มหาเวทย์ดูดดาว vs ลมปราณภูติอุดร vs วิชาสลายพลัง

คือถ้าตีความน่ะครับ มันอาจจะอย่างนี้ก็เป็นไปได้น่ะครับท่าน คือว่า

มหาเวทย์ดูดดาวที่เกริ่นมาว่าบัญญัติในสมัยปักซ้องเนี่ยก็อาจหมายถึง รากฐานของมหาเวทย์ดูดดาว(คือผู้สื่อความอิงจากยุคสมัยเดชคัมภีร์ อาจสื่อว่าวิชานี้มีรากฐานมานาน) สร้างโดยประมุขสราญย์ยุคแรกๆ ต่อมาพอถึงยุคที่เต็งชุนชิวทรยศสำนักก็ได้นำเอาวิชาไปบัญญัติใหม่ แต่ด้วยความไม่ชำนาญการสาขาของวิชาสลายพลังเลยไม่เก่งกาจนัก เพราะอวิชชาไม่เที่ยงแท้ย่อมแพ้วิชาที่เที่ยงธรรม วิชามหาเวทย์ดูดดาวเดิมที่มีมาแต่แรกพอตกทอดถึงรุ่นที่ต้วนอี้ฝึกปรือก็กลายเป็นชื่อว่า ลมปราณภูติอุดรไป (แปลว่ามีอัน 1 คือสายเดิม อีก 1 คือสายดัดแปลง เพราะลมปราณภูติอุดรสามารถซับพลังถ่ายเทพลังได้สมบูรณ์แบบ) ต่อมาถึงช่วงเดชคัมภีร์ก็มีการนำเอาสองวิชานั้นมาสร้างขึ้น โดยชื่ออาจไปสอดคล้องกับชื่อดั้งเดิมของมัน แต่ความจริงแล้ววิชาของยิ่มอั้วเกี๊ยะอ่อนด้อยกว่าวิชาทั้งสองมาก เพราะวิชาของยิ่มอั้วเกี๊ยะไม่ต่างอะไรจากระเบิดเวลา อีกทั้งยังเอามาใช้ได้ไม่เต็มขีดจำกัด

ผมเชื่อเช่นนั้น ผิดถูกก็ขอดูความคิดเห็นท่านอื่นๆ ประกอบการตัดสินใจอีก

ข้อมูลนี้ผมรู้มาในส่วนหนึ่ง

แต่ที่มาของมหาเวทย์ดูดดาว นั้นสับสนอยู่ว่าเกิดจากลมปราณภูติอุดรและวิชาสลายพลังรวมกันจริงหรือเปล่า แล้วที่สำคัญใครเป็นคนรวม ? ภายหลังลมปราณภูติอุดรโดนทำลายทิ้ง วิชาสายพลังหายสาบสูญ ซึ่งจุดนี้ให้ผมเชื่อว่ามหาเวทย์ดูดดาวไม่ได้เกี่ยวข้องกับ 2 วิชาด้านบน แต่ถ้าหนังสือลงลึกขนาดนั้นจริง ผมก็จะเชื่อแบบนั้นละกัน แม้จะมีบางจุดที่ไม่เข้าใจของที่มา เดี๋ยวจะมาวิเคราะห์อีกที
อย่างที่คุณฤทธาบอก อยูในสมัยปักซ้อง แต่เหตุฉไหนถึงไร้ชื่อ

ในส่วนตัวคิดว่า มหาเวทย์ดูดดาวนั้น ถึงจะรวมจากทั้งลมปราณภูติอุดรและวิชาสลายพลัง แต่ว่าอนุภาพก็ยังด้อยกว่า บางทีต้นตำรับก็มีส่วนที่เป็นเอกลักษณ์ไว้เหมือนกัน
ลมปราณภูติอุดรและวิชาสลายพลัง ทางด้านมหาเวทย์ดูดดาวคิดว่ามีผลเสียมากกว่า ฝึกขั้นหนักก็โดนตัวเองไม้แพ้ลมปราณภูติอุดรเหมือนกัน

3 วิชานี้ คิดว่าแรงปฎิกิริยาในการดูด ลมปราณภูติอุดร น่าจะเหนือสุดเพราะดูดได้แม้กระทั่งผู้ฝึกไม่ตั้งใจ ต้วนอี้ไม่ชอบวิชานี้แต่กลับใช้วิชานี้ดูดคนอื่นๆที่มีพลังวัตรสูงๆมาทั่ว มีถึงเกือบผู้ฝึก 200 ปีร่วมกัน แน่ไม่แน่วิชานี้ทำให้สามารถใช้ดรรชนีกระบี่หกชีพจรได้ ที่บอกว่าไวต่อการสัมผัส นั่นคือต้วนอี้ไม่ต้องการใช้วิชานี้ หรือพูดง่ายๆว่าไม่เคยคิดใช้เลย แต่วิชานี้กลับดูดให้เองโดยที่นิ้วโป้งต้วนอี้สัมผัสเท่านั้น และวิชานี้ก็เพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งลองกลับมาดูเหล่งหูช่ง ซึ่งก็ไม่ต้องการใช้วิชานี้เหมือนกับต้วนอี้เช่นเดียวกัน พยายามหลีกหนี แต่ปฎิกิริยาการสัมผัสไม่เท้าต้วนอี้ เท่าที่สังเกตมา
และพลังวัตรของเหล่งหูช่งน้อยอย่างไงก็ยังน้อยอย่างงั้น ผิดกับต้วนอี้ที่พลังวัตรเพิ่มเอาเพิ่มเอาเมื่อเผลอไปสัมผัส
และ ลมปราณภูติอุดรก็สามารถทั้งปรับเป็นของตัวเองและสลายทิ้งได้เหมือนกัน ไม่แพ้มหาเวทย์ดูดดาว ส่วนวิชาสลายพลังอันนี้คงด้อยสุด ใช้ได้แต่สลายอย่างเดียวและนำมาเป็นของตัวเองไม่ได้ แต่วิชานี้น่าจะสลายได้เร็วกว่าลมปราณภูติอุดรและมหาเวทย์ดูดดาวเป็นแน่แท้ สรุปว่าเราเคยเห็นยิ่นอั้วฮั้งใช้มหาเวทย์ดูดดาวได้อย่างดีเยี่ยม เพราะยิ่นอั้วฮั้งทุ่มเทให้กับวิชานี้จนฝึกได้อย่างช่ำชอง แต่เราไม่เคยเห็นต้วนี้ฝึกและทุ่มเทให้กับลมปราณภูติอุดร รู้แต่ว่าแค่ได้เพียงผิวเผินและไม่อยากใช้ ยังสามารถดูดได้มหาศาลขนาดนี้ ถ้าทุมเทฝึกแล้วประยุกต์วิชานี้จริงๆ น่าจะมีอนุภาพมากกว่าที่เห็นหลายเท่านัก

ใรความคิดของผม เข้าใจง่ายๆว่า

วิชามหาเวทย์ดูดดาว ก็คือการดูดพลัง แล้วสลายทิ้งไป

วิชาลมปราณภูมิ ก็คือ การดูด แล้วเอามาใช้ ครับ

จากที่ผมได้อ่าน นวนิยายเรื่องนี้อย่างละเอียดอีกครั้ง ก็สามารถที่จะเข้าใจวิชานี้ได้ค่อนข้างกระจ่างพอสมควรครับดังนั้นจึงขอแสดงความเห็นที่มาจากความเข้าใจในการอ่านรอบนี้ ซึ่งใครจะเชื่อหรือไม่ก็ได้ครับอันนี้ถือว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคคล

ขอแสดงความเห็นต่างจาก จอมยุทธมังกรน้อย นิดนึง เฉพาะตรงส่วนที่ความเห็นต่างนะครับ

วิชามหาเวทย์ดูดดาว ดูดแล้วเอามาใช้ได้ครับ แต่ใช้ได้เพียงชั่วคราว
เพราะเนื่องจากกำลังภายในที่ดูดมาต่างสายต่างที่มาต่างแนวทางยากที่จะหลอมรวมกันได้
ภายหลังจึงต้องมีการสลายพลังบางส่วนทิ้งไปบ้าง ตามความจำเป็น แต่เอามาใช้ได้ครับ
ยกตัวอย่างเล่งฮู้ชง ตอนฝึกมหาเวทย์ดูดดาว ได้สลายพลังทั้ง8 สายของ 6เซียนหุบเขาท้อและหลวงจีนธุศีลออกไปจนหมดแล้ว แต่ก่อนออกมาจากคุกใต้ทะเลสาบดันไปเผลอดูดกำลังภายในของ1 ใน4 สหายเจียงหนาน เข้าเลยมีกำลังภายในกลับขึ้นมาใหม่แต่เป็นกำลังภายในเพียงสายเดียว จนกว่าจะไปดูดกำลังภายในคนอื่นมาเพิ่มอีก ร่างกายก็จะมีกำลังภายในเพิ่มอีกสายนึง ไปเรื่อยๆ และสามารถนำมาใช้ได้ครับ
แต่ภายในร่างกายจะเกิดปฏิกิริยาให้เกิดความเจ็บปวดทรมานตลอดเวลา เพราะกำลังภายในต่างสายต่างแนวทางกันยากที่จะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับร่างกายคนผู้นั้นได้ ภายหลังจึงต้องมีการสลายออกไปบ้าง ซึ่งวิธีนี้มี ยิ่นอั้วฮั้ง คนเดียวที่ทำได้เรียกว่า เหนือกว่าผู้บัญญัติ วิชานี้ก็ว่าได้

ขอแสดงความเห็นต่างจาก มือกระบี่ไร้นาม นิดนึง เฉพาะตรงส่วนที่ความเห็นต่างนะครับ

เล่งฮู้ชง ฝึกมหาเวทย์ดูดดาว ได้ไม่ลึกล้ำเท่ากับ ยิ่นอั้วฮั้งครับ ไม่ได้ต่างกันแค่ ยิ่นอั้วฮั้ง สลายพลังได้เท่านั้น ยังต่างกันที่อานุภาพการดูดครับ เล่งฮู้ชงพลังการฝึกปรือวิชานี้ไม่ลึกล้ำเท่ายิ่นอั้วฮั้ง เวลาดูดจะดูดออกมาได้ไม่เต็มที่เหมือนยิ่นอั้วฮั้งครับ และถ้าไปดูดคนที่มีกำลังภายในสูงๆเข้าคนๆนั้นก็สามารถที่จะสลัดหลุดได้ไม่ยากครับ ต่างจากยิ่วอั้วฮั้ง ที่ถ้าลองได้ดูดแล้ว สลัดหลุดยากครับ แถมสามารถดูดได้เกือบหมด ยกตัวอย่างตอนที่ เล่งฮู้ชง ต่อสู้กับ ยอดฝีมือของสำนักซงซานคนนึง ตอนที่เพิ่งฟื้นมาจากถูกแย่งเพลงกระบี่ปราบมารไป มีข้อความในนวนิยาย บรรยายตรงนี้เอาไว้ชัดเจนครับ

ขอแสดงความเห็นต่างจาก ท่านประจิมคลุ้มคลั่ง นิดนึง เฉพาะตรงส่วนที่ความเห็นต่างนะครับ

เรื่องความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจในการดูดพลังนะครับ บอกได้เลยจากที่อ่านมาเลยครับว่า มีปฏิกิริยาในการดูด เหมือนกันเลย ไม่ต่างกันเลย เผลอดูดไปโดยไม่ตั้งใจเช่นเดียวกัน บางครั้งแค่สัมผัสกระบี่ของเล่งฮู้ชง ก็เผลอดูด ไปโดยไม่ตั้งใจหลายต่อหลายครั้ง เล่งฮู้ชง ทุกๆครั้งที่ดูดมาไม่ใช่ว่าดูดมาแล้วกำลังภายในน้อยยังไงก็น้อยอย่างนั้นนะครับกำลังภายในของเค้าก็เพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน แต่เนื่องจาก เล่งฮู้ชง ไม่ได้หมั่นฝึกปรือจนถึงขั้นลึกล้ำ อย่างยิ่นอั้วฮั้ง ก็เลยดูดพลังได้ไม่เต็มที่อย่างที่กล่าวไปข้างต้น และส่วนใหญ่คนที่เค้าเผลอไปดูดมาก็ไม่ใช่พวกยอดยุทธซักเท่าไหร่ และที่ตั้งใจจะใช้ดูดมีเพียงไม่กี่ครั้ง ต่างจากต้วนอี้ที่ถ้าโมโหขึ้นมาก็ตั้งใจดูดเป็นเรื่องเป็นราวเหมือนกันครับ แถมดูดทีหมดเลยด้วย ต่างจากเล่งฮู้ชง ดูดๆปล่อยๆสลัดหลุดง่าย บางครั้งก็ปล่อยเอง แถมเล่งฮูชงสลายกำลังภายในบางส่วนออกไปบ้างก็ทำไม่เป็นอีก ขนาดกรุยชีพจรด้วยตนเองยังทำไม่เป็นเลยครับ ภายหลังจึงต้องให้ ยิ่วอั้วฮั้ง สอนวิธีให้

ขอแสดงความเห็นต่างจาก ท่าฤทธานุภาพ นิดนึง เฉพาะตรงส่วนที่ความเห็นต่างนะครับ

จากข้อความในนวนิยาย ที่ผมเอามาลง รวมทั้งจากที่ได้อ่านมา ผมตีความได้อย่างนั้ครับ
วิชามหาเวทย์ดูดดาวนี้บัญญัติโดย สำนักสราญรมย์ แต่ ถูกแบ่งออกเป็น2 ส่วนคือ วิชา ลมปราณภูติอุดร กับยอดวิชาสลายพลัง ซึ่งส่วนแรก ต้วนอี้ได้ไป ส่วนที่2 เต็งชุนชิวได้ไป และหลังจากที่ยุค8เทพได้ผ่านเรื่องร้ายๆต่างๆไปแล้ว อาจจะมีคนไปสืบเสาะและนำ2 วิชานี้กลับมารวมกันใหม่อีกครั้ง ซึ่งในนวนิยายไม่ได้ระบุว่าเป็นใคร อาจจะเป็น ต้วนอี้เอง หรือ ซีจุ๊ หรืออาจจะเป็นคนอื่นๆ ของสำนักสราญรมย์ หรือ สำนักดาวนักษัตร ของเต็งชุนชิว อันนี้แล้วแต่จะจินตนาการกันไป โดยนำเอาจุดเด่นของ2วิชานี้มาหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียวโดยไม่ได้แบ่งเป็น 2กระแสดั่งเช่นตอนแรก แต่มีผลข้างเคียงที่ร้ายแรงต่อร่างกายของบุคคลที่ฝึก แต่ปัญหาตรงจุดนี้ อย่าลืมนะครับว่าปัญหาตรงนี้ถูกแก้ไขโดย ยิ่นอั้วฮั้ง เรียบร้อยแล้ว เรียกว่าเหนือกว่าผู้บัญญัติก็ว่าได้ และผมมั่นใจว่าวิชานี้เป็นแนวทางวิชากับวิชาในนวนิยายเรื่อง 8เทพน่ะแหละครับ อย่าลืมนะครับว่า นวนิยาย ทั้ง 8 เทพ กระบี่เย้ยยุทธจักร มังกรหยก ท่านกิมย้งมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเนื้อหาหลายต่อหลายครั้ง เมื่อก่อนถ้าท่านกิมย้งแต่งนวนิยายเรื่องหนึ่งก็คงไม่คิดที่จะนำมาเชื่อมกับนวนิยายอีกเรื่องนึงที่ตนเองยังไม่ได้แต่งหรอกครับ แต่พอวันเวลาผ่านไปผลงานได้รับความนิยม จึงมีการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงเนื้อหาบ่อยครั้ง จนท่านกิมย้งสามารถที่จะเอามาเชื่อมต่อกันจนได้ อย่างที่เค้าว่ากันน่ะแหละครับว่า ภูษาไร้ตะเข็บ เพื่อแก้ข้อสงสัยต่างๆว่ามันมาจากที่เดียวกันหรือป่าวมันมีส่วนเกี่ยวกันไม๊ และนวนิยายกระบี่เย้ยยุทธจักรที่กระผม มีโอกาสได้อ่านก้เป็นแบบปรับปรุงล่าสุด ลิขสิทธิ์ถูกต้องครับผม ผมจึงมั่นใจเลยครับว่า มันเป็นวิชาที่เชื่อมมาจากยุค 8เทพ แน่นอนครับ

อันนี้ผมกล่าวเฉพาะในส่วนของ วิชามหาเวทย์ดูดดาว นะครับ เพราะผมจะมั่นใจเฉพาะในส่วนของข้อมูลที่อ้างอิงได้เท่านั้น

แต่ข้อมูลของ วิชา ลมปราณภูติอุดร นั้นกระผมไม่ขอออกความเห็น เพราะกระผมยังไม่เคยมีบุญได้อ่าน 8เทพอสูรมังกรฟ้า ฉบับ นวนิยายลิขสิทธิ์ถูกต้อง เคยอ่านแต่แบบการ์ตูน เคยดูแต่ในหนัง และข้อมูลบอกเล่ากันปากต่อปาก ซึ่งก็เชื่อถือได้บ้างไม่ได้บ้าง จึงไม่ควรนำพามาเป็นข้อมูลอ้างอิง และไม่กล้าแสดงความมั่นใจอะไรออกไป

ดังนั้นผมจะขอกล่าวเฉพาะข้อมูลของวิชา วิชามหาเวทย์ดูดดาว เท่านั้นนะครับ

ส่วน ลมปราณภูติอุดร รอผมมีบุญได้อ่านได้ศึกษานวนิยายเรื่อง 8เทพอสูรมังกรฟ้า ก่อนแล้วผม จะเอารายละเอียดในนวนิยายเกี่ยวกับวิชานี้มาลงให้อ่านกัน

แล้วเดี๋ยวว่างๆ จะเอาข้อมูลของ คัมภีร์ทานตะวันและเพลงกระบี่ปราบมาร มาลงให้อ่านกัน แต่ต้องรอให้ผมมีเวลาซักหน่อยเพราะข้อมูลของวิชานี้มี เกือบสิบกว่าหน้าได้ ผมจะลองย่อๆเอาแต่เนื้อๆมาลงให้แล้วกันครับ

ป.ล. เนื่องจากบอร์ดเรานี้ขาดสีสันในเรื่อง การแสดงความเห็นเรื่องวิชาและวิทยายุทธมานาน ตอนนี้มีเดชคัมภีร์เทวดา กลับมาฉายใหม่ ผมจึงพยายามสร้างกระแสให้บอร์ดกลับมาเป็นไปในแนวทางเดิมอีกครั้ง
มีใช่ต้องการที่จะ ต่อล้อต่อเถียง หรือ ก่อให้เกิดความขัดแย้งในการแสดงความคิดเห็นต่างๆแต่อย่างใด ทั้งนี้ผมเคารพในทุกๆความคิดเห็นของทุกๆคน และอยากให้บอร์ดดูมีสีสันตามแนวทางเดิม หวังว่าทุกๆท่านคงเข้าใจ ในเจตนารมณ์ของกระผม อาจจะมีล่วงเกินไปบ้างโดยไม่ได้ตั้งใจได้โปรดอภัย

ผมอยากแลกเปลี่นความคิดเห็นพอดี

อวิชชาเวทดูดดาว(เรียกตามนิยาย) เป็นวิชาที่ดูดพลังของผู้อื่น ยิ่มอั่วกี่ยฝึกวิชานี้ในตอนแรก แต่ไม่รู้วิธีสลายพลังในการดูด จึงถูกตังฮึงปุกป่าย แย่งชิงตำแหน่งไป อวิชชาเวทดูดดาว ดูดพลังของคนอื่น อย่างที่บอกว่า อันนี้เป็นแบบเหล็งฮู้ชง ผู้ที่ฝึกวิชานี้ แค่ไปจับข้อมือของคนอื่น ก็ดูดพลังแล้ว อวิชชาเวทดูดดาว มีข้อเสียหลายประการ ประการแรกคือ อย่าให้กำลังภายในที่ดูดมาสะสมอยู่ในร่ายกายนานเกินไป มิฉะนั้นมันจะส่งผลทำร้ายตนเอง อย่างเหล็งฮู้ชงตอนท้ายเรื่อง ประการที่สอง วิชานี้หากดูดกำลังภายในที่ไม่ดี เช่น ตอนที่ยิ่มอั่วเกี่ยใช้อวิชชาเวทดูดดาวดูดกำลังภายในของจ้อแน่เซี้ยง ที่ใช้พลังน้ำแข็งเย็น ยิ่มอั่วเกี่ยถึงกับสั่นไป ภายหลังได้เหล็งฮู้ชง เฮี่ยงมุ่งเทียน ยิ่มเอี้ยงเอี้ยงช่วยไว้

ความจริงเองเหล็งฮู้ชง ก็ไม่ได้ฝึกลึกล้ำเท่ายิ่มอั่วเกียครับ ผมไม่ได้บอกว่าเหล็งฮู้ชงเองเท่ากันกับยิ่มอั่วเกี่ย

อืม ผมขอแลกเปลี่ยนมั่งละกัน

อย่างที่บอกว่า มหาเวทย์ดูดดาวนั้น มีผลข้างเคียงมาก ใช่ว่ามันจะเพอเฟคเสมอไป ดูดแล้วรวมไม่ได้ก็จะออกมาแบบเหล่งหูช่ง เก่งหน่อยเอาออกไปได้ก็เหมือน ยิ่มอั่วเกี่ยแต่ก็ไม่รู้ว่ายิ่มอั้วเกี่ยจะหลอมรวมกับวิชาสายนั้นได้หรือเปล่า ถ้าไม่ได้ก็สลายทิ้ง คิดว่าถ้าหลอมรวมเข้ากับพลังนั้นไม่ได้ พลังการสลายมีเปอร์เซนต์มากกว่าการนำมาใช้ นั่นอาจไม่ถึงครึ่งต่อครึ่ง ซึ่งผลข้างเคียงก็ออกมาอย่างที่บอกกัน ส่วนทางด้านเหล่งหูช่งกับต้วนอี้ ทั้งสองไม่ตั้งใจดูดเหมือนกัน บางทีต้วนอี้ดูดแบบติดหนึบพลังรุนแรงจนละการดูดไปไม่ได้ และพลังการดูดไม่สามารถควบคุมได้ เพราะถ้าละได้ต้วนอี้คงละไปนานแล้ว ส่วนเหล่งหูช่งดูดๆปล่อยๆอย่างที่บอก ก็ถือว่าควบคุมได้ แล้วคิดว่าพลังที่สามารถควบคุมได้กับไม่ได้อันไหนมันน่าจะดูดรุนแรงกว่ากัน ผมคิดอย่างนี้นะ ส่วนผลข้างเคียงผมก็คิดว่ามหาเวทย์ดูดดาวน่าจะมีผลข้างเคียงเยอะกว่าอยู่ดี ส่วนด้านคุณวิชาแล้วทั้งสามล้วนให้เกิดผลร้ายเหมือนกีนหมด

ดีครับจะได้มีสีสรรค์ ผมไม่คิดอะไรมากเราต่างเคารพซึ่งกันและกันครับ
แต่เป็นการแสดงความคิดเห็นที่แสดงกันไป แย้งได้ก็ไม่ว่ากัน

ขอและเปลี่ยนความคิดมั่ง

การจะนําพลังลมปราณที่ดูดแล้วนํามาใช้นั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายๆนะครับ เพราะ มันก็เหมือนเวลาเราถ่ายเลือดให้คนอื่น ถ้าเลือดไม่ได้อยุ่ในกรุปเดียวกัน ก็จะถ่ายให้กันไม่ได้ ก็เหมือนกับการที่เราไปดูดลมปราณคนอื่นมา ซึ่งแต่ละคนก็จะมีการฝึกลมปราณท่ต่างกันไป บางคนก็สายหยิน บางคนก็สายหยาง เมื่อเราดูดมาก็ย่อมที่ตีกันเป็นธรรมดา ยังมหาเวทย์ดูดดาว ที่ทําได้แค่ดูด แต่ใช้ไม่ได้เพราะ ไม่ใช้วิขาเดินลมปราณ ส่วนวิชาลมปราณภูมิอุดรนั้น เดิมก็คือ 2 วิชา รมกัน คือ วิชาดูดดาว กับวิชา พลังยมทูต ซึ่งวิชาพลังยมทูตก็คือการใช้พลังที่เราดูดจากคนอื่นมาแปลเป็นพลังของเรา ซึ่งก็คงเป็นวิชาเดียวที่สามารถทําได้ครับ

อวิชชาเวทดูดดาว ดูดกำลังภายในคนอื่นเขามา แต่ตัวเราเองบางทีก็ไม่อาจควบคุมได้ เพราะกำลังภายในต่างกันมารวมอู่ในร่างเดียวกัน ก็ก่อเกิดผลเสียต่อตัวเอง นี่ก็คือข้อเสียอีกข้อของอวิชชาเวทดูดดาว

ผมงง กับ ข้อมูล ของจอมยุทธมังกรน้อย มากๆเลย

ข้อความที่ ผมลงไว้อันแรก นั่นข้อความที่ ยกมาจากในนวนิยายลิขสิทธิ์ถูกต้องเลยนะครับนั่น มีอ้างอิงครบถ้วน

แล้วลมปราณภูติอุดร มันจะเป็นการ รวมกันของ มหาเวทย์ดูดดาว กับ พลังยมฑูต (มันคือวิชาอะไรง่ะใช่สลายพลังหรือปล่าว ) ได้อย่างไร

ถ้าตีความตามบทความในนวนิยายที่มาลงต้อง
วิชามหาเวทย์ดูดดาว มันจะเป็นการ รวมกันของ ลมปราณภูติอุดร กับ วิชาสลายพลัง ถึงจะถูก

ส่วน กำลังภายในที่วิชามหาเวทย์ดูดดาว ดูดมาเอามาใช้ได้นะครับ แต่ใช้ได้เพียงชั่วคราว ภายหลังจึงต้องมีการสลายพลังบางส่วนทิ้งไปบ้าง ตามความจำเป็น ส่วนเรื่องการเอามาหลอมพลังต่างสายต่างแนวทางที่ดูดๆมามีผลข้างเคียงเพียงแค่ทำให้ร่างกายภายในเจ็บปวดทรมานอยู่ตลอดเวลาทิ้งไว้นานเข้าๆอาจส่งผลแก่ชีวิตครับ แต่ต้องอย่าลืมนะครับ ว่าถ้านับ มหาเวทย์ดูดดาว แบบสมบูรณ์แบบที่สุดต้องของ ยิ่นอั้วฮั้ง แก้ปัญหาตรงจุดนี้ได้ไปแล้ว ดังนั้น ผลเสียตรงนี้จึงต้องตัดทิ้งไป

ถ้าเกิดอยากได้ข้อมูลจริงต้องอ่านกระบี่เย้ยยุทธจักรฉบับปรับปรุงใหม่ล่าสุด ที่ตอนท้ายยิ่มอั่วเกี่ยที่ล้มลงตายนะรับ เป็นเพราะแก่มากแล้ว ตามกระบี่เย้ยยุทธจักรเล่มสีแดงนะครับ

ที่ผมบอกว่าเป็นการรวมกันนั้นก้เพราะ มันเป็นคนละวิชากัน แต่มาใช้ชื่อรวมเดียวกันครับ ซึ่ง วชาลมปราณภูติอุดรในตอนแรก ใช้วิชาดูดดาว ดูดพลังคนอื่นมา ขั้น 2 ก็แปลงเปลี่ยนเป็นพลังของตนเอง โดยใช้ชื่อพลังนี้ว่า พลังยมทูต ซึ่งวในหนังเรื่อง 8 เทพ อศูร ซีจุได้ฝึกในส่วนนี้ ซึ่งฝึกจากพลังลมปราณที่ประมุขพรรคสําราษที่ถ่ายทอดพลัง 70 ปี ให้ครับ ส่วนวิชาดูดดาว ซีจูไม่ได้ฝึก แต่เป็นต้วนอี้ฝึก อันนี้ผมเข้าใจแบบนี้อะครับ

ผมก็ไม่ทราบมากในเรื่องแปดเทพฯ ต้องเก็บเงินซื้อหนังสือก่อน ดูเป็นหนัง ข้อมูลผิดพลาดเยอะ

เอ่อ งงเหมือนกัน พลังยมฑูต เพิ่งเคยได้ยิน

อยู่ในหนังละมั้งครับ

อันนี้ผมเอามาจากหนังครับส่วนในหนังสือผมไม่รู้ครับ เพราะไม่ได้อ่าน

เห็นท่านอาจารย์ผมขาว นางพูดอยู่เหมือนกัน แต่ข้าน้อยไม่รู้จักน่ะ ขอรับ

เล่งฮู้ชง ถ้าไม่มีกระบี่อยู่ในมือ ก็ไม่ค่อยมีพิษสงซักเท่าไหร่ เลยครับ ถึงแม้จะฝึกมหาเวทย์ดูดดาวมาแต่ยังฝึกไม่ถึงขั้นลึกล้ำซักเท่าไหร่ แถมไม่ค่อยอยากจะใช้ ไม่ค่อยอยากจะฝึก ไม่ค่อยอยากจะตั้งใจดูด ขนาดเจอ ยอดฝีมือระดับบริวารของพรรคตะวันจันทรา เล่งฮู้ชงยังสู้ไม่ได้เลย เทียบกับ ยิ่นอั้วฮั้ง แล้วคนละเรื่องเลย

ขนาด สู้กับมารดาของแม่ชีอี้ลิ้มที่แสร้งเป็นใบ้หูหนวก นั่น เล่งฮู้ชง ยังสู้ไม่ได้เลยครับ พอใช้มหาเวทย์ดูดดาวก็ดูดไม่ค่อยจะติด เจอสลัดหลุดง่าย แต่ถ้าเกิดมีกระบี่อยู่ในมือล่ะก้อ กลายเป็นพยัคฆ์ติดปีกทันที

ใช่เลยครับ ตอนที่เหล็งฮู้ชงจะรับตำแหน่งเจ้าสำนักเห็งซัว จ้อแน่เซี้ยงจึงส่งคนที่มีฝีมือดีทางหมัดมา เพื่อจะจัดการกับเหล็งฮู้ชง ซึ่งในเรื่องนี้ ผู้มีเพลงกระบี่ที่เก่งที่สุด คงต้องยกให้ ฮวงเช็งเอี๊ยง รองลงมาก็คือเหล็งฮู้ชง