เข้าระบบอัตโนมัติ

ขอเชิญร่วมวงสนทนาเรื่อง ดาบมังกรหยก


ประมุขหอดารา
#41   ประมุขหอดารา    [ 08-11-2007 - 04:48:56 ]

ธงสีเขียว / กองธงไม้ใหญ่

เอี้ยเซียวชูธงขาวผืนหนึ่งขึ้น โบกสะบัดไปด้านหลังหลายครา สาวกนิกายสังกัดกองธงทองเฉียบคมทั้งห้าร้อยคน พากันถอนดึงธนูขวานทวน วิ่งถึงหน้าเพิงไม้ของนิกายเม้งก่า น้อมกายคารวะต่อเตียบ่กี้ จากนั้นหมุนตัววิ่งออกจากลานกว้าง

เอี้ยเซียวซัดธงสีเขียวผืนหนึ่ง ปักลงที่ข้างธงสีขาว ได้ยินข้างลานกว้างบังเกิดเสียงฝีเท้าอันหนักหน่วงดังขึ้น สาวกนิกายสังกัดกองธงไม้ใหญ่จำนวนห้าร้อยคน ใช้ผ้าเขียวโพกศีรษะ ทุกสิบคนลากดึงไม้ใหญ่ท่อนหนึ่งวิ่งปราดมา ไม้ใหญ่แต่ละท่อนหนักพันกว่าชั่ง บนท่อนไม้ติดตาขอเหล็ก ทุกผู้คนยึดจับตาขอเหล้กข้างหนึ่ง มีฝีเท้าพร้อมพรัก

ทันใด เสียงตวาดก้องร้องขึ้น ไม้ใหญ่ทั้งห้าสิบท่อนพุ่งออกจากมือ บางท่อนสูง บางท่อนต่ำ บางท่อนอยู่ซ้าย บางท่อนอยู่ขวา แต่ไม้ใหญ่ที่ออกพุ่งออกทุกท่อน ต้องปะทะกับไม้ใหญ่อีกท่อนหนึ่ง ได้ยินเสียงโครมครามดังไม่ขาดหูไม้ใหญ่ทั้งห้าสิบท่อนแบ่งเป็นยี่สิบห้าคู่ปะทะชนกันเอง

ไม้ใหญ่แต่ละท่อนล้วนหนักนับพันชั่ง เมื่อปะทะชนกัน เป็นสภาพที่น่าตื่นตระหนกนัก หากละแวกพื้นที่ธงสีเขียวมีผู้คนยืนอยู่ ไม่ว่ากระโดดสูง ลงต่ำ หลบซ้ายเลี่ยงขวา ต้องถูกไม้ใหญ่พุ่งชนใส่

ค่ายกลของกองธงไม้ใหญ่หลังนี้ ดัดแปลงจากยุทธวิธีบุกเข้าตีเมืองผู้ที่ตีเมืองยกท่อนไม้ขนาดใหญ่ กระแทกใส่ประตูเมือง ต่อให้เป็นประตูเมืองที่แข็งแกร่งกว่านี้ ก็ต้องถูกไม้ใหญ่กระแทกเปิดออก หากเป็นเรือนร่างเลือดเนื้อเมื่อเผชิญกับไม้ใหญ่จำนวนมากเช่นนี้ ไยมิใช่ถูกกระแทกกระทั้นกลายเป็นเลือดเนื้อเลอะเลือน

สาวกนิกายสักกัดกองธงไม้ใหญ่จำนวนห้าร้อยคน รอจนท่อนไม้ปะทะชนกันตกถึงพื้น พากันสะอึกกายออกไป ยึดจับตาขอเหล้กบนท่อนไม้หมุนตัววิ่งออกไป ทอดระยะห่างกันสิบกว่าวา ขอเพียงคนออกคำสั่งซัดธงสีเขียวออกอีกคร ก็จะยกไม้ใหญ่ปะทะชนกันอีก เอี้ยเซียว กลับโบกธงเขียว สั่งให้กองธงไม้ใหญ่ล่าถอย





ประมุขหอดารา
#42   ประมุขหอดารา    [ 08-11-2007 - 04:50:40 ]

พอแล้วเหนื่อยพรุ่งนี้ค่อยมาต่อกันที่ กองธงที่เหลือ คือ

3.ธงสีแดง / กองธงอัคคีเพลิง

4.ธงสีดำ / กองธงน้ำป่า

5.ธงสีเหลือง/ กองธงดินหนา



ประมุขหอดารา
#43   ประมุขหอดารา    [ 08-11-2007 - 05:01:15 ]

ส่วนเรื่องวิชาตัวเบาของ ค้าวคาวปีกเขียว กระผมก็จะเอาข้อความในนวนิยายสั้นๆ ขอความนึงมาลงไว้ให้อ่านกัน คัดเอาแต่ตรงสาระสำคัญนะสั้นๆ

อ้างอิงจากหน้า 348 ดาบมังกรหยกเล่ม4

วิชาตัวเบาเช่าเจี่ยป่วย ( เหินบินบนยอดหญ้า ) นี้แม้ไม่พิสดารล้ำ แต่สามารถบังคับร่างราวพลัดพลิ้วตามลม เช่นนี้ นับเป็นฝีมือที่พิสดารปานปาฎิหารย์ เจ้าอาวาสเสี้ยวลิ่มยี่และคงตี่ไต้ซือล้วนครุ่นคิดขึ้น

คนผู้นี้มีวิชาตัวเบาถึงขั้นนี้ นอกจากได้รับการถ่ายทอดจากยอดคน ยังมีพรสวรรค์มาแต่กำเนิด ดูท่าคนผู้นี้มีรูปลักษณะพิเศษพิสดารตามธรรมชาติ ต่อให้ผู้อื่นพากเพียร ฝึกปรือ ก็ไม่อาจบรรลุถึงขอบเขตขั้นนี้




ประมุขหอดารา
#44   ประมุขหอดารา    [ 08-11-2007 - 05:02:18 ]

พอแล้ว นอนดีกว่า เหนื่อย



จอมยุทธ์มังกรน้อย
#45   จอมยุทธ์มังกรน้อย    [ 08-11-2007 - 11:52:16 ]

คุณ ป็อป ข้อมูลแน่นจริงๆเลยครับ นับถือ นับถือ



กูตู
#46   กูตู    [ 08-11-2007 - 15:50:33 ]

Credit: เทพ Athena (นับแต่นี้จะขอเรียกเธอว่าเทพละ เพราะรู้เยอะจิงจริ๊ง) แห่ง www.spcnet.tv

ดาบมังกรหยก
1. “ตอนที่เตียซำฮงโดนขับไล่ออกจากวัดเส้าหลิน”
ไต้ซือบ่เส็กกล่าวออกหน้ารับผิดแทนเตียกุงป้อ(เตียซำฮง)ที่วัดเส้าหลิน ว่าเขาเป็นผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับการให้ตุ๊กตาอรหันต์เหล็กแก่ก๊วยเซียง (ไต้ซือบ่เส็กให้ก๊วยเซี่ยงเป็นของขวัญวันเกิด ตอนหลังก๊วยเซียงมอบให้เตียกุงป้ออีกต่อ) หากจะด่าว่าเตียกุงป้อให้มาตำหนิที่เขาแทน อย่างไรก็ตาม เจ้าคณะแห่งวิหาร Spiritual Zen (โอ้.... ไม่รู้จะแปลว่าไงเลยเนี่ย) ยืนกรานว่าเตียกุงป้อแอบลักลอบฝึกวิชาวัดเส้าหลิน จะต้องถูกลงโทษ เจ้าอาวาสทีเม้งจึงให้เสนอให้ บ่เส็ก กั๊กเอี้ยง และเตียกุงป้อไปสำนึกผิดที่วิหารตั๊กม้อ แล้วพวกท่านจะปรึกษากันว่าจะลงโทษทั้งสามคนอย่างไรดี กั๊กเอี้ยงประหวั่นใจจึงพาก๊วยเซียงกับเตียป้อกุงวิ่งหนีลงจากเขา

2. “ในงานชุมนุมที่เกาะเรื่องดาบพิฆาตมังกร(ตอนพ่อแม่ของบ่อกี้เจอกัน)”
ฮึงซูซูและผู้อาวุโสแห่งสำนักเหยี่ยวเวหารู้อยู่แล้วว่าราชสิงห์ขนทองเจี่ยซุ่นเป็นผู้คุ้มกฏของพรรคนิกายเม้งก่า

3. ลูกชายของราชสีห์ขนทองถูกฆ่าตายตอนอายุสามขวบด้วยฝีมือของเฉินคุน ซึ่งฉบับก่อนบอกว่าตายตอนอายุหนึ่งขวบ (เทพเอเธน่าบอกว่าไม่รู้ว่ามีข้อผิดพลาดตรงไหนในประเด็นนี้)

4. “ตอนเตียชุ่ยซันกับฮึงซูซูตาย”
การประลองระหว่างวัดเส้าหลินและสำนักบู๊ตึ้งได้เปลี่ยนแปลงไปบางอย่าง ในบทเก่านั้น พระสงฆ์หกรูปจะต่อสู้กับลูกศิษย์บู๊ตึ้งหกคน ฝ่ายบู๊ตึ้งจะใช้ท่าเพลงมวยที่โด่งดังของสำนึกตั้งรับ แต่ทว่าพละกำลังของหยูเหน่ยจิวยังไม่สมบูรณ์หลังจากปะทะฝ่ามือกับHe Biweng ส่วนเตียชุ่ยซันกำลังสับสนว้าวุ่นไร้สมาธิ เพราะโดนหลวงจีนอี้เงี๊ยบด่าว่าที่ทำร้ายทั้งเขา หลวงจีนอี้อิม หลวงจีนอี้ซิม จนตาบอดและฆ่าล้างตระกูลโต้วตั่วกิม หลวงจีนอี้เงี๊ยบควบคุมโทสะขณะที่อาจารย์ของเขา (ไต้ซือคงแส่) และอาจารย์ลุงทั้งสอง(ไต้ซือคงบุ๋ง ไต้ซือคงตี่)กำลังพูด เมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้นหลวงจีนอี้เงี๊ยบบันดาลโทสะตำหนิที่เตียชุ่ยซันที่ทำให้สำนักบู๊ตึ้งและอาจารย์เตียซำฮงเสื่อมเสียเกรียติ ลูกผู้ชายที่แท้จริงต้องยอมรับความผิดที่ก่อ นั่นทำให้เตียชุ่ยซัวรู้สึกว่าเขาทำให้ชื่อเสียงสำนักด่างพร้อย เขาไม่สามรถแม้แต่จะบอกว่าเหตุการณ์เข้าใจผิดครั้งนี้เป็นฝีมือภรรยารักของเขาเอง จึงได้แต่นิ่งเงียบ หยูเหน่ยจิวเห็นเช่นนี้จึงเกรงว่าพวกเขาจะพ่ายแพ้การต่อสู้ครั้งนี้เพราะศิษย์อีกสี่คนต้องคอยพะวงเขากับเตียชุ่ยซัน การประสานของท่าค่ายกลจะอ่อนกำลังลง ฮึงซูซูล่วงรู้ความเจ็บปวดสามีจึงเข้าไปสารภาพความผิดที่ก่อกับหลวงจีนทั้งสาม จากนั้นเธอบอกให้สามีตามเธอเข้าข้างในเพื่อพบกับหยูต้ายงั้ง(พี่สาม) และสารภาพอีกว่าเธอเป็นผู้ที่ทำร้ายเขาเมื่อสิบปีก่อน อีกทั้งให้เขาลงโทษเธอด้วย (ที่เหลือจากนี้เหมือนของเดิม) (เทพเอเธน่าชอบตอนนี้ที่ฮึงซูซูแสดงให้เห็นว่าเธอรักสามีมากแค่ไหน และเป็นคนที่รับผิดชอบในการกระทำของตนเอง) (เราก็ชอบด้วย ฉบับก่อนโดนจับได้เลยจนหนทางสารภาพผิด...ดูไม่เท่ห์เลย)

5. ได้กล่าวถึงที่มาของต้นฉบับของคัมภีร์เก้าเอี๊ยงเมื่อตอนเตียบ่ก้อฝึกฝนในถ้ำ เขียนโดยพระสงฆ์ที่เคยเป็นนักพรตลัทธิเต๋าและศึกษาหลักคำสอนขงจื้อมาก่อน (เทพเอเธน่าเห็นว่าบทยืดเยื้อฟุ่มเฟือย .....เจ๊ขี้บ่นเหมือนกันนะเนี่ย).....กรุณาอ่านบทฉบับสมบูรณ์ต่อที่ คคท.72

6. เตียบ่กี้ร้องไห้เมื่อเห็นฮึงเอี๋ยอ๊วง (ลุงแท้ๆ)ต่อสู้กับซ้องเอี๋ยงเกี๊ย (ลุงร่วมสาบานของพ่อ) เพราะทำให้เขาระลึกถึงกระบวนท่าวรยุทธ์ที่ทั้งพ่อและแม่ถ่ายทอดให้ตอนติดเกาะด้วยกัน

7. พรรคนิกายเม้งก่ามีกฎระเบียบหลัก 3 ข้อ กฎรอง 5 ข้อ ส่วนป้ายคำสั่งอาญาสิทธิ์มีทั้งหมด 12 อันด้วยกัน หกอันแรกมีตำราวิทยายุทธ์สลักไว้อยู่ (เตียบ่กี้และชาวเปอร์เซียร่ำเรียน) ส่วนอีกหกอันที่เหลือสลักกฎระเบียบทั้งแปดข้อของนิกายเอาไว้

กฎระเบียบหลักมีดังต่อไปนี้
ห้ามสาวกนิกายเม้งก่ากลายเป็นจักรพรรดิ์ ขุนนาง ฮ่องเต้ ขุนพล พวกเราต่อต้านมองโกลเพื่อที่ช่วยประชา ไม่ใช่เพื่อแสวงหาผลประโชน์ตนเอง อย่างไรก็ตามอนุญาตให้ใช้ชื่อเหล่านั้นเพื่อต่อสู้ฝ่ายสนับสนุนมองโกล
ห้ามสาวกนิกายเม้งก่าทำร้ายผู้คนและควรจะช่วยเหลือผู้คนที่ได้รับความเดือดร้อน
ห้ามสาวกนิกายเม้งก่าต่อสู้กันเอง

กฎรอง 5 ข้อ
สาวกนิกายเม้งก่าต้องรักษาวาจาสัตย์
สาวกนิกายเม้งก่ารักซึ่งกันและกันประดุจพี่น้อง
ให้ความเคารพผู้อาวุโส บิดามารดร พี่น้องและมิตรสหาย
เคารพต่อสตรีเพศ
ปกป้องนิกายด้วยชีวิตและเชื่อฟังคำสั่ง(สอน)ของผู้อาวุโสในพรรค

8. ดาบคาบมังกรสร้างจากกระบี่เหล็กของเอี้ยก้วย (เหมือนของฉบับก่อน เอี้ยก้วยมอบให้ก๋วยเซี่ยง เทพเอเธน่าไม่สู่รู้พอ ว่ามอบให้กันตอนไหน) กระบี่อิงฟ้าสร้างมาจาก กระบี่สตรีและบุรุษหลอมรวมกัน ทั้งสองศัตราวุธที่ด้ามมือจับมีรอยแยกเล็กๆยาวไม่กี่เซน ใช้ทั้งสองอาวุธทำลายกันเอง ภายในจะพบแผนที่เกาะดอกท้อกับที่ซ่อนตำรา

9. ตำราพิชัยสงครามของแม่ทัพงักฮุยกับคัมภีร์เก้าอิม รวมทั้งวิทยายุทธ์ของสำนักเกาะดอกท้อ ไม่มีฝ่ามือสยบมังกรสิบแปดท่า(ของพรรคกระยาจก) กรงเล็บกระดูกขาวและวิชาอื่นที่บ้วยทิวฮวยฝึกได้ถูกดัดแปลงโดยอึ้งเอี๊ยซือให้ลดความโหดร้ายลง เพราะเขารู้สึกเศร้าเสียใจต่อการตายของศิษย์ทั้งสอง หลังจากเมืองเซี่ยงเอี้ยงแตก ก๊วยเซียงอยู่ที่เสฉวน เมื่อเธอกลับไปถึงก็สายเสียแล้ว ก๊วยเจ๋งและอึ้งย้งไม่ได้มอบอาวุธทั้งสองแก่ก๊วยพู้ เพราะเธอไม่ฉลาดเฉลียวและขาดไหวพริบ (มิกเจาะซือไถ่บอกแก่จิวจี้เยียก)

10. ตระกลูเอี้ยรู้เรื่องความลับในกระบี่และดาบ ดังนั้นเอี้ยโกวเนี้ยล่วงรู้พฤติกรรมชั่วของจิวจี้เยียกและเปิดเผยความผิดของเธอออกม



กูตู
#47   กูตู    [ 08-11-2007 - 16:03:47 ]

Credit: เทพ Athena แห่ง www.spcnet.tv

ดาบมังกรหยก (ต่อ)

11. บทพูดในตอนที่มิกจ้อซือไถ้ก่อนตายที่เจดีย์ได้บังคับจิวจี้เยียกได้ถอนออกไป ไม่มีฉากนี้ แต่ท่านกิมย้งมาวางไว้ตอนเกือบจบที่จิวจี้เยียกถูกเผยโฉมและเธอหวนรำลึกถึงเหตุการณ์ (เราว่าก็ดีนะ มันให้อารมณ์มากกว่า)

12. ที่จริงจิวจี้เยียกคิดฆ่าทั้งสี่คนบนเกาะ แต่เธอมิอาจตัดใจได้เพราะรู้ตัวว่าตกหลุมรักเตียบ่กี้อย่างจัง (หุ หุ หญิงสวยมักจะร้ายกาจ แต่หญิงที่ร้ายกาจมักมิอาจก้าวข้ามบ่วงรัก)

13. ในฉบับก่อนการแก้ไข มีข้อสงสัยว่าเยลูฉีเจ้าสำนักพรรคกระยาจก(เราสงสัยว่าเทพเอเธน่าเขียนชื่อผิดหรือเปล่า เพราะฝ่ามือสยบมังกรมีสิบแปดท่าตั้งแต่สมัยอั้งชิกกงแล้ว หรือเราแปลชื่อผิด...ขอความเห็นจากผู้รู้ด้วยค่ะ) เป็นผู้คิดค้นฝ่ามือสยบมังกรสิบแปดท่าหรือไม่ แต่ตอนนี้เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าเฉียวฟงเป็นผู้เปลี่ยนแปลงจากยี่สิบแปดกระบวนท่าเป็นสิบแปด และอือเต็กเป็นผู้นำวิทยายุทธ์นี้กลับคืนสู่พรรคกระยาจกหลังจากการตายของเฉียวฟง

14. จูหยวนจางพยายามบังคับให้เตียบ่กี้สละตำแหน่งหัวหน้าพรรคนิกายเม้งก่า โดยนำพากองทัพมาพร้อมทั้งสอบถามข้อข้องใจกับเตียบ่กี้เรื่องเตี่ยเมี่ยง ความจริงก็คือภายในนิกายเม้งก่าสูญเสียการควบคุมหัวหน้าเหล่าทัพ แม้ว่าพวกเขายังคงสถานะสาวกนิกายอยู่แต่ต่างฝ่ายต่างรวบรวมอำนาจและกำลังพลของตนเองโดยมีอำนาจสิทธิ์ขาดเองไม่ขึ้นกับนิกายอีกต่อไป นั่นคือเหตุผลที่ ฑูตซ้าย( เอี้ยเซียว) ทูตขวา (ฮ่วมเอี้ยว) และคนอื่นๆตระหนักดีว่าพวกเขาไม่ควรฆ่าจูหยวนจาง เพื่อที่จะล้มล้างราชวงศ์หยวนจูหยวนจางจำต้องมีชีวิตต่อ ส่วนเตี่ยเมี่ยงปฏิญาณตนว่าจะออกจากจงหยวนและสละทุกสิ่งทุกอย่างไม่เกี่ยวข้องอีก นางแย้มยิ้มและให้เตียบ่กี้ตัดสินใจว่าจะไปด้วยกันหรือไม่ (ใจเด็ดมากจ๊ะ พี่บ่กี้เป็นผู้ตามอีกแล้ว)

15. กลุ่ม 3 ไต้ซืออาวุโส แห่งเส้าหลิน ไม่ได้ฆ่าผู้กล้าหาญแห่งคุนลุ้นทั้งสี่ (ฮ่อไถ่ชงและภรรยา อีกสองคนไม่รู้ชื่อ) เซ่งคุนเป็นผู้ลงมือ ไต้ซือทั้งสามโมโหถึงและตวาดว่าไม่มีความจำเป็นที่ต้องฆ่าพวกเขา

16. ซ่งแชจือ ไม่ได้โดนเตียซำฮงฆ่า แต่ถูกลงโทษที่เขาบู๊ตึ้งแทน อย่างไรก็ตามไม่มีผู้ใดยกโทษให้เขา

17. เสี่ยวเจียวให้ตัวแทนคืนป้ายอาญาสิทธิ์(ที่เตียบ่กี้ขโมยมา)กลับคืนสู่พรรคเม้งก่า นอกจากนี้เขายังให้บทคัดลอกของคัมภีร์ Qiankun เป็นการกลับคืน แต่เหตุผลจริงๆคือนางเฝ้าคิดถึงเตียบ่กี้และต้องการจะติดต่อกับเขาอีกครั้ง (เทพเอเธน่าอินกับบทมั่กมาก เธอไปนึกถึงฉบับก่อนและบทดัดแปลงของละคร ที่เสี่ยวเจียวตัดเสื้อให้บ่กี้ เมื่อตอนพี่บ่กี้เข้าไปช่วยคนที่หอเจดีย์ หลังจากตัดเย็บเสร็จเธอก็ส่งให้บ่กี้พร้อมป้ายอาญาสิทธิ์)

18. เตียบ่กี้กลายเป็นคนขาดความเชื่อมั่นเมื่อเขาไม่สามารถช่วยชีวิตแม่ทัพและยับยั้งคำสั่งประหาร Han Lin’er เขาตัดสินใจสละตำแหน่งหัวหน้าให้กับทูตซ้ายขวา และจากจงหยวนไปกับเตียเมี่ยง ที่สำคัญเขาไม่อยากผิดกฎระเบียบของนิกายเม้งก่า

19. ความปรารถนาของจิวจี้เยียกคือไม่อยากให้เตียบ่กี้แต่งงานกับเตี่ยเมี่ยง เตี่ยบ่กี้รับปาก แต่ว่านั้นไม่ได้หมายความว่าเขาห้ามรักเตี่ยเมี่ยงหรือห้ามมีลูกกับนาง ซึ่งจิวจี้เยียกก็ไม่ได้แคร์ประเด็นนั้น ในตอนจบเตียบ่กี้เฝ้าไคร่ครวญว่าเขารักผู้ใดมากที่สุด แต่ก็ไม่ได้คำตอบ แต่เขาก็ไม่ได้ละทิ้งเตียเมี่ยงเพราะเขารู้ว่านางเสียสละเพื่อเขามากเหลือเกิน

20. มีตัวละครห้าผู้อาวุโสแห่งคงท้งในเรื่อง (Guan Neng, Zong Weixia, Tang Wenliang, Chang Jingzhi) แต่จนแล้วจนรอดท่านกิมย้งก็ไม่ได้ตั้งชื่อให้กับตัวละครตัวสุดท้าย เทพเอเธน่าได้แต่ภาวนาว่าท่านกิมย้งจะตั้งชื่อตัวละครนั้นเสียที (เจ๊จะเอาไปทำไม)

21. ท่านยายกิมฮวย กล่าวว่าเธอและสามีโดนพระสงฆ์จากดินแดนตะวันตกวางยาพิษ ในฉบับเก่าเป็น "Tou Tuo สมุนรับใช้มองโกลวางยา

22. เอาบทคำวิจารณ์ออก( ตอนที่เตียบ่กี้พูดกับจิวจี้เยียก ) ที่กล่าวว่าเตียซำฮงคิดว่าวิทยายุทธ์ของตนไม่อาจเทียบระดับก๋วยเจ๋งได้ เพราะในฉบับเก่าตอนนั้นจิวจี้เยียกเริ่มฝึกคัมภีร์เก้าอิมบนเกาะ แต่ในฉบับใหม่เธอยังไม่ได้คัมภีร์มา( มันอยู่ที่เกาะดอกท้อ ) ดังนั้นทั้งสองคนไม่สามารถถกเถียงกันเรื่องวิทยายุทธ์ได้

23. ตอนเตียบ่กี้จับมือเตียซำฮงบนเขาบู๊ตึ้ง เตียซำฮงคิดว่ายอดวรยุทธ์อย่าง ไต้ซือ Jueyuam ก๋วยเจ๋ง เอี้ยก้วยและคนอื่นๆล้วนมีกำลังภายในที่แก่กล้า ( มีเพิ่มชื่อเอี้ยก้วยเข้ามา )

24. จิวจี้เยียกไม่ได้แกล้งฆ่าตัวตายตอนเตียบ่กี้พบเตียเมี่ยง เธอหายหน้าหายตาไปยังเกาะดอกท้อเพื่อฝึกคัมภีร์

25. บทวิจารณ์ที่ว่าฝีมือของเซ่งคุนเทียบเท่า กลุ่ม 3 ไต้ซืออาวุโส แห่งเส้าหลิน ถูกถอดออกไป มีแต่กล่าวว่าเหนือกว่าเจี่ยสุ่นราชสีห์ขนทอง

26. เตียบ่กี้ใช้พลังลมปราณเก้าเอี๊ยงทำลายพลังฝีมือของกลุ่มผู้อาวุโสXuanming ทั้งสามคนกำลังต่อสู้กันเมื่อกลุ่มผู้อาวุโสXuanming มาตามล่าคัมภีร์จากจิวจี้เยียก Lu Zhangke ต้องการคัมภีร์และลวมลามจิวจี้เยียก แต่ถูกเตียบ่กี้สยบไว้ได้ ภายหลังพลังฝีมือของพวกเขาแย่ยิ่งกว่ามือธนูแปดคนของเตี่ยเมี่ยง


อันนี้เป็น การแก้ไขครั้งล่าสุดของท่านกิมย้ง แต่ รู้สึกว่าที่บอร์ดนิยายจีนพันทิพย์เค้า บอกว่า น. นพรัตน์ ใช้สำนวนเก่ามาแปล ยังไงก็ช่วยๆดูกันหน่อยนะครับ ว่าผิดถูกยังไงบ้าง



อิคิวซัง
#48   อิคิวซัง    [ 08-11-2007 - 19:19:54 ]

งง ดาบ กับ กระบี่ มันต่างกันอย่างไรขอรับ



vมังกรxลับv
#49   vมังกรxลับv    [ 08-11-2007 - 21:54:12 ]

ประมาณนี้มั้งครับ

ดาบ -เน้นการทำลายล้าง เน้นพลังโจมตี
กระบี่ - เน้นความว่องไวเป็นหลัก



ยาจกอุดร
#50   ยาจกอุดร    [ 08-11-2007 - 22:10:31 ]


ตรงตามท่าน หลับ ดาบ เน้น ท่าทางที่ดุดันเเละรุนเเรง เเต่กระบี่เน้นท่างท่าที่สวยงาม เเละว่องไว
ก็ประมานนี้



ประมุขหอดารา
#51   ประมุขหอดารา    [ 08-11-2007 - 22:45:57 ]

ผมว่าความแตกต่างกันระหว่าง

ดาบ กับ กระบี่

หน้าจะอยู่ที่

ดาบ มีความคมเพียงด้านเดียว อีกหนึ่งด้านเป็นด้าน ไร้คมหรือที่เรียกว่า สันดาบ

กระบี่ มีความคมทุกด้าน

น่าจะเป็นตามนี้นะจากที่สังเกตุ



ยาจกอุดร
#52   ยาจกอุดร    [ 08-11-2007 - 22:48:21 ]

ท่านประมุขสวัดดีครับท่าน วะวานนอนกี่ยาม



ประมุขหอดารา
#53   ประมุขหอดารา    [ 09-11-2007 - 08:43:22 ]


ข้อมูลของท่าน กูตู ผมเคยอ่านแบบเต็มๆมาแล้ว ในพันธุ์ทิพ น่ะครับ แต่ผมว่า มันแหม่งๆยังไงไม่รู้

เก้าเอี้ยง ก็แปลเป็นเก้าอิม ผมเลยไม่กล้าที่จะยืนยันว่า ข้อมูลตรงนั้นเชื่อถือได้ถึง 100% ไม๊ แต่ส่วนใหญ่จะตรงนะครับแต่ก็มีบางส่วนหลายๆส่วนที่ยังดูขัดๆยังไงไม่รู้

คือข้อมูลตรงนี้ต้องขึ้นอยู่กับคนแปลเลยครับ คือคนแปลจากภาษาจีนมาเป็นอังกฤษ แล้วก็ภาษาอังกฤษมาเป็นไทยอีกที่ ผ่านพ่อค้าคนกลางหลายต่อ เลยไม่รู้ข้อมูล 100%หรือปล่าว



ประมุขหอดารา
#54   ประมุขหอดารา    [ 09-11-2007 - 08:45:37 ]

วันนี้เราจะมาต่อ กันที่กองธงที่เหลือกัน



ประมุขหอดารา
#55   ประมุขหอดารา    [ 09-11-2007 - 08:53:47 ]


ธงสีแดง / กองธงอัคคีเพลิง

เอี้ยเซียวตวัดมือขวาซัดธงเล็กๆสีแดงผืนหนึ่งลงยังลานกว้าง

เห็นสาวกนิกายเม้งก่าที่ใช้ผ้าเขียวโพกศีรษะล่าถอยไป สาวกนิกายสังกัดกองธงอัคคีเพลิง ที่ใช้ผ้าแดงโพกศีรษะห้าร้อยคนวิ่งเข้ามาแทนที่ ทุกผู้คนมือถือกระบอกฉีด ฉีดพุ่งน้ำมันสีดำมะเมื่อมยังใจกลางลานกว้าง ผู้ดูแลกองธงอัคคีเพลิง ตวัดมือซัดระเบิดดินประสิวออกลูกหนึ่ง น้ำมันพอเผชิญอัคคี เปลวไฟก็ลุกพรึบขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

ละแวกยอดเขากวงเม้งเต้ง อันเป็นที่ตั้งนิกายเม้งก่ามีบ่อน้ำมัน ปรากฎน้ำมันทะลักออกมาทั้งกลางวันกลางคืน พอเผชิญอัคคีก็ลุกไหม้ สาวกนิกายสังกัดกองธงอัคคีเพลิง ล้วนสะพาย...บเหล็กอยู่บนหลัง
ใน...บบรรจุน้ำมัน พ่นน้ำมันจุดไฟเผา สุดที่ผู้คนจะต้านทานได้



ประมุขหอดารา
#56   ประมุขหอดารา    [ 09-11-2007 - 09:10:02 ]


ธงสีดำ / กองธงน้ำป่า

สาวกกองธงอัคคีเพลิงพอล่าถอยออกจากลานกว้าง เอี้ยเซียวก็ซัดธงสีดำออก สาวกนิกายสังกัดกองธงน้ำป่าที่ใช้ผ้าดำโพกศีรษะจำนวนห้าร้อยคนฮือเข้ามาแทนที่ เครื่องมือที่กองธงน้ำป่าพกพามา ประกอบด้วยสายยางยี่สิบเส้น มีทั้งกระบอกฉีดและถังหิ้ว ผู้คนแถวหน้าสุดสิบคน ผลักเคลื่อนรถไม้สิบคันมาถึง

ผู้ดูแลกองธงน้ำป่านามถังเอี้ยออกคำสั่งคำเดียว ประตูรถก็ถูกผลักเปิดปล่อยสุนัขป่าหิวโหยออกมายี่สิบตัว ทุกตัวแยกเขี้ยวกางเล็บ ทำท่ากระโจนกัดผู้คน สร้างความสงสัยใจแกเหล่าผู้กล้ายิ่ง ไม่ทราบสุนัขป่าเหล่านี้มีส่วนเกี่ยวข้องใดกับ " น้ำป่า " ได้ยินถังเอี้ยตวาดสั่งว่า

" พ่นน้ำ "

สาวกนิกายร้อยคนถือกระบอกฉีดเนื้อเคลือบ พ่นสายน้ำร้อยสายใส่สุนัขป่าดุร้าย เหล่าผู้กล้าสูดได้กลิ่นบูดเน่าชนิดนึง เห็นสุนัขป่าทั้งยี่สิบตัวพอถูกสายน้ำพุ่งใส่ก็ล้มลงกับพื้น ส่งเสียงหอนโหย ชั่วพริบตาเนื้อหนังเหวอะหวะเน่าเปื่อย กลายเป็นถ่านมอดไหม้กองหนึ่ง ที่แท้สายน้ำที่สาวกนิกายกองธงน้ำป่าฉีดพุ่งออก เป้นน้ำยากัดกร่อน ที่มีพิษร้ายแรง ปรุงกลั่นจากดินประสิวและดินถนำ

เหล่าผู้กล้าชมดูสภาพอันอกสั่นขวัญแขวนนี้จนขนลุกชี้ชัน ครุ่นคิดขึ้น

หากน้ำพิษเหล่านี้ไม่พุ่งใส่ฝูงสุนัขป่า เปลี่ยนเป็นยิงใส่ร่างเรา จะเป็นอย่างไร ?

สาวกนิกายกองธงน้ำป่ายกหัวฉีดของสายยางทั้งสี่สิบชุด ทำท่าจ่อใส่เหล่าผู้กล้า แสดงว่าในสายยางก็บรรจุเต็มไปด้วยน้ำพิษ หากฉีดพุ่งออก มิเพียงแรงดันของน้ำรุนแรง ทั้งสามารถยิงไกล เอี้ยเซียวชิงดบกธงดำให้ถอนกำลัง สาวกนิกายกองธงน้ำป่าก็ลากดึงสายยางออกจากบริเวณไป ขณะที่บิดหมุนสายยางหัวฉีดของสายยางหันไปทิศทางใด นักสู้ผู้กล้าทางด้านนั้นอดหน้าแปรเปลี่ยนไปมิได้



ประมุขหอดารา
#57   ประมุขหอดารา    [ 09-11-2007 - 09:29:36 ]


ธงสีเหลือง/ กองธงดินหนา

เห็นเอี้ยเซียวซัดธงเล็กๆออกผืนหนึ่ง สาวกนิกายเม้งก่าที่ใช้ผ้าเหลืองโพกศีรษะขบวนหนึ่งเดินเข้าสู่ลานกว้าง ทุกผู้คนถือพลั่วเหล็ก ผลักเคลื่อนรถที่บรรทุกดินทรายปูนหินมาถึง แต่จำนวนผู้คนมีน้อยกว่ากองธงทอง ไม้ น้ำ อัคคี ทั้งสี่ ประมาณหนึ่งร้อยคนเท่านั้น

ผู้คนทั้งหนึ่งร้อยคนล้อมเป็นวงยกพลั่วกระแทกใส่พื้นดินโดยพร้อมเพรียงพลันได้ยินเสียงโครมกึกก้อง ผงคลีคละคลุ้งอบอวล พื้นที่กลางลานกว้างยุบลง ปรากฎเป็นหลุมใหญ่ มีเส้นผ่าศูนย์กลาง สามสี่วาหลุมหนึง

จากนั้นดินโคลน รอบหลุมม้วนกระจาย ปรากฎชายฉกรรจ์สวมหมวกเหล็ก มือถือพลั่วเหล้กจำนวนหนึ่งมุดขึ้นมา มีทั้งสิ้นสี่ร้อยคน ผู้คนสี่ร้อยคนพลันมุดขึ้นจากใต้พื้นผิวดิน สร้างความแตกตื่นแก่เหล่า ผู้กล้าจนอุทานออกมา

ที่แท้สาวกนิกายกองธงดินหนาสี่ร้อยคนนี้ ขุดอุโมงค์จากที่ห่างไกลชอนไชมาถึงใต้ลานกว้าง ลงมือขุดเป็นหลุมใหญ่ใช้ไม้แผ่นไม้เส้นค้ำยันไว้ ซ่อนตัวอยู่ภายใน ผู้ดูแลกองธงดินหนานามง้วนฮ็วงออกคำสั่งคำหนึ่ง สาวกนิกายทั้งสี่ร้อยคนพากันถอนไม้ยันออก พื้นดินทั้งแถบก็ยุบลงไป สาวกนิกายที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ดินทลายผิวดินออกมา

เมื่อเป็นเช่นนี้ ซากสุนัขป่า คราบน้ำมัน ดินที่ไหม้เกรียมล้วนยุบหายลงไปสาวกนิกายร้อยคน ขยับพลั่วเหล็ก ทำท่ากระทุ้งใส่อากาศธาตุเหนือหลุมใหญ่สามครา หากแม้นมีคนพลัดตกลงหลุม ยังคิดกระโดดกลับขึ้นมา ต้องถูกพลั่วเหล็กหนึ่งร้อยเล่มนี้ กระแทกร่วงหล่นลงไป

จากนั้นปูน หิน เม็ดทราย ก้อนหินเป็นคันรถถูกเทลงในหลุมถมหลุมใหญ่และหลุมน้อยจนเรียบเสมอ พลั่วเหล็กห้าร้อยเล่มยกขึ้นแล้วทิ้งลง ความเคลื่อนไหวงดงามน่าดู ผู้ดูแลกองธงพออกคำสั่ง สาวกนิกายทั้งห้าร้อยคน พากันน้อมกายคารวะต่อเตียบ่กี้ พื้นที่กลางลานกว้างถมไว้ด้วยหินทรายราบเรียบ ดั่งกระจกใส ยังแข็งแกร่งกว่าตอนแรกอีก

เหล่าผู้กล้าทราบกระจ่างแก่ใจ ครุ่นคิดขึ้น

หากเรายืนอยู่กลางลานกว้าง กล่าววาจาลบหลู่นิกายเม้งก่า ตอนนี้คงถูกฝังร่างกับใต้พื้นพสุธาแล้ว




ประมุขหอดารา
#58   ประมุขหอดารา    [ 09-11-2007 - 09:33:44 ]



เมื่อเป็นเช่นนี้ กองธงห้าธาตุแห่งนิกายเม้งก่าสำแดงอานุภาพ เพียงซ้อมมือเที่ยวหนึ่ง เหล่าผู้กล้าล้วนชมดูจนหน้าถอดสี ทุกผู้คนล้วนทราบว่า ระหว่างนี้นิกายเม้งก่าลุกฮือขึ้นก่อการ บุกตีเมืองยึดพื้นที่ โค่นกองทัพมองโกลแตกพ่าย ตอนนี้ทั้งหมดตระเตรียมใช้กลยุทธ์ระหว่างการทำศึก จัดการกับเหล่าผู้กล้าชาวยุทธจักร ทั้งมีกำลังคนมากมาย ทั้งจัดกำลังอย่างเข้มงวด บวกกับฝึกซ้อมจนช่ำชองชำนาญ ไม่ว่าค่ายสำนักใดในยุทธจักร ล้วนไม่อาจต้านทานรับมือได้



ประมุขหอดารา
#59   ประมุขหอดารา    [ 09-11-2007 - 09:34:36 ]

ครบแล้วสำหรับ อานุภาพและรายละเอียดของ กองธงห้าธาตุแห่งนิกายเม้งก่า



ประมุขหอดารา
#60   ประมุขหอดารา    [ 09-11-2007 - 09:37:12 ]

ตอนต่อไปผมจะมาบรรยายเกี่ยวกับ

การฝึกสำเร็จ


เคล็ดวิชา เคลื่อนย้ายจักรวาล แบบย้อนทวน ซ้ายจริงขวาลวง จากป้ายประกาศิตอัคคีทั้ง 6

โปรดติดตามได้ที่กระทู้แห่งนี้



ตอบกระทู้
ชื่อ
รหัส กรอกตัวอักษร ตามภาพ
ข้อความ


emo-smile emo-happy emo-lol emo-enjoy emo-kiku emo-cool emo-hoho emo-drool emo-hungry emo-kiss emo-sorry emo-sad emo-cry emo-tear emo-question emo-doubt emo-shock emo-redface emo-plz emo-peevish emo-angry emo-moody emo-sneer emo-makefaces emo-good emo-touched emo-love emo-bore emo-tired emo-vomit
bold italic underline img link superscript subscript size color space justifyleft justifycenter justifyright quote box youtube