ชี่กง กับ..นิยายกำลังภายใน ของกิมย้ง ที่มีจริงๆ
ประมุขหอดารา |
#22 ประมุขหอดารา [ 12-12-2007 - 00:39:37 ] |
|
กิมย้งลากสังขารวัย 81 เรียนต่อ ดร.ที่แคมบริดจ์ ลั่นต้องการความรู้ ไม่หวังปริญญา ผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวซินหัวได้มีโอกาสไปสัมภาษณ์ กิมย้ง ที่เพิ่งได้รับปริญญาดุษฏีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยแคมบริดจ์มาหมาดๆ โดยเขาเริ่มต้นเล่าว่า คุณแอลิสัน ริชาร์ด ผู้อำนวยการมหาวิทยาลัยแคมบริดจ์ได้อ่านนิยายกำลังภายในของเขาเรื่อง “อุ้ยเสี่ยวป้อ” ภาคภาษาอังกฤษ แล้วรู้สึกชื่นชอบเป็นอย่างมาก จึงได้เสนอชื่อเขาแก่คณะกรรมการให้พิจารณามอบปริญญาดังกล่าวให้ ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ถือเป็นปริญญาระดับสูงสุดของแคมบริดจ์ และไม่ใช่ได้กันง่ายๆ แม้ว่า กิมย้งจะสามารถคว้าปริญญาสูงสุดมาครอบครองแล้ว แต่เขาก็ยังไม่หยุดอยู่แค่นี้ เพราะเขายังคิดที่จะศึกษาต่อในระดับปริญญาเอกอีก แม้ปัจจุบันอายุอานามจะปาเข้าไป 81 ปีแล้วก็ตาม “ผมไม่หวังปริญญา แค่อยากได้ความรู้เท่านั้น ผมดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการสถาบันวรรณกรรม มหาวิทยาลัยเจ้อเจียง แต่มีคนพูดว่า ความรู้ของผมยังไม่ดี ไม่เหมาะที่จะนั่งตำแหน่งนี้ เขาตำหนิผม ผมเถียงไม่ออก หนทางเดียวก็คือ ต้องเพิ่มความรู้ให้กับตัวเอง ตอนนี้ผมได้ทำเรื่องลาหยุดกับทางมหาวิทยาลัยแล้ว เพื่อที่จะมาเรียนต่อที่แคมบริดจ์” หรือการที่กิมย้งหันมาเรียนต่อก็เพื่อต้องการลดเสียงวิพากษ์วิจารณ์เหล่านี้ “ผมไม่ได้เรียนหนังสือเพื่อคนอื่น คนอื่นวิจารณ์ผม ถ้าผมมีข้อเสียจริงก็พร้อมที่จะแก้ไขปรับปรุง คนเราล้วนมีข้อเสียด้วยกันทั้งนั้น การเรียนหนังสือก็เพื่อประโยชน์ของตัวเองน่ะ” โดยกิมย้งเองคาดว่าจะใช้เวลา 4 ปี ในการศึกษาระดับปริญญาโท 1 ปี และปริญญาเอก 3 ปี แต่ขณะนี้ ทางแคมบริดจ์ยังไม่ได้รับกิมย้งเข้าศึกษาอย่างเป็นทางการ เนื่องจากมองว่า เขาได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ซึ่งถือว่าสูงที่สุดแล้ว ถ้าหากกลับมาเป็นนักเรียน เป็นเรื่องที่ไม่เคยมีปรากฏมาก่อน แต่อย่างไรเสีย ปรมาจารย์นิยายกำลังภายในท่านนี้ก็ยังยืนยันความตั้งใจของตัวเอง และหวังว่าทางแคมบริดจ์จะไฟเขียวให้เขาได้เข้าเรียน ส่วนเรื่องงานเขียนนั้น เขาตั้งใจว่าอยากจะเขียนหนังสือประวัติศาสตร์จีนที่เข้าใจง่าย ให้นักเรียนมัธยมอ่าน โดยกิมย้งรู้สึกว่า ปัจจุบันคนที่เขียนตำราประวัติศาสตร์นั้น เขียนลึกซึ้งเกิน แม้แต่นักศึกษามหาวิทยาลัยยังอ่านไม่เข้าใจ นอกจากงานเขียนตำราแล้ว ระหว่างศึกษาที่แคมบริดจ์ กิมย้งก็อาจจะเขียนงานอื่นๆ ด้วย แต่สำหรับนิยายกำลังภายในนั้น เจ้าตัวยืนยันว่า จะไม่เขียนอีกแล้ว โดยให้เหตุผลว่า “ผลงานนิยายกำลังภายในของผมเยอะมาก เรื่องยาวมีถึง 15 เรื่อง อ่านทีก็ต้องใช้เวลามากพอสมควร สำหรับนักเขียน สามารถเขียนได้ถึง 15 เรื่อง ถือว่าไม่ผิดต่อผู้อ่านแล้ว มีน้อยคนนักที่ทำได้แบบนี้ ผมอายุปูนนี้ไม่มีความสามารถในการจินตนาการแล้ว ปล่อยให้คนหนุ่มสาวเขาเขียนเถอะ” “ผมรู้ว่า มีพวกเด็กรุ่นหลังบางคนมาขโมยคัดลอกงานผม ถือเป็นเรื่องผิดกฎหมายนะ แต่ผมไม่คิดจะเอาเรื่องพวกเขาหรอก ผมหวังว่านักเขียนรุ่นใหม่จะไม่ก็อป+++งานของผม.....ในฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ล้วนมีกฎหมายปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาทั้งสิ้น ถ้าแผ่นดินใหญ่ไม่สามารถควบคุมตรงนี้ได้ก็จะขายหน้าคนอื่นเขา”" ในระหว่างการสนทนานักข่าวตั้งข้อสังเกตว่า กิมย้งท่าทางดูเป็นสุภาพชน ทำไมจึงสามารถสร้างจอมยุทธที่ชอบซดเหล้าชามโตๆ อ้าปากกว้างๆ กินอาหาร ได้ “การเขียนนิยายถือเป็นการทดแทนส่วนที่ขาดหายไปอย่างหนึ่ง ผมดื่มเหล้าไม่เป็น จึงได้สร้างตัวละครอย่าง เฉียวฟง ที่มีความสามารถในการดื่มเหล้าขึ้นมา อะไรที่ผมไม่มี ผมก็จะเขียนขึ้นในนิยาย ในบรรดาตัวละครที่ผมแต่งขึ้นมา ไม่มีตัวไหนที่เหมือนผมเลย บางตัวนิสัยดีมาก ผมอยากจะทำให้ได้อย่างพวกเขา อย่าง ต้วนอี้ เตียบ่อกี้ ซึ่งเป็นตัวละครที่เวลามีใครมาคุกคาม ก็มักจะยิ้มแล้วก็ผ่านเลยไป ไม่เก็บเอามาใส่ใจ ผมรู้สึกอิจฉาคนแบบนี้มาก” ส่วนตัวเอก "อุ้ยเสี่ยวป้อ" นั้น แตกต่างจาก พระเอกในเรื่องอื่นๆ อย่างสิ้นเชิง “อุ้ยเสี่ยวป้อ ถือเป็นตัวแทนของชาวจีนนิสัยแย่ ในสังคมที่ไร้ระเบียบ ไม่น่าเอาเยี่ยงอย่าง แต่การกระทำของเขาก็เป็นเรื่องที่เห็นได้ทั่วไปในจีนยุคนี้ เขาติดสินบนคนอื่น แล้วก็รับสินบนด้วย เรื่องอะไรไม่ดีก็ทำหมด ไม่ใช่คนดี” ดังนั้น ก่อนหน้านี้จึงมีข่าวว่า กิมย้งคิดแก้เผ็ดอุ้ยเสี่ยวป้อ ด้วยการปรับแก้ตอนจบ ให้ไม่สมหวังอย่างในต้นฉบับเดิม โดยจะให้อุ้ยเสี่ยวป้อติดการพนัน ผลาญสมบัติเกือบหมด บรรดาภรรยาต่างตีจาก จาก 7 คนเหลือเพียง 1-2 คนเท่านั้น อย่างไรก็ตามจนถึงตอนนี้ กิมย้งก็ยังไม่ได้ปรับแก้แต่อย่างใด โดยเขาให้เหตุผลว่า “ผมขอความคิดเห็นจากผู้อ่าน หลายคนไม่เห็นด้วยให้เปลี่ยนแบบนี้” พร้อมเล่าต่อว่า “ตอนนี้ ผมได้ปรับแก้เรื่อง ‘8 เทพอสูรมังกรฟ้า’ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ต้นฉบับเดิมระบุว่า ต้วนอี้ชื่นชอบหวังอี่ว์เยียน เพราะหน้าตาที่สดสวยงดงาม แต่ที่จริงแล้วเธอนิสัยไม่ดี หลังจากปรับแก้แล้ว ต้วนอี้ในที่สุดจะตาสว่าง แล้วก็ไม่ชอบหวังอี่ว์เยียนอีกต่อไป” สุดท้ายนักข่าวได้สอบถามถึงชีวิตปัจจุบันของกิมย้ง ซึ่งเขาเล่าว่า “ตอนนี้ก็นับว่าดี มีอิสรเสรี มีความสุขดี ช่วงนี้ผมอ่านหนังสือหาความรู้ รู้สึกสบายใจ ถ้ามีพระเจ้าจริงๆ ผมก็รู้สึกว่าท่านดีต่อผมไม่น้อยเลย” “อุ้ยเสี่ยวป้อ” หรือ 鹿鼎记 (ลู่ติ่งจี้) เป็นนิยายเรื่องสุดท้ายภายใต้คมปากกาของกิมย้ง ปรมาจารย์นิยายกำลังภายในชื่อดังแดนมังกร นักวิจารณ์บางคนถึงกับยกย่องให้ “อุ้ยเสี่ยวป้อ” เป็นวรรณกรรมชิ้นโบว์แดงของกิมย้ง เพราะสามารถก้าวผ่านข้อจำกัดแห่งนิยายแนวกำลังภายในได้อย่างแยบคาย "หนีคัง (นักเขียนนิยายกำลังภายในเพื่อนสนิทกิมย้ง) ถือว่าเรื่องอุ้ยเสี่ยวป้อเป็นสุดยอดแห่งพัฒนาการเชิงการประพันธ์ของกิมย้ง และเป็นเรื่องที่แสดงให้เห็นฝีมือกิมย้งว่า "ไม่มีใครเป็นคู่แข่งได้"......นิยายกำลังภายในโดยทั่วไปนั้น มีขนบในการแต่งที่เด่นเห็นได้ง่ายสองประการคือ ตัวเอกต้องเป็นจอมยุทธ์หรืออย่างน้อยก็มีวิทยายุทธ์และตัวเอกต้องเป็นคนดีในแง่ของคุณธรรม ไม่ใช่วีรบุรุษอย่างก๊วยเจ๋ง (ตัวเอกของเรื่องมังกรหยก) อย่างน้อยก็ต้องคล้ายเหล็งฮู้ชง (ตัวเอกของเรื่องกระบี่เย้ยยุทธจักร) แต่ตัวเอกของเรื่องอุ้ยเสี่ยวป้อนี้มีลักษณะตรงข้ามกับขนบดังกล่าวทุกประการ..... " (ตัดตอนจากหนังสือเรื่อง "สกัดจุดยุทธจักรมังกรหยก" ของอาจารย์ถาวร สิกขโกศล) อุ้ยเสี่ยวป้อ ตัวเอกของเรื่องถือเป็นตัวละครที่แปลกแหวกแนวที่สุดของกิมย้ง เนื่องจากมีกำเนิดเป็นลูกชายของนางคณิกา ไม่รู้หนังสือ ไม่มีวิทยายุทธ์ แทบจะเรียกได้ว่าไม่มีเค้าของจอมยุทธอยู่ในตัวของอุ้ยเสี่ยวป้อเลย แถมยังเจ้าเล่ห์และชอบลักขโมย แต่กลับจับพลัดจับผลูกลายเป็นสหายสนิทของฮ่องเต้คังซีแห่งราชวงศ์ชิง เข้าไปพัวพันกับบุญคุณความแค้นในยุทธภพ และท้ายสุดยังส้มหล่นร่ำรวยเงินทองเสวยสุขกับบรรดาภรรเมียทั้ง 7 คนด้วย แต่.....ในอนาคตอันใกล้นี้ อุ้ยเสี่ยวป้ออาจมีอันต้องน้ำตาตกตอนท้ายเรื่องซะแล้ว.... กิมย้งเผยว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขาเริ่มมีความคิดใหม่ๆ เกี่ยวกับตอนจบของตัวละครตัวนี้ เนื่องจากเกรงว่าอุ้ยเสี่ยวป้ออาจจะกลายเป็นต้นแบบที่ไม่ดีให้เยาวชน ดังนั้น เขาจึงตัดสินใจปรับแก้ตอนจบของเรื่อง โดยแม้ว่าอุ้ยเสี่ยวป้อจะเข้าวัง กอบโกยเงินทองจำนวนไม่น้อย แต่ในที่สุดเพราะนิสัยรักการพนันทำให้อุ้ยเสี่ยวป้อต้องสูญเสียทรัพย์สินที่มี แม้แต่เมียรัก 4 คนก็ตีจาก ฮูหยินคนงามทั้ง 7 ใครจะเป็นฝ่ายไป? กิมย้งให้ความเห็นว่า ฟางอี๋หลอกลวงอุ้ยเสี่ยวป้อหลายต่อหลายครั้ง องค์หญิงเจี้ยนหนิงก็ชอบทุบตีเขา ดังนั้นสองคนนี้เป็นจุดอ่อนที่สมควรถูกกำจัดออกที่สุด ขณะที่ซูเฉวียน ซึ่งมีวิทยายุทธ์ล้ำเลิศสมควรอยู่ต่อเพื่อปกป้องขันทีน้อย ส่วนสาวงามคนอื่นๆ ใครจะไปใครจะอยู่ กิมย้งว่า "จะต้องดูความคิดเห็นจากผู้อ่านอีกที" และเมื่อวันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา นักข่าวของเซี่ยงไฮ้ ชิงเหนียนเป้า ได้ติดต่อไปยังเลขาของกิมย้งเพื่อสอบถามถึงการปรับแก้ “อุ้ยเสี่ยวป้อ” ใหม่ ซึ่งเธอให้สัมภาษณ์ว่า "ในระหว่างการชำระนิยายใหม่ อาจารย์(กิมย้ง)มักจะมีความคิดใหม่ๆ เกิดขึ้นเสมอ ดังนั้นก็ยังสรุปไม่ได้ว่าอุ้ยเสี่ยวป้อจะเศร้าแบบนั้นหรือไม่ ต้องรอฉบับปรับปรุงออกมาก่อนจึงจะรู้ แต่ในตอนนี้กิมย้งกำลังแก้ไขเรื่อง “แปดเทพอสูรมังกรฟ้า” หรือ 天龙八部 (เทียนหลงปาปู้) และจะต่อด้วย “กระบี่เย้ยยุทธจักร” หรือ 笑傲江湖 (เซี่ยวอ้าวเจียงหู) แล้วจึงจะถึงคิว “อุ้ยเสี่ยวป้อ” คิดว่าฉบับปรับปรุงใหม่น่าจะได้ยลโฉมกันประมาณปลายปีหน้า ด้านจางจี้จง ผู้กำกับละครชื่อดัง ซึ่งหลายฝ่ายคาดว่าน่าจะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนต้นฉบับของกิมย้งมากที่สุด เนื่องจากเดิมทีเขาคิดว่าหลังจากถ่ายทำเรื่องมังกรหยก ภาค 2 เป็นที่เรียบร้อย จะเปิดกล้อง “อุ้ยเสี่ยวป้อ” ต่อในช่วงปลายปีหน้า แต่มาตอนนี้กิมย้งกลับคิดให้บรรดาศรีภรรยาตีจากอุ้ยเสี่ยวป้อไปซะนี่ จางจี้จงเปิดใจว่า “อาจารย์กิมย้งได้พูดคุยกับผมถึงความคิดที่จะเปลี่ยนตอนจบของเรื่องแล้ว แต่ว่าสำหรับพวกเราคงไม่คิดสร้างละครโดยอิงต้นฉบับใหม่หรอก” ผู้กำกับชื่อดังเสริมอีกว่า “การที่อาจารย์มีทัศนคติใหม่ๆ ต่องานในอดีตเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลนะ เพราะเขาก็มีประสบการณ์ผ่านร้อนผ่านหนาวมานาน ผนวกกับสังคมและผู้คนก็มีความเปลี่ยนแปลงไปมาก แต่สำหรับคนดูแล้ว พวกเขาล้วนเคยชินกับผลงานดั้งเดิมของกิมย้ง ดังนั้น “อุ้ยเสี่ยวป้อ” ที่ผมจะถ่ายทอดออกมานั้น ก็จะคงยึดตามต้นฉบับเดิม คือ ให้อุ้ยเสี่ยวป้อมีความสุขในตอนจบ” ส่วนกรณีที่กิมย้งเห็นว่าอุ้ยเสี่ยวป้ออาจเป็นตัวอย่างไม่ดีให้คนดูนั้น จางจี้จงยิ้มแล้วตอบว่า “ผมเชื่อว่า ปัจจุบันคนดูมีวิจารณญาณในการชม และไม่คิดว่าจะมีปัญหานี้เกิดขึ้น” ด้านนักแสดงที่จะมารับบทอุ้ยเสี่ยวป้อนั้น ยังอยู่ในระหว่างคัดเลือก แต่เขาหวังว่าจะสามารถหานักแสดงหนุ่มอารมณ์ดีในแผ่นดินใหญ่มารับบทนี้ ส่วนผู้ที่จะมารับบทศรีภรรยาของเขานั้น ตอนนี้ก็กำลังเลือกเฟ้นจากพิธีกรรายการต่างๆ ของสถานีโทรทัศน์จีนอยู่. เครดิต ผู้จัดการออนไลน์ |
มหาเวทย์ดูดดาว |
#23 มหาเวทย์ดูดดาว [ 12-12-2007 - 00:40:12 ] |
|
ว่าจะนอนพี่ใหญ่ให้ผู้น้องนี้รับคำท้าเองผู้น้องจะใช้อานุภาพของพลังลมปราณแปรสัณฐานร่วมกับเพลงกระบี่ร้อยผันแปรเอง...ท่านpokupเชิญลงมือ ![]() |
pokup |
#24 pokup [ 12-12-2007 - 00:42:15 ] |
|
ตัว ข้า นั้น เดิม เคย อยุ่ ขุนลุ้น แต่ ด้วยพิษรัก แอบรักเมียอาจารย์ เลยโดนขับไล่ จากสำนักมา เลยร่อนเร พเนจร มาถึง ณ ยุทธพพ แห่งนี้ นาม เดิม ข้า ว่า มาจิ๊งอู๊ ไม่รู้เคยดูหนังเรื่องนี้รึป่าว หึๆ |
สยบทั่วเเผ่นดิน |
#26 สยบทั่วเเผ่นดิน [ 12-12-2007 - 00:44:37 ] |
|
พวกท่านทั้ง2ประลองกันอย่าให้ถึง ชีวิตเลยนะขอรับ........ |
มหาเวทย์ดูดดาว |
#27 มหาเวทย์ดูดดาว [ 12-12-2007 - 00:44:55 ] |
|
ข้าน้องเฒ่าแซ่เต็งขอคำชี้แนะจากท่านมาจิ๊งอู๊ก็แล้วกัน |
pokup |
#28 pokup [ 12-12-2007 - 00:44:55 ] |
|
เชิญเข้ามาพร้อมทั้ง2คนได้เลย .............. ข้า จะรับ 3 กระบวนท่าแรกเอง พลังภายใน เปรียบเสมือน พลังรวมธาตุ 5 วัตร จากสำนัก ขุนลุน |
สยบทั่วเเผ่นดิน |
#29 สยบทั่วเเผ่นดิน [ 12-12-2007 - 00:46:12 ] |
|
วิชา ต่อสู้ของคุนลุ้น ข้าน้อยเองก็ไม่เคยพบปะมาก่อน ท่านอา ระวังตัวด้วยนะขอรับ.... |
ยาจกอุดร |
#30 ยาจกอุดร [ 12-12-2007 - 00:46:25 ] |
|
ข้า ว่า ท่านรับมือเรา2พี่น้อง คงไม่ไหวยังไง ไห้น้องรอง ลุยก่อน เเล้วถ้าน้องรองไม่ไหวเเล้วข้าจะเข้าไปช่วยเอง |
มหาเวทย์ดูดดาว |
#31 มหาเวทย์ดูดดาว [ 12-12-2007 - 00:47:02 ] |
|
ท่านคงไม่รู้หรอกว่าพลังลมปราณแปรสัณฐานนั่นได้เคล็ดวิชามาจากหยินและหยางความมืดและความสว่างที่ก่อให้เกิดชีวิต |
สยบทั่วเเผ่นดิน |
#32 สยบทั่วเเผ่นดิน [ 12-12-2007 - 00:48:02 ] |
|
ข้าน้อยไม่ทราบว่านั่นเป็นวิชาอะไร ท่านพ่อบุญธรรมควรใช้ไม้ตีสุนัขบุกก่อนนะขอรับ....... |
มหาเวทย์ดูดดาว |
#33 มหาเวทย์ดูดดาว [ 12-12-2007 - 00:49:20 ] |
|
งั้นข้าขอเริ่มก่อนละกันกระบวนท่าแรงมังกรกลืนดารา |
pokup |
#34 pokup [ 12-12-2007 - 00:49:21 ] |
|
พลังลมปราณแปรสัณฐาน ซัดมาเลย เพราะ พลังขอข้าเปรียบได้ กะ ดิน น้ำ ลม ไฟ แล้ว ธาตุ ทั้ง4 รวมกัน อยากจะรู้จริงๆ ว่า พลัง ของเฒ่าแซ่เต็ง จะร้ายกาจเพียงใด เชิญได้ |
สยบทั่วเเผ่นดิน |
#35 สยบทั่วเเผ่นดิน [ 12-12-2007 - 00:49:47 ] |
|
ส่วนท่านอาใช้วิชาตะขาบพันเท้า อ้อมไปสกัดด้านหลัง เข้าช่วยท่านพ่อบุญธรรม น่ะขอรับ |
มหาเวทย์ดูดดาว |
#36 มหาเวทย์ดูดดาว [ 12-12-2007 - 00:50:47 ] |
|
ตามด้วยท่าที่2จัทราคลายแสง |
ยาจกอุดร |
#37 ยาจกอุดร [ 12-12-2007 - 00:51:04 ] |
|
อืม ข้าเองก็ยังไม่รู้กระบวนท่าน ของสำนักคุนลุ้น ไงๆ ใช้ ไม้ตีสุนัข หลัก หมุน หลอก รับมือ ท่า ตีหลังสุนัข |
pokup |
#38 pokup [ 12-12-2007 - 00:51:17 ] |
|
ข้า ของใช้พลังตัวเบา ที่ได้ฝึกมาจาก ลิ้คิ้มฮวง บาทาไร้เงา หลบ จากมังกรกลืนดารา แล้ว ข้าขอใช้ ฝ่ามือ สุริยันจันทรา ซัดใส่ ท่าน |
สยบทั่วเเผ่นดิน |
#39 สยบทั่วเเผ่นดิน [ 12-12-2007 - 00:52:42 ] |
|
คุนลุ้น!........ทะ....ทำไมมีวิชาตัวเบาของลี้ถ้ำฮวยได้.......... |
pokup |
#40 pokup [ 12-12-2007 - 00:53:15 ] |
|
ข้าเห็น ไม้เท้า ตีสุนัข เป็น บุญตา แล้ว น่า นับถือจริงๆ ข้าโดน แรงลม หลอนจากด้านซ้าย ของไม้เท้าตีสุนัข ไม่สราบท่านได้ ใช้กระบวณท่า ลอกล่อ รึป่าว ทำเอาข้า สับสน ยิ่งหนัก ข้อขอใช้ พลังรวมธาตุ ซัดถ่อนเหล็ก เข้าหายาจกอุดร |