เนื้อเรื่องมันเรียงตามนี้ใช่มะ
1.แปดเทพ
2.มังกรหยกจอมยุทธ์ล่าอินทรีย์
3.มังกรหยกจอมยุทธ์อินทรีย์
4.กระบี่ฟ้าดาบฆ่ามังกร
ถามว่า
1. เส้าหลินเกิดตอนใน๋
2. เส้าหลินหายไปใน๋ในมังกรหยกภาค 1 กะ 2
สงสัยเรื่องเส้าหลินอะ -..- ใครรู้บอกที
|
ประจิมคลุ้มคลั่ง |
#2 ประจิมคลุ้มคลั่ง [ 25-06-2007 - 01:04:47 ] |
|
1. วัดเส้าหลินเกิดก่อน 8 เทพอสูรมานานแล้วครับ 2. มีอยู่ครับ แต่ไม่มีบทบาทเลย มีน้อยมาก สงสัยท่านกิมย้งลืมทำให้เด่น ![]() ![]() ![]() |
vมังกรหลับv |
#3 vมังกรหลับv [ 25-06-2007 - 20:54:54 ] |
|
เส้าหลินมันมีมานานแล้ว อะ ก่อน 8 เทพอีก น่าจะสมัยถัง หรือ ฮั่นนี่แหละ |
จุดจุดจุด | |
![]() |
อย่างที่ 3 ท่านกล่าวมาเลยครับ เส้าหลินมีมานานน๊านนานแล้ว เพียงแต่ที่ขาดหายไปไม่โดดเด่นน่าจะเป็น เพราะในวัดเส้าหลินไม่มีผู้สำเร็จวิชาที่ร้ายกาจแบบสะท้านยุทธภพ ผู้ที่ฝึกสำเร็จวิชาสุดยอดก็มีแต่บรรชิตที่ละทิ้งทางโลกแล้ว เช่น หลวงจีนกวาดลาน ในแปดเทพอสูรมังกรฟ้า (ชื่ออะไรยังไม่รู้เลย) ขณะที่ในยุทธภพมียอดวิชา และยอดฝีมือโผล่ออกมามากมาย คงเป็นแบบนี้มั๊งครับ ทำให้เส้าหลินไม่มีบทบาท โดนคนอื่นขโมยซีนไปหมด เหอๆๆ แปดเทพอสูรมังกรฟ้า เส้าหลินมีบทบาทเยอะมากๆ แต่ด้านวิชาแล้วไม่โดนเด่นเท่าไร ถ้าไม่นับหลวงจีนกวาดลาน มังกรหยก 1 เหอๆๆ ม่ายมีบทบาทเลย (จำไม่ได้ว่าโผล่มาตอนไหนบ้าง) มังกรหยก 2 เหอๆๆ ม่ายมีบทบาทเลยเหมือนกัน (คงมีแค่ตอนที่เอี๊ยก้วยพบหลวงจีนกั๊กเอี๊ยงเท่านั้นมั๊ง) ดาบมังกรหยก มีบทบาทค่อนข้างมาก เพราะเป็นที่มาของสุดยอดฝืมือเช่น เตียซำฮง และยังเกี่ยวพันกับตัวเอกของเรื่อง เป็นที่มาสุดยอดวิชาวิชาหนึ่งในยุคนี้คือ เก้าเอี้ยง ปล. เคยดูตอนเดชมารคัมภีร์นพเก้า ที่เป็นภาพยนต์นะ มีตอนที่ อึ้งเอี๊ยะซือตอนหนุ่มบุกวัดตามหาคน ไม่รู้ใช่วัดเส้าหลินไหม เหอๆๆ |
... | |
![]() |
ในดาบมังกรหยกเส้าหลินมีบทบาทมากขึ้นนะ โดยเฉพาะไกล้จบมีการประลองกันที่วัด |
จอมยุทธ์มังกรน้อย |
#7 จอมยุทธ์มังกรน้อย [ 29-06-2007 - 18:10:24 ] |
|
วัดเส้าหลินก่อตั้งใน พ.ศ. 1038 (ค.ศ. 495) ในช่วงราชวงศ์เว่ย รัชสมัยของพระเจ้าเสี้ยวเหวินตี้ (孝文帝) เพื่อให้พระภิกษุจากอินเดีย นาม ป๋าถัว (跋陀) มาพำนักและเผยแผ่พุทธศาสนา ในขณะนั้นพระอาจารย์ป๋าถัวมีศิษยานุศิษย์เป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตามหลังจากพระอาจารย์ป๋าถัวมรณภาพ ความเจริญของวัดเส้าหลินก็ค่อยๆ เสื่อมถอยลง วัดเส้นหลินมีชื่อเสียงขึ้นอีกครั้ง เมื่อปรมาจารย์ตั๊กม้อหรือ พระโพธิธรรมเถระ ซึ่งเป็นพระภิกษุชาวอินเดีย ได้จาริกมาเพื่อเผยแผ่หลักธรรมพุทธศาสนานิกายธฺยานะ (เซน) ในประเทศจีน ตรงกับรัชกาลพระเจ้าเหลียงบู้ตี้ (ประมาณ พ.ศ. 1070) ตามประวัติเล่าว่า หลังจากเข้าเฝ้าพระจักรพรรดิแล้ว พระองค์ไม่ทรงเข้าพระทัยในคำสอนของพระโพธิธรรม พระโพธิธรรมจึงได้เดินทางข้ามแม่น้ำแยงซีด้วยต้นอ้อลำเดียว ขึ้นเขาซงซานมายังวัดเส้าหลินและนั่งสมาธิในถ้ำหันหน้าเข้าฝาผนังอยู่ 9 ปีเต็ม ก่อนจะถ่ายถอดธรรมะให้แก่ศิษย์คือท่านฮุ่ยเข่อเพื่อสืบทอดเป็นพระสังฆปริณายกองค์ต่อไป เชื่อกันว่าวิทยายุทธ์ของเส้าหลินสืบทอดมาจากปรมาจารย์ตั๊กม้อ โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากการที่ท่านเห็นว่าพระภิกษุจะต้องนั่งสมาธินานๆ โดยไม่ได้เคลื่อนไหวออกกำลังกายจะทำให้สุขภาพร่างกายเสื่อมทรุดได้ ดังนั้นท่านจึงอาศัยพินิจการเคลื่อนไหวตามธรรมชาติของสัตว์ต่างๆ มาดัดแปลงกำหนดเป็นท่าทางเพื่อการออกกำลังกายและใช้ป้องกันตัว วิทยายุทธ์อันล้ำลึกเหล่านี้ทำให้พระวัดเส้าหลินต้องเข้ามามีส่วนเกี่ยวพันกับเรื่องทางโลกในประวัติศาสตร์จีนหลายครั้ง เช่น ช่วงต้นศตวรรษที่ 7 ในยุคราชวงศ์สุย-ถัง พระวัดเส้าหลินได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือหลี่ซื่อหมิน เพื่อต่อสู้กับหวังซื่อชง และต่อมาเมื่อหลี่ซื่อหมินได้รับการสถาปนาเป็นจักรพรรดิถังไท่จงแห่งราชวงศ์ถัง พระสงฆ์ 13 รูปจึงได้รับเกียรติคุณให้ดำรงตำแหน่งสำคัญในราชสำนัก และวัดเส้าหลินก็ได้รับการอุปถัมภ์จากพระจักรพรรดิ ต่อมาในยุคของพระนางบูเช็กเทียน (武则天) ได้มีการสนับสนุนการเผยแผ่ศาสนาพุทธเป็นอย่างมาก วัดเส้าหลินก็กลายเป็นวัดอันดับหนึ่งในใต้หล้า (天下第一名刹) ไปโดยปริยาย หลังจากประเทศจีนเข้าสู่ยุคสาธารณรัฐ วัดเส้าหลินก็ถึงยุคตกต่ำถึงขีดสุด เมื่อปี พ.ศ. 2470 (ค.ศ. 1927) ในช่วงที่จีนกำลังวุ่นวายกับการต่อสู้แย่งชิงอำนาจของเหล่าขุนศึก วัดเส้าหลินก็ถูกเผาทำลายครั้งใหญ่ โดยเพลิงได้ลุกโชนอยู่นานถึง 45 วัน สิ่งก่อสร้างในวัดเส้าหลินเกือบทั้งหมดถูกทำลายในกองเพลิง วิหาร ศาลา ตึกหลัก ๆ ได้ถูกเผาทั้งหมด ส่วนคัมภีร์วรยุทธ์ รวมถึงตำราและสมบัติล้ำค่าของวัดมากมาย ก็สูญหายไปในเพลิงอัคคีครั้งนั้น ปัจจุบันวัดเส้าหลินได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจีนที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก |
|