1. บ้วยทิวฮวงเคยเป็นคนรับใช้ (หลังจากกำพร้า ลุงที่ยากจนของเธอไม่สามารถเลี้ยงดูเธอไหว จึงขายเธอให้กับบ้านเศรษฐีสกุลเจียง แม้เธออายุแค่สิบสองขวบเธอจัดว่าเป็นเด็กสาวที่สวยคนหนึ่ง ในขณะที่เธอกำลังซักผ้า เศรษฐีเจียงเข้ามาหาและต้องการจะลวนลามที่หน้าอก เธอผลักไสเขาออก ในมือของเธอมีสบู่แล้วฟองสบู่ไปติดกับเคราของเศรษฐีเจียงเป็นที่ขบขัน ฮุหยินเจียงมาเห็นเข้าใจผิดคิดว่าเธอพยายามยั่วยวนสามีนาง จึงดุด่าและทำโทษเธอ ถึงกับจะควักลูกตาเธอออก อาจารย์อึ้งเอี๊ยซือผ่านมาพบเลยสั่งสอนฮูหยินเจียง อีกทั้งยังให้ไถ่ตัวบ้วยทิวฮวงเป็นอิสระรับเธอเป็นลูกศิษย์คนที่สาม
2. ลูกศิษย์เอกของอึ้งเอี๊ยซือคือเข็กเล้งฮวงอายุสามสิบและเป็นหม้าย ดังนั้นลูกสาว(นางส่าโกว)เกิดแล้ว(เพราะจะได้แก่กว่าอึ้งย้ง)
3. บ๊วยทิวฮวงเติบโตเป็นสาวแสนสวย อึ้งเอี๊ยซือ เข็กเล้งฮวง ตั้งเฮียนฮวง ต่างหวั่นไหวด้วยความงามของเธอ เข็กเล้งฮวยหักห้ามใจได้เนื่องจากสูญเสียภรรยาและไม่ต้องการจะมีความรักมีต่อไป นอกจากนี้เขายังล่วงรู้จิตใจอาจารย์ตนเองที่แอบหลงรักนาง อึ้งเอี๊ยซือถึงกับหงุดหงิดและเศร้าเสียใจตนเองที่เป็นเช่นนี้ (มีบทกลอนที่แต่งโดยนักกวีสมัยซ้องชื่อ Ouyang Xiu ที่สื่อถึงความลุ่มหลงที่เขามีต่อนาง)
4. เมื่อเข็กเล้งฮวงรู้ว่าตั้งเฮียนฮวงลักลอบได้กับบ๊วยทิวฮวง ทั้งสองได้ต่อสู้กัน ตั้งเฮียนฮวงพ่ายแพ้ เข็กเล้งฮวงโกรธเพราะเขารู้สึกว่าทั้งสองทรยศอาจารย์ (บ๊วยทิวฮวงเคยสาบานว่าเธอจะอยู่เคียงข้างอาจารย์ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม) เมื่ออึ้งเอี๊ยซือล่วงรู้ว่าศิษย์ทั้งสองต่อสู้กัน เขาโกรธที่เข็กเล้งฮวงคาดคะเนจิตใจเขาออก และความรู้สึกของเขาที่มีต่อบ๊วยทิวฮวงเป็นที่เปิดเผยจึงรู้สึกอับอายขายหน้าและโยนความผิดที่เข็กเล้งฮวง ด้วยอารมณ์โกรธจึงหักขาลูกศิษย์คนโตและขับไล่ออกจากเกาะพร้อมลูกสาวติ๊งต๊อง นับแต่นั้นอึ้งเอี๊ยซือละเลยตั้งเฮียนฮวงกับบ๊วยทิวฮวง และไม่สอนวิชาแก่พวกเขาอีกเลย เขาออกจากเกาะดอกท้อไปท่องเที่ยวและกลับมาพร้อมแม่ของอึ้งย้ง ในวันฉลองเทศกาล อึ้งเอี๊ยซือดื่มเหล้าเมาแล้วพูดว่า “ใครบังอาจกล่าวว่าภูตบูรพาหลงรักลูกศิษย์ตนเอง” เจ้าโง่เข็กเล้งฮวง ตอนนี้ไปอยู่ที่ไหน ข้าให้อภัยเจ้าแล้ว ไปบอกเขาให้กลับมาได้
ตั้งเฮียนฮวงได้ยินเข้าจึงตัดสินใจหนีออกจากเกาะพร้อมบ๊วยทิวฮวง โดยแอบไปขโมยคัมภีร์ด้วย
5 . บ๊วยทิวฮวงและตั้งเฮียนฮวงฝึกคัมภีร์ ตระกูลเจียงเป็นเหยื่อรายแรกของการฝึกฝนพลังชั่วร้ายนี้ พวกเขายังฝึกทักษะอื่นเช่น พลังเสื้อเกราะเหล็ก ระฆังทอง (นี่คงเป็นที่มาของฉายา ศพเหล็ก ศพทองแดงสินะ

6 หลังจากบ๊วยทิวฮวงและตั้งเฮียนฮวงออกจากเกาะไปแล้ว อึ้งเอี๊ยซือไม่สบอารมณ์และโศกเศร้าคละกัน เมื่อศิษย์คนอื่นๆพยายามปลอบใจ แต่มิได้ระวังคำพูดทำให้เขาโกรธมาก จัดการหักขาและไล่ออกจากเกาะหมด
7 เล็กเซ็งฮวงต้องการจับตัวศิษย์พี่ทั้งสองคืนอาจารย์ จึงรวบรวมเหล่าผู้กล้ามากวรยุทธ์กระทำการ หนึ่งในนั้นมีพี่ชายของกัวเต็งอักที่ได้ชวนกัวเต็งอักมาร่วมขบวนการด้วย แต่เขาปฏิเสธเพราะอยู่ระหว่างตามรอยก๋วยเจ๋งกับแม่ พี่ชายเขาโดนฆ่าตาย หลังจากนั้นอีกสองปีกัวเต็งอักได้เจอบ๊วยทิวฮวงและตั้งเฮียนฮวงและต้องการแก้แค้นคืน
8 บ๊วยทิวฮวงและตั้งเฮียนฮวงสามารถหลบหนีจากการจับกุมของพรรคพวกเล็กเซ็งฮวง แต่ได้รับบาดเจ็บสาหัส อีกทั้งยังโดนกลุ่มเจ็ดนักพรตฉวนจินตามล่า
9 พูดถึงวิทยายุทธ์และการใช้อาวุธลับในเรื่องได้แก่ กรงเล็บกระดูกขาว, ฝ่ามือขยี้ใจ , แส้มังกรพันพิษ ว่าวิชาเหล่านี้ไม่ใช่ของอึ้งเซียง แต่เป็นวิชาที่ศัตรูของเขาลอบทำร้ายน้องชายกับน้องสาวของเขา เขาเลยทำตัวเป็นCSI และจดรายละเอียดลงในคัมภีร์ อีกทั้งยังปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น ดังนั้นที่บ๊วยทิวฮวงและตั้งเฮียนฮวงฝึกเป็นวิชาของศัตรูเขาไม่ใช่วิชาที่อึ้งเซียงคิดค้นเอง เพราะการฝึกวิชาเหล่านี้ ไม่จำเป็นต้องฝึกกำลังภายใน(สายลัทธิเต๋า)
10 ปู่ของอึ้งเอี๊ยซือเป็นขุนนางเก่าในราชวงศ์ซ้อง ระหว่างที่ท่านแม่ทัพงักฮุยโดนใส่ร้าย เขาเป็นผู้ร่างคำแก้ต่างให้จนโดยไล่ออกจากราชสำนัก แต่เขายังคงเรียกร้องให้ประชาชนสู้เพื่อความบริสุทธิ์ของแม่ทัพ ท้ายที่สุดโดยสั่งประหารและขับไล่ทั้งครอบครัวไปสู่ยูนนาน อึ้งเอี๊ยซือก็เติบโตและเรียนหนังสือฝึกวิชาที่นั่น เมื่อโตเป็นหนุ่มเขามีความคิดเห็นแปลกแยกจากพ่อ และมักโต้เถียงเรื่องที่ความจงรักภักดีต่อฮ่องเต้ อีกทั้งไม่เข้าสอบสนามแข่งขันเป็นราชการ จนท้ายที่สุดโดนพ่อขับไล่ออกจากบ้าน เขาเริ่มออกท่องยุทธจักรและแต่งบทกลอนเป็นปฏิปักษ์กับทางราชการ ทางพระราชสำนักออกหมายจับแต่ไม่เป็นผล
ขอบคุณข้อมูลโดยท่าน Flown Feather
