รับตอบปัญหากฏหมายจากชาวยุทธิ์ครับ

1.ถ้ารัฐบาลนำเงินของการคลังไปปล่อยกุ้ คิดดอกเบี้ยต่ำ แล้วมีสัญญากับผู้กู้ให้นำเงินมาซื้อของในเครือบริษัทญาติของตน
จะผิดอย่างไรครับ

2.การประกาศกฏอัยการศึกทำให้ผุ้ประกาสมีอำนาจอย่างไรบ้าง

3.ถ้าโจทก์ยืมของมาแล้วไม่คืนให้จำเลย แล้วจำเลยไปขโมยคืนโดยไม่บอก จะผิดไหมครับ

1.ถ้ารัฐบาลนำเงินของการคลังไปปล่อยกุ้ คิดดอกเบี้ยต่ำ แล้วมีสัญญากับผู้กู้ให้นำเงินมาซื้อของในเครือบริษัทญาติของตน
จะผิดอย่างไรครับ

2.การประกาศกฏอัยการศึกทำให้ผุ้ประกาสมีอำนาจอย่างไรบ้าง

3.ถ้าโจทก์ยืมของมาแล้วไม่คืนให้จำเลย แล้วจำเลยไปขโมยคืนโดยไม่บอก จะผิดไหมครับ

1.ถ้ารัฐบาลนำเงินของการคลังไปปล่อยกุ้ คิดดอกเบี้ยต่ำ แล้วมีสัญญากับผู้กู้ให้นำเงินมาซื้อของในเครือบริษัทญาติของตน
จะผิดอย่างไรครับ


2.ถ้าโจทก์ยืมของมาแล้ว ไม่คืน ให้จำเลย แล้วจำเลยไปขโมยคืนโดยไม่บอก จะผิดไหมครับ


ถามดูเล่นๆอย่างข้อสองรู้อยู้แล้ว

1.ถ้ารัฐบาลนำเงินของการคลังไปปล่อยกุ้ คิดดอกเบี้ยต่ำ แล้วมีสัญญากับผู้กู้ให้นำเงินมาซื้อของในเครือบริษัทญาติของตน
จะผิดอย่างไรครับ

2.การประกาศกฏอัยการศึกทำให้ผุ้ประกาสมีอำนาจอย่างไรบ้าง

3.ถ้าโจทก์ยืมของมาแล้วไม่คืนให้จำเลย แล้วจำเลยไปขโมยคืนโดยไม่บอก จะผิดไหมครับ

1.ถ้ารัฐบาลนำเงินของการคลังไปปล่อยกุ้ คิดดอกเบี้ยต่ำ แล้วมีสัญญากับผู้กู้ให้นำเงินมาซื้อของในเครือบริษัทญาติของตน
จะผิดอย่างไรครับ

2.การประกาศกฏอัยการศึกทำให้ผุ้ประกาสมีอำนาจอย่างไรบ้าง

3.ถ้าโจทก์ยืมของมาแล้วไม่คืนให้จำเลย แล้วจำเลยไปขโมยคืนโดยไม่บอก จะผิดไหมครับ

โทษทีนะครับ ตอนตอบมันค้าง error พอตอบได้ครั้งเดียว มันขึ้นมายาวอย่างที่เห็นเลย

โทษทีนะครับ เหมือนมันจะ eror พอตอบได้มายาวเลยอ่ะ

โทดทีนะครับ ตอบแล้วไม่ขึ้นพอขึ้นมายาวเลย

วันนี้ดูหนังแล้วสงสัยครับ

เผอิญว่า มี หญิงคนหนึ่งจับ สามีอัมพาต มาทรมานด้วยการตากฝน ให้ทรมาน เช่นการปล่อยให้ตากฝน จนเป็นไข้ และกำลังจะตาย เพื่อให้เซ็นต์มรดกให้

ทางญาติ เลยมาบุกรุกบ้าน พร้อมเอาปืนมายิงขู่ เพราะบ้านนี้ มี ชายฉกรรจ์ เยอะ
และพาตัวกลับมารักษาที่บ้านได้

พอทางบานไปพูดว่าจะเอาเรื่อง ทางหญิงคนนั้นก็บอกว่า จะแจ้งความกลับว่าบุกรุก และใช้อาวุธปืน




ถ้าทางเรื่องเกิดถึงตำรวจ ทางไหน เป็นฝ่ายถูกฝ่ายผิด หรือทั้งสองฝ่ายผิด จะได้รับโทษสถานใด

ตอบท่านปุปผาพิรุณโปรบปราย

ฝ่ายชายพาไปใช่ไหม ถ้างั้นผิดนะครับ แม้สมยอมก็ผิดถ้ายังไม่ถึง18 ตามมาตรา 283 ทวิ

มาตรา 283ทวิ ผู้ใดพาบุคคลอายุเกินสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปี ไปเพื่อการอนาจาร แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน ห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ

ปล.แหม่ แต่คงฮาน่าดู

ตอบท่าน เฮ้งเต่งเอี๊ยง

1. ต้องถามก่อนว่า รัฐบาลไปปล่อยเงินกู้ในระบบหรือนอกระบบ ซึ่งการปล่อยเงินกู้นอกระบบหรือ “เงินกู้เถื่อน” ถือว่าผิดกฎหมาย หากคิดอัตราดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดคือร้อยละ 15 ต่อปี ส่วนที่จะต้องมาซื้อของในเครือญาติจะเป็นสัญญานอกเงื่อนไขแล้วแต่จะตกลงกัน เพราะเจ้าหนี้ย่อมถือไพ่เหนือกว่าแล้วแต่ลูกหนี้จะยินยอมหรือไม่ แต่ต้องดูที่ว่าคืดดอกเบี้ยเกินร้อยละสิบห้าต่อปีหรือเปล่า แต่หน้าที่ของรัฐบาลมีหน้าที่แก้ไขปัญหาเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว เรื่องนี้ผมไม่อาจแปลความได้มาก ถ้าอธิบายเพิ่มเติมมากกว่านี้ก็จะดีมาก

2. การประกาศใช้กฎอัยการศึกอาจทำได้สองกรณีคือ การประกาศใช้ทั่วราชอาณาจักรกับการประกาศใช้บางท้องที่
ผู้มีอำนาจประกาศใช้กฎอัยการศึก คือ พระมหากษัตริย์ และผู้บังคับบัญชาทหาร
เมื่อความเสียหายใดๆ เกิดขึ้นจากการใช้อำนาจตามกฎอัยการศึก ทหารไม่ต้องใช้ค่าเสียหายดังที่กฎหมายให้เหตุผลไว้ว่า “เพราะอำนาจทั้งปวงที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารได้ปฏิบัติและดำเนินการตามกฎอัยการศึกนี้ เป็นการสำหรับป้องกันพระมหากษัตริย์ ชาติ ศาสนา ด้วยกำลังทหารให้ดำรงอยู่ในความเจริญรุ่งเรืองเป็นอิสรภาพ และสงบเรียบร้อยปราศจากราชศัตรูภายนอกและภายใน

ถ้าถามว่าการประกาศกฏอัยการศึกทำให้ผุ้ประกาสมีอำนาจอย่างไร ก็ตอบได้ว่า มีอำนาจที่จะทำให้บ้านเมืองกลับมาสงบดังที่ได้กล่าวไปแม้จะใช้กำลังเองก็ตาม ทั้งนี้เพื่อปกป้องพระมหากษัตริย์ชาติและศาสนาและราชศัตรูทั้งภายนอกและภายใน คือถ้าทหารจะเข้ามาต่อต้านม๊อปหรืออะไรก็ต้องประกาศกฏอัยการศึก

3. ไม่ผิดครับ

ตอบท่าน ซีจุ๊

มาตรา 290 ผู้ใดมิได้มีเจตนาฆ่า แต่ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้น ถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี

มาตรา 68 ผู้ใดจำต้องกระทำการใดเพื่อป้องกันสิทธิของตน หรือของผู้อื่นให้พ้นภัยอันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฏหมาย และเป็นภัยอันตรายที่ใกล้จะถึง ถ้าได้กระทำพอสมควรแก่เหตุ การกระทำนั้นเป็นการกระทำโดยชอบด้วยกฏหมาย ผู้นั้นไม่มีความผิด

วินิจฉัย การที่หญิงจับสามีอัมพาตมาทรมาน ปล่อยให้ตากฝนจนเป็นไข้และกำลังจะตายจะผิดฐานทำร้ายร่างกายตามมาตรา 290 แม้จะเป็นสามีภรรยากันก็ตามก็ไม่มีข้อยกเว้น ส่วนเมื่อทางญาติฝ่ายชายรู้ข่าวจึงบุกบ้านมาช่วยที่บ้านของฝ่ายหญิงก็อ้างมาตรา 68 เพื่อไม่ต้องรับผิดฐานบุกรุกได้ แม้ผิดฐานบุกรุกแต่ไม่ต้องรับโทษ เพราะได้กระทำไปตามสมควรกว่าเหตุ เพราะถ้าไม่บุกรุกเข้าไปสามีที่ญาติมาตามก็อาจตายได้ และการใช้อาวุธปืนก็มีเจตนาเพื่อปกป้องฝ่ายชายจากชายฉกรรจ์หกถึงเจ็ดคนในบ้าน โดยไม่ได้มีเจตนาฆ่าแต่อย่างใด ซึ่งทำไปพอสมควรกว่าเหตุ ซึงฝ่ายหญิงไม่สามารถอ้างได้เพราะความผิดนี้เกิดขึ้นเพราะความผิดที่ฝ่ายหญิงเป็นผู้ก่อเองแต่เริ่มแรก
สรุปคือ 1. ฝ่ายหญิงผู้เป็นภรรยาผิดตามมาตรา 290
2.ญาติของฝ่ายชายไม่ผิดเพราะเป็นการป้องกันผู้อื่นโดยชอบด้วยกฏหมาย มาตรา 68
3.ฝ่ายหญ้าจะฟ้องฝ่ายชายให้รับผิดไม่ได้ เพราะเหตุดังกล่าวตนเป็นผู้ก่อให้เกิดขึ้นตั้งแต่ต้น

ปล.ตำรวจไกล่เกลี่ยอาจโดนยึดปืนได้ครับ แต่อย่างที่บอกไป ฝ่ายชายถูกครับที่ทำแบบนั้น