เข้าระบบอัตโนมัติ

สงสัย เรื่องเส้าหลิน ในซีรี่ย มังกรหยก


  • 1
จางวาง
#1   จางวาง    [ 0000-00-00 - 00:00:00 ]    IP: 127.0.0.1

รบกวนท่านจอมยุทธ์ทั้งหลายให้ข้อวิจารณ์ในซีรี่ย มังกรหยกหน่อยคือ ถ้านับเรื่อง 8 เทพอสูรมังกรฟ้า มังกรหยกภาค1 (ก๊วยเจ๋ง อึ้งย้ง) มังกรหยก 2 (เอี้บก๊วย เซียงเหล็งนึ่ง) ดาบมังกรหหยก เป็นเรื่องที่ต่อกันแล้วตามเวลาประวัติศาสตร์ งงว่า ทำไมวัดเส้าหลินไม่มีบทบาทใดๆ ในเรื่องมังกรหยกภาค1 กับ 2 เลย (รู้สึกว่าจะไม่มีเลยนะ ขนาดตอนเมืองเซียงเอี้ยงถูกบุก ไม่ยักกะมีหลวงจีนเส้าหลินมาช่วยซักรูป)ขณะที่ในเนื้อเรื่อง 8 เทพฯ กับ ดาบมังกรหยก วัดเส้าหลินกลับเป็นฉากที่สำคัญในเรื่อง
หรือว่า ตอนท่านกิมย้งแต่งมังกรหยก 1 กับ 2 ตอนนั้น วัดเส้าหลินยังไม่ดัง (เข้าใจว่า ประพันธ์เรื่องมังกรหยก 1กับ 2 ก่อน ดาบมังกรหยก กับ 8 เทพอสูรฯ) เลยไม่มีบทบาทอะไร
หรือว่า....
ขอคำชี้แนะด้วย



Hyde
#2   Hyde    [ 0000-00-00 - 00:00:00 ]    IP: 127.0.0.1

ต้องอ่านช่วง intro ของดาบมังกรหยกที่เป็นเนื้อเรื่องของก๊วยเซียง
จะมีบรรยายถึงวัดเส้าหลินซึ่งวิทยายุทธยังไม่กล้าแข็งเพราะยังไม่พบคัมภีร์เก้าเอี้ยงที่ซ่อนอยู่
ลองหาอ่านดู ช่วงก๊วยเซียงก็หนุกมาก

สรุป เส้าหลินในชุดมังกรหยกเพิ่งจะเก่งหลังจากตอนดาบมังกรหยกเป็นต้นไป



แมวน้ำขี้เซา
#3   แมวน้ำขี้เซา    [ 0000-00-00 - 00:00:00 ]    IP: 127.0.0.1

แต่ตามช่วงเวลาจริงๆ แล้วต้องไล่จาก
1 เส้าหลิน สมัยแปดเทพฯ เก่งมาก อย่าลืมว่าสมัยนางเฒ่า ก็ให้การยกย่อง รุ่นอาจารย์ของเจ้าอาวาส แต่เรียกเจ้าอาวาสเป็นเด็กน้อย และไม่ต้องมีเปลี่ยนเส้นเอ็น มู่หยง และ เซียว ที่ขโมยยังเก่งซะ

2 เส้าหลิน สมัยมังกรหยก1 หายไป

3 เส้าหลิน สมัยมังกรหยก2 หายไป

4 เส้าหลิน สมัยมังกรหยก3 กลับมาแล้วจ้า เส่งคุน ว่าเก่งแล้ว ยังต้องไปเรียนเพิ่ม


โดยส่วนตัว ที่ที่รุ่งเรื่องต้องมีวันเสื่อมโทรม เมื่อเสื่อมถึงจุดหนึ่งก็จะรุ่งเรื่องขึ้นมาอีก แต่จะเท่าเดิมหรือเปล่าอีกเรื่อง ถ้าให้เดา จริงๆแล้ว ตอนแรกกิมย้ง ต้องการเขียนเรื่องที่ ไม่ผูดมัดกับเส้าหลิน และสร้างตัวละครที่แตกต่างในเชิงวิชาที่ใช้ครับ ดังนั้นจึงไม่มี วัดเส้าหลินในภาคแรก แต่พอ กลับมาเขียนถึงเหตุการณ์ขนาดใหญ่ อย่างแปดเทพฯ ที่มีการดำเนินเรื่องแบบวิ่งทั่วประเทศ จึงต้องมีวัดเส้าหลินมาครับ และเมื่อเขียน ดาบมังกรหยก ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเขียนถึงเส้าหลิน เพราะมี บู้ตึ้ง เป็นหลัก



#^_^# นู๋อายยย
#4   #^_^# นู๋อายยย    [ 0000-00-00 - 00:00:00 ]    IP: 127.0.0.1

เข้ามาอ่านหาความรู้ค่ะ
คุณแมวน้ำขี้เซาอธิบายได้ดีแจ่มชัดเลยค่ะ



ต้วนยี้
#5   ต้วนยี้    [ 0000-00-00 - 00:00:00 ]    IP: 127.0.0.1

ส่วนหนึ่งถ้าจับจากภาคบ่กี้ จะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่เส้าหลินตกต่ำลง เพราะการแตกแยกภายใน กลายเป็นพวกหลวงจีนไว้ผมที่หนีไปแดนประจิมแทน คิดว่าช่วงนั้นคือช่วงมังกรหยก 1-2 ครับ ประกอบกับศาสนาพุทธตกต่ำลงอย่างมาก ในสมัยช่วงราชวงศ์ซ้องใต้ ตามประวัติศาสตร์ ศาสนาเต๋ากลายมาเป็นเสาหลักจริงๆ จัง เนื่องจากเกิดการต่อต้านชาวต่างชาติรวมถึงศาสนาต่างชาติด้วย อาจจะเรียกได้ว่ายุคซ้องใต้คือยุคเรเนอซองส์ของจีนก็ได้ เป็นการขุดเอาความภาคภูมิใจตามแบบจงกั๋วนิยมหรือไชโนนิสซึ่มมาใหม่ หลังจากที่เสียดินแดนกว่าครึ่งไปพวกจินหรือกิม เส้าหลินเองมีศูนย์กลางอยู่ที่ซงซานซึ่งเป็นดินแดนของพวกจินไปแล้ว และจำต้องอยู่อย่างเจียมตัว ในขณะที่ศาสนาเต๋ากลับเข้าถึงชาวบ้านในยามเดือนร้อนมากกว่า ซึ่งชาวบ้านในยามบ้านแตกประเทศโดยทำลายนั้น มักจะหันเข้าหาสิ่งศักดิสิทธิและอิทธิปาฏิหาริย์มากกว่า ประกอบกับนักพรตเต๋าจำนวนมาก เช่น นิกายช้วนจิน มีแนวโน้มที่จะต่อต้านผู้ปกครองมากๆ และการรวมตัวชาวบ้านและกำลังพลในเวลานั้น ก็ต้องใช้อิทธิฤทธิปาฏิหาริย์เป็นตัวนำ เหมือนกับการกบฎของชาวบ้านในหลายๆ ยุค ไม่สามารถแยกเรื่องผู้นำที่มีอิทธิฤทธิปาฎิหาริย์ได้จริงๆ

ในยุคก๊วยเจ๋งและเอี้ยก้วยนั้น ลัทธิศาสนาที่โด่งดังก็คือลัทธิจูซี ซึ่งเป็นลัทธิที่ผนวกเอาแนวคิดของศาสนาที่ยิ่งใหญ่ของจีนสามศาสนาเข้าไว้ด้วยกัน คือ หยู (ขงจื้อ) เต๋า และพุทธ อนุศาสน์จูซีได้รับการตอบรับจากประชาชนและขุนนางทางใต้อยู่มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการคงอยู่แบบธรรมชาติของเต๋า ขุนนางส่วนใหญ่มักพอใจกับชีวิตตามธรรมชาติทางแดนใต้ เสพความงามของหังโจว สำเริญสำราญ พร้อมๆ กับการเติบโตของลัทธิทุนนิยม (เหมือนๆ กับที่เกิดขึ้นในสมัยนี้แฮะ) ขุนนางพวกนี้เบื่อการทำสงคราม และไม่สำคัญว่าใครจะมาเป็นฮ่องเต้หากทำให้พวกตนมีความสุขได้ ยิ่งเข้ากับคุณลักษณะของจูซี ที่เหมือนๆ กับให้ปลงว่าเรื่องการสูญเสียบ้านเมืองเป็นเรื่องตามธรรมชาติเป็นพรหมลิขิต ซึ่งอาจกล่าวได้ว่ายุคซ่งใต้เป็นยุคที่ศาสนาพุทธเสื่อมถอยที่สุด การที่กิมย้งไม่กล่าวถึงเส้าหลินในมังกรหยก 1 และ 2 อาจจะแฝงนัยทางประวัติศาสตร์นี้ด้วยหรือเปล่า ไม่อาจทราบได้ เพราะการกล่าวถึงเม้งก่าในมังกรหยก 3 นั้น ประวัติศาสตร์จริงๆ ก้อกล่าวถึง ว่ามีจริง และเป็นลัทธิที่จูหยวนจางนำมาใช้เป็นกุศโลบายในการรวบรวมคน เม้งก้าก็คือลัทธิแมนิกีของเปอร์เซียที่รวมเอาแนวคิดการบูชาไฟของโซโรอัสเตอร์เดิมบวกกับการไถ่บาปของศาสนาคริสต์เข้าด้วยกัน พร้อมๆ กับการเผยแพร่เรื่องความขัดแย้งระหว่างความดีและความชั่ว โดยท้ายสุดจะมิหมิงหวางหรือ King of Light มาเป็นผู้กอบกู้ก้อคือ จูหยวนจางนั้นเอง จึงได้สถาปนาราชวงศ์หมิงหลังขับไล่มองโกลไป แมนนิกิ ออกเสียงในภาษาจีนไปสอดคล้องกับคำว่ามารในภาษาจีนนั้นเอง แมนนิกิจึงกลายเป็นพรรคมารไป



เชษฐา
#6   เชษฐา    [ 0000-00-00 - 00:00:00 ]    IP: 127.0.0.1

สังเกตว่าพรรคกระยาจกในแปดเทพจนถึงมังกรหยกภาค
หนึ่ง จะเก่งมากเป็นผู้นำยุทธภพคู่กับเส้าหลิน แต่หลังจาก
นั้นมักจะมีปัญหาภายใน คนชั่วได้เป็นใหญ่ นับจากนั้น
ก็เสื่อมถอยลงตามลำดับ

เรื่องกระบี่เย้ยฯ เขียนว่ามีบู๊ตึ้งแล้ว น่าจะเป็นราชวงศ์
หมิง ตอนนั้นเส้าหลินกับบู๊ตึ๊งก็เป็นผู้นำยุทธภพร่วมกัน
พรรคกระยาจกตกกระป๋องไปแล่ว



อิกเตียมอั้ง (sutthi
#7   อิกเตียมอั้ง (sutthi    [ 0000-00-00 - 00:00:00 ]    IP: 127.0.0.1

ภาค 2 กล่าวถึง เส้าหลินด้วยครับ ถ้าจำไม่ผิด รุ่นที่เป็นเจ้าอาวาสนั้น คือรุ่น บ้อ แล้วงานวันเกิดของก๊วยเซียง เอี้ยก๊วยก็ยังเชิญมาด้วยครับ



นายเบียร์
#8   นายเบียร์    [ 0000-00-00 - 00:00:00 ]    IP: 127.0.0.1

ถ้าตีความจับเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ก็ต้องอย่างที่คุณต้วนยี้มาเขียนครับ

ถ้าเอาอย่างกิมย้งเขียนในช่วงต้นของดาบมังกรหยกจะบอกถึงว่า70กว่าปีก่อนเกิดเรื่องในเวลานั้นมีความขัดแย้งอย่างใหญ่หลวงอันเนื่องจากเรื่องหลวงจีนมีผม ทำให้เส้าหลินอ่อนแอลง หากนับตามช่วงเวลา 70ปีก่อนน่าจะเป็นช่วงกันหนือก่อนเล็กน้อยที่เกิดความวุ่นวายแย่งชิงคัมภีร์เก้าอิมจินเก็ง เพราะหากคิดตามเหตุผล เรื่องใหญ่ขนาดนั้นมีหรือที่เส้หลินซึ่งทระนงตนว่าเป็นผู้นำชาวยุทธ์จะไม่เอื้อมมือมายุ่ง ขนาดดาบฆ่ามังกรในยุคเตียบ๋อกี๋ซึ่งไม่รู้ว่ามีความลับอะไรซ่อนอยู่แน่ รู้แค่ว่าใครได้ไปจะบัญ๙คนได้ทั้งแผ่นดิน หลวงจีนพวกนั้นยังละไม่ลง



นายเบียร์
#9   นายเบียร์    [ 0000-00-00 - 00:00:00 ]    IP: 127.0.0.1

เหตุท่เส้าหลินไม่มีบทบาทในการชิงคัมภีร์เก้าอิมจินเก็ง



โต
#10   โต    [ 0000-00-00 - 00:00:00 ]    IP: 127.0.0.1

มังกรหยก 1-2 แต่งก่อน
ตอนนั้น กิมย้ง ยังไม่ได้นึกถึงเส้าหลิน

พอมาแต่งดาบมังกรหยก จึงมีเรื่องเส้าหลินเข้ามา

สุดท้ายไปแต่ง แปดเทพฯ จึงให้ความสำคัญกับเส้าหลินมากขึ้น

เหตุผลง่ายๆ ตอนแต่งมังกรหยก 1-2 กิมย้งคงไม่ได้คิดทำ
เป็นซีรีย์ขนาดนี้ ก็เลยไม่ได้นึกถึงเส้าหลิน
ไม่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ หรือ อะไรทั้งนั้นแหละครับ

แต่งเรื่องแรกๆก็แต่งเอามันส์ พอนานเข้าก็อยากให้เป็นตำนาน

แรกๆ สมมุติใครก็ได้ว่าเก่ง พอจะเป็นระดับตำนาน จะให้ผู้คน
ยอมรับได้ มันก็ต้องให้เส้าหลินเก่ง เพราะเป็นต้นกำเหนิดกังฟูจีน
แถมยังมีสืบทอดกันมาจนปัจจุบัน

การยอมรับในวงกว้างก็ง่ายขึ้น



I.Brother
#11   I.Brother    [ 0000-00-00 - 00:00:00 ]    IP: 127.0.0.1

ผมขอเพิ่มเติมจากคุณต้วนยี่นะครับ นอกเหนือจากเรื่องศาสนาแล้วยังมีเรื่องความต้องการเป็นผู้นำในการประพันธ์ของกิมย้งเกี่ยวเนื่องอยู่ด้วยครับ

กิมย้งเป็นผู้เปิดฉากนิยายจีนยุคใหม่ในตอนนั้น เลยมีความคิดเรื่องการแหกกฎวรรณกรรมจีนตอนนั้น นิยายจีนช่วงนั้นอ่านดูได้ครับตัวเอกแทบทุกเรื่องต้องเกี่ยวข้องกับเส้าหลิน เป็นศิษย์เส้าหลินหรือไม่ก็ได้วิชาเส้าหลินมาฝึก ลองสังเกตุได้ครับว่ากิมย้งไม่ให้ความสำคัญกับเส้าหลินเลยตั้งแต่นิยายเรื่องแรกที่แต่ง แล้วก็ได้ผลคือการสร้างวิชาและตัวละครแปลกๆจากนิยายจีนดั่งเดิมที่เน้นคือเส้าหลิน กับการต่อต้านผู้บุกรุกอย่างมองโกลหรือแมนจู

ซึ่งได้ผลครับการประพันธ์ของกิมย้งเริ่มต้นด้วยการไม่ให้ความสำคัญกับเส้าหลิน แต่มาเพิ่มบทบาทของเส้าหลินในนิยายเรื่องหลังๆ ซึ่งคนอ่านก็ผูกผันกับบทดำเนินเรื่องของมันอยู่แล้ว

เรือ่งกิมย้งไม่ให้ความสำคัญกับเส้าหลินหาอ่านเพิ่มเติมได้ที่มติชนฉบับไหนผมไม่แน่ใจ แต่ฉบับนั้นเนี้ยถอดความมาจากหนังสือพิมพ์ของกิมย้งเองเลยครับว่าทำไม เค้าถึงไม่ให้ความสำคัญกับเส้าหลินเท่าที่ควร



ลิโป้
#12   ลิโป้    [ 16-08-2010 - 12:01:01 ]

หลวงจีนวัดเส้าหลินปรากฏในมังกรหยก2 ตอนวันเกิดก๊วยเซียง แต่โผล่มาแต่ชื่อ



กิมโจว
#13   กิมโจว    [ 16-08-2010 - 18:33:03 ]

พระท่านไม่ยุ่งการเมืองเเล้วครับ



มารน้อยแห่งเม้งก่า
#14   มารน้อยแห่งเม้งก่า    [ 16-08-2010 - 20:44:54 ]


แล้วถ้าดูจากทุกเรื่อง เส้าหลินรุ่งเรืองสุดในยุคใหนอ่า



  • 1
ตอบกระทู้
ชื่อ
รหัส กรอกตัวอักษร ตามภาพ
ข้อความ


emo-smile emo-happy emo-lol emo-enjoy emo-kiku emo-cool emo-hoho emo-drool emo-hungry emo-kiss emo-sorry emo-sad emo-cry emo-tear emo-question emo-doubt emo-shock emo-redface emo-plz emo-peevish emo-angry emo-moody emo-sneer emo-makefaces emo-good emo-touched emo-love emo-bore emo-tired emo-vomit
bold italic underline img link superscript subscript size color space justifyleft justifycenter justifyright quote box youtube