วิชา ฝ่ามือสยบมังกร เซียวฟงเป็นคนคิดขึ้น?
|
| Cotromiyar |
 |
 |
ผิดแล้วคนคิดต้องกิมย้งดิ |
| เอี้ยก้วย |
|
|
|
quote : อ้วนพี เคยได้อ่านว่า เซียวฟงฝึกวิชาจากพระวันเส้าหลิน เป็นวิชาฝ่ามืออะไรซักอย่าง และต่อมา เซียวฟงก็เอาวิชานั้นไปพัฒนาจนได้เป็นยอดฝ่ามือ ชื่อ ฝ่ามือสยบมังกร 18 ท่า นั่นก็แสดงว่า ยุคก่อนนี้พรรคกระยาจกไม่ได้มีท่านี้ไปท่าไม้ตายของประมุขน่ะสิ |
| เอี้ยก้วย |
|
|
|
วิชากรงเล็บมังกรครับ หรือ หมัดมวยอรหันต์18ท่าครับ |
| เติ้ล |
|
|
|
เฉียวฟงเปนคนคิดค้นฝ่ามือมังกรคับ ดัดแปลงมาจากกรงเลบมังกรแต่กรงเลบมี9ท่า เขาจึงเพิ่มเปน18ท่า พรรคยาจกมีไม้เท้าตีหมาเปนหลัก ที่บอกว่าหัวหน้าคิดคนละ2ท่าผิดคับ เขาคือรุ่น3เองนะ พลังโจมตีมะต้องพูดเลย 8เทพศัตรูเก่งๆกว่ามังกรหยกทั้ง3ภาคเยอะยังแพ้เลย |
| เติ้ล |
|
|
|
quote : วีร์ ....wiizento.. เคยอ่านมาจากไหนไม่รู้ครับนานมากแล้ว.... วิชา 18 ฝ่ามือพิชิตมังกรนั้น..ผู้ก่อตั้ง(จำชื่อไม่ได้... แต่คุ้นๆว่าจะเป็นชื่อ"เซียวหลุยฮัว" ไม่แน่ใจนะครับ) เป็นผู้คิดข้น...เดิมไม่ได้ชื่อ 18 ฝ่ามือพิชิตมังกร แต่ชื่อว่า 8 ฝ่ามือกำราบอสรพิษ ... วิชานี้ก็มีแค่ แปดท่าด้วย... ต่อมาผ่านมาหลายยุคสมัย.. จนมาถึงยุคของเซียวฟง(ถือว่าใช้ท่านี้ได้เก่งสุดแล้ว..) ...ในยุคของเซียวฟง ที่มีถึง18 ท่าฝ่ามือนั้น ประมุขแต่ละดนแต่ละยุค คิดค้นกันคนละท่าสองท่า จึงมีถึง 18 ท่าครับ.. ..แล้วจากยุคของเซียวฟงเป็นต้นมาก็ไม่มีใคร ฝึกวิชานี้เก่งใด้เท่าอีก... แถม ท่าฝ่ามือทั้ง 18 ท่าก็ "ไม่ครบด้วย"... เวลาผ่านไปประมาณ100กว่าปีได้... ปรามาจารย์"อั้งชิกง"ได้ใช้ความเป็นอัศจรรยภาพ(ด้านวรยุทธ) คิดค้นกระบวนท่าที่เหลือจนครบ 18 ท่า...ตามเดิม... แต่อนุภาพ..หาได้เทียบเท่า..ยุคของเซียวฟงเลย... ยิ่งตอนท้ายสุดถูกพัฒนาเป็น.."18 บาทาสยบมักร" ก็เลยกลายเป็นมัดมวยธรรมดาไปแล้ววววววววว....... |
| จุ้ยบ้อ |
|
|
|
เอาตามฉบับปรับปรุงล่าสุดของกิมย้ง เดิมผู้ก่อตั้งพรรคยาจกได้คิดค้นยอดวิชา ไม้ตีสุนัข และ ฝ่ามือพิชิตมังกรไว้ (แต่ฝ่ามือมี28กระบวนท่า) ต่อมาเซียวฟงถ่ายทอดทั้ง2วิชาให้ซีจุ๊ เพื่อฝากฝังให้ซีจุ๊ค้นหาผู้เหมาะสมและถ่ายทอดวิชาให้ศิษย์ยาจกรุ่นต่อไป ระหว่างถ่ายทอดก็ได้ถกกันถึงตัววิชาฝ่ามือพิชิตมังกร ว่า28ท่ามันเยอะไป บางท่าก็เกินจำเป็น สามารถรวบย่อเข้ากับท่าอื่นได้ ทั้ง2คนจึงช่วยกันย่นย่อวิชาฝ่ามือพิชิตมังกร ผลลัพธ์ออกมา เหลือ18ท่า โดยทำให้วิชาฝ่ามือพิชิตมังกรนี้รวบรัดชัดเจนยิ่งขึ้น และอานุภาพสูงขึ้นด้วย |
| เซราฟ |
|
|
|
วิชาฝ่ามือพิชิตมังกร เป็นประมุขพรรคยาจกเป็นคนคิดค้นขึ้นจากวิชากรงเล็บมังกร 8 ท่าของเส้าหลิน เอาไปพัฒนาจนได้เป็นวิชาฝ่ามือพิชิตมังกร 18 ท่า ส่วนที่เหลือก็ตามที่แก้ไขใหม่ (ผิดยังไงขออภัย เนื่องจากจำจากที่เคยอ่านมานานแล้ว) เอี้ยก้วย ไม่ได้เรียนรู้เคล็ดวิชาเก้ากระบี่เดียวดาย แต่บรรลุวิชากระบี่ขั้นสูงกว่า เคล้ดวิชาเก้ากระบี่เดียวดาย เนื่องจากเคล้ดวิชากระบี่เก้ากระบี่เดียวดาย เป็นเคล้ดการใช้กระบี่ธรรมดา ใจความสำคัญคือ เคล้ดเข้าใจกระบวนท่าวิชาฝีมือ 9 ประเภท จนถึงเคล้ดการใช้กระบวนท่ากระบี่ในการทำลายกระบวนท่าวิชาฝีมือ 9 ประเภท เอี้ยก้วยบรรลุวิชากระบี่หนัก โดยใช้กระบี่เหล้กนิลดำเท่านั้น เนื่องจากเพราะบรรลุด้านกระบวนท่ากระบี่ชั้นสูงแล้ว กระบี่ช้วนจินของเฮงเตงเฮี้ยง กับกระบี่สาวหยกของลิ้มเฉียวเอ็ง จัดเป็นสุดยอดวิชากระบี่ของอัจฉริย เอี้ยก้วยเรียนรู้จนปรุแล้ว พอมาพบกระบี่เหล้กนิลดำ +โดนพี่อินทรีลากไปตบ เลยเข้าใจแก่นกระบี่ขั้นสูงที่เหมาะสมกับกระบี่หนัก ไร้กระบวนท่าชนะกระบวนท่าพลิกแพลงทั้งปวง กระบี่ที่เรียบง่ายแต่แก้ไขยาก+ ฝึกตามแนวทางอสูรตีกโกว คลื่นน้ำตก ลมพายุ คลื่นทะเลมรสุมคลั่ง จนโคจรปราณ+ฝึกระบวนท่า จนบรรลุขั้นกระบี่ไม้ กระบี่ผ่าคลื่นทะเลผ่าคลื่นลมสรสุม (กระบี่เคลื่อนที่จนเกิดเสียงดังสนั้นเลื่อนลั่น เจ้ดรอบ เบาเจ้ดรอบ = กระบี่โซนิคบูม ชัด) แต่ว่า กระบี่หนัก มีจุดอ่อน คือ ต้องใช้กระบี่หนักถึง 32 กิโลกรัม จุดอ่อน คือ เชื่องช้า ขั้นกระบี่ไม้ จุดอ่อน คือ ต้องใช้ยามที่ร่างกายแข็งแรงกำยำ กำลังไม่มีตก ถ้าแก่ชรามีลมปราณมากแบบลมปรารณ 100 ปี ขึ้น แบบอสูรต๊กโกว หรือถ้าพวกอิดเต็งที่มีอายุใกล้ 100 ปี หรือต้วนอื้อ ซีจุี ใช้วิชานี้ ก็ไร้เทียมทานไปแล้ว เผอิญเอี้ยก้วยวัย 36 ปี ถึงมีลมปราณรุนแรงกร้าวแกร่งจนมาเทียบเท่าจิวแป๊ะทง แต่ว่ากำลังฝึกปรือภายใน ก็ยังไม่เทียบเท่าต๊กโกววัยชราหรือจิวแป๊ะท้ง จึงใช้วิชาขั้นกระบี่ไม้ได้จำกัด คือยังต้องใช้กำลังร่างกายเข้าช่วยด้วย เป็นหลัก ปล. ตามท้องเรื่อง เนื่องจากเอี้ยก้วยบรรลุขั้นสุดยอดของสุดยอดด้านกระบวนท่าวิชากระบี่ ท่านกิมย้งจึงตัดบททิ้ง ไม่ให้เอี้ยก้วยใช้อีก ไม่งั้น ฝ่ามือกำสรดวิญญาณสลายก็ไม่ต้องโชว์พอดี |
| เซราฟ |
|
|
|
ฟงชิงหยาง คงบรรลุเคล็ดเก้ากระบี่เดียวดาย แล้ว แต่ว่าเดิม ฟงชิงหยางแก่อยู่สายกระบี่ ไม่ใช่สายลมปราณ ดังนั้น ด้านลมปราณจึงไม่มีกล่าวถึง แต่ดูจากอายุระดับลมปราณก็คงสะสมตามอายุ คือ กำลังฝึกปรือน่าจะ 50 -60 ปี แต่เนื่องจากวิชาลมปราณไม่น่าจะสายเทพแบบวิชาทานตะวัน ที่ลมปราณสูง (เล่นตอนตัวเอง ตัดการรั่วไหลของชี่ตามธรรมชาติไปเลย ปราณไม่มากกว่าวิชาอื่นก็ไม่ณุ้จะว่ายังไง) ดังนั้น ฟงชิงหยาง ถึงแก่ ลมปราณก้ไม่ได้เทพ ด้านกระบวนท่าเข้าขั้นสุดยอดแล้ว แต่ว่า กระบวนท่า มันมีของแก้อยู่ เช่น วิชากระบี่หนัก แม้กระบวนท่าถึงขั้นสุดยอด แต่ถ้าอีกฝ่ายเร็วกว่า ก็เป็นปัญหา แต่เผอิญเอี้ยก้วยไม่เจอคนเร็วกว่า แต่ยุคฟงชิงหยาง คัมภีรืทานตะวัน เน้น เร็ว คือถ้าเร็วกว่า ก็ไม่ต้องสนใจกระบวนท่า แก้กระบวนท่าอะไรเหมือนกัน เร็วกว่าซะอย่าง ก็ได้เปรียบแล้ว ที่เหล็งฮู้ชง รอดมาได้ เพราะยังมีสามสี่คนช่วย พูดง่ายๆ เพราะตงฟางปุ๊ป่าย เร็วจึงรับมือ4 -5 คนรุมโดยไม่แพ้ แถมนานไปอีกนิด พวกเหล้งฮู้ชง ต้องพลาดไปเรื่อยแน่ ดังนั้น ทั้งฟงชิงหยาง และเหล็งฮู้ชง จึงห่างไกลจากเอี้ยก้วยมากครับ ฟงชิงหยางยังไม่แน่จะชนะตงฟางปุป่ายด้วยซ้ำไป แต่ถ้าพิจารณา ขั้นกระบี่หนัก กระบี่เหล็กนิลดำ มันกันพลังของตงฟางปุ๊ป่ายได้อยู่แล้ว ถึงช้าแต่ก็แรงมาก อยู่ที่เอี้ยก้วยจับจังหวะได้เมื่อไร ตงฟางก็รอเวลาลงไปนอนแค่นั้นเอง เว้นแต่ตงฟางปุ๊ป่ายมีกำลังภายในฝึกปรือสะสมถึงระดับ 30 - 40 ปี (จะมากกว่าวิชาลมปราณธรรมดาเกือบเท่าตัว ตงฟางปุ๊ป่ายก็จะมีกำลังภายในเหมือนคนะสะสมมาร้อยปี พอกับต้วนอื้อ) ซึ่งตอนนั้น วิชาที่เน้นเร็วและแรงปรษณเยอะ เอี้ยก้วยจะเสียเปรียบ แต่ว่า เอี้ยก้วย ยังมี ขั้นกระบี่ไม้ กระบี่ของเอี้ยก้วยเป็นกระบี่โซนิคบูมไปแล้ว ตงฟางปุ๊ป่าย ก็รับไม่ได้แน่นอน ต่อให้มีปราณเป็น 100 ปี ถ้าเอี้ยก้วยเพียงออกกระบี่โซนิคบูมสักระบี่หนึ่ง ตงฟางปุ๊ป่ายก็จบเห่แล้ว |
|