รบกวนท่านจอมยุทธ์ทั้งหลายให้ข้อวิจารณ์ในซีรี่ย มังกรหยกหน่อยคือ ถ้านับเรื่อง 8 เทพอสูรมังกรฟ้า มังกรหยกภาค1 (ก๊วยเจ๋ง อึ้งย้ง) มังกรหยก 2 (เอี้บก๊วย เซียงเหล็งนึ่ง) ดาบมังกรหหยก เป็นเรื่องที่ต่อกันแล้วตามเวลาประวัติศาสตร์ งงว่า ทำไมวัดเส้าหลินไม่มีบทบาทใดๆ ในเรื่องมังกรหยกภาค1 กับ 2 เลย (รู้สึกว่าจะไม่มีเลยนะ ขนาดตอนเมืองเซียงเอี้ยงถูกบุก ไม่ยักกะมีหลวงจีนเส้าหลินมาช่วยซักรูป)ขณะที่ในเนื้อเรื่อง 8 เทพฯ กับ ดาบมังกรหยก วัดเส้าหลินกลับเป็นฉากที่สำคัญในเรื่อง
หรือว่า ตอนท่านกิมย้งแต่งมังกรหยก 1 กับ 2 ตอนนั้น วัดเส้าหลินยังไม่ดัง (เข้าใจว่า ประพันธ์เรื่องมังกรหยก 1กับ 2 ก่อน ดาบมังกรหยก กับ 8 เทพอสูรฯ) เลยไม่มีบทบาทอะไร
หรือว่า....
ขอคำชี้แนะด้วย
สงสัย เรื่องเส้าหลิน ในซีรี่ย มังกรหยก
|
Hyde | |
![]() |
ต้องอ่านช่วง intro ของดาบมังกรหยกที่เป็นเนื้อเรื่องของก๊วยเซียง จะมีบรรยายถึงวัดเส้าหลินซึ่งวิทยายุทธยังไม่กล้าแข็งเพราะยังไม่พบคัมภีร์เก้าเอี้ยงที่ซ่อนอยู่ ลองหาอ่านดู ช่วงก๊วยเซียงก็หนุกมาก สรุป เส้าหลินในชุดมังกรหยกเพิ่งจะเก่งหลังจากตอนดาบมังกรหยกเป็นต้นไป |
แมวน้ำขี้เซา | |
![]() |
แต่ตามช่วงเวลาจริงๆ แล้วต้องไล่จาก 1 เส้าหลิน สมัยแปดเทพฯ เก่งมาก อย่าลืมว่าสมัยนางเฒ่า ก็ให้การยกย่อง รุ่นอาจารย์ของเจ้าอาวาส แต่เรียกเจ้าอาวาสเป็นเด็กน้อย และไม่ต้องมีเปลี่ยนเส้นเอ็น มู่หยง และ เซียว ที่ขโมยยังเก่งซะ 2 เส้าหลิน สมัยมังกรหยก1 หายไป 3 เส้าหลิน สมัยมังกรหยก2 หายไป 4 เส้าหลิน สมัยมังกรหยก3 กลับมาแล้วจ้า เส่งคุน ว่าเก่งแล้ว ยังต้องไปเรียนเพิ่ม โดยส่วนตัว ที่ที่รุ่งเรื่องต้องมีวันเสื่อมโทรม เมื่อเสื่อมถึงจุดหนึ่งก็จะรุ่งเรื่องขึ้นมาอีก แต่จะเท่าเดิมหรือเปล่าอีกเรื่อง ถ้าให้เดา จริงๆแล้ว ตอนแรกกิมย้ง ต้องการเขียนเรื่องที่ ไม่ผูดมัดกับเส้าหลิน และสร้างตัวละครที่แตกต่างในเชิงวิชาที่ใช้ครับ ดังนั้นจึงไม่มี วัดเส้าหลินในภาคแรก แต่พอ กลับมาเขียนถึงเหตุการณ์ขนาดใหญ่ อย่างแปดเทพฯ ที่มีการดำเนินเรื่องแบบวิ่งทั่วประเทศ จึงต้องมีวัดเส้าหลินมาครับ และเมื่อเขียน ดาบมังกรหยก ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเขียนถึงเส้าหลิน เพราะมี บู้ตึ้ง เป็นหลัก |
#^_^# นู๋อายยย | |
![]() |
เข้ามาอ่านหาความรู้ค่ะ คุณแมวน้ำขี้เซาอธิบายได้ดีแจ่มชัดเลยค่ะ |
ต้วนยี้ | |
![]() |
ส่วนหนึ่งถ้าจับจากภาคบ่กี้ จะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่เส้าหลินตกต่ำลง เพราะการแตกแยกภายใน กลายเป็นพวกหลวงจีนไว้ผมที่หนีไปแดนประจิมแทน คิดว่าช่วงนั้นคือช่วงมังกรหยก 1-2 ครับ ประกอบกับศาสนาพุทธตกต่ำลงอย่างมาก ในสมัยช่วงราชวงศ์ซ้องใต้ ตามประวัติศาสตร์ ศาสนาเต๋ากลายมาเป็นเสาหลักจริงๆ จัง เนื่องจากเกิดการต่อต้านชาวต่างชาติรวมถึงศาสนาต่างชาติด้วย อาจจะเรียกได้ว่ายุคซ้องใต้คือยุคเรเนอซองส์ของจีนก็ได้ เป็นการขุดเอาความภาคภูมิใจตามแบบจงกั๋วนิยมหรือไชโนนิสซึ่มมาใหม่ หลังจากที่เสียดินแดนกว่าครึ่งไปพวกจินหรือกิม เส้าหลินเองมีศูนย์กลางอยู่ที่ซงซานซึ่งเป็นดินแดนของพวกจินไปแล้ว และจำต้องอยู่อย่างเจียมตัว ในขณะที่ศาสนาเต๋ากลับเข้าถึงชาวบ้านในยามเดือนร้อนมากกว่า ซึ่งชาวบ้านในยามบ้านแตกประเทศโดยทำลายนั้น มักจะหันเข้าหาสิ่งศักดิสิทธิและอิทธิปาฏิหาริย์มากกว่า ประกอบกับนักพรตเต๋าจำนวนมาก เช่น นิกายช้วนจิน มีแนวโน้มที่จะต่อต้านผู้ปกครองมากๆ และการรวมตัวชาวบ้านและกำลังพลในเวลานั้น ก็ต้องใช้อิทธิฤทธิปาฏิหาริย์เป็นตัวนำ เหมือนกับการกบฎของชาวบ้านในหลายๆ ยุค ไม่สามารถแยกเรื่องผู้นำที่มีอิทธิฤทธิปาฎิหาริย์ได้จริงๆ ในยุคก๊วยเจ๋งและเอี้ยก้วยนั้น ลัทธิศาสนาที่โด่งดังก็คือลัทธิจูซี ซึ่งเป็นลัทธิที่ผนวกเอาแนวคิดของศาสนาที่ยิ่งใหญ่ของจีนสามศาสนาเข้าไว้ด้วยกัน คือ หยู (ขงจื้อ) เต๋า และพุทธ อนุศาสน์จูซีได้รับการตอบรับจากประชาชนและขุนนางทางใต้อยู่มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการคงอยู่แบบธรรมชาติของเต๋า ขุนนางส่วนใหญ่มักพอใจกับชีวิตตามธรรมชาติทางแดนใต้ เสพความงามของหังโจว สำเริญสำราญ พร้อมๆ กับการเติบโตของลัทธิทุนนิยม (เหมือนๆ กับที่เกิดขึ้นในสมัยนี้แฮะ) ขุนนางพวกนี้เบื่อการทำสงคราม และไม่สำคัญว่าใครจะมาเป็นฮ่องเต้หากทำให้พวกตนมีความสุขได้ ยิ่งเข้ากับคุณลักษณะของจูซี ที่เหมือนๆ กับให้ปลงว่าเรื่องการสูญเสียบ้านเมืองเป็นเรื่องตามธรรมชาติเป็นพรหมลิขิต ซึ่งอาจกล่าวได้ว่ายุคซ่งใต้เป็นยุคที่ศาสนาพุทธเสื่อมถอยที่สุด การที่กิมย้งไม่กล่าวถึงเส้าหลินในมังกรหยก 1 และ 2 อาจจะแฝงนัยทางประวัติศาสตร์นี้ด้วยหรือเปล่า ไม่อาจทราบได้ เพราะการกล่าวถึงเม้งก่าในมังกรหยก 3 นั้น ประวัติศาสตร์จริงๆ ก้อกล่าวถึง ว่ามีจริง และเป็นลัทธิที่จูหยวนจางนำมาใช้เป็นกุศโลบายในการรวบรวมคน เม้งก้าก็คือลัทธิแมนิกีของเปอร์เซียที่รวมเอาแนวคิดการบูชาไฟของโซโรอัสเตอร์เดิมบวกกับการไถ่บาปของศาสนาคริสต์เข้าด้วยกัน พร้อมๆ กับการเผยแพร่เรื่องความขัดแย้งระหว่างความดีและความชั่ว โดยท้ายสุดจะมิหมิงหวางหรือ King of Light มาเป็นผู้กอบกู้ก้อคือ จูหยวนจางนั้นเอง จึงได้สถาปนาราชวงศ์หมิงหลังขับไล่มองโกลไป แมนนิกิ ออกเสียงในภาษาจีนไปสอดคล้องกับคำว่ามารในภาษาจีนนั้นเอง แมนนิกิจึงกลายเป็นพรรคมารไป |
เชษฐา | |
![]() |
สังเกตว่าพรรคกระยาจกในแปดเทพจนถึงมังกรหยกภาค หนึ่ง จะเก่งมากเป็นผู้นำยุทธภพคู่กับเส้าหลิน แต่หลังจาก นั้นมักจะมีปัญหาภายใน คนชั่วได้เป็นใหญ่ นับจากนั้น ก็เสื่อมถอยลงตามลำดับ เรื่องกระบี่เย้ยฯ เขียนว่ามีบู๊ตึ้งแล้ว น่าจะเป็นราชวงศ์ หมิง ตอนนั้นเส้าหลินกับบู๊ตึ๊งก็เป็นผู้นำยุทธภพร่วมกัน พรรคกระยาจกตกกระป๋องไปแล่ว |
อิกเตียมอั้ง (sutthi | |
![]() |
ภาค 2 กล่าวถึง เส้าหลินด้วยครับ ถ้าจำไม่ผิด รุ่นที่เป็นเจ้าอาวาสนั้น คือรุ่น บ้อ แล้วงานวันเกิดของก๊วยเซียง เอี้ยก๊วยก็ยังเชิญมาด้วยครับ |
นายเบียร์ | |
![]() |
ถ้าตีความจับเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ก็ต้องอย่างที่คุณต้วนยี้มาเขียนครับ ถ้าเอาอย่างกิมย้งเขียนในช่วงต้นของดาบมังกรหยกจะบอกถึงว่า70กว่าปีก่อนเกิดเรื่องในเวลานั้นมีความขัดแย้งอย่างใหญ่หลวงอันเนื่องจากเรื่องหลวงจีนมีผม ทำให้เส้าหลินอ่อนแอลง หากนับตามช่วงเวลา 70ปีก่อนน่าจะเป็นช่วงกันหนือก่อนเล็กน้อยที่เกิดความวุ่นวายแย่งชิงคัมภีร์เก้าอิมจินเก็ง เพราะหากคิดตามเหตุผล เรื่องใหญ่ขนาดนั้นมีหรือที่เส้หลินซึ่งทระนงตนว่าเป็นผู้นำชาวยุทธ์จะไม่เอื้อมมือมายุ่ง ขนาดดาบฆ่ามังกรในยุคเตียบ๋อกี๋ซึ่งไม่รู้ว่ามีความลับอะไรซ่อนอยู่แน่ รู้แค่ว่าใครได้ไปจะบัญ๙คนได้ทั้งแผ่นดิน หลวงจีนพวกนั้นยังละไม่ลง |
นายเบียร์ | |
![]() |
เหตุท่เส้าหลินไม่มีบทบาทในการชิงคัมภีร์เก้าอิมจินเก็ง |
โต | |
![]() |
มังกรหยก 1-2 แต่งก่อน ตอนนั้น กิมย้ง ยังไม่ได้นึกถึงเส้าหลิน พอมาแต่งดาบมังกรหยก จึงมีเรื่องเส้าหลินเข้ามา สุดท้ายไปแต่ง แปดเทพฯ จึงให้ความสำคัญกับเส้าหลินมากขึ้น เหตุผลง่ายๆ ตอนแต่งมังกรหยก 1-2 กิมย้งคงไม่ได้คิดทำ เป็นซีรีย์ขนาดนี้ ก็เลยไม่ได้นึกถึงเส้าหลิน ไม่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ หรือ อะไรทั้งนั้นแหละครับ แต่งเรื่องแรกๆก็แต่งเอามันส์ พอนานเข้าก็อยากให้เป็นตำนาน แรกๆ สมมุติใครก็ได้ว่าเก่ง พอจะเป็นระดับตำนาน จะให้ผู้คน ยอมรับได้ มันก็ต้องให้เส้าหลินเก่ง เพราะเป็นต้นกำเหนิดกังฟูจีน แถมยังมีสืบทอดกันมาจนปัจจุบัน การยอมรับในวงกว้างก็ง่ายขึ้น |
I.Brother | |
![]() |
ผมขอเพิ่มเติมจากคุณต้วนยี่นะครับ นอกเหนือจากเรื่องศาสนาแล้วยังมีเรื่องความต้องการเป็นผู้นำในการประพันธ์ของกิมย้งเกี่ยวเนื่องอยู่ด้วยครับ กิมย้งเป็นผู้เปิดฉากนิยายจีนยุคใหม่ในตอนนั้น เลยมีความคิดเรื่องการแหกกฎวรรณกรรมจีนตอนนั้น นิยายจีนช่วงนั้นอ่านดูได้ครับตัวเอกแทบทุกเรื่องต้องเกี่ยวข้องกับเส้าหลิน เป็นศิษย์เส้าหลินหรือไม่ก็ได้วิชาเส้าหลินมาฝึก ลองสังเกตุได้ครับว่ากิมย้งไม่ให้ความสำคัญกับเส้าหลินเลยตั้งแต่นิยายเรื่องแรกที่แต่ง แล้วก็ได้ผลคือการสร้างวิชาและตัวละครแปลกๆจากนิยายจีนดั่งเดิมที่เน้นคือเส้าหลิน กับการต่อต้านผู้บุกรุกอย่างมองโกลหรือแมนจู ซึ่งได้ผลครับการประพันธ์ของกิมย้งเริ่มต้นด้วยการไม่ให้ความสำคัญกับเส้าหลิน แต่มาเพิ่มบทบาทของเส้าหลินในนิยายเรื่องหลังๆ ซึ่งคนอ่านก็ผูกผันกับบทดำเนินเรื่องของมันอยู่แล้ว เรือ่งกิมย้งไม่ให้ความสำคัญกับเส้าหลินหาอ่านเพิ่มเติมได้ที่มติชนฉบับไหนผมไม่แน่ใจ แต่ฉบับนั้นเนี้ยถอดความมาจากหนังสือพิมพ์ของกิมย้งเองเลยครับว่าทำไม เค้าถึงไม่ให้ความสำคัญกับเส้าหลินเท่าที่ควร |
ลิโป้ |
#12 ลิโป้ [ 16-08-2010 - 12:01:01 ] |
|
หลวงจีนวัดเส้าหลินปรากฏในมังกรหยก2 ตอนวันเกิดก๊วยเซียง แต่โผล่มาแต่ชื่อ |
มารน้อยแห่งเม้งก่า |
#14 มารน้อยแห่งเม้งก่า [ 16-08-2010 - 20:44:54 ] |
|
แล้วถ้าดูจากทุกเรื่อง เส้าหลินรุ่งเรืองสุดในยุคใหนอ่าู |
|