ตัวอย่างหนังไทย เรื่อง ช๊อคโกแล็ต / จีจ้า ญานิน

ตัวอย่างหนังไทย เรื่อง ช๊อคโกแล็ต / จีจ้า ญาณิน











ตัวอย่างหนัง



http://movie.sanook.com/movie/movie_13345.php



หรืออันนี้ก้ได้



http://www.youtube.com/watch?v=4pNGv1r9bD8



เกร็ดต่างๆของหนัง



http://www.thaicinema.org/kit43chocolate.asp

เรื่องย่อ

ว่ากันว่าใต้จิตสำนึกของ “เด็กพิเศษ” แต่ละคนล้วนต่างมีความสามารถและทักษะพิเศษบางอย่าง ที่แฝงเร้นอยู่ภายในซึ่งติดตัวมาตั้งแต่เกิดโดยเราเรียกสิ่งนั้นว่า “พรสวรรค์” ...เด็กพิเศษที่มีแม่กำลังป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดในระยะสุดท้ายอย่าง “เซน” (จีจ้า ญาณิน) ไม่เคยรู้เลยว่าความพยายามทวงสิทธิ์ที่ ซิน(ส้ม อมรา)แม่ของเธอพึงได้รับในฐานะอดีตผู้หญิงคนสำคัญของ NO.8 (อ็อฟ พงษ์พัฒน์) หัวหน้าแก๊งค์มาเฟียที่โหดและทรงอิทธิพลที่สุดของไทย จะทำให้ชีวิตของเธอและแม่จะต้องพบกับโลกอีกมุมหนึ่งที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน และเป็นชนวนสำคัญอันนำไปสู่จุดเริ่มต้นของการเผชิญหน้าและปะทะกันระหว่าง NO.8 หัวหน้าแก๊งค์มาเฟียไทย และมาซาชิ(มร.ฮิโรชิ อาเบะ) สมาชิกคนสำคัญของแก๊งค์ยากูซ่าจากญี่ปุ่นที่พยายามปกป้องเซนและแม่ แต่ดูเหมือนว่าหนทางเดียวที่เซนจะทำได้ในตอนนี้ก็คือการดึงเอาพรสวรรค์ทางด้านการต่อสู้ทั้งหมดที่แฝงเร้นอยู่ในตัวออกมาเพื่อปกป้องแม่ให้ได้

ปี 2003 และ ปี 2005 องค์บาก ทำให้เห็นว่า โทนี่ จา กลายเป็นซุปเปอร์สตาร์แอ็คชั่นฮีโร่ อันดับ 1 ของเมืองไทยและของโลก

ปี 2004 เกิดมาลุย คือความมันส์แบบ non – stop ของภาพยนตร์ไทยแอ็คชั่น สตันท์เสี่ยงตายที่ทำให้ทั้งโลกรู้จัก เดี่ยว ชูพงษ์ ช่างปรุง

ปี 2005 โทนี่ จา กลับมาตอกย้ำความเป็น number one พร้อมทั้งทำลายสถิติรายได้ 200 ล้านบาทไทย



ปี 2008 พบกับ “CHOCOLATE” สานต่อความสำเร็จของภาพยนตร์แอ็คชั่นไทยฟอร์มยักษ์ระดับโลกเรื่องที่ 3 ของปรัชญา ปิ่นแก้ว พร้อมปฏิวัติโฉมหน้าซุปเปอร์สตาร์แอ็คชั่นฮีโร่หญิงคนใหม่ของเมืองไทย “จีจ้า” ญานิน วิสมิตะนันทน์ สาวน้อยวัย23 ปีผู้สัมผัสวิถีการต่อสู้ด้วยเทควันโด้ตั้งแต่อายุ 11 ปีและสามารถคว้าเทควันโด้สายดำได้ในเวลาแค่ 2 ปี บ่มเพาะความสามารถในการต่อสู้จากพันนา ฤทธิไกรนานถึง 4 ปีเต็ม

เซน รับบทโดย จีจ้า ญาณิน วิสมิตะนันทน์



เด็กสาวหน้าตาน่ารักแต่เป็นโรคออทิสซึ่มอารมณ์ค่อนข้างรุนแรง ดุ ขี้โมโห ขี้หวงปฏิกิริยาโต้ตอบไวแต่ความรู้สึกช้า มีพรสวรรค์ทางด้านการต่อสู้ เกลียดการเปลี่ยนแปลงทุกชนิดอย่างรุนแรงเนื่องจากรู้สึกไม่มั่นคงเมื่อไม่ได้ทำสิ่งต่างๆที่คุ้นเคย มีเพื่อนคนเดียวคือแมงมุมและแม่คือทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของเธอ

ประวัติพอสังเขป

ญาณิน วิสมิตะนันทน์ หรือจีจ้า เกิดวันที่31 มีนาคม 2527 สาวน้อยขี้โรคในวัยเด็กที่ยอมตัดสินใจเรียนเทควันโด้ เมื่ออายุได้เพียง 11ปี(พ.ศ.2538)โดยมีคุณแม่เป็นแรงบันดาลใจ โดยหวังว่าจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ด้วยความหลงใหลในกีฬาเทควันโด้ทำให้ฝึกฝนจนได้สายดำดั้งที่ 1 เมื่อปี 2540 ซึ่งสามารถคว้าสายดำได้หลังจากที่ผ่านการเรียนเทควันโด้ในเวลาเพียง 2 ปี ในขณะที่อายุเพียง13 ปี และได้สายดำดั้ง 2 ในปีพ.ศ.2542 และสายดำดั้ง 3 ในปีพ.ศ.2546 โดยเริ่มต้นหันมาเป็นครูสอนเทควันโด้เมื่ออายุได้เพียง 14 ปี ขณะที่ศึกษาชั้นมัธยมปลายได้เป็นนักกีฬาเทควันโดทีมโรงเรียน เข้าร่วมแข่งขันกีฬาเทควันโด้เยาวชนกรุงเทพฯ พร้อมกับคว้าเหรียญทองมาได้ในปีพ.ศ.2539 และเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเทควันโด้กรมพละศึกษาในปีพ.ศ. 2540 และในระหว่างที่กำลังจะเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ก็ได้มีโอกาสเข้าไปแคสติ้งในภาพยนตร์แอ็คชั่นเรื่อง “เกิดมาลุย” ที่กำกับ


โดยพันนา ฤทธิไกร โดยการทดสอบคือเน้นทางด้านแอ็คชั่นเป็นหลักไม่ว่าจะเป็นการเตะ การกระโดดในรูปแบบและท่าต่างๆ จนได้รับการแจ้งจากทีมงานว่าได้รับการคัดเลือกให้แสดงภาพยนตร์เรื่องเกิดมาลุย แต่แล้วความพลิกผันครั้งสำคัญในชีวิตก็เริ่มขึ้น เมื่อได้มีโอกาสทำเวิร์คช็อพเดโมแอ็คชั่นทางด้านการต่อสู้ให้กับทางปรัชญา ปิ่นแก้วและเสี่ยเจียง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ แห่งสหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนลได้ดู ก่อนที่จะรู้ในเวลาต่อมาว่าไม่ได้เล่นในภาพยนตร์เรื่องเกิดมาลุยแล้ว แต่ทางสหมงคลฟิล์มได้เตรียมสร้างโปรเจ็คต์ “ช็อคโกแลต”ภาพยนตร์แอ็คชั่นผู้หญิงขึ้นมาใหม่เพื่อให้ จีจ้า ญาณิน แสดงโดยเฉพาะ นำไปสู่ขั้นตอนการเก็บตัวและบ่มทักษะความสามารถทางการต่อสู้ยาวนานถึง 4 ปีเต็มโดยมีพันนา ฤทธิไกร ผู้กำกับและออกแบบคิวบู๊มือ1 ของเมืองไทยควบคุมดูแลฝึกฝน จนในที่สุดก็ได้มีโอกาสใช้ความสามารถทางร่างกายและจิตใจทั้งหมดถ่ายทอดลงในภาพยนตร์เรื่องช็อคโกแลตที่ใช้เวลาถ่ายทำนานถึง 2ปีเต็ม

วัน เดือน ปีเกิด 31 มีนาคม 2527

อายุ 23 ปี

ความสามารถพิเศษ ความสามารถทางด้านกีฬาเทควันโด้

พ.ศ. 2538 เริ่มฝึกกีฬาเทควันโด้

พ.ศ. 2540 ได้สายดำดั้ง 1 กีฬาเทควันโด้

พ.ศ. 2542 ได้สายดำดั้ง 2 กีฬาเทควันโด้

พ.ศ. 2546 ได้สายดำดั้ง 3 กีฬาเทควันโด้ การแข่งขัน

พ.ศ. 2539 เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเทควันโด้เยาวชนกรุงเทพฯ

พ.ศ. 2540 เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเทควันโด้กรมพละศึกษา

สนับสนุนหนังไทยกันหน่อยจ้า เท่าที่ทราบมา รู้สึกว่ากำลังเรียนอยู่ที่ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ด้วยนะเก่งจัง

คาราวะ ท่าน pop ผมว่าจะไปดูอยู่

ผมว่าเธอเจ๋งสุดๆ วรยุท สูงส่ง อาจเทียบ เท่ากับ จาพนม เลยก็ว่าได้

ผมคงไม่กล้า ล้อ เธอละครับ กลัว จระเข้ ฟาดหาง

ปกติเดี๋ยวนี้ผมไม่ได้ไปดูหนังไทยที่โรงหนัง นานแล้วครับ แต่ว่าเรื่องนี้ ว่าจะไปดูแน่นอน เพราะดูตัวอย่างแล้วชอบ เมื่อกี๊ จีจ้า ก็มาออกรายการจับเข่าคุย ของคุณสรยุทธ รู้สึกว่าเธอใสๆซื่อๆและเป็นกันเองมาก พูดเก่ง ช่างเจรจา แต่ฝีมือเธอคงไม่ถึง จา พนม หรอกครับเนื่องจากข้อจำกัดตรงที่เธอเป็นสตรี และยังเด็กอยู่ด้วย เวลาไปดูอย่าเอาเธอไปเปรียบกับ จาพนม นะครับเดี๋ยวผิดหวัง ถ้าเปรียบกับ มิเชล โหย่ว ก็พอได้

เธอสงสาร สตั้นเเมน ด้วยนะ ดูมาผ่านๆมะมาน

เห็นไนตัวอย่างร้องห้ายด้วย

ลูกสาวบอกว่า เธอ เป็น เหมือนเด็กวัยรุ่นทั่วไปเเต่เก่งทางด้านนี้มากกว่าคนอื่นๆ


สรุป ก็น่าดูครับ ผมชอบเเนว สู้กันอยู่เเล้วด้วย ก็ ok

น่ารัก ดี น่ะ จีจ้า แต่ความสามารถ สุด ยอด

ดูเรื่องนี้ดีกว่าคนเล็กของเล่นใหญ่
CJ 7 คนเล็กของเล่นใหญ่

ประเภทหนัง : Comedy, Sci-Fi

กำหนดฉายในไทย : 6 กุมภาพันธ์ 2551

สตูดิโอ : Columbia Pictures Film Production Asia , China Film Group Corp., Star Overseas

จัดจำหน่าย : Sony Pictures Releasing International (Colunbia TriStar Buena Vista Thailand)

นักแสดง :โจวซิงฉือ,ซูเจียว,คิตตี้ จาง หยู ชี

ผู้กำกับ : โจวซิงฉือ

สิ้นสุดการรอคอยสำหรับใครอยากรู้ว่า คนเล็กของเล่นใหญ่ CJ7 ผลงานกำกับและแสดงเรื่องใหม่ในรอบหลายปีของ โจวซิงฉือ ในการผนวกเอาหนังไซไฟ ปนกับหนังตลกหลุดโลก จะหน้าตาออกมาอย่างไร....

China Film Group Corporation หนึ่งในบริษัทผู้ร่วมสร้างหนัง A Hope ของ โจวซิงฉือ แจ้งว่าปัจจุบันหนังแฟนตาซีเรื่องนี้เตรียมชื่อใหม่เป็น CJ7 (หลังจากเคยเปลี่ยนมาแล้วหลายชื่อตั้งแต่ Alien, Yangtze River VII, Long River 7 และ A Hope ซึ่งชื่อหนังนำมาจากโครงการกระสวยอวกาศของจีนที่ปล่อย Shenzhou 6 ในปี 2006 และเตรียมจะปล่อย Shenzhou 7 ในปี 2008) และมีกำหนดฉายใน 31 มกราคม ปีหน้าเพื่อเป็นโปรแกรมทองต้อนรับช่วงเทศกาลปีใหม่ครับ....

ทางบริษัทยังได้กล่าวกับทางสำนักข่าวกรุงปักกิ่งอีกว่า ขณะนี้ โจวซิงฉือ ผู้กำกับและนักแสดงตลกชื่อดังชาวเอเชียกำลังยุ่งอยู่กับการตัดต่อ และเพิ่มเทคนิคพิเศษ ให้กับหนังที่เขาถ่ายทำร่วมปีอยู่ โดยชี้ว่านี่จะเป็นหนังอีกแนวของซุปเปอร์สตาร์คนนี้ ซึ่งยังคงโดดเด่นในด้านเรื่องราวเหมือนกับงานที่ผ่านมาของ โจวซิงฉือ ต่างกับที่สาธารณชนมุ่งสนใจกับฉากผาดโผนของสตันท์ในกองถ่าย หรือทุนสร้างสูงลิบถึง 20 ล้านเหรียญ....

ใน CJ7 โจวซิงฉือ ยังคงเล่นเป็น "คนเล็ก" เช่นเคย เขาแสดงเป็นพ่อจนๆ ทำงานก่อสร้างที่รักเด็กชายกำพร้าที่เขาเลี้ยงเหมือนลูกสุดหัวใจ แม้จะไม่มีเงินซื้อของเล่นให้ลูกได้เล่น แต่การเปลี่ยนแปลงในชีวิตมาถึงเมื่อพวกเขาเจอกับคุณครูสาวใจดีของลูก ซึ่งแท้จริงเป็นแอนดรอยด์ที่สามารถติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวได้...หนังถ่ายทำส่วนใหญ่ที่ หนิงโบ บ้านเกิดของเขา ร่วมนำแสดงโดย จางอี่ฉี นักแสดงสาวหน้าใหม่ชาวจีน ที่เขาหวังปั้นอีกคน,และ ซูเจียว เด็กหญิงที่มานำแสดงในบทลูกชาย
....

ตอนนี้รอดูเดธโน๊ตอยู่นะนี่

55+
คาราวะท่านป็อบ

จำข้าได้ไหม

อยากเจอท่านนานแล้ว

ช่วยหารูปให้ข้าหน่อยจะได้ไหม

ขอร้อง