เป็นไปได้มั้ยครับว่าจริงๆ แล้วต๊กโกวมีเรื่องราวคล้ายๆ ที่จะเล่าต่อไปนี้
ต๊กโกว ศิษย์หัวซานรุ่น 2 - 3 เป็นผู้ที่มีสุขภาพไม่ดีมาแต่เด็ก แต่แม้ไม่เคยสู้กับใคร จิตใจกลับผูกพันธ์ในกระบี่ + พรสวรรค์ที่มีแต่กำเนิด ทำให้บัญญัติและคิดค้นกระบี่ขึ้นตั้งแต่ยังเยาว์ เมื่อย่างเข้าสู่อายุช่วง 30 ด้วยความที่ไม่เคยประลองกับใคร จึงขอท้าประลองกับชาวยุทธ์ผู้มีฝีมือเหนือชั้นท่านหนึ่ง และด้วยความที่ต๊กโกวไม่เคยสู้กับใคร ทำให้คนที่สู้ด้วยประมาท และกระบวนที่ใช้ล้วนร้ายกาจและพิสดาร (เพราะไม่เคยสู้กับใคร) ทำให้ผู้ที่สู้ด้วยบาดเจ็บ ต๊กโกวจึงได้ทำลายกระบี่ที่ตนได้มาจากสหายรัก (กระบี่กุหลายม่วง) โดยโยนกระบี่เล่มนั้นเล่มนั้นทิ้งลงในเหวลึก (อาจจะอยู่ใกล้ๆ กับที่งักเล็กซังทำกระบี่หล่นลงไปเพราะเล่งฮู้ชง)
ด้วยเหตุที่ต๊กโกวรู้สึกผิดหวังจึงไม่คิดสู้กับใครอีก แต่ไม่เคยหยุดคิดค้นวรยุทธ์ และด้วยความที่ต๊กโกวเป็นคนที่มีสหายมากมาย (ต๊กโกวที่แปลว่าเดียวดาย อาจจะมีความหมายที่ต้องใช้รวมกับคำว่าคิ้วป้าย) ทำให้มีความรู้เรื่องกระบี่อย่างลึกซึ้ง และในที่สุด (เมื่ออายุเข้าช่วง 40) ก็ค้นพบเพลงกระบี่ "เก้ากระบี่ต๊กโกว" และด้วยความที่ต๊กโกวเข้าถึงแก่นลึกแห่งวัตถุ (อายุประมาณ 40) ก็สามารถเข้าใจหลักการ "กระบี่ไร้ความจำเป็น ทุกสรรพสิ่งดุจกระบี่" (เนื้องด้วยกระบี่ 4 เล่มที่ตนมีล้วนมีลักษณะที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง ซึ่งเข้ากับลักษณะวัตถุทั้งปวง ไม่ว่าจะเป็นหนัก-เบา อ่อน-แข็ง วิเศษ-ธรรมดา)
แต่ทว่าด้วยความไม่หยุดยั้งที่สิ่งใด กว่าจะรู้ตัวต๊กโกวก็อายุร่วม70 ุึถึงแม้ว่าวิทยายุทธ์ที่ตนมีจะร้ายกาจพิสดารเพียงใด ก็ยังมีร่างกายที่อ่อนแอ+สุขภาพอ่อนแอเป็นอุปสรรคทำให้ไม่มีโอกาสได้สู้หรือผงาดในยุทธจักรได้ แม้อยากสู้ก็ไม่มีใครคิดสู้ด้วย (ชนะคนแก่ไม่น่าภูมิใจ หนำซ้ำอาจโดนสังคมรังเกียจ) ชั่วชีวิตที่เหลือต๊กโกวจึงได้แต่แสวงหาคู่ต่อสู้เพื่อวัดวิทยายุทธ์ที่ตนคิดค้น แต่ก็ไม่อาจสมหวัง เป็นที่น่าเศร้าและเวทนาที่มีวิชาที่ไร้เทียมทานแต่ไม่อาจหาคู่ต่อสู้ได้ ดังนั้นต๊กโกวจึงมีฉายาเต็มๆ ว่า ต๊กโกวคิ้วป้าย
และสุดท้าย เพลงกระบี่ที่คิดค้นจึงต้องถ่ายทอดให้ชนรุ่นหลัง(ฟงชิงหยางเป็นคนสุดท้ายในรุ่นที่ 4 ที่ได้รับ) และฝังกระบี่ที่ตนมีที่หุบเขาที่ตนใช้ชีวิตในช่วงสุดท้าย
ส่วนฉายากระบี่อสูรนั้นเกิดจากการที่เหล่าผู้หวังดี (ลูกหลานของสหาย) ที่กลัวว่าจะมีคนไปรังแกหรือแย่งวิชาและกระบี่ในยามที่ต๊กโกวไม่อาจทำอะไรได้อีก (แม้แต่จะยกตะเกียบ) เพื่อให้เกิดความยำเกรง (และจะได้ไม่ต้องไปปกป้องให้เหนื่อยด้วย)
เท่าที่ผมรู้นะ เอี้ยก้วยได้ฝึกวิชากระบี่เหล็กนินดำ แต่ของฟงซิงหยางนั้นเป็น 9 กระบี่เดียวดายเปนคนละวิชากัน เก้ากระบี่เดียวดายเปนวิชาที่คิดขึ้นก่อนกระบี่เหล็กนินดำ เปนวิชาที่ท่านต๊กโกวคิดก่อนที่ท่านจะหากระบี่เหล็กนิลดำและได้หาวิธีคิดค้นวิชาที่จะไช้คู่กับกระบี่นี้ได้ และถ้าผมจำไม่ผิดนะ มีคนเคยบอกผมว่าท่านต๊กโกวเคยแนะเพลงกระบี่ให้เฮ้งเตงเอี้ยงไปนิดนึงมั้ง ต่อจากนั้นเฮ้งเต็งเอี้ยงเลยมีวิชากระบี่ที่เก่งกาจ ที่ท่านฟงซิงหยางไปฝึก 9 กระบี่มานั้นมันคนละวิชากับเอี้ยก้วยของเอี้ยก้วยเหนือกว่าเพราะเปนการรวมเอา 9 กระบี่เดียวดายที่ไร้ปราณมาไส่พลังปราณมาหาศาลเข้าไปด้วยบวกกับกระบี่วิเศษนะ แต่ประวิติของท่านต๊กโกวผมไม่รู้นะ รู้แต่ว่าท่านต๊กโกวยังมีชีวิตตอนที่ เฮ้งเต็งเอี้ยงหนุ่มๆ มั้ง แต่ในประวัติของเฮ้งเตงเอี้ยงไม่ได้กล่าวไว้ เพราะท่านต๊กโกวไม่ได้บอกชื่อมั้ง ผมคิดว่าสิ่งที่ผมรู้ก้มีแค่นี้แหละ แต่ไม่รู้ว่าถูกเหรอผิดแค่ไหน
ท่านจอมยุทธ์อื่นโปรดชี้แนะด้วย....
ท่านคิดว่าก๊วยเจ๋ง - เอี้ยก้วย - เตียบ่อกี้ ใครเก่งที่สุด โหวตครับ
กิมย้ง | |
|
ประการแรกคือเรื่องการสังกัดสำนัก อาจเป็นไปได้ทั้งสามประการดังนี้ 1.ท่านเป็นจอมยุทธพเนจรไม่สังกัดสำนักใดๆตั้งแต่แรก 2.ท่านอาจจะมีสังกัดสำนักในช่วงเวลาสั้นๆ 3.ท่านอาจเคยมีอาจารย์พเนจรเคยชี้แนะพื้นซานวิชาให้ในอดีต ที่ผมคิดแบบนี้ก้เพราะ การที่ท่านจะมีความสำเร็จในระดับนี้ นอกจากพรสวรรค์แล้วแน่นอนว่าท่านจะต้องมีพื้นฐานที่ดีอย่างยิ่ง จึงอาจเป็นไปได้ในแบบที่1.คือท่านอาจฝึกปรือพื้นฐานจากในตระกูล 2.เคยสังกัดสำนักใดในช่วงสั้นๆและเรียนพื้นฐาน 3.อาจจะเคยเจอยอดคนชี้แนะพื้นฐานให้ท่าน ซึ่งมันเป็นไปได้ทั้งหมดครับ ส่วนตัวผมเอนเอียงไปในแบบที่1.มากกว่า เพราะแนวทางเพลงกระบี่ของท่านนั้น เป็นเอกเทศ เรียกได้ว่าแหวกแนวที่สุด และไม่เคยมีมาก่อนครับ ที่สำคัญหากท่านสังกัดสำนักจริงๆ มันต้องไม่ใช่หัวซานแน่นอนครับ เพราะหัวซานก่อตั้งในยุคปลายราชวงศ์น่ำซ้องหรือต้นราชวงศ์ง้วน ไม่มีทางที่จะเป็นไปได้เด็ดขาดครับ ประการที่สอง เรื่องสุขภาพ ผมกลับมองว่าท่านเป็นคนสุขภาพแข็งแรงมากครับ ด้วยเหตุผลหลายๆอย่าง เช่น การใช้กระบี่เหล็กนิลกาฬที่คนทั่วไปถือแทบจะไม่ได้ (64 ชั่ง) การฝึกยุทธกลางทะเลที่คลุ้มคลั่ง และน้ำตกที่เชี่ยวกราดสุดจินตนาการซึ่งแม้แต่เอี้ยก้วยที่ว่าแข็งแรงก็ยังยืนไม่มั่นคง การตระเวนหาคู่ต่อสู้ไปทั่วยุทธภพ และการฝึกเพลงกระบี่จนมีความสามารถระดับที่ท่องยุทธภพได้ก่อนอายุยี่สิบ บุกบั่นสร้างชื่อ สังหารศัตรูคู่แค้น พิชิตทั่วแผ่นดินโดยไร้ผู้ต่อต้าน มันเป้นเหตุผลที่จะยืนยันได้ดีครับ ว่าท่านมีสุขภาพเเข็งแรงตั้งแต่เด็กๆแล้วครับ และก่อนจะเร้นกายนั้น ท่านยังฝึกปรือถึงขั้นที่ "กระบี่เหล็กไม่จำเป็นอีกต่อไป ต้นไม้ใบหญ้าก้ใช้ให้เกิดอานุภาพเฉกเข่นเดียวกัน เมื่อกายเป็นกระบี่ ไร้กระบี่จึงเหนือกว่ามีกระบี่" สำเร็จนั่นก้คงเป็นช่วงที่ท่านมีอายุ 40-50 ปีแล้วครับจึงมาพบกับอินทรีเทพยดาโดยบังเอิญ ประการที่สาม กระบี่กุหลาบม่วง ในสุสานกระบี่ไม่ได้กล่าวไว้นะครับว่าได้มายังไง แต่กล่าวไว้ว่าพลั้งมือทำร้ายผู้กล้าหาญฝ่ายธรรมะ(ซึ่งจากบทวิเคราะห์ในพันทิพ คนผู้นั้นคืออึ้งเซี้ยง) จึงทิ้งกระบี่ลงในเหวลึกครับ ประการที่สี่ ชื่อของท่านต๊กโกวคิ้วป่าย (โดดเดี่ยวเดียวดายแสวงหาความพ่ายแพ้)ผมคิดว่าไม่มีใครมีชื่อนี้ตั้งแต่เด็กหรอกครับ น่าจะเป็นการขนานนามให้กับตนเองหลังจากที่ไม่สามารถแสวงหาคู่ต่อสู้ให้แก่ตัวเอง หรือเหล่าชาวยุทธยกย่องให้ท่านเป็นเช่นนั้นมากกว่าครับ ประการที่ห้า ฉายาอสูรกระบี่ เกี่ยมม้อแปลว่าอสูรกระบี่นะครับ ไม่ใช่กระบี่อสูร แปลจากหลังมาหน้าครับ ส่วนที่มาน่าจะมาจากการที่เหล่าชาวยุทธขนานนามให้เพราะแนวทางวิชากระบี่ของท่านมากกว่าครับ กล่าวคือในยุทธภพหากมีใครใช้หลักวิชาอันพิศดาร เป็นที่ครั่นคร้ามแก่ผู้พบเห็น และทรงอานุภาพร้ายกาจ มักถูกเรียกเป็นวิชามารครับ สังเกตในมังกรหยกก้ได้ครับ ตอนที่เอี้ยก้วยฝึกเพลงกระบี่เดียวดายสำเร็จแล้วไปอาละวาดที่ช้วงจิงก่า ก่อนหน้านั้นก๊วยพู้ก้ยังบอกเลยครับ ว่าเอี้ยก้วยไปฝึกวิชามารอะไรมา ถึงได้มีพลังฝีมือระดับนี้?ได้ หรืออีกประการที่อาจจะเป็นไปได้ก้คือการที่ท่านมีความสามารถในเชิงกระบี่สูงสุดยอดเกินขีดจำกัดของมนุษยชาติแล้ว จึงถูกขนานนามว่าเป็นอสูรกระบี่ครับ ในทำนองเดียวกันกับเทพกระบี่นั่นเองครับ ประการที่หก หลักวิชาเพลงกระบี่เดียวดาย หาอ่านได้ในพันทิพนะครับ สั้นๆละกันนะครับ ถ้าอิงตามบทวิเคราะห์แล้ว คนที่สำเร็จวิชานี้มีแต่เอี้ยก้วยคนเดียวครับ พูดง่ายๆว่าเอี้ยก้าวถึงเคล็ดวิชาที่เก้าแล้ว ขณะที่ชนรุ่นหลังไม่มีใครฝึกได้ เพราะการฝึกของเอี้ยก้วยเป็นไปในลักษณะของท่านอาวุโสต๊กโกวมากที่สุดครับ ส่วนตรงช่วงสุดท้ายนี่ ผมสงสัยจังครับว่าเอามาจากไหนครับ ช่วงที่เกี่ยวกับเฮ้งเต็งเอี๊ยง ผมคิดว่าตรงนี้เจ้าของบทความน่าจะคิดขึ้นเองรึเปล่าครับ เพราะทั้งคู่อยู่คนละยุคสมัยกัน จะเจอกันได้ยังไงครับ ? |
กิมย้ง | |
|
ถ้าใครมีความรู้มากกว่านี้โปรดชี้แนะด้วยคับ |
กิมย้ง | |
|
เอี้ยก้วยเพิ่งมีโอกาสได้บอกกับทุกคนถึงเรื่องการตายของสองอาวุโส อั้งชิดกงที่ทุกคนตามหา พร้อมกับ อ้าวเอี้ยงฮงพ่อบุญธรรมของเขา จึงมีการตั้งยอดฝีมือทั้งสี่ทิศรุ่นใหม่ขึ้นมา ซึ่งก็คือก๊วยเจ๋ง แทนที่ยาจกอุดร อั้งชิดกง และเอี้ยก้วยแทนพิษประจิมอ้าวเอี้ยงฮง ส่วนอึ้งเอี๊ยะซือยังคงเป็นภูตบูรพาและ อิดเต็งไต้ซือเป็น ราชันทักษิณ |
กิมย้ง | |
|
สุสานกระบี่ อักษรจารึกคำว่า [ชีวิตนี้แสวงหาความพ่ายแพ้แต่กลับมิอาจได้รับ] สะท้อนแสงหนาวเย็นระยับยิบ รังสี หยิ่งทระนงหนาหนัก แม้หลังจากต๊กโกวคิ้วป่ายลาโลกนี้ไปหลายปีแล้ว ยังคงเป็นที่หวาดหวั่นแก่ผู้คน คิดถึงครั้งกระนั้น ต๊กโกว คิ้วป่ายอาศัยวิชา <เก้ากระบี่ต๊กโกว> ท่องทั่วยุทธจักร ชั่วชีวิตไร้ผู้ต่อต้าน ภายใต้ประกายกระบี่เงาดาบอันพร่าง พราย และ ภายใต้ [ไร้กระบวนท่าเหนือมีกระบวนท่า] ล้วนต้องพ่ายแพ้ในที่สุด......นี่คือความสุดยอดเลิศล้ำของ <เก้า กระบี่ต๊กโกว> และนี่ก็คือความลับที่ทำไม เหล่งหูชงยามเจ็บช้ำก็ยังสามารถแปรร้ายกลายเป็นดีรอดผ่านมาได้ ดังนั้น ความเลิศล้ำแห่ง กระบวนท่ากระบี่จากการฝึกฝนหนักนานปีทั้งหมดของ <เก้ากระบี่ต๊กโกวเคล็ดพิสดาร> แม้ผู้คนทั่วไป มีโชคอันดีเยี่ยมก็ยัง ยากได้มา....... |
กกก | |
|
เตียบ่อกี้ ถ้ามันจิตใจที่เข้มแข็งกว่านี้ มันเทพสุดขอรับ แบบว่ามันไม่ซาดิสพอแบบเฮีย เซียวฟง แต่นี่มันยังอ่อนต่อโลกจิตใจบอบบาง อาจจะเป็นเพราะคนเขียนบทกลัวมันจะเทพเกินไปเลยหาจุดอ่อนมาใส่ |
ปีศาจสีแดง | |
|
ก๋วยเจ๋ง - เฉียบคม หนักแน่น รุนแรง มีความานะอดทน โดดเด่นตามแบบฉบับของวิชาที่เรียนมา ทั้ง เก้าอิ๋มฉบับสมบูรณ์,18 ฝ่ามือพิชิตมังกร,สองฝ่ามือขัดแย้ง และกำลังภายในสุดยอดแบบช่วนจินก๊า จะเสียก็ตรง ความทื่อที่มีมากเกินไปนี่แหล่ะ....ประมาณว่าหัวช้าไม่ทันคนประมาณนั้น เอี๊ยก๊วย - ฉลาด(คงได้พ่อมันมา) ไหวพริบดี หนักหน่วง รุนแรง รวดเร็ว แม่นยำ มีจิตใจเด็ดเดี่ยว พลังวัตรขนาดที่เห่าออกมาปลิวเป็นสิบอ่ะ หลากหลายในพื้นฐานวิชา ทั้งเพลงกระบี่ของ ต๊กโค้ว+ลมปราณจากพี่อินทรีย์ กระบวนท่าไม้เท้าตีสุนัจ เก้าอิ้มบางส่วน วิชาสุสานโบราณ วิชาคางคก วิชานิ้วดีดๆ(จากอึ๊งเอี้ยซืออีกเล็กน้อย) วิชาฝ่ามือกำสลดคิดถึงเมีย ที่เทพสุดๆอีก ... หนทางจะชนะเอี้ยก๊วยได้ คงมีแต่จับเมียเฮียเป็นตัวประกันเท่านั้นแหล่ะ เตียบ่อกี้ - นุ่มนวล อ่อนไหวง่าย ซื่อ แต่หัวดี เรียนรู้เร็ว กำลังภายในและลมปราณที่ล้ำลึก ถ้าจะพูดถึงวิชาและลมปราณคงไม่เป็นรอง ก๊วยเจ๋ง กับ เอี้ยก๊วย มากนัก ทั้ง วิชาเก้าเอี๊ยที่รักษาตัวเองได้รวดเร็ว วิชาเคลื่อนย้ายจักรวาล วิชาหมัดไทเก๊ก และมีครูดีอย่าง เตียซำฮง ... ถ้าจะเสียก็ที่รู้ๆกันแหล่ะ เพราะเรื่องจิตใจ นิสัยใจคอที่อ่อนไหว อ่อนแอ ไม่เด็ดขาด ไม่มีความหนักแน่นนี่อ่ะแหล่ะ เก่งเปล่าแต่แทบไม่เคยฆ่าคนเลยมั้ง ก๋วยเจ๋งที่ว่าโง่ๆ ยังโง่ไม่เท่าพี่เตี๋ยเลยคับผมว่า สรุปคือ ถ้าจะให้วัดฝีมือคงสูสีกัน แต่ในความคิดผม น่าจะวัดกันที่สภาพจิตใจนี่แหล่ะ ทั้งมันสมองไหวพริบ ฝีมือ ความเฉลี่ยวฉลาด ความเด๊ดขาด เด็ดเดี่ยว ผมให้ เอี่ยก๊วย นะ .. พระเอกเจอพระเอกแล้วแต่ใครรักใครอ่ะเนาะ .... |
Kobkiat Duangmanee | |
|
1.เอี้ยก๊วย 2.ก๊วยเจ๋ง 3.เตียบ่อกี้ |
0897878172 | |
|
ดูแร้วก็พูดยากนะครับ เตี้ยบ่อกี้เก่ง2วิชาระดับสูงแต่ไม่ัอำมหิทไม่ดูน่ากลัว แต่เตี่ยบ่อกี้มีความสามารถในการเรียนรู้วิชาคนอื่นได้เร็วและเลียนแบบได้แทบทุกคนมีสิทธิเปนที่1ในสามพระเอกนี้ได้นะครับ และเปนคนขี้เกรงใจคนชอบอ้อมมือให้ศัตรูเลยไม่เห็นพลังสูงสุดของเขาส่วนเอี้ยก้วยสำเร็จวิชาขั้นไร้กระบี่ทุกสิ่งคือกระบี่หมายถึงพลังจิตชั้นสูงสูงแร้วแม้มีแขนเดียวก็หาผู้เทียบเทียมได้ยาก ก๋วยเจ๋งก็มียอดวิชา18ฝ่ามือพิชิตมังกร..............ถ้าจะเดามันอยู่ที่ว่าแรงจูงใจจะให้สู้คืออะไรมันถึงจะแสดงพลังที่แท้จริงออกมาทั้งสามคนนี้คุณธรรมสูงทั้งสามคนยากนักที่จะแสดงว่าพลังที่แท้จริงออกมาให้คนเห็นเพราะทั้งสามก็ขี้สงสารขี้เกรงใจหมดเลย ไม่รู้ว่าใครเก่งกว่ากันถ้าเทียบวิชากันผมว่าเตี่ยบ่อกี้ชนะนะครับ |
ใต้เท้าอุ้ย | |
|
สามคนนี้มาเจอซวงเอ๋อของข้า เดี่ยวก็โดนใข้โป้งเข้าให้ |
๏TorSmith๛มังกรหยก๛ | |
|
ตามสายตาของข้าน้อย... 1.เอี้ยก้วย 2.ก๊วยเจ๋ง 3.เตียบ่อกี้ |
JumBoMarshaL | |
|
เอี้ยก้วยตอนเมียหายครับ ไร้เทียมทาน ใครก็เอาไม่ลง เพราะแกรับรองว่าไม่ยอมตายจนกว่าจะเจอเมียแน่นอน |
เจี๊ยบ | |
|
เอี้ยก้วยนะ ช่วยก๊วยเจ๋ง ก๊วยเซียนได้ ได้พลังจาก2อาจารย์ คนที่สอนเอี้ยก้วยล้วนเป็นหนึ่ง เรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง ก๊วยเจ๋ง เรียนเยอะแต่ดูยังงัยก้อไม่เก่ง อาจเพราะมีอึ้งย้งช่วยมั้ง |