เรารู้ว่าหนังสือไม่ใช่วิธีการที่จะให้คนอื่นมาคิดแทนเรา ในทางตรงข้าม มันคือเครื่องมือที่กระตุ้นให้เราคิดได้ไกลมากยิ่งขึ้น
ปรัชญาจีน
|
vมังกรหลับv |
#3 vมังกรหลับv [ 25-02-2008 - 18:42:17 ] |
|
โหะๆ ช่างขยันดีจังนะคับ |
มือกระบี่ไร้นาม |
#4 มือกระบี่ไร้นาม [ 25-02-2008 - 20:29:13 ] |
|
พวกเราคงต้องช่วยบ้างแล้วละครับ |
กระบี่ไร้ตา |
#5 กระบี่ไร้ตา [ 10-09-2009 - 02:04:01 ] |
|
ได้มาจาก blog or web นึ่งในเน๊ต แต่ลืมชื่อไปล่ะ 1. ที่สุดของการรบำเพ็ญ คือ การให้อภัย 2. ที่สุดของบรรทัดฐาน คือ เกียรติยศของตนเอง 3. ที่สุดของความสุข คือ ธรรมะ 4. ที่สุดของควาที่สุดแห่งศัตรูที่ร้ายกาจ คือ ตนเอง 5. ที่สุดของโรคร้าย คือ ความเห็นแก่ตัว 6. ที่สุดของเรื่องเศร้าสลดใจ คือ การรู้เท่าไม่ถึงการณ์ [7. ที่สุดของความผิดพลาด คือ มีมิจฉาทิฎฐิ 8. ที่สุดของความพ่ายแพ้ คือ การหยิ่งยโส 9. ที่สุดของความกลัดกลุ้ม คือ ตัณหา 10. ที่สุดของอวิชา คือ ความอาฆาตพยาบาท 11. ที่สุดของความลังเลสงสัย คือ เรื่องของการเกิดตาย 12. ที่สุดของความผิดพลาด คือ การประมาทเลินเล่อ 13. ที่สุดของความน่ารำคาญ คือ เรื่องนินทาว่าร้าย 14. ที่สุดของคุณธรรมอันดีงาม คือ ความเมตตากรุณา 15. ที่สุดของความกล้าหาญ คือ การยอมรับผิด 16. ที่สุดของความมี คือ การรู้จักพอ 17. ที่สุดของพละกำลัง คือ ความศรัทธาเชื่อมั่น 18. ที่สุดของการครอบครอง คือ การสำนึกคุณ 19. ที่สุดของกามหวัง คือ ความสงบสุข 20. ที่สุดของความศรัทธา คือ การทำประโยชน์แก่ผู้อื่น |
กระบี่เก้าเดียวดาย |
#6 กระบี่เก้าเดียวดาย [ 10-09-2009 - 09:27:42 ] |
|
ปรัชญาจีน มีกี่สำนัก ??? คำถามแรก ก่อนเรียนปรัชญาตะวันออก |
สยบทั่วเเผ่นดิน |
#7 สยบทั่วเเผ่นดิน [ 10-09-2009 - 19:33:34 ] |
|
ข้าน้อยก็มิแน่ใจนักพี่เก้า ที่ทราบก็มี ซุนจื่อ เน้นด้านพิชัยสงคราม จวงจื่อ เป็นสายเต๋าเชื่อในเรื่งยึดหลักธรรมชาติไม่ยึดติด ขงจื้อ เน้นด้าน จารีต ประเพณี คุณธรรม กตัญญู แบบแผนสังคม เหลาจื่อ ก่อตั้งลัทธิเต๋า ม่อจื่อ เน้นลัทธิภารดรกาพ ความรักให้แก่กัน เหมือนกับศาสนาคริส เม่งจื้อ ประชาชนต้องมาก่อน (นโยบายประชาธิปัต) ![]() หานเฟยจื่อ ท่านนี้เน้นไปที่การปกครอง โดยเน้นอำนาจ กฏหมาย (ฉินซีน่าจะชอบคนนี้มากที่สุด หรือเปล่า? ขอรับท่าน) |
สยบทั่วเเผ่นดิน |
#8 สยบทั่วเเผ่นดิน [ 10-09-2009 - 19:37:47 ] |
|
แล้วก็ศาสนาพุทธ อันนี้เป็นได้ศาสนา (ไม่รู้จะนับหรือเปล่า) |
ihwiจ้ามัjกs |
#9 ihwiจ้ามัjกs [ 10-09-2009 - 20:01:01 ] |
|
พุทธศาสนา หาใช่ พุทธปรัชญาไม่ หากแต่เป็นวิทยาศาสตร์ พุทธศาสนาเป็นเรื่องจริงของ ธรรมชาติ อย่างที่เรียกกันว่า เป็นวิทยาศาสตร์ สำหรับปฏิบัติ เพื่อดับทุกข์ มีเหตุ จึงเกิดผล |
ฝ่ามืออัสนีบาต |
#10 ฝ่ามืออัสนีบาต [ 10-09-2009 - 20:31:47 ] |
|
การฟังทำให้รู้จัก การอ่านทำให้รู้จริง การเขียนทำให้รู้แจ้ง แต่การปฏิบัติทำให้"รู้จบ" |
ฝ่ามืออัสนีบาต |
#11 ฝ่ามืออัสนีบาต [ 10-09-2009 - 20:34:39 ] |
|
อ่านมากไม่มีประโยชน์ถ้าไม่รู้จักคิด รุ้จักคิดเฉยๆก็ไม่มีประโยชน์ถ้าไม่ทำ |
กระบี่เก้าเดียวดาย |
#12 กระบี่เก้าเดียวดาย [ 11-09-2009 - 05:55:16 ] |
|
#8 ไม่เป็นวิทยาศาสตร์ หากยังไม่พิสูจน์เป็นประจักษ์ ก็ไม่อาจเชื่อว่าพุทธปรัชญาเป็นวิทยาศาสตร์ ตอบท่านสยบทั่วแผ่นดิน พุทธปรัชญา ถือว่าเป็นปรัชญาตะวันออกเช่นกัน แต่ .... เป็นปรัชญาของอินเดีย ไม่ใช่ของจีนครับ เรียนต่อ ปรัชญาจีน เกิดขึ้นโดยมากในช่วงชุนชิว-จ้านกว๋อที่มีการรบพุ่งกันระหว่างแคว้นต่างๆ ดังนั้นจึงก่อให้ลักษณะของปรัชญาจีนขึ้นโดยเฉพาะ ซึ่งไม่เหมือนกับลักษณะของปรัชญาตะวันตก โดยมากปรัชญาจีนจะเน้นไปที่เรื่องสังคม การเมืองเป็นหลัก ผมจะเน้นแต่สำนักที่เป็นมาตรฐานทางปรัชญาของจีนเท่านั้นนะครับ 1. ขงจื้อ ผู้มีชื่อเสียงของสำนักนี้ คือ - ขงจื้อ ปรมาจารย์ของสำนักนี้ - เม่งจื้อ (หรือม่านจื่อในหงสาฯ) หลานศิษย์ของขงจื้อ เชื่อว่า มนุษย์เกิดมานั้นมีสันดอนที่ดีติดตัวมาด้วย - สวินจื้อ หลานศิษย์ของขงจื้อ เชื่อว่า มนุษย์เกิดมานั้นมีสันดอนที่เลวร้ายติดตัวมาด้วย (สันดอน = หลีกเลี่ยงการเซ็นเซอร์คำ) สำนักนี้ เน้นที่คุณธรรม จารีต และประเพณีนิยม จะเรียกว่า พวกอนุรักษ์นิยมก็ได้ (แต่โดยส่วนตัวของขงจื้อนั้น ไม่ใช่พวกอนุรักษ์นิยม แต่ศิษย์รุ่นหลัง กลับเป็นพวกอนุรักษ์นิยม) สำนักนี้ หากจะกล่าวแล้ว ก็คงเหมือนกับเป็นพวกนักปราชญ์ ราชบัณฑิต เสียมากกว่า ในเชิงนิยายกำลังภายในนั้น ถ้าจะกล่าว (เอาแต่ที่รู้จักกันมากพอนะครับ) กิมย้งถือว่าเขียนนิยายโดยใช้หลักปรัชญาของสำนักนี้ค่อนข้างมาก 2. ลัทธิเต๋า ผู้มีชื่อเสียงของสำนักนี้ คือ - เหล่าจื้อ ปรมาจารย์ของสำนักนี้ (ซึ่งไม่ปรากฎหลักฐานว่ามีตัวตนอยู่จริงหรือไม่? แต่มีหลักฐานที่พอน่าเชื่อถือว่ามีตัวตนอยู่จริง โดยมีตำราเต๋าเต็กเก็งอยู่ในช่วงเวลาก่อนจวงจื้อ) - จวงจื้อ(จังจื้อ) หลานศิษย์ของเหล่าจื้อ ผู้แต่งตำรานิทาน 76 เรื่อง (มั้ง ถ้าไม่ผิดพลาดทางหนังสือที่ถืออยู่ในมือ) เรื่องที่ดังที่สุด คือ เรื่อง "จวงจื้อฝันเป็นผีเสื้อ" โดยคำพูดที่ถูกกล่าวขวัญที่สุด คือ "ข้าพเจ้าฝันว่าเป็นผีเสื้อ หรือผีเสื้อฝันว่าเป็นข้าพเจ้า" สำนักนี้ มีความคิดออกแนวไปในทางนักบวช โดยเน้นที่ปัจเจกชน และเรื่องนามธรรม มนุษย์ควรที่จะหวนกลับคืนสู่ธรรมชาติให้มากที่สุด เพื่อกลับคืนสู่สภาพเต๋าอีกครั้ง คล้ายกับแนวทางของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู เพียงแต่สำนักนี้ไม่มีเทพเจ้าเท่านั้น (ที่โผล่มามีในช่วงหลังๆ ก็เพราะมีการเพิ่มเติมเข้าไป) ในเชิงนิยายกำลังภายใน ถ้าจะกล่าว (เอาแต่ที่รู้จักกันมากพอนะครับ) โกวเล้งถือว่าเขียนนิยายโดยใช้หลักปรัชญาของสำนักนี้ค่อนข้างมาก รวมถึงแนวทางปรัชญาของนิทเช่ 3. ม่อจื้อ ผู้มีชื่อเสียงของสำนักนี้ คือ - ม่อจื้อ ปรมาจารย์ของสำนักนี้ (ม่อจื้อผู้นี้ เป็นทั้งนักปกครอง นักการทหาร โดยได้ก่อตั้งกองกำลังอาสาสมัครเป็นกองกำลังม่อจื้อด้วย) สำนักนี้มีแนวคิดว่า ผู้เข้มแข็งกว่าควรจะปกปักษ์รักษาผู้ที่อ่อนแอกว่า ไม่ใช่ข่มเหงรังแก สำนักนี้จะมีแนวคิดในเชิงมหาชนค่อนข้างมาก แม้จะไม่เป็นที่กล่าวขวัญถึงของคนจีนเท่าใดนัก แต่สำนักนี้ก็ได้แทรกซึมผ่านเข้าไปในวิถีชีวิตของชาวจีน แทรกซึมเข้าไปในแนวคิดของขงจื้อ และลัทธิเต๋า ในเชิงนิยายกำลังภายใน ถ้าจะกล่าว (เอาแต่ที่รู้จักกันมากพอนะครับ) อุนสุยอันถือว่าเขียนนิยายโดยใช้หลักปรัชญาของสำนักนี้ค่อนข้างมาก 4. ฟาเจี่ย หรือสำนักนิตินิยม ผู้มีชื่อเสียงของสำนักนี้ คือ - หานเฟย ผู้ซึ่งเป็นหลานศิษย์ของสวินจื้อ แต่ไม่ใช่ผู้ก่อตั้งสำนักนี้ สำนักนี้มองสังคมว่า สังคมควรมีกฎหมายที่เข้มแข็ง เพื่อป้องกันไม่ให้คนกระทำความผิด หานเฟยคิดแบบเดียวกับสวินจื้อ ในแนวทางที่ว่า คนนั้นเกิดมามีสันดอนที่เลวร้าย แต่วิธีการของหานเฟยนั้นใช้กฎหมาย ในขณะที่สวินจื้อกลับใช้สังคม(จารีตประเพณี)เข้าข่มสันดอนนี้แทน (แนวคิดของหานเฟย ค่อนข้างใกล้เคียงกับแนวคิดของ Thomas Hobbes ปรมาจารย์ของสำนักกฎหมายฝ่ายบ้านเมืองของทางฝั่งยุโรป) คำกล่าวที่ขึ้นชื่อของสำนักนี้ คือ "ผู้ครองแคว้นแม้ทำผิดก็มีโทษเทียบเท่าสามัญชน" สำนักนี้ ยังเป็นสำนักที่ทำให้เกิดการปฎิรูปวิธีใช้กฎหมายของจีน ให้กลายเป็น Civil Laws อย่างเต็มที่ (แม้ว่าในภายหลังจีนจะกลายเป็นคอมมิวนิสต์ แต่สำนักนี้ก็ให้ข้อคิดในการจัดทำกฎหมายของรัฐค่อนข้างมาก) สำนักอื่นๆ ที่ไม่ได้กล่าวถึงก็มี สำนักทางภาษา ฯลฯ ซึ่งเป็นข้อปลีกย่อย และมีมากจนเกินไป ปล. ตอบท่านสยบทั่วแผ่นดิน ฉินสื่อหวงตี้ก็ค่อนข้างชอบหานเฟยนะครับ แต่ในภายหลังหานเฟยถูกหลี่ซือและเจ้าเการ่วมกันใส่ร้าย จนถูกห้าม้าแยกร่างครับ เหตุผลมาจากหานเฟยนั้นโดดเด่นเกินไป อาจจะทำให้ตำแหน่งมหาอำมาตย์(หนึ่งในตำแหน่งสามอำมาตย์เก้าขุนนาง)ของหลี่ซือนั้นกระเด็นไปก็ได้ เพราะตอนมาแรกๆ หานเฟยได้รับตำแหน่งเสนาบดีในตำแหน่งเก้าขุนนางเลย (ผมไม่แน่ใจเรื่องศัพท์เฉพาะนะ ไม่รู้จะเทียบกับภาษาไทยยังไง) |
ชอเฮียงส่วย |
#13 ชอเฮียงส่วย [ 11-09-2009 - 11:10:27 ] |
|
มีหนังสืออยู่เล่นหนึ่งชื่อ "สายธารแห่งปัญญา" เป็นหนังสือที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับปรัชญารวบรวมไว้มาก แต่ดูแล้วเน้นไปทางเต๋า ขงจื้อ ตามแบบการดำเนินชีวิตที่เป็นไปตามธรรมชาติ หากท่านที่ชื่อชอบในการศึกษาปรัชญาน่าจะลองอ่านดูนะครับ |
สยบทั่วเเผ่นดิน |
#14 สยบทั่วเเผ่นดิน [ 12-09-2009 - 15:41:53 ] |
|
ขอบคุณพี่เก้าท่านชอล ที่ชี้แนะ ![]() |
ihwiจ้ามัjกs |
#15 ihwiจ้ามัjกs [ 14-09-2009 - 20:16:15 ] |
|
วิทยาศาสตร์ vs อริยสัจสี่ วิธีการทางวิทยาศาสตร์ 1. เริ่มต้นด้วยปัญหาจากสิ่งที่สงสัยใคร่รู้ กำหนดขอบข่ายในการศึกษา ในทางวิทยาศาสตร์นั้นคิดได้ว่าการเกิดปรากฏการณ์ใดๆก็ต้องมีเหตุหรือที่มาของปรากฏการณ์นั้น หรือมีเหตุที่มาของการเปลี่ยนแปลง 2. ขั้นตอนต่อไปทางวิทยาศาสตร์คือวิธีการหาคำตอบ จากการคาดคะเนโดยกำหนดสมมุติฐานที่คิดว่าจะแก้ปัญหาได้ 3. ขั้นต่อไปต้องกาวิธีการพิสูจน์ยืนยันโดยการทดลอง เก็บรวบรวมข้อมูล 4. แล้ววิเคราะห์ข้อมูลหาความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งที่สนใจศึกษา 5. สุดท้ายสรุปผลว่าเป็นไปตามการคาดคะเนหาคำตอบหรือไม่ และให้ได้ข้อสรุปที่ แนวทางอริยสัจสี่ 1.ทุกข์และสาเหตุของทุกข์ เป็นทฤษฎีที่บอกให้ทราบว่าสาเหตุต่างกันก็ให้เกิดทุกข์ที่ต่างกัน 2. เพื่อหาแนวทางดับทุกข์ ทรงคิดว่าวิธีการต่างๆ ช่วยดับทุกข์ได้ เช่น ศึกษาเล่าเรียนกับ อาฬารดาบส และ อุทกดาบส บำเพ็ญทุกขกิริยา แต่สิ่งเหล่านี้หาได้ช่วยให้พ้นทุกข์ไม่ 3. แนวปฏิบัติที่นำไปสู่หรือนำไปถึงความดับทุกข์ ได้แก่ มรรคอันมีองค์ประกอบอยู่แปดประการ คือ 1. สัมมาทิฏฐิความเห็นชอบ 2. สัมมาสังกัปปะความดำริชอบ 3. สัมมาวาจาเจรจาชอบ 4. สัมมากัมมันตะทำการงานชอบ 5. สัมมาอาชีวะเลี้ยงชีพชอบ 6. สัมมาวายามะพยายามชอบ 7. สัมมาสติระลึกชอบ และ 8. สัมมาสมาธิตั้งใจชอบ 4.ผลของการปฏิบัติ อริยมรรค 8 ซึ่งได้รับการหล่อ เลี้ยงด้วยการดำรงชีวิตอย่างมีสติความมีสตินำไปสู่สมาธิและปัญญาซึ่งจะปลดปล่อย ให้พ้นจากความทุกข์และความโศกเศร้าทั้งมวลอันจะนำไปสู่ความศานติและ ความเบิกบาน 5. เมื่อรู้แจ้งเห็นจริง พระพุทธองค์ได้ทรงเมตตานำทางพวกเราไปตามหนทางแห่งความรู้แจ้งนี้ พระพุทธองค์ทรงค้นพบแนวทางวิทยาศาสตร์ กว่า 2500 ปี เหตุและสาเหตุแห่งทุกข์.........ปัญหา หาวิธีแนวทางดับทุกข์.............สมมติฐาน ปฏิบัติตามอริยมรรค์ 8............ทดลอง พ้นจากความทุกข์และความโศกเศร้าทั้งมวล.............ผลการทดลอง รวมเป็น อริยสัจสี่ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค.................สรุปผล |
ihwiจ้ามัjกs |
#16 ihwiจ้ามัjกs [ 14-09-2009 - 20:20:13 ] |
|
# 11 สมณโคดม องค์สัมมาสัมพุธเจ้า พิสูจน์ให้เห็นประจักษ์แล้ว กว่า 2,500 ปี เด็กไร้วรยุทธ....!! |
ฝ่ามืออัสนีบาต |
#17 ฝ่ามืออัสนีบาต [ 14-09-2009 - 21:35:43 ] |
|
ข้าเพิ่งซื้อหนังสือ จักรวาลในหนึ่งอะตอม พระนิพนธ์ของท่านทะไลลามะมาอ่าน เพราะข้าสนใจเรื่องเกี่ยวกับพุทธกับวิทยาศาสตร์ หลังจากที่อ่านไอน์สไตน์พบ พระพุทธเจ้าเห็น แล้ว ข้าชอบตรงที่เอาวิทยาศาสตร์มาอธิบายพุทธศาสนา และเอาพุทธศาสนาไปอธิบายวิทยาศาสตร์ แต่พุทธของเราจะลึกล้ำโดดเด่นกว่ามาก จะไม่ให้ลึกล้ำกว่าได้ยังไงก็พระพุทธเจ้าท่านทรงเป็นพระสัพพัญญู มีสัพพัญญุตญาณ คือความหยั่งรู้อันประมาณมิได้ ตั้งแต่อะตอมจนถึงจักรวาล อรหันต์นั่งนิ่งอยู่ใต้ร่มพฤกษา พลันแลเห็นทั้งเอกภพ แต่สำหรับเราท่านที่มีคุณสมบัติปานกลาง บางทีสลับชีวิตประจำถิ่นกับการเร่ร่อนสัญจร อาจช่วยให้เห็นความจริง |
กระบี่เก้าเดียวดาย |
#18 กระบี่เก้าเดียวดาย [ 20-09-2009 - 12:01:56 ] |
|
#15 แล้วรู้หรือเปล่าว่า อริยสัจ 4 มาจากอะไร ? เอาจริงๆ ในประวัติศาสตร์นะ ![]() |
ihwiจ้ามัjกs |
#19 ihwiจ้ามัjกs [ 21-09-2009 - 21:12:04 ] |
|
ทรงทอดพระเนตรเห็น เทวฑูตทั้ง ๔ คือ คนแก่ คนเจ็บ คนตาย และนักบวช ก็ทรงเกิดพระทัยน้อมไปในทางบรรพชา ทรงเปล่งอุทานออกมาว่า "สาธุ ปัพพชา" (ปัญหา) ออกผนวชเพราะไม่อยากเจ็บป่วย/ตาย จึงแสวงหาโมกษะ (มุติฐาน) คือ ความหลุดพ้น คือ บวชเป็นพระฤาษี สำเร็จฌานขั้นสูงจากสำนักพระอุทกดาบสและพระกาฬเทวิลดาบส ทรงเจริญฌาน อันเป็นองค์ปัญญาชั้นสูงทั้ง ๓ ประการ ปฐมยาม มัชฌิมยาม ปัจฉิมยาม ทรงบรรลุอาสวักขยญาณ ทรงปรีชาสามารถทำอาสวะกิเลสทั้งหลายให้หมดสิ้นไปด้วยพระปัญญา (ทดลอง) ทรงบรรลุอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า(ผลการทดลอง) ทรงได้พิจารณาถึงพระธรรม ที่พระองค์ได้ทรงตรัสรู้ทั้งหมดนั้น เป็นคุณชาติละเอียดสุขุมคัมภีรภาพอย่างยิ่ง ยากที่มนุษย์ทั้งหลาย ผู้มีปัญญาน้อย มีความเพียรน้อย แม้จะได้สดับแล้ว จะตรัสรู้ตามได้ (สรุปผล) เด็กไร้วรยุทธ......!! เหอะๆ |
สยบทั่วเเผ่นดิน |
#20 สยบทั่วเเผ่นดิน [ 22-09-2009 - 02:38:47 ] |
|
!!ยอด เยี่ยมกันทุกท่านเลย ![]() |
|