
อยากทราบเนื้อเรื่องกระบี่เย้ยยุทธจักร
|
เอี้ยจังเลย |
#1 เอี้ยจังเลย [ 01-07-2007 - 07:59:18 ] |
|
คือแค่รู้ว่าเล่งหู้ชงใช้วิชากระบี่ต๊กโกเองอะใครรู้บอกทีเด้อ ![]() |
ป๊อป | |
![]() |
ในเมื่อ สนใจเรื่องนี้ก้ไปหาเช่ามาเสพดิ 1.การ์ตูน ราคาเช่า 10% จากราคาปกที่ผมเคยเช่ามาคือ4บาทมี26เล่มจบ 2.นวนิยาย ที่ผมเคยเช่ามาคือราคาวันละ8บาทส่วนถ้าคุณอ่านจบแล้วใช้เวลากี่วันขึ้นอยู่กับคุณนะมี4เล่มจบ 3.หนังจีนชุดที่ผมเช่ามาคือแผ่นละ10บาทภาคที่ หลี่หย่าเผิงแสดงง่ะผู้กำกับคนเดียวกับมังกรหยก1-2แต่เค้าจะใช้ชื่อว่า เดชคัมภีร์เทวดานะ ผมว่าน่าจะเข้าใจมากกว่านะ ป.ล ส่วนเดชคัมภีร์เทวดาในภาพยนตร์เนื้อเรื่องผิดจากในนวนิยายกระจุยกระจายถ้าดูแค่เอามันส์ไม่เป็นไรเพราะมันมากแต่ถ้าจะยึดติดเป็นเนื้อเรื่องแท้ๆอันนี้ไม่แนะนำ |
จอมยุทธ์มังกรน้อย |
#3 จอมยุทธ์มังกรน้อย [ 03-07-2007 - 12:30:20 ] |
|
เรื่องย่อครับ เปิดเรื่องด้วยฉากการเข่นฆ่าล้างตระกูลลิ้ม เนื่องจากรุ่นปู่ของตระกูลนี้ ซึ่งเป็นขันทีในราชสำนักได้บัญญัติเพลงมวยชุดหนึ่งชื่อ คัมภีร์พิชิตมาร อันถือว่าเป็นสุดยอดวิชาของยุทธจักร อย่างไรก็ตาม รุ่นปู่คนนี้กลับห้ามมิให้ลูกหลานของตระกูลฝึกฝนยอดวิชาดังกล่าว โดยได้เขียนเตือนไว้ว่า ทายาทที่ฝึกฝนวิชานี้จะไม่มีลูกหลานสืบทอด ลิ้มเพ้งจือซึ่งเป็นรุ่นหลานของตระกูลลิ้มพลั้งมือฆ่าลูกของเจ้าสำนักแชเชี้ย จึงเป็นเหตุให้สำนักแชเชี้ยอ้างเป็นเหตุผลในการฆ่าล้างตระกูลลิ้ม เพื่อกลบเกลื่อนความต้องการที่จะช่วงชิงคัมภีร์พิชิตมาร ลิ้มเพ้งจือหนีไปได้ ขณะที่คนในครอบครัวตายหมด งักปุกคุ้งซึ่งเป็นเจ้าสำนักฮั้วซัวได้ยื่นมือเข้ามาช่วย และรับเป็นศิษย์ในลำดับสุดท้ายของสำนัก งักปุกคุ้ง ซึ่งมีชื่อเสียงในยุทธจักรว่าเป็นวิญญูชนผู้เที่ยงธรรม เขาฝึกวิชาของสำนักฮั้วซัวโดยเน้นที่การฝึกลมปราณมากกว่าท่าทางกระบี่ มีภรรยาเป็นศิษย์ร่วมรุ่นร่วมสำนักซึ่งเป็นที่รับรู้กันว่ามีพลังลมปราณน้อยกว่า ทว่ากลับมีฝีมือในเชิงเพลงกระบี่มากกว่าสามี โดยในอดีตที่ผ่านมา สำนักฮั้วซัวมี 2 ฝ่ายคือ ฝ่ายเน้นฝึกกระบี่ กับฝ่ายเน้นฝึกปราณ ฝ่ายฝึกกระบี่จะสำเร็จเพลงกระบี่ได้รวดเร็ว แต่จะขาดพื้นฐานด้านกำลัง ขณะที่ฝ่ายปราณจะเน้นกำลังภายในมาก่อนเพลงกระบี่ ครั้นเมื่อเกิดการช่วงชิงกันการนำภายในสำนัก ฝ่ายปราณจึงเป็นฝ่ายชนะ และสืบทอดตำแหน่งเจ้าสำนักในสายปราณนี้กันมาตลอด ภาพความเป็นวิญญูชนของงักปุกคุ้ง ประกอบกับชะตากรรมของครอบครัวลิ้มเอง ทำให้การรับลิ้มเพ้งจือเป็นศิษย์ลำดับสุดท้ายเพื่อฝึกฝีมือไปล้างแค้นนี้ได้รับความชอบธรรมเป็นอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม การกระทำดังกล่าวเป็นเพียงหน้าฉากเท่านั้น แท้จริงแล้ว งักปุกคุ้งก็หมายตาคัมภีร์พิชิตมาร ไว้ด้วยโดยได้ลอบส่งศิษย์ลำดับที่สอง และบุตรีของตัวเองซึ่งเป็นศิษย์ลำดับที่เจ็ด ปลอมตัวไปสอดแนมที่บริเวณใกล้เคียงกับที่ตั้งของตระกูลลิ้มมาได้ระยะเวลาหนึ่งแล้ว ตัวเอกของเรื่องคือเหล็งฮู้ชงซึ่งเป็นศิษย์ลำดับแรกของสำนักฮั้วซัว มีบุคลิกที่ต่างออกไปจากเจ้าสำนัก กล่าวคือ ขณะที่งักปุกคุ้งมีภาพของนักศึกษาปัญญาชน ดำเนินชีวิตด้วยความเคร่งครัดต่อค่านิยมหรือธรรมเนียมของชาวยุทธจักร แต่เหล็งฮู้ชงกลับมีภาพของหนุ่มเสเพล ดำเนินชีวิตโดยอิสระ ไม่ยึดติดกับค่านิยมต่างๆ ความที่เป็นเสรีชนของเหล็งฮู้ชงทำให้เขาต้องถูกทำโทษโดยเจ้าสำนักอยู่เนืองๆ แม้ว่าการกระทำบางอย่างเกิดขึ้นด้วยมโนธรรมส่วนตัวก็ตาม ครั้งหนึ่งเขาถูกลงโทษให้สำนึกตน ณ ผาสำนึกผิดของสำนัก เหล็งฮู้ชงได้พบกับถ้ำแห่งหนึ่งซึ่งภายในมีภาพสลักวิทยายุทธ์ที่สามารถทำลายวิทยายุทธ์ของห้าสำนักขุนเขา ซึ่งเขาทราบภายหลังว่าเป็นฝีมือของจอมยุทธ์ฝ่ายมารที่ถูกลวงหลอกให้ติดกับอยู่ในถ้ำ โดยกลุ่มยอดฝีมือฝ่ายธรรมะห้าสำนักกระบี่ หลังจากที่ไม่สามารถเอาชนะฝ่ายมารด้วยฝีมือได้ คราแรก เหล็งฮู้ชงปฏิเสธที่จะศึกษาแนวทางวิทยายุทธ์ดังกล่าว เนื่องด้วยเห็นว่าเป็นแนวทางของฝ่ายมาร ซึ่งธรรมเนียมของยุทธจักรนั้น แนวทางทั้ง 2 ฝ่ายไม่สามารถอยู่ร่วมโลกเดียวกันได้ ต่อมาเมื่อเขาพบกับ ฮวงเช็งเอี๊ยง ยอดฝีมือฝ่ายกระบี่ที่เหลืออยู่ของสำนัก ฮวงเช็งเอี๊ยง ได้ถ่ายทอดเพลงกระบี่ “เก้ากระบี่เดียวดาย” อันเป็นเคล็ดวิชาที่เริ่มต้นด้วยการให้ลืมธรรมเนียมและท่วงท่าต่างๆ ของการฝึกกระบี่ที่ผ่านมาให้หมด ซึ่งขัดกับธรรมเนียมของการฝึกกระบี่ที่เน้นการวางท่าทางก่อน เมื่อเก้ากระบี่เดียวดายไม่มีท่ากระบี่ ดังนั้นเคล็ดวิชานี้คือเน้นที่การหาจุดอ่อนของเพลงกระบี่คู่ต่อสู้ ก่อนการตีโต้กลับออกไป การฝึกกระบี่ดังกล่าวเข้ากับอุปนิสัยของเหล็งฮู้ชงที่ไม่ยึดติดกับธรรมเนียมดังกล่าว ภายหลังการฝึกวิชานี้ทำให้เขามองดูภาพสลักในถ้ำด้วยสายตาที่ต่างไปจากเดิม โดยมุ่งมองที่เพลงกระบี่มากกว่าการแบ่งฝ่ายพรรคธรรมะ หรือพรรคมาร ก่อนหน้าที่จะถูกทำโทษที่ผาสำนึกผิด เหล็งฮู้ชงกำลังจะเดินทางไปร่วมงานล้างมือจากยุทธภพของเล้าเจี่ยฮวงซึ่งเป็นน้องชายเจ้าสำนักฮ่วงซัว ระหว่างทาง ได้ช่วยเหลือศิษย์สตรีผู้หนึ่งของสำนักเห็งซัว ทำให้ไปถึงงานล้างมือนั้นล่าช้ากว่าคนอื่นๆ อย่างไรก็ตาม งานล้างมือดังกล่าวถูกขัดจังหวะ เนื่องจากจ้อแนเชี้ยง ซึ่งเป็นเจ้าสำนักซงซัว เข้ามาขัดขวาง (ด้วยเหตุที่ห้าสำนักกระบี่ที่อยู่ในหุบเขาใกล้เคียงกันประกอบไปด้วยฮั้วซัว ฮ่วงซัว เห็งซัว ไท่ซัว และซงซัว ได้ร่วมมือกันเป็นพันธมิตร (เพื่อเป็นค่ายสำนักใหญ่ไว้ต่อรองกับค่ายสำนักใหญ่อื่นๆ อันได้แก่ เส้าหลิน และบู้ตึงได้) และให้เจ้าสำนักซงซัวเป็นรักษาการห้าสำนักกระบี่) โดยให้เหตุผลว่า เล้าเจี่ยฮวงถอนตัวออกจากยุทธภพ เนื่องจากไปคบกับยอดฝีมือของฝ่ายมาร อีกทั้งให้เหตุผลว่า การถอยตัวครั้งนี้เป็นแผนของฝ่ายมารที่ต้องการริดรอนยอดฝีมือของฝ่ายธรรมะออกไป ต่อมา หลังจากพ้นจากโทษกักตัวที่ผาสำนึกผิด เหล็งฮู้ชงพร้อมคนในสำนักฮั้วซัวก็ได้เดินทางไปเยี่ยมญาติของลิ้มเพ้งจือในภูมิลำเนาเดิม ระหว่างทางเหล็งฮู้ชงก็ได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากต่อสู้ปกป้องคนในสำนัก แต่กลับถูกป้ายความผิดว่าฆ่าศิษย์ร่วมสำนัก และถูกใส่ร้ายว่าขโมยฝึกคัมภีร์พิชิตมาร (เนื่องจากมีฝีมือที่ดีขึ้นอันสืบเนื่องมาจากการฝึก “เก้ากระบี่เดียวดาย” แต่ไม่สามารถบอกคนอื่นได้ว่าฝึกเพลงกระบี่ชุดนี้ เนื่องจาก ฮวงเช็งเอี๊ยง ผู้สอนได้สั่งห้ามไว้ ) ทำให้เหล็งฮู้ชงต้องถูกขับออกจากสำนัก วิธีที่จะรักษาอาการบาดเจ็บของเหล้งฮู้ชงมีเพียงการฝึกคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นของสำนักเส้าหลิน แต่เหล็งฮู้ชงปฏิเสธ เนื่องจากการฝึกคัมภีร์ดังกล่าวมีเงื่อนไขว่าต้องเปลี่ยนเป็นศิษย์ของเส้าหลินเท่านั้น ซึ่งเขาไม่ยอมเป็นศิษย์ฆราวาสของเส้าหลิน เนื่องจากยังหวังจะกลับไปเป็นศิษย์ฮั้วซัวเหมือนเดิม ระหว่างนั้น เหล็งฮู้ชงได้คบกับยอดฝีมือฝ่ายพรรคมารคนหนึ่งที่ยังจงรักภักดีกับอดีตหัวหน้าพรรค เขาถูกใช้เป็นเครื่องมือในการช่วยเหลืออดีตหัวหน้าพรรคยิ่มอั้วเกี้ยออกจากคุก รวมทั้งยังถูกใช้เป็นฟันเฟืองหนึ่งในการ “รุม” ยึดอำนาจในการปกครองพรรคมารคืนจากมือขวาของพรรคมารตังฮึงปุกป่าย พรรคมารเคล็ดวิชาฝีมืออยู่ 2 วิชาคือ วิชาดูดดาว คือการดูดเอากำลังภายในของคู่ต่อสู้มาเป็นของตัว และวิชากระบี่ทานตะวันซึ่งเป็นเพลงกระบี่ ยิ่มอั้วเกี้ยฝึกเพียงวิชาดูดดาว ขณะเดียวกันก็ส่งเสริมให้มือขวาของตัวเอง (ตังฮึงปุกป่าย หรือชื่อแปลไทย บูรพาไม่พ่าย) ฝึกคัมภีร์ทานตะวัน วิชาดูดดาวมีข้อด้อยคือ เมื่อดูดเอากำลังภายในของคนอื่นมาเป็นของตัวแล้ว หากไม่ได้ “ระบาย” ออกไปก็จะเป็นผลเสียต่อตัวผู้ดูด ขณะเดียวกันวิชาคัมภีร์ทานตะวันก็เป็นเพลงวิชากระบี่ จึงเน้นท่าทางเพลงกระบี่ไม่ได้เน้นที่กำลังภายใน นอกจากนี้ผู้ฝึกเพลงกระบี่ชุดนี้ต้องตัดอวัยวะเพศตัวเองทิ้งไป วิชาทั้งสองจึงเป็นเหมือนการหนุนซึ่งกันและกัน เมื่อฝึกท่ากระบี่ก็จะไม่ได้ฝึกปราณ ก็ดูดกำลังภายในคนอื่นมาแทน เมื่อฝึกปราณก็ต้องระบายออกทางกระบี่ ยิ่มอั้วเกี้ยเลือกฝึกเพียงการฝึกปราณ เนื่องจากไม่ต้องการตัดอวัยวะเพศของตัวเอง (อันเป็นมาจากธรรมเนียมจีน เรื่องการสืบสกุล) และส่งเสริมให้มือขวาตัวเองฝึกเพลงกระบี่ ซึ่งมุมหนึ่งอาจมองว่าเป็นการ “ตัด” อนาคตมือขวาตัวเองก็ได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ฝึกเพลงกระบี่มีความสำเร็จเชิงยุทธ์มากกว่า ทำให้สามารถรัฐประหารยึดพรรคมารไปครองได้ พร้อมทั้งสั่งจำคุกอดีตหัวหน้าพรรคมารไว้ใต้สระน้ำเป็นเวลานานหลายปี เมื่อยิ่มอั้วเกี้ยได้อำนาจในพรรคมารคืนมาแล้ว เขาก็ได้สำเร็จโทษฝ่ายตังฮึงปุกป่ายจนหมด รวมถึงวางแผนคิดที่จะยึดครองยุทธจักรอีกด้วย เมื่อเหล็งฮู้ชงรู้จึงได้ถอนตัวออกมา ในช่วงเวลาเดียวกัน ห้าสำนักกระบี่ก็มีการช่วงชิงตำแหน่งประมุขของห้าสำนักขุนเขา โดยจ้อแนเชี้ยงเจ้าของตำแหน่งเดิมได้วางแผนล่วงหน้าโดยส่งศิษย์ตัวเอง เข้าไปเป็นหนอนบ่อนไส้ และลอบทำร้ายยอดฝีมือสำนักขุนเขาอื่นๆ การณ์ดำเนินไปถึงตอนที่งักปุกคุ้งต้องเผชิญหน้ากับจ้อแนเชี้ยง ปรากฎว่างักปุกคุ้งได้ใช้วิชาในคัมภีร์พิชิตมารปราบจ้อแนเชี้ยงลง ซึ่งทำให้ “ภาพ” วิญญูชนของงักปุกคุ้งเสียไป เนื่องจากเขาเองเป็นคนใส่ความว่าเหล็งฮู้ชงเป็นคนขโมยคัมภีร์ดังกล่าว เคล็ดสำคัญของคัมภีร์พิชิตมาร คือการต้องตัดอวัยวะเพศของตัวเองออกไป งักปุกคุ้งได้ฝึกวิชานี้จากคัมภีร์ฉบับจริงซึ่งขโมยจากที่ซ่อนของตระกูลลิ้มจึงเข้าถึงเคล็ดนี้ นอกจากนี้ลิ้มเพ้งจือ ซึ่งเป็นทายาทโดยตรงของผู้บัญญัติเพลงกระบี่ชุดนี้ก็ได้ขโมยฝึกคัมภีร์พิชิตมาร หลังจากที่สืบทราบว่างักปุกคุ้งเป็นคนฉกชิงไป แล้วใส่ความว่าเหล็งฮู้ชงเป็นคนขโมย (เนื่องจากคัมภีร์หายไปจากตัวงักปุกคุ้ง และเห็นเหล็งฮู้ชงมีฝีมือ “ล้ำหน้า” ไปมาก) เคล็ดนี้เป็นไปตามคำสั่งเสียของปู่ที่ว่า “คน” ฝึกวิชานี้ จะไม่มีลูกหลานสืบทอด ซึ่งแม้ลิ้มเพ้งจือจะ “เข้าใจ” คำสั่งเสียนี้ แต่เขาต้องการล้างแค้นมากกว่า รวมถึงสะอิดสะเอียดกับความหน้าไหว้หลังหลอกของเจ้าสำนัก จึงยอมตอนตัวเอง ขณะที่จ้อแนเชี้ยงจะมีสายในสำนักฮัวซั้ว และได้ลอบฝึกคัมภีร์พิชิตมารบ้าง แต่ไม่ได้รับทราบเคล็ดวิชาดังกล่าว ทำให้ไม่สามารถฝึกได้เสร็จสิ้น จึงถูกงักปุกคุ้งโค่นล้ม แย่งชิงตำแหน่งเจ้าขุนเขาทั้งห้าไปครองได้ ในตอนท้าย ลิ้มเพ้งจือได้เปิดใต้หน้ากากวิญญูชนของงักปุกคุ้ง รวมถึงเผยอุบายที่งักปุกคุ้งวางไว้ตั้งแต่ส่งคนไปสอดแนม ยกลูกสาวให้ ฉกชิงคัมภีร์ แล้วป้ายความผิดให้คนอื่น ทำให้ภาพของวิญญูชนของงักปุกคุ้งเสียไป จึงเกิดการต่อสู้ และล้มตายไปทั้ง 2 ฝ่าย ขณะนั้น พรรคมารหมายที่จะยึดยุทธจักรโดยนำทัพมาต่อสู้กับฝ่ายธรรมะ เหล็งฮู้ชงจึงต้องรักษาการณ์ตำแหน่งเจ้าห้าขุนเขากระบี่ไปพลางๆ อย่างไรก็ตาม หัวหน้าพรรคมาร ยิ่มอั้วเกี้ย ได้เสียชีวิตไปก่อน เนื่องจาก “ปราณ” ที่ดูดมาไม่ได้ถูกระบายออก ยิ่มเอี่ยงเอี๊ยงบุตรี ซึ่งมีความสัมพันธ์กับเหล็งฮู้ชง จึงได้เป็นหัวหน้าพรรคมารแทน และได้ยุติความบาดหมางระหว่างค่ายลงได้ |
สวย | |
![]() |
อ่านเรื่องย่อ แร๊วแลดูว์ตงฟางไม่เก่งเหมือนในหนังสือกับหนังเรยอ่ะ |
รักเธอเสมอไป | |
![]() |
.ใครเป็นนางเอกอะถามหน่อย |
|