เข้าระบบอัตโนมัติ

ใครยังไม่เคยเห็นแถลงการณ์สวรรค์มาดูที่นี่นะ


  • 1
กั๊วเต็งอั๊ก
#1   กั๊วเต็งอั๊ก    [ 21-04-2008 - 08:21:38 ]

พระราชเสาวนีย์ สมเด็จพระแม่เจ้าแดนสุขาวดี
เทพธิดาสนองพระราชเสาวนีย์ เทพธิดามั้วโกว ลงประทับทรง กล่าวเป็นกลอนว่า
สัทธรรมอันยิ่งใหญ่ ถ่ายทอดให้เซี้ยงตึ้ง
สวรรค์เฝ้ารำพึง ถึงวิญญาณกลับถิ่นเดิม
ตั้งแต่โบราณนับ ความลี้ลับไม่เผยเพิ่ม
จวบฟ้านิมิตเริ่ม ธรรมทั้งหลายจึงประทาน


ในราตรีกาลนี้ ข้าพเจ้าได้รับพระราชเสาวนีย์จากสมเด็จพระแม่เจ้าแดนสุขาวดี ให้ประกาศแก่มวลเทพยดาและมวลมนุษย์ทั้งหลายขอให้เทพยดาและมวลมนุษย์ จงกราบลงและฟังประกาศ ความว่า จากเอกธาตุแปรเปลี่ยนเป็นไตรวิสุทธิธาตุ จากไตรวิสุทธิธาตุนี้ได้ก่อกำเนิดธาตุไม้ทางทิศบูรพา ธาตุทองทางทิศประจิม ตรงศูนย์กลางคือธาตุดิน ธาตุไฟอยู่ทางทิศทักษิณ และธาตุน้ำทางทิศอุดร เมื่อธาตุทั้งห้าครบองค์ วิ5uแห่งจักรวาลจึงเริ่มเคลื่อนหมุน ธาตุไม้ (บิดา) ธาตุทอง (มารดา) ได้ผสมผสานกันขึ้นได้ก่อกำเนิดวิญญาณขึ้นเก้าสิบหกดวง แผ่คลุมไปทั่วสากลโลก
มาบัดนี้ สังคมโลกแหลกเหลงเลอะเทอะ ศีลธรรมของมนุษย์ถูกทำลายไม่เหลือหลอ ทำให้แม่นี้สังเวชยิ่ง จึงมีบัญชาให้สำนักเซี้ยงตึ้ง แห่งเมืองไถ่ตง เปิดสำนักประกาศสัจธรรม เพื่อให้ผู้คนเลิกหลงงมงาย ศิษย์ในสำนักต่างอุทิศพลังกายและจิต ด้วยความศรัทธาไม่ยิ่งหย่อน รัศมีธรรมะได้พุ่งโรจน์สู่สวรรค์
หลังจากหนังสือ “เที่ยวเมืองนรก” ได้แต่งสำเร็จลุล่วงลงสู่สายตาของชาวโลกได้ช่วยมนุษย์ไปอย่างกว้างขวาง ถึงแม้กระดาษจะแพง แม้นมีคนต้องการอ่านและสามารถกลับใจประพฤติธรรมได้ก็ย่อมคุ้มค่าในการลงทุน ช่วยเหลือเหล่าวิญญาณให้หลุดพ้นจากกิเลสได้บุญกุศลมาไม่น้อยทีเดียว
แม่มีความห่วงใยลูก (มนุษย์) ทั้งหลาย ที่ได้รับทุกขเวทนามากมาย ก่อกรรมทำเข็ญไม่หยุดหย่อน ใจแม่นี้ทนเวทนาไม่ได้ ด้วยเหตุฉะนี้ ในวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 ปีมะแม ( 26 พ.ค. พ.ศ. 2522 ) ณ หน้าวิมานบ่อเก๊ก ได้เปิดประชุมทั้ง 3 ภพขึ้น เนื่องจากความลับแห่งยมโลกได้ถูกเปิดเผยไปแล้ว ได้ช่วยเหลือผู้คนจำนวนมากมายได้อย่างเกินคาด ทำให้ผู้คนสามารถปิดหนทางไปสู่นรกได้ ก็สามารถที่จะอุบัติขึ้นในสวรรค์ได้ ดังนั้นวันนี้จึงใคร่เปิดเผยทัศนียภาพแดนสวรรค์ เพื่อนำพาเหล่าวิญญาณได้กลับคืนสู่สวรรค์ เพื่อความกลมกลืนของเอกธาตุอีกครั้งต่างเสวยสุขในสวรรค์กาลนาน
แม่จึงมีเสาวนีย์ ให้จัดทำหนังสือ “เที่ยวเมืองสวรรค์” ขึ้นโดยการนำของ พระอรหันต์จี้กง นำวิญญาณนักทรงเอกเที่ยวชมเมืองสวรรค์ เพื่อบันทึกคัมภีร์อมตะ เป็นมรดกสืบทอดตลอดกาลจึงมีคำสั่งให้ทั้งสามภพว่า เมื่อวิญญาณนายหยางเซิงไปถึง ให้เปิดประตูต้อนรับ ห้ามปฏิเสธ หากมีการฝ่าฝืนราชโองการ ก็จะได้รับโทษมหันต์ ขอให้ศิษย์สำนักเซี้ยงตึ้งจงมีศรัทธาตั้งมั่น มีวิริยะอุตสาหะจนกว่าหนังสือจะแล้วเสร็จ ก็จะได้ปูนบำเหน็จ
จงแสดงความเคารพ จงอย่าประมาท
ให้กราบขอบพระคุณพระราชเสาวนีย์
สั่ง ณ วันขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5 ปีมะแม
ตรงกับวันพุธที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ.2522


เทวโองการท่านเง็กเซียนฮ่องเต้
สมุหนายกแห่งตำหนักทอง เทวดาชื้อประทับทรง กล่าวเป็นกลอนว่า
สำนักทรงรับบัญชา มาแต่งคัมภีร์สวรรค์
โปรดช่วยเหลือเกื้อกัน ธรรมะนำสามโลกชู
ท่องนรกจบลงแล้ว หนทางแผ้วสว่างรู้
เหนือเมฆินทร์ถิ่นที่อยู่ หมู่เทวะทิพย์พิมาน


ค่ำคืนนี้ข้าพเจ้าได้นำเทวโองการ ของท่านเง็กเซียนฮ่องเต้ มาประกาศขอให้เทพยดา และมนุษย์ จงก้มกราบรับฟังเทวโองการความว่า
ข้าฯ สถิตแดนสวรรค์ จิตเป็นห่วงศีลธรรมมนุษย์ เห็นความเสื่อมทรามของผู้คน แม้ขุมนรกจะสร้างเพิ่มเติมสักเท่าใดก็ตาม ก็ไม่เพียงพอ ส่วนวิมานใหญ่แดนสวรรค์ไร้เทพสถิต ในวโรกาสโปรดสัตว์สามโลก สัทธรรมถ่ายทอดสู่มนุษย์โลก เพื่อมวลมนุษย์มีศีลธรรมดีขึ้น จึงได้เสด็จลงทรง ณ สำนักเซี้ยงตึ้ง เมืองไถ่ตง ไต้หวัน จะได้ขัดเกลาสั่งสอนผู้คน ให้ธรรมะแพร่หลาย ธรรมสารช่วยให้ผู้คนเลิกหลงงมงาย เป็นกุศลบารมี
ตั้งแต่หนังสือเที่ยวเมืองนรกออกสู่สายตาโลก แผ่นดินดูสดใสยานเมตตากอบกู้สัตว์โลก ผู้ได้รับธรรมะหันหลังให้กับบาป และบ่ายหน้าสู่บุญ ผู้บำเพ็ญเพียรเพิ่มขึ้นเหลือคณานับ
จิตข้า ฯ เบิกบานยิ่ง เพราะเมื่อสภาพขุมนรกถูกเปิดเผยแล้วทัศนียภาพแดนสวรรค์จะเปิดเผยบ้างไม่ได้เชียวหรื อ ดังนั้น ในวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 ปีมะแม (วันที่ 26 พ.ค. พ.ศ.2522 ) จึงได้เปิดประชุมทั้งสามภพ โดยมีเหล่าเทวดาและโพธิสัตว์มากมายร่วมประชุมพร้อมเพรียงกันเพื่อช่วยเหลือสรรพสัตว์เป็นสำคัญ จึงเปร่งเสียงพร้อมกันทั้งสามภพ ให้เปิดเผยสภาพแดนสวรรค์สู่สากลโลก เพื่อให้สังคมโลกร่มเย็นโดยทั่วกันอย่างรวดเร็ว จึงมีบัญชาขอให้ท่านอรหันต์จี้กงได้นำวิญญาณนายหยางเซิง ท่องเที่ยวสรวงสวรรค์ ตื่นตาตื่นใจกับทิพย์พิมาน รับฟังสัทธรรมเพื่อสั่งสอนผู้คน และเมื่อหนังสือแต่งสำเร็จลงเมื่อไร มนุษย์ก็จะรู้สภาพ “ความทุกข์ทรมานของขุมนรก และความสุขสบายของสรวงสวรรค์” เป็นที่หมายของทุก ๆ คน ที่จะแสวงหาสัทธรรม เพื่อบรรลุสู่สวรรค์ เหนือเมฆินทร์แดนพิมาน เสวยทิพย์สุขกาลนาน
หนังสือ “เที่ยวเมืองสวรรค์” นี้ ให้เขียนแต่งในวันลงประทับทรงจนกว่าจะแล้วเสร็จ มีคำสั่งมายัง ด่านทุกด่านทั้งสามภพ หากพบนายหยางเซิงมาเยี่ยมชม ก็ให้เปิดประตูต้อนรับ ช่วยกันจัดแต่งหนังสือ หากใครขัดคำสั่ง จะลงโทษอย่างหนักไม่ละเว้น หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ศิษย์ทั้งหลายจะร่วมแรงร่วมใจกัน เทิดทูนสัทธรรมอันยิ่งใหญ่ บุญบารมีมหาศาล จะได้รับกันทั่วหน้า เมื่อหนังสือสำเร็จลงทั้งเทพและมนุษย์
ขอให้เทพและมนุษย์จงปฏิบัติตามคำสั่ง โดยเคร่งครัด
ประกาศ ณ วันขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5 ปีมะแม
ตรงกับวันพุธที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ.2522


คำอนุโมทนาของ พระศาสดาแห่งเต๋า พระวิสุทธิเทพ ไท้เสียงบ้อเก๊กฮุ้งง้วน
เสด็จลงประทับทรง กล่าวเป็นกลอน ความว่า
พระนิพพานแดนสุข มีเอกธาตุบริสุทธิ์
บรรยากาศอบอุ่นผุด ธรรมสุดแผ้วปกคลุมทั่ว
แดนสราญศักดิ์สิทธิ์เพิ่ม ถิ่นดั้งเดิมอยู่สุดขั้ว
ทิพยอาสน์หยกไร้ขุ่นมัว ปราสาทบัวงามเฉิดฉาย
อยากหลุดพ้นการหมุนเวียน เพียรตัดหกทวารทลาย
เมล็ดบาปต้องละคลาย สักการะแด่สวรรค์
เตาไฟร้อนหลอมสุวรรณ ผุดผ่องพลันดั่งเทพธรรพ์
ปรมัตถสัทธรรม ควรเร่งทำบำเพ็ญเพียร


ตำนานท่านกล่าวไว้ “อันวัตถุต้องมีต้นกับปลาย การงานต้องมีเริ่มต้นและสิ้นสุด เมื่อรู้จักอันไหนก่อนอันไหนหลัง ก็แสดงว่าใกล้บรรลุธรรมแล้ว”
มนุษย์เกิดมาจากที่ไหน ตายไปแล้วกลับไปที่ไหน ตั้งแต่โบราณมา นักปราชญ์ย่อมล่วงรู้เรื่องราวของ ผี เทวดา ฟ้า ดิน และสัทธรรมของฟ้าดิน จึงได้เผยแพร่สัทธรรมเรื่อยมา เพื่อจะได้คลายความสงสัย การเกิดดับของมนุษย์ ศาสนาช่วยชี้ช่องทางแห่งการเกิดการดับ แต่ว่าปัจจุบันนี้ ความทะยานอยากของมนุษย์เต็มไปหมด หากไม่ได้รับการขัดเกลาจากพระศาสนาแล้ว ก็ไม่สามารถทำให้จิตใจของมนุษย์ผุดผ่องสะอาดได้ ยากที่จะมีสภาพจิตบริสุทธิ์ดั่งเดิมได้ เนื่องจากพระศาสดาได้ปรินิพพานไปนานแล้ว ความเข้าใจในหลักธรรมของคนสมัยใหม่มักเพี้ยนไป จนไม่สามารถยึดถือเป็นหลักได้ ยิ่งคนในสมัยนี้มักให้ความสำคัญ ต่อสิ่งที่มีพยานหลักฐานทางวัตถุนิยม สิ่งที่มองไม่เห็นไม่อาจจับต้องจึงถูกปฏิเสธ ดังนั้นจิตใจจึงเต็มไปด้วยวัตถุนิยม ส่วนวิญญาณและจิตใจกลับอ้างว้างเปล่าเปลี่ยวชีวิตไม่มีที่ยึดเหนี่ยว การก่ออาชญากรรมจึงได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
พระแม่เจ้าแดนสุขาวดี ท่านเง็กเซียนฮ่องเต้ ทรงตระหนักในเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ จึงได้มีเทวโองการ ขอให้ท่านอรหันต์จี้กงนำวิญญาณนายหยางเซิงคนทรงแห่งสำนักเซี้ย...งตึ้งไปเที่ยวเมืองนรกเปิดเผยการรับกรรมของคนบาป แต่งหนังสือ “เที่ยวเมืองนรก” เสมือนหนึ่งเป็นหลักเอกที่ต้านทานความชั่วร้าย และเป็นการปลุกปลอบผู้คนให้ประกอบแต่กรรมดี เพื่อจะได้ขึ้นบันไดสู่สวรรค์ เสพสุขหรรษาในแดนสวรรค์ มาบัดนี้ ได้ให้ไปเที่ยวเมืองสวรรค์อีกคำรบหนึ่ง เพื่อแต่งหนังสือ “เที่ยวเมืองสวรรค์” เพื่อเปิดเผยสภาพความเป็นอยู่ของเทวดาอย่างแท้จริง พระศาสดาไท้เสียง กล่าวต่อว่า “โชคลาภหรือฆาตเคราะห์ใด ๆ ไม่มาเยือนท่าน นอกจากท่านจะก่อขึ้นมาเองเท่านั้น การสนองตอบของบาปบุญคุณโทษ จึงเป็นเงาตามตัวตลอดเวลา” ซึ่งหนังสือ 2 เล่มนี้จะเป็นภาพสะท้อนความจริงอย่างดีเลิศ คนเราเกิดมาจากฟ้าสวรรค์ เมื่อตายควรกลับคือสู่สวรรค์ ซึ่งเป็นหนทางอันถูกต้องผู้ที่จะใคร่ให้วิญญาณตนกลับคืนสู่สุคติภูมิ เสวยสุขกาลนาน จึงควรมุ่งสู่หนทางแห่งธรรมะเท่านั้น
หนังสือเล่มนี้ นอกจากจะได้เปิดเผยถึงทิวทัศน์อันพิสดารแดนสวรรค์แล้ว ยังได้ถ่ายทอดคำเทศนาธรรมของเทพยดา และพระพุทธเจ้าทั้งหลาย มหาสัทธรรมได้ถูกเปิดเผยสู่ชาวโลก นับเป็นบุญกุศลของมนุษย์ ผู้ทีมีหนังสือนี้ควรใฝ่ใจศึกษาเพื่อชำระล้างวิญญาณให้สะอาดเพื่อจะได้กลับสู่สวรรค์ ทางไปสวรรค์หรือหนทางสู่ธรรมะ จึงหวังว่าจะรู้สำนึกตน จะได้ขึ้นสวรรค์พร้อมเพรียงกัน อันเป็นที่ปรารถนาของข้าฯ
พระวิสุทธิเทพไท้เสียงบ้อเก๊ก
วันที่ 16 เดือน 12 ปีวอก (ของจีน)
ตรงกับวันศุกร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2524


พระวิสุทธิเทพไท้เสียงบ้อเก๊ก
คำอนุโมทนาของ สมเด็จพระชนนีเจ้าแห่งสระทิพย์แดนสุขาวดี

เสด็จลงตรัสเป็นกลอนว่า
สมเด็จแม่ผู้ชิดเชื้อ คอยเอื้อเฟื้อแต่ปางก่อน
เฝ้าเพียรปลูกท้อทิพย์ ประทานเป็นนิจผู้ทรงธรรม
ทรงแปลงเป็นแม่กวนอิม ยินดีปลดทุกข์โทษทัณฑ์
พระเมตตาแนะนำ คำปลอบเตือนให้เร่งเพียร
แดนสวรรค์ผุดผ่องเทียน ควรฝึกเรียนแสวงหา
เส้นทางสำเร็จมรรคผล หนทางเดียวไม่มีสอง
ทุกทุกบทล้วนบันทึก เหตุลึกล้ำทางสายทอง
คุณธรรมดังแทรกซ้อง ปกคลุมทั่วปฐพี

เจริญพร! สุขาวดี ก่อเกิดดวงวิญญาณบริสุทธิ์ในสมัยเริ่มแรกเมื่อจุติลงเพื่อบุกเบิกในโลกมนุษย์ ในระยะแรก ๆ ผู้คนมีจิตใจบริสุทธิ์ไม่ลืมชาติกำเนิด เมื่อหมดอายุขัยในโลก วิณณาณก็กลับสู่สวรรค์ ต่อมาภายหลังจิตคลุกคลีกับฝุ่นกิเลสมากเข้า จิตประภัสสรจางหายไป นานวันเข้าก็ลืมชาติกำเนิด จมดิ่งอยู่ในห้วงแห่งกรรม หมกมุ่นอยู่ในทะเลแห่งทะยานอยาก เห็นมนุษย์ภูมิเป็นแดนสุขี ดังนั้นจิตใจยิ่งจมลึกลงทุกที สร้างเวรสร้างกรรม กลายเป็นเรือนร่างที่เต็มไปด้วยบาป จึงจำเป็นต้องสร้างขุมนรก เพื่อจะได้รับโทษทัณฑ์เป็นการฝึกอบรมจิตใจ หวังที่จะได้หวนกลับคืนสู่จิตเดิม
แม่ได้เคยอวตารเป็นพระแม่กวนอิมและพระเจ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์องค์อื่น ๆ เพื่อที่จะช่วยเหลือผู้คน หูแม่คอยสืบฟังเสียงทุกข์ร้อนและไปช่วยเหลือตามควรแก่วาสนาของชาวโลก
สมัยนี้ วิทยาการทันสมัย มีฝีมือผลิตอุปกรณ์เดินทางไปในอวกาศได้ แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถเจริญธรรมให้ได้ดีเทียบสมัยโบราณได้ วิญญาณธุาตุกลายสภาพเป็นวัตถุธาตุเข้าทุกที บาปเวรเหลือล้น นรกมีทีท่าว่าจะล้นคุก น่าเวทนายิ่งนัก
แม่ คิดอยู่เสมอว่า สรรพสัตว์ล้วนมีชาติกำเนิดจากแหล่งเดียวกัน ทั้งจักรวาลเป็นหนึ่งเดียว แม่ไม่อาจทนเห็นจิตเดิมของสรรพสัตว์หลงงมงายหมกมุ่นอยู่ในโลกีย์ ก่อกรรมทำเข็ญ ดังนั้นจึงมีพระเสาวนีย์ขอให้อรหันต์จี้กงนำวิญญาณนายหยางเซิง ไปท่องเที่ยวเมืองนรก เพื่อรวบรวมหลักฐาน ของวิญญาณบาปทั้งหลายที่ได้รับโทษทัณฑ์ในขุมนรก เปิดเผยให้ชาวโลกได้รับรู้ไว้ และเป็นการสกัดกั้นไม่ให้ก่ออาชญากรรมอีก ยับยั้งความทะยานอยากของมนุษย์ วันนี้จึงมีพระเสาวนีย์อีกครั้งให้แต่งหนังสือ “เที่ยวเมืองสวรรค์” ขอให้ท่านอรหันต์จี้กงนำวิญญาณนายหยางเซิงไปเที่ยวเมืองสวรรค์ นำเอาความงดงามของสวรรค์ให้ชาวโลกรับทราบ จะได้โน้มน้าวจิตใจรุ่งโรจน์ขึ้น มารยาทงดงามสูงส่ง เป็นที่หมายในการกลับภายหลังสิ้นอายุขัยแล้ว จิตวิญญาณจะได้อุบัติในแดนสวรรค์ เสวยสุขกาลนาน ไม่ต้องหมุนเวียนอีก
เวลาผ่านไปปีครึ่ง ลูกหยางได้ผ่านพ้นความลำบากต่างๆ นานาในการท่องสวรรค์ วันนี้หนังสือได้แต่งสำเร็จลง แม่รู้สึกปีติอย่างยิ่งผลท้อทิพย์ข้างสระทิพย์กำลังสุกปลั่ง รอคอยจนกว่าลูก ๆ จะได้อ่านหนังสือนี้แล้ว รู้ความเป็นมาของจิตวิญญาณ จะได้ขยันประกอบแต่กุศลกรรมเพื่อบรรลุสัทธรรมอันยิ่งใหญ่ จะได้อยู่ในดินแดนที่ปราศจาก ทุกข์ ในสรวงสวรรค์สืบไป ทั้งหมดนี้เป็นที่สุดปรารถนาของแม่ จึงเขียนคำอนุโมทนาให้ไว้
ณ วันที่ 16 เดือน 12 ปีวอก (ของจีน)
ตรงกับวันศุกร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2524


คำอนุโมทนาของพระอวโลกิเตศวร (เจ้าแม่กวนอิม)
พระอวโลกิเตศวรเสด็จลง ตรัสเป็นกลอนว่า
ตถาคตเสด็จมา พาสัทธรรมอมตะ
อัศจรรย์แห่งพุทธะ สมถโสตสดับฟัง
พู่กันทรงศักดิ์สิทธิ์ นิพนธ์คัมภีร์ดัง
หยางเซิงผู้ทรงพลัง เสียงร่ำลือระบือพลิ้ว
น้ำมนต์จากกิ่งหลิว ปลิวร่อนต้องหยางเซิง
หมดเวรกรรมกายเปล่งปลั่ง ดุจดั่งขึ้นทิพย์พิมาน
ทิวทัศน์ล้ำเลิศนาน อยู่สวรรค์จิตสำราญ
สุขาวดีแดนนิพพาน คือถิ่นอยู่ของจิตเดิม


พระตถาคตพุทธเจ้าทรงเมตตาตั้งพระศาสนา เผยแพร่สัทธรรมไปทั่วโลก ส่วนสำนักทรงมีความรักความกรุณาเป็นที่ตั้ง ช่วยกอบกู้สรรพสัตว์ทั่วหล้า ซึ่งก็มีความมุ่งหมายอย่างเดียวกัน แม้จะอุบัติขึ้นคนละถิ่นฐานก็ตาม เพื่อสะดวกในการโปรดเวไนยสัตว์ สำหรับข้าฯแล้ว หากไม่สามารถโปรดสัตว์ได้หมดโลดแล้วก็จะไม่เสด็จปรินิพพานเป็นพระพุทธเจ้า เพราะต้องการโปรดสัตว์ให้หมดโลกจึงต้องใช้พลังอิทธิฤทธิ์อันมหาศาล โดยมิใช่เพียงอาศัยแต่ พระสูตรโบราณเท่านั้น ยังต้องอาศัยความรู้ใหม่ ๆ ให้ตรงต่อเหตุการณ์สมัยใหม่ จึงสั่งยาลงเข็ม จึงจะสามารถรักษาโรคให้หายขาดได้ กลับคืนสู่สภาวะปกติอีกครั้ง
ตั้งแต่โบราณกาลมา เมื่อพูดถึงนรก – สวรรค์ ย่อมฝังใจทุกคนตลอดมา ที่น่าเสียดายก็คือ บทบันทึกและตำนานชาวบ้าน ขาดการปะติดปะต่อเป็นชิ้นเป็นอันไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ดังนั้นหนังสือที่มีคุณค่าในการป้องปรามและปลอบเตือนชาวบ้านจึงไม่มี ทำให้ชาวโลกไม่รู้จะปฏิบัติตนอย่างไร ท่องไปสู่ทางสามแพร่งหกทิศทาง ในที่สุดก็ตกอยู่ในวัฏจักรแห่งการเวียนว่ายตายเกิดไม่รู้จักจบจักสิ้น ดังนั้น ทั้ง ตถาคตเจ้า เทวดา อินทร์ พรหม ซึ่งตระหนักดีจึงได้ประชุมกันทั้งสามภพ มีความเห็นพร้อมเพรียงกันว่า ควรให้ชาวโลกได้รู้ถึงสภาพของสวรรค์ เพื่อกระตุ้นเตือนชาวโลกให้หันสู่ทางธรรม ปฏิบัติตามหลักสัทธรรม เพื่อที่จะได้อุบัติขึ้นบนสรวงสวรรค์อีกวาระหนึ่ง ปราศจากทุกข์โศก เสวยสุขในแดนวิสุทธิ์
มีคำกล่าว ๆ ว่า “ของที่ใช้ประโยชน์ได้สูงสุด ต้องผลิตจากเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ” การที่จะเลือกเฟ้นวิญญาณปุถุชน ที่สามารถจะท่องเที่ยวไปได้ทั้งสามภพนั้น หาได้ไม่ง่ายนัก นอกเสียจากต้องเป็นบุคคล ที่มีปณิธานอันยิ่งใหญ่ว่าจะช่วยเหลือชาวโลกแล้วต้องมีกุศลจิต ปัญญา และจิตที่ผุดผ่องจึงสามารถแบกภาระอันหนักหน่วงนี้ได้ หลังจากได้ทำการคัดเลือกแล้ว ปรากฎว่านักทรงเอกหยางเซิงแห่งสำนักเซี้ย...งตึ้ง มีความเหมาะสมยิ่ง ดังนั้น ตั้งแต่วันที่ 5 เดือน 5 ปีมะแม (30 พ.ค. พ.ศ.2522) มีคำสั่ง ขอให้ท่านอรหันต์จี้กงนำวิญญาณนายหยางเซิง ไปท่องเที่ยวทั้งสามภพประดุจเหมือนครั้งเมื่อ พระถังซำจั๋งออกเดินทางไปรับ พระไตรปิฎก (จากอินเดีย) เสาะหาสัทธรรม เพื่อสั่งสอนชาวโลก ผ่านความลำบากมากมาย จนแต่งหนังสือสำเร็จลงในวันนี้ ใต้หล้านี้ก็มีคัมภีร์ศักดิ์สิทธ์อีกเล่มหนึ่ง ซึ่งสวรรค์ได้แซ่ซ้องสรรเสริญ หกช่องทางเกิดต่างแจ้งข่าวอันมงคลนี้ แก่กันและกัน บนช่องทางเวียนว่ายตายเกิด ได้ถูกปิดอีกครั้งหนึ่ง เหมือนความมืดของท้องทะเลทุกข์ ได้มี กระโจมไฟส่องสว่างขึ้น สรรพสัตว์ที่ผ่านความทุกข์มานานแล้วได้มีโอกาสทองในวันนี้ ได้อ่านหนังสือเล่มนี้ เหมือนได้ท่องแดนวิเศษสามแห่ง ผู้นับถือขงจื้อก็จะได้เป็นนักปราชญ์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ ผู้นับถือเต๋าก็จะได้เป็นพระวิสุทธิเทพ ส่วนผู้นับถือพุทธ ก็จะได้เป็นพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้า ชาวสวรรค์ต่างปรีดาปราโมทย์ เป็นอย่างยิ่ง
หนังสือแต่งสำเร็จลง ทั้งสามภพต่างฉายรัศมีแวววาว ทั่วพิภพมีเหล่าวิญญาณบนบัวทองลอยละล่อง จิตข้าฯ ยินดียิ่งนักที่ท้องทะเลทิศใต้จะมีมหายานเมตตาเพิ่มขึ้นอีกละหนึ่งเพื่อกอบกู้สรรพสัตว์ให้หมดโลก ในเร็วๆ วัน เนื่องจากหนังสือจะออกในเร็ว ๆ นี้ จึงได้ฝากคำอนุโมทนา เพื่อสรรเสริญสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ณ วันที่ 16 เดือน 12 ปีวอก (ของจีน)
ตรงกับวันศุกร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2524

เอามาจากเว็บhttp://thai.mindcyber.com/modules.php?name=Sections&op=viewarticle&artid=153




สุหม่าเต๊กโช
#2   สุหม่าเต๊กโช    [ 21-04-2008 - 08:44:35 ]

น้อมรับ บัญชา . . . 3 คำ จำมั่น



กั๊วเต็งอั๊ก
#3   กั๊วเต็งอั๊ก    [ 23-04-2008 - 11:44:06 ]

นักวิชาการคาดว่าแถลงการณ์น่าจะไม่ใช่ของจริง60เปอร์เซนไทล์
และเป็นเนื้อหาจริง40เปอร์เซนไทล์



  • 1
ตอบกระทู้
ชื่อ
รหัส กรอกตัวอักษร ตามภาพ
ข้อความ


emo-smile emo-happy emo-lol emo-enjoy emo-kiku emo-cool emo-hoho emo-drool emo-hungry emo-kiss emo-sorry emo-sad emo-cry emo-tear emo-question emo-doubt emo-shock emo-redface emo-plz emo-peevish emo-angry emo-moody emo-sneer emo-makefaces emo-good emo-touched emo-love emo-bore emo-tired emo-vomit
bold italic underline img link superscript subscript size color space justifyleft justifycenter justifyright quote box youtube