เตียบ่อกี้VSเอี้ยก้วย
DNAมังกรหยก | |
![]() |
คิดยังไงก้อช่างนะคับ แต่ผมบอกที่มามะได้จิงๆ- -* |
ป๊อป | |
![]() |
ควรทราบว่าวิชากำลังภายในทั้งแผ่นดิน ไม่มีใดเกินลมปราณนวภพ นอกจากนั้นหลักการใช้วิชาเคลื่อนย้ายจักรวาลก็เป็นความสำเร็จอีกประการหนึ่งเมื่อเรียนรู้วิธีหนึ่ง ก็เข้าใจปรุโปร่งสรรพวิธีไม่มีวิชาฝีมือใดที่เป็นความยากลำบากสำหรับเขาอีก ( อ้างอิงจากหน้า542 ) ไตรภาคมังกรหยกชุดที่3 ดาบมังกรหยก เล่ม2 ฉบับปรับปรุงล่าสุด กิมย้ง ประพันธ์ น.นพรัตน์ เรียบเรียง |
ป๊อป | |
![]() |
ท่านกิมย้งน่ะท่านวางตัวมากๆเลยครับ ไม่ว่าใครถามอะไรเกี่ยวกับเรื่องพวกเนี้ย ท่านก็มักจะไม่ตอบท่านมักจะบอกว่ามันอยู่คนละเรื่องกันเปรียบเทียบกันไม่ได้แล้วแต่จินตนาการของคนอ่าน เหมือนกับใครคนไหนอ่านนวนิยายของท่านจบแล้วคิดได้ยังไงมีความเห็นว่ายังไงก้แล้วแต่ความคิดของแต่ละคนไปไม่ยึดติด ส่วนใหญ่ก็เป็น พวกเกจิ กิมจิเนี่ยแหละ แต่งเสริมเติมมักจะชอบเอาความคิดของตนเองมาใส่ในหัวคนอื่นให้คิดตามบางคนหนักเข้าไปใหญ่บอกว่าสิ่งที่เค้าคิดเนี่ยท่านกิมย้งได้กล่าวไว้ อันนี้ก็ไม่แปลกหรอกครับที่เราจะเข้าใจผิดไปบ้าง อันนี้ไม่เปงไรนะคุณ dna มังกรหยก ป.ล. เว๊ปพันทิพ พวกเนี้ยเพียบเลย ขี้โม้ |
ประจิมคลุ้มคลั่ง |
#106 ประจิมคลุ้มคลั่ง [ 27-06-2007 - 19:15:47 ] |
|
เอ่อ ที่บอกว่ากระบี่ตั๊กโกวชนะอึ้งเซี้ยงนี่ก็รู้มาเหมือนกัน ถ้าเอาเก้าอิมและเก้าเอี้ยงรุมอาจจะชนะ ถ้าตัวๆแพ้ทั้งคู่ |
หนึ่งขลุ่ยหนึ่งกระบี | |
![]() |
ผมชอบเคล็ดวิชาย้ายจักรวาลที่คุณ ป๊อบ เอามาจังเลย ที่มีปัจจัยอยู่ที่การพอเพียงไม่โลภมาก ถึงจะฝึกสำเร็จ |
ป๊อป | |
![]() |
ผมว่าไอ้ทั้ง วิชาเก้าเอี้ยง กับ พลังเคลื่อนย้ายจักรวาล เนี่ยเหมือนมันสร้างมาเพื่อเตียบ่กี้ คนเดียวเลยนะเนี่ย แต่ละอย่างบังเอิ๊น บังเอิญสุดๆ มีคนเดียวที่ทำได้แบบนี้ |
จอมยุทธ์มังกรน้อย | |
![]() |
ผมพอสรุปได้แล้วครับว่าใครเก่งกว่ากัน จากที่ผมได้อ่านของคุณป็อป ตอน เตียบอกี้สําเร็จวิชาย้ายจักวาลขั้นที่ 7 ทําให้ผมเข้าใจว่าจริงๆแล้วคนเราจะมีพลังด้วยกัน 10 ส่วนครับ แต่คนส่วนใหญ่สามารถใช้ได้เต็มที่แค่ประมาณ 7 ส่วนครับ ส่วนอีก 3 ส่วนเป็นส่วนที่ซ่อนเล้นอยู่ภายใน ยกเว้นเวลาที่เราโกรธสุดขีดหรือตกใจสุดขีด พลังมันออกมาเองทั้ง 10 ส่วน ซึ่งก็เป็นหลักการเดียวกับเวลาบ้านของเราไฟไหม้คนเรามักจะตกใจทําอะไรไม่ถูก ยังสามารถยกตู้เย็นออกมาได้เลย พอหายตกใจแล้วก็ไม่สามารถยกตู้เย็นได้อีก ซึ่งวิชาย้ายจักวาลเป็นการสอนให้เราใช้พลังที่ซ่อนเล้นอยู่ในร่างกายใช้ควบคุมพลังที่มาจากภายนอกตัวเราหรือภายในตัวเรา ให้ไปในตามทิศทางที่เราต้องการ ที่เตียบอกี้สามารถฝึกวิชาย้ายจักวาลได้สําเร็จก็มีผลมาจากวิชาเก้าเอี้ยงครับ ซึ่งตอนแรกที่เตียบอกี้ฝึกเก้าเอี้ยงสําเร็จยังใช้ได้ไม่สมบูรณ์ บางทีก็อออกบางทีก็ไม่ออก ใครดูในหนังก็เห็นไหมครับว่าเตียบอกี้สงสัยว่าทําไมตนเองฝึกสําเร็จแล้วแต่ยังสามารถควบคุมพลังเก้าเอี้ยงให้ได้ดังใจเรา ซึ่งตอนนั้นเตียบอกี้ไม่สามารถดึงพลังที่ซ่อนเล้นภายในกายมาใช้ได้ทั้งหมด เพราะ ยังไม่ได้ทะลวงจุดชีพจรของตัวเองทั้งหมด การทะลวงจุดชีพจร คือเพื่อการให้ลมปราณไหลไปมาอย่างสะดวกไม่ติดขัด ซึ่งการทะลวงจุดชพจรนั้นต้องใช้พลังวัตรอย่างสูงครับถึงจะสามารถทะลวงจุดชีพจรได้ทั้งหมด ซึ่งตอนนั้นเตียบอกี้สําเร็จเก้าเอี้ยงจึงทําให้ทะลวงจุดชีพจรได้ตอนที่ถูกขังอยู่ในถุงผ้าวิเศษครับ ซึ่งการที่จะใช้พลังที่ซ่อนเล้นภายในได้ดั่งใจเรานั้น น้อยคนที่จะทําได้ครับ เท่าที่ผมรู้ก็มีแค่ 2 คน ก็คือ เฉียวฟง กับ เตียบอกี้ นี้แหละ ในส่วนของเฉียวฟงเขาก็สามารถคิดค้นวิธีดึงพลังที่ซ่อนเล้นภายในตัวเขาออกมาใช้ได้สําเร็จ ทําให้เป็นจุดกําเนิด 3 ท่าสุดท้ายในตํานานของฝ่ามือพิชิตมังกร ซึ่งของเฉียงฟงกับเตียบอกี้ต่างกันแค่จุดประสงค์ในการใช้ครับ เฉียวฟงนํามาใช้ในการมุ่งทําลายศัตรูของเตียบอกี้นําใช้เพื่อป้องกันตัว พูดง่ายๆก็คือ คนหนึ่งรุกคนหนึ่งรับครับ ในส่วนพลังของเอี้ยก้วยก็สามารถดึงพลังที่ซ่อนเล้นภายในมาใช้ได้ แต่ต้องอาศัยความเศร้าเป็นคตัวดึงพลังนั้นออกมา พูดง่ายก็คือยิ่งเศร้เท่าไรยิ่งดึงพลังได้มาก เลยยังทําให้เอี้ยก้วยยังมีจุดอ่อนมากกว่าเตียบอกี้ครับ เพราะขึ้นอยู่กับอารมณ์ของเอี้ยก้วย สรุปด้านพลังภายใน ผมขอให้ยกให้เตียบอกี้เหนือกว่า 1 ขั้น ครับ ในส่วนของกระบวนท่านั้น ของเอี้ยก้วยไม่ค่อยเน้นกระบวนท่าซักเท่าไรจะไปเน้นที่พลังลมปราณ+ความแข็งแกร่งของกระบี่มากกว่า ซึ่งแพ้ทางของเตียบอกี้ครับ เพราะของเตียบอกี้เป็นกระบวนท่าที่ใช้ความอ่อนสยบความแข็ง พูดง่ายๆคือกระบวนท่าที่เตียบอกี้ฝึกมานั้นเป็นการแก้ทางเอี้ยก้วยครับ ยกตัวอย่างตอนที่เตียบอกี้ใช้วิชาเพลงกระบี่ไทเก็กสามารถเอาชนะกระบี่อิงฟ้าได้ ซึ่งถ้าไม่ใช้วิชากระบี่ไทเก็กหรือดาบฆ่ามังกรมาต่อสู้กับกระบี่อิงฟ้า ก็จะโดนกระบี่อิงฟ้าฟันหักหมด แต่เตียบอกี้ยังเป็นรองด้านประสบการณ์ครับ ผลอาจพลิกแพลงได้ ผมจึงขอสรุปว่าด้านกระบวนท่าให้เตียบอกี้เหนือกว่า 1 ขั้นครับ แต่ตัวพลิกแพลงที่ทําให้เอี้ยก้วยสามารถเอาชนะเตียบอกี้ก็ยังมี นั้น คือ วิชาฝ่ามือกําสลดวิญญาณสลาย เพราะวิชานี้ยิงเศร้าเท่าไรยิ่งมีพลังมากขึ้นเท่านั้น ถ้ามีเหตการณ์อะไรที่ทําให้เอี้ยก้วยเศร้าที่สุดถึงที่สุดแล้วละก็ ผมขอยกให้ฝ่ายเอี้ยก้วยเป็นฝ่ายชนะ ผมจึงขอสรุบว่าถ้าเอี้ยก้วยกับเตียบอกี้สู้กันแบบแค่ประลองฝีมือ ผมขอยกให้เตียบอกี้เป็นฝ่ายชนะ แต่ถ้าสู้กันแบบเอาเป็นเอาตายผมขอยกให้เอี้ยก้วยเป็นฝ่ายชนะครับผม เมื่อยมือฉิบหาย อิอิ ![]() |
อิ๋งอิ่ง | |
![]() |
ขอยกให้เอี้ยก้วยชนะเลิศค่ะ คนอะไรเก่งมากๆๆๆๆๆและยังรักเดียวใจเดียวอีกต่างหาก เตียบ่อกี้ออกแนวซื่อเกินไปอ่ะ |
มือกระบราไร้อันดับ | |
![]() |
ต้องลองอ่านครับแล้วจะรู้ว่าบ่กี้ไร้เทียมทานจริงๆ แต่ใน3คนเขาฝึกนานสุด |
จอมยุทธ์อินทรีย์ | |
![]() |
ต้องเอี้ยก้วยอยู่แล้ว ลองมาก๊วยเจ๋ง |
ป๊อป | |
![]() |
การต่อสู่ระหว่างเตียบ่กี้ กับหลวงจีน 3 ท่านนั้น ผมเอาข้อความในนวนิยายบางส่วนมาลงให้อ่านกันแล้วก็วิเคราะห์กันเอาเองนะ เป็นข้อความบางส่วนจาก ไตรภาคมังกรหยกชุดที่3 ดาบมังกรหยก เล่ม4 ฉบับปรับปรุงล่าสุด กิมย้ง ประพันธ์ น.นพรัตน์ เรียบเรียง เตียบ่กี้ตื่นตระหนกยิ่ง ครุ่นคิดขึ้น "ที่แท้หลวงจีนทั้งสามผนึกกำลัง คล้ายร่างเดียวกัน ในแผ่นดินมีบุคคลสามารถเชื่อมโยงกระแสจิตเข้าด้วยกันจริงๆ" หาทราบไม่ว่าหลวงจีนชรา โต่วแอะ โต่วเกียบ โต่วลั้ง นั่งบำเพ็ญภาวนาสามสิบกว่าปี ความสำเร็จที่ได้รับคือ ซิมอี่เซียงทง (กระแสจิตเชื่อมสัมพันธ์) คนหนึ่งบังเกิดความคิด อีกสองคนล้วนรับรู้ ปฏิกิริยาทางจิตใจเช่นนี้ กล่าวไปเร้นลับพิสดาร แต่บุคคลสามคนอยู่ร่วมกันเป็นเวลาสามสิบกว่าปี ตั้งใจบำเพ็ญจิตถ่ายทอดถึงกัน รวมจิตสำนึกเป็นร่างเดียวกัน หาใช่เรื่องประหลาดไม่ (อ้างอิงจากเล่ม4หน้า 322) หลวงจีนชราโต่วแอะกล่าวอย่างเฉื่อยชาว่า "เตียก่าจู้มิต้องถ่อมตนไป หากนิกายท่านมีผู้ที่มีฝีมือคู่คี่ก้ำกึ้งกับก่าจู้ขอเพียงท่านทั้งสองผนึกกำลัง จะฆ่าพวกเราสามได้ แต่หากแม้นอาตมาคาดเดาไม่ผิด ทอดตาทั่วแผ่นดิน ไม่มีบุคคลที่มีระดับฝีมือเช่นก่าจู้เป็นคนที่สองอีกอย่างนั้นยังคงจัดผู้คนให้มากกว่านี้ บุกเข้ามาโดยพร้อมเพรียง"(อ้างอิงจากเล่ม4หน้า 346) เตียบ่กี้พอลงมืออย่างสุดกำลัง หลวงจีนชราทั้งสามรู้สึกว่า พลังกดดันบนเชือกเพิ่มพูนทีละน้อย คุกคามจนต่างต้องโคจรพลังต้านทาน บ่วงวชิระกำราบมารของหลวงจีนชราทั้งสามต้องบรรลุถึงความหมายสูงสุดของ วชิรปรัชญาปารมิตาสูตร ที่ว่า "ไร้อาตมลักษณ์ ไร้ปุคลลักษณ์ ไร้สัตวลักษณ์ ไร้ชีวลักษณ์" เห็นการแบ่งเขาแบ่งเรา แยกความเป็นความตายเป็นความเลื่อนลอยว่างเปล่า (อ้างอิงจากเล่ม4หน้า454) เหล่าผู้กล้าที่ชมดูอยู่ด้านข้าง เห็นเตียบ่กี้เปลี่ยนแปลงกระบวนท่าวิชาฝีมือการต่อสู้บนพื้นที่ระหว่างต้นสนทั้งสามต้นยิ่งมายิ่งรุนแรง เบื้องบนศีรษะหลวงจีนชราทั้งสาม ปรากฏไอน้ำเจือจางกลุ่มหนึ่งขึ้นทีละน้อย ทราบว่าหยาดเหงื่อบนศีรษะและหน้าผาก ถูกกำลังภายในเร่งเร้ากลายเป็นไอ แสดงว่าบุคคลทั้งห้าต่างทุ่มเทกำลังภายในเข้าหักหาญกันแล้ว เบื้องบนศีรษะเตียบ่กี้ก็ปรากฏไอน้ำขึ้น แต่เป็นเส้นตรงทั้งเรียวทั้งยาวรวมตัวไม่กระจายแสดงว่าเขามีพลังฝึกปรือลึกล้ำกว่าหลวงจีนชราทั้งสามอีก เมื่อวานเหล่าผู้กล้าเห็นเตียบ่กี้รับบาดเจ็บสาหัส มิคาดเพียงค่ำคืนเดียวเตียบ่กี้ก็ทุเลาหายสิ้น ความลึกล้ำของวิชาฝึกปรือเป็นที่น่าตระหนกจริงๆ จิวจี้เยียกกลับไม่ปะทะหักหาญกับหลวงจีนชราทั้งสามโดยตรง เพียงสู้วนอยู่รอบนอก พอพบเห็นบ่วงวชิระกำราบมารปรากฏช่องโหว่ก็กระโดดเข้าไปพอเผชิญเชือกสีดำขัดขวาง ก็พลิกตัวพุ่งถอยไป เมื่อเป็นเช่นนี้ ความเหลื่อมล้ำต่ำสูงของพลังการฝึกปรือระหว่างเตียบ่กี้กับนางก็ปรากฏชัดแจ้ง ในเหล่าผู้กล้ามีผู้คนไม่น้อยซุบซิบหารือว่า "ระหว่างนี้ยุทธจักรร่ำลือว่า เตียก่าจู้นิกายเม้งก่ามีพลังการฝึกปรือกล้าแข็งสุดยอด นับว่าสมดังคำร่ำลือจริงๆ เมื่อวานเขาจงใจอ่อนข้อให้แก่ซ่งฮูหยินนี่เรียกว่าบุรษเข้มแข็งไม่ต่อสู้กับสตรี"(อ้างอิงจากเล่ม4หน้า455) ยามนี้เตียบ่กี้กับหลวงจีนชราทั้งสาม พากันใช้ฝีมือแท้จริงเข้าหาญหักไม่อาจพลิกแพลงฉาบฉวยแม้แต่น้อย นางกลับสอดมือเข้าไปไม่ได้ บางครั้งขยับแส้อ่อน สะอึกเข้าจู่โจม พอกระทบถูกกำลังภายในของคนทั้งสี่ก็ถูกกระแทกกระดอนออกมา หักหาญกันอีกครึ่งชั่วยาม ลมปราณนวภพภายในกายเตียบ่กี้เร่งโคจรหมุนเวียน บนประกาศิตอัคคีศักดิ์สิทธิ์บังเกิดเสียงฉี่ฉี่ สีหน้าของหลวงจีนชราทั้งสามความจริงผิดแผกแตกต่าง ยามนี้กลับแดงราวโลหิต จีวรที่ครองร่างเบ่งพองขึ้น คล้ายอัดพลังเปี่ยมล้น แต่เสื้อผ้าของเตียบ่กี้ไม่มีสภาพผิดปกติ ลักษณะเช่นนี้เท่ากับตัดสินความเหลื่อมล้ำต่ำสูง หากแม้นเตียบ่กี้ต่อสู้ตัวต่อตัว หรือระหว่างสองต่อหนึ่ง คงพิชิตชัยแต่แรก ลมปราณนวภพของเขาความจริงลึกล้ำแกร่งกร้าว บวกกับได้รับการชี้แนะจากเตียซำฮง เรียนรู้วิธีโคจรพลังของเพลงหมัดไทเก๊ก ดังนั้นยิ่งต่อสู้ยิ่งเข้มแข็ง สามารถยืนหยัดอีกหนึ่งถึงสองชั่วยามจวบกระทั่งฝ่ายตรงข้ามอ่อนล้าสิ้นเรี่ยวแรง (อ้างอิงจากเล่ม4หน้า455 - 456) |
จอมยุทธ์มังกรน้อย |
#114 จอมยุทธ์มังกรน้อย [ 29-06-2007 - 16:05:33 ] |
|
คุฯป็อบช่วยเอาตอนที่เตียบอกี้สู้กับ 5 สํานักใหญ่ ที่พรรคเม่งก่า มาให้อ่านหน่อยได้ไหมครับ อยากอ่านตอนนั้นอะครับ ![]() |
ป๊อป | |
![]() |
ตอบคุณจอมยุทธมังกรน้อย ความเห็นที่22 ตอนสู้กับ6สำนักใหญ่นี่มันยาวมากๆเลยนะครับไม่ต่ำกว่า20-30หน้าเริ่มตั้งแต่ปลายเล่ม2 ไปจนถึงเล่ม3 เอาให้แคบๆกว่านี้หน่อยได้ไม๊ เห็นในทีวีสู้กันแป๊ปเดียว แต่ในนวนิยายยาวมาก เอาเป็นสำนักๆไปยังดีกว่านะ |
จอมยุทธ์มังกรน้อย |
#116 จอมยุทธ์มังกรน้อย [ 30-06-2007 - 12:49:25 ] |
|
ครับ จะเอาตอนไหนมาก็ได้ครับ ไม่เป็นไร ![]() |
ป๊อป | |
![]() |
แล้วว่างๆจะจัดมาให้นะครับแต่เมื่อวานผมไปดูมาอีกทีตอนที่สู้กับ6สำนักมันยาวเป็น100หน้าเลยถ้าอนุญาติให้กระผมพอจะย่อเนื้อเรื่องได้แต่เนื้อหาไม่ผิดไปจากนวนิยายก็น่าจะโอเคนะ |
จอมยุทธ์มังกรน้อย |
#119 จอมยุทธ์มังกรน้อย [ 02-07-2007 - 17:30:00 ] |
|
จ้า เอามาเลยครับ ![]() |
มังกรทองแดง | |
![]() |
ตามผมคิดบ่กี้เคยได้วิชาอะไรหว่าทีจางฟังฟงช่วยตอบทีวิชาไรครับผม ![]() |