ผมดูเรื่องดาบมังกรหยก เห็นว่าเตียบ่กี้ เจอคำภีร์เก้าเอี้ยงในท้องลิง
ทำไมภึงไปอยู่ในนั้นได้ ช่วยบอกหน่อยนะครับ
ทำไมคำภีร์เก้าเอี้ยงถึงไปอยู่ในท้องลิงละครับ
|
สวย | |
![]() |
ก็จากภาค 2 ตอนสุดท้าย เซียวเซียงจื่อ กับ อึ้งเขียกไซ ขโมยเก้าเอี้ยงจากวัดเสียวลิ้มยี่ เอาไปเก็บไว้ในท้องลิงไง เพื่อจะได้สตอว่าเปล่าอยู่กะกรูไงคะ (แร๊ว เตียกุนป้อ เตียซำฮง ปรมจารย์ไทเก๊ก ผู้ก่อตั้งบู๊ตึ้ง ตอนสมัยยังเด็กกับ อาจารย์เค้า กั๊กเอี้ยงไต้ซือ ออกจากล่า 2 คนนี้ย์ เพราะอี 2 ตัวเนี้ยะ ไปขโมยคัมภีร์ในหอไตรมาค่ะ) จนหนีมาพบเอี้ยก้วย กับ พวกในตอนสุดท้าย ของภาค 2 ไงคะ |
ป๊อป | |
![]() |
ตอน ได้ฝึกคัมภีร์เก้าเอี้ยงฉบับสมบูรณ์ จากอ้างอิงจากหน้า 297 -300 ตำราเล่มนี้เป็นคัมภีร์นวภพจริง ส่วนสาเหตุที่ซ่อนอยู่ในท้องของค่างขาว ตอนนั้นทั่วทั้งแผ่นดินไม่มีผู้ใดทราบได้ ที่แท้เมื่อเก้าสิบกว่าปีก่อน เซียวเซียงจื้อกับอีเคอซี ขโมยคัมภีร์เล่มนี้จากหอเก็บคัมภีร์วัดเสี้ยวลิ้มยี่ ถูกกักเอี้ยงไต้ซือติดตามถึงยอดเขาฮั้วซัว เห็นแน่ชัดว่าไม่สามารถหนีรอดได้ ประจวบกับที่ข้างกายมีค่างตัวหนึ่ง เซียวเซียงจื้อกับอีเคอซีนึกได้อุบายหนึ่ง ผ่าท้องของค่างซุกซ่อนคัมภีร์อยู่ภายใน ภายหลังกักเอี้ยงไต้ซือ เตียซำฮงซึ่งตอนนั้นยังเป็นบุรษหนุ่มนามเตียกุนป้อและจอมยุทธอินทรีเอี้ยก่วยค้นตัวเซียวเซียงจื้อกับอีเคอซี ไม่พบเห็นคัมภีร์จึงปล่อยให้ทั้งสองนำค่างลงจากเขา เกือบร้อยปีมานี้ ร่องรอยของคัมภีร์นวภพกลายเป็นปริศนาสำคัญของบู๊ลิ๊ม ภายหลังเซียวเซียงจื้อกับอีเคอซี นำค่างออกเดินทางไกลถึงแดนไซฮก ทั้งสองล้วนกริ่งเกรงอีกฝ่ายหนึ่งฝึกปรือวิชาฝีมือในคัมภีร์ ใช้ทำร้ายตัวเองจึงไม่ยอมนำคัมภีร์ออกจากท้องค่าง สุดท้ายมาถึงยอดเขาเกียซิ้งฮงภูเขาคุนลุ้น เซียวเซียงจื้อกับอีเคอซีลอบทำร้ายกันและกัน จนรับบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย ยอดคัมภีร์ที่ใช้ฝึกปรือวิชากำลังภายในขั้นสูงสุดจึงฝากอยู่ในท้องค่าง พลังฝีมือของเซียวเซียงจื้อ ความจริงเหนือล้ำกว่าอีเคอซีขั้นหนึ่ง แต่ตอนอยู่บนยอดเขาฮั้วซัวได้ต่อยใส่กักเอี้ยงไต้ซือหมัดหนึ่ง ถูกกระแทกสะท้อนกลับมา จนรับบาดเจ็บสาหัส ดังนั้นพอต่อสู้กับอีเคอซีกลับเสียชีวิตก่อน อีเคอซีก่อนตาย พบพานสามศักดิ์สิทธิ์คุนลุ้นฮ่อจกเต๋า บังเกิดความไม่สบายใจ ขอให้ฮ่อจกเต๋าเดินทางสู่เสี้ยวลิ้มยี่ แจ้งต่อกักเอี้ยงไต้ซือว่าคัมภีร์เล่มนั้นอยู่ในท้องของลิงค่าง แต่ตอนกล่าววาจาสติเลอะเลือน ส่งเสียงไม่ชัดเจนความจริงกล่าวคำ “ เก็งต่อเก้าตัง” (คัมภีร์อยู่ในวานร) ฮ่อจกเต๋ากลับฟังเป็นคำ “เก็งต่ออิ้วตัง”(คัมภีร์อยู่ในน้ำมัน) ฮ่อจกเต๋ารักษาคำมั่นสัญญา เดินทางไกลเข้าสู่แผ่นดินตงง้วนถ่ายทอดคำพูด “ คัมภีร์อยู่ในน้ำมัน” ต่อกักเอี้ยงไต้ซือ กักเอี้ยงไต้ซือไม่เข้าใจความหมายในวาจา มิหนำซ้ำยังก่อเกิดเป็นมรสุมอันปั่นป่วน เป็นเหตุให้ยุทธจักรเพิ่มสำนักบู๊ตึง ง้อไบ๊ขึ้น ส่วนค่างตัวนั้นกลับโชคดี ระหว่างที่อยู่ในภูเขาคุนลุ้น ปลิดผลท้อเซียนรับประทาน ได้รับพลังวิเศษจากฟ้าดิน มีอายุเก้าสิบกว่าปี ยังโลดแล่นดั่งเหินบินขนยาวดำมะเมื่อมเปลี่ยนเป็นสีขาว กลายเป็นค่างขาวตัวหนึ่ง เพียงแต่คัมภีร์นวภพซ่อนอยู่ในท้อง ขวางทางเดินของกระเพาะลำไส้เป็นเหตุให้ปวดท้อง ฝีที่ท้องก็บัดเดี๋ยวยุบบัดเดี๋ยวกลัดหนอง จวบจนถึงวันนี้เตียบ่กี้ค่อยผ่าท้องนำคัมภีร์ออกมา สำหรับกับค่างขาวถือเป็นการขจัดสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกายออกไป เบื้องหลังอันสลับซับซ้อนนี้ ต่อให้เป็นคนฉลาดหลักแหลมกว่าเตียบ่กี้ร้อยเท่า ก็คาดเดาไม่ออก เตียบ่กี้ตะลึงลานชั่วขณะ ทราบดีว่ายากขบคิดคลี่คลาย ก็ไม่เปลืองสมองครุ่นคิดอีก เตียบ่กี้หยิบผลพ่วงท้อ ซึ่งค่างขาวมอบมาให้กัดกินคำหนึ่ง รู้สึกมีหยดน้ำอันหอมหวานไหลรินลงสู่ลำคอช้าๆ เปรียบกับผลไม้ป่าที่ไม่ทราบชื่อในหุบเขายังมีรสชาติเหนือกว่า เตียบ่กี้รับประทานจนหมดผล ค่อยครุ่นคิดขึ้น ไท้ซือแป๋ เคยบอกว่า หากเราฝึกปรือลมปราณนวภพของสำนักเสี้ยวลิ้มยี่ บู๊ตึง ง้อไบ๊ ทั้งสามสำนัก อาจสามารถขจัดพิษภายในกาย หากคัมภีร์เล่มนี้เป็นคัมภีร์นวภพจริง คัมภีร์นวภพเป็นต้นกำเนิดของลมปราณนวภพทั้งสามสำนัก อย่างนั้นการฝึกปรือตามคัมภีร์ ต่อให้เราคาดเดาผิดพลาด คัมภีร์เล่มนี้ไม่มีประโยชน์ ถึงกับฝึกปรือแล้วเป็นผลร้าย อย่างมากเพียงตกตายเท่านั้น ดังนั้นจัดวางคัมภีร์สามเล่มอยู่ในตำแหน่งที่แห้งสะอาด ปูหญ้าแห้งเอาไว้ค่อยทับหินใหญ่สามก้อน ป้องกันมิให้ลิงค่างหยิบฉวยไปฉีกทิ้งเสียหาย เพียงถือคัมภีร์ภาคแรกอยู่ในมือ อ่านทบทวนก่อนหลายเที่ยว จวบจนท่องจำแม่นยำจากนั้นศึกษาตีความ เริ่มฝึกปรือตั้งแต่ประโยคแรก เตียบ่กี้เห็นว่า ต่อให้ตนฝึกปรือลมปราณจากในคัมภีร์ ขจัดพิษเย็นภายในกายได้แต่เมื่อถูกกักอยู่ในหุบเขา ที่ปรากฏขุนเขารายล้อมรอบเช่นนี้ ก้ไม่สามารถออกไป วันเวลาในหุบเขายังยาวนาน วันนี้ฝึกปรือสำเร็จก็ตาม พรุ่งนี้ฝึกปรือสำเร็จก็ตาม หามีข้อแตกต่างไม่ มาตรว่าฝึกปรือไม่สำเร็จก็ถือว่าเป็นการฆ่าเวลา เตียบ่กี้เมื่อมีความคิดหากแม้นสำเร็จแม้ปลื้มปิติ มาตรว่าล้มเหลวก็ยินดีกลับมีความรุดหน้าอย่างรวดเร็ว ใช้เวลาสั้นๆสี่เดือน ก็ตีความเคล็ดวิชาในคัมภีร์ภาคแรกจนปรุโปร่ง และฝึกปรือตามนั้น หลังจากที่ฝึกคัมภีร์ภาคแรกเสร็จสิ้น งอนิ้วนับคำนวณดูพบว่าผ่านช่วงเวลาที่โอ้วแชงู้ลงความเห็นว่า พิษเย็นของเขาจะกำเริบเสียชีวิตไปแล้ว แต่เตียบ่กี้รู้สึกตัวเบา ร่างกายแข็งแรง พลังลมปราณหมุนเวียนทั่วร่างไม่มีอาการเจ็บป่วย ก่อนหน้านี้พิษเย็นกำเริบกระชั้นติดกัน ยามนี้ทอดห่างเป็นแรมเดือน ค่อยบังเกิดอาการเป็นครั้งคราว มิหนำซ้ำอาการเบาบางยิ่ง ครั้นเมื่อเตียบ่กี้ศึกษาตำราภาคที่สองได้ไม่นาน พบว่าในตำรามีข้อความ “สูดรับความร้อนทั้งเก้า รวมจิตใจก่อเกิดพลัง ดังนั้นคัมภีร์ขนานนามเก้าเอี้ยงจินเก็ง( คัมภีร์นวภพ)” ค่อยทราบว่านี้เป็นยอดตำราที่ไท้ซือแป๋ไฝ่ฝันได้เห็นจริงๆหลังความปิติยินดี ยังตั้งใจฝึกปรือกว่าเดิม นอกจากนั้นค่างขาวสำนึกบุญคุณที่เตียบ่กี้รักษาโรคให้ มักปลิดผลพ่วงท้อมาเป็นของกำนัล นี่เป็นผลไม้วิเศษที่เพิ่มพลังบำรุงร่างกาย เมื่อเตียบ่กี้ฝึกคัมภีร์ภาคที่สองไม่ถึงครึ่งเล่ม พิษเย็นภายในกายก็ถูกขจัดหมดสิ้นแล้ว ทุกวันเตียบ่กี้นอกจากฝึกพลังลมปราณแล้ว จะหยอกเล่นกับลิงค่างผลไม้ที่ปลิดได้ก็แบ่งครึ่งหนึ่งให้แก่จูเชี่ยงเล้ง กลับรู้สึกอิสรเสรี ปราศจากความวิตกทุกข์ร้อน แต่จูเชี่ยงเล้งอยู่บนแท่นศิลาเล็กๆ นับว่าผ่านวันดุจเป็นปีพอเข้าสู่ฤดูหนาว ทั่วทั้งภูเขากลับกลายเป็นหิมะน้ำแข็ง ลมหนาวเย็นเสียดกระดูก ความทุกข์ทรมานที่ได้รับสุดที่จะบ่งบอกบรรยายได้ เตียบ่กี้พอฝึกปรือคัมภีร์ภาคที่สองเสร็จสิ้น ก็ไม่เกรงกลัวความร้อนหนาวของอากาศ เพียงแต่ยิ่งฝึกปรือถึงตอนท้าย ยิ่งลึกล้ำยากลำบาก ความรุดหน้าก็ยิ่งเชื่องช้า คัมภีร์ภาคที่สามใช้เวลาหนึ่งปีเต็ม ส่วนภาคสุดท้ายใช้เวลาฝึกปรือถึงสามปี ค่อยสำเร็จแตกฉาน**อ้างอิงจากดาบมังกรหยก เล่ม2 หน้า 297 – 300 ** |
|