ดาวเคลื่อนดารา เคลื่อนย้ายจักรวาล หยกอำไพ 3วิชานี่มันอันเดียวกันป่าวหว่าถ้าไม่ใช่วิชาไหนร้ายกาจสุดอ่ะ
วิชาเดียวกันป่าว
|
นอนดูดาว | |
![]() |
คนละวิชาครับ แต่วิชาไหนร้ายกาจสุด ตัดสินไม่ถูกเหมือนกันครับ |
ทลายฟ้า | |
![]() |
ผมว่า ถ้าเคบื่อนย้าย จักวาลขั้นสุดยอด นี่อาจจะสุดๆเลยน่ะ |
ผู้น้อย แซ่เตีย | |
![]() |
ดาวเคลื่อนดาราคล้อย ของ ตะกูลมู่หยง ร้ายกาจที่สุดครับ ภายหลัง วิชานี้ ถูกสืบทอดต่อ ๆกันมา จนมาถึงยุคเตียบ่อกี้ ที่ใช้ชื่อว่าเคลื่อนย้ายจักวาล ซึ่งอนุภาพก้อถูกลดถอยมาตามเวลา หรือ ม่ายสมบูรณ์นั่นเอง เช่นเดียวกับ ดัชนีของต้วนฮือ กับ ดัชนีเอกสุริยันของราชันทักษิณ ลมปราณภูอุดร กับมหาเวทดูดดาว ของพรรคตะวันจันทรา |
กระบี่ต่างฟ้า | |
![]() |
หือ!!!! ดาวเคลื่อนดาราคล้อยมันคนละวิชากับ เคลื่อนย้ายจักรวาลขอรับ เคลื่อย้ายจักรวาลเป็นวิชามาจากเปอร์เซีย ดาวเคลื่อนดาราคล้อยเป็นวิชาประจำตัวตระกูลมู่หยง ส่วนดัชนีของตวนอื้อ กับ ดัชนีของอิดเต็งไต้ซือ คนละอันเลยขอรับ ดัชนีของตวนอื้อเรียกว่า ดัชนีเทพกระบี่หกชีพจร เเต่ของอิดเต็งไต้ซือเรียกว่า ดัชนีสุริยัน อย่าเอาเทพกระบี่หกชีพจรไปเปรียบกับดัชนีสุริยันขอรับ คนละชั้นกัน ดัชนีสุริยันถ้าเอามาเปรียบกับเทพกระบี่หกชีพจรก็เเค่วิชาดาดๆ ธรรมดาๆ ส่วนลมปราณภูติอุดรนั้น เป็นอันเดียวกับมหาเวทย์ดูดดาวขอรับ ในกระบี่เย้ยบอกไว้ชัดเจน เเต่รุ้สึกว่า ข้อเสียของมหาเวทย์ดูดดาวจะมีมากกว่าลมปราณภูติอุดร |
เตียบ่อกี้ | |
![]() |
คุณกระบี่ต่างฟ้ามั่วแล้วครับวิชาของต้วนอี้กับอิตเต็งหรืออ๋องต้วนอันเดียวกันสืบทอดมาจากตระกูลอ๋องส่วนเรื่องมังกรหยกและดาบมังกรหยกมาก่อน8เทพแน่นอนครับเพราะต้าส้งถูกรุกรานจากมองโกลก่อนแล้วก็เหลียวปิดท้ายด้วยซีเซี่ยซึ่งเรื่องแปดเทพเป็นเหลียวส่วยดาบมังกรหยกเป็นมองโกลอันนี้แน่นอนฟันธงครับ |
มารแมว | |
![]() |
ไม่ใช่แล้วครับคุณเตียบ่อกี้8เทพมาก่อนครับพรรคยาจกเป็นพรรคเก่าแก่นะขอรับและเซียวฟงก้ใช้18ฝ่ามือได้อย่างสมบรูณ์แตต่อมาจนถึงมังกรหยก3พรรคยาจก...โคตรกระจอกเลยอีกอย่างยุค8เทพคือชาวซีตานซึ่งก้คือคนเมืองต้าเหลียวอันนี้ไม่ได้อ้างอิงจากนิยายหรือการ์ตูนนะครับเอามาจากประวัติศาสตร์จริงภายหลังเมืองต้าเหลียวล่มสลายกลายเป็นแค่ชนเผ่าหลายกลุ่มมีอาชีพดำรงชีวิตด้วยการล่าสัตว์ต่อมาได้มีคนคิดรวมชนเผ่าเข่าด้วยกัยโดยเผ่าใดไม่ยอมก้จะถูกเข้าตีคล้ายสมัยเจ้าตากเราจนรวมกันเป็นเผ่าใหญ่ก้คือมองโกล |
หลวงจีน อิตเต้ง | |
![]() |
ยุค แปดเทพอสูร เกิดก่อน ยุค มังกรหยก เปน 100 ปี นะคับ ตามบทประพันธ์ของกิมย้ง อย่ามั่ว คับ คุณ เตีย |
16กระบี่เสื้อเขียว | |
![]() |
เอ่อ ... - -" ผมก็เคยเจอนะครับในการ์ตูนหรือในนิยายหรือในละคร เวอร์ชั่นใดเวอร์ชั่นหนึ่งนี่ละครับเค้าโยง ว่าตระกูลมู่หยงหลังยุคมู่หยงป้อก็ยังคงมีทายาทสืบต่อมาอย่างลับๆและขยายตัวกลายมาเป็นพรรคเม้งก่าอ่ะครับ แล้วดาวเคลื่อนดาราคล้อยก็ถูกพัฒนามาเป็นโยกย้ายจักรวาล เพราะเพิ่มวิชาส่วนที่บ่กี้ไม่ได้ฝึกเข้าไป(ส่วนที่ไม่เคยมีใครฝึกได้เพราะเกิดจากจินตนาการที่ประมุขคนก่อนเตียบ่อกี้พยายามไปฝึกแล้วธาตุไปแทรกอะครับ) - -" ตอนนั้นก็ยังคงงงสับสนเหมือนกัน ยุคแปดเทพเกิดก่อนนะครับ ถ้าจำได้ว่าเซียวฟงเคยช่วยหัวหน้าเผ่าหนีเจินตอนไปล่าหมี เผ่านั้นละครับเติบโตมาเป็นกิมกีก แล้วกิมก๊กก็ตีเหลียวแตกแล้วก็ร่วมมือกับซีเซี่ยตีซ้องแตกย้ายเมืองหนีไปเป็นซ้องใต้แล้วก็หักหลังตีซีเซี่ยแตกแล้วก็ตามไปตีต้าหลี่จนแตกไปอีกหนึ่งเหลือแต่ซ้อง พอดีช่วงนั้นมองโกลเข้มแข็งขึ้นมา มองโกลก็ร่วมมือกับซ้องตีกิมก๊กจนแตกยับเยินแล้วมองโกลจึงเปลี่ยนมาตีซ้องครับ แต่ว่าหลังจากนั้นอีกหลายร้อยปีกิมก๊กก็มายึดจีนภาคกลางก่อตั้งเป็นราชวงศ์แมนจูหรือราชวงศ์ชิงครับ |
นัท | |
![]() |
ดาวเคลื่อนดาราคล้ายเป็นวิชาของสกุลมู่หยง เคลื่อนย้ายจักรวานเป็นวิชาจากทางเปอเซีย ดรรชนีเอกสุริยันเป็นวิชาประจำตระกูลต้วน ดรรชนีกระบี่หกชีพจรก็เป็นของสกุลต้วน แต่มีอนุภาพมากกว่า และฝึกยากกว่า หรือจะเรียกว่าฝึกให้สำเร็จไม่ได้เลยก็ได้ เพราะคนที่ฝึกสำเร็จได้มีคนเดียว และได้เพราะมันเหตุบังเอิญจริงๆ หากฝึกไปตามลำดับไม่มีทางสำเร็จ ส่วนลมปราณภูติอุดรนั้นเป็นคนละอันกับมหาเวทดูดดาว แต่มีความเกี่ยวข้องกันอยู่ มหาเวทดูดดาว เป็นวิชาที่สืบทอดมาจากวิชา สลายพลังของเต็งชุนชิว ซึ่งวิชาสลายพลังของเต็งชุนชิวดัดแปลงมาจากวิชา ลมปราณภูติอุดร |
Akk | |
![]() |
ดัชนีกระบี่6ฯ ก็เป็นพื้นฐานของดัชนีเอกฯเหมือนกัน แต่ก็ไม่น่านับว่าเป็นวิชาเดียวกันครับ เพราะระดับมันต่างกัน กระบี่6ฯถ้าไม่มีพรสวรรค์+กำลังภายในระดับต้วนอี้ก็ฝึกไม่ได้ |
vมังกรหลับv | |
![]() |
เมาแล้วคับ สมัยพระเจ้าตากมาจากไหน สมัยพระเจ้าตากมันราชวงศ์ชิงละคับ สมัยเจงกิสข่าน เป็นยุคสมัยต้นสุโขทัยนะคับ บันทึกในประวัติศาสตร์พ่อขุนรามคำแหงยังต้องส่งบรรณณาการและทูตไปเข้าร่วมกับ มองโกล เลย สมัยพ่อขุนรามคำแหงนั้นตรงกับสมัย กุบไลข่านในเรื่องมังกรหยกนี่ละคับ แล้ว 8 เทพก็เกิดก่อนคับ 8 เทพน่าจะอยู่ในสมัยต้นราชวงศ์ซ่งเหนือ ที่หลังจากราชวงศ์ถังโดนล้มลงแล้วก็เกิด ราชวงศ์ต่างๆขึ้นมาผลัดเปลี่ยนกันมีอำนาจนานนับร้อยปี สุดท้ายราชวงศ์ซ่ง เหนือมีเมืองหลวงที่ไคฟง ก็เป็นราชวงศ์ที่เข้มแข็งสุดและมีอำนาจต่อมา ปฐมกษัตริย์ ราชวงศ์ซ่งเป็นยอดขุนพลของฮ่องเต้จีนราชวงศ์หนึ่ง ฮ่อวงเต้องศ์นั้นก่อนตายได้สั่งเสียให้ขุนพลผู้นี้ดูแลรัชทายาทที่จะสืบบัลลังก์ด้วยความจงรักภักดีซึ่ง ขุนพลผู้นี้ซึ่งต่อมาเป็นปฐมกษัตริย์ราชวงศ์ซ่งก็รับปาก แต่ปรากฏว่าหลังจากฮ่องเต้ตายไม่นาน ขุนพลผู้นี้ก็นำทหารเข้ารัฐประหารทันที และแต่งตั้งตัวเองขึ้นเป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ซ่ง ซึ่งตอนนั้นมีเมืองหลวงอยู่ที่ไคฟง ไคฟงเป็นลักษณะของเมืองเปิด เป็นจุดยุทธศาสตร์ทางการทหารทำให้มีศัตรูรุกรานเป็นประจำ ราชวงศ์ซ่งนี้ถือว่าเป็นยุคที่การทหารอ่อนแอที่สุดแล้วคับ เพราะกษัติรย์ สร้างตจัวเองมาจากการรัฐประหาร จึงกลัวมีผู้ดำเนินรอยตามและกลัวจะเป็นอันตรายต่อราชวงศ์ของตน จึงมีการริดรอนอำนาจหลายอย่างทางการทหารไป งบประมาณและกำลังพลทางการทหารมีน้อยทำให้ราชสำนักอ่อนแอมาก มีพวกโจรชุกชุมปล้นฆ่ารายวันรัฐบาลเองก็แถบจะเอาผิดไม่ได้ มีสำนักใหญ่น้อยเปิดขึ้นใหม่แล้วเรียกค่าคุ้มครองมากมาย หรือที่เรารู้จักและคุ้นหูอีกอย่างหนึ่งก็คือ เปาบุ้นจิ้น ลักษณะของเปาบุ้นจิ้นเป็นขุนนางตงฉินแบบในหนังนี้หละคับ ตลอดชีวิตมีคนกล่าวว่าท่านไม่เคยยิ้มแย้มให้กับใครเลย จนฮ่องเต้กล่าวว่า ถ้าวันใดท่านเปายิ้ม แม่น้ำฮวงโหคงจะต้องเหือดแห้งเป็นแน่ ราชวงศ์ซ่งนี้ยังมีคำกล่าวอีกหลายอย่าง อย่างเช่น หัดจับพู่กันให้เป็น10ปี ยังมีดีกว่า ควงดาบอยู่ในสมรภูมิ 20 ปี เพราะเป็นยุคหนึ่งที่บทกวีเจริญมากคับ และก็มีกังฉินมากด้วยเช่นกัน อยากที่รู้จักกันดีก็เช่น ไช่จิง ฉินช้วย และ เจี้ยชื่อต้าว ซึ่งถ้าจะเล่าถึงประวัติสามคนนี้คงต้องใช้เวลานาน (แต่ถ้าครสนใจพิเศษก็โพสต์ไว้ได้เดียวว่างๆจะเล่าให้ฟัง) จนมาถึงในสมัย ราชวงศ์ซ่งใต้ ได้ย้ายราชธานีจากไคฟงมาอยู่ที่ลั่วหยาง ตั้งเป็นราชวงศ์ซ่งใต้ เหตุก็เพราะทางตอนเหนือได้ถูกรุกรานโดยพวกกิมก๊ก ขุนพลงักฮุยหรือเหย่เฟย ผู้ให้กำเนิดมวยซังอี้ ก็เกิดในยุคนี้ กองทัพของ ขุนพลงักฮุยเข้มแข็งมาก จนมีคำกล่าวที่ว่า เคลื่อภูเขานั้นยาก แต่คลอนกองทัพของเย่ว์เฟยนั้นยากยิ่งกว่า กองทัพของขุนพลงักฮุยได้ตีเมืองคืนมาได้หลายเมือง แต่ภายหลังถูกกังฉินใส่ร้ายและลอบสังหารตายในคุก กังฉินผู้นั้นก็คือ ฉินข้วย (เป็นที่มาของตำนานปาท่องโก๋ ที่เรามักชอบกินกันทุกเช้า) ราชวงศ์ซ่งเป็นยุคที่คนดีไม่ควรเข้าไปรับใช้ราชการอย่างยิ่ง เพราะคณะราชการส่วนใหญ่มีแต่พวกประจบสอพลอ คนดีๆมีมักไม่ใช้ แต่ก็ถือว่าเป็นยุคนึงที่วรรณคดีรุ่งเรืองมาก ภายหลังจตากการรุกรานของกิมก๊ก ราชวงศ์ซ่งก็ได้ดำเนินนโยบายบ้านเมืองที่ว่า ชักน้ำเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้าน โดยหันไปพึ่งมองโกลซึ่งกำลังรวมเผ่าได้สำเร็จในขณะนั้นให้มาขับไล่พวกกิมก๊กออกไป มองโกลขานรับทันทีกับนโยบายของฮ่องเต้ซ่ง (ยุคนี้น่าจะเป็นยุคมังกรหยก1 เพราะ จีนกะมองดกลร่วมกันปราบกิม) โดยเมื่อขับไล่พวกกิมเสร็จสับก็ไม่ยอมถอยทัพกลับแต่กลับมุ่งทัพเข้าโจมตีราชวงศ์ซ่งต่อเลย ราชวงศ์ซ่งเป็นยุคที่ทหารอ่อนแอมากอยู่แล้ว จะเอาอะไรไปสู้กะมองโกลซึ่งต่อมาได้รับขนานนามว่า กองทัพบนหลังม้าซึ่งทรงพลังที่สุดของโลก โดยตีประเทศแถบยุโรป เอเชียกลางมากมายได้ดินแดนมามากมายไม่มีกองทัพได้ที่มีอำนาจต้านทานมองดกลในขณะนั้น กองทัพมองโกลถูกขนานนามว่า เป็นกองทัพปีศาจ ตลอดเส้นทางที่กองทัพมองโกลผ่านจะมีควันดำลอยไปทั่วเนื่องจากการเผาหมู่บ้านทุกหมู่บ้านที่ผ่าน หากมองโกลยึดเมืองเมืองใดได้ก็จะเผาเสียราบคาบ ห่าคนมากมายไม่เว้นแม้แต่ผู้หญิงและเด้ก ทหารมองโกลมักนิยมตัดหัวศัตรูไปแลกเงินรางวัลจากเจ้านาย ได้เงินม้าก็เอาไปซื้อม้าซื้อเหล้าซื้อเมีย ทหารชั้นประทวรคนนึงมีรเมียนับสิบ ม้านับร้อย ลูกอีกเป็นโขยง ถ้ายึดเมืองใดได้ก็จะขัดเอาแต่คนเก่งไว้เท่านั้นทีเหลือก็ฆ่าเรียบ คนเก่งๆที่คัดไว้ก็จะถูกส่งไปมองโกลเพื่อเป็นกำลังในการพัฒนาประเทศ ต่อไป *** พักแปปเมื่อยมือ*** |
vมังกรหลับv | |
![]() |
เมาแล้วคับ สมัยพระเจ้าตากมาจากไหน สมัยพระเจ้าตากมันราชวงศ์ชิงละคับ สมัยเจงกิสข่าน เป็นยุคสมัยต้นสุโขทัยนะคับ บันทึกในประวัติศาสตร์พ่อขุนรามคำแหงยังต้องส่งบรรณณาการและทูตไปเข้าร่วมกับ มองโกล เลย สมัยพ่อขุนรามคำแหงนั้นตรงกับสมัย กุบไลข่านในเรื่องมังกรหยกนี่ละคับ แล้ว 8 เทพก็เกิดก่อนคับ 8 เทพน่าจะอยู่ในสมัยต้นราชวงศ์ซ่งเหนือ ที่หลังจากราชวงศ์ถังโดนล้มลงแล้วก็เกิด ราชวงศ์ต่างๆขึ้นมาผลัดเปลี่ยนกันมีอำนาจนานนับร้อยปี สุดท้ายราชวงศ์ซ่ง เหนือมีเมืองหลวงที่ไคฟง ก็เป็นราชวงศ์ที่เข้มแข็งสุดและมีอำนาจต่อมา ปฐมกษัตริย์ ราชวงศ์ซ่งเป็นยอดขุนพลของฮ่องเต้จีนราชวงศ์หนึ่ง ฮ่อวงเต้องศ์นั้นก่อนตายได้สั่งเสียให้ขุนพลผู้นี้ดูแลรัชทายาทที่จะสืบบัลลังก์ด้วยความจงรักภักดีซึ่ง ขุนพลผู้นี้ซึ่งต่อมาเป็นปฐมกษัตริย์ราชวงศ์ซ่งก็รับปาก แต่ปรากฏว่าหลังจากฮ่องเต้ตายไม่นาน ขุนพลผู้นี้ก็นำทหารเข้ารัฐประหารทันที และแต่งตั้งตัวเองขึ้นเป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ซ่ง ซึ่งตอนนั้นมีเมืองหลวงอยู่ที่ไคฟง ไคฟงเป็นลักษณะของเมืองเปิด เป็นจุดยุทธศาสตร์ทางการทหารทำให้มีศัตรูรุกรานเป็นประจำ ราชวงศ์ซ่งนี้ถือว่าเป็นยุคที่การทหารอ่อนแอที่สุดแล้วคับ เพราะกษัติรย์ สร้างตจัวเองมาจากการรัฐประหาร จึงกลัวมีผู้ดำเนินรอยตามและกลัวจะเป็นอันตรายต่อราชวงศ์ของตน จึงมีการริดรอนอำนาจหลายอย่างทางการทหารไป งบประมาณและกำลังพลทางการทหารมีน้อยทำให้ราชสำนักอ่อนแอมาก มีพวกโจรชุกชุมปล้นฆ่ารายวันรัฐบาลเองก็แถบจะเอาผิดไม่ได้ มีสำนักใหญ่น้อยเปิดขึ้นใหม่แล้วเรียกค่าคุ้มครองมากมาย หรือที่เรารู้จักและคุ้นหูอีกอย่างหนึ่งก็คือ เปาบุ้นจิ้น ลักษณะของเปาบุ้นจิ้นเป็นขุนนางตงฉินแบบในหนังนี้หละคับ ตลอดชีวิตมีคนกล่าวว่าท่านไม่เคยยิ้มแย้มให้กับใครเลย จนฮ่องเต้กล่าวว่า ถ้าวันใดท่านเปายิ้ม แม่น้ำฮวงโหคงจะต้องเหือดแห้งเป็นแน่ ราชวงศ์ซ่งนี้ยังมีคำกล่าวอีกหลายอย่าง อย่างเช่น หัดจับพู่กันให้เป็น10ปี ยังมีดีกว่า ควงดาบอยู่ในสมรภูมิ 20 ปี เพราะเป็นยุคหนึ่งที่บทกวีเจริญมากคับ และก็มีกังฉินมากด้วยเช่นกัน อยากที่รู้จักกันดีก็เช่น ไช่จิง ฉินช้วย และ เจี้ยชื่อต้าว ซึ่งถ้าจะเล่าถึงประวัติสามคนนี้คงต้องใช้เวลานาน (แต่ถ้าครสนใจพิเศษก็โพสต์ไว้ได้เดียวว่างๆจะเล่าให้ฟัง) จนมาถึงในสมัย ราชวงศ์ซ่งใต้ ได้ย้ายราชธานีจากไคฟงมาอยู่ที่ลั่วหยาง ตั้งเป็นราชวงศ์ซ่งใต้ เหตุก็เพราะทางตอนเหนือได้ถูกรุกรานโดยพวกกิมก๊ก ขุนพลงักฮุยหรือเหย่เฟย ผู้ให้กำเนิดมวยซังอี้ ก็เกิดในยุคนี้ กองทัพของ ขุนพลงักฮุยเข้มแข็งมาก จนมีคำกล่าวที่ว่า เคลื่อภูเขานั้นยาก แต่คลอนกองทัพของเย่ว์เฟยนั้นยากยิ่งกว่า กองทัพของขุนพลงักฮุยได้ตีเมืองคืนมาได้หลายเมือง แต่ภายหลังถูกกังฉินใส่ร้ายและลอบสังหารตายในคุก กังฉินผู้นั้นก็คือ ฉินข้วย (เป็นที่มาของตำนานปาท่องโก๋ ที่เรามักชอบกินกันทุกเช้า) ราชวงศ์ซ่งเป็นยุคที่คนดีไม่ควรเข้าไปรับใช้ราชการอย่างยิ่ง เพราะคณะราชการส่วนใหญ่มีแต่พวกประจบสอพลอ คนดีๆมีมักไม่ใช้ แต่ก็ถือว่าเป็นยุคนึงที่วรรณคดีรุ่งเรืองมาก ภายหลังจตากการรุกรานของกิมก๊ก ราชวงศ์ซ่งก็ได้ดำเนินนโยบายบ้านเมืองที่ว่า ชักน้ำเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้าน โดยหันไปพึ่งมองโกลซึ่งกำลังรวมเผ่าได้สำเร็จในขณะนั้นให้มาขับไล่พวกกิมก๊กออกไป มองโกลขานรับทันทีกับนโยบายของฮ่องเต้ซ่ง (ยุคนี้น่าจะเป็นยุคมังกรหยก1 เพราะ จีนกะมองดกลร่วมกันปราบกิม) โดยเมื่อขับไล่พวกกิมเสร็จสับก็ไม่ยอมถอยทัพกลับแต่กลับมุ่งทัพเข้าโจมตีราชวงศ์ซ่งต่อเลย ราชวงศ์ซ่งเป็นยุคที่ทหารอ่อนแอมากอยู่แล้ว จะเอาอะไรไปสู้กะมองโกลซึ่งต่อมาได้รับขนานนามว่า กองทัพบนหลังม้าซึ่งทรงพลังที่สุดของโลก โดยตีประเทศแถบยุโรป เอเชียกลางมากมายได้ดินแดนมามากมายไม่มีกองทัพได้ที่มีอำนาจต้านทานมองดกลในขณะนั้น กองทัพมองโกลถูกขนานนามว่า เป็นกองทัพปีศาจ ตลอดเส้นทางที่กองทัพมองโกลผ่านจะมีควันดำลอยไปทั่วเนื่องจากการเผาหมู่บ้านทุกหมู่บ้านที่ผ่าน หากมองโกลยึดเมืองเมืองใดได้ก็จะเผาเสียราบคาบ ห่าคนมากมายไม่เว้นแม้แต่ผู้หญิงและเด้ก ทหารมองโกลมักนิยมตัดหัวศัตรูไปแลกเงินรางวัลจากเจ้านาย ได้เงินม้าก็เอาไปซื้อม้าซื้อเหล้าซื้อเมีย ทหารชั้นประทวรคนนึงมีรเมียนับสิบ ม้านับร้อย ลูกอีกเป็นโขยง ถ้ายึดเมืองใดได้ก็จะขัดเอาแต่คนเก่งไว้เท่านั้นทีเหลือก็ฆ่าเรียบ คนเก่งๆที่คัดไว้ก็จะถูกส่งไปมองโกลเพื่อเป็นกำลังในการพัฒนาประเทศ ต่อไป *** พักแปปเมื่อยมือ*** |
vมังกรหลับv |
#14 vมังกรหลับv [ 07-06-2007 - 17:52:15 ] |
|
หายเมื่อยละ ชาวจียมักชิงขังมองโกลมากจากการกระทำของมองดกลอย่างที่บรรยายไป ทหารมองโกลเมื่อห่าทหารจีนได้ก็จะเอาภรรยาทหารจีนเป็นเมียต่อๆไป จนคนแถบทั่วเอเชียมทักมีเชื้อสายมองดกลผสมอยู่มากมาย บันทึกประวัติศาสตร์บอกไว้ว่า ตลอดการรบของเจงกิสข่านได้สังหารคนไปกว่า 50 ล้านคน แต่นักโบราณคดีสมัยใหม่ได้วิเคราะห์ว่าตัวเลขอาจถูกบิดเบือนเพราะ ประวัติศาสตร์ส่วนหญ่มักถูกเขียนขึ้นโดยผู้ชนะ แต่สำหรับประวัติศาสตร์มองโกลถูกเขียนขึ้นดดยผู้พ่ายแพ้ เพราะมองโกลเป็นชนเผ่าป่าเถือนไม่รู้หนังสือ ต่อมาเจงกิสข่านเข้าสู่วัยสูงอายุก็คิดกลัวความตายและอยากเป็นอมตะ พระองศ์ทรงเลื่อมใสนักพรต ฉางฉุน ฉางฉุนหรือ ฉางซุน เป็น 1 ใน 7 นักพรตของสำนักช่วนจินก่า ที่ในมังกรหยกเอามาสร้างว่าเป็นศิษย์ทั้ง 7 ของเฮ้งเต็งเอี้ยงนั่นแหละ เขาผู้นี้มีคนเชื่อกันว่าเขา เป็นอมตะ เจงกิสข่านจึงชื่นชอบเขามากและอยากให้เขาทำให้ตนเองเป็นอมตะอย่างเขาบ้าง แต่แล้วก็ต้องผิดหวัง เอ่อในเรื่องมังกรหยกคล้ายใช้ชื่อว่า นักพรตชิวชู่จี เพราะนักพรตผู้นี้ได้แต่พร่ำสอนธรรมมะให้กับเจงกิสข่าน จนเจงกิสข่านเลื่อมใสและลดความโหด...มลงไปมาก และได้แต่งตั้งเป็นถึงราชครูของสำนักมองโกล ( แตคล้ายๆว่านักพรตผู้นี้จะไม่รับ อันนี้จำไม่ค่อยได้) ภายหลังต่อมาอีกหลายสิบปี กุบไลข่านได้ชึ้นครองอำนาจสูงสุด เหตุ เพราะการตายของมังกูข่าน (ในมังกรหยกที่ดูบอกว่าโดนเอี้ยก้วยฆ่า) มังกูข่านเป็นพี่ของ องศ์ชายบ กุบไล เมื่อสิ้นบุญแล้ว ก็ถึงที่ของพระเอกตัวจริงแล้วละคราวนี้กุบไลข่านทรงเป็น ข่านที่ปรีชา อยากเอาใจชาวจีนโดยการตั้งชื่อเป็นชาวจีนและย้ายเมืองหลวงมาที่ปักกิ่ง ตั้งราชวงศ์หยวน ขึ้น และ ถวายนามว่า หยวนสีโจวฮ่องเต้ ซึ่งมีความหมายถึง ปฐมกษัตริย์ผู้ก่อตั้งราชวงศ์หยวน |
Akk | |
![]() |
คงมีการอ่านข้ามหรือเข้าใจผิดนะครับ ผมอ่าน คห. นั้นเค้าบอกว่า คล้ายเฉยๆครับ ที่ตอนนั้นไทยเราไม่เป็นปึกแผ่น พระเจ้าตากจึงต้องตีรวบ เคยอ่านมาบ้างเหมือนกัน รู้สึกว่าตอนพระเจ้าตากกู้อิสรภาพน่าจะตรงกับเวลาในเรื่ององค์หญิงกำมะลอ ที่ทัพจีนใต้(ตอนนั้นแมนจูครอง)สู้กับพม่าที่นำโดยอะแซวหวุ่นกี้ ในช่วงเวลาเดียวกับที่ไทยกำลังกู้ชาติ |
vมังกรหลับv | |
![]() |
ยุคนี้ก็บังเกิดขุนนางกังฉินอีกผู้หนึ่งที่ทำให้ชาวจีนต้องผวาและร้องไห้ด้วยความทรมาณทั่วแผ่นดิน นามของเขา คืออาหมัด อาหมัดเป็นเด็กรับใช้ที่มาจากดินแดนทางแถบอิสลาม ภายหลังได้ใช่เล่ห์เหลี่ยมและสงหารผู้คนไม่ว่าจะฮั่นหรือมองดกลมากมาย ขึ้นไปนั่งเสวยสุขในตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นตำแหน่ง ที่มีอำนาจรองจาก ฮ่องเต้เลยทีเดียว อาหมัดได้สร้างความดีความชอบให้กับกุบไลข่านด้วยการหาเงินที่มาจากการรีดไถชาวบ้าน มาให้กุบไลข่าน ซึ่งกุบไลข่านก็ปลื้มมากกับเรื่องนี้ เพราะนิสัยของพระองศ์ชอบทำสงครามอยู่แล้ว ซึ่งการทำสงครามก็ต้องใช้งบประมาณมากเป็นธรรมดา อาหมัดก็สามารถสนองความต้องการได้ดีในเรื่องนี้ อาหมัดเป็นนักการบริหารที่เก่งมากในยุคนั้น จน มีคำขนานนามว่า ซาร์เศรษฐกิจ แต่คนทั่วไปมักเรียกว่า ซาตานเศรษฐกิจ จะขอเล่าไปถึงการหาเงินของ อาหมัดให้ฟังพอคร่าวๆ อาหมัดได้ออกบัญญัติกฏหมายใหม่มากมายซึ่งล้วนแต่เป็นกฏหมายทางการหาเงินเข้ากระเป๋าทั้งสิ้น ด้วยนโยบายที่เรียกเก็บภาษีแบบถอนขนห่าน เช่นว่า อาวุธและเครื่องมือทางการเกษตรทุกชนิด ซึ่งมี จอบ เสียม มีด คราด เกวียน ม้า ฯลฯ ห้ามผลิตเองโดยเด็ดขาดตะต้องมาซื้อกับรัฐเพียงเท่านั้น ใครฝ่าฝืนผลิตเองก็ต้องถูกลงโทษอย่างหนักอาจถึงตายเลย สร้างความปวดหัวให้ชาวบ้านมาก ชาวบ้านก็อดยากและเกิดดรคระบาดลามไปทั่ว เพราะ เครื่องมือที่ซื้อมา ไม่ใช่หาซื้อกันง่ายมีการเก็บสินค้าเพื่อเก็งกำไรกันมากมายจากพ่อค้า แถมยังมีราคาสูงมาก เกือบ 10 เท่าตัวอีกต่างหาก และเครื่องมือก็ทนทานเสียจริงใช้ไปได้ไม่กี่วันก็พังต้องเปลี่ยนซื้ออันใหม่ อาหมัดก็ได้ออกกฏหมายว่าด้วยการซื้อยา ต้องมาซื้อ กับรัฐเท่านั้น ชาวบ้านที่เป็นโรคก็ต้องมาซื้อยากับรัฐด้วยราคาแสนแพง แต่ที่ซื้อมากหน่อยก็คงจะเป็นยาแก้ปวดหัวและแก้เครียด เมื่อภาวะอดยาก ลามไปทั่ว ก็มีคนอดตายชาวบ้านล้มตายเป็นเบือ ยังกะฝูงแมงเม้า อาหมัดก็คิดกฏหมายที่ว่าด้วยการตายขึ้นมาอีก คราวนี้เรียกได้ว่าดดนทั้งขึ้นทั้งร่อง เพราะอยู่ก็ทรมาณแต่จะตายก็ไม่ได้อีก อาหมัดออกกกหมายว่า ถ้ามีผู้ใดหรือคนในบ้านใดตาย ญาติพี่น้องต้องเอาศพมาทำศพกับรัฐและต้องจ่ายภาษีการตายอีก เรียกได้ว่าถ้าเราตายญาติพี่น้องก็ต้องจ่ายกันบานละ เหตุฉะนี้ทำให้มีเงินไหลเข้าท้องพระคลังจำนวนมากแต่อันที่จริงที่เข้าถึงท้องพระคลัง เป็นเพียง 30 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ที่เหลือ 70 เข้ากระเป๋าอาหมัด เหตุการ์เป็นอย่างนี้อยู่หลายสิบปี จนอาหมัดตายด้วยการลอบสังหารที่มีองศ์รัชทายาทมองดกลอยู่เบื้องหลัง ก็มีคนถวายฏีกาแจ้งข้อหาอาหมัดมากมาย ทำให้มีการปลดขุนนางตระกูลของอาหมัดและคนของอาหมัดที่เคยเข้าร่วมอุดมการณ์ออกจากราชการทั้งหมดบ้างจับไปประหาร บางถูกเนรเทศ เมื่อกุบไลข่านลื้อบ้าน อาหมัด ต้องถึงกับช็อค เพราะทรัพย์สินในบ้านของอาหมัดมใมกมายยิ่งกว่าท้อวงพระคลังหลายเท่าตัวนัก ถึงกับต้องสร้างคลังเก็บสมบัติขึ้นใหม่อีกหลายหลังเลยทีเดียว ด้านสงคราม กุบไลข่านได้ขยายอำนาจจนยึดจีนได้ทั้งหมดจากนั้นก็รุกรานประเทศอื่นไปเรื่อยๆ เคยส่งกองเรือหลายพันลำไปตีญี่ปุ่นถึง 2 ครั้ง เสียทหารไปฟรีหลายแสน โดยที่กองเรือเหล่านั้นจู่ๆก็หายไปในทะเลและขาดการติดต่อ ซึ่งเกิดมาจากพายุหรืออะไรก็ไม่ทราบกำลังเถียงกันอยู่ในปัจจุบันบ้างว่า เกิดจากพายุ บ้างว่ามีการกบฏในกองทัพ กองเรือและทหารที่ส่งไปนับพันลำ พร้อมทหารนับแสนไม่มีเรือสักลำหรือทหารสักคนที่ได้กับมา ชาวญี่ปุ่นเรียก พายุที่ผัดจมเรือพวกมองโกลนี้ว่า กามิกาเซ่ หรือ ลมพระเจ้า ซึ่งต่อมาในสมียสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นได้นำชื่อนี้ไปตั้งเป็นชื่อฝูงบินที่บรรทุกระเบิดพุ่งชน คลังเสบียง และ คลังอาวุธ ของฝ่ายสัมพันธมิตร ด้วยทฤษฐีน้อยแลกมาก ยุคสมัยของมองดกลก็เจริญเรื่อยมากอีกนับร้อยปีและก็เกิดการกบฏขึ้นโดยชุมนุมต่างๆ และ กองทัพที่แข็งแกร่งที่สุดก็คือ กองทัพโพกผ้าแดงของ นายพล จูหยวนจาง ผู้ที่สร้างตัวเองมาจากเด็กเลี้ยงควาย มาเป็นนายพล และ ฮ่องเต้องศืแรกของราชวงศ์หมิงในที่สุด โดยตั้งศูนย์อำนาจ อยู่ที่ นานกิง และ ลั่วหยาง **** เมื่อยละคับ ใครสนใจโปรดคิดตามตอนต่อไป****** |
vมังกรหลับv |
#17 vมังกรหลับv [ 07-06-2007 - 18:20:36 ] |
|
ทำไม member มันติดๆดับๆอะ |
vมังกรหลับv |
#18 vมังกรหลับv [ 07-06-2007 - 18:22:02 ] |
|
ใช่คับ สมัยพระเจ้าตากนี่มันปลายๆชิง แล้ว คับดูจากพวกร่วมก๊วนก๊กพระเจ้าตากที่เป็นชาวจีน จะเห็นว่าไว้ผมแบบมนจูกัน |
vมังกรหลับv |
#19 vมังกรหลับv [ 07-06-2007 - 23:15:54 ] |
|
![]() ![]() ![]() |
มังกรน้อย | |
![]() |
ขอตบมือให้ท่านมังกรหลับครับ เป็นความรู้แท้ๆเลย ซึ่งแต่ละความรู้ก็เป็นจริงในประวัตืศาตร์แท้ๆครับ บางอย่างที่ท่านเล่ามาผมก็รู้มาบ้างแล้วครับ ถ้าท่านมีความรู้อะไรอีกก็เล่ามาเลยครับ ![]() ![]() |
|