ยาวหน่อยแต่ก็สนุกนะคราบบบ พอดีไปเจอมา

ตาย โพสกันสะยาวเลย เห็นแล้วก็ปวดหัวเหมือนกัน

คห.37 ก็มันคือกรงเล็บเทพยดาไงครับ ต้นตำหรับเลย มันเลยไม่มโหดเหมือนกรงเล็บกระดูกขาวและกระบวนท่าย่อมงดงามกว่า ของจิวจี้เยียกก็เหมือนกันใช้กรงเล็บเดียวกัน แต่รีบร้อนที่จะฝึกความดุดันจึงออกทางกรงเล็บกระดูกขาว ซึ่งชาวยุทธ์ต่างก็มองว่ามันคือกรงเล็บกระดูกขาว เพราะเคยปรากกฎมาประมาณ 300 กว่าปีที่แล้ว ส่วนเอี้ยคังที่ฝึกนั้นเป็นกรงเล็บกระดูกขาวที่บ๊วยเทียวฮวงสอนให้ แนวทางที่ออกมานั้นย่อมร้ายกาจเหมือนของบ๊วยเทียวฮวงผู้สอนนั่นเอง

เอ ขอถามไรหน่อยครับ ตอนที่เอี้ยก้วยลี้ภัยไปที่สำนักสุสานโบราณพบยายซุนและต่อมาได้เป็นศิษย์เสียวเหล่งนึ่งนั้น ตอนนี้นเอี้ยก้วย อายุ 13 ปีไม่ใช่หรอแล้วเหล่งนึ่งอายุประมาณ 18 ปี ทำไมนี่บอก8ปี แล้วถ้าเอี้ยก้วย 8 ปี เหล่งนึ่ง อายุ 18 ปี อายุห่างกันตั้ง 10 ปีเลยหรือ

ถึงบอกไงครับ ว่ามีให้จับผิดอยู่เรื่อยๆ

ทำไมสตรีเสื้อเหลือง หรือแม่นางแซ่เอี้ย จึงรู้วิชากรงเล็บกระดูกขาว ขอมาตั้งสมมติฐานอีกแล้วค่ะ

1.กระบี่เหล็กนิลดำ ถูกตีเป็นกระบี่อิงฟ้า และกระบี่ฆ่ามังกร เพราะเอี้ยก้วยมอบกระบี่ให้ก้วยเจ๋ง ก้วยเจ๋งเป็นยอดวีรบุรุษที่ซื่อตรง แม้แต่ตอนที่เอี้ยก้วยถูกตัดแขนเพราะก้วยพู้ เขาก็จะตัดแขนลูกสาวของตนชดใช้

ก้วยเจ๋งมีความเข้าใจผิดอยู่ครั้งหนึ่ง ในตอนที่เอี้ยก้วยจะฆ่าก้วยเจ๋งเพื่อแลกยาถอนพิศดอกรักว่า ที่เอี้ยก้วยทำอย่างนั้นเพราะธาตุไฟเข้าแทรก เนื่องจากเอี้ยก้วยโหมฝึกวรยุทธ แล้วเอี้ยก้วยก็ตอบรับด้วยว่า ใช่ และขอบคุณก้วยเจ๋งที่ช่วยเหลือ ไม่เช่นนั้นธาตุไฟที่เข้าแทรกคงทำให้เขาตาย

ก้วยเจ๋งจึงเข้าใจว่า เอี้ยก้วยบ้าฝึกวิชามากๆ ถึงมากที่สุด ดังนั้นเพื่อเป็นการตอบแทนเอี้ยก้วยในการมอบกระบี่เหล็กนิลดำให้ตนเป็นที่ระลึก (หรือเพื่อให้นำไปตีเป็นกระบี่ใหม่ก็แล้วแต่) จึงได้มอบคัมภีร์กรงเล็บกระดูกขาวให้เอี้ยก้วย เพื่อเป็นการตอบแทน ตามนิสัยลูกตัดแขนใคร พ่อก็จะกลั้นใจตัดแขนลูกไปคืนเขา

2.เอี้ยก้วยเคยไปไหว้หลุมศพเอี้ยคังผู้เป็นพ่อ เป็นไปได้ไหมว่า หลังจากให้คนช่วยบูรณาหลุมศพของพ่อ หลังจากออกจากเมืองเซียงเอี้ยงแล้ว จะพบคัมภีร์โดยบังเอิญ ก็เพราะเอี้ยคังรู้และฝึกวิชากรงเล็บกระดูกขาวไม่ใช่หรือ? (ตามประเพณีตั้งแต่โบราณกาล ชาวจีนส่วนใหญ่จะกลับไปไหว้หลุมศพบรรพบุรุษของตนเองทุกปีทั้งนั้นแหละ)

ใครเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับสมมติฐานนี้ ช่วยเข้ามาวิเคราะห์กันหน่อยค่ะ ว่าพอจะมีทางเป็นไปได้บ้างไหม?

ข้าน้อยก็รู้เยอะพอสมควร แต่มิกล้าชี้แนะ เพราะแต่ละกระทู้มันยาวๆกันซะเหลือเกิน ไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดีเอาเป้นว่า ข้าน้อยขอบาย แต่คุณแจมก้มีเจตนาดีนะครับ ข้อมูลมีถูกบ้างผิดบ้างอันนี้ไม่ว่ากัน นับถือๆ

ข้อน้อยเองก้เคยได้ยิน นามกระเดื่องของคุณ ศิษย์เก่ามหิดล อยุ่ไม่น้อยเหมือนกันเคยอ่านบทความของเค้าด้วย นับถือเลยว่าเค้ารู้มากจริงๆข้าน้อยมิสามารถเทียบเปรียบได้ ทั้งๆที่ก้อ่านมาทุกภาคทุกตัวอักษรแล้ว เหมือนกัน

เคยได้ยินเหมือนกันนะรู้สึกว่าเป้นฉบับตีพิมพ์เก่าๆเลยง่ะ รู้สึกถ้าจำไม่ผิด ว่าเป็นของ ว.ณ เมืองลุง
ว่าเตียบ่กี้ได้ฝึกคัมภีร์ 18 ฝ่ามือพิชิตมังกรด้วย หลังๆมาท่านกิมย้งก้มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเนื้อเรื่องกันหลายต่อหลายครั้ง กันแบบยกชุด เลยเหลือแค่ เตียบ่กี้ได้เปิดอ่านคัมภีร์เก้าอิมหมดทั้งเล่มแล้วรู้สึกทึ่งเพราะว่าเป็นวิชาที่ล้ำลึกมาก แต่ไม่รู้ได้ฝึกป่าว เพราะจบก่อนตัวร้ายก็ตายหมดแล้วกู้ชาติสำเร็จแล้ว

ตอนผมไปเจอที่ร้านเช่ามาแทบจะทุกร้านเลยนะครับ ของท่าน ว.ณเมืองลุง เนี่ยแหละแต่ละเรื่องที่ท่านได้แปลไว้ แบบว่าเก่ามากๆ กระดาษงี้เหลืองเลย น่าปกกับกระดาษก้ดูเหมือนเก่ามากจะขาดแหล่ไม่ขาดแหล่ กระผมเลยไม่กล้าเช่าผลงานของท่านมาอ่านสักเรื่องเลย กลัวทำขาด ถ้าเข้าใจไม่ผิดนะท่านคงเลิกแปลไปแล้วล่ะมั๊งครับ ถ้าผิดขออภัย

เป็นประจำที่คุณขอคิดด้วยคนตั้งสมมุติฐาน แล้วผมจะมาตอบเสมอ
เพราะมีนิสัยคล้ายคลึงกันเพราะชอบวิเคราะห์ อันนี้ผมคิดเองนะ ไม่รู้คุณขอคิดด้วยคนรู้สึกเหมือนผมหรือเปล่า ที่คุณตั้งสมมุติฐานมาในความคิดผมผมจะไปทางข้อ 1 มากกว่า ประมาณนั้น เพราะว่าแม่นางแซ่เอี้ยรู้สึกจะได้กรงเล็บแบบสมบูรณ์เลย คัมภีร์คงไม่ได้ขาดตกแน่ น่าจะมาจากฉบับสมบูรณ์ของก๊วยเจ๋งและอึ้งย้ง
ที่มีและน่าจะได้ก่อนใส่ในดาบฆ่ามังกรและกระบี่อิงฟ้าชัวร์ อาจจะเป็นก๊วยเจ๋งให้คัมภีร์ไปฝึก หรือไม่ลูกของเอี้ยก้วยได้ก๊วยเจ๋งอึ้งย้งไปดูแลและให้คัมภีร์ฝึกก็เป็นได้
ส่วนข้อ 2 นั้นผมว่าเอี้ยคังเอาคัมภีร์กรงเล็บกระดูกขาวไปไว้ไหนก็น่าคิด แต่ผมเชื่อว่าน่าจะเป็นฉบับของก๊วยเจ๋งอึ้งย้งมากกว่าเพราะมันเป็นเก้าอิมฉบับสมบูรณ์ซึ่งแม่นางแซ่เอี้ยก็รู้สึกจะใช้ได้สมบูรณ์เหมือนกันส่วนของเอี้ยคังมันมีแค่ส่วนเดียวหรือผิดเพี้ยนจากบ๊วยเทียวฮวงเป็นต้นแบบ ซึ่งแม่นางแซ่เอี้ยใช้ได้สวยงามและไม่เ...้ ยมโหดแบบของบ๊วยเทียวฮวง ตามที่คิดที่ได้เรียนน่าจะมาจากฉบับก๊วยเจ๋ง
ผมอยากเห็นความเห็นคนอื่นๆอีกเหมือนกัน ว่าคิดเหมือนผมหรือเปล่า

จำได้ว่าเคยมีคนมาโพสแล้ว




จับผิดได้เรื่อยๆอะ บทความนี้

แต่ผมคิดว่า เก้าอิมของแม่นางเสื้อเหลืองเนี่ย เป็นเฉพาะเก้าอิมส่วนที่สลักอยุ่ที่กำแพงสุสานโบราณเท่านั้นล่ะครับถ้าจะสำเร็จก้สำเร็จเฉพาะส่วนนั้นแหละ เพราะตั้งแต่ที่เขาฮั่วซัว เอี้ยก้วยกับเซียวเหล่งนึ่ง ก็หายไปแล้วก๊วยเซียงยังตามไม่เจอเลยไม่มีข่าวใดๆจากไหนเลยด้วยคิดว่า เป็นไปไม่ได้ครับที่ ก๊วยเจ๋งจะให้ฉบับของตัวเองให้เอี้ยก้วยไปฝึก เพราะเนื้อเรื่องจบแค่ตรงนั้นในนวนิยายบรรยายไว้จนถึงเอี้ยก้วยกับเซียวเหล่งนึ่งเดินจากไปเลยนะ เอี้ยก้วยก็หายสาบสูญไปเลยยาวจนมาถึงตอนที่ก๊วยเซียงได้ฟังเก้าเอี้ยงบางส่วนแล้วแต่ยังไม่กลับจะอยู่เที่ยวต่อ หลังจากนั้นก๊วยเจ๋งอึ้งย้งและทุกคนก็ตายหมดก๊วยเซียงยังไม่ทันได้กลับไปที่บ้านเลยก็ยังไม่มีข่าวคราวใดๆของเอี้ยก้วยอีก อีกอย่างคงไม่มีใครบ้าเอาไปอ่านแล้วกลับไปวางคืนไว้ที่เกาะดอกท้อหรอก เก็บรักษาไว้กับตนเองดีกว่า ไม่มีทางที่จะส่งมอบคัมภีร์กันเลย อีกอย่างคัมภีร์มันซ่อนอยู่ที่เกาะดอกท้อ ไม่ได้ซ่อนอยู่ในดาบ ในดาบมีแค่เพียงแผนที่บอกทางไปเอาคัมภีร์ที่เกาะดอกท้อ สรุปเก้าอิมที่แม่นางเสื้อเหลืองสำเร็จเนี่ยไม่ใช่แบบสมบูรณ์ครับเป็นเก้าอิมเวอร์ชั่นสุสานโบราณ

งง เหมือนกันกับความเห็นที่ 48 ของคุณ AKK ว่าเคยอ่านบทวิเคราะห์นี้มาแล้ว เพราะดิฉันเป็นผู้คิดขึ้นมาเองสดๆ ร้อนๆ แต่ก็เป็นไปได้ที่มันอาจจะบังเอิญไปคล้ายความคิดของใครเข้า

ตอนที่จินตนาการเรื่องนี้ คิดถึงเรื่องที่เอี้ยก้วยครางแครงสงสัยในตัวก้วยเจ๋งและอึ้งย้งที่คิดว่าทั้ง 2 ฆ่าพ่อของตัวเอง แม้จะทราบมาก่อนจนกระจ่างแล้วว่า พ่อของตนไม่ใช่คนดี และได้ไปไหว้หลุมศพพ่อมาแล้ว

แต่ก้วยเจ๋งเคยสัญญากับเอ้ยก้วยว่า หลังเสร็จสิ้นสงครามรบกับมองโกลแล้ว ตนเองจะเล่ารายละเอียดการตายของพ่อให้ฟัง

ดังนั้นเมื่อสิ้นสงคราม เอี้ยก้วยอาจถามถวงคำสัญญานั้น

ไม่ใช่เพราะตนเองยังไม่รู้เรื่องกระจ่าง แต่อาจเพราะอยากลองดูว่าก้วยเจ๋งจะว่าอย่างไร? หรือถ้าเป็นศาล การเรียกได้ว่าจำเลยยังไม่เคยให้การเลย จึงควรให้ความเป็นธรรมกับจำเลยด้วย

และอีกประการหนึ่งคือ แม้จะทราบว่าพ่อเป็นคนไม่ดี แต่เวลาที่ก้วยเจ๋งพูดถึงเอี้ยคัง มักจะตำหนิตัวเองทุกครั้งว่า "เป็นเพราะข้าไม่ดี ข้าเป็นพี่ร่วมสาบาน แต่กลับไม่สามารถพูดเกี้ยกล่อมให้เอี้ยคังกลับใจได้"

ตรงนี้เป็นสิ่งที่ทำให้เอี้ยก้วยรู้สึกดีขึ้น เพราะคำพูดเช่นนี้อาจช่วยปรอบประโลมใจเอี้ยก้วยในทำนองที่ว่า "ทั่วยุทธภพมีแต่คนด่าทอสาบแช่งเอี้ยคัง มีแต่ก้วยเจ๋งเท่านั้นที่ต่างออกไป"

เมื่อก้วยเจ๋งเล่าจบ ก้วยเจ๋งคงจะนึกว่า เอี้ยก้วยคงจะแค้นเคืองตน แต่ก็ต้องแปลกใจว่า เอี้ยก้วยรับทราบเรื่องดังกล่าวทั้งหมดแล้ว ก่อนที่ก้วยเจ๋งจะเล่าเสียอีก

และเอี้ยก้วยคงจะขอให้ก้วยเจ๋งเล่าต่อไป ว่าในช่วงเวลาที่ก้วยเจ๋งอยู่กับเอี้ยคัง มีชีวิตที่ดีๆ ร่วมกันอย่างไร ซึ่งก้วยเจ๋งก็อาจจะเล่าชีวิตตั้งแต่ในวัยเด็กของเอี้ยคัง จนกระทั้งโต และมีชื่อเสียงในด้านไม่ดีอย่างไร ซึ่งก็คงกล่าวถึงวิชาที่เอี้ยคังและก้วยเจ๋งฝึกด้วยกันด้วย นั้นก็คือวิชากรงเล็บกระดูกขาว

เอี้ยก้วยอาจจะสงสัยต่ออีก และถามต่อไปถึงวิทยายุทธชุดนี้

ดังนั้นเพื่อให้เป็นการระลึกถึงพ่อ ก้วยเจ๋งก็อาจจะออกกระบวนท่ากรงเล็บกระดูกขาวให้ดู (ซึ่งก้วยเจ๋งก็มีความเข้าใจผิดๆ อยู่แล้ว ในความคิดที่ว่า เอี้ยก้วยบ้าการฝึกวิชา ถึงกับเคยธาตุไฟเข้าแทรก เอี้ยก้วยมีพรสรรค์ในการฝึกวิชา แค่ดูก็จำได้ เช่นวิชาไม้ตีสุนัข ก็เกิดจากการลักจำมา

หรืออาจเป็นไปได้ว่า ก้วยเจ๋งอาจมอบคัมภีร์ให้ โดยลอกเป็น 2 ชุด

ชุดแรกใส่ไว้ในกระบี่ฆ่ามังกร

และชุดที่2 มอบให้เป็นที่ระลึกถึงความสัมพันธ์ระหว่างก้วยเจ๋งและเอี้ยคัง โดยมอบให้เอี้ยก้วย และเพื่อเป็นการมอบของที่ระลึกแลกเปลี่ยนกับกระบี่เหล็กนิลดำ ที่มีเนื้อเหล็กที่หายากในยุทธภพ ตามนิสัยของก้วยเจ๋งที่มักตอบแทนผู้อื่นอย่างเท่าเทียม ดังนิสัยของก้วยเจ๋ง ที่ดิฉันอธิบายไว้ในกระทู้นี้ในความเห็นที่44 แล้วว่า "ลูกตัดแขนใคร พ่อก็จะกลั้นใจตัดแขนลูกไปคืนเขา "

ข้อวิเคราะห์ของดิฉันทั้งหมดก็มีเนื้อหาประมาณนี้ ถ้าบังเอิญไปตรงกับความคิดของใคร ก็ไม่ได้หมายความว่าดิฉันไปลอกของเขามาแน่ๆ เพราะไม่ใช่นิสัยของดิฉัน หากมีผู้วิเคราะห์มาก่อนหน้านี้แล้ว ดิฉันมักให้เกียรติคนผู้นั้นเสมอ โดยจะใส่ข้อมูล หรือชื่ออ้างอิงของคนผู้นั้นไว้ ซึ่งจะเห็นได้จากกระทู้อื่นๆ ที่ดิฉันทำอย่างนั้นเสมอๆ เอาเป็นว่าดิฉันขอรับรองว่า เนื้อความที่ดิฉันเขียนไว้ในกระทู้นี้ ดิฉันคิดวิเคราะห์เองสดๆ

หล่อนคะ ตั้งแต่ตอนสู้กับราชครู เอี้ยก้วยยังคิดว่าน่าจะนำกระบี่เหล็กนิลติดมาด้วย แสดงว่าตอนนั้นยันตอนจบที่เดินจากไปกับเหล่งนึ่ง ยังไม่ได้มีการมอบกระบี่เหล็กนิลให้ก๊วยเจ๋งเลยนะคะ แสดงว่าหลังจากนั้น เอี้ยก้วยกับเซียวเหล่งนึ่งน่าจะย้อนกลับไปหาก๊วยเจ๋งกับอึ้งย้งอีกที ตั้งแต่ตอนเมืองยังไม่แตก แต่ตอนนั้นก๊วยเซียงก็ดันออกมาแรดตามหาเอี้ยก้วยก็เลยสวนทางกันเลยไม่เจอกันไงคะ กว่านังก๊วยเซียงจะกลับไปหาพ่อแม่ พ่อแม่นางก็พลีชีพเพื่อชาติแร๊วค่ะ นางเลยไม่ทราบมาก่อนว่า เอี้ยก้วยกับพี่สะใภ้กลับไปหาพ่อแม่ตัวเอง เพราะตัวเองมัวแต่ออกมาตามหาเอี้ยก้วย

บวกกับระหว่างที่เอี้ยก้วยไปหาก๊วยเจ๋ง อาจจะมีการคุยกันในหลายๆเรื่อง รวมทั้งเรื่องคัมภีร์และการนำกระบี่เหล็กนิลไปตีนั่นแหละค่ะ เพราะฉะนั้นเดี๊ยนว่า ลูกหลานเอี้ยก้วยใช้วิชานั้น คือฉบับสมบูรณ์แน่นอนค่ะ

สวยยยย

เอ้าๆ ๆไปกันใหญ่เฮ้อ... เซ็ง คิดกันไปเรื่อย อะไรถ้าไม่ได้อยู่ในนวนิยายคิดกันไปเองก็เชื่อถือไรไม่ได้หรอก แต่ที่แน่นอนที่สุดเก้าอิมที่แม่นางเสื้อเหลืองสำเร็จเนี่ยไม่ใช่แบบสมบูรณ์ครับเป็นเก้าอิมเวอร์ชั่นสุสานโบราณ อันนี้ชัวส์

อ่านแล้ว ตาลาย เปงลม

คุณป๊อปสุดหล่อก็พูดถูกนะคะว่ามันไม่อยู่ในนิยายเชื่อถือไม่ได้ แร๊วในนิยายมันบอกเหรอไงคะว่า แม่นางเสื้อเหลืองใช้มันไม่สมบูรณ์

แค่ในนวนิยายไม่ว่าจะภาคไหนหน้าไหนหรือข้อความใดๆใครแปลไม่ได้เอ่ยเรื่องที่ ก๊วยเจ๋งหรืออึ้งย้ง มอบคัมภีร์ให้เอี้ยก้วยหรือเซียวเหล่งนึ่งเลยแม้แต่น้อยแค่นี้ก็อธิบายได้แล้วล่ะครับ เก้าอิมที่เวอร์ชั่นที่แม่นางคนนี้สำเร็จคือเวอร์ชั่นที่สลักอยู่บนเพดานในสุสานโบราณ หลักการนี้คือการใช้ข้อความในนวนิยายมาวิเคราะห์มีโอกาสเป็นจริงสูงที่สุด เพราะถ้าวิเคราะห์อย่างที่คุณสวยกล่าวมาคือไม่ใช้ข้อความในนวนิยายมาวิเคราะห์ผมว่าเรื่องมันจะไม่จบแค่ เก้าอิมของแม่นางเสื้อเหลืองหรอก มันอาจจะยาวไปจนถึง
เตียบ่กี้ได้ฝึกเก้าอิมฉบับสมบูรณ์จนสำเร็จแล้วแล้วถ่ายทอดให้เตี่ยเมี่ยงฝึกด้วย(ก็ในนวนิยายบอกว่าเตียบ่กี้ได้เปิดอ่านเก้าอิมจนหมดเล่มแล้วง่ะก็เลยวิเคราะห์เพิ่มซะเลย)
หลังจากที่แยกกับเตียซำฮงก๊วยเซียงได้เจอกับเอี้ยก้วยแล้วเอี้ยก้วยบอกว่า ระหว่างเราไปด้วยกันไม่ได้ ก๊วยเซียงเสียใจมากจึงออกบวชแล้วตั้งสำนักง้อไบ๊(ก็ในนวนิยายกล่าวไว้แค่ว่าแยกกับเตียซำฮงไปได้ระยะนึงแล้วทั้งสองก็ตั้งสำนักง้อไบ๊กับบู๊ตึ๊งไม่ได้กล่าวถึงตอนก่อนบวชเลยนี่เลยไม่รู้บวชทำไมก็เลยวิเคราะห์เพิ่มซะเลย)
เอี้ยก้วยกับเซียวเหล่งนึ่งอาจจะตายไปก่อนที่ก๊วยเซียงออกมาตามหาก็ได้เพราะทำไมไม่มีข่าวคราวเลยแม้แต่น้อยอาจจะป่วยตายหรือไปฝึกวิชาอะไรประหลาดๆแล้วธาตุไฟเข้าแทรกตายเพราะขนาดก๊วยเจ๋งกับอึ้งย้งพ่ายแพ้แก่มองโกลก็ไม่ได้มาช่วย(ก็ในนวนิยายกล่าวไว้แค่เอี้ยก้วยกับเซียวเหล่งนึ่งลงจากเขาฮั่วซัวไปแล้วหลังจากนั้นก็ไม่มีใครได้ข่าวอีกเลยเลยวิเคราะห์เพิ่มเอง)
เพราะอย่างนี้เราจึงควรนำข้อความในนวนิยายมาเป็นตัวหลักในการวิเคราะหืเพื่อไม่ให้บิดเบือนจากความจริงไป แต่ถ้านำมาคิดแค่เล่นๆน่ะได้แต่ถ้านำมาบอกคนอื่นในเชิงชักจูงอาจจะทำให้คนที่ไม่เคยอ่านเลยเข้าใจคลาดเคลื่อนไป

ป.ล ผมไม่ได้แสดงความอวดเก่งหรือรู้มากเพราะผมก็รู้เท่าที่ในนวนิยายมันรู้ แต่ถ้ามีไรคลาดเคลื่อนมากไปก็ขออนุญาติออกมาแย้งนิดหน่อยคงไม่ว่ากันนะ

อะนะคะ โฮะๆ

คุณเล่นบ่อยทำไมไม่สมัครสมาชิกล่ะจะได้มีโลโก้ภาพคุณสวยด้วย

เดี๊ยนขี้เกียจล็อคอินบ่อยๆเวลาเข้ามาอ่ะค่ะ ก็เรยไม่ได้สมัครอ่ะค่ะคุณป็อบ

เหมือนผมเลยบางครั้งก้ไม่ได้ล๊อกอิน พิมพ์ตอบไปเลย ขี้เกียจเหมือนกัน