เข้าระบบอัตโนมัติ

สมาธิลมปราณ ๗ ฐาน


เชี้ยหยาวหวน
#1   เชี้ยหยาวหวน    [ 26-02-2010 - 10:56:11 ]

สมาธิลมปราณ ๗ ฐาน โดย หลวงปู่พุทธะอิสระ
แสดงไว้เมื่อวันที่ ๒๐ พ.ค.๒๕๔๐

..... เริ่มต้นใหม่สำหรับผู้ที่พลิกอิริยาบถ ตั้งอกตั้งใจ สูดลมหายใจเข้า ก่อนอื่นต้องจัดระเบียบของกาย ให้เป็นระบบของใจให้ได้ก่อน โครงสร้างของกายอยู่ตรงไหนทำอย่างไรให้มันเข้าที่เข้าทาง ขยับซ้าย ขยับขวา โยกหน้า โยกหลัง ดูว่าทุกอย่างมันเรียบร้อยไม่มีอะไรที่จะขัดกันแล้ว ทอดสายตาลงต่ำ แล้วก็หลับตาลงอย่างนิ่มนวล สนิท แล้วก็ขับไล่ความคิดยุ่งฟุ้งซ่านออกไปให้หมด ไม่มีอะไรนอกจากลมของเรา และ ตัวของเราเท่านั้น สูดลมเข้าลึก ๆ ยาว ๆ ไม่จำเป็นต้องทำตามคำพูดหลวงปู่นะ เพราะใครที่กำลังทำ เดินลม สูดลมอยู่ก็ให้ทำต่อไป แต่นี่คือการแนะนำ เอาตามความสามารถของตน ลูก เพราะว่าหลวงปู่สูดลมยาว เราจะสูดลมยาวตามหลวงปู่ไม่ได้ หลวงปู่สูดลมสั้น เราจะสั้นตามหลวงปู่ก็ไม่ได้ สุดแท้แต่ปอดของตน จะขยายให้มาก ปอดใครปอดมัน แต่ต้องมั่นใจว่า การสูดลมเข้าของตนทำให้ปอดของตนขยายใหญ่ให้มากที่สุด แล้วเวลาพ่นลมออก ก็ให้ถุงลมปอดของเราแฟบให้ได้มากที่สุด นี่คือเคล็ดวิธี แต่เป็นการกระทำที่นิ่มนวล เนิบนาบ ยืนยาว หนักแน่น และ หมดจด เรามาเริ่มแล้วหลวงปู่ จะหยุดเสียงสักพัก อย่างลืมว่าต้องไม่มีอารมณ์ใด ๆ นอกจากลมหายใจนะลูก เริ่มมีกระบวนการคลื่นแห่งความคิดเข้ามาอีกแล้ว เป็นกระบวนการความคิดที่ทำลายสันติ และ พลังของเรา ขืนปล่อยให้เกิด การเล่นกับความคิดต่อไปชีวิตไม่ได้ดีลูก อย่าทำตนเป็นคนซ่องเสพความคิดฟุ้งซ่าน มันเป็นมารที่กำจัด ความสำเร็จ และ สมบูรณ์ ของชีวิตจำไว้ คงจะรู้ตัวว่าใครที่เล่นกับความคิด พวกเรานี่มันมีกลิ่นไอของมาร กับ เทพ อยู่ในตัว มันเป็นกลิ่นไอที่แสดงออกมาเป็นแสง แล้วก็สีที่ไม่เหมือนกัน เหมือนกับเรามีประจุไฟฟ้าเหล่านั้นได้ ก็จะบอกเราได้ว่าเราคิดอะไร มันหนีไม่พ้นหรอกลูก เพราะฉะนั้นเรารู้ตัวเรามีความสุขสมบูรณ์ไหม กับ การที่เราเริ่มเดินลม เรารู้ตัวเราว่าเราได้อะไรกับมัน และ เราก็รู้ตัวเราว่าเราจะเสียอะไรกับมัน

..... ฉะนั้นเตือนเอาไว้ว่าไม่มีใครในโลกหรอกลูก จะรักตัวเราเท่าตัวเราเอง แต่ที่ตัวเราลืมไปทำอะไร ๆ ที่ให้กับตัวเองเป็นเรื่องเลวร้ายเสียหาย นั่นแสดงว่าเราไม่รู้ และ ก็เผลอไปหน่อย เพราะฉะนั้นอย่ามัวแต่ห่วงอะไร ในเวลานี้มันเป็นเวลาส่วนตั๊ว ส่วนตัว มันเป็นเวลาเฉพาะ ๆ ของเรา ชีวิตของเราล้วน ๆ ที่ไม่มีใครช่วยเราได้ ไม่มีผู้บังคับบัญชา ไม่มีหน้าที่การงาน ไม่มีลูก ไม่มีผัว ไม่มีบ้าน ไม่มีสมบัติ มีแต่ตัวเราล้วน ๆ เพื่อจะแสวงหาดิ้นรนและขวนขวาย สิ่งที่เป็นประโยชน์ เพื่อจะปิดประตูแห่งอบายได้รู้ไหม ใครอยากตกนรกบ้าง ยกมือขึ้น ใครไม่อยากตกนรกบ้างยกมือ ที่ไม่ยกนั่น แสดงว่าอยู่ในนรกแล้วหรือ เอามือลง วิธีที่จะปิดประตูอบายคือเปิดประตูวิญญาณของตนให้ได้ก่อน และ วิธีที่หลวงปู่สอนเราเมื่อครู่นี่คือกุญแจสำคัญที่จะไขประตูวิญญาณของเรา ถ้าเรายังไขกุญแจในตัวเองไม่ได้ ยาก ที่จะพ้นจากอบาย จำไว้ ยากมาก ต้องพยายามไขประตูแห่งวิญญาณของตนให้ได้ แล้วเราก็จะพบครูผู้ใจอารี นอนอยู่ในวิญญาณของเรา เค้าจะบอกเราว่าเราควรทำอย่างไร พระพุทธเจ้าก็ทรงทำอย่างนั้น พระองค์จึงไม่ต้องมีใครสอนพระองค์ พระองค์จึงเจอครู เห็นครู ในกายของพระองค์ได้ เพราะฉะนั้นการที่พวกเราทั้งหลายยังไม่สามารถเปิดประตูวิญญาณของตัวเองได้ ก็ไม่ใช่หมายถึงว่าจะทำไม่ได้ตลอดไป มันต้องมีสักวันหนึ่ง ถ้าเราพยายาม แต่ต้องเป็นการพยายามที่ต้องตั้งอก ตั้งใจอย่างเด็ดขาด

..... ไม่ใช่เด็ดไม่ขาด แล้วยังมีหยดอีก 2 แหมะ ยังมีย้อย และ ยืดยาว เดินเป็นหางไปอย่างนั้น ไม่ใช่ลูก อย่าลืมว่าตอนเกิดจากท้องแม่ ไม่ได้คาบอะไรมาด้วย ไม่มียศ ไม่มีงาน ไม่มีตำแหน่ง มีแต่ชีวิต กับ ชีวิต และลมหายใจ แล้วตอนตายก็ไม่สามารถคาบอะไรไปด้วย แม้แต่เงินที่ญาติยัดใส่ปาก สัปปะเหร่อ ก็งัดเอาไปกิน เพราะฉะนั้น "อัตตาหิ อัตตะโนนาโถ" ตนแลเป็นที่พึงของตน จริง ๆ จะมีใครที่ช่วยเราได้ แม้แต่วันสุดท้ายแห่งความตาย อย่าว่าแต่หมอเลย หมอก็ช่วยหมอไม่ได้ถ้าเขาจะตาย เพราะฉะนั้นทุกคนต้องตาย ความตายเป็นปกติของชีวิตทุกคนมีชีวิตอย่าคิดหนีความตาย ความตายเป็นสิ่งที่หนีไม่ได้ ทุกคนมีสิทธิถึงความตายภายใน 7 วันเหมือนกันทุกคน เหมือนกันหมด เมื่อเป็นเช่นนั้น ถามตัวเองหรือยังว่า เราเตรียมตัวที่จะตายอย่างสบาย ๆ แบบมีอะไร ๆ ติดตัวไปบ้างหรือยัง ก็อย่างที่หลวงปู่เล่าให้ฟังเมื่อวานว่า ชีวิตหลังความตาย ก็คือการเดินทางไกล คนที่หลงใหลในอะไร ๆ เดินไม่ไกลหรอกลูก เมื่อครู่นี้หลวงปู่กำลังจะสอนวิธีเดินทางไกล ให้แก่เรารู้ไหม มันเป็นวิธี และ วิถีชีวิตของคนที่เตรียมตัวเดินทางไกล ทำอย่างนี้แหละคือ การที่เตรียมตัวเดินทางไกลที่สุด เพราะไม่มีอะไร ๆ นอกจากลมหายใจ และ ความว่าง ๆ สบาย ๆ มันจะไปได้ไกลจนถึงนิพพานที่เดียว ต้องการจะเลือกสวรรค์ยังได้เลย แต่ถ้าเรายังแบกอะไร ๆ จะสังเกตุได้เลยใครที่แบกอะไร ๆ ชี้หน้าได้ เดี๋ยวนี้ก็ได้ว่าไปได้ไม่ไกล หนักเพราะฉะนั้นคนที่ไปได้ไกลแสดงว่าตอนนั้นไม่มีอะไร ๆ นั่นแหละคือวิธีสมมุติรสชาติและอารมณ์ของความตาย และ การเดินทางให้กับพวกเรา ใครที่รู้ตัวยังมีความกังวลผิดพลาด บกพร่อง มีปัญหาคั่งค้าง คาราคาซัง บอกถึงวันหลังความตายได้เลยว่าไม่ไปไหน อยู่กับตรงนั่น จำไว้ อยู่กับตรงนั้น ถึงจะไปได้ไกลอีกนิด ก็ไม่พ้นตรงนั้น แต่ถ้าใครที่เมื่อครู่นี้ ไม่มีอะไร ๆ มันโปร่ง สุขสันติ โล่งเบา แล้วก็ สบาย นั่นแสดงว่าไปได้ ไม่ใช่เดินอย่างเดียวแถมวิ่งอีกต่างหาก เร็วที่สุดถึงจุดหมายง่ายที่สุด และสำเร็จดีที่สุด

..... หลวงปู่กำลังสอนสุดยอดของวิชาในพระพุทธศาสนา ให้กับพวกเราได้เรียนรู้ในวันนี้ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่พวกเราจะอยู่ใกล้หลวงปู่ได้ อย่างน้อยก็ไม่ให้เสียเที่ยว ไม่ให้เสียที ที่มาทำดีร่วมในพระพุทธศาสนากับเค้าได้ในชาตินี้ เพราะฉะนั้น ถ้าใครทำได้ หรือจำวิธีได้ อย่าลืมกลับไปแล้วลองทำให้ได้ทุกเช้า ถามว่าผมไม่มีเวลาเลย เพราะว่าเช้า ๆ ก็ต้องเตรียมงาน ไม่จริงหรอกลูกคนที่ทำได้ก็อยู่ใน 24 ช.ม. เหมือนกัน และคนที่ทำไม่ได้มีแค่ 24 ช.ม. เหมือนกัน ทำไมเขาทำได้ และ ทำไมเราทำไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่การงานหน้าที่ของเขาเหมือนกับเรา และ บางที บางครั้งเขาก็มีงานมากกว่าเราด้วยซ้ำไป หลวงปู่นี่ต้องบริหารชีวิตคนที่อยู่ในนี้ ต้องบริหารเศรษฐกิจของที่นี่ ต้องทำเรื่องการพัฒนาอะไร ๆ อีกตั้งเยอะแยะที่นี่ และยังมีที่อื่นอีกที่ต้องรับผิดชอบ ทำไมหลวงปู่ยังมีเวลากับความเป็น ส่วนตั๊ว ส่วนตัว ของตัวเอง ถ้าเรารู้ว่างานเรามาก ก็อย่าหลงแต่นอน อย่าเอาแต่เสพ อย่ามั่วต่อกาม และ การกินอยู่ เจียดเวลาของเราให้ วิธีพิเศษ ๆ สำหรับประโยชน์แห่งชีวิตสูงสุดชนิดนี้ได้บ้างไหม ในยามเช้าของอากาศที่สดชื่น แจ่มใส ทุกวันสัก 3 นาที 5 นาทีก่อนจะแปรงฟันก็ได้ ดื่มน้ำ แล้วก็ทำชีวิตวิญญาณให้สดชื่น ออกไปสูดโอโซน และ บรรยากาศ อากาศ นอกห้องนอน นอกที่นอน แล้วก็กลับมาเริ่มต้น การทำอะไร ๆ ที่เป็นภาระกิจของตนเองอย่างดียิ่ง อย่างเมื่อครู่นี้ สัก 3 นาที 5 นาที ทำอย่างนี้เรื่อย ๆ ไป

..... มันก็เหมือนเราหยดน้ำใส่ตุ่มทีละหยด ทีละหยด ถึงแม้ว่ามันจะทีละหยด แต่ถ้าตุ่มเราไม่รั่ว และขยันที่จะหยด สักวันหนึ่งมันต้องเต็ม แต่ถ้าเราไม่ยอมที่จะหยด แล้วตุ่มที่มียังรั่ว คือ ตัวเราไม่ใส่ใจที่จะหยดอีกด้วย ไม่มีวันเต็มหรอกลูก เราจะเป็นผู้ที่พร่องอยู่เป็นนิจ พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ว่า “ จิดเตสังกิลิฏเฐ ทุคติ ปาฏิกังขา ” ก่อนจะตายถ้าจิตพร่อง ที่หมายเป็นอบายภูมิ และ ทุกข์คติเป็นที่หวัง แต่ถ้าเราเติมให้มันเต็มอยู่ตลอด หรือมันไม่เต็มก็พยายามเติม เต็มน้อยก็คือพร่องน้อย มันก็จะไปอยู่ที่ ๆ ดีกว่า ที่ ๆ ไม่มีหรือพร่องตลอด แต่สำหรับจิตของคนที่พร่องอยู่ตลอด มันจะลงต่ำลูก ตามแรงโน้มถ่วงของกรรม และ โลก เหมือนกับลูกโป่งสวรรค์ที่เค้าอัดแก็สใส่เข้าไป นึกออกไหมถ้าเราอัดลมเข้าไปมาก มันก็จะลอยได้สูง



..... แต่ถ้าอัดลมเข้าไปน้อยมันก็ลอยได้แค่พ้นมือแล้วก็หล่นลง พวกเราก็เหมือนกับลูกโป่งสวรรค์ที่ยังไม่ได้รับการอัดลม ลมในที่นี้ก็คือสิ่งที่เรา ละวาง ปล่อยไว้ เป็นความว่าง ๆ อย่างผ่อนคลายแบบเมื่อครู่นี้ ถ้าเราอัดเข้าไปน้อย มันก็หล่นปุ๊บ แล้วก็ร่วงลงพื้น นั่นคือวันตาย และ ที่ไปของเราก็ตกลงไปในที่ต่ำ แต่ลูกโป่งสวรรค์ที่อัดลมเต็มที่ พอปล่อยปุ๊บมันก็จะลอยไปได้ไกล อย่างที่มันต้องการจะไป จะร่วงก็เป็นที่ ๆ มันปรารถนาจะไป มันเลือกที่ร่วงของมันได้ เพราะฉะนั้นพวกเราก็จะต้องถามว่าชีวิตเราต้องการจะร่วงแบบชนิดที่หล่นแปะ! หรือ ลอยไปได้ไกลแล้วก็เลือกที่ร่วงได้ หลวงปู่กำลังพูดเรื่องจริงของชีวิตทุกคน ว่าชีวิตหลังความตายเป็นอย่างนั้น โดยฐานะที่หลวงปู่เป็นผู้ที่เรียนรู้ชีวิต และ วิญญาณของโลกและตัวเองมาชั่วชีวิต จนได้รับยกย่องว่าเป็น ผู้นำทางวิญญาณของโลกและสรรพสัตว์

..... เพราะฉะนั้น เมื่อหลวงปู่รู้วิญญาณ เรียนวิญญาณ โดยไม่มีครูบาอาจารย์อบรมสั่งสอน จึงรู้สึกเอื้ออาทร และ ห่วงใยต่อลูกหลานทั้งหลายว่า พวกท่านจะลอยไปได้ไม่ไกล เพราะมองแววตาแต่ละคนแล้วไปไม่ได้กี่ก้าว บางคนไม่ทันไป พอขยับตัวลุกจะเดินก็น็อคเสียแล้ว ดีไม่ดีไม่ทันขยับก็อยู่ตรงนั้นแหละ อย่าลืมว่าอย่าอ้างว่าไม่มีเวลาลูก 24 ช.ม. เท่ากัน แล้วทำไมเราไม่ห่วงใยเอื้ออาทรปรารถนาดีต่อชีวิต และ วิญญาณของเราบ้าง เรามัวแต่อะไร ๆ ที่มันไร้สาระอยู่ตลอดเวลาทำได้อย่างไร เราไม่กลัวบ้างหรือไง หรือยังไม่เคยเห็นมัจจุราช ถ้าใครอยากจะเห็นก็ลองดูก็ได้ หลวงปู่จะชี้ช่องให้ว่าทำอย่างไร เดินไปแล้วก็อุดจมูกเอาหัวทิ่มเสานั่นแหละเดี๋ยวก็เห็น นี่ไม่ได้สาปแช่งนะ อยากจะบอกว่ามันน่ากลัวลูก คนมายืนเอาปืนจ่อหัวยังไม่น่ากลัวเท่ากับ ชีวิตหลังความตายที่ไม่มีอะไรเลย เพราะอย่างน้อยเราก็ยังคุยกับคนที่มันเอาปืนจ่อหัวของเราได้ว่าขอเวลาสักนิด ขอกินน้ำสักแก้วได้ ยังรู้จักหน้าตาและยังสื่อภาษา และรู้ชนิดของปืนที่มันยิงเรา

..... แต่ชีวิตหลังความตายนี่ถึงจะเห็นแก้วน้ำวาง ตรงหน้าอยากใจจะขาด เหมือนกับคนที่ยืนอยู่กลางทะเลทราย และ แดดเผา แต่จะเอื้อมมือไปหยิบน้ำมันทำไม่ได้ลูก เพราะถ้าญาติของเราไม่อุทิศให้ ก็กินไม่ได้ลูก อยู่กับข้าว อยู่กับไก่ อยู่กับเป็ด อยู่ตรงนั้นแต่หยิบไม่ได้ลูกไฟกรดมันจะขึ้นเพราะ ไม่ใช่ของเรา เราไม่เคยทำบุญสุนทานใส่บาตร อุทิศส่วนกุศลให้ใครเขา ทำไม่ได้ลูก อดอยากปากแห้งน้ำลายสออยู่อย่างนั้น มันเลวร้ายขนาดนั้นนะลูก จะบอกญาติ แม่นั่งอยู่ใกล้ ๆ เรียก แม่ หนูอยากกินข้าว แม่ก็ฟังไม่ได้ยินลูก เขาไม่รู้ ไม่ได้ยิน ไม่เห็นเรา เหมือนกับลมที่มันพัด ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ชีวิตหลังความตายเป็นเหมือนลม หนาวครับแม่ หนาวครับพ่อ หนาว พ่อหนาวเหลือเกินลูก ก็บอกกับลูกไม่ได้ เพราะลูกก็จะเดินผ่านมา แล้วก็ผ่านไป ไอ้ที่ยิ่งแย่ใหญ่ ก็พวกสัมภเวสี คือพวกที่ล่องลอยไปตามอากาศไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง เพราะไม่เคยทำบุญสุนทานอุทิศส่วนกุศล และ ความดีให้กับใครเขาเลย ตายไปก็ไม่มีบ้านจะอยู่ แล้วก็พวกตายโหง ไม่ถึงเวลาตาย แล้ว ก็ตายก่อนกำหนดยังชดใช้กรรมไม่หมด แล้ว ก็ตาย พวกนี้จะไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ล่องลอยไปตามอากาศตามที่กว้าง ที่โล่งหา ที่อยู่ไม่ได้ เหมือนกับคนที่เดินหลงทาง เราลองคิดดูถึง เด็กน้อยที่เดินหลงทางว่าเขาเป็นอย่างไร กลับบ้านก็ไม่ได้ ไปไหนก็ไม่ได้ หิวก็หิว เหนื่อยก็เหนื่อย หนาวก็หนาว ร้อนก็ร้อน แถมยังหวาดกลัวต่อภัยรอบข้างที่จะทำอันตรายนั้นแหละคืออารมณ์ และความเป็นอยู่ของสัมภเวสี มันทรมานไหม มันจะเดือดร้อนขนาดไหน

__________________

ลูกรัก


คราครั้งใดที่เจ้ารู้สึกตัวว่าเจ้าอยู่ในพระพุทธศาสนานี้ ครานั้นเจ้าคือคนของพระศาสนา
คราใดที่เจ้าเป็นคนของพระศาสนา ครานั้นเจ้าก็ต้องทำงานให้กับพระศาสนา
คราใดที่เจ้าทำงานให้กับพระศาสนา ครานั้นเจ้าก็ต้องทำความเจริญให้กับพระศาสนา
คราใดที่เจ้าทำความเจริญให้กับพระศาสนา ครานั้นเจ้าจงรู้ไว้เถิดว่า
เจ้ากำลังทำความเจริญให้กับจักรวาลและตัวเจ้าเอง


-หลวงปู่พุทธะอิสระ-



เชี้ยหยาวหวน
#2   เชี้ยหยาวหวน    [ 26-02-2010 - 10:58:22 ]

อ่านทุกคนนะครับ อยากให้อ่านมากเลย อ่านให้จบด้วยนะครับ
มีประโยชน์มาก ถึงมันจะยาวเกินไปก็เถอะครับ




เชี้ยหยาวหวน
#3   เชี้ยหยาวหวน    [ 26-02-2010 - 12:27:37 ]

คราครั้งใดที่เจ้ารู้สึกตัวว่าเจ้าอยู่ในพระพุทธศาสนานี้ ครานั้นเจ้าคือคนของพระศาสนา
คราใดที่เจ้าเป็นคนของพระศาสนา ครานั้นเจ้าก็ต้องทำงานให้กับพระศาสนา
คราใดที่เจ้าทำงานให้กับพระศาสนา ครานั้นเจ้าก็ต้องทำความเจริญให้กับพระศาสนา
คราใดที่เจ้าทำความเจริญให้กับพระศาสนา ครานั้นเจ้าจงรู้ไว้เถิดว่า
เจ้ากำลังทำความเจริญให้กับจักรวาลและตัวเจ้าเอง

นี้อันนี้ถูกใจผมมากเลยครับ



เทพสุรา
#4   เทพสุรา    [ 27-02-2010 - 02:25:18 ]

สังขารมันบ่อเทียง.. .หลีกเลี้ยงเสียไห้พ้น
อนัตตาบ่อแมนโตตน.. .อย่ากังวนวาร่างกาย


อตฺตา หเว ชิตํ เสยฺโย ชนะตนนั่นแหละ เป็นดี

อตฺตา สุทนฺโต ปุริสสฺส โชติ ตนที่ฝึกดีแล้วเป็นแสงสว่างของบุรุษ

อตฺตนา ว กตํ ปาปํ อตฺตนา สงฺกิลิสฺสติ ตนทำบาปเองย่อมเศร้าหมองเอง

อตฺตตฺถปัญฺญา อสุจี มนุสฺสา มนุษย์ผู้เห็นแก่ประโยชน์ตน เป็นคนไม่สะอาด

อตฺตานญฺเจ ปิยํ ชญฺญา รกฺเขยฺย นํ สุรกฺขิตํ อตฺตานญฺเจ ตถา กยิรา ยถญฺญมนุสาสติ
ถ้ารู้ว่าตนเป็นที่รัก ก็ควรรักษาตนนั้นให้ดี ถ้าพร่ำสอนผู้อื่นฉันใด ก็ควรทำตนฉันนั้น



เทพสุรา
#5   เทพสุรา    [ 27-02-2010 - 02:57:09 ]

ลูกใครหว่าน่ารักจริงๆอยากได้สักคนจัง

ขอบใจมากนะน้องน้ำเชี่ยว ชอบๆมากเลย555



เทพสุรา
#6   เทพสุรา    [ 28-02-2010 - 03:30:07 ]

วัดดีน้องชาย ทำอะไรอยู่ขอรับ อะ อะ อ่านเล่นๆ เอามาฝากขอรับ

"ธรรมชาติสอนเราว่า สิ่งที่ยิ่งใหญ่ก็ยังคงต้องเปลี่ยนแปลง ไปตามกาลเวลา"

"เราไม่สามารถเร่งคืนวันให้ได้ดั่งใจเรา เพราะทุกสิ่งต้องการเวลา"

"ใกล้จะหมดวันของวันนี้แล้วไม่ว่าทุกข์หรือสุขปล่อยให้กลายเป็นอดีตไป
พรุ่งนี้ต่างหากที่สำคัญกว่า"

"กิ่งก้านของใบไม้ที่แตกยอด ผลิใบใหม่ ได้ทำให้รู้ว่า
ทุกสิ่งก็สามารถเริ่มต้นใหม่ได้

"ในความทุกข์อย่างมหันต์ ของการใช้ชีวิต แต่มันก็มีความสุขแอบแฝง
อยู่เสมอ"

"ในความสุขล้นพ้นที่เข้ามาในชีวิต แต่มันก็แอบแฝงด้วยความทุกข์
ด้วยเช่นเดียวกัน"

สรุป
เพราะฉะนั้นอย่าดีใจให้มากเมื่อเจอสุข และอย่าเสียใจให้มาก เมื่อเจอทุกข์
เพราะทุกๆ อย่างมาแล้วก็ผ่านพ้นไป


โย่โย่





เทพสุรา
#7   เทพสุรา    [ 28-02-2010 - 06:13:04 ]

ฝากให้ลูกศิษ กระบี่ไร้ตา หากเข้ามาจงศึกษาดู
ส่วนที่นอกเหนือจากนี้ ถามน้อง เซี่ยเอาขอรับข้าคิดได้แค่นี้


แด่คนอยากรู้ภาษาอีสานขอรับ ถ้าอ่านเข้าใจมันสนุกนะขอรับ ใช่ไหมน้องเซี้ย
อีเมล์ถึงนางฟ้า
ซำบายดีน้องหล่า คำแพงนางฟ้าพี่
เขียนอีเมล์มามื้อนี้ ฟังอ้ายสิกล่าวขาน
มือนี้เขียนจากห้อง มอสองอยูหม่องเก่า
หัวใจอุกอั่งเอ้า คึดฮอดเจ้าอยู่สู่ยาม
กินข้าวงายกับหยังหล่า กับปิ้งปลาหรือปิ้งไก่
กับทอดไข่บ่น้อง หรือนางหล่ากินอีหยัง
หรือเจ้ากินบ่ได้ อาหารไทยพื้นบ้านเก่า
กินสปาเก็ตตี้ กินแต่อบพิซซ่านางหล่าจั่งสิไล
เข้าแต่ในเซเว่น กินอาหารญี่ปุ่น
คั่วจินูนแกงหน่อไม้ เจ้าลืมได้ก้อยกะปอม
น้องอย่าไลลืมถิ่ม มูลมังแต่ครั้งเก่า
ลืมพ่อแม่อ้ายน้อง ไปหลงย้องผู้อื่นดี
เงินเดือนหลายอยู่บ่หล่า สิ้นเดือนมาเหลือจักบาท
เงินเขินขาดอยู่บ่น้อง ส่งทางบ้านเดือนท่อได๋
คันเหลือกินเหลือใซ้ ให้เก็บกำไว้แหน่
พ่อแม่เฮาอยู่บ้าน ยังคอยท่าหม่อมพะนาง
มือนี้พอส่ำนี้ อ้ายขอลานางฟ้าก่อน
สอนนักเรียนก่อนเด้อน้อง นางฟ้าให้อยู่ดี
คันมือนี้เจ้าว่าง ให้โทรหาอ้ายแหน่
คันแม่นอ้ายว่างว่าง โทรหาเจ้าคือเก่าหลัง...เด้อ.......
.................
คำเรียกผู้หญิงที่เป็นที่รัก
1..นางหล่า คำหล้า หม่อมพะนาง คำแพง (คำ...ทองคำ แพง...รัก หวง)
2. หม่องเก่า.......ที่เก่า
3..อุกอั่งเอ้า........กลัดกลุ้มมาก
4..คึดฮอด...........คิดถึง
5..สู่ยาม..............ทุกเวลา
6..หยัง อีหยัง......อะไร
7..ไล.........ละทิ้ง ลืม
8...คั่วจินูน.......คั่วแมลงชนิดหนึ่งโรยเกลือนิด ๆ
9...มูลมัง.........มรดกเก่าแก่
10..ย้อง............ยกย่อง
11..ท่อได๋.........เท่าไร
12...ใซ้........ใช้
13...แหน่.....หน่อย
14..คัน..........ถ้าหาก
15..พอส่ำนี้........พอแค่นี้

----------------------------------จบจ้อยคึดบ่อออก------------------------------------------------------------




กระบี่ไร้ตา
#8   กระบี่ไร้ตา    [ 28-02-2010 - 08:58:29 ]

หวัดดีน้องเซี้ย พี่มาเยี่ยม



เทพสุรา
#9   เทพสุรา    [ 28-02-2010 - 23:08:01 ]

หวัดดี น้องเซี้ย พี่ชายก็มาแวะเหมือนกัน วันที่2 จะกลับบ้านและ555ดีใจ
คงไม่ได้เข้าโคราช55ถ้าเข้าว่าจะไปเยี่ยมอยู่555 สบ่ายดีปล่าว55



เชี้ยหยาวหวน
#10   เชี้ยหยาวหวน    [ 02-03-2010 - 08:44:39 ]

คิดถึงทุกท่านมากเลยไม่เจอกันตั้งนานครับ



เชี้ยหยาวหวน
#11   เชี้ยหยาวหวน    [ 02-03-2010 - 08:45:28 ]

ครับผมไม่ได้อยู่ในตัวโคราชหลอกครับ

ผมอยู่ในอำเภอแห่งหนึ่งของโคราชเท่านั้นครับ



เชี้ยหยาวหวน
#12   เชี้ยหยาวหวน    [ 02-03-2010 - 09:25:46 ]

พี่ชายพี่หญิงของน้อง



เชี้ยหยาวหวน
#13   เชี้ยหยาวหวน    [ 02-03-2010 - 09:26:35 ]

ไม่รู้ทำไมอยู่ดีๆก็ร้องไห้ก็ไม่รู้ครับ



เชี้ยหยาวหวน
#14   เชี้ยหยาวหวน    [ 03-03-2010 - 12:31:45 ]

คงไม่มีใครอยากมากระทู้ของเราสินะ



กระบี่ไร้ตา
#15   กระบี่ไร้ตา    [ 03-03-2010 - 12:39:30 ]

มีสิ พี่ไง

น้องเซี้ยสบายดีนะค่ะ



เทพสุรา
#16   เทพสุรา    [ 04-03-2010 - 02:07:01 ]

มีสิขอรับ2คนอาจจะดีกว่าสิบคนก็ได้นะถ้ารองคิดไห้ดีๆ
ถึงบ้านและ เห็นคุณพ่อน้ำตาแทบไหล55 แต่ไม่ได้คุยกันเท่าไหร
ท่านรีบไปคุมสอบนักเรียน55ว่าจะเข้าไปกอด55แต่ก็ทำไมมันถึงไม่กล้าแสดงนะ
เหอไม่รู้เอาอะไรมาเล่าไห้ฟัง เข้ามาตอนตี1จนถึงเช้าไม่ค่อยมีคนนอนดึกเลยขอรับ55



เทพสุรา
#17   เทพสุรา    [ 04-03-2010 - 07:37:38 ]

ยังไม่ได้นอนเลยขอรับ เดี๋ยวจะไปนอนแล้ว
11โมงจะมาใหม่ ซียูเลเทอนะขอรับทุกท่าน



เชี้ยหยาวหวน
#18   เชี้ยหยาวหวน    [ 04-03-2010 - 11:29:04 ]

สบายดีครับพี่หญิงพี่ชายน้องสบายดีครับ
แล้วท่านสองคนละครับ



เชี้ยหยาวหวน
#19   เชี้ยหยาวหวน    [ 04-03-2010 - 11:31:16 ]

บ้านพ่อผมก็อยู่อุบลเหมือนกันครับ



เชี้ยหยาวหวน
#20   เชี้ยหยาวหวน    [ 04-03-2010 - 14:31:37 ]

ซียูเลเทอนะขอรับทุกท่าน



ตอบกระทู้
ชื่อ
รหัส กรอกตัวอักษร ตามภาพ
ข้อความ


emo-smile emo-happy emo-lol emo-enjoy emo-kiku emo-cool emo-hoho emo-drool emo-hungry emo-kiss emo-sorry emo-sad emo-cry emo-tear emo-question emo-doubt emo-shock emo-redface emo-plz emo-peevish emo-angry emo-moody emo-sneer emo-makefaces emo-good emo-touched emo-love emo-bore emo-tired emo-vomit
bold italic underline img link superscript subscript size color space justifyleft justifycenter justifyright quote box youtube