รวบรวมกลยุทธ์สงครามเด็ดๆ ทุกยุคสมัยของประเทศจีน

ขอเชิญชาวยุทธ์ที่เคยอ่านประวัติศาสตร์จีนก็ดี รู้บ้างก็ดี เข้ามาเรียบเรียงกลุยุทธ์ต่างๆกันเถิดครับ

นั่งบนภูดูเสือกัดกัน

เป็น กลยุทธ ที่ให้เมืองหนึ่ง มารบ กับ อีกเมืองหนึ่ง โดย ผลประโยชน์ เป็นของ เมืองที่สาม เพราะ หาก เมืองใดเมืองหนึ่ง ชนะ ก็จะต้องบอบช้ำ เมื่อเป็นเช่นนั้น หากเมืองที่สาม เข้าตีเมืองที่ชนะ โดยที่ตั้งตัวไม่ทัน ก็จะได้ทั้งสองเมือง มาไว้ในครอบครอง


อันนี้ ตามความเข้าใจนะครับ

ถูกผิดอย่างไร โปรดชี้แนะด้วย

เยอะ เฉพาะของซุนวู ก็เยอะและ

ไกลแสดงใกล้ ใกล้แสดงไกล มีน้อยแสดงมาก มีมากแสดงน้อย ขวัญทหารหึกเหิมพึ่งแสดงอ่อนแอ ขวัญทหารอ่อนแอพึ่งแสดงหึกเหิม

ความหมายโดย สรุปก็ ให้แสดงตรงกันข้ามกับที่เป็นอยู่ พึ่งให้ข้าศึกสับสน เช่นมีกำลังน้อยกองทัพเราอ่อนแอ พึ่งแสดงว่าเรามีกองทัพมากฝึกปรือแข็งขัน เพื่อให้ข้าศึกเกิดความระแวงมิกล้าเข้าตี หากมีกำลังมากให้แสดงน้อย เพื่อหลอกล่อให้ข้าศึกเข้าตี แล้วเราจึงใช้กำลังที่เหนือกว่ารุมสังหารข้าศึก ประดุจต้อนหมูเข้าดงเสือหิว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเวลารบกันทั้งสองฝ่ายก็อ่านตำราพิชัยสงครามกันมาเป็นอย่างดีแล้ว ก็คงต้องประยุกต์กันเอาตามสถานการณ์

ใช้กำลังที่หึกเหิมเข้าตีข้าศึกที่อ่อนแอ หรือประมาณว่า เลี่ยงแข็งตีอ่อน

ก็คือ พยายามหาข้อด้อยของกองทัพข้าศึก หรือจุดที่ข้าศึกอ่อนแอ มีการวางกำลังหละหลวม แล้วใช้กองกำลังหลักของเราเข้าตีข้าศึกในจุดที่อ่อนแอ เพื่อสร้างความระส่ำระส่ายแก่กองทัพข้าศึก

เดินทางพันลี้ไม่มีเหนื่อย เพราะเดินในที่ปลอดคน

หมายความว่า ยกทัพเข้าไปในจุดที่ข้าศึกไม่คาดคิด และไม่เคยเตรียมการป้องกัน เช่น ตอนเตงงายยกทัพตีเสฉวน

ข้าศึกขี้โมโหต้องยั่วให้โกรธ ข้าศึกหึกเหิมต้องทำลายขวัญข้าศึก

ยกตัวอย่าง ในการศึกคนสู้รบกันได้ทั้งวันไม่มีเหนื่อยก็เพราะว่ามีขวัญกำลังใจที่ดี ในอดีตฉ้อปาอ๋องเคยยกทัพตีกองทัพรัฐบาล ของรัฐฉินหลังยุดฉินซี ทั้งๆที่ทหารรัฐฉินเป็นทหารอาชีพ ส่วนกองทัพฉ้อปาอ๋องเป็นกองทัพประชาชนที่จัดตั้งขึ้นและฝึกเป็นกำลังทหาร ในครั้งนั้น ทหารฉินมีมากกว่า10เท่า แต่ฉ้อปาอ๋องยังสามารถชนะได้เพราะ ฝ่ายเขาทหารมีกำลังใจที่เหนือกว่า หรือ อีกตัวอย่างนึงก็คือตอนพระยาตาก ตีเมือง จัน เมื่อครั้งทุบหม้อข้าวนั่นแหละคับ หากทหารมีกำลังใจที่จะสู้รบ 1 สามารถต้านร้อย หากทหารไม่มีกำลังใจจะสู้รบ ต่อให้เรามี 100 ก็มิอาจ ต้าน 1 แม่ทัพเปรียบดั่งหัวใจของกองทัพ ฉะนั้นเวลาคิดจะเลือกใครมาเป็นแม่ทัพก็ควรคิดให้รอบครอบเสียก่อน ทหารเลว1หมื่นหาง่าย แต่ขุนพล 1 คนหายากยิ่ง

พอก่อนเดี๋ยวมาต่อขี้เกียจพิมพ์

แก้วสุราเปล่า

กลยุทธ์นี้ของเตียวหุย แกล้งทำให้ศัตรูเกิดความประมาท ทำเป้นดื่มสุราทุกวัน จนศัตรูตายใจยกทัพบุกค่าย สุดท้าย ศัตรูโดนตีแตกกระเจิง

แผนหญิงงามล่มเมือง

แผนการนี้มีเรียกว่าหลายสมัยเหมือนกัน โดยใช้อุบายหญิงงาม หลอกล่อให้ฝ่ายศัตรูมัวเมา อย่าง โกงเจี้ยนอ๋องที่ใช้ไซซีทำให้อู๋อ๋องมัวเมาไม่เอาใจใส่ราชการ อย่าง อ้องอุ้น ที่ใช้เตียวเสี้ยนหลอกล่อให้ตั๋งโต๊ะฆ่ากันเองกับลิโป้

ยึดหนึ่งเพื่อกุมหมื่น

ไม่รู้จะอธิบายยังไง ก็คือ ควบคุมผู้ที่มีอำนาจมาก เพื่อใช้คนที่อยู่ใตอำนาจของคนคนนั้นอีกที เช่น การเอาใจฮ่องเต้ หรือ ยึดกุมฮ่องเต้ เช่นโจโฉกุมฮอ่งเต้แอบอ้างราชโองการอย่างนี้นะคับ คือมีฮ่องเต่อยู่ในมือเรา เราย่อมได้เปรียบ

ส่งเสียประจิมมุ่งสู่บูรพา

คือ ทำทีจะเป็นบุกอีกทางหนึ่ง แต่แล้วกับบุกอีกทางหนึ่ง เช่นตอนที่จงโฮยทำทีต่อเรือจะไปตีกังตั๋ง แต่แล้วกลับยกทัพไปตีเสฉวน

ซ่อนดาบในรอยยิ้ม กระบี่ฉาบน้ำผึ้ง

ก็ทำทีเป็นยอมจำนนหรือยอมเอนอ่อนเข้าร่วมด้วย แต่ที่แท้กำลังวางแผนตลบหลังฝ่ายศัตรู กลยุทธ์นี่ต้องทำให้เนียน ถ้าทำไม่เนียนแล้วศัตรูจับได้ตายลูกเดียว

ยืมดาบฆ่าคน

คล้ายๆกับนั่งบนภูดูเสือกัดกันนั่นแหละคับ คือยุยงส่งเสริมชักชวน ให้คนอื่นไปฆ่าศัตรูแทนเรา แล้วเรารอเก็บผลประโยชน์อีกที

โยนหินถามทาง
(อันนี่จะไม่ค่อยเกี่ยวกับสงครามแต่เป็นการหักเหลี่ยมเฉือนคม)

เช่น ตอนที่ จ้าวเกา ชี้กวางแล้วบอกว่าม้านั่นแหละคับ คือ โยนหินถามดูว่ามีใครที่เป็นพวกเรา หรือ มีใครที่คิดจะเป็นศัตรูกะเราบ้าง

รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง

อันนี่พูดกันบ่อยมาก เป็นคำกล่าวของซุนวู คือถ้ารู้เขารู้เรา สงครามครั้งนี้ก็แค่หมูๆ คำกล่าวสันๆแต่ปฏิบัติจริงนะมันยาก อาจจะมีการใช้จารชนหรือสายลับเข้าไปสืบข้อมูล จากถิ่นศัตรูเพื่อรู้ความเคลื่อนไหวของศัตรู

รอซ้ำย้ำเปลี้ย

เมื่อข้าศึกเสียที อย่างหนักหรือข้าศึกกำลังอลหม่าน ให้รีบนำกำลังออกตีซ้ำอย่าให้ข้าศึกมีโอกาสได้ตั้งตัว เอาแบบให้จมดิน หรือ ไม่มีโอกาสได้เกิดอีกกันไปเลย

ถอนฟืนใต้กระทะ

กองทัพดำรงอยู่ได้ด้วยเสบียง ถ้าไม่มีเสบียงกองทัพก็แตกส่านสับสนอลหม่าน เช่น ตอนโจโฉเอา1ตีสิบของอ้วนเสี้ยว ด้วยการเผาเวบียงที่อัวเจ๋า

กวนน้ำจับปลา

ในภาวะสงครามย่อมมีการระแวง กันอยู่รอบด้าน กวนน้ำจับปลา ก็คือการสร้างความปั่นป่วนในกองทัพข้าศึก อาจจะ ปล่อยข่าวออกไปว่าจะตีตรงนู้นบ้างทางนี้มาก และ ทำจริงๆบ้าง ทำไม่จริงบ้าง หรือไม่ก็ติดสินบนคนของข้าศึกให้สร้างความปั่นป่วนในกองทัพ

ส่วนรวมดีกว่าส่วนตัว

ไม่รู้ว่าถูกหรือเปล่า แต่เป็นการเอาใจทหารสำคัญกว่าตนเอง ซึ่งจะทำให้ก่อประโยชน์มากมาย