่แปด เปลี่ยนเซลล์ร่างกายของตัวเองให้เป็นโลหะเหลว (เหล็กไหล) ที่สามารถแปรเปลี่ยนสภาพเป็นอาวุธ หรือรูปลักษณ์อื่นๆตามที่ต้องการ
ขั้นที่เก้า แปรสภาพตัวเองให้เป็นจิตวิญญาณเข้ากับสายลม สามารถขยายร่าง หรือหดตัวเล็กลง (เงื่อนไขคือต้องซ่อนร่างจริงเอาไว้) ทำให้ไม่มีวันถูกทำลาย หรือตายในการต่อสู้
วิชาต่อไปนี้ ร้ายกาจที่สุดในยุทธภพ
|
อสรพิษดูดพลัง |
#1 อสรพิษดูดพลัง [ 11-07-2015 - 03:01:16 ] |
|
อสรพิษดูดพลัง |
#2 อสรพิษดูดพลัง [ 11-07-2015 - 03:23:24 ] |
|
วิชาราชันวารีมหาวินาศ สามารถประสานธาตุทั้งหก เพื่อแปรเปลี่ยนเป็นธาตุใหม่ๆในการจู่โจมได้ เช่น ผู้ที่มีธาตุกำเนิดลมปราณเป็นวายุ จะสามารถวิวัฒนาการได้เป็น วายุพิฆาต พายุโหมมหาประลัย(ประสานธาตุลมกับแรงโน้มถ่วงของธาตุดิน เพื่อเพิ่มความรุนแรง) อัศนีบาตรวายุ(ประสานธาตุลม ธาตุดิน และสายฟ้าเข้าด้วยกัน)จนเกิดเป็นพายุ มีอานุภาพ ระเบิดกระเจิดกระเจิง มังกรวายุอัศนีบาตรประกายแสง (ลม+ดิน+สายฟ้า+แสง)...และต่อไปเรื่อยๆจนครบ 6 ธาตุ ยิ่งรุนแรง และใช้ได้หลากหลายขึ้นเรื่อยๆ เช่น มังกรโลหิตชาด สามารถสร้างมังกรน้ำสีแดง(ธาตุน้ำ+วายุ+พิษ) เพื่อจู่โจมสลายเป้าหมายด้วยพิษ ม่านหมอกมฤตยู สามารถสร้างม่านหมอกแผดเผาร่างกายศูตรได้ (น้ำ+ไฟ) คลื่นทะเลมหาภัย สร้างม่านหมอกเพื่อแทรกซึมเข้าไปในรูขุมขนของศูตร จนร่างกายพองโต และร่างศูตรระเบิด (ความด่างของธาตุน้ำ+วายุ) แล้วแต่ผู้ใช้จะประยุกต์ใช้เป็นแบบไหน วิชา เทพพิภพสยบมาร มีลักษณะเป็นวิชาคู่ปรับของ ราชันวารีมหาวินาศ ขึ้นอยู่กับพื้นฐานลมปราณของผู้ใช้ที่มีอยู่เดิมเช่นกัน สามารถหลอมรวมพลังจากสิ่งแวดล้อมรอบตัว รวมทั้งแปรเปลี่ยนธาตุพลังได้ เมื่อบรรลุถึงขั้นสูงขึ้นไป ดังนี้ ไฟ-->สายฟ้า-->แสงสว่าง-->ดิน-->น้ำ-->ลม มีความหลากหลายในการจู่โจมมากที่สุด เช่นเพลงมวยสิบสองราศี ฝ่ามือสูญญาตรา อธิบายง่ายๆก็คือนำธาตุที่มีอยู่เดิมมาประยุกต์ใช้ให้หลากหลายไม่มีที่สิ้นสุด นอกจากอัญเชิญจิตวิญญาณ และการสร้างพลังจากพลังเวทย์ขั้นสูง วิชานี้สามารถทำได้เหมือนวิชาอื่นๆทุกกรณี เช่น สามารถควบคุมดินฟ้าอากาศ ได้เหมือนเงาวายุมหาประลัย สร้างเปลวเพลิงพิษแบบเพลิงกาฬระเบิดวิญญาณได้ แต่ไม่สามารถนำธาตุที่แตกต่างมารวมกันได้ นอกจากเปลี่ยนธาตุตามวัฎจักรได้อย่างเดียว(ซึ่งราชันวารีมหาวินาศก็เปลี่ยนไม่ได้ คือรวมได้อย่างเดียว) |
อสรพิษดูดพลัง |
#3 อสรพิษดูดพลัง [ 11-07-2015 - 03:39:14 ] |
|
วิชามหาเวทย์อัศนีพิโรจ ผู้ใช้สามารถใช้วิชานี้ได้ 5 แนวทาง คือ สามารถอัญเชิญจิตวิญญาณจากมิติคู่ขนาดมาใช้ในการจู่โจมศูตรได้ สามารถเปลี่ยนเศษเสี้ยววิญญาณของตัวเองให้เป็นจิตวิญาณธรรมชาติ เพื่อปกป้องตัวเองได้ สามารถควบคุมแรงโน้มถ่วงของโลก สามารถดูดกลืนวิญญาณของศูตรและคนที่ตายไปเป็นจิตวิญญาณเพื่อใช้ในการต่อสู้ รวมถึงสามารถดูดกลืนพลังลมปราณ แล้วใช้วิชาของศูตรได้ นอกจาก 5 แนวทางนี้แล้ว ยังมีแนวทางอื่นๆที่นอกเหนือจากนี้ เช่น การปลอมแปลงกระบวนท่าและการเคลื่อนไหว รวมถึงวิชาของศูตร สามารถทำนายอนาคตและผลลัพธ์การต่อสู้ได้ฉับพลัน สามารถฟื้นความตายของตัวเอง และผู้อื่นได้ และแน่นอนว่าสามารถปลดปล่อยพลังอัศนีบาตรจากร่างกายได้รุนแรง วิชาหัตถ์เทพรังสีสวรรค์ เป็นวิชาคู่ปรับกับมหาเวทย์อัศนีพิโรจ มี 5 แนวทางเช่นกัน แนวทางแรก คือการสร้างพลังแสงเพื่อใช้ทำลายเป้าหมาย โดยปล่อยลำแสงทำลายล้างออกจากตา หรือฝ่ามือได้ แนวทางที่สอง คือ การสร้างลำแสงให้เป็นรูปร่างเพื่อพันธนาการร่างกายศูตร หรือดูดกลืนพลังของศูตรมาเป็นของตัวเอง แนวทางที่สาม คือ การใช้พลังจิตเพื่อสร้างภาพลวงตาที่มีทั้งรูปลักษณ์ รส กลิ่น เสียง สามารถทำลายปราสาทคู่ต่อสู้ได้ และยังสามารถควบคุมสภาพแวดล้อมรอบตัว เช่น การเคลื่อนย้ายสิ่งของ การควบคุมธาตุพลัง(แต่ไม่สามารถสร้างขึ้นมาเองได้) แนวทางที่สี่ คือการใช้พลังแสงเปิดมิติ สามารถชักนำสิ่งต่างๆรวมทั้งตัวเองไปยังอีกมิติหนึ่งได้ แนวทางที่ห้า คือ สามารถควบคุมกระแสเวลา สามารถหยุดการเคลื่อนไหวของศูตร หรือย้อนเวลา และกระโดดข้ามเวลาได้ นอำกจากนี้ยังมีนอกแนวทางอีก เช่น แนวทางแยกร่างเป็นหลายคนด้วยการแบ่งแยก เราอีกคนออกมาจากมิติอื่น หรือเวลาอื่น ทำให้มีกำลังมากกว่าศูตร ![]() |
|