เข้าระบบอัตโนมัติ

สรรพสิ่งมีอยู่จริง.. หรือว่าเป็นเพราะมนุษย์ไปรับรู้มันเข้า มันถึงมีอยู่จริง


ฝ่ามืออัสนีบาต
#1   ฝ่ามืออัสนีบาต    [ 07-10-2009 - 22:54:15 ]

ทุกท่านคิดว่ายังไง ข้าอนุมานแบบหยาบๆว่าเป็นเพราะมีมนุษย์เรา



แม่เฒ่าเทียงซัว
#2   แม่เฒ่าเทียงซัว    [ 07-10-2009 - 22:58:33 ]

ถ้าไม่มีมนุษย์มันจะไปรับรู้มาได้ยังไงล่ะหนู



ฝ่ามืออัสนีบาต
#3   ฝ่ามืออัสนีบาต    [ 07-10-2009 - 23:02:03 ]

มันเป็นคำถามอภิปรัชญาเลยนะเนี่ย หรือว่าถึงไม่มีมนุษย์ สรรพสิ่งก็ดำรงอยู่แล้วด้วยตัวมันเอง



เอี้ยโกวเนี้ย
#4   เอี้ยโกวเนี้ย    [ 07-10-2009 - 23:04:47 ]

สรุปความหมายนะคะ มีสองกรณี

พวกแรกเชื่อว่า ไม่มีอยู่ เพราะมันไม่มีอยู่จริงๆ / พวกที่สอง เชื่อว่าเรายังไม่พบมัน มันถึงไม่มีอยู่

นี้เป็นหนึ่งของข้อถกเเถียงของ ตาเฒ่าไอสไตน์ กับใครซักคนซึกจำไม่ได้



ฝ่ามืออัสนีบาต
#5   ฝ่ามืออัสนีบาต    [ 07-10-2009 - 23:07:42 ]

ถ้าจำไม่ได้ผิดน่าจะกับรัทเทอร์ฟอร์ดหรือไม่ก็นีลส์ โบห์



เอี้ยโกวเนี้ย
#6   เอี้ยโกวเนี้ย    [ 07-10-2009 - 23:13:13 ]

แย่จัง ไอสไตน์มาจากไหน โทษทีคะ

แต่เรื่องนี้สามารถเปรียบอ้างอิงกับ คติศาสนาพุทธ
ไม่ค่อยน่ใจ แต่อ่านแล้วงงๆ ใครตีความได้ก็ช่วยหน่อยนะคะ
http://th.wikipedia.org/wiki/นิพพาน



เอี้ยโกวเนี้ย
#7   เอี้ยโกวเนี้ย    [ 07-10-2009 - 23:16:07 ]

อ้างจากแม่เฒ่า

สงสัยแม่เฒ่าจะเว้นวรรคแย่หน่อย ทำให้ท่านเซ่งคุน เข้าใจผิด

ถ้าไม่มี มนุษย์มันจะไปรับรู้มาได้ยังไงล่ะหนู

อย่างที่ว่ามีสองพวก

พวกที่ ถ้ามันไม่มี จะไปรู้ได้ไงละ

กับ

พวกที่ ก็ที่มันไม่มี เพราะเราไม่รู้



เด็กชายไร้นาม
#8   เด็กชายไร้นาม    [ 07-10-2009 - 23:28:45 ]

เพราะสรรพสิ่งมีอยู่จริง มนุษย์ก็เป็นสรรพสิ่งอย่างหนึ่งในโลก ถึงจะไม่มีมนุษย์เข้าไปรู้ สัตว์บนโลก ก็มีอีกตั้งหลายชนิด มันก็รับรู้ถึงสอ่งต่างบนโลกได้ แถมยังรับรู้ได้ดีกว่ามนุษย์เสียอีก... ดังนั้นผมคิดว่า สรรพสิ่งมีอยู่จริงครับ เพราะถ้าไม่มีอยู่จริงมนุษย์จะไปรับรู้ได้ยังไงล่ะครับ...



สยบทั่วเเผ่นดิน
#9   สยบทั่วเเผ่นดิน    [ 08-10-2009 - 02:54:59 ]

บางอย่างมนุษย์สร้างมันขึ้นมาจากองค์ประกอบ ทางความรู้ของตนเอง และผลงานที่ทำเสร็จออกมาให้เห็นว่ามันมีอยู่ เช่น เตรื่องมือเครื่องใช้ในปัจจุบัน แต่ไหนแต่ไรเราคงไม่ทราบว่ามนุษย์จะสร้างอาวุทธหายนะ กล้องสอดแนม หรือ โทรทัศน์จากสิ่งที่มีอยู่ในธรรมชาติได้ แต่ก็ทำมาแล้ว แถมยังมีการประยุคพัฒนาอีก จนปัจจุบันแทบกลายเป็นละเมิดเอกภาพ ของผู้อื่น เกิดการเอาเปรียบทางเทคโนโลยี

ส่วนที่ไม่อาจสัมผัสได้ จะยังไม่รู้ว่ามันมีหรือไม่ ทางวิทยาศาสตร์จะไม่เชื่อ ที่มองไม่เห็นสัมผัสไม่ได้
บางอย่างเป็นเพียงสมมุติฐาน ที่ไม่ได้รับการพิสูจน์หรือ คิดว่ามันเกินกำลัง จึงยังพิสูจน์ไม่ได้
กลายเป็นสิ่งที่พวกคนไม่เชื่อในเรื่องเร้นลับจิตวิญญาณมองว่าน่าหัวร่อสิ้นดี คนที่สัมผัสมาแล้ว แต่ไม่อาจทำให้คนอื่เห็นได้ เขาก็กลับถูกมองว่าวิกลจริต ซึ่งไม่รู้ว่าวิกลจริตจริงหรือรู้มากกว่าผู้อื่น โดยที่ผู้อื่นนั้นเชื่อว่าเขาบ้า เพราะมีทฤษฎีที่ว่าบ้าเป็นอย่างไร และพวกเขามักเหมารวมว่า ทำหรือว่ากล่าวแตกต่างจากคนอื่นโดยไร้เหตุผล ทั้งที่พวกเขาก็ยังไม่เคยสัมผัส...

และที่พวกเขาเชื่อในวิทยาาสตร์นักหนาเพราะมันสร้างหลายสิ่งที่เป็นประโยชน์ อำนวยความสะดวกแก่พวกเขา เป็นรูปเป็นร่างมามากแล้ว



สยบทั่วเเผ่นดิน
#10   สยบทั่วเเผ่นดิน    [ 08-10-2009 - 03:00:08 ]

ข้าคิดว่าเป็นเพราะมนุษย์สอดรู้สอดเห็นขอรับ ไม่โดยตั้งใจ ก็บังเอิญ แลัวยังมีการเจาะลึก วิเคราะห์อีก
แล้วยุคหลังๆพอพบปัญหาเข้า ก็หาวิธีเอาตัวรอดป้องกัน เลยเกิดวิชาต่างๆขึ้นมาและเอาไปประบุกต์ใช้จนเกิดอีกวิชา หากใช้ในทางชั่วไม่รู้จักธรรมะ ก็เกิดเป็นอวิชชาอีก ธรรมชาติสรรพสิ่งมีอยู่ดำรงอยู่แต่ที่เพิ่มมาเช่น วัตถุ เพราะมนุษย์ตั้งใจจะฝืนธรรมชาติ (แล้วก็เกิดสิ่งที่เรียกว่าวัตถุนิยมอีก )

มนุษย์มีอิทธิพลเกินไปจริงๆ.. ทำให้เกิดผลกระทบมากมาย เพราะคิดว่าไม่มีอะไรที่พวกเขากระทำไม่ได้ จึงพยายามกระทำให้เกิดสิ่งต่างๆขึ้นมามากมาย โดยมากแล้วก็เพื่อพวกตน




สยบทั่วเเผ่นดิน
#11   สยบทั่วเเผ่นดิน    [ 08-10-2009 - 03:05:51 ]

และหากไม่พิสูจน์ ในเรื่องลี้ลับ มันก็จะไม่รู้ว่ามีอยู่จริง กลายเป็นความคิดที่ว่า "งมงาย" ของมนุษย์บางคน เช่นเรื่อง วงเวียนแห่งกรรม



ฤทธานุภาพ©
#12   ฤทธานุภาพ©    [ 08-10-2009 - 10:41:11 ]

เรื่องนี้ว่าซับซ้อนก็ซับซ้อน แต่ถ้าเข้าใจแล้วมันเป็นเรื่องเล็กน้อยครับ

มีต้นสนต้นหนึ่งตั้งอยู่ในป่า ต้นสนล้มลงถามว่ามีเสียงหรือไม่?

คำตอบมี 2 อย่างครับ

มีเสียง...
หรือ
ไม่มีเสียง

บางครั้งเราเลือกที่จะเชื่อเพราะเราไม่รู้ แต่การไม่รู้เพราะไม่เชื่อก็สมควรในบางครั้งนะผมว่า

ถ้าคำตอบคุณมี 3 ข้อใจคุณก็เปิดกว้างพอแล้วล่ะครับ




อี่น่ำเทียน
#13   อี่น่ำเทียน    [ 08-10-2009 - 11:17:34 ]


มันเป็นหลักธรรมขั้นสูงน่ะท่าน

เป็นเรื่องของ อิทัปปัจจยตา หรือ ปฏิจจสมุปบาท

( หัวใจของพุทธศาสนา เลยล่ะ )

การที่ทุกข์เกิดขึ้นเพราะอาศัยปัจจัยต่อเนื่องกันมา มีองค์หรือหัวข้อ 12 ดังนี้

คือ อวิชชา สังขาร วิญญาณ นามรูป สฬายตนะ ผัสสะ เวทนา
ตัณหา อุปทาน ภพ ชาติ ชรามรณะ


เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย สังขารจึงมี
เพราะสังขารเป็นปัจจัย วิญญาณจึงมี
เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย นามรูปจึงมี
เพราะนามรูปเป็นปัจจัย สฬายตนะจึงมี
เพราะสฬายตนะเป็นปัจจัย ผัสสะจึงมี
เพราะผัสสะเป็นปัจจัย เวทนาจึงมี
เพราะเวทนาเป็นปัจจัย ตัณหาจึงมี
เพราะตัณหาเป็นปัจจัย อุปทานจึงมี
เพราะอุปทานเป็นปัจจัย ภพจึงมี
เพราะภพเป็นปัจจัย ชาติจึงมี
เพราะชาติเป็นปัจจัย ชรามรณะจึงมี
ความโศก ความคร่ำครวญ ทุกข์ โทมนัส และความคับแค้นใจ ก็มีพร้อม
ความเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งปวงนี้ จึงมี



คือ ถ้าเข้าใจว่าสิ่งที่เกิดต่อกันเป็นทอดๆนี้ทำให้เกิดทุกข์

มันก็จะเป็นทางนำพาให้เราไปสู่ดวงตาเห็นธรรม ~



หาอ่านต่อได้ที่นี่นะครับ : http://www.sathanimahaprash.com/index.asp?contentID=10000006&bid=887&title=%C3%BA%A1%C7%B9%AA%E8%C7%C2%B5%CD%BA%E0%C3%D7%E8%CD%A7+%BB%AF%D4%A8%A8%CA%C1%D8%BB%BA%D2%B7+%B4%E9%C7%C2%A4%C3%D1%BA+&keyword=






พรตคิ้วขาว
#14   พรตคิ้วขาว    [ 08-10-2009 - 11:39:53 ]

พูดง่ายๆก็คือ
คติ ทุกอย่างมีอยู่ทั้งหมด เพียงแต่ยังไม่รับรู้ไม่พบ จึงว่ามันไม่มี

กับ

คติ สรรพสิ่งมีทั้งที่มีอยู่ และ ไม่มีอยู่เลย

คำถามนี้ คิดแล้วเป้นได้ทั้งสองอย่าง ล้วนแล้วแต่ความคิด ความเห็นของแต่ละบุคคล

หากคิดแบบ รวบยอด (เอาหมดแบบบ่อกี้)

อาจกล่าวได้ว่า สรรพสิ่งมีสองประเภท คือ ประเภท ที่มีอยู่ กับ ประเภทที่ไม่มีอยู่เลย

สรรพสิ่งที่ที่อยู่ก็แบ่งเป็น ที่ได้รู้ กับที่ยังไม่รู้



แม่เฒ่าเทียงซัว
#15   แม่เฒ่าเทียงซัว    [ 08-10-2009 - 13:20:37 ]

ฮ่าๆๆ ข้าเว้นวรรคผิดเอง ถ้าไม่มีสรรพสิ่ง มนุษย์จะรับรู้อะไรได้ เห็นด้วยกับเด็กไร้นาม ฮ่าๆๆ



อี่น่ำเทียน
#16   อี่น่ำเทียน    [ 08-10-2009 - 13:51:50 ]


มันเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ยากน่ะท่าน

เพราะสมองของมนุษย์ถูกจำกัดอยู่กับคำว่า ตรรกะ

เช่น ณ ตอนนี้เราทุกคนถูก แสง จับตรึงไว้ให้รู้สึกว่าเวลามันเดินไปข้างหน้าอย่างเดียว

แต่ถ้าเมื่อใดที่เราสามารถเอาชนะความเร็วของแสงได้

เมื่อนั้นท่านจะหลุดออกจากอำนาจที่ถูกแสงตรึงไว้

แล้วจะรู้ว่า เวลามันไม่มีอยู่จริง

(จะสามารถย้อนเวลาได้ แต่แค่ย้อนไปดูเรื่องราวในอดีตเท่านั้นนะ

ไม่ใช่ไปใช้ชีวิตกันคนในอดีตเหมือนนิยายแฟนตาซี )

ซึ่งในความเป็นจริงทางกายภาพ ไม่สามารถมีใครเอาชนะความเร็วของแสงได้

( เป็นไปไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง )

สิ่งที่จะเอาชนะความเร็วของแสงได้คือ จิต เท่านั้น

และเป็นจิตของคนที่สำเร็จมรรคผล



ที่อธิบายมาทั้งหมด ก็อยากจะเปรียบเทียบให้ฟังว่า

หากจะมองอย่างปัจเจกชนอย่างเราๆท่านๆ ก็จะมองอย่างที่ใจคิดและตาเห็น

ก็จะบอกว่า สรรพสิ่งมันมีอยู่จริง

แต่ถ้าจะมองเหมือนคนที่สำเร็จมรรคผล ท่านเหล่านั้นเขาจะมองต่างจากเราโดยสิ้นเชิง

ซึ่งผู้น้อยก็ไม่รู้ว่าท่านเหล่านั้นมองสรรพสิ่งเป็นเช่นไร

เพราะมันอยู่เหนือจินตนาการที่ผู้น้อยรู้สึกถึงได้ สำหรับคำว่า " นฤพาน "



ปัจฉิมลิขิต : ทุกท่านเชื่อไหมว่า เวลา เกิดขึ้นเพราะ แสง

ถ้าไม่มีแสงก็จะไม่มีเวลา...เป็นเรื่องที่อะเมซิ่งมาก ผู้น้อยใช้เวลาอยู่เป็นปีๆ

กว่าจะ Get idea ของประโยคข้างบนนี้ เพราะมันขัดกับความรู้สึกอย่างแรง

และเมื่อได้สะสมความรู้เรื่อยมาก็ทำให้รู้ว่า มันเป็นความจริง

ลองทำความเข้าใจให้ดีดีนะครับ เพราะมันเป็นสิ่งที่อัศจรรย์ยิ่งนัก








แม่เฒ่าเทียงซัว
#17   แม่เฒ่าเทียงซัว    [ 08-10-2009 - 14:05:36 ]

ข้าไม่เก็ทอ่ะ ฮ่าๆๆๆ จะพยายามเก็ท ตอนนี้ข้าเชื่ออย่างนี้ของข้าไปก่อนก็แล้วกัน ทำไมพวกบรรลุจะต้องคิดให้มากๆลึกๆ ยายไม่เข้าใจ พยามทำตัวให้แปลกๆ เฮ้อออ!!



อี่น่ำเทียน
#18   อี่น่ำเทียน    [ 08-10-2009 - 16:54:04 ]


มันเป็นเรื่องของโลก 4 มิติ เป็นอย่างต่ำน่ะครับ ท่านยาย

ที่เราเห็นและเป็นอยู่ในตอนนี้มันเป็นเรื่องของโลก 3 มิติ ( กว้าง ยาว ลึก )

สำหรับโลก 4 มิตินั้น คือ กว้าง ยาว ลึก และเวลา

ผู้น้อยก็ไม่รู้หรอกว่าใครๆที่อาศัยอยู่ในโลก 4 มิติ สภาพแวดล้อมเขาจะเป็นเช่นไร

รู้แต่ว่า เขาอยู่เหนือกาลเวลา ก็เท่านั้นล่ะครับ

ถ้าใครอยากจะรู้ว่าโลก 4 มิตินั้นเป็นเช่นไร

ก็ให้พยายามบรรลุนิพพานให้ได้ ..... HA ~ HA



จะเปรียบเทียบให้เข้าใจง่ายๆนะครับ

คงเคยเรียน คณิตศาสตร์ ที่มีเรื่องของ 4 เหลี่ยม 3 เหลี่ยม

ที่มีแค่ด้านกว้าง ด้านยาว ราบไปกับพื้น นั่นล่ะครับคือ โลก 2 มิติ

ส่วนโลก 3 มิติ ที่เราอาศัยอยู่นี้จะเป็นลักษณะ กว้าง ยาว ลึก

หากมีใครๆอาศัยอยู่ในโลก 2 มิติจริง เขาเหล่านั้นก็จะมีลักษณะแบนๆ ไม่มีความลึก

เขาจินตนาการว่าโลกของพวกเราอาศัยอยู่นี้ไม่ออกหรอกครับ

ฉันใดและฉันนั้นที่เราจินตนาการโลกของใครๆที่อาศัยอยู่ในโลก 4 มิติไม่ออก


และให้ทราบไว้ว่านี่มันเป็นเรื่องของมิติที่ซ้อนทับกันอยู่

ไม่ใช่มีดวงดาวแยกเป็นดวงๆว่า

ดาวดวงนี้เป็นดาว 2 มิตินะ 3 มิตินะ 4 มิตินะ อะไรอย่างนี้



ปล. ส่วนเรื่องของนิพพานนั้น มันอยู่เหนือโลก 4 มิติขึ้นไปอีกจนสุดหล้าฟ้าไกล ~









เอี้ยวเหยาซือ
#19   เอี้ยวเหยาซือ    [ 08-10-2009 - 19:23:00 ]

สมมุติมันก็เป็นสรรพสิ่งถ้าธรรมชาติ มันไม่มีอย่างอื่นนอกจากมนุษย์ มนุษย์มันก็คงรู้จักได้ว่ามีพวกมัน คือถ้าไม่มีมนุษย์มันอาจจะไม่มีคำถามแบบนี้ คนเราแต่เดิมนอกจากเอาตัวรอดมันคงไม่รู้อะไรจนเจอของแปลกเข้ามันถึงรู้ว่าเป็นยังไง ข้าว่าอย่างนี้นะยายเฒ่า



แม่เฒ่าเทียงซัว
#20   แม่เฒ่าเทียงซัว    [ 08-10-2009 - 19:27:25 ]

อย่างนั้นแรอะ



ตอบกระทู้
ชื่อ
รหัส กรอกตัวอักษร ตามภาพ
ข้อความ


emo-smile emo-happy emo-lol emo-enjoy emo-kiku emo-cool emo-hoho emo-drool emo-hungry emo-kiss emo-sorry emo-sad emo-cry emo-tear emo-question emo-doubt emo-shock emo-redface emo-plz emo-peevish emo-angry emo-moody emo-sneer emo-makefaces emo-good emo-touched emo-love emo-bore emo-tired emo-vomit
bold italic underline img link superscript subscript size color space justifyleft justifycenter justifyright quote box youtube