เข้าระบบอัตโนมัติ

ขอเชิญร่วมวงสนทนาเรื่อง ดาบมังกรหยก


ประมุขหอดารา
#21   ประมุขหอดารา    [ 06-11-2007 - 22:53:45 ]

ในความเห็นที่18 ท่คุรสวยกล่าวมานั้น ควมจริงกระผมก็อยากให้มันเป็นเช่นนั้น แต่ในนวนิยาย ท่านกิมย้งเขียนไว้ในบทความท้ายบทของท่านว่า

บุคคลอย่างเตียบ่กี้ ไม่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเป็นผู้นำ โดยเฉพาะตำแหน่งสำคัญๆอย่างฮ่องเต้ เพราะเตียบ่กี้ ไม่มีความเด็ดขาดในการตัดสินใจและการปกครอง และไม่โหดและ...มพอ ที่จะเป็นผู้นำ ตรงกันข้ามบุคคลอย่าง เตี่ยเมี่ยง หรือ จิวจี้เยียก กับมีคุณสมบัติผู้นำมากกว่า แต่เนื่องจากนางเป็น สตรี จึงค่อนข้างเสียเปรียบอยู่บ้าง

หรืออันนี้ผมคิดเล่นๆนะว่าถ้าให้เตียบ่กี้เป็นฮ่องเต้ แล้ว ให้เตี่ยเมี่ยง เป็น ฮองเฮา คอยเป้นที่ปรึกษาบริหารประเทศก็น่าจะทำได้ แต่ก็เกรงว่าเตี่ยเมี่ยงนางจะกลายเป็น บูเช็คเทียน ไปซะก่อนถึงตอนนั้น ราชวงศ์หมิง คงล่มสลายในเวลาไม่ถึง 200กว่าปี



สวย
#22   สวย    [ 06-11-2007 - 23:02:07 ]

จริงๆเตียบ่กี้ก็เป็นคนฉลาด แต่คาดว่าถ้าเป็นฮ่องเต้ความไม่เด็ดขาดนี่แหละ จำทำให้ต้องตามใจเมีย สุดท้ายก็เหมือนเมียคอยบงการน่ะแหละเนอะ

อีจี้เยี๊ยกจะโดนจับมาทำร้ายมั๊ยคะเนี่ย อ๊ายย ถ้าหมิ่นหมิ่นเป็นฮองเฮา



ประมุขหอดารา
#23   ประมุขหอดารา    [ 06-11-2007 - 23:07:22 ]

รู้สึกว่าที่ผมจำได้คร่าวๆว่า ที่ผมอ่านในตอนท้าย ทั้งสองคนจะดีกัน แล้ว มีการจับมือชวนกันไปซุบซิบแล้วหัวเราะคิกคัก เรื่องเตียบ่กี้กับเสี่ยวเจียวกันด้วยนะ ผมว่าตอนนั้นเตียบ่กี้ เจ้าชู้อีกนิด ถ้าขอเตี่ยเมี่ยงดีๆว่าจัรับจิวจี้เยียกเป็นภรรยา อีกคน นางก็คงไม่ว่าอะไร เพราะในตอนท้าย เตี่ยเมี่ยงแบบว่าใจกว้างมากเลยครับ นางไม่หึง จิวจี้เยียก ไม่หึง เสี่ยวเจียว หรือ ฮึงลี้ เลย



สวย
#24   สวย    [ 06-11-2007 - 23:09:37 ]

เป็นเดี๊ยนก็ให้นะคะ ถ้าแฟนจะมีกิ๊ก แค่เดี๊ยนขอมีมั่ง



ประมุขหอดารา
#25   ประมุขหอดารา    [ 06-11-2007 - 23:31:56 ]

ของคุณสวยคงไม่เรียกกิ๊ก แล้ว ล่ะครับ ต้องเรียก ชู้ ผู้หญิงก็เสียเปรียบอย่างงี้น่ะแหละครับ



ประมุขหอดารา
#26   ประมุขหอดารา    [ 07-11-2007 - 07:33:08 ]




เจ้าตำหนักหลิงจิ้ว
#27   เจ้าตำหนักหลิงจิ้ว    [ 07-11-2007 - 18:10:56 ]

อยากทราบว่าคัมภีที่มันอยู่ในท้องชะนีนั้นมันเป็นคัมภีอะไร แล้วมันไปอยู่ในท้องชะนีได้ยังไง



พิษประจิม
#28   พิษประจิม    [ 07-11-2007 - 18:34:37 ]

ข้อความนี้เป็นของท่านป็อปเมื่อ4เดือนที่แล้ว เห็นว่ามันมีประโยชน์อยู่ก็เลยไปก็อปมาให้ท่านป็อปไม่ว่าผมนะ

ตำราเล่มนี้เป็นคัมภีร์นวภพจริง ส่วนสาเหตุที่ซ่อนอยู่ในท้องของค่างขาว ตอนนั้นทั่วทั้งแผ่นดินไม่มีผู้ใดทราบได้ ที่แท้เมื่อเก้าสิบกว่าปีก่อน เซียวเซียงจื้อกับอีเคอซี ขโมยคัมภีร์เล่มนี้จากหอเก็บคัมภีร์วัดเสี้ยวลิ้มยี่ ถูกกักเอี้ยงไต้ซือติดตามถึงยอดเขาฮั้วซัว เห้นแน่ชัดว่าไม่สามารถหนีรอดได้ ประจวบกับที่ข้างกายมีค่างตัวหนึ่ง เซียวเซียงจื้อกับอีเคอซีนึกได้อุบายหนึ่ง ผ่าท้องของค่างซุกซ่อนคัมภีร์อยู่ภายใน ภายหลังกักเอี้ยงไต้ซือ เตียซำฮงซึ่งตอนนั้นยังเป็นบุรษหนุ่มนามเตียกุนป้อและจอมยุทธอินทรีเอี้ยก่วยค้นตัวเซียวเซียงจื้อกับอีเคอซี ไม่พบเห็นคัมภีร์จึงปล่อยให้ทั้งสองนำค่างลงจากเขา เกือบร้อยปีมานี้ ร่องรอยของคัมภีร์นวภพกลายเป็นปริศนาสำคัญของบู๊ลิ๊ม ภายหลังเซียวเซียงจื้อกับอีเคอซี นำค่างออกเดินทางไกลถึงแดนไซฮก ทั้งสองล้วนกริ่งเกรงอีกฝ่ายหนึ่งฝึกปรือวิชาฝีมือในคัมภีร์ ใช้ทำร้ายตัวเองจึงไม่ยอมนำคัมภีร์ออกจากท้องค่าง สุดท้ายมาถึงยอดเขาเกียซิ้งฮงภูเขาคุนลุ้น เซียวเซียงจื้อกับอีเคอซีลอบทำร้ายกันและกัน จนรับบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย ยอดคัมภีร์ที่ใช้ฝึกปรือวิชากำลังภายในขั้นสูงสุดจึงฝากอยู่ในท้องค่าง พลังฝีมือของเซียวเซียงจื้อ ความจริงเหนือล้ำกว่าอีเคอซีขั้นหนึ่ง แต่ตอนอยู่บนยอดเขาฮั้วซัวได้ต่อยใส่กักเอี้ยงไต้ซือหมัดหนึ่ง ถูกกระแทกสะท้อนกลับมา จนรับบาดเจ็บสาหัส ดังนั้นพอต่อสู้กับอีเคอซีกลับเสียชีวิตก่อน อีเคอซีก่อนตาย พบพานสามศักดิ์สิทธิ์คุนลุ้นฮ่อจกเต๋า บังเกิดความไม่สบายใจ ขอให้ฮ่อจกเต๋าเดินทางสู่เสี้ยวลิ้มยี่ แจ้งต่อกักเอี้ยงไต้ซือว่าคัมภีร์เล่มนั้นอยู่ในท้องของลิงค่าง แต่ตอนกล่าววาจาสติเลอะเลือน ส่งเสียงไม่ชัดเจนความจริงกล่าวคำ “ เก็งต่อเก้าตัง” (คัมภีร์อยู่ในวานร) ฮ่อจกเต๋ากลับฟังเป็นคำ “เก็งต่ออิ้วตัง”(คัมภีร์อยู่ในน้ำมัน) ฮ่อจกเต๋ารักษาคำมั่นสัญญา เดินทางไกลเข้าสู่แผ่นดินตงง้วนถ่ายทอดคำพูด “ คัมภีร์อยู่ในน้ำมัน” ต่อกักเอี้ยงไต้ซือ กักเอี้ยงไต้ซือไม่เข้าใจความหมายในวาจา มิหนำซ้ำยังก่อเกิดเป็นมรสุมอันปั่นป่วน เป็นเหตุให้ยุทธจักรเพิ่มสำนักบู๊ตึง ง้อไบ๊ขึ้น ส่วนค่างตัวนั้นกลับโชคดี ระหว่างที่อยู่ในภูเขาคุนลุ้น ปลิดผลท้อเซียนรับประทาน ได้รับพลังวิเศษจากฟ้าดิน มีอายุเก้าสิบกว่าปี ยังโลดแล่นดั่งเหินบินขนยาวดำมะเมื่อมเปลี่ยนเป็นสีขาว กลายเป็นค่างขาวตัวหนึ่ง เพียงแต่คัมภีร์นวภพซ่อนอยู่ในท้อง ขวางทางเดินของกระเพาะลำไส้เป็นเหตุให้ปวดท้อง ฝีที่ท้องก็บัดเดี๋ยวยุบบัดเดี๋ยวกลัดหนอง จวบจนถึงวันนี้เตียบ่กี้ค่อยผ่าท้องนำคัมภีร์ออกมา สำหรับกับค่างขาวถือเป็นการขจัดสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกายออกไป เบื้องหลังอันสลับซับซ้อนนี้ ต่อให้เป็นคนฉลาดหลักแหลมกว่าเตียบ่กี้ร้อยเท่า ก็คาดเดาไม่ออก เตียบ่กี้ตะลึงลานชั่วขณะ ทราบดีว่ายากขบคิดคลี่คลาย ก็ไม่เปลืองสมองครุ่นคิดอีก เตียบ่กี้หยิบผลพ่วงท้อ ซึ่งค่างขาวมอบมาให้กัดกินคำหนึ่ง รู้สึกมีหยดน้ำอันหอมหวานไหลรินลงสู่ลำคอช้าๆ เปรียบกับผลไม้ป่าที่ไม่ทราบชื่อในหุบเขายังมีรสชาติเหนือกว่า เตียบ่กี้รับประทานจนหมดผล ค่อยครุ่นคิดขึ้น ไท้ซือแป๋ เคยบอกว่า หากเราฝึกปรือลมปราณนวภพของสำนักเสี้ยวลิ้มยี่ บู๊ตึง ง้อไบ๊ ทั้งสามสำนัก อาจสามารถขจัดพิษภายในกาย หากคัมภีร์เล่มนี้เป็นคัมภีร์นวภพจริง คัมภีร์นวภพเป็นต้นกำเนิดของลมปราณนวภพทั้งสามสำนัก อย่างนั้นการฝึกปรือตามคัมภีร์ ต่อให้เราคาดเดาผิดพลาด คัมภีร์เล่มนี้ไม่มีประโยชน์ ถึงกับฝึกปรือแล้วเป็นผลร้าย อย่างมากเพียงตกตายเท่านั้น ดังนั้นจัดวางคัมภีร์สามเล่มอยู่ในตำแหน่งที่แห้งสะอาด ปูหญ้าแห้งเอาไว้ค่อยทับหินใหญ่สามก้อน ป้องกันมิให้ลิงค่างหยิบฉวยไปฉีกทิ้งเสียหาย เพียงถือคัมภีร์ภาคแรกอยู่ในมือ อ่านทบทวนก่อนหลายเที่ยว จวบจนท่องจำแม่นยำจากนั้นศึกษาตีความ เริ่มฝึกปรือตั้งแต่ประโยคแรก เตียบ่กี้เห็นว่า ต่อให้ตนฝึกปรือลมปราณจากในคัมภีร์ ขจัดพิษเย็นภายในกายได้แต่เมื่อถูกกักอยู่ในหุบเขา ที่ปรากฏขุนเขารายล้อมรอบเช่นนี้ ก้ไม่สามารถออกไป วันเวลาในหุบเขายังยาวนาน วันนี้ฝึกปรือสำเร็จก็ตาม พรุ่งนี้ฝึกปรือสำเร็จก็ตาม หามีข้อแตกต่างไม่ มาตรว่าฝึกปรือไม่สำเร็จก็ถือว่าเป็นการฆ่าเวลา เตียบ่กี้เมื่อมีความคิดหากแม้นสำเร็จแม้ปลื้มปิติ มาตรว่าล้มเหลวก็ยินดีกลับมีความรุดหน้าอย่างรวดเร็ว ใช้เวลาสั้นๆสี่เดือน ก็ตีความเคล็ดวิชาในคัมภีร์ภาคแรกจนปรุโปร่ง และฝึกปรือตามนั้น หลังจากที่ฝึกคัมภีร์ภาคแรกเสร็จสิ้น งอนิ้วนับคำนวณดูพบว่าผ่านช่วงเวลาที่โอ้วแชงู้ลงความเห็นว่า พิษเย็นของเขาจะกำเริบเสียชีวิตไปแล้ว แต่เตียบ่กี้รู้สึกตัวเบา ร่างกายแข็งแรง พลังลมปราณหมุนเวียนทั่วร่างไม่มีอาการเจ็บป่วย ก่อนหน้านี้พิษเย็นกำเริบกระชั้นติดกัน ยามนี้ทอดห่างเป็นแรมเดือน ค่อยบังเกิดอาการเป็นครั้งคราว มิหนำซ้ำอาการเบาบางยิ่ง ครั้นเมื่อเตียบ่กี้ศึกษาตำราภาคที่สองได้ไม่นาน พบว่าในตำรามีข้อความ “สูดรับความร้อนทั้งเก้า รวมจิตใจก่อเกิดพลัง ดังนั้นคัมภีร์ขนานนามเก้าเอี้ยงจินเก็ง( คัมภีร์นวภพ)” ค่อยทราบว่านี้เป็นยอดตำราที่ไท้ซือแป๋ไฝ่ฝันได้เห็นจริงๆหลังความปิติยินดี ยังตั้งใจฝึกปรือกว่าเดิม นอกจากนั้นค่างขาวสำนึกบุญคุณที่เตียบ่กี้รักษาโรคให้ มักปลิดผลพ่วงท้อมาเป็นของกำนัล นี่เป็นผลไม้วิเศษที่เพิ่มพลังบำรุงร่างกาย เมื่อเตียบ่กี้ฝึกคัมภีร์ภาคที่สองไม่ถึงครึ่งเล่ม พิษเย็นภายในกายก็ถูกขจัดหมดสิ้นแล้ว ทุกวันเตียบ่กี้นอกจากฝึกพลังลมปราณแล้ว จะหยอกเล่นกับลิงค่างผลไม้ที่ปลิดได้ก็แบ่งครึ่งหนึ่งให้แก่จูเชี่ยงเล้ง กลับรู้สึกอิสรเสรี ปราศจากความวิตกทุกข์ร้อน แต่จูเชี่ยงเล้งอยู่บนแท่นศิลาเล็กๆ นับว่าผ่านวันดุจเป็นปีพอเข้าสู่ฤดูหนาว ทั่วทั้งภูเขากลับกลายเป็นหิมะน้ำแข็ง ลมหนาวเย็นเสียดกระดูก ความทุกข์ทรมานที่ได้รับสุดที่จะบ่งบอกบรรยายได้ เตียบ่กี้พอฝึกปรือคัมภีร์ภาคที่สองเสร็จสิ้น ก็ไม่เกรงกลัวความร้อนหนาวของอากาศ เพียงแต่ยิ่งฝึกปรือถึงตอนท้าย ยิ่งลึกล้ำยากลำบาก ความรุดหน้าก็ยิ่งเชื่องช้า คัมภีร์ภาคที่สามใช้เวลาหนึ่งปีเต็ม ส่วนภาคสุดท้ายใช้เวลาฝึกปรือถึงสามปี ค่อยสำเร็จแตกฉาน



ประมุขหอดารา
#29   ประมุขหอดารา    [ 07-11-2007 - 21:48:38 ]

ขอบคุณมากครับ พิษประจิม
ตามที่พิษประจิม เอามาลงแหละครับ



ประจิมคลุ้มคลั่ง
#30   ประจิมคลุ้มคลั่ง    [ 07-11-2007 - 22:28:11 ]

เอ่อ คุณป๊อป ผมยังค้างใจที่มาของเก้าเอี๊ยงอยู่ ว่าต้นกำเนิดมากจากไหนกันแน่ เริ่มมีขึ้นมาเมื่อไหร่
มีมานานเท่าไหร่แล้ว เพราะที่มาแต่ละที่ที่เคยอ่านมากนั้นแตกต่างกัน ขอฝากคุณป๊อปช่วยเปิดบทประพันธิ์ดูให้หน่อย



ประมุขหอดารา
#31   ประมุขหอดารา    [ 07-11-2007 - 22:39:35 ]

ตายตอนที่ถืออยู่ในมือนี้คือเล่ม4 ส่วนข้อมูล ของเก้าเอี้ยงอันนี้อยู่ที่เล่ม1 เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปค้นมาแล้วจะมาบอกคือที่จำได้คร่าวๆนี่ไม่ค่อยละเอียดนัก ข้อมูลตรงนี้สำคัญ จะพลาดไม่ได้ขอกลับไปค้นที่เล่ม1ก่อน



สวย
#32   สวย    [ 07-11-2007 - 22:59:22 ]

อ่านของ อ.นพรัตน์ แบบว่าชอบใช้คำสรรพนามแทนตัวบุคคลแบบ ซือแป๋ ซือนั่นนี่ หรือ อื่นๆเยอะแยะ บางทีอ่านแร๊วงง ต้องคิดอยู่แป๊บนึง ถึงจะรู้ว์ว่าอ้างอิงถึงใคร



จิวจี้เยียก
#33   จิวจี้เยียก    [ 07-11-2007 - 23:13:24 ]

1 เรื่องเกิดขึ้นในสมัยราชวงศืจีนอะไรค่ะ
2 เตียซำฮงสอนไทเก็กให้เตี่ยบ่กี่ เตียซำฮงอายุเท่าไร เตี่ยบ่กี่อายุเท่าไ ร ค่ะ
3 เตี่ยบ่กี่ตอนเข้าแต่งงานกับจิวจี้เยียก จิวจี้เยียกอายุเท่าไรค่ะ
4 เตี่ยบ่กี่ไปอยู่บนเกาะกับเตี่ยงเมี่ยง เตียเมี่ยงอายุเท่าไรค่ะ
5 ดาบมังกรหยกมีอายุกี่ปีค่ะ
6 กระบี่อิงฟ้ามีอายุกี่ปีค่ะ
7 ตอนจบเตี่ยบ่กี่อายุเท่าไรค่ะ
8ดายมังกรหยกทำจากอะไร มีขนาดเท่าไ ร ค่ะ
9กระบี่อิงฟ้าทำจากอะไร มีขนาดเท่าไรค่ะ
10ดายมังกรหยก แต่ละสำนักตั้งอยู่ที่เมืองอะไร ของจีน ขอแผนที่ด้วนนะค่ะ

ขอขอบคุณทุกคำตอบ



ประมุขหอดารา
#34   ประมุขหอดารา    [ 07-11-2007 - 23:46:28 ]

จะเอาไปแทงหวยหรอครับ



จิวจี้เยียก
#35   จิวจี้เยียก    [ 07-11-2007 - 23:56:45 ]

ก็ไม่แน่ค่ะ



ประมุขหอดารา
#36   ประมุขหอดารา    [ 07-11-2007 - 23:58:15 ]

จะตอบเฉพาะข้อที่รู้ในตอนนี้

1.เรื่องนี้เกิดขึ้นในช่วงปลายของ ราชวงศ์หยวน หรือ ราชวงศ์ของชาวมองโกล

2.ข้อ2+3+4+7 จำไม่ได้ง่ะต้องกลับไปเปิดหนังสือคำนวนดูอีกที

ข้อ5+6 ไม่มีคำตอบชัวส์หรอกข้อนี้ แค่พอประมาณได้แค่นั้น
ต้องเปิดหนังสือคำนวนดู

8.ดาบฆ่ามังกร ทำมาจากกระบี่เหล็กนิลดำของเอี้ยก้วย ขนาดไม่รู้ไม่ได้จำ

9.กระบี่อิงฟ้าทำมาจาก กระบี่สุภาพบุรุษ กับ กระบี่สุภาพสตรี หลอมรวมกัน ขนาดก้เช่นกันไม่รู้จะจำไปทำไม

10.ไม่เข้าใจคำถามครับ ส่วนแผนที่ อยากได้เอาไป เจอแล้วบอกด้วยนะ







จิวจี้เยียก
#37   จิวจี้เยียก    [ 08-11-2007 - 00:00:05 ]

นอนแล้วขอบคุณค่ะ



ประมุขหอดารา
#38   ประมุขหอดารา    [ 08-11-2007 - 00:11:05 ]

ฝันดีครับ ...จุ๊บๆ



ยาจกอุดร
#39   ยาจกอุดร    [ 08-11-2007 - 00:12:01 ]


อิอิอิ ฝันดีครับ



ประมุขหอดารา
#40   ประมุขหอดารา    [ 08-11-2007 - 04:19:27 ]

ตอนนี้ผมจะมาต่อเกี่ยวกับ กองธง 5 ธาตุ ที่ค้างอยู่เมื่อวานนะ

กองธง5ธาตุแห่งนิกายเม้งก่า ประกอบด้วย

1.ธงสีขาว / กองธงทองเฉียบคม

2.ธงสีเขียว / กองธงไม้ใหญ่

3.ธงสีแดง / กองธงอัคคีเพลิง

4.ธงสีดำ / กองธงน้ำป่า

5.ธงสีเหลือง/ กองธงดินหนา

และต่อจากนี้ผมจะเอาข้อความที่อยู่ในนวนิยาย ดาบมังกรหยก ที่แสดงถึงอานุภาพของ กองธง5ธาตุของนิกายเม้งก่า แบบตรงทุกตัวอักษร โดยไม่มีการดัดแปลง หรือ ตัดทอนใด

โดยเหตุการณ์ตรงนี้เกิดขึ้นตอนจัดงานประลองฆ่าราชสีห์ ที่วัดเส้าหลิน

เอี้ยเซียวแค่นหัวร่ออย่างเย็นชา กล่าวว่า

" ระเบิดเพลิงอสนีบาตอันต่ำต้อย ไหนเลยคู่ควรกับการเอ่ยอ้าง เมื่อไม่อาจทำอย่างไรกับสองยอดยุทธสำนักบู๊ตึ๊ง ย่อมทำอะไรเตียก่าจู้ที่สืบทอดวิชาฝีมือจากสำนักบู๊ตึ๊งไม่ได้ สำนักง่อไบ๊ท่านอาศัยอาวุธกลไกอวดโอ่อานุภาพจะให้พวกท่านรับทราบอาวุธกลไกของนิกายเม้งก่าเราบ้าง "

พลางโบกมือขวาวูบ เด็กชายชุดขาวผู้หนึ่งยกแคร่ไม้เหล็กมาแคร่หนึ่งบนแคร่ปักไว้ด้วยธงเล็กๆห้าสี จำนวนสิบกว่าผืน เอี้ยเซียวดึงธงสีขาวผืนหนึ่งตวัดมือวูบ ซัดธงสีขาวปักลงยังกลางลานกว้าง

เหล่าผุ้กล้าเห็นธงสีขาวนับรวมทั้งคันธง มีความยาวไม่ถึงสองเชี๊ยะ บนผืนธงปักสัญลักษณ์รูปเปลวอัคคีของนิกายเม้งก่า ไม่ทราบว่าเอี้ยเซียวก่อกวนเลศนัยใด ยามนั้นที่ด้านหลังของเอี้ยเซียวมีคนยิงพลุไฟดอกหนึ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าแตกกระจายเป็นรุปควันขาวกลางอากาศ

ได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้น สาวกนิกายเม้งก่าใช้ผ้าขาวโพกศีรษะขบวนหนึ่งวิ่งเข้าสู่ลานกว้าง มีทั้งสิ้นห้าร้อยคน ทุกคนน้าวคันเกาฑัณฑ์พาดลูกธนูเสียงขวับเขวียบดังขึ้น ลูกธนูห้าร้อยดอกปักเรียงรายอยู่รอบธงขาวเป็นรูปวงกลมที่แท้เป็นคนของกองธงทองเฉียบคม ภายใต้การนำของโง้วแก่เชา

เหล่าผู้กล้าไม่ทันโห่ร้องชมเชย สาวกนิกายสังกัดกองธงทองเฉียบคมก็ชักทวนสั้นสำหรับซัดพุ่งจากกลางหลัง สืบเท้าไปสิบกว่าก้าว ซัดทวนสั้นทั้งห้าร้อยเล่มปักใส่พื้นที่ในวงกลมลูกธนู

จากนั้นทุกผู้คนเร่งฝีเท้าไปอีกสิบกว่าก้าว ชักขวานสั้นจากหว่างเอว เหล่าผู้กล้าเห็นประกายเจิดจ้าวูบวาบบาดตา ขวานสั้นทั้งห้าร้อยเล่มจามใส่พื้นดินเรียงรายเป็นรุปวงกลม ขวานสั้น ทวนซัด ธนูยาวที่เป็นอาวุธสามชนิด ล้อมเป็นวงสามวงโดยไม่ปะปนกัน ต่อให้ท่านมีฝีมือสูงเยี่ยมเทียมฟ้า ภายใต้อาวุธยาวสั้นทั้งหนึ่งพันห้าร้อยเล่มโหมจู่โจมใส่ ต้องถูกบดขยี้เป็นก้อนเนื้อเลอะเลือน

ที่แท้คราก่อนกองธงทองเฉียบคมปะทะกับสำนักง่อไบ๊แดนไซฮกประสบความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงแม้แต่ผู้ดูแลกองธงจึงเจ็ง ก็ตายใต้กระบี่อิงฟ้าของเจ้าสำนักง่อไบ๊รุ่นก่อนมิกเจาะซือไถ่ หลังจากนั้นทางกองธงจึงแก้ไขปรับปรุงฝึกซ้อมขบวนค่ายกลอันกล้าแกร่งนี้ขึ้น

ระหว่างนี้นิกายเม้งก่ามีขุมกำลังเพิ่มพูน กองธงห้าธาตุล้วนขยายกำลัง สาวกนิกายสังกัดกองธงทองเฉียบคมมีจำนวนสองหมื่นกว่าคน นักสู้ที่ยิงธนูซัดทวนขว้างขวานทั้งห้าร้อยคนนี้ ผ่านการคัดเลือกจากสาวกนิกายสองหมื่นกว่าคนความจริงมีพื้นฐานกำลังภายในอยู่ก่อน บวกกับได้รับการชี้แนะจากอาจารย์เลิศล้ำ ฝึกซ้อมเป็นเวลาปีเศษ กลายเป็นกองกำลังที่สามารถเข้าสู่สมรภูมิได้



ตอบกระทู้
ชื่อ
รหัส กรอกตัวอักษร ตามภาพ
ข้อความ


emo-smile emo-happy emo-lol emo-enjoy emo-kiku emo-cool emo-hoho emo-drool emo-hungry emo-kiss emo-sorry emo-sad emo-cry emo-tear emo-question emo-doubt emo-shock emo-redface emo-plz emo-peevish emo-angry emo-moody emo-sneer emo-makefaces emo-good emo-touched emo-love emo-bore emo-tired emo-vomit
bold italic underline img link superscript subscript size color space justifyleft justifycenter justifyright quote box youtube