ต่อไปนี้เป็นคำแปลจากที่ท่าน Peking Man นำบทความมาลงไว้ในกระทู้เดิมนะครับ
---------------------------------------------------------------
เกี่ยวกับการอธิบายงานเขียนของท่านกิมย้งนั้น ผมคิดว่าบทความต่อไปนี้เปรียบเทียบระหว่างท่านโก้วเล้งกับท่านกิมย้งได้น่าสนใจดี มันช่างเหมือนกับความฝันจริงๆครับ
จาก (http://www.white-collar.net/wx_hsl/jinyong/jin_029.htm) และเช่นดังเคย นี่เป็นการแปลของผมเองและมีการแก้ไขบ้าง ถ้ามีความผิดพลาดหรือแปลไม่แม่นยำบ้างก็โปรดอภัยนะครับ...เพราะไม่ได้หลับมาตั้งแต่ตอนตื่นขึ้นมาวานนี้ครับ
ท่านกิมย้งและท่านโก้วเล้ง:
ผู้เขียนบทความ: ไม่ระบุ
ไม่เป็นที่สงสัย ว่าโดยไม่มีปรากฏมาก่อน และก็บางทีไม่มีผู้ใดจะมาเปรียบความเป็นอัจฉริยะของสองท่านคือท่านกิมย้งและท่านโก้วเล้งว่าเป็นสองปรมาจารย์นักเขียนนิยายจีนกำลังภายใน แม้ว่าตามความจริงแล้วนิยายของพวกเขาจะเขียนในแนวทางที่ต่างกันและมีคุณลักษณะคนละแบบ สำหรับนักอ่านแล้วงานของสองท่านนั้นกระตุ้นจิตวิญญาณและยากมากที่จะวิจารณ์ แต่ที่สำคัญกว่านั้น การเปรียบเทียบงานเขียนของนักเขียนสองท่านนี้กับนักเขียนท่านอื่นๆนั้นก็เช่นกับการเปรียบเทียบหยดน้ำหยดเดียวกับน้ำในมหาสมุทร ขณะที่นิยายจีนกำลังภายในของนักเขียนท่านอื่นนั้นมักอ่านกันเพื่อความบันเทิง งานเขียนของท่านกิมย้งและของท่านโก้วเล้งได้ข้ามผ่านระดับนี้ไปไกล งานเขียนของพวกเขาย่างเข้าสู่ขอบเขตและโดยของมันเองที่ "คลาสสิค" ความเห็นข้อนี้ แม้ว่าจะถูกปฏิเสธโดยผู้ที่เป็นนักปกป้องวรรณกรรมดั้งเดิมอย่างเต็มความสามารถ แต่สิ่งที่ผมมั่นใจคือนักอ่านนิยายกำลังภายในส่วนมากยึดถือว่านั่นเป็นความจริงข้อหนึ่งในชีวิตของนักอ่าน
แม้ทั้งสองท่านจะยอดเยี่ยมเช่นว่า แต่ก็ดังม้าสองตัวที่ออกวิ่งโดยพร้อมเพรียง ในท้ายที่สุดจะต้องมีผู้หนึ่งนำหน้า เกิดปัญหาข้อหนึ่งโดยเลี่ยงไม่ได้ ระหว่างสองท่านนี้ (ท่านกิมย้งและท่านโก้วเล้ง) ใครเหนือกว่า? กล่าวกับผู้อ่านตามตรง โดยส่วนตัวแล้วผมเคารพงานของทั้งสองท่าน และนั่นทำให้ยากที่ผมจะตัดสินใจว่านักเขียนท่านใดจะเหนือกว่าอีกท่านและเพราะเหตุใด แต่หลังจากได้อ่านเรียงความและบทความหลายชิ้นที่อธิบายแง่มุมต่างๆที่เกี่ยวข้องกับคำถามนี้ ผมรู้สึกราวกับมีก้างปลาติดในลำคอและผมจำต้องดึงมันออกเพื่อให้ผมรู้สึกดีขึ้น ดังนั้นผมขอเสนอความเห็นสักเรื่องตามแต่กำลังที่ผมเขียนในหัวข้อนี้ ถ้าความเห็นของผมแตกต่างจากของผู้อ่านในทางใดก็ตามก็โปรดอย่าโกรธเคืองนะครับ
ผมมักเชื่อว่าการอ่านหนังสือนั้นก็เช่นการมีความฝัน การอ่านนิยายกำลังภายในก็มิใช่ข้อยกเว้น
งานเขียนของท่านกิมย้งและท่านโก้วเล้งนำเสนอความฝันสองเรื่องที่แตกต่างกันให้แก่ผม
(ยังมีต่อ)
ท่านกิมย้งและท่านโก้วเล้ง
|
มังกรเมา | |
![]() |
ขอคาราวะด้วยใจจริงท่านพญาเหยี่ยวและท่าน Peking Man ที่นำสิ่งดีๆมาให้อีกแล้วครับ ข้าน้อยขอคาราวะ 1 จอก |
โจโฉ เม้งเต้ | |
![]() |
สุดยอดคับ ท่านพญาเหยี่ยว ท่าน Peking Man 1 จอก m (_ _) m |
พญาเหยี่ยว | |
![]() |
(ต่อ) ในความฝันของท่านกิมย้ง เรารู้สึกได้ราวกับว่าความรู้สึกของพวกเราถูกโยนไป รอบๆจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดขนานใหญ่หลายต่อหลายครั้ง ท่ามกลางสถานการณ์ และสิ่งแวดล้อมอันงดงามและแปลกประหลาด ในความฝันเหล่านี้ เราพอใจกับการ ซึมซับความฝันเหล่านี้ และเราก็รู้สึกพอใจจนตัวเราเองไม่ต้องการตื่นขึ้นมาจาก ฝันนั้น แต่ในตอนท้าย ฝันทั้งหมดก็จบลง และเมื่อเราตื่นจากฝันของท่านกิมย้ง เราก็ทราบว่านั่นเป็นเพียง "ความฝัน" ในแบบที่เรารู้สึกตัวตื่นจากฝันนั้นคือ "เจ้า เด็ก! นั่นเป็นเพียงความฝัน" หรือบางทีคุณอาจจะยังเหลือความประทับใจดีๆหรือ ความทรงจำของความฝันที่คุณเพิ่งจะมี สำหรับความฝันของท่านโก้วเล้งนั้นเหมือนฝันร้าย หรือความทรงจำที่ไม่ชัดเจน หรือไม่สมบูรณ์เสียมากกว่า ขณะที่มันอาจสวยงาม แต่มันไม่ใช่ความสุข ในฝัน เหล่านี้ มันคล้ายกับเรากำลังฝันซ้อนฝัน เราไม่อาจเชื่อมั่นว่าเราตื่นขึ้นมาจริงๆหรือ เรากำลังหลงทางในความฝันของเรา ความรู้สึกนี้แม้ว่าจะไม่ลึกล้ำและทรงพลัง และดังนั้นก็ยังไม่เท่ากับงานหลายชิ้นของเช็คสเปียร์ แต่ผมเชื่อว่ามันก็ไม่ได้ล้า หลังจนห่างไกลเกินไป ปัญหาจริงๆข้อหนึ่งที่เราต้องเกี่ยวพันในความพยายามจะเข้าใจงานของทั้งสองคือ เราที่เป็นมนุษย์ชอบที่จะมีแต่ฝันดีเท่านั้น นี่เพราะในชีวิตจริง ชีวิตนั้นเต็มไปด้วย ปัญหา และก็การบาดเจ็บและความเจ็บปวดมากมายเกินไปอยู่แล้ว และความฝัน เป็นที่ที่ดีที่สุดที่มนุษย์เราไปหาเพื่อหนีจากความจริง ไม่มีใครรักความเป็นจริง มากขนาดที่แม้แต่ในฝันก็ยังอยากเข้าไปเกี่ยวข้องและรับผิดชอบกับมัน เหตุผลที่ผมสร้างจุดนี้เป็นประเด็นคือผมต้องการชี้ว่าแนวโน้มตามธรรมชาติ สำหรับมนุษย์ที่ต้องการฝันถึงสิ่งสวยงามและความสุขเป็นเหตุผลว่าทำไมผู้คน จำนวนมากพบว่างานเขียนของท่านกิมย้งนั้นชอบได้โดยง่ายดายและว่างานท่านโก้ วเล้งนั้นไม่กระตุ้นให้เกิดความสนใจ ขณะที่ผมไม่สนใจที่จะวิจารณ์แนวโน้มข้อนี้ มันปฏิเสธไม่ได้ว่าการรักต่อสิ่งสวย งามและสิ่งดีๆนี้เป็นหนึ่งในแรงขับดันหลักโดยแท้ที่ผลักดันให้พัฒนาการของ มนุษย์ก้าวไปข้างหน้า หลังจากนั้น เมื่อได้มีประสบการณ์และเผชิญความลำบาก และอุปสรรคทั้งมวลในชีวิต เราทั้งหมดก็มีเหตุผลอันดีที่จะมองหาสรวงสวรรค์ของ เราเองที่เราจะปลดปล่อยความตึงเครียดและความเหนื่อยล้าของเราจากประสาท และอารมณ์ (ยังมีต่อ) |
พญาเหยี่ยว | |
![]() |
ขอบคุณท่านมังกรเมา ท่านโจโฉ เม้งเต้ และทุกท่านที่เข้ามาอ่านครับ |
มารบูรพาน้อย | |
![]() |
นี่แหล่ะที่ทำให้วรรณกรรมคลาสสิคแตกต่างจากวรรณกรรมร่วมสมัย ขอบคุณท่านพญาเหยี่ยว และท่าน Peking Manที่นำเสนอบทความที่น่าสนใจครับ ว่าแต่ผมพึ่งเข้ามาบอร์ดอ่ะ เดิมอยู่นิยายจีน ไม่รู้ว่ามีใครเก็บบทความเก่าๆไว้บ้างมั้ย |
พญาเหยี่ยว | |
![]() |
(ต่อ) เราต้องกล่าวขอบคุณอย่างใหญ่หลวงต่อท่านกิมย้งที่ให้สถานที่อันดีเลิศเพื่อผ่อนคลาย และปลดปล่อยแก่พวกเราที่ภายใน ท่านโก้วเล้งนั้นไม่เป็นที่สงสัยว่ามองเห็นปัญหาข้อนี้เช่นกัน (การให้ความฝันแก่ผู้อ่าน) เมื่อมนุษย์ทุกคนมักต้องการแรงขับเคลื่อนในการทำงานของตน ท่านโก้วเล้งต้องการ เปลี่ยนสิ่งที่จะเสนอให้แก่ผู้อ่าน เพื่อที่จะเข้าไปเกี่ยวข้องกับความต้องการของมนุษย์ ให้ดีขึ้นอีก ดังนั้นเขาได้ใส่คำคมและปรัชญาลงไปในงานเขียนของเขา เขายังใส่ตัว ละครหญิงที่สวยสะคราญ และคุณธรรมอันยิ่งใหญ่ลงในงานเขียนของเขา ในงาน เขียนยุคต่อๆมาของเขา เราจะเห็นความฝันแบบสุขนิยมโดดเด่นออกมา การมีชีวิต อยู่แบบโลกียชน ถูกเขียนออกมาในงานของเขา แต่ว่ามีสิ่งหนึ่งที่ขาดไปนับแต่เริ่มต้น ไปจนสิ้นสุดอาชีพนักเขียนของเขา นั่นคือความสุข ในบรรดางานเขียนของเขาทั้ง หมดไม่มีเลย ไม่มีความสุขให้พบเห็น! สุราและความรักทั้งหมดในงานเขียนของท่านโก้วเล้งไม่อาจปิดบังสำนึกอันลึกล้ำของ ความเศร้าโศกและความเสียใจที่เขาเกิดมากับมันและอาศัยอยู่ลึกลงไปในจิต วิญญาณของเขา ไม่ยากเย็นที่จะเชื่อว่าจริงๆแล้วเป็นธรรมชาติที่อารมณ์ทั้งสองอย่าง นี้จะแพร่ซึมลงในงานเขียนของเขา นี่ไม่ต้องสงสัยว่ามีส่วนร่วมต่อปรากฏการณ์ที่น่า สนใจมากๆในงานเขียนของท่านโก้วเล้ง: เมื่อเราอ่านถึงความสุขที่บรรยายในหลาย หน้าของงานเขียนของเขา มันตัดกับอารมณ์ลึกๆ และช่างเศร้าเสียจริงที่เหมือนมัน จะทิ่มแทงจิตใจและวิญญาณของเรา ท่านโก้วเล้งไม่เคยมีชีวิตที่ดีอย่างท่านกิมย้ง ท่านกิมย้งไม่เคยต้องกังวลว่าอาหารมื้อ ต่อไปของท่านจะมาจากที่ใด และท่านไม่เคยต้องเกี่ยวข้องกับความเศร้าโศกและ ความเสียใจที่กัดกินอยู่ภายในตัวของท่านเอง ด้วยปากกาของท่าน แม้แต่โศก นาฏกรรมก็แต่งเติมด้วยสำนึกแห่งความกล้าหาญและความเป็นวีรบุรุษ เฉกเช่นเสียง ร้องอันหวนโหยของเหล่านักรบที่ต่อสู้จนถึงวาระสุดท้ายแห่งชีวิต นี่คือบางสิ่งที่ท่านโก้ วเล้งไม่อาจเปรียบเทียบได้กับท่านกิมย้ง คำบรรยายของท่านกิมย้งต่อความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมานในงานเขียนของ ท่านเป็นสิ่งที่อย่างที่สุดแล้วเราสามารถจัดระดับได้ว่าเป็นความ "โหดร้าย" ยกตัวอย่าง เช่น เอี้ยก้วยต้องเสียแขนข้างหนึ่ง เซียวเหล่งนึ้งสูญเสียพรหมจรรย์ หรือเซียวฟงก ระทำอัตวินิบาตกรรมโดยใช้ศรที่หักแทงหัวใจตนเอง ภายใต้ปากกาของเขา คุณจะไม่ ได้เห็นลี้คิมฮวงที่ไอออกมาเป็นโลหิตขณะที่เขากำลังยิ้มแย้ม หรือโป้วอั้งเสาะซึ่งลาก ขาที่พิการข้างหนึ่งไปตลอดทาง เช่นกัน เป็นไปไม่ได้ที่คุณจะได้เห็นตัวละครที่มี ความสุขและโชคดีอย่างตวนอื้อปรากฏในงานเขียนของท่านโก้วเล้ง (ยังมีต่อ) |
พญาเหยี่ยว | |
![]() |
ขอบคุณท่านมารบูรพาน้อยครับ |
พญาเหยี่ยว | |
![]() |
(ต่อ) ถึงจุดนี้ ผมรู้สึกว่าสำคัญที่ผมจะเสริมความเห็นข้างบนของผม บางท่านรู้สึกว่าตัว ละครทั้งหมดของท่านโก้วเล้ง บุรุษต้องดื่มสุรา สตรีต้องเปลื้องผ้า และเรื่องของท่าน จำกัดวงอยู่กับความที่ไร้รสนิยมและรับไม่ได้ ในความคิดของผม ผู้คนซึ่งมีมุมมองของ ตนเองเช่นนี้ไม่มากก็น้อยมิได้เข้าใจถ่องแท้ถึงประเด็นที่มีผลต่อความสามารถใน การซึมทราบเนื้อหา เพราะความไร้รสนิยมและความคิดว่ารับไม่ได้มิได้เกิดจากภาย นอกตัวเราเอง แต่มันเป็นสิ่งที่เกิดจากภายในตัวเราเองเสียมากกว่า หรืออย่างน้อย ผมสามารถกล่าวว่าผมไม่เคยมองว่าการดื่มสุราและการเปลื้องผ้าใน นิยายเป็นสิ่งที่รับไม่ได้ และ/หรือความไร้รสนิยม สิ่งที่ผมเห็นและรู้สึกเป็นสำนึกถึง ความเจ็บปวดและความอ้างว้างเสียมากกว่า ผมยังเชื่อว่าผู้ที่อ่านนิยายของท่านโก้วเล้ งอย่างไม่ลำเอียงจะมีความคิดเช่นเดียวกับผมต่อเรื่องนี้ สำหรับผู้พเนจรคนหนึ่ง เขาหรือเธอไม่มีทางจะควบคุมว่าพวกเขาจะรู้สึกอย่างไรและ บุคลิกภาพของพวกเขาเป็นเช่นไร กับที่พวกเขาโดดเดี่ยวลำพังโดยไร้คนใส่ใจและใน เวลาเดียวกันพวกเขาไม่มีใครจะมาร่วมแบ่งปันความโดดเดี่ยว ความเจ็บปวด และ ความยากลำบาก พวกเขามิใช่สุภาพชน พวกเขาเป็นเพียงคนธรรมดาที่เร่ร่อนและ พยายามจะนำทางชีวิตของพวกเขาผ่านคลื่นมนุษย์ที่เราเรียกว่าชีวิตและความเป็นจริง ทุกสิ่งในการมีอยู่ของพวกเขาคือธรรมชาติและจริงแท้ แม้ว่าผู้เขียนที่ต่ำต้อยนี้ไม่ เคยมีประสบการณ์แบบความเปลี่ยวเหงาและความเจ็บปวดอย่างที่ตัวละครของท่าน โก้วเล้งต้องเผชิญ แต่ผมมั่นใจว่าตัวท่านโก้วเล้งเองมีประสบการณ์นี้ คำบรรยายของ ความรู้สึกเหล่านี้ที่เป็นสิ่งแท้จริงของท่านได้กำเนิดเสียงดนตรีกังวานขึ้นในหัวใจของ ผมที่เป็นคนออกจะไร้ความรู้สึกทางด้านนี้ด้วยซ้ำไป ในทางกลับกัน ในฉากของงานเขียนท่านกิมย้ง ซึ่งอุ้ยเซี่ยวป้ออาศัยในซ่องคณิกา หรือ ฮือเต๊กถูกกักในห้องน้ำแข็ง แม้ว่าที่จริงจะไม่ถึงกับเกินเลยไป แต่มันทำให้เกิดความ รู้สึกเช่นว่าและก็ไม่จำเป็น หรือบางทีท่านกิมย้งกำลังพยายามจะถ่ายทอดความรู้สึกที่ โรแมนติคและแนวคิดแปลกแยกลงในงานของท่าน นั่นเป็นสิ่งที่พวกเราจะไม่ได้ทราบ หรือหากท่านใดรู้ก็โปรดบอกผมด้วยครับ ไม่ว่าอย่างไรนี่ก็เป็นสิ่งที่ท่านจะไม่ได้พบ เจอในงานเขียนของท่านโก้วเล้งครับ |
พญาเหยี่ยว | |
![]() |
อ่านบทความนี้แล้วก็รู้สึกว่าท่านผู้เขียนมีแนวคิดคล้ายผมครับ อดไม่ได้ที่จะนำหนังสือรวมคำคมของท่านโก้วเล้งมาอ่าน นำมาลงในกระทู้นี้บ้างก็แล้วกันครับ -------------------------------------------- หากท่านคิดเสพสุขอันหวานชื่นของความรัก ก็ต้องกล้ำกลืนความกลัดกลุ้มและปวดร้าวซึ่งสืบเนื่องจากความรักด้วย จากดาวตก ผีเสื้อ กระบี่ |
พญาเหยี่ยว | |
![]() |
เมื่อเสพรับความสุขของการอยู่ร่วมแล้ว ไฉนไม่อาจกล้ำกลืนรับความปวดร้าวของการจำพราก? หากไม่เคยเผชิญความปวดร้าวของการจำพราก? ไหนเลยล่วงรู้ความสุขของการอยู่ร่วม? จากเรื่องตาขอจำพรากครับ |
พญาเหยี่ยว | |
![]() |
พลังจากรักแท้ เป็นสิ่งประโลมขวัญ จรรโลงชีวิตผู้คนยั่งยืนนานชั่วนิจนิรันดร์ จากเรื่องจับอิดนึ้ง |
พญาเหยี่ยว | |
![]() |
"มิใช่ความรัก" (บทที่หนึ่ง) ความรักคืออะไร? รักจะเป็นจะตาย... รักอย่างคลั่งไคล้... รักโดยขาดความยับยั้งชั่งใจ... รักอย่างที่ที่ขาดท่านเราต้องตาย... นอกจากท่านแล้ว เราไม่ต้องการอะไรทั้งสิ้น ไม่ต้องการรถยนต์... ไม่ต้องการบ้านช่อง... ไม่ต้องการชื่อเสียง... ไม่ต้องการการงาน... ไม่ต้องการสหาย... ไม่ต้องการกระทั่งพ่อแม่พี่น้อง... บุตรและสามีล้วนไม่ต้องการ กระทั่งทรัพย์สินเงินทอง อัญมณีมีค่าล้วนไม่ต้องการ ถึงกับกระทั่งมีชีวิตก็ไม่ต้องการได้ นี่นับเป็นความรักหรือไม่? ย่อมนับได้... หากกระทั่งความรู้สึกเช่นนี้ยังไม่นับเป็นความรัก... ยังมีความรู้สึกอะไรนับเป็นความรักได้? ...แต่ความรักเช่นนี้สามารถคงอยู่ได้นานเท่าใด? |
พญาเหยี่ยว | |
![]() |
การพลาดพลั้ง... เพียงก้าวเดียวจะเป็นอย่างไร? การล้มเหลวในวันนี้ ทำให้ภายหน้ายากยิ่งจะได้พบพานมันอีก จากเรื่องราชายุทธจักร |
พญาเหยี่ยว | |
![]() |
ขอเพียงในหัวใจสว่างไสว ไยต้องกลัวกับความมืด? จากเรื่องจอมดาบหิมะแดง |
พญาเหยี่ยว | |
![]() |
ขอบคุณท่าน Peking Man และทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ครับ |
vip | |
![]() |
ซึมซับ ได้แค่ไหนแล้วครับท่าน ระวังไฟธาตุแตกด้วยครับ อิอิ ล้อเล่น นะครับระวังไว้เป็นดี (ผมว่าผมอ่านหลายรอบ แต่ยังไม่มีมุมมองเท่าท่าน) เยี่ยมจริงๆ |
พญาเหยี่ยว | |
![]() |
อ่านหลายรอบเลยเหรอครับ ไม่อยากเชื่อ |
พญาเหยี่ยว | |
![]() |
รอบทความต่อไปของท่าน Peking Man อยู่นะครับ บทความนี้คงถือเป็นบทนำของ Jinology ก็น่าจะได้นะครับ |
มังกรไฟ | |
![]() |
"มิใช่ความรัก" (บทที่หนึ่ง) เขาเรียกว่าละเมอเพ้อพก เสียมากกว่า |
|