เคล็ดวิชาสุรางคนางค์ ( วิชาหฤทัยสาวหยก , วิชาดรุณี )
เง็กนึ่งซิมเก็ง หรือ เคล็ดวิชาสุรางคนางค์นั้นบัญญัตขึ้นโดยลิ้มเฉียวเอ็ง นางชนะเดิมพันครอบครองสุสานโบราณด้วยปัญญา หากวิจารณ์พลังฝีมือ นับว่ายังสู้เฮ้งเต้งเอี้ยงไม่ได้ หลังจากที่นางพักอาศัยอยู่ในสุสารโบราณ ก็ศึกษาเคล็ดวิชาที่เฮ้งเต้งเอี้ยงตกทอดทิ้งไว้ก่อน จากนั้นใช้สมองครุ่นคิด ค้นคว้าบัญญัติวิชาฝีมือที่ใช้สะกดข่มวิชาของเฮ้งเต้งเอี้ยง
เพลงกระบี่สุรางคนางค์เป็นดาวข่มของเพลงกระบี่ชวนจินก่าอย่างแท้จริง ทุกกระบวนท่าพอดีสะกดข่มเพลงกระบี่ชวนจินก่า จนไม่อาจขยับเคลื่อนย้ายได้ นับว่าจอคุกคามอยู่ทุกย่างก้าว ชิงสยบทุกท่วงท่า ไม่ว่าเพลงกระบี่ชวนจินก่าจะพลิกแพลงเปลี่ยนแปรงอย่างไร ไม่อาจสลัดหลุดจากการครอบคลุมของเพลงกระบี่สุรางคนางค์ได้
ในส่วนของวิชากำลังภายในนั้น ลิ้มเฉียวเอ็งคิดหาวิธีสยบ กลับไม่ง่ายดายนัก แต่ด้วยสติปัญญาอันชาญฉลาด ได้ค้นพบแนวทางลัด ใช้วิชาทางอธรรมช่วงชิงเป็นฝ่ายมีเปรียบ
การฝึกเคล็ดกำลังภายขอ เคล็ดวิชาสุรางคนางค์นั้น ต้องฝึกด้วยกันสองคน จึงเกื้อหนุนกันและกัน วิชากำลังภายในนี้มีอุปสรรคทุกฝีก้าว อาจโคจรพลังผิดแนวทางได้ทุกเมื่อ หากปราศจากผู้อื่นคอยช่วยเหลือ ต้องถูกธาตุไฟเข้าแทรกแน่นอน ต้องผนึกกำลังกันสองคนค่อยผ่านด่านอันตรายได้ เมื่อครั้งนั้นลิ้มเฉียวเอ็งฝึกร้วมกับสาวใช้ หลังจากสำเร็จได้ไม่นานก็ลาโลกไป ส่วนสาวใช้ ซึ่งเป็นอาจารณ์ของเซียวเหล่งนึ่งนั้นยังฝึกไม่สำเร็จ
นอกจากต้องฝึกพร้อมกันสองคนแล้ว ขณะที่ฝึกลมปราณ ตลอดทั้งร้ายปรากฎไอร้อนระเหยออก ต้องเลือกพื้นที่วงกว้างไร้ผู้คน สยายเสื้อผ้าทั้งร้างออกฝึกปรือเพื่อขับเคลื่อนความร้อนออกไป โดยไม่เกิดการสะดุดติดขัด ไม่เช่นนั้นจะย้อนกลับมาสะสมอยู่ภายในกาย หากเป็นสถานเบาต้องป่วยหนัก สถานหนักต้องเสียชีวิต
เคล็ดวิชาสุรางคนางค์แบ่งลำดับขั้นตอนในการฝึกปรือเป็นเก้าขั้น หากฝึกในแนวเดียวเรียกว่าอิมจิ่ง ( เย็นรุกหน้า ) ฝึกปรือสองแนวเรียกว่าเอี้ยงถ่อ ( ร้อนถดถอย ) เมื่อฝึกในแนวทางร้อนถดถอย สามารถยุดยั้งยุติได้ทุกเมื่อ แต่ถ้าฝึกในแนวทางเย็นรุกหน้า ต้องดำเนินติดต่อตามกัน ไม่อาจมีอุปสรรคขัดข้องแต่กลางคัน
เพลงกระบี่สุรางคนางค์ใจพิสุทธิ์
ในบทสุดท้ายของเคล็ดวิชาสุรางคนางค์นั้นต่างออกไปจากบทอื่นๆ เมื่อครั้งกระโน้นปรมจารย์ลิ้มเฉียวเอ็ง อาศัยอยู่ในสุสานโบราณเพียงลำพัง จัดทำคัมภีร์สุรางคนางค์ขึ้น มาตรแม้นเพื่อสะกดข่มวิชาฝีมือของสำนักชวนจินก่า แต่ในใจยังรักผูกพันต่อเฮ้งเต้งเอี้ยงไม่คลาย เมื่อมีรักเต็มอก เปรี่ยมความครุ่นคิดคะนึงหา ล้วนถ่ายทอดไว้ในคัมภีร์บทสุดท้ายนี้ โดยสร้างมโนภาพว่าสักวันหนึ่งสามารถเคียงบ่าเคียงไหล่กับชายคนรัก กระบี่คู่ที่กรีดกรายเป็นภาพ แท้จริงเพื่อการผนึกกำลังสยบสัตรูจึงเป็นจุดมุ่งหมายสำคัญ ดังนั้นวิชาการต่อสู้ในบทสุดท้าย คนหนึ่งใช้ฝีมือในคัมภีร์สุรางคนางค์ คนหนึ่งใช้วิชาสำนักช้วนจิน ประสานเสริมซึ่งกันและกันแยกย้ายรุกจู่โจม แต่ในจารึกบนผนังศิลาไม่สะดวกกับการบ่งบอกความในใจข้อนี้
ครั้งกระนู้ลิ้มเฉียวเอ็งบัญญัติเพลงกระบี่ชุดนี้เพราะใฝ่ฝันว่าจะได้เคียงข้างกับเฮ้งเต้งเอี้ยงต่อต้านศัตรู ทุกกระบวนท่าล้วนผสานเสริมเกื้อกูลกัน ซึ่งความจริง ลิ้มเฉียวเอ็ง กับเฮ้งเต้งเอี้ยงล้วนเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่ง เพียงลำพังคนเดียวก็ไม่มีใครต้านติด วิชาผนึกกำลังต้านศัตรูนี้ แท้จริงไม่มีประโยชน์อันใดเพียงเป็นความฝันใฝ่ของลิ้มเฉียวเอ็ง เพื่อปลอบประโลมใจเท่านั้น
ต่อมาเอี้ยก้วยกับเซียวเหล่งนึ่ง ได้ทำให้วิชานี้เกิดขึ้นจริงมิใช่เป็นเพียงมโนภาพ โดยครั้งแรกที่ใช้ก็ใช้ต่อกรกับยอดฝีมืออย่างราชครูกิมลุ้น ถึงกับทำให้ราชครูกิมลุ้นต้องล่าถอยหนีไป ในตอนต่อสู้กับกิมลุ้นมีบทบรรยายลักษณะของวิชานี้ ดังนี้
กระบวนท่าทั้งสองมีชื่ตรงกัน ท่าเพลงกลับผิดแผกแตกต่าง หนึ่งเป็นท่ากระบี่อันยอดเยี่ยมร้ายกาจของเพลงกระบี่ชวนจินก่า หนึ่งเป็นแนวทางอันหวาดเสียวของเพลงกระบี่สุรางคนางค์ กระบี่คู่ผนึกรวม เปล่งอนุภาพน่าตระหนก ในบัดดลสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของเพลงกระบี่ทุกกระบวนท่าของเพลงกระบี่ชุดนี้ ล้วนแฝงเหตุการณ์อันวาบหวามเรื่องหนึ่ง เช่นท่า ลูบไล้พิณเป่าขลุ่ย กวาดหิมะต้มน้ำชา เล่นหมากรุกใต้ต้นสน หยอกกระเรียนริมสระน้ำ ล้วนประกอบด้วยบรุษสตรีคลอเคลียอยู่คู่กัน ชวนให้เคลิบเคลิ้มดื่มด่ำ
เล่ม 2 หน้า 213
ลิ้มเฉียวเอ็งพลาดหวังในสนามรัก อยู่ในสุสานโบราณ ตรมตรอมจนตัวตาย นางปราดเปรื่องทั้งบุ๋นบู๊ เรียนรู้พิณหมากล้อมตัวหนังสือภาพวาดสุดท้ายทุ่มเทวิชาความรู้ชั่วชีวิตยู่ในพลังฝีมือชุดนี้ ขณะที่บัญญัติขึ้น เพียงเพื่อปลอบประโลมใจคลายเหงา มิคาดอีกหลายสิบปีให้หลัง กลับปรากฎคนรักคู่หนึ่งใช้ต่อต้านศัตรู่เข้มแข็ง นับว่าสุดที่นางจะคาดคิดมาก่อน
อย่างไร วิชาเพลงกระบี่สุรางคนางค์ใจพิสุทธิ์ ยังมีข้อจำกัดอยู่บ้าง ทั้งคู่จะต้องเป็นคู่รักกัน หากมิใช่เพลงกระบี่ก็จะเปร่งอนุภาพได้จำกัด ดังความอธิบายตอนนี้
หากแม้นบุรุษสตรีที่ใช้เพลงกระบี่ชุดนี้ หากมิใช่คู่รักอย่างนั้นมีเคล็ดความพิศดารมากหลายที่ไม่อาจรับรู้ได้ ระหว่างกันและกันไม่สามารถถ่ายทอดกระแสจิตถึงกัน หากผู้ที่ผนึกกระบี่เป็นสหาย จะเกรงอกเกรงใจเกินไป หากเป็นผู้อาวุโสกับผู้เยาว์ออกจะดูแลพึ่งพาเกินไป หากแม้นสามีภรรยาใช้ออกพร้อมกัน พิศดารนั้นพิศดารอยู่ แต่จะขาดซึ่งอารมณ์รักอันซาบซึ้ง ขวยเขินเอียงอายคล้ายใกล้คล้ายห่าง ห่วงหน้าพะวงหลังอยู่บ้าง
ใครต้องการเคล็ดสุรางคนางค์ใจพิสุทธิ์
|
สยบทั่วเเผ่นดิน |
#3 สยบทั่วเเผ่นดิน [ 26-02-2008 - 16:41:32 ] |
|
น่าจะไปรวมไว้ใน ชุมนุมสนทนากำลังภายในนะ ขอรับ...... |
สยบทั่วเเผ่นดิน |
#5 สยบทั่วเเผ่นดิน [ 26-02-2008 - 16:44:13 ] |
|
แต่จะว่าไปข้อมูลนี้.....มีอยู่ในทางเข้าสู่ยุทธภพ ท่านจ้าวยุทธภพเขียนไว้ นี่ขอรับ........ ![]() |
สยบทั่วเเผ่นดิน |
#7 สยบทั่วเเผ่นดิน [ 26-02-2008 - 16:45:19 ] |
|
หมายความว่าเคล็ดวิชานี ไม่อาจใช้อย่างลำพังได้....... |
สยบทั่วเเผ่นดิน |
#8 สยบทั่วเเผ่นดิน [ 26-02-2008 - 16:46:29 ] |
|
ข้าน้อย คารวะ ท่านfilm ![]() ว่าแต่ ทำไมท่านทำไม่ได้ ล่ะขอรับ....... |
film |
#9 film [ 26-02-2008 - 16:46:58 ] |
|
ท่านสยบทั่วแผ่นดินท่านมีนามว่าอย่างไรหรึ ข้าขอบังอาจถามท่านแบบหน้าด้านๆๆ หวังว่าท่านคงจะไม่ถือสาคนอย่างข้า |
สยบทั่วเเผ่นดิน |
#10 สยบทั่วเเผ่นดิน [ 26-02-2008 - 16:49:16 ] |
|
.........ก็นะ กุยไห่ อี่เตา น่ะท่าน... |
film |
#11 film [ 26-02-2008 - 16:49:32 ] |
|
เคล็ดวิชานี้ต้องฝึกด้วยกัน 2 คน แต่ที่สำคัญต้องเปลือยกายฝึกมิฉะนั้นธาตุไฟจะเข้าแซก |
สยบทั่วเเผ่นดิน |
#13 สยบทั่วเเผ่นดิน [ 26-02-2008 - 16:52:37 ] |
|
เน้นคือ ต้องคอยช่วยเหลือกัน ว่าแต่หากไปปะมือ กับวิชาปราน เช่นพลังคางคก ดัชนีสุริยัน พอจะรับมือได้หรือไม่ก็คิดคำนวนยาก นะขอรับ..... |
film |
#14 film [ 26-02-2008 - 16:53:06 ] |
|
ท่านกุยไห่ อี่เตา ท่านเจ็บมั๊ยขอรับที่ท่านต้องตัดแขนขวาตัวเอง |
สยบทั่วเเผ่นดิน |
#15 สยบทั่วเเผ่นดิน [ 26-02-2008 - 16:53:23 ] |
|
อ้อ อย่างนั้นเอง....... |
สยบทั่วเเผ่นดิน |
#16 สยบทั่วเเผ่นดิน [ 26-02-2008 - 16:54:50 ] |
|
เจ็บสิขอรับท่าน :..... ต่อสู้เวลาถูกรุมล้อมก็ลำบาก กลายเป็นเดชไอ้ด้วนไป ดีว่าข้าได้ฝึกวิชาดาบ แขนเดียว..... |
สยบทั่วเเผ่นดิน |
#18 สยบทั่วเเผ่นดิน [ 27-02-2008 - 00:32:27 ] |
|
พ่อบุญธรรม ข้าอในยู่พรรคกระยาจก น่ะขอรับ |
|