วรยุทธ์หรือวิชาใดที่โบราณหรือเกิดขึ้นมานานแล้วบ้าง
|
เพลงพิณ |
#1 เพลงพิณ [ 30-08-2010 - 20:13:38 ] |
|
อยากทราบวรยุทที่มามานานแล้วอ่ะครับ อย่างเช่นของสำนักบู๊ตึ้งเองก็มีมาตอนราชวงศ์หยวน หรือใครพอมีข้มูลไหมว่าสำนักใดหรือวิชาใดตรงกับสมันราชวงศ์ใดอ่ะครับ |
เทพสุรา |
#2 เทพสุรา [ 31-08-2010 - 06:02:40 ] |
|
เพลงกระบี่ : เก้ากระบี่ต๊กโกว ของ ท่านต๊กโกวคิ้วป้าย <- ตัวละครที่เก่งที่สุดในนิยายกิมย้ง เพียงศัตรูได้ยินชื่อต๊กโกว ก็จะต้องยอมศิโรราบ 1 ท่าพื้นฐาน ของ 9 กระบวนท่า 2 ท่าแก้กระบี่ ปราบเพลงกระบี่ทั่วแผ่นดิน 3 ท่าแก้ดาบ ชนะเพลงดาบทั้งหมดได้ 4 ท่าแก้หอกกระบอก และอาวุธยาวทุกชนิด 5 ท่าแก้ อาวุธอ่อน โซ่ แส้ กระบองหลายท่อน 6 ท่าแก้โล่ 7 ท่าแก้เพลงฝ่ามือ ทุกชนิด 8 ท่าแก้อาวุธลับ ทุกชนิด 9 ท่าแก้พลังวัตร ทุกรูปแบบ ผู้ที่ใช้ ในนิยายที่เก่ง ๆ มีเพียง เอี้ยก้วย เล่งฮู้ชง ฟงชิงหยาง คัมภีร์ทานตะวัน ขันทีที่คิดค้นคัมภีร์ทานตะวัน (คัมภีร์เทวดา) เป็นขันทีแห่งวังหลวง ได้คิดค้นขึ้น วรยุทธ์ของขันทีผู้นี้ เรียกว่าสะท้านบู๊ลิ้ม.. ในนิยายที่เก่งที่สุดมีเพียง ตงฟางปุ๊ป้าย บูรพาไม่แพ้... ( เก่งขนาด ใช้เข็มเดียว ต้านยอดฝีมือที่เก่งสุดๆ ในยุคกระบี่เย้ยยุทธจักรถึง 3 คน ในนิยาย...) คัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น 1 ใน คัมภีร์เก้าเอี้ยงจินเก็ง ผู้ที่ฝึกสำเร็จมีเพียง ปรมาจารย์ตั๊กม้อ เท่านั้น ... เมื่อฝึกสำเร็จจะมีพลังวัตรสูงมาก.. คัมภีร์เก้าเอี้ยงจินเก็ง ถูกคิดค้นโดยท่านปรมาจารย์ตั๊กม้อก่อนตาย วิชานี้จะเน้นที่เสริมสร้างพลังวัตรอย่างมาก เป็นวิชาธาตุร้อน ผู้ที่ฝึกสำเร็จมีพลังวัตรเลิศล้ำ... ลมปราณภูติอุดร เป็นวิชาที่ใช้ในการดูดพลังวัตรของฝ่ายตรงข้าม มาเป็นของเรา ซึ่งวิชานี้เหนือกว่า มหาเวทย์ดูดดาว หรืออื่นๆ เพราะสามารถนำพลังมาใช้เป็นของเราได้ ผิดกับมหาเวทย์ดูดดาว ที่ไม่สามารถคลายลมปราณที่เราดูดมาได้ นอกเสียจาก ใช้คัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น สลายลมปราณ ฝ่ามือ 18 พิชิตมังกร : เป็นวิชาสายฝ่ามือที่เรียกว่ารุนแรงและแข็งกร้าวมากที่สุด อาณุภาพทำลายหินผาได้อย่างง่ายดาย ผู้ที่ฝึกและใช้ได้ดีที่สุด คือ เฉียวฟง แห่ง 8 เทพอสูรมังกรฟ้า 1. มังกรกลางนา 2. มังกรพิโรธ 3. มังกรชิงมุข 4. มังกรคายแก้ว 5. มังกรสะบัดหาง 6. มังกรกลืนสมุทร 7. มังกรวายุ 8. มังกรคู่ออกศึก 9. มังกรเขียวออกศึก 10. มังกรไร้เศียร 11. มังกรพันเศียร 12. มังกรถามทาง 13. มังกรหมื่นลี้ 14. มังกรแฝงกาย 15. มังกรล้อมเงา 16. มังกรล้อมตะวัน 17. มังกรขนกหัว 18. มังกรร่ายรำ ดรรชนีกระบี่ 6 ชีพจร : วิชานี้เรียกว่า สูสีกับ เก้ากระบี่ต๊กโกวเลยทีเดียว เป็นการใช้พลังลมปราณ แทนกระบี่ ซึ่งใช้นิ้วแทนกระบี่ วิชานี้นับว่าไร้เทียมทานเลยทีเดียว ผู้ที่ใช้ได้ดีที่สุดคือ ต้วนยี่ แห่ง 8 เทพอสูรมังกรฟ้า มหาเวชดูดดาว เยอะอยู่นะครับ เท่าที่อ่านและดูหนัง แต่จำได้เป็นบางส่วน แต่ที่เอามาคือวิชาที่มันเด่นๆ นะครับ ปล.ถ้ายุคสมัย ราชวงค์ ต้องรอ ท่านเก้ากระบี่เดียวดาย นะครับ ข้าได้เท่านี้หละ |
เพลงพิณ |
#3 เพลงพิณ [ 06-09-2010 - 00:55:11 ] |
|
ขอบคุณนะครับ แล้วถ้าเป็นวิชาที่มีอยู่จริงล่ะครับ ก่อนที่จะมี ท่านตั๊กม้อ ใด้มีวิชาใดเกิดขึ้นมาแล้วบ้าง |
เทพสุรา |
#4 เทพสุรา [ 06-09-2010 - 02:48:20 ] |
|
วิชาที่มีอยู่จริงหรือครับ ก่อนที่ท่านตั๊กม้อ ผมก็ไม่รู้นะ แต่ถ้าเป็นหลังท่านผมก็เคยอ่านมาบ้าง ![]() ![]() ![]() ![]() "วัดเส้าหลิน" ถิ่นยอดกังฟูแดนมังกร “วัดเส้าหลิน” หรือ “เสี้ยวลิ้มยี่” หลายๆคนรู้จักชื่อเสียงของวัดนี้เป็นอย่างดี เพราะกว่าครึ่งของนิยายหนังจีนกำลังภายใน ล้วนเอ่ยถึงวิชาเพลงหมัดมวย หรือ“กังฟูเส้าหลิน”อันยอดเยี่ยมจาก หลวงจีนเส้าหลินให้ได้ประจักษ์กันอยู่เสมอ ในยุคนี้เส้าหลินไม่เพียงแค่โดดเด่นเรื่องกังฟูเท่านั้น แต่วัดเส้าหลินยังถือเป็นวัดพุทธ นิกายเซ็นอันดับหนึ่งในเมืองจีนอีกด้วย วัดเส้าหลินวัดเก่าแก่กว่า 1,500 ปี ที่วันนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของเมืองจีน วัดเส้าหลิน(Shaolin Temple) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเทือกเขาซงซาน ในอำเภอเติงเฟิง (Dengfeng)แห่งมณฑลเหอหนาน(Henan) วัดนี้สร้างขึ้น ใน ค.ศ. 495 ในสมัยของเซี่ยวเหวินตี้ฮ่องเต้ (ครองราชย์ค.ศ. 471 – 499) แห่งราชวงศ์วุ่ย(เว่ย) ปัจจุบันวัดเส้าหลินมีอายุกว่า 1,500 ปี ซึ่งทางรัฐบาลจีนกำลังขอเป็นมรดกโลก เจ้าอาวาสท่านแรกแห่งเส้าหลินคือท่านปรมาจารย์ “ตั๊กม้อ”(ชื่อจีน) หรือ “ตะโม ภิกขุ”(ชื่ออินเดีย) หรือ “พระโพธิธรรม”(ชื่อไทย) เป็นพระภิกษุชาวชมพูทวีป(อินเดีย) ที่ว่ากันว่าท่านตั๊กม้อเป็นถึงโอรสกษัตริย์ที่ออกบวชเพราะซาบซึ้งในรสพระธรรม และท่านได้เดินทางจากอินเดีย มาเผยแผ่พุทธศาสนานิกายเซ็นในเมืองจีน ราว ค.ศ. 527 ท่านตั๊กม๊อไม่เพียงแต่ยอดเยี่ยมในทางธรรมเท่านั้น แต่ว่าในเรื่องของวิทยายุทธ์ท่านก็สุดยอดเหมือนกัน ครั้นเมื่อมายังวัดเส้าหลินเห็นว่าวัดนี้ตั้งอยู่ในป่าที่ชุกชุมไปด้วยสัตว์ร้าย และการที่บรรดาหลวงจีน ต้องนั่งสมาธินานๆโดยไม่ได้ออกกำลังกายก็ทำให้สุขภาพเสื่อมโทรมได้ง่าย ท่านตั๊กม้อจึงได้คิดเพลงหมัดมวยขึ้นมาเพื่อใช้ออกกำลังกาย และใช้ป้องกันตัวจากสัตว์ดุร้าย และนั่นก็คือต้นกำเนิดของกังฟูเส้าหลินอันลือลั่น ซึ่งในวันนี้กังฟูเส้าหลิน ถือเป็นหนึ่งในสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวที่เคียงคู่มากับความเก่าแก่และสิ่งที่น่าสนใจภายในวัด จนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง แห่งมณฑลเหอหนาน ซึ่งเมื่อเดินทางมาถึงเชิงเขาซงซานบริเวณที่ตั้งวัด ก็จะเห็นรูปปั้นสีดำทะมึนของหลวงจีนเส้าหลิน ยืนประสานมือต้อนรับนักท่องเที่ยว ในท่วงท่าที่คอหนังจีนกำลังภายในคงจะคุ้นกันดี (เรียบเรียงข้อมูลจาก คอลัมน์ของ "กระบี่พลิ้ว" ในผู้จัดการออนไลน์ 25 เมษายน 2548 ) |
เทพสุรา |
#5 เทพสุรา [ 06-09-2010 - 03:04:34 ] |
|
เกิ่นไปแล้วเข้าเรื่องเลยละกันครับ หลักวิทยายุทธ์ของเส้าหลินนั้น จะเน้นไปในด้านความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อและกระดูก เคลื่อนไหวรวดเร็วและมีพละกำลัง ซึ่งจะต่างกับ บู๊ตึ๊ง ซึ่งเป็นอีกสำนักยุทธจักรหนึ่ง ซึ่งเน้นไปทางด้านนิ่มนวล หรือที่เรียกกันว่าใช้ความอ่อนโยนสยบความ ดุดันนั่นแหละ แต่ไม่ว่าจะเป็นเส้าหลินหรือบู๊ตึ๊ง ต่างก็ต้องศึกษา พื้นฐานวิทยายุทธ์อันเดียวกันก่อน ซึ่งมีอยู่ 2-3 อย่าง อาทิ การสกัดจุด ได้แก่ การใช้นิ้วจี้จุดสำคัญ อันเป็น ศูนย์ประสาทบนร่างกายของศัตรู ทำให้มันผู้นั้น ถึงแก่การเป็นอัมพาต มิอาจเคลื่อนไหวร่างไป ชั่วขณะ ซึ่งผู้มีวิทยายุทธ์นี้จะต้องเรียนรู้ถึง ตำแหน่งจุดสำคัญนั้น ซึ่งมีอยู่มากมายทั่วร่าง โดยหลักการถือว่าเมื่อจี้จุดดังกล่าวแล้ว จะทำให้ กระแสโลหิตถูกปิดกั้น มิอาจไหลวนเวียนไปเลี้ยง ร่างกายได้ เกิดอาการชา และถ้าถูกปิดกั้นนานๆ ก็ส่งผลให้ ถึงแก่ความตายได้ วิชาตัวเบา (ฉิงกง) เป็นเทคนิคการฝึกฝน ร่างกายให้ตัวเบาและว่องไว ก็อย่างที่เห็นนักสู้ผู้กล้าสามารถเหินขึ้นไปต่อกรกันบนยอด ไม้หรือบนหลังคาเก๋งจีนนั่นแหละ นักบู๊บางคนถึง กับเดินบนผิวนํ้าในทะเลสาบได้อย่างสบายๆ ซึ่งแท้จริงแล้วอาจจะดูเกินจริงไปหน่อย เพราะในคัมภีร์กังฟูของเส้าหลินนั้น อย่างเก่งก็เพียงแต่ฝึกให้นักสู้สามารถตัวเบา เกาะไต่กำแพงสูงๆ ขึ้นไปได้คล้ายจิ้งจกเท่านั้น ซึ่งแค่นี้ก็ต้องฝึกกันเป็นปีๆ อย่างเหน็ดเหนื่อยรวดร้าวกว่าจะมี ความชำนาญ พลังดัชนี (จินก้งจือ) ได้แก่ การฝึกให้นิ้วมีความแข็งแกร่งดุจเพชร แรกๆ ก็เริ่มจากการ ฝึกทิ่มทะลวงวัสดุอ่อนๆ เช่น ต้นกล้วย ต้นไม้ อิฐ ไปจนถึงกำแพงและหินผา ฝึกกันทั้งวันทั้งคืน จนสามารถทิ่มศิลาเป็นรูโบ๋ได้อย่างง่ายดาย ก็ถือว่าสำเร็จวิทยายุทธ์นี้แล้ว กำลังภายใน (เหน่ยลี่) จัดว่าเป็นพื้นฐานที่สำคัญ ที่สุดก็ว่าได้ เพราะหากว่าปราศจากกำลังภายในอันแข็งแกร่งเสียแล้ว การจะเหาะเหิน หรือจี้จุด ก็มิอาจจะกระทำได้ดังใจ ซึ่งความสามารถ พิเศษนี้จะ เกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ นักสู้มี จิตใจที่สงบแน่วแน่ลุ่มลึก เรียกว่าต้องใช้ สมาธินั่นแหละ มีการควบคุม การหายใจให้แผ่วเบาสมํ่าเสมอทั้งนี้ คนทั่วไป จะหายใจเข้าราวๆ 18 ครั้งต่อนาที แต่นักสู้ผู้กล้าจะ สามารถควบคุม การหายใจเข้าจนเหลือเพียง 3 ครั้งต่อนาทีเท่านั้น ซึ่งตามหลัก วิทยาศาสตร์แล้ว ผู้ใดที่มีการหายใจช้ากว่า ก็จะมี หัวใจและปอด รวมทั้งร่างกายที่แข็งแรงกว่าครับ ซึ่งเมื่อควบคุมสมาธิได้แล้ว เหล่าจอมยุทธ์ก็สามารถ รวบรวมพลังให้เป็นหนึ่งเดียว ไปที่ นิ้วหรือฝ่ามือจนมีพลานุภาพ อาจทำลายแม้กำแพงอัน แข็งแกร่งได้โดยง่าย สำหรับยุทธจักรเส้าหลินนั้น ตำนานกล่าวว่า มีกระบวนท่ามือเปล่าอยู่ถึง 172 ท่า โดยในวัดจะ มีภาพแกะสลักไม้ของท่าวิทยายุทธ์ เหล่านี้ติดอยู่ในห้องโถงใหญ่ ส่วนโถงด้าน ในจะเป็นที่เก็บ อาวุธต่างๆ โดยแขวนไว้กับ ราว ซึ่งพร้อมที่จะ ฉวยคว้ามาใช้งานได้ ทันท่วงที เพลงมวยของวัดเส้าหลินอาจ แบ่งออกได้ มากกว่า 50 ชนิด ในชื่อต่างๆ กัน ที่รู้จักกัน ดีก็มีอาทิ ฝ่ามืออรหันต์ กระบวนท่าเจ็ด ดาวเหนือ พลังจู่โจมกระแสนํ้าบ่า เป็นต้น เส้าหลินป็นวัดหลักของพุทธศาสนาในแผ่นดินจีน จึงมีความมั่งคั่ง ภายในวิหารมี ประติมากรรม 8 อรหันต์ทองคำลํ้าค่าประดิษฐานอยู่ ซึ่งเป็นที่หมายปองของโจรร้าย และจอมยุทธ์สำนักอื่น การฝึกฝนต่อสู้จึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่ง ซึ่งภิกษุเส้าหลินจำเป็นต้องใช้เพื่อปกป้องวัด สำนักเส้าหลินเป็นหนึ่งในสำนักใหญ่ของวิทยายุทธ์จีน มีการบันทึกว่าหลวงจีนแห่งวัดเส้าหลิน ภูเขาซงซานในสมัยราชวงศ์ถัง จำนวน 13 รูป ได้ช่วยถังไท่จงฮ่องเต้ปราบกบฏได้สำเร็จ มีคุณูปการต่อราชวงศ์ถัง สำนักนี้มีการถ่ายทอดวิทยายุทธ์ออกไปอย่างกว้างขวาง วิชามวยของสำนักเส้าหลินมีท่วงท่าที่เหยียดกว้าง แกร่งกร้าว มีพลัง มีการเคลื่อนไหวท่วงท่าที่เรียบง่าย สามารถใช้ในการต่อสู้ได้เป็นอย่างดี สำนักเส้าหลินมีวิชามวยและวิชาอาวุธมากมายหลากหลายชนิด ที่มีชื่อเสียง เช่น หลอฮั่นเฉวียน (หล่อฮั่งคุ้ง มวยอรหันต์) เผ้าเฉวียน (เพ่าคุ้ง), เหมยฮวาเฉวียน (บ่วยฮวยคุ้ง มวยดอกเหมย) เส้าหลินกุ้น (เสี้ยมหลิ่มกุ่ง พลองเส้าหลิน) ต๋าหมัวเจี้ยน (ตักหม่อเกี่ยม กระบี่ตั๊กม้อ) เหมยฮวาเตา (บ่วยฮวยตอ ดาบดอกเหมย) และชุนชิวต้าเตา (ซุงชิวตั่วตอ ง้าวชุนชิว) เป็นต้น สำนักเส้าหลิน แบ่งออกเป็น 5 สำนักใหญ่ อันมี เอ๋อเหมยเส้าหลิน (หง่อไบ๊เสี้ยวลิ้ม), อู่ตังเส้าหลิน (บูตึงเสี้ยวลิ้ม), ฝูเจี้ยนเส้าหลิน (ฮกเกี่ยงเสี้ยวลิ้ม), กว่างตงเส้าหลิน (กึงตังเสี้ยวลิ้ม) และเหอหนานเส้าหลิน (ห่อน้ำเสี้ยวลิ้ม วัดเส้าหลินที่เขาซงซาน) ชื่อเสียงของยุทธจักรวัดเส้าหลินระบือไกล มีผู้มาขอเป็นศิษย์รํ่าเรียนมากมาย จนต้องเปิดสาขา ขึ้นอีกแห่งหนึ่งในมณฑลทางใต้ และยั่งยืนเกริกไกรอยู่หลายร้อยปี และเป็นเสาหลักในการต่อต้านการรุกรานของพวกแมนจู แต่แล้วในที่สุด ความโด่งดังของ วัดเส้าหลินก็มี อันต้องปิดฉากลงด้วยนํ้ามือ ของแมนจู ซึ่งปราบราชวงศ์หมิงลงอย่าง ราบคาบ และก่อตั้งราชวงศ์ชิงขึ้น วัดเส้าหลินซึ่งเคยต่อต้านแมนจู จึงถูกขุนศึก สือโย่งซาน แห่งแมนจูเผาทำลาย เพลิงไหม้อยู่ นานถึง 40 วัน วิหารและ โถงใหญ่ถูกผลาญเรียบ ![]() หลวงจีนวัดเส้าหลิน ![]() ภาพการฝึกของศิษย์เส้าหลินยุคปัจจุบัน จบตำนานวัดเส้าหลินโดยย่อ ป้าเสลาเรียบเรียงจาก www.artsmen.net โดย Thairuth และ จาก เกร็ดบู๊ลิ้ม สำนักเส้าหลิน โดยอ.เซียวหลิบงั้ง (webmaster www.thaitaiji.com) |
กระบี่เก้าเดียวดาย |
#6 กระบี่เก้าเดียวดาย [ 10-09-2010 - 03:10:17 ] |
|
แก้ไข+เพิ่มเติม 1) เอี้ยก้วย ไม่ใช่ผู้ใช้ เก้ากระบี่เดียวดาย เพราะมันไม่มีเคล็ด ครับ ท่านเทพสุรา 2) สันนิษฐานว่า มารกระบี่แสวงพ่าย น่าจะอยู่ในช่วงยุคปลายสุดของ ซ้องเหนือ ครับ 3) คัมภีร์ทานตะวันเกิดปลายสมัย ราชวงศ์ถัง ประมาณช่วงขันทีเรืองอำนาจในยุค หยางกุ้ยเฟย ครับ 4) เก้าเอี้ยงจินเก็ง เป็นคัมภีร์ที่หายสาบสูญของเส้าหลิน ซึ่งเล่ากันว่า เกิดมาจากลูกศิษย์เอกของประมาจารย์ตั๊กม้อได้บัญญัติขึ้นมา ปัจจุบัน เหลือแต่ตำนาน ครับ 5) ลมปราณภูติอุดร เป็นของเต็งชุนชิวที่ต่อมาได้ส่งต่อให้กับต้วนอื้อ วิชานี้มีข้อเสีย คือ ไม่สามารถดูดลมปราณของฝ่ายที่มีลมปราณเหนือกว่าตนได้ ต่างกับมหาเวทย์ดูดดาวที่ดูดได้ทุกอย่าง และ เพราะมันดูดได้หมดทุกอย่าง จึงทำให้ดูดกระทั่งปราณพิษเข้ามาในตัวได้ด้วย ครับ 6) กระบี่หกชีพจร ต้วนอื้อใช้ได้ครึ่ง ๆ กลาง ๆ ครับ แต่เป็นคนเดียวที่ใช้ได้ มันเลยไม่มีใครเปรียบเทียบ 7) มหาเวทย์ดูดดาว คาดว่า ยิ่นอั๊วะฮั้ง พัฒนามาจากลมปราณภูติอุดร แต่น่าจะได้วิชาไม่สมบูรณ์ แต่กระนั้น วิชานี้ก็ดูดได้แทบจะทุกอย่าง ! ! เหมาะมากที่จะเอาไว้ดูดฝุ่นตามบ้าน ฮาฮาฮา ส่วน วิชาที่มีอยู่จริง 1) เปลี่ยนเส้นเอ็น (ปัจจุบันมีวางจำหน่าย ณ วัดเส้าหลิน ฮา) 2) กระบี่ไท่เก๊ก ไปหาดูแถวสวนลุมฯ สิครับ ฮา 3) มวยไท่เก๊ก ในไทยส่วนใหญ่เป็นของสายตระกูลหยาง ครับ 4) มวยกายใจ (สิงอี้เฉวียน) 5) หมัดแปดปรมัตถ์ (ปาจี๋เฉวียน) 6) ฝ่ามือแปดทิศ (ปากัวจ่าง) 7) มวยตั๊กแตน 8) มวยหวิงชุน ดังสุดก็ อ. หยิบมั่น (อ่านตามจีนกวางตุ้งนะ) ครับ ฯลฯ ส่วนวิชาที่เกิดขึ้นก่อนสมัยราชวงศ์ชิง ปัจจุบันน่าจะสาบสูญไปเกือบหมดแล้วครับ เท่าที่เหลืออยู่ก็ ไท่เก๊ก, เปลี่ยนเส้นเอ็น, มวยกายใจ (ไม่ทราบที่มาเลย) เป็นต้น |
เพลงพิณ |
#7 เพลงพิณ [ 11-09-2010 - 11:42:51 ] |
|
ขอบคุณนะครับสำหรับข้อมูลดีๆๆๆ อืมถามอีกอย่างนะครับ คิดว่าบุคคลใดในนวนนิยาย ที่ทีตัวตนอยู่จริงๆๆ และสำนักที่มีอยู่จริงๆๆ อ่ะครับ |
กระบี่เก้าเดียวดาย |
#8 กระบี่เก้าเดียวดาย [ 11-09-2010 - 18:49:37 ] |
|
บุคคลในจักรวาลปู่กิม ที่มีจารึกในประวัติศาสตร์ (ในวงเล็บคือ ชื่อเรื่อง) - เย่ว์ลี่หงจี (แปดเทพอสูรมังกรฟ้า) --- เป็นจักรพรรดิองค์รองสุดท้ายของราชวงศ์เหลียว - ต้วนอื้อ (แปดเทพอสูรมังกรฟ้า) --- ถ้าจำไม่ผิด จักรพรรดิองค์ที่ 33 ของราชวงศ์ต้าหลี - อากุด้า (แปดเทพอสูรมังกรฟ้า) --- จักรพรรดิองค์แรกของราชวงศ์จิน (กิมก๊ก) - ลู่เหวินฮวน (มังกรหยก จอมยุทธยิงอินทรี) --- แม่ทัพผู้เฝ้าเมืองเซียงเอี๊ยง (เกงจิ๋ว นั่นล่ะ เพราะมันเปลี่ยนชื่อตั้งแต่สมัยจิ้นแล้ว) ในเรื่องเป็นแม่ทัพที่ขี้ขลาดตาขาว แต่จริง ๆ ในประวัติศาสตร์ เขาเป็นคนที่เฝ้าเมืองเซียงเอี๊ยงจนท้ายที่สุด ก่อนจะยกธงขาวยอมแพ้ เพราะสู้เทคโนโลยีของฝ่ายมองโกลไม่ได้ - คูชู่กี่ (มังกรหยก จอมยุทธล่าอินทรี) --- นักพรตแห่งสำนักช้วนจิน นิสัยที่ปรากฎในประวัติศาสตร์ ไม่เหมือนกับที่เห็นในนิยาย และไม่ได้เกรียนอย่างนั้นเลยครับ - เฮ้งเต็งเอี้ยง (มังกรหยก จอมยุทธล่าอินทรี) --- นักพรตผู้ก่อตั้งสำนักช้วนจิน - เซลุย (มังกรหยก จอมยุทธล่าอินทรี) --- ชื่อภาษามองโกล คือ ตูลิ เป็นบิดาของกุ๊บไลข่าน - เจงกีสขข่าน (มังกรหยก จอมยุทธล่าอินทรี) --- ปฐมจักรพรรดิแห่งอาณาจักรมองโกล - หูปิกเลียก (มังกรหยก จอมยุทธล่าอินทรี) --- ภาษามองโกล คือ คูบิไล ต่อมา คือ กุ๊บไลข่าน - หลี่จื้อเช็ง (เพ็กฮ้วยเกี้ยม) --- หัวหน้ากบฎชาวนาผู้มีชื่อเสียงที่สุดในประวัติศาสตร์จีน ว่ากันว่า กบฎชาวนาของหลี่จื้อเช็งนั้น เป็นกบฎชาวนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์จีนในสมัยโบราณ พรรคคอมมิวนิสต์ของจีน ถึงกับเรียกหลี่จื้อเช็งเป็นวีรบุรุษแห่งชาติกันเลยทีเดียวนั่นล่ะ - อู๋ซานกุ้ย (อุ้ยเสี่ยวป้อ) --- ผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นคนทรยศแห่งแผ่นดินจีน โดยการเปิดด่านให้แก่กองทัพของชาวแมนจู จนได้รับการอวยยศเป็นอ๋องแห่งยูนนาน ต่อมาลูกชายได้อภิเษกกับองค์หญิงเจี้ยนหนิง (ในเรื่องอุ้ยเสี่ยวป้อ ลูกชายถูกตัดเจี๊ยวใช่มะ? ฮาฮา) จึงคิดว่า คังซี น่าจะลดความหวาดระแวงตนลง จึงกลีธาทัพขึ้นเหนือ ก่อนจะถูกคังซีที่ทราบอยู่แล้วกำจัดทิ้ง - คังซี (อุ้ยเสี่ยวป้อ) --- ฮ่องเต้องค์ที่สามของราชวงศ์แมนจู (องค์ที่สองที่ได้ปกครองแผ่นดินจีน) - เฉียนหลง (จอมใจจอมยุทธ) --- ฮ่องเต้องค์ที่ห้าของราชวงศ์แมนจู (หลานของคังซี) ส่วนสำนักในจักรวาลปู่กิม ที่มีอยู่จริง และเท่าที่นึกออก 1. เส้าหลิน - จีนกลาง (เสี่ยวลิ้ม - แต้จิ๋ว) วัดนี้ มีเกือบทุกเรื่องอ้ะ ไม่สาธยายนะ 2. อู่ทั้ง - จีนกลาง (บู๊ตึ้ง - แต้จิ๋ว) เกิดขึ้นในสมัยหยวน จึงมีตั้งแต่เรื่อง ดาบมังกรหยก เป็นต้นไป ตรงนี้ไปอ่าน Timeline ที่ผมเขียนใน wikipedia เอานะครับ เพราะขี้เกียจไล่ให้ฟังอีกหลายรอบอ้ะ 3. เอ่อร์เหมย - จีนกลาง (ง้อไบ๊ - แต้จิ๋ว) ในเรื่องเกิดขึ้นเพราะก๊วยเซียงในช่วงราชวงศ์หยวน แต่จากประวัติศาสตร์นั้น สำนักนี้เกิดขึ้นเมื่อไหร่ไม่มีใครทราบ 4. ฉวนเจิ้น - จีนกลาง (ช้วนจิน - แต้จิ๋ว) เป็นสำนักนักพรตที่ก่อตั้งโดยหวังชงหยาง หรือ เฮ้งเต็งเอี้ยง ตามสำเนียงแต้จิ๋ว ในช่วงสมัยซ้องใต้ ซึ่งจากประวัติศาสตร์เป็นสำนักพรตธรรมด๊า ธรรมดา ปรากฎในเรื่อง มังกรหยก ภาค 1 - 2 5. พรรคดอกไม้แดง เป็นพรรคที่ก่อตั้งขึ้น เพื่อโค่นล้มราชวงศ์แมนจูในสมัยจักรพรรดิเฉียนหลง ปรากฎในเรื่อง จอมใจจอมยุทธ, จิ้งจอกอหังการ 6. พรรคฟ้าดิน เป็นพรรคที่ก่อตั้งขึ้น เพื่อโค่นล้มราชวงศ์แมนจูในสมัยจักรพรรดิคังซี โดยการสนับสนุนของเชื้อพระวงศ์ราชวงศ์หมิงสายตระกูลเจิ้งที่มีฐานที่มั่นบนเกาะไต้หวัน ปรากฎในเรื่อง อุ้ยเสี่ยวป้อ อย่าให้ผมไล่เลยครับ เยอะจัดสุดยอดจริง ๆ เหนื่อยแระ เอาเท่านี้ล่ะกัน ยิ่งถ้าบวกนักเขียนท่านอื่น ๆ ผสมด้วยแล้ว หัวโตแน่ครับ เยอะมาก |
จอมยุทธ์เจ้าอินทรีย์ |
#9 จอมยุทธ์เจ้าอินทรีย์ [ 11-09-2010 - 21:23:43 ] |
|
เติมนิสนึง ในส่วนของวิชาที่มีอยู่จริง พี่เก้าลืมวิชาล้างไขกระดูกขอรับ ![]() |
กระบี่เก้าเดียวดาย |
#10 กระบี่เก้าเดียวดาย [ 12-09-2010 - 03:22:46 ] |
|
ท่านเอี้ย ผู้น้อยไม่อยากนำวิชาที่เป็นตำนานมาใส่น่ะขอรับ เอาวิชาที่ยังหลงเหลืออยู่ดีกว่า อย่างเก้าเอี้ยง ล้างไขกระดูกนั้น เป็นวิชาที่หายสาบสูญไปนานแล้ว มีแต่เรื่องเล่า ซึ่งไม่รู้ว่า มันจะจริง หรือหลอก น่ะขอรับ ![]() ![]() ![]() |
จอมยุทธ์เจ้าอินทรีย์ |
#11 จอมยุทธ์เจ้าอินทรีย์ [ 12-09-2010 - 15:55:48 ] |
|
ล้างไขกระดูกก็ยังมีถึงปัจจุบันนะครับ แต่มันไม่ค่อยสมบูรณ์เลย แล้วรู้สึกจะมั่วๆด้วย ผมเองก็เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่ามันของจริงรึป่าว ![]() |
กระบี่เก้าเดียวดาย |
#12 กระบี่เก้าเดียวดาย [ 12-09-2010 - 19:23:59 ] |
|
เท่าที่รู้ ล้างไขกระดูก ผมยังหาหลักฐานที่ยืนยันการคงอยู่ของมันเลยนะครับ เพราะวิชานี้ถ่ายทอดให้แก่ท่านฮุ่ยเข่อ คนเดียว เท่าที่ดูจากข้อมูลมา แทบจะเป็นวิชาประจำเจ้าสำนักเส้าหลินซ้ำไป และก็หายสาบสูญเรียบร้อย ไปได้ข้อมูลมาจากไหนท่านเอี้ย ว่ามันยังคงอยู่ ![]() |
จอมยุทธ์เจ้าอินทรีย์ |
#13 จอมยุทธ์เจ้าอินทรีย์ [ 12-09-2010 - 21:15:18 ] |
|
ล้างไขกระดูก เท่าที่เห็นจะมีฉบับที่มั่วมากมาย ลอยอยู่ในเว็บอะไรซักอย่างจำไม่ได้ขอรับนานแล้ว บ้านจอมยุทธ์รึปล่าวหว่า ความจริงตามประวัติเค้าก็ว่าสาบสูญไปแล้ว ที่เส้าหลินปัจจุบันเหลือแค่เปลี่ยนเส้นเอ็น(ความจริงที่เหลือนี่ก็ยังไม่สมบูรณ์ด้วยซ้ำมั้ง) แต่เหมือนผมเคยเจอหนังสือเรื่องนี้เป็นภาษาจีนอยู่นะครับ ตอนไปเที่ยวจีนเพื่อนเค้าเอามาให้ดู แต่รู้สึกจะมั่วมากมายอยู่ ผมก็ไม่ทราบว่าเพื่อนมันเอามาหลอกป่าวอะนะครับ ![]() |
แม่เฒ่าเทียงซัว |
#14 แม่เฒ่าเทียงซัว [ 12-09-2010 - 23:37:47 ] |
|
วรยุทเทียนซานเราก็ยังมีอยู่นะหนูๆ ข้าจะแสดงเดชให้ดู |
แม่เฒ่าเทียงซัว |
#15 แม่เฒ่าเทียงซัว [ 12-09-2010 - 23:38:49 ] |
|
ไม่เชื่อเรอะ ![]() ![]() ![]() ![]() |
มารเพลิงนภา |
#16 มารเพลิงนภา [ 15-09-2010 - 11:22:08 ] |
|
![]() |
เชจู มีชิน |
#17 เชจู มีชิน [ 15-09-2010 - 12:37:42 ] |
|
อ้าวแม่เฒ่า แแสดงเลย เร็ว เรารอดูแม่เฒ่าอยู่นะ ข้าไม่รู้จะเรียกแม่เฒ่ามายังไงดี ท่านอายุเท่าไร |
เชจู มีชิน |
#18 เชจู มีชิน [ 15-09-2010 - 12:38:21 ] |
|
![]() ![]() ![]() |
เพลงพิณ |
#19 เพลงพิณ [ 23-09-2010 - 10:48:13 ] |
|
ขอบคุณมากนะครับสำหรับข้อมูลดีๆๆ ที่ให้ความรู้ ดังนั้นเราจะพอสรุปได้ว่า ยุคทองของวรยุทธ์จีนนั้นเกิดขึ้น ในช่วงราชวงศหยวนเป็นต้นมา และหลังจาหที่มีท่านตั๊กม๊อแล้ว ส่วนก่อนหน้านั้นจะไม่ค่อยได้ปรากฎวรยุทธืขึ้นมาให้เห็นได้ชัดเจน แล้วนิยายส่วนใหญ่ก็จะแต่งขึ้นตัึ้งแต่ราชวงศ์หยวนลงมา ขึ้นไปจากนั้นคงไม่มี |
เชี้ยหยาวหวน |
#20 เชี้ยหยาวหวน [ 23-09-2010 - 11:34:46 ] |
|
แม่เฒ่า ท่านแม่ ข้าคิดถึงพวกท่าน มากกกกกก คิดถึงทุกลมหายใจเข้าออก 55555 ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
|