เชิญถามปัญหาธรรมะ ปรัชญา ศาสนา ได้ที่นี่

พระ ธรรมเข้าสิง

ฮ่องเฮา ถังผู้มีเมตตา

การฆ่าสัตว์ตัดชีวิตนับว่าเป็นบาป ทุกสิ่งอย่าง ล้วนขึ้นอยู่กับเจตนา


หากทำบาปโดยตั้งใจ กรรมหนัก หากกระ การใด โดยมิได้เจตนา นั้นคือกรรมของเขา

หากแต่บุพกรรมทำร่วมกันมา


ทุกวันนี้คนก็ยัง นับ ถือศาสนาเป็นหลักอยู่ดี

จึงมีการแบ่งแยกศาสนาอย่างชัดเจน ซึ่งสามารถอยู่ร่วมกันได้

ซึ่งมีคำกล่าวไว้ว่า ศาสนา ทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี

แต่หลักคำสอน แต่ล่ะศาสนาจะแตกต่างกัน

และศาสนาที่เข้าถึงยากสุด คือศาสนา พุทธ ซึ่งไม่เพียงสอนให้เป็นคนดี
ยังสอนให้ตัดเลิกกิเลศทั้งป่วง ซึ่งมันทำยาก สูงสุด ในศาสนาพุทธคือไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิด

ศาสนาที่เชื่อในพระ เจ้าเมื่อ ตายสิ้น แล้วผลแห่งความดีจะทำให้ได้ไปอยู่กับพระเจ้า

ถ้าคนนับถือพุทธ แน่นอน เรื่องเวรเรื่องกรรมใครทำสิ่งใดย่อมได้สิ่งนั้น
แม้แต่ตบมดตายยังต้องรับกรรมที่ก่อ

เรื่องการ ฝึก จิต ทำได้โดยการฝึกสมาธิจนมี ณานแก่กล้า ผู้ใดได้ณานนับว่าประตูนรกปิด
กรรมใดเคยก่อ รับที่หลัง ผู้ใดได้ณานจะได้เกิด พรหม ซึ่งมีอายุนานที่สุด ในรบรดาเทวาทั้งปวง

จนกว่าจะ ตกสวรรค์ บุญหมดมารับกรรมใหม่


เรื่องของณานนับว่าทำได้ยากยิ่ง ส่วนใหญ่จะ เป็นเพราะนิมิตของตัวเองทำให้เกิดภาพหลอน
นั้นคือจิตหลอน หลอกให้เห็นเป็นสิ่งนั้น การฝึกณานสมาธิจึงต้องมีครูอาจารย์ในสายทุกถูกต้อง


เหตุที่คน ไม่ค่อยเชื่อในบาปบุญคุณโทษ เนื่องด้วยจาก ยุคสมัยเปลี่ยนคนเปลี่ยน

เทคโนโลยีก้าวหน้า ไปไกลมาก ศาสนาอีกหน่อยจะดูเหมือนเรื่องมงาย
แต่ก็ต้องยืดถือ เพราะเป็น วัฒนธรรมประเพณีความเชื่อที่สืบต่อกันมา

พระบรมศาสดา ทุกพระองค์บัติญัติตั้งศาสนาไว้
เพื่อให้มนุษย์โลก เกรงกลัวต่อบาป ไม่กระทำความชั่ว จึงสามารถอยู่ร่วมกันได้

หากไม่มีศาสนา ไม่มีใครเชื่อเรื่องบาปบุญ คุณ โทษ จะเป็นเช่นไร
ฉะนั้นจึงจำเป็นต้องมีศาสนาไว้ค่อยยึดเหนี่ยวจิตใจมนุษย์ โลก


เมตตา ธรรมค้ำจุนโลก ฮองเฮาถัง ผู้ มีเมตตา

จากการกล่าวของผู้เฒ่าฯ ว่า
ในศาสนาพุทธของเรามีส่วนของพราห์มปนอยู่ ในสมัยที่รับเอาของเขามา และเชื่อว่าหากทำดีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งอาจหมายถึงเทวดา มองเห็นการกระทำของเราอาจช่วยเรา ซึ่งการจะมองเห็นภูติผีวิญญาณก็เช่นกัน ต้องปฎิบัติจนบรรลุไปขั้นหนึ่งก่อน สักโสดาบัน ส่วนคนที่ว่าเห็นผีนั้นทั่วไปพระพุทธเจ้าท่านว่าเกิด จากจิตปรุงแต่งขึ้นมาจากสังขาร

ในสมัยใดหรือยุคใดก็ตาม หากไม่มีพระพุทธเจ้าบังเกิดในโลกมนุษย์ซึ่งเรียกว่ากลียุคนั้น สมัยนั้นจะมีพระปัจเจกพุทธเจ้า แทนและในเวลานั้น พระโพธิสตว์ทั้งหลายอาจจะบำเพ็ญอยู่ในศาสานาอื่นเช่น เมื่อชาติที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามสณโคดม ได้จุติเป็นพระเวสสันดรโพธิสัตว์ นั้นพระองค์ทรงบำเพ็ญเป็นฤาษี ซึ่งก็คือศาสนาพรหมณ์ เป็นต้น
และเมื่อครั้งพระองค์ประสูติเป็นเจ้าชายสิทธัตถะ อันเป็นชาติสุดท้าย พระองค์ยังร่ำเรียนอยู่ในศาสนาพราหม์และเมื่อตรัสรู้แล้วจึงประกาศพระพุทธศาสนา ครับ

สำหรับการมองเห็นนรก สวรรค์นั้น คนที่ฝึกสมาธิในระดับหนึ่งจะพึงเห็นได้เบื้องต้นอาจจะได้ญาณก่อน แล้วจึงเป็นอภิญญา ซึ่งการปฏิบัติทางจิตถ้ามองให้ดีจะเห็นว่า มีโลกียะ กับโลกุตตระ ครับ

โลกียะ ก็คือการปฏิบัติที่มุ่งฤทธิ์เดช แต่ไม่ได้ปฏิบัติเพื่อหลุดพ้น คนเหล่านั้นอาจจะได้อภิญญาห้า แต่เมื่อใดที่มุ่งหาความหลุดพ้นก็จะเป็นโลกุตระจะได้อภิญญาหก

อภิญญา คือผลของการฝึกสมถะกรรมฐาน อันเป็นผลพลอยได้จากการฝึกจิตครับ

เจริญในธรรม

การที่จะสำเร็จ อรหันต์ ได้นั้น ต้อง ทำสายนี้สายเดียวคือวิปัสนากรรมฐาน

การเป็น อรหันต์ ไม่จำเป็นต้องมีอิธิฤทธิ์ การที่มีอิธิฤทธิ์ การเนื่อมาจากอำนาจจิต คือณาน
ที่ได้จากการทำสมาธิ หรือ ได้จากการ เพ่งกสิณ ธาตุดินน้ำลมไฟ

ซึ่งอิธิฤทธิ์ ปาฎิหาร พระพุทธเจ้าทรงห้ามพระผู้มีณาน ใช้แสดงต่อหน้าผู้คน
ห้ามอวดอ้างใน อิธิฤท์ธิ

พระพุทธองค์ เป็นผู้ มีบุญฤทธิ์ ได้รับเลือกแล้ว ว่าต้องเป็นศาสดา
มีหน้าที่ เผยแพร่ พระธรรมคำสั่งสอนแก่ชาวโลก

ศาสนาพุทธมีศาสดาคือพระพุทธเจ้ามาแล้ว หลายพระองค์
องค์ปัจจุบัน คือพระสมณะโคดม เจ้าชายสิทธัถะ

องค์ต่อไป พระ พุทธองค์ได้ทำนายไว้เรียบร้อยแล้วคือพระศรีอริยะเมตไตย


เจริญ พร ฮองเฮาถัง ผู้มีเมตตาจิต

พระ ปัจเจกพระพุทธเจ้านั้นมีมากมาย บรรลุธรรม เทียบขั้นพระพุทธเจ้า

แต่ไม่มีหน้าที่ ประกาศ ศาสนา เพราะไม่ได้เป็น ผู้ถูก เลือก

พุทธเจ้าทุก พระ องค์ ต้องเป็นพระโพธิสัตว์

เจริญพร ฮองเฮา ถังผู้มรเมตตาจิต

ขอ ย้อนตอบเรื่องของการระลึกชาติได้ คนที่จะทำได้ต้องมีณาน จึงจะสามารถระลึกชาติได้

พระพุทธเจ้าก็สามารถระลึกชาติได้หมด เช่นกัน

ส่วนเรื่องของการระลึกชาติในคนปกติ ซึ่งเคยเจอมากับอาของตัวเอง
จำได้ว่าตัวเองเป็นอะไรตาย มีเมียมีลูกชื่ออะไร ซึ่งมีอยู่จริงๆ

ระลึกได้ตั้งแต่ตอนเป็นเด็ก เกิดจากการ ตายแล้วได้เกิดเป็นมนุษย์อีก

ทำให้เกิดความผิดปกติ อาจเกิดขึ้นได้ เช่นนี้ของพวกนี้ซับซ้อนมาก

อธิบายหา เหตุผลมิได้ แต่มีน้อยคนจะระลึกชาติได้เช่นนี้

1ขอย้อนตอบ มังกรหลับทำไมพระสงฆ์ต้องห่มผ้าเหลือง

อันที่จริงสมัยพุทธกาล ห่มผ้าห่มศพค่ะพี่น้อง ต่อมาจึงได้เปลี่ยนใช้ผ้าอย่างอื่น เป็นสีเหลือง
บางที่อาจเห็นเป็นสีน้ำตาลหรือสีเลือดหมู เพื่อไม่ให้ดูอุจาดตา ถ้าเป็นผ้าห่อศพ
จึงได้มีการเปลี่ยนให้เหมาะสม ไม่ควรใส่สีฉูดฉาดเป็นพระสงค์ไม่ได้มาเล่นลิเก


2ขอย้อนตอบพระทำไมไม่ทานอาหารเย็น เป็นด้วยบัญญัติมา ให้ฉันเช้าและเพล

คือกินเพื่ออยู่ไม่ใช่อยู่เพื่อกินเพื่อไม่ให้เกิดกิเลส กินแล้วนอน



3ขอย้อนตอบทำไมพระไม่ใส่รองเท้า

เพื่อให้ได้รับรู้ ถึงการเดินแบบเท้าเปล่า เพื่อไม่ให้เกิดความสบายเนื่อง
จากความสบายคือกิเลส ต้องมีขันติอดทน


4ขอย้อนตอบ พระ นั่งฉี่ ทำไมไม่ยืนฉี่

เป็นพระสงฆ์ แน่นอน กางเกงในไม่ได้ใส่อยู่แล้ว ห่มจีวรพระ ต้องสำรวมจะไปยืนฉี่
ก็ จะดูน่าเกลียด เลยต้อง นั่ง ลงแล้วฉี่

ขอย้อนตอบมังกรหลับว่าทำไมพระต้องโกนคิ้วโกนผม

เพื่อไม่ให้ยึดติดในรูปลักษณ์ จึงไม่ให้มีทรงผมเดี๋ยวจะเกิดกิเลส

ถ้าไม่โกนผม โกนคิ้ว หรือจะให้พระไว้ผมทรงเป้ไฮ ร็อก เอาที่คาดผมมาคาดติดกิ๊ฟ

หรือจะไว้ทรง เกาหลี เทรนญี่ปุ่น อืม คน คงจะปลื้มหรอก นะ

ทำสีผม ทำไฮไลท์ โกรก ผม ต่อผม ดัดผม อืม เพื่อไม่ให้ยึดติด โกนมันซะเลยจบ

ถามว่าตรงนั้น....ต้องโกนด้วย อันนั้นไม่จำเป็นต้องโกน เพราะมันอยู่ในที่มิดชิด
ไม่งั้น โกนหมด ขนหน้าแข้งก็คงต้องโกน ด้วยกระมัง ขนตงขนตูด

ขนรักแร้ ขนขาขนแขน คงต้องโกนหมดงี้ไม่ต้องแว๊กทั้งตัวเลยหรอ

ซึ่ง มันไม่ถึงขนาดนั้น

จึงโกนแค่ ผม คิ้ว หนวด อ่ะนะ

ศาสนา นิกาย ลัทธิ เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไรขอรับท่าน

ลัทธินั้นยังไม่ได้รับการยอมรับให้เป็นศาสนา ส่วนนิกายนั้นแยกมาจากศาสนา โดยมีศาสดาองค์เดียวกันแต่นำหลักประพฤติ ปฎิบัติมาใช้ต่างกัน อาจมีการปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับ ความเห็นชอบ ต้องการของผู้ตั้งนิกายนั้นๆ

ผมขอร่วมแสดงความเห็นสักเล็กน้อยละกันนะครับ...

ขอเสริมจากท่านข้างบนสักเล็กน้อย ศาสนา มักจะมีองค์ประกอบหลัก 5 สิ่งครับ
คือ ศาสดา ศาสนสถาน คัมภีร์ ผู้สืบทอด(นักบวช/ผู้ประกอบกิจทางศาสนา) และสาวก ครับ

นิกายส่วนมากบนโลก คือ การแตกแขนงแนวคิดทางศาสนา เพื่อโน้มเอียงไปในความเชื่อของตน
เช่น พุทธ ก็มีนิกายเถรวาท กับนิกายมหายาน ความเชื่อต่างกันเรื่องการสำเร็จอรหันต์

ส่วนลัทธินั้น ต่างจากศาสนาตรงที่ ลัทธิ "ขาดลักษณะศักดิ์สิทธิ์"
ลัทธิกับศาสนานั้นสาวกล้วนต้องศรัทธา ต้องมีพิธีกรรม มีการสืบทอด แต่
ลัทธิขาดความศักดิ์สิทธิ์ในเรื่องของความเชื่อ และไม่เป็นที่ยอมรับของคนโดยทั่วไป

จึงไม่สามารถเป็นศาสนาได้ครับ ลัทธิที่ชัดๆผมว่าลัทธิโยคีนะครับ

...โยคีไม่ใช่ลัทธินะครับ แต่เป็นชื่อเรียกผู้ที่บำเบ็ญตนโดยการทมารร่างกายครับ โดยผู้ที่เป็นโยคีเชื่อว่าคนเราสามารถฝืนธรรมชาติได้ครับ

ท่าน ฤทธานุภาพ© !!! ท่านหายจากยุทธภพไปนาน ข้าน้อยคิดถึงจัง

ท่าน พลังธาตุบริสุทธิ์ วิเคราะห์ได้เยี่ยมจริงๆครับ ความรู้เป็นปึกๆ
เข้ามาอ่านกระทู้นี้ ได้ความรู้เพิ่มขึ้น มีสาระจริงๆ

ที่ท่านเด็กชายไร้นามกล่าวนั้น ถูกทุกประการครับ

เพียงแต่โยคีนั้นเป็นชื่อเรียกผู้ปฏิบัติ ทางโยคะ จะนับว่า Yoga > เป็นนิกายก็ไม่ผิดนะครับ

เนื่องจากเป็นสิ่งที่ดัดแปลงแนวทางของฮินดู + พุทธ + เซ็น และสาวกของศาสนาทั้ง 3

ไม่นับโยคีเป็นนักบวชที่ชอบโดยศาสนาครับ และเท่าที่หาข้อมูลมา ลักษณะของโยคี(หรือโยคะ)

นี้น่าจะเป็นลักษณะทางลัทธิมากกว่า

ขอบคุณครับท่าน nesta ผมยังอ่อนอยู่ ยังต้องศึกษาอีกมาก

โยคีนั้น จัดเป็นลัทธิ ครับ และมีความใกล้เคียงกับการบำเพ็ญเพียรแบบฤาษี ครับ ซึ่งบางครั้งอาจจะจัดไว้ใน ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู

โยคะวิธี คือการกำหนดสมาธิแบบเคลื่อน เช่น วิชาเปลี่ยนเส้นเอ็น-ฟอกไขกระดูก วิชาโยคะ วิชาฤาษีดัดตน เป็นการกำหนดสมาธิให้หมุนเวียนหรือเคลื่อนที่ ที่เรียกว่าเดินลมปราณ นั่นแหละครับ

เจริญในธรรม

เจ้าของกรทู้นี้อยู่ไหนอ่ะ ถามหน่อย อ่ะ

ท่าน เชื่อในวิชา ไสยศาสตร์ รึเปล่า แล้วท่านว่า มี จริง รึป่าว และทำไมถึงมีอยู่ใน ศาสนา พุทธ เชื่อ เหาะเหิน เดินอากาศ และอื่นๆ อีกมากมาย

ในอนาคตมีหลายสิ่งหลายอย่างจะมีการเปลี่ยนแปลง ข้าขอเชิญผู้กล้าทุกท่าน ที่สนใจร่วมกลุ่ม พลังจิตเพื่อวิทยาศาสตร์ (the x-men 20) ที่มีความสามารถพิเศษเช่น มีญาณ, อภิญญา มโนมยิทธิ หรือ อานาปานสติสูตร เข้าร่วมทำหน้าที่พิเศษครับ สามารถติดต่อกลับได้ที่ malimas45@hotmail.com

ขอบคุณครับ