วันก่อนเพิ่งคุยกับคนในเวบสามก๊กว่า ใครเก่งที่สุดในมังกรหยก บังเอิญผมชอบวิชาของเซียวเล่งนึ่งอยู่ก่อนแล้วเหมือนคุณวิหคอมตะ เลยให้เครดิตเซียวเล่งนึ่งไว้สูงมาก ยังไงขอความเห็นคนที่นี่ลองไปช่วยหน่อยครับ
http://www.sanguo-chronicle.com/forum/index.php?showtopic=2771
อยากรู้เรื่องเกี่ยวกับวิชากระบี่ของแม่เซียวเล่งนึ่งนี่มัน ระดับไหน
EXXR | |
![]() |
ถ้าสู้กันเฉพาะวิชากระบี่ไม่นับกำลังภายใน เซี่ยวเล้งนึ่งคงเก่งที่สุด เพราะวิชาคนอื่นต้องใช้กำลังภายในช่วยทั้งนั้นเช่น 9กระบี่ของเอี้ยก๊วยก็ต้องใช้กำลังภายใน เท่าที่คงมีแต่ไม้เท้าตีสุนัขที่เปรียบเทียบได้ ยังไงก็ เอาก๋วยเจ่งมาวัดกับเล้งนึ่ง ผมว่าเทียบกันไม่ได้ ก๋วยเจ๋งประสบการณ์+ฝีมือ กินขาด และก๋วยเจ๋งคนเดียวที่สามารถใช้ค่ายกล7ดาวเหนือทั้งที่มีคนเดียวได้+กับวิชาอื่นๆเข้าไป และวิชาตัวเบาของก็วยเจ๋งก็ยอดเยี่ยมเช่นกัน จะเห็นได้จากตอนที่ใช้วิชาทยานบันไดเมฆาไต่ขึ้นกำแพงเมือง ตอนที่ก็วยเจ่งกับกิมลุ้น ประทะฝ่ามือกันนั่นคือการวัดกำลังภายในเฉยๆ ไม่สามารถบอกฝีมือที่แท้จริงได้ แต่ผลจากการประทะ ก๊วยเจ๋งที่กระโดดถอยไป2-3ก้าวเพราะเป็นไปตามหลักวิชาเพื่อลดทอนความแรงลงมา ส่วนกิมลุ้นยืนรับแบบตรงๆเลยผมคือจุดแน่นที่ทรวงอก ถ้าก๊วยเจ๋งเข้าไปซ้ำกิมลุ้งคงสิ้นชื่อไปตั่งแต่ต้นเรื่อง ส่วนตอนที่ถูกรุมที่ค่ายมองโกลสถานการณ์แตกต่างกับตอนที่เล้งนึ่งเจอรุมที่ชวนจิงก่า เพราะค่ายมองโกลทหารล้อมไว้เป็นแสนๆนาย ถ้าก๊วยเจ๋งสมบรูณ์ทุกอย่าง น่าจะจัดการ4คนนั่นได้สบาย เพราะตอนที้ยังไม่สมบรูณ์+เอี้ยก๊วยคอยก่อนกวน ยังฟาดใส่นีมอซิงจนบาดเจ็บได้ |
tinyvoice (tinyvoice | |
![]() |
ผมชอบแม่เซียงมาก และคิดว่าแม่เฃซียงเก่งมากๆ ถึงเลยเปิดประเด็น แต่ผมก้ไม่เคยคิดว่า แม่เซียวจะสู้ก๊วยเจ๋งได้ เพราะกีวยเจ๋งนี่ ถือเป้นสุดยอดคนนึงในระดับ ปรมจารย์แล้ว แต่ถ้าให้ผมว่า เอาแค่กระบวนเพลงกระบี่ เล่งฯงผมคงป้นลำดับต้นๆ สูสีกับเพลงไม้เท้าตีสุนัขได้ เพราะรวดเร็วและแปรปรวนได้ไม่จบสิ้น อาจารย์ทวดของเล่งนึ่งเองก็จริงๆถือได้ว่าเป็นปรมจารย์ได้ มีฝีมือเทียบได้กับ พวกมารบูรพาเช่นกัน ถ้าให้มาวัดตอนท็อปเพอร์ฟอร์ม ผมพอจะเอาไปจับคู่แข่ง กับ อึ้งย้ง หรือ ลีมกโช้วได้ คงอยู่ไม่ห่างกันมากนัก อ่านแล้ว รู้สึกว่าคนเขียนก้งงกับตัวเองเหมือนกัน เพราะ แม่เซียวจริงแล้วน่าจะมีกำลังภายในสุดยอด เพราะตอนแรกก็บอกว่าไอ้เตียงหยกเนียะเสริมสร้งกำลังภายใน ได้มากกว่าคนที่ฝึกด้วยตนเอง แล้วแม่เซียวก็ล่อนอนมาแต่เด็ก ส่วน อีกเรื่องที่ว่าไหวพริบ แม้เล่งนึ่งจะไม่ใช่พวกฉลาดไหวพริบเป้นโจรแบบอึ้งย้ง แต่ เล่งนึ่งมีดีที่ สมาธิครับ ฝึกมาแต่เด้กทำให้จิตใจแน่วแน่ จับทางดาบและ ลงมือได้กระชับ รับรุ้ไว อย่างที่ว่าไว้ ผมคิอว่า เล่งนึ่งยังเป้นรอง ก๊วยเจ๋งแน่นอน แต่ไม่น่าจะเป้นรองแบบห่างชั้นจนเห็นช่องว่างแบบสุดๆ และคงไม่เป้นหมูให้เคี้ยวแน่นอน คิดว่า คู่ที่น่าจับมาตบกันแบบสมน้ำสมเนื้อน่าจะเป็น อ้งย้ง กับป้าลีมากว่าอย่างที่ว่าไว้ข้างบน ฝีมือแบบรองลงมาหนึ่งขั้นจากพวกปรมจารย์ |
kazama | |
![]() |
ก็อย่างที่บอกไปน่ะครับ ผมเองก็คิดเหมือนคุณตงหยุนคือ ภาคนี้เอี้ยก้วยเป็นพระเอก คนอื่นไม่ควรเก่งเกิน ขนาดก๊วยเจ๋งยังต้องเหมือนถูกเก็บถูกดองไว้ไม่ให้โชว์ความเก่งมาก เลยเอาสถานการณ์เมืองเซียงเอี้ยงมาเกี่ยว ทำให้ก๊วยเจ๋งยุ่งเรื่องยุทธภพไม่ได้เท่าไหร่ แต่พอท่านกิมย้งเขียนความเก่งของเซียวเล่งนึ่งที่ใช้สองมือขัดแย้งรำกระบี่คู่ ท่านก็คงรู้สึกตัวเลยว่าพลาด เพราะเซียวเล่งนึ่งกลายเป็นสุดยอดเพลงกระบี่ ทั้งที่เริ่มหัดใช้สองวิชาพร้อมกัน เลยต้องดองเซียวเล่งนึ่งอีกคน เขียนให้เซียวเล่งนึ่งไม่ฝึกวิชาใน 16 ปีเลย ไม่งั้นนางจะเก่งที่สุดไป เทียบความเก่งเซียวเล่งนึ่งนั้นไม่น่าจะเกินเจ็ดนักพรต หรือศิษย์เอกทั้งสี่ของอิดเต็งไต้ซือ แต่สองวิชาทำให้ปราบกิมลุ้นได้ในเวลาอันสั้นอย่างง่ายดาย จุดนี้เจ็ดนักพรตเองก็คงทำไม่ได้ ทำได้อย่างมากก็เสมอ ความเก่งของสองวิชานี้ทำให้เซียวเล่งนึ่งเก่งเกินหลายคนจะตามทันไป และเก่งขึ้นอย่างผิดคาดในเวลาอันสั้น แต่ลองเทียบความเก่งเซียวเล่งนึ่งตอนที่ใช้กับไม่ใช้ดู แล้วจะรู้ว่าทำไมผมถึงให้เครดิตเซียวเล่งนึ่งไว้สูงมาก วิชาเอี้ยก้วยไม่น่าจะใช่เก้ากระบี่ เป็นเพียงวิชากำลังภายในของต๊กโกวคิ้วป้าย เพราะเห็นแค่ลำดับกระบี่ กับการฝึกกับพี่อินทรี คนที่ได้เคล็ดวิชาเก้ากระบี่จริง ๆ คือเหล็งฮู้ชง แต่เหล็งฮู้ชงได้เพียงเคล็ดวิชาขาดการฝึกกำลังภายในไป ดังนั้นวิชากระบี่ของเอี้ยก้วยไม่น่าจะเอาชนะเซียวเล่งนึ่งได้ ส่วนไม้ตีเท้าสุนัข จัดเป็นยอดวิชาแต่ในเรื่องมีการใช้วิชานี้สู้กับยอดฝีมือแบบรู้ผลแพ้ชนะน้อยมาก เลยไม่อาจเปรียบเทียบได้ |
ต้วนยี้ | |
![]() |
ผมใช้ตรรกะของคุณ Kazama กะคุณตงหยุนที่ตรงบอกว่า กิมย้งไม่อยากให้เล่งนึ่งเก่งเกินไป จึงลดทอนความเก่งลง ช่วง 16 ปีไม่เจอเอี้ยก้วยไงครับ บวกกับตรรกะของคุณตงหยุนที่บอกว่าก๊วยเจ๋งต้องไม่แสดงความเก่งกาจมาก เพราะจะไปสกัดดาวรุ่ง บวกกับความจริงที่กิมย้งแต่งเพื่อลดทอนความเก่งของก๊วยเจ๋งตั้งแต่ต้นเรื่องแล้ว ดังนั้นความเก่งของก๊วยเจ๋งจึงมีมากกว่า จนอาจารย์กิมย้งต้องลดทอนลงตั้งแต่ต้นเรื่อง ส่วนเล่งยี้มาลดเอาตอนจะท้ายๆ แล้วไงครับ (555) แต่จริงๆ แล้วผมว่าหลายคนน่าจะเข้าใจโดยไม่ต้องยกตรรกะใดๆ ว่า ก๊วยเจ๋งเก่งที่สุด ผมเคยอ่านบทสัมภาษณ์อาจารย์กิมย้งในหนังสือฮ่องกงฉบับหนึ่ง แต่ที่ไม่อยากอ้างอิงตอนแรกเพราะมันนานมาแล้ว แต่ผมหาหลักฐานไม่ได้ เดี๋ยวจะหาเอาว่าผมมั่ว ประมาณว่า มีคนถามท่านว่าพระเอกในสามไตรภาคท่านว่าใครเก่งที่สุด ท่านว่าโดยส่วนตัวท่านชอบเอี้ยก้วยมากที่สุด แต่เรื่องของความเก่งนั้น ท่านอยากให้เป็นจินตนาการและการถกกันของนักอ่านมากกว่า แต่ถ้าถามท่านในฐานะนักอ่านท่านว่า ก๊วยเจ๋งเก่งที่สุด ไม่แต่เพียงพลังฝีมือระดับสุดยอดที่ฝึกฝนได้จากตนเอง ทั้งที่ๆ ไม่มีพรสวรรค์ในเรื่องของการฝึกยุทธ ไม่มีความเฉลียวฉลาด ไม่รู้จักพลิกแพลง แต่กลับมาเป็นจอมยุทธที่ผู้คนนับถือจากใจได้เลยว่า นี้คือจอมยุทธโดยแท้ (ป.ล. ท่านผู้ประมาณนี้นะครับ เสริมๆ กะสำนวนผมด้วย) และที่เหนือกว่าฝีมือก็คือคุณธรรม ให้คนรุ่นหลังกล่าวถึงเหนือกว่าจอมยุทธอีกสอง (ดูอย่างมารเฒ่าสิครับ ฉลาดหลักแหลม ปัญญาเกินคน แต่ท้ายสุดพลังฝีมือไม่อาจเหนือเฒ่าทารก หรือ เฮ้งเต็งเอี้ยงได้) ส่วนเล้งยี้แม้จะมีเพลงกระบี่เลิศล้ำในแผ่นดิน แต่ถ้ามาเจอคนที่มีพลังวัตรสูงๆ ก็เพลี้ยงพล้ำได้ง่ายๆ อย่างเล่งฮู้ชงที่พ่ายให้กับเจ้ตงฟางครับ |
ราชันย์เมฆา | |
![]() |
ผมว่าเจ้เซียวเก่งแต่ไม่น่าจะเทียบกับก๋วยเจ๋งได้ เพราะด้วยองค์ประกอบอะไรหลายๆอย่างที่เจ้เซียวยังไม่มี แค่เทียบด้วยกำลังภายในก็ห่างกันมากแล้ว ผมว่าถ้าจะเอามาเทียบน่าจะคู่กับอึ้งย้งมากกว่า แต่ถึงเทียบกับอึ้งย้งถ้าดูภาพรวมทั้งหมดก็ยังไม่น่าจะเท่ากับอึ้งย้งด้วยซ้ำ เพลงกระบี่ของเจ้เซียวก็น่าจะพอๆกบไม้เท้าตีสุนัข แต่ความฉลาด พลิกแพลง ของอึ้งย้งก็กินขาดรวมถึงกำลังภายในอีกด้วย การต่อสู้ใช้กำลังอย่างเดียวไม่ได้ต้องใช้ไหวพริบและสติปัญญาเข้ามาด้วยครับ |
tinyvoice (tinyvoice | |
![]() |
แต่อย่างที่ผมว่าไว้นะครับ ผมว่าเรื่องกำลังภายในอึ้งย้งก้ไม่ได้เท่าไหร่จริงๆ ไม่ทราบว่าทำไมทั้งๆที่ฝึกเก้าอิม ด้วย แต่ ก็ไม่เคยสำแดงเดชด้วยกำลังภายในเลย แต่เด่นที่ไม้เท้าตีสุนัขมากกว่า ดังนั้น ถ้าจับคู่กับอึ้งย้ง เรื่องกำลังภายในก็ไม่น่าห่างชั้นกันมาก เพราะ แม่เซียวก็นอนเตียงหยกมาตั้งแต่เด็ก ความฉลาดและ ไหวพริบคงต้องยกให้อึ้งย้งแน่นอน เพราะฉลาดเป็นกรดจริง แต่อย่าลืมว่า แม่เซียวมีสามาธิดีกว่า จิตใจว่างเปล่า อย่างที่รู้ว่าถ้าเรามีสมาธิที่ดี ทำอะรก้จะดีไปหมด การควบคุมกระบวนท่า หรือการมองเหตุการณืในการต่อสู้ ผมว่าตรงนี้แม่เซียวก้จะได้เปรียบ |
tinyvoice (tinyvoice | |
![]() |
ผมคิดว่า คงกินกนไม่ลง ไม่สามารถตัดสินได้ง่ายๆคงเป้นแบบสู้กันไปให้ตายไปข้าง แบบใครเผลอหรือเปิดช่องโหว่ก่อนเป้นอันเสร็จ |
วิหคอมตะ | |
![]() |
จุ๊ๆ ผมขอแสดงความเห็นอันต่ำต้อยค้านท่านประมุขเป็นบางเรื่องขอรับ 1. คัมภีร์ที่ยิ่งใหญ่ 3 เล่ม เก้าอิม สาวหยก และช้วนจิน โดยที่ อิม ข่ม หยก หยก ข่ม จิน เมื่อมีการประสานกำลังกัน อิม + อิม จึงต้องเหนือกว่า หยก + หยก ส่วน หยก + หยก ย่อมต้องเหนือกว่า จิน + จิน ทว่า เพลงกระบี่คู่ไม่ใช่เป็นการใช้ หยก + หยก หากแต่เป็นการใช้ หยก + จิน และเป็นการเลือกใช้ได้อย่างเหมาะสมที่สุด (เพราะ หยก ไม่เพียงสร้างขึ้นมาข่ม จิน เท่านั้น หากแต่ยังสร้างขึ้นมาเพื่อคู่กับ จิน ด้วย ขณะที่ อิม เองไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อข่ม หยก โดยตรง) เหมือนชายที่ต้องคู่กับหญิงจึงเกิดสมดุล ไฟต้องคู่กับน้ำจึงเกิดสมดุล ร้อนคู่กับเย็นจึงเกิดสมดุล เป็นต้น พลานุภาพของ อิม + อิม ก็เหมือนกับ ความเย็น + ความเย็น อย่างดีก็ทำให้อุณหภูมิลดลงอีกหน่อยอาจทำให้คนเป็นหวัดได้ ไม่เหมือนกับพลานุภาพของ หยก + จิน ที่เหมือนกับ ความเย็น + ความร้อน เมื่อสปาร์คกันได้ที่ไม่เพียงทำให้คนเป็นหวัด แต่ยังจับไข้นอนซมไปหลายวันทีเดียว (เงื่อนไขในการสปาร์คของ หยก + จิน ก็คือความรักนั่นเอง) เพราะฉะนั้น อิม + อิม จึงไม่แน่ว่าจะข่ม หยก + จิน ได้ชัดเจนนัก หากเปรียบแบบยูกิ หยก + จิน จะคล้ายกับตัวต่อของเทพเอ็กซ์โซเดียอยู่แบบเดี่ยวๆ อาจไม่น่าครั่นคร้าม แต่อยู่ด้วยกันก็ไร้เทียมทานมีพลังโจมตีเป็นอนันต์เลยทีเดียว (เช่นกัน อิม ต้องคู่กับ เอี๋ยง จึงจะเกิดอานุภาพไร้ต้านแบบ หยก + จิน) ถ้าให้ยกตัวอย่างในเรื่องก็กรณี ก๊วยเจ๋ง + อึ้งย้ง ตบกับคิ้วโชยยิ่ม ยังทำได้แค่เสมอ เพราะวิชาของสองคนนี้ไม่สามารถทำคอมโบได้รุนแรง(เหมือนใช้การ์ดกับดัก 2 รุม 1 สังเวยมอนสเตอร์ฝ่ายตัวเอง 2 ตัวเพื่อทำลายมอนสเตอร์ฝ่ายตรงข้ามแค่ 1 ตัว) ส่วนเอี้ยก้วย + เหล่งนึ่ง ตบลามะในการประสานกระบี่ครั้งแรก ก็สามารถขับไล่ไปได้ เพราะวิชาของสองคนนี้เกิดมาเพื่อคู่กัน (เหมือนใช้การ์ดกับดักบาเรียศักดิ์สิทธิ์มิลเลอร์ฟอร์ซแค่ใบเดียว) ส่วนที่กล่าวว่าเหมยเชาฟง (แบบว่าชอบชื่อนี้อ่ะเพราะดี) ฝึกกระบวนท่าเพียงผิวเผินนั้น น่าจะเรียกว่าเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อนในหลักวิชาที่ผิดเพี้ยนไปมากกว่า เพราะในบทวิชากรงเล็บกระดูกขาวมีการกล่าวถึงเรื่องการขับเคลื่อนเดินกำลังภายในด้วย เช่นกันแสดงว่านั่นเป็นเคล็ดวิชาแบบเต็มๆแล้วล่ะคับ ไม่ใช่แบบผิวเผิน ดังตอนที่เหมยเชาฟงเองต้องสอบถามเรื่องการตีความกำลังภายในกับก๊วยเจ๋งและเบ๊เง็ก เพราะฉะนั้นการที่เหมยเชาฟงมีวิทยายุทธสะท้านทั่วยุทธจักรได้ก็เป็นเรื่องธรรมดาคับ 2. ธรรมดาครับที่เอี้ยก้วยต้องถูกสยบ หากเทียบเฉพาะวิทยายุทธกันเป็นตัวเลขเต็ม 10 ก๊วยเจ๋งกับพวกอาวุโสภูตบูรพาผมให้ 9 - 9.5 จิวแป๊ะทง เอาไป 10 ลามะจักรทองเอาไป 7.7 อึ้งย้งเอาไป 6 ส่วนเอี้ยก้วย กับ เซียวเหล่งนึ่ง เวลานั้นผมให้แค่ 5 กับ 4 พอ ส่วนสถานการณ์ตอนนั้นเป็นยังไงก็ชักจะลืมๆแล้วเหมือนกันครับไม่ได้อ่านมาหลายปีแล้ว ถ้าเทียบความเก่งของเอี้ยก้วยในเวลานั้นกับเหมยเชาฟงผมว่าค่อนข้างใกล้เคียงกัน แต่ให้ภาษีอาเฮียดีกว่าสักขั้นหนึ่ง ดังนั้นเหมยเชาฟงผู้ช่ำชองในวิทยายุทธ ประสบการณ์ต่างๆในยุทธจักรมากว่า 20 ปียังถูกอึ้งเอี๊ยะซือสยบด้วยการลงมือครั้งเดียวฉันใด เอี้ยก้วยที่เพิ่งออกท่องยุทธจักรเหมือนลูกนกเพิ่งออกบินเมื่อเผชิญหน้ากับ ผู้ยิ่งใหญ่กว่าอย่างก๊วยเจ๋งย่อมไม่อาจขัดขืนได้ฉันนั้น ส่วนเซียวเหล่งนึ่งที่มีฝีมือใกล้เคียงกันภายหลังรับวิชาสองมือขัดแย้งมาแล้ว หากกล่าวถึงวิทยายุทธโดยรวมย่อมเหนือชั้นกว่าเดิมขั้นหนึ่งแต่คงไม่ทัดเทียม กับก๊วยเจ๋งและเหล่าอาวุโส แต่หากจะวิจารณ์กันเฉพาะเพลงกระบี่ตรงๆแล้ว นับว่าเหนือชั้นกว่าเดิมหลายเท่า ความรวดเร็วประดุจสายฟ้าแลบของเพลงกระบี่ ชุดนี้อาจกล่าวได้ว่าคือสิ่งเดียวที่จะไม่มีผู้ใดจะทำได้เหมือนเซียวเหล่งนึ่งอีก อีกทั้งเพลงกระบี่ชุดนี้มีรากฐานมาจากสุดยอดเพลงกระบี่ของลิ้มเฉียวเอ็ง + เฮ้งเต็งเอี๊ยง 2 สุดยอดปรมาจารย์แห่งยุคที่ครองความเป็นหนึ่งในยุทธจักร ดังนั้นเพลงกระบี่ชุดนี้จึงมีคุณค่าพอที่จะเทียบเทียมได้กับเหล่าสุดยอดฝีมือที่เหลืออยู่แน่นอน 3. สิ่งที่เอี้ยก้วยเหนือกว่าเซียวเหล่งนึ่งคือเพลงมวย กับ กำลังภายใน และประสบการณ์ที่มากกว่า ส่วนเพลงกระบี่หากปราศจากกระบี่เหล็กนิลเอี้ยก้วยย่อมไม่สามารถสำแดงอานุภาพ ของเพลงกระบี่ที่ฝึกมาจากนกอินทรีย์ออกมาได้ ความร้ายกาจในเชิงกระบี่ของเอี้ยก้วย จึงถือว่าด้อยกว่าเซียวเหล่งนึ่งที่สามารถเด็ดกิ่งไม้ใบหญ้าแล้วลงมือใช้กระบี่คู่ได้ทุกเวลา ดังนั้นการที่กระบี่เอี้ยก้วยหักก็เนื่องมาแต่ไม่ได้มีเพลงกระบี่ที่มีความรวดเร็วปานสายฟ้า เหมือนของเซียวเหล่งนึ่ง หรือกระบี่อาจไม่สัมพันธ์กับพลังของตนเอง หากเปลี่ยนให้เซียวเหล่งนึ่งมาตบกับลามะจักรทองแทนเอี้ยก้วยตอนนั้น ผลการต่อสู้ย่อมเปลี่ยนไป ลามะจักรทองสามารถหักกระบี่เอี้ยก้วยได้เพราะเห็นการออกกระบี่ แต่จะสามารถหักกระบี่ของเซียวเหล่งนึ่งได้นั้นออกจะง่ายดายเกินไปหน่อย เพราะกระบี่ของเซียวเหล่งนึ่งไม่เพียงยากต่อการมองเห็นแต่ยังยากต่อการคาดเดาด้วย (นอกจากเหล่าสุดยอดฝีมือแล้วจะสังเกตได้ว่าไม่มีใครมองเห็นการออกกระบี่ ของเซียวเหล่งนึ่งเลย นอกจากแสงสีเย็นตาที่ผ่านไปเพียงแวบเดียว) ดังนั้นการใช้เหตุการณ์ตอนนี้มาประเมินความร้ายกาจของก๊วยเจ๋งกับ กระบี่ของเซียวเหล่งนึ่งยังเป็นเรื่องค่อนข้างคลุมเครืออยู่ 4. วิทยายุทธบางอย่างย่อมเหมาะกับคนบางคน เช่น ก๊วยเจ๋ง กับ ส่าโกว เพราะมีสติปัญญาทึบจึงไม่อาจฝึกยุทธที่เน้นการพลิกแพลงแปรเปลี่ยนท่วงท่า ที่พิสดารได้ ก๊วยเจ๋งจึงต้องฝึก 18 ฝ่ามือพิชิตมังกรจนช่ำชองจากนั้นจึงค่อยๆศึกษาวิทยายุทธ แขนงอื่นๆต่อไป ส่วน ส่าโกว ถึงจะปัญญาอ่อน แต่ถ้าขยันให้ฝึกแค่ 3 ท่าที่อึ้งเอี๊ยะซือบัญญัติขึ้นมา จนช่ำชองก็มีฝีมือในชั้นแนวหน้าของยุทธจักรได้เช่นกัน ดังที่เคยสำแดงฝีมือ ใช้แค่ท่าเดียวก็ขับไล่หลีม๊กโช้วไปได้แล้ว สรุปง่ายๆก๊วยเจ๋งมีปมด้อยที่สติปัญญา แต่มีปมเด่นเรื่องกำลังร่างกายจึงไปได้ดีกับ 18 ฝ่ามือพิชิตมังกร และเพราะความขยัน อดทนจึงสามารถขึ้นสู่ทำเนียบยอดฝีมือชั้นแนวหน้าแห่งยุคได้ เหล่านี้ล้วนแล้วแต่ เป็นความสำเร็จเฉพาะในเชิงการฝึกยุทธ ในเชิงการต่อสู้เอาชัยชนะกันนั้นถึงมีกำลังมาก แต่ใช้ไม่ถูกทางก็เหมือนมีกำลังน้อย ความรู้มากแต่ใช้ไม่ถูกสถานการณ์ก็เหมือนคนไร้ปัญญา รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง ก๊วยเจ๋งแม้เก่งกล้ายังไม่อาจบงการอึ้งย้ง ลามะจักรทองแม้เก่งกาจยังไม่อาจข่มเอี้ยก้วยลงได้ ทัพมองโกลแม้เหนือกว่าทัพเซียงเอี๋ยง ยังถูกภูมิปัญญาของอึ้งเอี๊ยะซือข่มขวัญทำลาย บรรดายอดฝีมือแห่งยุคที่ถือเป็นอันดับหนึ่ง ล้วนแล้วแต่เป็นอัจฉริยะแห่งยุค วิทยายุทธถือความเร็วมาเป็นอันดับหนึ่ง มีกำลังภายในเป็นส่วนเสริม เช่น ต๊กโกวคิ้วป่าย ลิ้มเฉียวเอ็ง ตงฟางปู้ป้าย ฟงซินหยาง อ้วงเซ่งจี่ เป็นต้น ในยุคที่ถือเอากำลังภายในเป็นหนึ่งนั้นมีเพียงยุคเซียวฟง เตียซำฮงเท่านั้น (ไม่แน่ว่าเหล่าอาวุโสที่หลบลี้โลกภายนอกในสุสานโบราณกับปู่เตียใครจะเหนือกว่ากัน) ส่วน 18 ฝ่ามือพิชิตมังกร เมื่อครั้งอั้งชิดกงไปประลองยุทธที่หัวซาน ลำพังจะเอาชัยต่อเฮ้งเต็งเอี๊ยง ยังทำไม่ได้ ย่อมไม่อาจทาบทาม ต่อการประสานกระบี่ของเพลงกระบี่คู่ได้เด็ดขาด อนึ่งอย่าลืมเด็ดขาด กระบี่เป็นเครื่องทุ่นแรงขอย้ำเป็นเครื่องทุ่นแรง แตะนิดโดนหน่อยเลือดก็สาดกระจายแล้วคับ ฝ่ามือเป็นเพียงเนื้อหนังมังสาย่อมไม่อาจทานทนต่อคมกระบี่ได้ 5. สรุป เพลงกระบี่คู่ของเซียวเหล่งนึ่งย่อมสามารถนำพาตัวนาง ขึ้นสู่ทำเนียบเหล่าปรมาจารย์อาวุโสได้แน่นอนคับ (ขอย้ำ เฉพาะเพลงกระบี่) ขอแถมนิดนึงกับความร้ายกาจของไม้เท้าตีสุนัขกับเพลงกระบี่คู่ ซึ่งถือว่าเป็นวิชาในตำนานด้วยกันทั้งคู่ ไม้เท้าตีสุนัขเป็นวิชาที่เน้นความพลิกแพลงแปรเปลี่ยนพิสดารเป็นหลัก ไม่ได้เน้นที่ความเร็ว เห็นว่ามาทางซ้ายแต่ที่จริงตบทางขวา เห็นว่าฟาดมาเบื้องบนแท้จริงลงไปตีอยู่เบื้องล่าง บางครั้งจู่โจมบน กลาง ล่าง พร้อมเพรียงกัน ศัตรูไม่รู้ว่าจะตั้งรับได้ยังไง แสดงว่าถึงเพลงไม้เท้าจะออกมาในรูปแบบไหนก็ยังเป็นวิทยายุทธที่คนทั่วไป มองเห็นได้ แต่ไม่สามารถรับมือได้นั่นเอง ส่วนเพลงกระบี่คู่ นั้นขอกล่าวเฉพาะเวอร์ชั่นเซียวเหล่งนึ่งที่ประสานกระบี่ได้คนเดียว คนส่วนใหญ่จะมองเห็นเพียงแสงสีเงินเย็นตาแวบเดียวเท่านั้น และไม่สามารถที่จะสู้ต่อได้อีกเพราะเพียงแวบเดียวที่มองเห็นความเจ็บปวดก็มาเยือน บางครั้งจู่โจมคนๆหนึ่งก็ยังมีเวลาว่างไปทำอันตรายคนอีกคนหนึ่งได้ เป็นเพลงกระบี่ที่จะชิงเป็นฝ่ายรุกโดยไม่ให้อีกฝ่ายได้โอกาสตั้งตัว ดังนั้นเพลงกระบี่ชุดนี้จึงเน้นที่ความเร็วเป็นหลัก จู่โจมเข้าช่องโหว่ของคู่ต่อสู้ ซึ่งตรงกับยุทธศิลป์แห่งวิชากระบี่ 3 ประการ กระบี่อยู่ที่ใจหนึ่ง กระบี่แรกต้องจู่โจมเข้าจุดอ่อนที่สุดหนึ่ง คมกระบี่ต้องถึงที่หมายด้วยระยะเวลาที่สั้นที่สุดหนึ่ง เพลงกระบี่คู่ของเซียวเหล่งนึ่ง จึงเป็นกระบี่ที่มองไม่เห็น และไม่สามารถรับมือได้ พูดถึงเรื่องของความน่าเกรงขามคนอาจไม่ค่อยครั่นคร้ามต่อเพลงไม้เท้ามากนัก เพราะอย่างแย่ก็คงแค่ถูกฟาดหัวโน โดนปิดจุด ขณะที่การเผชิญหน้ากับเพลงกระบี่นั้นอย่างดีอาจได้ บาดแผลติดไม้ติดมือกลับบ้านไปหน่อย ขณะที่อย่างแย่ก็เป็นกลายฝักกระบี่ให้เขาไป กรณีซวยสุดๆก็คงโดนกระบี่จิ้มจนเดี้ยงนั่นแหละ เหล่าชาวยุทธทุกท่านลองคิดดูว่าอยากโดนไม้เท้าหรือกระบี่จิ้มดีคับ |
kazama | |
![]() |
เถียงกันไปก็คงไม่จบ :) นี่ล่ะข้อดีของตัวหนังสือคือ จินตนาการของแต่ละคนก็ต่างกันไป เด่นด้อยแตกต่างกันไป อย่างที่คุณตงหยุนบอกท่านกิมย้งเองยังไม่สรุปเลยว่าตัวเอกคนไหนเก่งกว่ากัน เพราะอยากให้คนอ่านตีความกันไปเอง เพราะท่านคงไม่อยากทำลายจินตนาการคนอ่าน คนเขียนยังไม่สรุป ผมเองก็ไม่กล้าสรุป แต่ขอขยายความตามจินตนาการของผมอีกที เซียวเล่งนึ่งนั้นฝีมือคงไม่สูงไปกว่าเบ๊เง๊กหรือคิวชู่กี แล้วเจ็ดนักพรตช้วนจินก่าร่วมมือกัน ก็ได้แค่เสมอกับอาวเอี้ยงฮงกับอึ้งเอี๊ยะซือ กิมลุ้นนั้นผมให้ฝีมือเท่ากับสี่ยอดฝีมือครับ ความแตกต่างเรื่องฝีมือเมื่อเทียบกับสี่คนนั้นคงมีน้อยมาก เซียวเล่งนึ่งสามารถปราบกิมลุ้นได้ในเวลาอันสั้น เจ็ดนักพรตทำไม่ได้แน่ครับ แค่เสมอก็เต็มกลืนแล้ว เท่ากับว่าเซียวเล่งนึ่งที่มีฝีมือเท่าเจ็ดนักพรตคนเดียวทวีฝีมือจากวิชาทั้งสองอย่างน้อยก็ แปด เก้า หรือว่าสิบเท่าขึ้นไป บวกกับฝั่งกิมลุ้นมีเซียวเซียงจื่อ นีมอซิง และอึ้งเขียกไซ ที่แต่ละคนฝีมือเหนือกว่าเจ็ดนักพรตแน่นอน แล้วพอคุณวิหกอมตะอธิบายถึงตอนสู้กันที่ผมลืมไปแล้ว (ไม่ได้อ่านนาน) ผมยิ่งมั่นใจว่าเซียวเล่งนึ่งเก่งมาก เพราะนางใช้ถึงสี่วิชาในเวลาเดียวกัน สองมือขัดแย้ง กระบี่สุสานโบราณ (ดรุณีสาวหยก) กระบี่ช้วนจินก่า แล้วก็ฝ่ามือตาข่ายคลุมฟ้าดิน ที่เคยสอนให้เอี้ยก้วยจับนกกระจอกหลายสิบตัวตอนเด็ก ๆ เซียวเล่งนึ่งใช้ความไว โยนกระบี่เข้าใส่ แล้วในมือก็ถือกระบี่คู่รำเข้าใส่ แค่สามวิชาก็หาคนรับมือได้ยากแล้ว สี่วิชานี่ถ้าไม่คำนึงถึงกำลังภายใน เซียวเล่งนึ่งเป็นสุดยอดแน่นอน ถ้าเทียบกับสายกำลังภายในเซียวเล่งนึ่งก็ปราบกิมลุ้นที่เป็นสุดยอดอีกหนึ่งคนด้านนี้ได้ ตอนที่ผมอ่านแรก ๆ ผมก็ติดใจแล้ว แต่ไม่คิดว่าจะเก่งกว่าสุดยอดฝีมือสี่คนหรือว่าก๊วยเจ๋ง แต่ถ้าตัดอคติออกไป มองด้วยใจเป็นกลาง ไม่เกี่ยงว่าฝีมือเซียวเล่งนึ่งมีแค่ไหน เก่งขึ้นอย่างรวดเร็วในเวลาอันสั้นจนรับไม่ได้ ผมให้เซียวเล่งนึ่งเทียบเท่าปรมาจารย์ทั้งสี่ ถ้าได้ฝึกฝีมือช่วง 16 ปี ตลอด นางจะกลายเป็นอันดับหนึ่งแน่นอน เพราะด้านกระบวนท่ายอดที่สุด ถ้าใน16ปี มีกำลังภายในเพิ่มพูนมา ไม่มีใครรับมือนางได้แน่นอน ยังไงก็ตามนี่เป็นความเห็นผม ไม่หวังให้คนอื่นมาคิดตาม |
ราชันย์เมฆา | |
![]() |
สุดๆ ครับกระทู้นี้สะใจจริงๆ ขอไปอ่านเพิ่มหน่อยนะครับแล้วจะกลับมาวิจารณ์ต่อกลัวว่าพลังยุทธิ์จะไม่เท่าท่านอื่นๆครับ |
tinyvoice (tinyvoice | |
![]() |
ส่งใจมาซ่อม ส่งใจไปแข่ง ไอ้ผมก็เชียรืแม่เซียวใจจะขาดอะนะ เพราะชอบ แต่ผมว่ายังไม่น่าจะไปได้ถึงขั้นสี่จอมยุทธ์ระดับปรมจารย์ เพราะคิดว่าแค่สู้กับก๊วยเจ๋งก็รากแตกแล้ว สูสีคงได้แค่อึ้งย้ง อย่างที่บอก แต่ที่แน่นอน ผมว่าเก่งกว่า เจ้ดนักพรต แน่นอน เพราะเจ้ดนักพรตนี่ชนะตัวเบ้งๆม่ได้เลย แม่เซียวนี่ยังฟัดกับตัวใหญ่ๆคนเดียวมาแล้วหลายครั้ง อยากบอกว่าแม่เซียวใช้จริงก้ได้แค่สองวิชาพร้อมกันนะครับ ห้ามนับสองมือขัดแย้ง เพราะ วิชานั้นเป้นแค่กลไกในการรวม สองเพลงยุทธ์เข้าด้วยกัน แต่คิดว่า ฝีมือระดับแม่เซียว เหนือกว่าศพเหล้กแน่นอน เพราะอย่างที่บอก แม่นางเสื้อเหลืงจากสุสานโบราณ ตบผั๊วะ แม่นางจิวในภาคสามก็ล้มแล้ว แล้ว แม่เซียวของผมนี่เป็นเหมือนปรมจารย์เลย ฝีมือ แม่เซียวเป้นแบบประมาณ บีบวก ถึง เอ แน่ๆ แต่ไม่น่าจะเป็นได้แบบเอบวก นี่ว่าตามเนื้อผ้าเลยนะ มาเชียรืแม่เซียวสุดริด |
วิหคอมตะ | |
![]() |
นานาความคิด ช่วยๆกันวิจารณ์คับ สมองจะได้ไม่อยู่ว่างๆ จะได้คลายเครียดจากปัญหาสังคม อิอิ คราวหน้าลองวิจารณ์ว่าระหว่าง จูล่ง กับ กวนอู ใครเก่งกว่ากันคงจะน่าสนุกดี เพราะในเรื่อง ดูเหมือนกวนอูเก่งกว่า แต่บางครั้ง จูล่งดูเหนือกว่า เลยไม่แน่ใจว่าใครเก่งกว่าใครกันแน่ |
kazama | |
![]() |
ไทสูจู้เก่งกว่าครับ คุณวิหคอมตะ :) เพราะถ้าเทียบคนที่เก่งที่สุดคือลิโป้ ลิโป้ไม่ได้เก่งแค่บนหลังม้าอย่างเดียว วีรกรรมยิงธนูห้ามทัพกิเหลงกับเล่าปี่ก็ถือว่าเป็นสุดยอดผู้ใช้ธนู กวนอูเก่งแต่เรื่องใช้ง้าว แล้วก็มีม้าเซ็กเทา เลยทำให้เก่งขึ้น เรื่องใช้อาวุธอย่างอื่น ไม่เคยปรากฏ จูล่ง ก็โอเคเก่งรอบตัว ใช้อาวุธเก่งหลายอย่าง ใช้แชฮ้งเกี้ยมที่ชิงจากแฮหัวอิ๋นนำอาเต๋าฝ่าวงล้อม ใช้ธนูยิงธงฝ่ายง่อตอนนำเล่าปี่กลับจากง่อก๊ก แต่จุดเด่นจะอยู่ที่ใช้ทวนยาวของตัวเองส่วนใหญ่ แต่ไทสูจู้เก่งหลายอย่าง ไม่ใช้ใช้อาวุธบนหลังม้า อาวุธที่ไทสูจู้ถนัดอีกอย่างที่เรียกได้ว่าเก่งระดับสุดยอดคือ การใช้ธนู ไทสูจู้เคยฝ่าโจรผ้าเหลืองห้าหมื่นคนที่ล้อมเมืองปักไฮของขงหยงเพื่อไปตามเล่าปี่มาช่วย ไทสูจู้ฝ่าเข้าเมืองตัวคนเดียวฝีมือเก่งกาจจนโจรผ้าเหลืองทำอันตรายไม่ได้ ตอนขาออกไทสูจู้ฝ่าโจรผ้าเหลืองห้าหมื่นคน โดยใช้ธนูยิงเหล่าโจรที่ควบม้าเข้าหาทุกทิศทางให้ล้มตายจนฝูงโจรไม่กล้าเข้าใกล้ แถมยังมีชื่อเสียงเลื่องลือทั่วแผ่นดินก่อนสองคนนั้นอีก แม้โจโฉเองยังอยากได้ไทสูจู้ไปรับใช้ http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=kazama&date=27-09-2005&group=2&blog=5 |
ประมุขพรรคกระยาจกรุ่ | |
![]() |
อืมม ข้าพเจ้าได้มีโอกาสเปิดหูเปิดตา เอาล่ะข้าพเจ้าขอเพิ่มเติมบ้าง 1.คัมภีร์เก้าอิม มีลมปราณอ่อนหยุ่น เป็นธาตุฝ่ายหยิน 18 ฝ่ามือสยบมังกร เน้นความแข็งกร้าว เป็นธาตุฝ่ายหยาง เมื่อก๊วยเจ๋งใช้ออกด้วย 18 ฝ่ามือสยบมังกรผสานยอดวิชาเก้าอิม เท่ากับว่าใน18 ฝ่ามือสยบมังกรอันแข็งกร้าวแฝงความอ่อนหยุ่นของกำลังภายในเก้าอิม ในกำลังภายในเก้าอิมอันอ่อนหยุ่นแฝงความแข็งกร้าวของ18 ฝ่ามือสยบมังกร การผสานที่สุดแห่งความแข็งกร้าวกับที่สุดแห่งความอ่อนหยุ่น ยิ่งเพิ่มอานุภาพให้วิชาฝีมือของก๊วยเจ๋งยิ่งขึ้น เมื่อผนวกกับวิชาสองมือขัดแย้ง นับเป็นการผสานหยินหยางเข้าด้วยกัน อย่างที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน แม้แต่อั้งซือโจ้วก็มิอาจทำได้ ในยุคหลังมานี้ มีเพียงเตียจินหยินเท่านั้น ที่ผสานแนววิชาหยินหยางเข้าด้วยกันได้ นั่นคือ การประสานความแข็งแกร่งของกำลังภายในเก้าเอี๊ยง กับความอ่อนหยุ่นของไท้เก็ก ส่วนพื้นฐานวิชาของเล้งโกวเนี้ยไม่ใช่แนวทางที่แข็งกร้าว การฝึกวิชาเง็กนึ้งซิมเก็ง ก็เน้นลมปราณสายเย็นเป็นหลัก ลักษณะวิชาของลิ้มเฉียวเอ็ง จึงถือเป็นแนวทางหยิน และมีส่วนที่คล้ายกับแนววิชาฝ่ายเต๋า ด้านเพลงกระบี่ช้วนจิน เป็นวิชาในแนวทางเต๋า โดยหลักการพื้นฐานย่อมไม่พ้นไปจากการอาศัย อ่อนพิชิตแข็ง นิ่งสยบเคลื่อนไหว จึงถือเป็นแนวทางหยินเช่นกัน เมื่อนำแนววิชาทั้งสองสำนักมาประสานกัน จึงเป็นการประสาน หยิน + หยิน ไม่ใช่หยิน + หยาง เหมือนก๊วยเจ๋ง การประสานเพลงกระบี่จึงมิได้เป็นการ ผสานธาตุที่แตกต่างเข้าด้วยกัน แต่เป็นเพียงการประสานเพลงกระบี่ในแนวทางเดียวกัน เพราะต่างมีพื้นฐานมาจากแนวทางของฝ่ายหยินเช่นกัน แต่แม้เป็นเพลงกระบี่ฝ่ายหยิน ก็ถือเป็นสุดยอดวิชาเช่นกัน เมื่อใช้ออกด้วยการประสานกระบี่ จึงกลายเป็นว่า เล้งโกวเนี้ยต่างหากที่ประสาน หยิน + หยิน เข้าด้วยกัน ตรงนี้ย่อมไม่แตกต่างจากเก้าอิม เพราะต่างก็เป็นวิชาฝ่ายหยิน แต่เก้าอิมเป็นเคล็ดวิชาที่เกิดจากการคิดค้นอย่างจริงจังเพื่อการแก้แค้น อึ้งเซี้ยง ผู้คิดค้นเก้าอิม เป็นผู้แตกฉานแนวทางวิชาสายเต๋า อย่างที่เฮ้งเต็งเอี๊ยงก็มิอาจเทียบได้ อึ้งเซี้ยงอาศัยเวลาอันยาวนาน ทุ่มเทศึกษา ดัดแปลง วิทยายุทธ์ทั้งมวล ทั้งทางด้านกระบวนท่า และทางด้านกำลังภายใน ความจริงจังในการคิดค้นมีมากกว่าลิ้มเฉียวเอ็ง กับ เฮ้งเต็งเอี๊ยง เก้าอิมจึงถือเป็นสุดยอดในวิชายุทธ์ ที่รวมเอาความหลากหลายในทุกด้าน เมื่อถูกใช้ออกด้วยสองมือขัดแย้ง ยิ่งเพิ่มความหลากหลายพิสดารมากขึ้น การประสานกระบี่ เป็นเพียงการประสานแนวทางวิชาหยิน + หยิน ขณะที่เก้าอิมก็มีความหลากหลายในแนวทางสายหยินเช่นกัน การประสานกระบี่จึงมิอาจสร้างความแตกต่างได้อย่างสุดขั้ว เพราะต่างก็เป็นวิชาในสายหยินด้วยกัน ดังนั้นอานุภาพของวิชาที่มีแนวทางไม่แตกต่างกัน ไหนเลยจะข่มเก้าอิมซึ่งเป็นแนววิชาสายหยินที่ลึกซึ้งหลากหลายกว่ามาก ก๊วยเจ๋ง ที่สามารถนำสองสิ่งที่สุดขั้วมาใช้ร่วมกันได้ จึงเป็นที่สุดแห่งการประสานความแตกต่างอย่างแท้จริง ส่วนบ๊วยเถี่ยฮวงได้เคล็ดวิชาเก้าอิมไปเพียงผิวเผินจริง ยังมีอีกหลายส่วนที่นางมิได้ฝึก โดยเฉพาะส่วนที่เป็นภาคภาษาสันสกฤต ไม่สามารถฝึกได้เด็ดขาด มีเพียงก๊วยเจ๋งเท่านั้นที่มีโอกาสได้ฝึก 2.การประสานกระบี่มีอานุภาพสูงส่งจริงแท้แน่นอน 3.ภายหลังที่เล้งโกวเนี้ยกระโดดลงเหว เอี้ยไต้เฮียบอาศัยช่วงเวลาที่รอคอยเล้งโกวเนี้ยไปฝึกเคล็ดกระบี่ไม้ จนกระทั่งสามารถใช้กระบี่ไม้ได้ประดุจกระบี่เหล็ก ความสูงส่งในเชิงกระบี่ของเอี้ยไต้เฮียบยิ่งมีมากกว่า เมื่อครั้งที่ฝึกกระบี่เหล็กดำมาก แต่ความสำเร็จในกระบี่ไม้กลับใช้ไม่ได้เมื่อมาเผชิญกับกิมลุ้น ส่วนเล้งโกวเนี้ยแทบไม่ได้ฝึกวิชาเพิ่มเติม ขนาดเอี้ยก้วยที่สำเร็จเคล็ดกระบี่ไม้แถมใช้กระบี่เหล็กเข้าสู้ แม้จะเป็นกระบี่เหล็กธรรมดาแต่ก็ต้องมีอานุภาพมากกว่ากระบี่ไม้ธรรมดาแน่ ยังมิอาจทำอันตรายกิมลุ้น ยังไงเสีย ลำพังเล้งโกวเนี้ยก็ไม่น่าจะเหนือกิมลุ้นมากนัก 4.อั้งซือโจ้วประลองพ่ายแพ้ก็เพราะในขณะนั้นยังฝึก 18 ฝ่ามือสยบมังกรไม่สำเร็จ ครั้นภายหลังเมื่ออั้งซือโจ้วพบกับก๊วยเจ๋งและอึ้งย้ง ยังกล่าวเสียดายถึงการประลองในขณะนั้น และเชื่อมั่นว่าหากตอนนั้นได้ฝึก 18 ฝ่ามือสยบมังกรสำเร็จแล้ว จะต้องได้ชัยแน่นอน แน่นอนนี่เป็นการคาดเดาของอั้งซือโจ้วเอง แต่การที่อั้งซือโจ้วซึ่งฝึก 18 ฝ่ามือสยบมังกร ยังไม่สำเร็จ กลายเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ย่อมมิใช่เรื่องแปลกอันใด 5.บรรดายอดยุทธ์ที่กิมย้งซิงแซรังสรรค์ขึ้น ล้วนมีกำลังภายในเป็นพื้นฐานที่แข็งแกร่งในระดับหนึ่ง เคล็ดวิชาอันเลื่องลือก็มีหลายวิชาที่อาศัยกำลังภายในเพาะสร้างความเร็วอันเยี่ยมยอด อาทิ เคล็ดตำราปราบมาร และ คัมภีร์ทานตะวัน ลิ้มเพ้งจือเคยกล่าวไว้ว่า ลำพังการฝึกกระบวนท่าในตำราปราบมาร ย่อมไม่อาจบรรลุความเร็วสุดยอดได้ แต่ต้องฝึกเคล็ดกำลังภายในด้วย และเคล็ดกำลังภายในของตำราปราบมารก็อยู่ที่กาสาวพัสต์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้หล็งฮูชงต้องถูกใส่ร้าย ส่วนคัมภีร์ทานตะวัน ที่ตงฟางปุ๊ป้ายบรรลุ ก็เป็นเคล็ดวิชาฝ่ายกำลังภายใน ดังนั้น หากรู้จักดึงเอากำลังภายในมาใช้ประโยชน์ จะสามารถสร้างความเร็วได้อย่างที่ผู้ฝึกเพียงกระบวนท่ามิอาจทำได้ นอกจากนี้กำลังภายในยังมิได้หมายถึงอานุภาพในทางทำลายเพียงอย่างเดียว แต่กำลังภายในยังส่งผลในด้านต่าง ๆ ด้วย 1.เพิ่มปฏิกริยาตอบโต้ทางกาย อาทิ อิ้วถั่งจือ ฝึกคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นเพียงบางส่วน ถึงกระนั้น ก็ทำให้อิ้วถั่งจือ สามารถกระโดดหลบหมัดของเซียวซือโจ้วได้ ที่แหลกละเอียดจึงมิใช่ใบหน้าอิ้วถั่งจือ แต่เป็นเพียงหน้ากากเท่านั้น หากมิใช่เพราะความอ่อนประสบการณ์การต่อสู้ เซียวซือโจ้วจะลำบากกว่านี้อีกมาก 2.เพิ่มความเฉียบคมให้ประสาทสัมผัส กำลังภายในสัมพันธ์กับประสาทสัมผัสอย่างแยกไม่ออก ยิ่งกำลังภายในแข็งแกร่ง ประสาททางหูและตา ยิ่งเฉียบคม บรรดาผู้ฝึกกำลังภายในทั้งหลายจึงสามารถ มองเห็นภาพที่รวดเร็วเกินความสามารถปกติคนทั่วไป รวมทั้งสามารถได้ยินเสียงแหวกอากาศของบรรดาอาวุธทั้งหลายได้ 3.เพิ่มประสิทธิภาพวิชาตัวเบา เช่น หลวงจีนกักเอี้ยง ฝึกกำลังภายในเก้าเอี๊ยง ทั้ง ๆ ที่พื้นฐานวิชาตัวเบายังอ่อนด้อย แต่กลับสามารถแบกเณรน้อยเตียกุนป้อวิ่งบนหิมะได้ กระทั่งเอี้ยไต้เฮียบเห็นแล้วยังต้องทึ่ง ความสามารถเหล่านี้อยู่ที่ผู้ฝึกจะต้องพลิกแพลงและดึงเอากำลังภายในมาใช้เอง หากไม่รู้จักวิธีใช้หรือวิธีควบคุม ก็ไม่แตกต่างกับตวนอื้อ ที่มีกำลังภายในมหาศาล แต่มิอาจใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างสูงสุด เคล็ดวิชาประสานกระบี่นับเป็นยอดวิชาอันยอดเยี่ยม แต่เหล่ายอดยุทธ์ทั้ง 5 แตกฉานทั้งกระบวนท่า และมีกำลังภายในอันเยี่ยมยอด ความรวดเร็วก็มิได้เป็นรองกัน หากอาศัยเพียงวิชาประสานกระบี่ โดยไม่มีกำลังภายในเป็นส่วนเสริม เกรงว่าระยะแรกอาจสูสีหรืออาจข่มบางคนได้บ้าง แต่ครั้นสู้ไประยะยาว ลำพังพลงกระบี่ที่ปราศจากกำลังภายในย่อมเป็ฝ่ายเสียเปรียบ เหมือนเหล็งฮู้ชงที่มีเพลงกระบี่เป็นเยี่ยม สามารถสู้กับยิ่มปังจู้อย่างไม่เป็นรอง แต่ครั้นยิ่มปังจู้โคจรกำลังภายในแล้วตวาดเสียงดังออกมา ก็ทำให้เหล็งฮู้ชงสลบไปได้ |
tinyvoice (tinyvoice | |
![]() |
เลื่อมใสๆๆๆๆๆ ข้าน้อยขอคารวะผู้อาวุโส อยากให้ท่าผู้อาวุโส พอคาดคเน กำลังภายในของแม่เซียวเล่งนึ่ง และวิจารณืให้ฟังหน่อย เพราะเท่าที่อ่าน จากหลายท่าน ฝีมือกระบี่นั้นเป็นที่แน่ๆว่า เก่งในระดับต้นๆ เป็นเพียงแค่รองจากพวกปรมจารณ์เท่านั้น แล้ว ด้านกะลำงภายในล่ะเป็นเช่นใด จากที่รู้ว่า แม่เซียว ฝึกเคล็ดเก้าอิมในบางส่วน นอนเตียงหยกมาแต่อ้อนแต่ออก ที่แน่ๆอึดกว่าศิษย์ช่วงจินก่า แน่นอนในเรื่องกำลังภายใน เพราะ ลุยมาแล้ว ทั้งสำนัก ข้าน้อยขอรบกวน ปลใอ่นแล้วสนุกจริงครับทุกท่าน |
kazama | |
![]() |
เซียวเล่งนึ่งก็เคยฝึกเก้าอิมบางส่วน อย่างนี้เท่ากับ หยิน+หยิน+หยิน ใช่มั๊ยครับ :) เข้าใจว่าก๊วยเจ๋งฝึกแต่วิชาเปลี่ยนเส้นเอ็นและพวกลมปราณในคัมภีร์เก้าอิม คือเลือกฝึกแต่เฉพาะวิชาที่อั้งชิดกงแนะนำ ว่าฝึกแล้วสามารถใช้เสริมความแข็งแกร่ง โดยไม่ไปขวางวิชาดั้งเดิม ดังนั้นวิชานี้อั้งชิดกงก็ฝึกเหมือนกันครับเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ แล้วก็นำไปใช้ได้ แล้วก็เป็นคนแนะนำให้ก๊วยเจ๋งฝึกตามแนวทางนี้ ไม่ใช่ก๊วยเจ๋งผสมผสานได้เอง การประสานกระบี่ของเซียวเล่งนึ่งคนเดียว ความรุนแรงด้อยกว่าร่วมกับเอี้ยก๊วย แต่ความเร็วทวีคูณขึ้น เพราะว่ากระบี่คู่ใช้การประสานใจเป็นหนึ่ง ดังนั้นเมื่อรำด้วยตัวคนเดียว ความเร็วก็มากขึ้น อันนี้ตามหนังสือ เห็นคุณ EXXR เขียนไว้ว่า เซียวเล่งนึ่งแข่งวิชาตัวเบากับคิ้วโชยยิ่มไปหุบเขาไร้รักแล้วสู้ไม่ได้ ผมจำตอนนี้ไม่ได้อ่ะ แต่การบอกว่าวิชาตัวเบาเป็นตัววัดกำลังภายในนี่คงใช้ไม่ได้ เพราะว่าวิชาตัวเบาของคิ้วโชยยิ่มนี่เป็นที่หนึ่งของแผ่นดินแน่ ๆ ดังฉายา ฝ่ามือเหล็กลอยเหนือน้ำ แม้แต่จิวแปะทงเองก็ยังวิ่งไล่ตามคิ้วโชยยิ่มไม่ทัน แต่คิ้วโชยยิ่มไล่ตามจิวแปะทงทันแน่นอน แต่ไม่กล้าทำ ได้แต่ใช้งูขู่ให้จิวแปะทงหนี ตัวเองไม่กล้าวิ่งเต็มที่ กลัวฝีมือจิวแปะทง แล้วจะบอกว่าคิ้วโชยยิ่มกำลังภายในเหนือกว่าจิวแปะทงคงไม่ใช่ 16 ปีผ่านไป ความแตกต่างด้านฝีมือระหว่างเซียวเล่งนึ่งกับคนอื่นมีแน่ เพราะเซียวเล่งนึ่งไม่ได้ฝึกวิชาเพิ่ม (ขัดใจท่านกิมย้งตรงนี้แหล่ะ มาดองเล้งยี้ซะได้) แต่ยังประพฤติตัวเหมือนในสุสาน เซียวเล่งนึ่งไม่ได้นอนบนเตียงหยกนานแล้วเพราะยกให้เอี้ยก้วยนอน นางนอนบนเชือกฝึกวิชาตัวเบา ดังนั้นวิชาตัวเบานางคงจัดอยู่ในลำดับสุดยอดได้เลย เพราะฝึกตอนนอนอย่างน้อย 8-10 ชม 16 ปี ใครจะมีการฝึกตัวเบาเทียบเท่านางได้อีก ยิ่งคิ้วโชยยิ่มตายไปแล้วด้วย ตอนที่เซียวเล่งนึ่งชนะกิมลุ้นก็ไม่ได้ใช้พลังปะทะตรง ๆ แต่ใช้ความเร็วเอาชนะ วิชาไทเก๊กของเตียซำฮงก็ไม่ได้ใช้พลังเพื่อเอาชนะ วิธีเอาชนะพลังไม่จำเป็นต้องใช้พลัง สิบหกปีผ่านไปความเร็วจากวิชาตัวเบาของเซียวเล่งนึ่งต้องสูงมากขึ้น ประมาณว่าไม่มีใครทำให้นางแพ้ได้แน่ (สู้ไม่ได้ก็หนี ใครจะตามนางทัน :)) เดี๋ยวมาเขียนต่อ |
ประมุขพรรคกระยาจกรุ่ | |
![]() |
วิชาตัวเบามิอาจใช้วัดกำลังภายในได้ แต่ผู้ที่ฝึกกำลังภายในมาอย่างดี จะมีความสำเร็จในวิชาตัวเบาที่สูงส่งยิ่ง กระนั้นหากต้องมาเผชิญกับผู้เชี่ยวชาญในวิชาตัวบา ก็คงมิได้เหนือกว่ามากนัก แต่อย่างไรซะก็คงไม่ถึงกับถูกทิ้งห่างมาก ส่วนที่ข้าพเจ้ากล่าวถึงว่าอั้งซือโจ้วมิอาจทำได้เหมือนก๊วยเจ๋งนั้น เพราะว่าอั้งซือโจ้วมิได้ฝึก 2 มือขัดแย้ง และมิได้ฝึกในส่วนกระบวนท่าเก้าอิม แต่ก๊วยเจ๋งฝึกทั้งสองมือขัดแย้ง ทั้งลมปราณและกระบวนท่าในเก้าอิมด้วย เมื่อใช้ออก จึงสามารถเปล่งอานุภาพของเก้าอิมและ 18 ฝ่ามือสยบมังกรไปพร้อมกันได้ ด้านวิชาฝีมือของเตียจินหยินนั้น แม้มิได้ใช้กำลังหักหาญกำลัง แต่เตียจินหยินก็มิอาจปฏิเสธความสำคัญของกำลังภายในได้ เตียจินหยินเองยังกล่าวกับเตียปังจู้ว่า การที่เตียปังจู้สำเร็จวิชาเก้าเอี๊ยง จะเป็นเหตุให้เตียปังจู้ ฝึกวิชาไทเก๊กได้ง่ายขึ้น นั่นหมายความว่า กำลังภายในมีผลต่อความสำเร็จของไทเก๊กไม่น้อย เพียงแต่ว่าผู้ฝึกต้องรู้จักใช้ประโยชน์จากกำลังภายใน มิใช่ใช้กำลังภายในเพียงเพื่อปะทะกับอีกฝ่ายเท่านั้น อันที่จริงความสำเร็จในวิชาไทเก๊กของเตียจินหยิน ส่วนหนึ่งก็ได้มาจากเก้าเอี๊ยง แต่เตียจินหยิน รู้จักพลิกแพลงเอาเก้าเอี๊ยงมาใช้ประโยชน์ จนกระทั่งสามารถรังสรรค์หมัดไทเก๊กขึ้นมาได้ หากขาดกำลังภายในเก้าเอี๊ยงเป็นพื้นฐาน ก็ยากที่เตียจินหยินจะบรรลุความสำเร็จถึงขนาดนี้ |
ประมุขพรรคกระยาจกรุ่ | |
![]() |
กำลังภายในของเล้งโกวเนี้ยก็มิได้อ่อนด้อย นางได้นอนเตียงหยกเย็น ได้ฝึกทั้ง เง็กนึ้งซิมเก็ง เก้าอิมบางส่วน การที่นางสามารถต่อสู้กับยอดฝีมือจำนวนมากที่ช้วนจินได้ โดยที่ความเร็วไม่ลดลง ต้องนับว่า กำลังภายในแข็งแกร่งระดับหนึ่ง |
kazama | |
![]() |
ตามธรรมเนียมชาวยุทธ ผู้เยาว์ควรให้ผู้อาวุโสลงมือก่อนสามกระบวนท่า แต่นี่ ยังไม่ทันแก้กระบวนท่าก่อนของท่านประมุข ท่านก็ลงมือต่อแล้ว - -" ขอตอบสั้น ๆ เกี่ยวกับด้านฝีมือของเซียวเล่งนึ่งแล้วกันครับ เพราะขืนแก้หมดทุกกระบวนท่ามีหวังต้องใช้เวลานานพอควร ผมบอกว่าการเอาชนะพลังมีอยู่หลายวิธี หนึ่งคือเร็วกว่า อีกหนึ่งก็คือยืมพลังคู่ต่อสู้โจมตีตัวเองอย่างไทเก๊ก วิชาของเตียซำฮงก็คือไทเก๊ก ใช้การยืมแรงผู้อื่น ซึ่งผิดจากวิชาเพลงยุทธอื่นทั่วไป แนวทางนี้จะใช้กำลังภายในด้วยก็เป็นวิธีของแนวทางนี้ ไม่ใช่หมายความว่าแนววิชาของเซียวเล่งนึ่งต้องสอดคล้องตามไทเก๊กด้วย วิชาแนวของเซียวเล่งนึ่งเน้นที่ความเร็วและกระบวนท่า คิดว่าลิ้มเฉี่ยวเอ็งก็เด่นในสองด้านนี้ อาศัยความเด่นนี้ ฝีมือนางก็เป็นรองเพียงเฮ้งเต็งเอี้ยงเท่านั้น 1วิชาพื้นฐานคือการใช้ความเร็วเหมือนตอนที่ฝึกวิชาฝ่ามือตาข่ายฟ้าดินให้แก่เอี้ยก้วยตอนเด็ก วิชานี้ก็จัดเป็นวิชาพื้นฐานอย่างหนึ่ง แต่ก็ฝึกขั้นสูงกว่าไปได้เรื่อย ๆ 2ส่วนด้านกระบวนท่าก็รู้กันดีว่าลิ้มเฉี่ยวเอ็งเป็นอัจฉริยะด้านการคิดกระบวนท่ามาข่มคู่ต่อสู้ ขอเพียงได้เห็นว่าคู่ต่อสู้กระบวนท่าเป็นอย่างไรไม่นาน นางก็คิดแก้ได้แน่ กระบี่คู่ที่นางบัญญัติขึ้นนั้นไร้ช่องว่างโดยสิ้นเชิง 3ด้านกำลังภายใน สำนักสุสานโบราณยุคหลัง ๆ มีเตียงหยกเยือกให้ใช้ฝึก เพราะลิ้มเฉี่ยวเอ็งคงต้องการทดแทนกำลังภายในที่สำนักตนด้อยไป การนอนบนเตียงหยกเท่ากับได้ฝึกวิชานี้ติดต่อกันเป็นเวลานานหลายชม.ต่อวันในยามค่ำคืน ซึ่งเซียวเล่งนึ่งก็ได้ฝึกตั้งแต่เด็ก เท่ากับว่ากำลังภายในนางต้องเหนือกว่าลิ้มเฉี่ยวเอ็งที่เด่นแค่ในเรื่องกระบวนท่ากับความเร็วอย่างเดียว 4การฝึกนอนบนเชือก ก็เป็นการเพิ่มพูนวิชาตัวเบา การฝึกสี่แนวทางนี้ก็แสดงให้เห็นตอนปราบกิมลุ้นแล้วว่า นางใช้ความเร็วสะกดให้กิมลุ้นเป็นฝ่ายตั้งรับ ให้นางโจมตีฝ่ายเดียว แม้ว่าจะตอบโต้ได้บ้างในตอนแรก แต่ยิ่งนานไป ก็ได้แต่ตั้งรับท่าเดียว แล้วจะถือว่านางไม่มีกำลังภายในเลยก็ไม่ใช่ กำลังภายในนางนั้นเป็นหนึ่งในบรรดาจอมยุทธรองลงมาจากจอมยุทธอันดับต้น ๆ เลย เทียบกับฝ่ายหญิง นางก็เป็นรองแค่อึ้งย้งเท่านั้น หรืออาจจะรองจากน้องสาวคิ้วโชยยิ่มอีกคน เพราะฉะนั้นถ้าจะยกให้กำลังภายในสูงสุดเป็นผู้มีฝีมือสูงสุด โดยไม่คำนึงถืงแนวทางเป็นไปได้อื่น ๆ อย่างด้านความเร็วและกระบวนท่า หรือการยืมแรงแบบไทเก๊กของเตียซำฮง ผมไม่เห็นด้วย |