รวมความเป็นมาและเคล็ดวิชาต่างๆของ 8 เทพอสูรมังกรฟ้า

เท้าท่องคลื่น เพียงแค่เดิน1รอบ ก้เท่ากับเพิ่มพูนกำลังภาย ซ้ำยังเป็นสุดยอดวิชาตัวเบาใน ช่างยอดเยี่ยมนัก น่าอิจฉาคุณชายต้วนนัก ขอรับ

วิชาปราณน้ำแข็ง

เนื่องจาก อิ๋วถังจื่อ ได้คัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นที่ เซียวฟง ทำตกไว้เลยเก็บเอาไว้โดยไม่รุ้ว่าเป็นคัมภีร์อะไร เพราะว่าตัวอักษรเขียนเป็นภาษาสันสกฤต เลยอ่านไม่ออก

แต่แค่ต้องการที่จะแกล้งเซียวฟงเป็นการล้างแค้น

วันหนึ่งตอนที่ถูกตะขาบ ที่อาจื่อนำมาฝึกยอดวิชาสลายพลังกัดเข้าที่มือ ตอนนั้นพิษกำเริบทำให้ทั้งเหงื่อ น่ำมูก น้ำตา น้ำลาย ไหลไปเลอะถูกคัมภีร์มากมาย จนบังเกิดเป็นภาพพระสงฆ์กำลังทำท่วงท่าต่างๆนาๆซึ่งก็คือท่าโยคะนั่นเองพร้อมทั้งมีลุกศรบ่งบอกเส้นทางการเดินกำลังภายในประกอบรุปภาพในแต่ละรุป

ซึ่งอิ๋วถังจื่อ หลังจากได้เห็นคัมภีร์นั้นปรากฏเป็นภาพขึ้นก็บังเกิดความคิดเลื่อนลอยว่า มีพระโพธิสัตว์มาช่วยชีวิตเลย ลองทำท่าทางตามแบบโยคะที่ปรากฏในคัมภีร์นั้นแล้วลองเดินกำลังภายในตามแนวทางที่ลูกศรชี้บอก จนทำให้รู้สึกปลอดโปร่งโล่งสบาย อาการพิษตะขาบจึงหายเป็นปลิดทิ้ง

หลังจากนั้นตลอด3เดือน อาจื่อก็นำสัตว์พิษมาทำการฝึกอยู่ตลอดและอิ๋วถังจื่อก็ใช้วิธีนี้ในการรักษาตัวเองให้หายจากอาการพิษและฝึกฝีมืออยู่ตลอดเพราะหลังจากที่ทุกครั้งที่ฝึกแล้วร่างกายจะปลอดโปร่งโล่งสบาย ไม่ว่าการวิ่งหรือเดินเหิน กระโดดล้วนกระทำได้อย่างรวดเร็วคล่องแคล่วว่องไว อีกทั้งมีพละกำลังมากกว่าคนปกติทั่วๆไป โดยไม่รู้เลยว่าที่ตนเองมีกำลังภายในเพิ่มพูนขึ้นมาอันเนื่องมาจากคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น ซึ่งคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นนี้ มักไม่ค่อยมีใครฝึกสำเร็จ เพราะหลักของการฝึกคือต้องไม่คิดที่อยากจะฝึก แต่ยอดฝีมือส่วนใหญ่ที่ได้ฝึกคัมภีร์นี้ส่วนใหญ่อยากจะฝึกสำเร็จเป็นยอดฝีมือกันทั้งนั้นเลยฝึกไม่สำเร็จ ซึ่งต่างกับอิ๋วถังจื่อที่ไม่รู้ว่าเป็นหนังสืออะไรเพราะอ่านไม่ออกและที่ฝึกเพราะเพื่อขจัดพิษเท่านั้น จนวันนึง ได้ไปเจอกับ ไหมน้ำแข็ง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งของสุดยอดพิษเย็น ไม่ว่าไหมน้ำแข็งตัวนี้จะเลื้อยไปทางไหนที่นั่นต้องเป็นรอยใหม้เกรียมอุณภูมิจะหนาวเย็นจนเป็นน้ำแข็ง ถ้าเกิดไหมน้ำแข็งตกอยู่ในลำธาร ลำธารทั้งสายก็จะกลายเป็นน้ำแข็ง พอ อิ๋วถังจื่อ จับไหมน้ำแข็งมาให้อาจื่อได้ อาจื่อก็ให้อิ๋วถังจื่อ ยื่นมือให้ไหมน้ำแข็งกัด แต่ก่อนกัด อิ๋วถังจื่อได้ทำท่าทางโยคะคือเอาหัวทิ่มลอดหว่างขาและชูขาทั้งสองข้างเตรียมพ้อมไว้ก่อนแล้ว พอไหมน้ำแข็งกัดถูกอิ๋วถังจื่อ อิ๋วถังจื่อก้เดินลมปราณตามแนวทางที่ใช้ตามปกติทุกครั้ง แต่เนื่องจากพิษเย็นของไหมน้ำแข็งร้ายกาจมากตลอดทั้งร่างของอิ๋วถังจื่อจึงกลายเป็นน้ำแข็งแต่ตัวเองรู้สึกตัวอยู่ตลอดเพื่อต้านพิษเย็นจากไหมน้ำแข็งนั้น แต่เนื่องจากว่าอิ๋วถังจื่อ ฝึกคัมภีรืเปลี่ยนเส้นเอ็นได้ไม่กระจ่างทั้งหมดเพราะเนื่องจากอ่านเคล้ดวิชาต่างๆไม่ออกได้แต่ดูรุปภาพและเดินกำลังภายในตามแนวทางของลูกศรในแต่ละภาพ จึงสำเร็จแค่การดูดซึมซับพิษไว้ในอวัยวะภายในต่างๆในร่างกาย แต่ไม่สามารถขับออกมาได้ ทำให้พิษของไหมน้ำแข็งทั้งหมดจึงยังอยู่ในร่างกายของอิ๋วถังจื่อ แต่อิ๋วถังจื่อ กลับคิดไปว่า วิญญาณของไหมน้ำแข็งยังวนเวียนอยู่ในตัวของเค้า ทุกๆครั้งที่ใช้พลังออกมาศัตรูหรือเหยื่อต้องถุกพิษเย็นยะเยือกเสมือนร่างกายเป็นน้ำแข็งทุกครั้งไป ซึ่งความสำเร็จจากตรงนี้แม้แต่ อิ๋วถังจื่อ เองก็ยังไม่รู้ตัวเอง แม้แต่ติงชุนชิวเอง ยังสงสัยว่า อิ๋วถังจื่อแกล้งทำเป็นไม่รู้หรือป่าวว่าตัวเองมีกำลังภายในการฝึกปรือเก่งพอๆกับตัวเค้าเลย แต่เนื่องจากอิ๋วถังจื่อไม่เคยเรียนรู้วิชาฝีมือและไม่รู้ว่าตัวเองเก่งแค่ไหนจึงใช้ออกมาได้ไม่เต็มที่เท่าไหร่ เนื่องจากตนเองขาดประสบการณ์

และความบังเอิญอีกอย่างหนึ่งคือตอนที่อิ๋วถังจื่อกลายเป็นน้ำแข็ง อาจื่อคิดว่าอิ๋วถังจื่อตายแล้ว เลยให้คนจัดการให้เรียบร้อย คนๆนั้นคิดว่าอาจื่อไม่ได้บอกว่าให้นำไปฝังเลยขี้เกียจฝังเลยจับ อิ๋วถังจื่อโยนลงน้ำ ซึ่งกลับเป็นการช่วยชีวิตอิ๋วถังจื่อได้อย่างไม่รู้ตัว เพราะพออิ๋วถังจื่อหล่นลงไปในลำธารทั้งสายก็กลับกลายเป็นน้ำแข็ง แต่กระแสน้ำใต้ลำธารกลับมีกระแสน้ำที่มีอุณภูมิอุ่นเพียงพอที่จะละลายน้ำแข็งที่เกาะอยู่ตามตัวของอิ๋วถังจื่อได้ พออิ๋วถังจื่อรู้สึกตัวก้เร่งเดินกำลังภายในตามแบบในหนังสือ จึงทำให้สามารถรอดชีวิตออกมาได้

ป.ล ขอเสริมตรงคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นที่อิ๋วถังจื่อฝึกแบบไม่สมบูรณ์ คือสามารถนำพิษต่างๆไปเก็บกักไว้ตามอวัยวะภายในต่างๆได้แต่ถ่ายพิษต่างๆออกมาไม่ได้ ซึ่งเป็นแบบเดียวกับต้วนอี้ที่ไปดูดกำลังภายในของคนอื่นมามากจนเกินไปจนร่างกายเกิดอาการร้อนรนทนไม่ไหวจนเหมือนร่ายกายจะระเบิดอยู่ตลอดเวลา จน ลุงของตัวเองซึ่งเป็นฮ่องเต้ต้าหลี่ ซึ่งนึกว่าต้วนอี้ถูกพิษของ เกาฑัณต์ ของ มู่หว่านชิงจนร่างกายทนไม่ไหว ตนเองจะใช้ดรรณีสุริยันขับพิษออกมาก็ไม่ได้เพราะต้องออมแรงเอาไว้สู้กับ ราชครูคิวม่อจื้อ จึงได้ตัดสินใจให้ต้วนอี้ ฝึกวิธีในการดูดซึมซับพิษเอาไว้ในอวัยวะภายในต่างๆ ของตระกูลต้วน เพื่อให้ต้วนอี้ลดความทรมานลง แต่ การทำเช่นนี้จะเป็นผลร้ายแรงในภายภาคหน้าเพราะจะทำให้ไม่สามารถขจัดพิษต่างๆออกมาจากร่างกายได้อีกแล้วซึงก็จะทำให้พิษสามารถจะกำเริบจนถึงแก่ชีวิตได้ทุกเมื่อ ซึ่งหารู้ไม่ว่าที่ต้วนอี้ต้องทรมานนั้นไม่ใช่เพราะพิษแต่เป็นเพราะกำลังภายในของยอดฝีมือหลายๆคนมากระจุกรวมอยู่ในร่างของตัวเองมากเกินไปการดูดซับกำลังภายในเข้าไปกักเก็บในอวัยวะภายในต่างๆกับเป็นคุณประโยชน์แก่ต้วนอี้ได้อย่างบังเอิญที่สุดและที่บังเอิยอีกอย่างนึงคือ ต้วนอี้ได้ฝึกเทพกระบี่หกชีพจร จึงทำให้กำลังภายในที่ตนเองดูดมาได้นำออกมาใช้ซึ่งเป็นคุณประโยชน์แก่ร่างกายอีกทางหนึ่ง

ซึ่งแนวทางการดูดซึมซับพิษไว้ในอวัยวะภายในนั้น ก็เป็นแนวทางเดียวกับอิ๋วถังจื่อนั่นเอง จึงทำให้พิษไหมน้ำแข็งเลยยังวนเวียนอยู่ในตัวของอิ๋วถังจื่อ ตลอดกาลจวบจนวันตายเพราะไม่สามารถขจัดออกได้ จนกว่าจะได้ฝึกคัมภีรืเปลี่นเส้นเอ็นในแบบสมบูรณ์

และประสิทธิผลอีกทางหนึ่งที่ อิ๋วถังจื่อ ได้รับคือ ร่างกายของเค้าก็สามารถต้านพิษได้ทุกชนิดเช่นเดียวกับต้วนอี้เช่นกัน เพราะ พิษไหมน้ำแข็งทั้งหมดถูกซึมซับเก็บไว้ในร่างกายของเค้าตลอด ตามหลักของพิษต้านพิษ ซึ่งพิษของไหมน้ำแข็งเปรียบดั่งมหาสมุทรที่ไม่มีแน่น้ำสายใดมาเปลี่ยนแปลงได้

ป.ล2. วิชาสลายพลังที่ อาจื่อฝึกโดยใช้พิษก็เป็นความพยายามที่สูญเปล่าเช่นกัน เพราะทุกครั้งที่ใช้พิษฝึก พิษทั้งหมดได้ถูกอิ๋วถังจื่อ ซึมซับเอาไว้ในร่างกายหมดแล้วทุกครั้ง ที่มีน้ำเลือดหรือน้ำเมือก อันเกิดมาจากพิษหยดออกมา น้ำหยดนั้นจึงปราศจากพิษอีกแล้วเพราะอิ๋วถังจื่อฝึกคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นไม่สมบูรณ์จึงได้แต่ดูดซับแต่ไม่สามารถขจัดออกได้ ซึ่งเคล้ดเกี่ยวกับวิชาสลายพลัง จะมากล่าวในคราวต่อไป

อิ๋วถังจือ? ใช่คนที่สวมหน้ากาก หรือไม่ ขอรับ?

อ่อใช่ครับ

จะว่าไป ทั้ง3คน อิ๋วถังจื่อ มู่หยงผัก เต็งซิงแส ฝีมือเป็นเลิศทั้งสิ้น แต่กระทั่ง เฉียวฟง เพียงคนเดียวกลับรับ มือพวกเขาได้อย่างเหลือเฟือ...........

8 เทพอสูรมังกรฟ้า พากษ์ไทย



ดูในนี้ ความเห็นที่ 446 ก้ได้นะครับ สำหรับตอนที่ 1 - 4

http://www.roch.clubdara.com/topic.php?topic=2622&page=21

สำหรับตอนที่ 6 - 21 ดูในนี้ครับ

http://video.mthai.com/myvideo.php?id=SuperCan

ขาดแค่ตอนที่ 5 กับ 11 เพราะเคยลงไว้นานแล้วทางคนที่เค้ามาอัพเค้าลบไปแล้ว ยังไงก็ดุข้ามๆไปก็ได้

เดี๋ยวนี้มีอย่างนี้ด้วย ขอบคุณท่านปรมจารย์บ๊อป ยิ่งนัก ขอรับ

ติงชุนชิว นี่ธรรมดามากเลยครับ เจอค่ายกลงูเหลือม ของพรรคกระยาจก ก็แพ้แล้ว แต่มีฝีมือพอๆกับ อิ๋วถังจื่อ แต่มู่หยงฟู่ นี่ต้องรอให้ผมอ่านฉบับนวนิยายจนจบเรื่องก่อนนะครับ ถึงจะสรุปได้ว่าเก่งแบบในการ์ตูนหรือไม่ เพราะถ้าในการ์ตูน นั้น มู่หยงฟู่ ต้องใช้3คนรุมถึงจะเอาชนะได้ คือ เซียวฟง ต้วนอี้ ซีจุ๊ ซึ่งผมก็อ่านใกล้จะถึงตอนนั้นแล้วล่ะครับ จึงจะหาข้อสรุปได้

ถ้าจำไม่ผิดที่ข้าน้อยเคยดู มู่หยงฝู่เองดู ไม่ได้เก่งอะไรไปกว่าเฉียวฟง เลยน่ะ ขอรับ....

ว่าแต่ท่านปรมจารย์บ๊อป ช่วยแสดงความเห็นในนี้หน่อยสิ ขอรับ ..

http://roch.clubdara.com/topic.php?topic=2885

ข้อ4น่ะ ขอรับ อยากทราบจริงจริง....

ก็อย่างที่ผมบอกนะครับ คือต้องรอผมอ่าน 8เทพฉบับนวนิยายให้จบครบถ้วนซะก่อน ผมถึงจะประเมินความสามารถที่แท้จริงของ มู่หยงฟู่ ได้ ว่ามันตรงกับฉบับการ์ตูนหรือป่าว ถ้าตรงก็รับมือได้ครับ ถ้าไม่ตรงก็รับไม่ได้

อย่างที่ผมเคยบอกไว้บ่อยๆน่ะครับเกี่ยวกับเรื่องของพลังซ่อนเร้นของแต่ละคน คือถ้ามู่หยงฟู่ไปได้คัมภีรืเปลี่ยนเส้นเอ็น ขั้นสีดำ กับลมปราณภูติอุดร แบบไม่สมบูรณื ขึ้นมาเข้าจริงๆมันก็มีปัจจัยหลายๆอย่างให้น่าคิด

แล้วไม่รู้ว่าเซียวฟงได้คัมภีรืเปลี่ยนเส้นเอ็นขั้นสีขาว ตามแบบในการ์ตูน จริงหรือป่าว

แล้วคัมภีรเปลี่ยนเส้นเอ็นขั้นต่างๆร้ายกาจขนาดที่ในการ์ตูนบรรยายไว้จริงหรือไม่

อันนี้มันต้องอ่านแบบนวนิยายให้จบก่อนน่ะครับจึงจะประเมินได้

ขอบคุณท่านมาก ขอรับ ........ว่าแต่...ภาพยนต์ ค้างบ่อยนัก ขอรับ

ดูไปไม่ทันไร ก็ค้างอีก

ทริปในการรับชมได้บอกไว้แล้ว ใน ความเห็นที่ 446 ครับผม

ทริปในการรับชมแบบต่อเนื่องไม่เสียอรรถรส

ให้ท่านคลิกเปิดมาทิ้งไว้ทีเดียว 2 - 3 ตอน

โดยให้กด pause ตอนที่ยังไม่ได้ดูไว้เพื่อรอให้มันโหลดจนเต็ม

แล้วเลือกเล่นเฉพาะตอนที่ท่านต้องการจะดูก่อนเป็นตอนแรก หรือ เปิดทิ้งไว้ก่อนจนตอนที่ท่านต้องการจะดูตอนแรกแถบสีเขียวขึ้นจนเกือบจะเต็ม

เวลาเราดูตอนที่เราต้องการดูตอนแรกจบเราก็สามารถดูตอนต่อไปต่อจากตอนที่เราดูแล้วได้โดยที่เราไม่ต้องรอโหลดให้เสียอรรถรส

พอเราดูจบไปตอนนึงเราก็คลิกเพิ่มขึ้นมารอโหลดตอนต่อไปอีกตอนนึง แล้วทำแบบเดิมไปเรื่อยๆจนกว่าจะจบตอนที่ท่านต้องการจะดูในตอนนั้น

ป.ล. ถ้ารับชมแบบขยายภาพเต็มจอ ภาพมันจะแตกมันจะรับชมไม่ค่อยชัดเท่าไหร่นะ ถ้ารับชมแบบปกติจะชัดกว่า อันนี้ท่านต้องชั่งใจเอาเองว่าจะเลือกรับชมแบบไหน

ข้าน้อยความรู้ยังน้อยนักไม่กล้าลงความเห็น แต่ก้อสนใจมากๆคับ เคยรู้จักแต่ชื่อวิชานี้ แต่เพิ่งมารู้ หลักการและเคล็ดวิชาวันนี้นี่เองคับ ขอบคุณคับ ท่านประมุขหอดารา

ยอดวิชาสลายพลัง

ยอดวิชาสลายพลังเป็นวิชาที่ต้องฝึกโดยการใช้พิษของสัตว์พิษนำมาฉาบไว้ที่มือแล้วดูดเข้าไปในร่างกายต้องทำอย่างงี้อยู่เสมอ ถ้าไม่ได้ทำการฝึกเกิน7วัน พิษที่มีอยู่ในร่างกายจะไม่มีพิษใหม่เข้ามาข่มพิษเดิม ทำให้พิษในร่างกายจะกำเริบ พลังฝีมือถดถอย จนถึงแก่ชีวิตในที่สุด

การสลายพลัง ไม่ใช่การสลายพลังโดยลมปราณแต่ สลายพลังศัตรูโดยใช้พิษโดยใช้ลมปราณในร่างกายที่เป็นตัวแพร่พิษออกมา ผู้ที่ฝึกจนสำเร็จถึงขั้นลึกล้ำแล้ว แบบ ติงชุนชิว อวัยวะทุกส่วนบนร่างกายจะเต็มไปด้วยพิษไม่เว้นแม้กระทั่งเส้นผม ผู้ฝึกมักจะใช้กระถางไม้วิเศษเป็นตัวช่วย

กระถางไม้วิเศษเป็นกระถางที่มีกลิ่นหอมพิเศษชนิดหนึ่ง คือให้ผู้ฝึกเผาเครื่องหอมในกระถางแล้วจะช่วยชักนำสัตว์พิษเข้ามาในกระถาง แล้วให้กัดคนที่นำมาใช้ในการฝึกเพื่อนำเลือดที่ถูกพิษของคนๆนั้นที่หยดลงมาจากรูใต้กระถาง จากนั้นให้ผู้ฝึกเอามือรองที่หยดเลือดตรงนั้นแล้วใช้ลมปราณดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย สรุปง่ายๆ คือกระถางไม้วิเศษ ช่วยให้การฝึกง่ายขึ้นและเบาแรงขึ้นในการที่ไม่ต้องไปคอยดักจับสัตว์พิษให้เหนื่อยแค่นั้นเอง ซึ่งผู้ที่ฝึกยอดวิชาสลายพลัง ไม่จำเป็นต้องใช้กระถางไม้วิเศษก็ฝึกได้ แต่จำเป็นต้องมีสัตว์พิษเพื่อทำการฝึกอยู่อย่างสม่ำเสมอ โดยเว้นการฝึกได้ไม่เกิน 7วัน

เฒ่าเต็ง ร่างกาย เต็มไปด้วยพิษอย่างนั้น เชียว.......

เดี๋ยวว่างๆจะมา สาธยายกันต่อ ในวิชา ดาวเคลื่อนดาราคล้อย แห่งตระกูลมู่หยง

ดาวเคลื่อนดาราคล้อย ( ยืมหอกสนองคืนผู้ใช้ )

วิชานี้ใช้หลักการยืมพลังฟาดพลัง ในหลักของ สี่ตำลึง ปาดพันชั่ง ใช้หลักการ หักเห หรือสะท้อนกลับ การจู่โจมของคู่ต่อสู้ ยิ่งคู่ต่อสู้จู่โจมมารุนแรงมากเท่าไหร่ ผลสะท้อนกลับไปย่อมรุนแรงเท่านั้น วิชานี้มีส่วนคล้ายคลึงพลังเคลื่อนย้ายจักรวาลอย่างมาก แต่ก็แตกต่างตรงที่ไม่เหมาะกับการหักเห หรือสะท้อน จำพวกวิชาลมปราณ เพราะผู้ที่จะกระทำได้ต้องฝึกจนถึงขั้นลึกล้ำนั้น และตนเองต้องมีกำลังภายในมากกว่าพลังที่จู่โจมมา ตรงกันข้ามกับมีประสิทธิภาพมากหากใช้กับ สิ่งที่เป็นวัตถุจับต้องได้ เช่น ฝ่ามือ ดรรชณี ลูกเตะ หมัดกรงเล็บ หรือ อาวุธต่างๆ อย่าง มู่หยงฟู่ นั้นยังฝึกไม่ถึงขั้นลึกล้ำ ซึ่งต่างกับ มู่หยงป๋อ ผู้เป็นบิดา

วิชานี้เป็นวิชาลับสุดยอดของตระกูลมู่หยง มักจะใช้ออกเมื่อเจอกับคู่ต่อสู้ตัวต่อตัว หรือยามคับขันเท่านั้น คนทั่วไปจึงนึกว่า ตระกูลมู่หยง แตกฉานวิชาฝีมือทั้งแผ่นดิน จนขนานนามว่าวิชายืมหอกสนองคืนผู้ใช้ ซึ่งความจริงแล้วมิใช่