ช่วยตอบค้าบ
ข้อ1. แล้วแต่คับ ถามคนอ่านเรื่องนี้10คน 8เทพของทั้งสิบคนก็ไม่ตรงกันหรอกคับ
ที่ตรงก็คงเป็นเหล่าตัวเอก เฉียวฟง ต้วนอี้ ฮือเต็ก(ซีจู๊) มู่ยงฟู่ขณะที่ตัวประกอบอื่นๆ
ก็แทนนิสัยในใจมนุษย์ แม้แต่กิมย้งก็ยังบอกไม่ได้คับว่าจิงๆแล้วใครเป็นอะไร
2. ต้าหลี่ =ไต้ลี่ =ตาลี่ฟู เป็นเมืองของต้วนกงจื้อคับ
รู้สึกอยู่แถวน่านเจ้า
ตงง้วน =จีนกลางในปัจจุบัน ในเนื้อเรื่องคงยังเป็นต้าซ้องมั้ง
ซีตัน(ในหนังสือท่านน. เป็นคีตันอ่ะคับ)= ต้าเหลียวคุ้นๆป่ะคับ
ที่พวกตระกูลหยางสุ้ด้วย
มู่ย้ง ฟื้นฟูเมืองไรก็จำไม่ได้แล้ว รอคนต่อปาย
3. 18 ฝ่ามือพิชิตมังกรถ่ายทอดเป็นวิชาที่ถ่ายทอดสู่เจ้าสำนักคับ เหมือนกับไม้ตีสุนัข
ส่วนใครเป็นก่อตั้ง คุ้นๆแต่นึกไม่ออกคับ
4. ผมว่าไม่ใช่อันเดียวกันนะลมปราณภูตอุดรเจ๋งกว่าหลายเท่า
แค่แนวทางเดียวกัน ที่เห็นจะๆคือมหาเวทส่งผลต่อผู้ใช้ในระยะยาว เกี่ยวการโคจรพลัง
ขณะที่ของต้วนอี้ แค่รุ้สึกบ้าพลังขึ้นต้องหาที่ปล่อย อีกอย่างลมปราณภูตอุดร
สามารถดูดได้หลายทาง ของต้วนอี้นี่เรียนแค่นิ้วโป้งเอง
5. ไม่รู้คับรอผุ้รู้
คคห.19 เยิ่นว่อสิงบอกเหล็งฮู้งเหรอคับ ง่าเหมือนไม่อยุ่ในความทรงจำเลย ต้องไปอ่านอีกรอบแล้ว
ตกลงเรื่อง 8 เทพอสูรมังกรฟ้านี่ เนื้อเรื่องหลักเป็นของใครแน่ครับ ?
iii | |
![]() |
โอววววววว......คารวะ ท่านจอมยุทธ ...ทั้งหลายในกระทู้นี้ ครับ ......ชอบเรื่องแนวๆ นี้เหมือนกันครับ โดยเฉพาะสายของกิมย้ง |
เมษ (mesaya) | |
![]() |
ตกลงเรื่อง 8 เทพอสูรมังกรฟ้านี่ เนื้อเรื่องหลักเป็นของใครแน่ครับ ? เคยอ่านว่าเหง่ยคังเพื่อนกิมย้งเล่าว่ากิมย้งจะให้มีตัวเอก8คนแต่แต่งๆไปเขว นับไม่ถูก8คนตอนที่แต่งครั้งแรกเข้าใจว่าแต่งลงนสพ.รายวันคงพัฒนาplotเรื่องไปเรื่อยๆ plotเรื่องหลักคือคน3ชาติที่ขัดแย้งกันแต่สาบานเป็นพี่น้อง ซีจู๋=จีน ตวนอี้=ไต้ลี้ สมัยจำลองแปลคล้ายว่าแคว้นน่านเจ้า เฉียวฟง=ชี่ตัน เข้าใจว่าคนแต่งต้องการบรรยายความขัดแย้งระหว่างชนชาติ แต่ผูกเรื่องให้ตัวเอก3ชาติได้สาบานเป็นพี่น้องกัน |
ไซดักปลา (ไซดักปลา) | |
![]() |
โอ้...ดีใจจังมีคนมาช่วยไขข้อข้องใจเพียบเลย แสดงว่ากระแสเรื่องนี้...พอสมควรทีเดียว กอรปกับมีผู้รอบรู้เชี่ยวยุยทธหลายท่าน กระจ่างขึ้นเยอะครับ ผมเองไม่ได้เป็นแฟนพันธุ์แท้นิยายจีนกำลังภายใน แต่ก็ชอบดูอยุ่หลายเรื่องครับ แม้ไม่ค่อยได้อ่านนิยาย เพราะไม่ชินกับสำนวนคำแปลต่างๆ จึงเป็นที่มาของความไม่เข้าใจเรื่องหลายๆส่วน ขอขอบคุณครับกับทุกคำตอบและคำถามต่อเนื่อง |
LittleTiger | |
![]() |
ต้าลี่ คือ เมืองตาลีฟู ที่สมัยก่อนเขาสอนว่าเป็นที่ตั้งของอาณาจักรไทยเผ่าน่านเจ้าน่ะครับ อยู่ทางตอนใต้ของจีน สามารถล่องน้ำโขงจากตอนเหนือของไทยขึ้นไป แล้วต่อทางเท้าอีกไม่ไกลนัก ล่มสลายไปในยุคของมองโกลจักรพรรดิกุบไลข่าน. คีตัน ว่ากันว่าชาตินี้คือที่มาของคำว่า คาเธย์ ที่ชาวฝรั่งใช้เรียกประเทศจีนซึ่งสมัยหนึ่งเคยถูกชนชาตินี้เข้ามามีอำนาจ (หลังสมัยแปดเทพอสูรเล็กน้อย). ซีเซี่ย อยู่ด้านตะวันตก รบกับจีนมานานเหมือนกันในสมัยยุคของขุนศึกตระกูลหยาง ยุคมองโกลเรืองอำนาจ เป็นชาติที่สู้กับมองโกลไม่ถอยเลยสิ้นชาติ. ตระกูลตวนสืบทอดไปถึงยุคของ อิดเต็งไต้ซือ หรือราชันย์ทักษิณ เจ้าของวิชาดรรชนีสุริยัน. ส่วนสิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร กับไม้เท้าตีสุนัขเป็นวิชาประจำของประมุขพรรคกระยาจกที่ถ่ายทอดไปถึง อังชิดกง เคยดูหนังเรื่อง ยาจกซู สมัยแมนจูยังอุตส่าห์มีพรรคกระยาจกอีกแน่ะ. สำหรับลูกหลานตระกูลตวน ไม่รู้ว่าหนีมองโกลลงใต้มาแถว ๆ ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยากับเค้ามั่งรึเปล่า :). |
Papercut | |
![]() |
ที่ต้วนอื้อฝึกคือลมปรานภูติอุดร แต่ชาวยุทธจักรไม่รู้จักวิชานี้ เลยคิดว่าเป็นวิชาเดียวกัน ภายหลังต้วนอื้อได้ต่อกับสู้กับ ติงชุนชิว ก็ได้รู้จักวิชาสลายพลัง เลยนำ 2 วิชานี้มารวมกันเป็น มหาเวทดูดดาว ครับ เนื้อหาตอนนี้ไปหาอ่านได้ในเรื่องกระบี่เย้ยยุทธจักร ตอนนั้น ยิ้นอั้วฮั้ง บอกกับเหล็งหูชง ถึงที่มาของวิชา ทหาเวทดูดดาว ว่ามาจากท่านอ๋วงตระกูลต้วนจากต้าหลี่ แล้วมันจะเป็นใครได้ละครับ --ขอแย้งนะครับ ในกระบี่เย้ยผมก็ได้อ่านฉากนี้เช่นกัน(ฉบับ น. นพรัตน์แปล) เป็นเพียงท้าวความถึงที่มาของ มหาเวทย์ดูดดาวว่าเกิดจากการหลอมรวมกันของ 2 ยอดวิชา 1. ลมปราณภูติอุดร สืบทอดโดยสกุลต้วนแห่งต้าหลี่ 2. ยอดวิชาสลายกำลัง ของ สำนักเต็งชุนชิว แต่!!! แต่มิได้กล่าวว่า เกิดจากการหลอมรวมโดยสกุลต้วนแต่อย่างใด (คือกล่าวว่า ที่มา 2 แขนง มาจากใหน แต่ผู้ใดหลอมรวมเข้าด้วยกัน มิได้กล่าวไว้) อย่าว่าแต่อุปนิสัยของต้วนอื้อ มันทั้งเกลียดชังการใช้กำลัง ทั้งชืดชาชื่อเสียงในยุทธภพ บุคลิกภาพเช่นนี้ไม่น่าเป็นปรมาจารย์บัญญัติวิชาใดๆได้(หรือมันจะนึกเฮี้ยนขึ้นมา?!?) ผมว่าน่าจะเป็นยอดคนรุ่นหลังบัญญัติมหาเวทย์ดูดดาวมากกว่า(ตามสูตรอ. กิมย้ง ยิ่งผ่านวันเวลา วิทยายุทธยิ่งเสื่อมถอย มหาเวทย์ดูดดาว เลยดูหวิ่นแหว่ง เป็นภัยต่อผู้ฝึกชอบกล) |
Minato Tabo | |
![]() |
คุณ คหที่ 25 ถูกต้องแล้วครับเค๊าไม่ได้บอกว่าเป็นต้วนอื้อ แต่ว่าผมว่า กิมย้งเค้าก็บอกไว้ชัดเจนพอแล้วครับ ว่าใครเป็นผู้คิด ที่เหลือก็คงต้องไปถามกิมย้งเองว่าเป็นใคร ส่วนที่ว่า ต้วนอื้อ เกลียดการใช้กำลัง ก็ถูกต้องอีกนั่นละครับ ต้วนอื้อนั้นออกไปทางนักปราช ไม่ชอบฝึกวิทยายุทธ ได้แต่แต่งกลอนเล่นหมากล้อม แต่ถึงกระนั้นก็เถอะ ทั้งๆที่เค้าไม่ชอบวิทยายุทธแต่ก็ยังฝึกวิชากระบี่ 6 ชีพจร ทั้งที่ตัวเองก็ไม่ได้ตั้งใจ วิชาลมปราณภูติอุดรก็เช่นเดียวกัน เค๊าก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะฝึก อีกทั้งก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะใช้ แต่สุดท้ายก็ได้ฝึก แต่สุดท้ายก็ได้ใช้ ถามว่าต้วนอี้ชอบไม๊ ผมว่าเค้าก็คงไม่ได้ตั้งใจเช่นกัน ลองคิดดูนะครับ จำตอนที่ต้วนอื้อดูดพลังมาไว้ในตัวมากเกินไปแล้วไม่สามารถขับออกได้ใหมครับ คิดดูเค้าท่องยุทธภพได้แค่ไม่นาน ก็ดูดพลังมาโดยไม่ตั้งใจจนร่างกายรับไม่ไหว ถ้าสมมุตินะครับสมมุติ ตลอดชีวิตของ ต้วนอื้อ คงจะต้องต่อสู้กับยอดฝีมืออีกมากมาย เค๊าก็คงจะต้องหาทางสลายพลังไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ดังนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าเค้าจะเป็นคนรวม 2 วิชานี้เข้าด้วยกัน ไม่ต้องเอาไว้สู้กับใครก้ได้ครับ แค่ใช้เพื่อเอาตัวรอดก็พอแล้ว ไม่แค่นั้นลองคิดดูนะครับ ต้วนอี้แต่งกับคุณหนูหวัง ด้วยความรู้ความสามารถของนางจะช่วยต้วนอื้อในเรื่องนี้ก็ ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ อีกทั้ง วิชาทั้ง 2 นี้จะว่าไปที่มาก็มาจากสำนักสำราญ กับศิษย์ทรยศของพัก จะว่าไปแล้วที่มาก็อาจจะมาจากแหล่งเดียวกัน ดั้งนั้น ซีจุก็เป็นพี่น้องกับต้วนอื้อ ทั้งยังเป็นเจ้าสำนัก ดังนั้นเรื่องที่ต้วนอื้อจะเป็นคนหลอมรวมวิชาทั้ง 2 เข้าด้วยกันก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ อีกอย่างถึงรวมวิชานี้เข้าด้วยกันได้จริงก็ไม่จำเป็นจะต้องเป็นถึงปรมจารณ์อะไรหรอกครับ แต่สิ่งหนึ่งที่จริงแท้แน่นอนคือ ต้วนอื้อ ไม่ใช่คนโง่ อีกทั้งยังเป็นคนมีพรสวรรค์ เพียงแต่ตัวเค้าไม่ชมชอบวิทยายุทธ แต่ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้ ใครจะไปรู้ครับดูอย่าง ก้วยเซียงสิครับ เด็กๆเป็นคนแก่นแก้วขนาดนั้น ใครจะไปเชื่อว่าภายหลังจะเป็นปรมจารณ์ผู้ก่อตั้งสำนัก ง้อไบ้ ที่พูดมาทั้งหมดนี้ก็เป็นแค่สมมุติฐานนะครับ ยังไงก็ตามผมก็เป็นแค่ผู้อ่านคนหนึ่งเราก็ทำได้แค่ตั้งสมมุติฐานเท่านั้นละครับ ที่เล่ามาทั้งหมดก็คือสิ่งที่ผมรู้จากการอ่านและจากการค้นคว้ามา จะถูกจะผิดยังไงก็คงต้องให้ กิมย้ง เป็นคนเฉลยเองนั่นล่ะครับ ยังไงก็ตามผมก็ชอบที่จะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกียวกับหนังกำลังภายใน โดยเฉพาะของกิมย้งนี่ชอบมากๆ ว่างๆมาช่วยกันโพสนะครับ ^^ |
Papercut | |
![]() |
ถูกต้องแล้วครับเค๊าไม่ได้บอกว่าเป็นต้วนอื้อ แต่ว่าผมว่า กิมย้งเค้าก็บอกไว้ชัดเจนพอแล้วครับ ว่าใครเป็นผู้คิด ที่เหลือก็คงต้องไปถามกิมย้งเองว่าเป็นใคร ---ไม่เห็นด้วยนะครับ ผมคิดว่าถ้าบอกไว้ชัดเจนก็ไม่ต้องถาม อ. กิมย้งแล้วครับ ว่าใครคิดค้น เช่น ผงละลายกระดูก ในเรื่องอุ้ยเซี่ยวป้อ ผมเคยอ่านเจอชัดเจนว่า อ้างถึง พิษประจิม เป็นผู้คิดค้นขึ้นมา แบบนี้ไม่ต้องตีความ อ่านแล้วเคลียร์เลยครับ ว่าต้นกำเนิดมาจากที่ใด แต่ตรรกะที่ว่า วิชา A สืบทอดผ่านตระกูก กอไก่ วิชา B สืบทอดผ่าน ตระกูล ขอไข่ ดังนั้น วิชา C ซึ่งเกิดจาก A fusion B ต้อง มาจาก คนสกุล กอไก่ หรือ ขอไข่คิดค้น เท่านั้น ตรรกะแบบนี้ ผมไม่เห็นด้วยครับ บางครั้งเราต้องแยกออกจากกันระหว่าง "ข้อคิดเห็น" กับ "สมมุติฐาน" นะครับ ข้อเท็จจริง -- 1) ลมปรานภูติอุดร เป็นวิชาที่ดูดพลังลมปรานมาเป็นของตัวเอง ของสำนักสำราญ 2) วิชาสลายพลัง เป็นวิชาที่สลายลมปรานผู้ต่อสู้ไม่ได้ดูดเข้ามา ของติงชุนชิว สมมุติฐาน -- ภายหลังต้วนอื้อได้ต่อกับสู้กับ ติงชุนชิว ก็ได้รู้จักวิชาสลายพลัง เลยนำ 2 วิชานี้มารวมกันเป็น มหาเวทดูดดาว ครับ แน่นอนครับ เป็นไปได้ที่อ๋องน้อยสกุลต้วนจะเป็นผู้บัญญัติ มหาเวทย์ดูดดาวขึ้นมาจริงๆ แต่ส่วนตัวผมแล้ว บางเรื่องที่ อ.กิมย้ง "สูญญากาศ" ไว้ (เช่น ประวัติต๊กโกวคิ้วป่าย ) ใจผมอยากให้มันสูญญากาศอยู่เช่นนั้น (นอกเรื่องนิดนึง-- เวลาละคร,การ์ตูน มันนอกเรื่อง หรือมีนิยายลอกเลียน จำพวก ประวัติอั้งชิดกง ผู้กล้ากังหนำทั้ง 7 ฯลฯ ผ่านสายตา ผมอดหงุดหงิดไม่ได้ เลยอาจจะดูซีเรียสไปหน่อย^^ ) จึงเรียนมาเพื่อพิจารณาครับ |
Minato Tabo | |
![]() |
สมมุติฐาน -- ภายหลังต้วนอื้อได้ต่อกับสู้กับ ติงชุนชิว ก็ได้รู้จักวิชาสลายพลัง เลยนำ 2 วิชานี้มารวมกันเป็น มหาเวทดูดดาว ครับ จะเรียกว่ามาจากสมมุติฐานหรือไม่เอาเป็นว่าอย่างนี้ครับ คำพูดนี้มาจากหนังเรื่องกระบี่เย้ยยุทธจักร ที่ กิมย้ง เป็นที่ปรึกษาครับ ส่วนเรื่องที่ว่าจริงๆแล้ว กิมย้ง จะคิดอย่างนั้นหรือเปล่า อันนี้ก็ ไม่ทราบได้ครับ ที่ผมฟันธงว่าเป็น ต้วนอื้อ ผมก็ไม่ได้รู้หรอกครับว่าใช่หรือไม่ แต่ผมเลือกที่จะเชื่อแบบนั้น ส่วนจริงๆจะเป็นยังไง ก็อย่างที่ว่า ต้องให้ กิมย้งตอบเองครับ แต่ก้อเข้าใจครับว่าบางอย่างก็ควรเว้นว่างไว้ เป็นเรื่องจินตนาการของแต่ละบุคคล ต่างจิตต่างใจครับ จึงเรียนมาเพื่อพิจารณาด้วยครับ ^^ |
Minato Tabo | |
![]() |
คุณ Papercut ว่างๆลองมาอ่านนี่ดูครับ http://www2.thaitv3.com/board2005/viewtopic.php?p=5875#5875 ผมเล่นอยู่ที่นี่เป็นประจำ ยังไงก็มาเล่นที่นี่ด้วยกันสิครับ จะได้แลกเปลี่ยนความเห็นกัน |
นัท | |
![]() |
สรุปยังไม่รู้เลยมันมีกี่เมืองกันแน่ แล้วเรื่องชาวฮั่น ขาวซิตันอีก ชาวเมืองเหลียวนี่เรียกว่าซิตันใช่มะ แล้วชาวฮั่นนี่อยู่เมืองอะไร |
น้ำใส | |
![]() |
แต่เถียงแบบใช้เหตุผลงัดกัน แทนที่จะเอาแต่อารมณ์เอาชนะ แบบนี้แหละที่ควรจะมีในเฉลิมไทย อ่านแล้วก็ได้คิดอะไรไปด้วย ขอบคุณความรู้เพิ่มเติมจากทุกท่านครับ |
-sam- | |
![]() |
มันคือแม่น้ำสายเดียวกันแต่แยกลงกันลงคนทะเลคับ |
ฮิวเยียก | |
![]() |
ขอแย้งนิดนะ จำไม่ได้เลยว่าต้วนอี้ต่อสู้กับเต็งชุนชิวตอนไหนหวา ในฉบับน.นพรัตน์ไม่มีค่ะ หรือว่าจะมีในฉบับท่านจำลอง พิศนาคะ |
Tonizz | |
![]() |
ผมขอแจมด้วยคนสิครับ ยอดวิชาดูดดาว : จากเรื่องกระบี่เย้ยยุทธจักร ยิ่มอั้วเกี้ยบอกกับเหล็งฮู้ชงว่าวิชานี้เกิดจากการรวมปมเด่นของวิชาลมปราณภูติอุดรกับยอดวิชาสลายพลังเข้าด้วยกัน แต่ไม่มีการเอ่ยถึงผู้คิดค้นชัวร์ครับ (ผมว่าตอนสู้กันจะใช้ง่ายขึ้นแต่ควบคุมยากและมีผลเสียกับผู้ใช้) สำนักสราญรมย์: ศิษย์ของสำนักนี้เท่าที่สังเกตุ น่าจะฝึกลมปราณภูตอุดรเป็นพื้นฐานกำลังภายในกันทุกคนแต่จะมีบางคนเท่านั้นที่ได้ฝึกวิธีการดึงดูดพลัง ส่วนวิชาแขนงอื่นๆจะแยกกันฝึก เช่น นางเฒ่าทาริกาจะรู้วิชาหัตถ์หกสุริยันกับมือหักเหมยเทียนซัว, ลี้ชิวจุ้ยจะรู้วิชาฝ่ามือรุ้งขาวกับพลังไร้ลักษณ์น้อย, พี่นางฟ้าจะรู้วิชาเท้าท่องคลื่นกับลมปราณภูตอุดรแบบดึงดูดพลัง(รู้สึกจะรู้วิชาไร้ลักษณ์น้อยด้วยแล้วมาถ่ายทอดให้บ้อไง๊จื้ออีกทีนึง) ส่วนบ้อไง้จื้อนี่น่าจะรู้แทบจะทุกวิชาเพราะพี่แกเป็นเจ้าสำนัก ปล. การตีตวามของแต่ละคนยังไงมันก็ไม่เหมือนกันอยู่แล้วครับ(ใช่ไหม?) ฉะนั้นอย่าเถียงกันเลย ส่วนตัวผมอ่านจากหนังสือเอาครับ อาจจะมีผิดพลาดตกหล่นบ้างนะครับ (ถ้ายังสงสัยอยู่ยังไงก็แนะนำให้ลองไปถามที่คลับกำลังภายในของห้องสมุดดูครับ เซียนๆกันทั้งนั้นเลยขอบอก) |
ฮิวเยียก | |
![]() |
^^^ พี่นางฟ้ากับลี้ชิวจุ้ย คนเดียวกันจ้า ง้อไบ๊จื้อแต่งงานกับลี้ชิวจุ้ย แล้วไปอยู่ด้วยกันที่ถ้ำไร้ประมาณในไต้ลี้ มีลูกด้วยกัน1คนคือหวังฮูหยิน แต่เบื้องลึกในใจของง้อไบ๊จื้อ มีน้องสาวของลี้ชิวจุ้ยอยู่(ซึ่งไม่ได้กล่าวถึงมากนัก ว่าต่อมาเป็นไงมาไง บอกแค่ว่ายังเด็กอยู่ อายุแค่11ปี ตอนที่ลี้ชิวจุ้ยกับเทียนซัวถงเหล่าชิงรักกัน) ต่อมาง้อไบ๊จื้อเสาะพบหยกงามก้อนหนึ่ง จึงแกะสลักรูปคนโดยเอาลี้ชิวจุ้ยเป็นต้นแบบ พอแกะเสร็จวันๆก็เอาแต่มองดูรูปปั้น ไม่สนใจลี้ชิวจุ้ยที่เป็นต้นแบบ นางเลยโกรธแค้น ไปมีชายคนใหม่ ง้อไบ๊จื้อโมโห ก็เลยจากไป(คาดว่าจากนั้นคงโดนเต็งชุนชิวทำร้ายต่อ) ลี้ชิวจุ้ยก็เลยเตลิดบ้าง นำฮูหยินหวังไปให้คนอื่นเลี้ยง ตัวเองก็ไปอยู่แถวซีเซี่ย แต่ในหนังversionหลังๆ หรือในการ์ตูน ชอบสร้างให้น้องสาวคนนี้มีตัวตนทุกที บอกว่าเป็นแม่ฮูหยินหวัง เป็นยายนางเอกอะไรงี้ จริงๆแล้วเป็นลี้ชิวจุ้ยทั้งนั้น ส่วนคำถามคุณนัท ให้ดูที่กระทู้นี้ http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K3309104/K3309104.html |
ฮิวเยียก | |
![]() |
เพิ่มเติมอีกนิด รูปที่ง้อไบ๊จื้อให้ฮือเต็กไว้ก่อนตาย (ก็รูปผู้หญิงที่หน้าเหมือนแม่นางหวังนั่นแหละ และก็เป็นรูปเดียวกับที่เทียนซัวถงเหล่า กล่าวว่า ไม่ใช่นางๆ ลี้ชิวจุ้ยกล่าวว่า เป็นนางๆ นั่นเอง) เป็นรูปของน้องสาวคนนั้น แต่อารามใกล้ตาย เลยเบลอๆบอกฮือเต็กว่าให้ไปเรียนวิชากับผู้หญิงคนนี้ที่อยู่ในถ้าไร้ประมาณ ซึ่งก็คือลี้ชิวจุ้ย (ความนี้ ลี้ชิวจุ้ยกล่าวเองว่าท่านพี่ ท่านช่างเลอะเลือนจริงๆ กลับยึดถือรูปนี้เป็นเรา) สรุปว่า ง้อไบ๊จื้อ แกะรูปปั้นหยก รูปลี้ชิวจุ้ย ยึดถือเป็นน้องสาว วาดรูปน้องสาว กลับยึดถือเป็นลี้ชิวจุ้ย |
Tonizz | |
![]() |
อ้าวเหรอคับ สงสัยจะใช่คุ้นๆอยู่เหมือนกัน ปล.ผมชอบวิชาฝ่ามือรุ้งขาวอ่ะ โค้งได้ด้วยเจ๋งโคตร |
หน้าเหลือง (ไม่เชื่อ | |
![]() |
กระทู้นี้สุดยอดดด อ่านเพลินเลยครับ หนึ่งในนิยายในดวงใจ ขอบพระคุณทุกท่าน.. |