เข้าระบบอัตโนมัติ

ถูก-ผิด แพ้-ชนะ "วัฏจักรเวียนว่างดาย"


  • 1
  • 2
ฝ่ามืออัสนีบาต
#1   ฝ่ามืออัสนีบาต    [ 15-08-2009 - 16:51:28 ]

น้ำแยงซีรี่ไหลไปบูรพา
คลื่นซัดกวาดพาวีรชนหล่นลับหาย
ถูก-ผิด แพ้-ชนะ วัฏจักรเวียนว่างดาย
สิงขรยังคงตะวันยังฉายนานเท่านาน

เกาะกลางชลคนตัดฟัดฟืนผมขาวเฒ่าหาปลา
สารทวสันต์เห็นมาเหลือหลายที่กรายผ่าน
สรวลสุราขุ่นป้านใหญ่ให้ตำนาน
เก่าเก่าใหม่ใหม่เสพสราญว่ากันไป

ข้าอ่านกวีสองบทนี้แล้วซาบซึ้งยิ่งนัก โดยเฉพาะบทแรกที่สะท้อนถึงความไม่จีรังยั่งยืนของมนุษย์ จะถุกหรือผิดแพ้หรือชนะก็ล้วนแล้วเป็นความว่างเปล่า



มหาราช
#2   มหาราช    [ 15-08-2009 - 17:28:43 ]

ใช่ ใช่

ไม่มีสิ่งใดเรียกว่า ถูก ไม่มีสิ่งใดเรียกว่า ผิด ไม่สิ่งใดเรียกว่า แพ้ หรือ ชนะ

หรือแม้กระทั่ง ไม่มีสิ่งใด เรียกว่า ความดี ความเลว ความชั่ว ทุกสิ่ง เป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างมันขึ้นมาเอง

มีแต่ความว่างเปล่า มีแต่ความไม่เที่ยงแท้ของชีวิต มีแต่เวียนว่ายตายเกิด อยู่ในสงสารสาคร วนเวียนไม่จบสิ้น ไม่มีสิ่งใดยั่งยืน

มีพบ ก็ต้องมีจาก เป็นเรื่องธรรมดาของชีวิต ถึงแม้จะเป็นเรื่องน่าเศร้าและเจ็บปวดมากเพียงใดก็ตาม

แต่จากลา ก็มิใช่ว่า จะมิได้พบเจอกันอีก ก็ต้องมีกลับมาพบเจอกันอีกครั้ง เว้นเสียแต่ว่า จะตายจากกันไป

อนิจจา...ชีวิตหนอชีวิต



สยบทั่วเเผ่นดิน
#3   สยบทั่วเเผ่นดิน    [ 15-08-2009 - 18:40:48 ]

เดืมทีมนุษย์ไม่มีคำว่าถูกผิดทำไปตาม เดียรฉาน... เพื่อเอาชีวิตรอดไปวันๆ ตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์
พอขึ้นมาครองโลก ก็ได้มีภาษามีวัฒนธรรม มีความเชื่อ

เริ่มสร้างกฏเกณฑ์ในการอยู่ร่วม เริ่มมีการคิดว่าสิ่งใดถูกผิด สิ่งใดชั่วสิ่งใดดีตามหลักของศาสนา
ข้อห้ามกระทำไม่ควรทำ อันนำมาซึ่งผลร้ายหรือดี อย่างไร

ถูกผิดมีอยู่ในจิตสำนักคน ปฎิบัติไร้ซึ่งจิตวิณญาณทำตาม...ตน เมื่อนั้นจึงไร้ซึ่งถูกผิดโดยแท้

นี่จึงนับว่ามีถูกผิด มนุษย์จึงเรียกว่าประเสริฐกว่าสิ่งอื่นได้ ้พราะมีขันธ์ห้า
ต่างจากเดียรฉานที่ทำไปโดยสัญชาตญาณเท่านั้น

แพ้ ชนะ คือการตัดสินเพื่อ ให้ผลของมันเป็นการตัดสินชี้วัด ไม่ว่าในทางในบางคราอาจ,บางทีอาจมีลักษณะเป็นดาบสองคม เช่น มีชัยเหนือผู้อื่นสังหารเพื่อเอาชนะ
แต่พ่ายแพ้กิเลสของตน

ชีวิตไม่มีความเที่ยงแท้ มนุษย์เวียนว่ายตายเกิด ชดใช้กรรม เมื่อยังไม่บรรลุสู่นิพพาน (ว่างเปล่าเป็นอนัตตา)





มหาราช
#4   มหาราช    [ 15-08-2009 - 19:18:48 ]

ตายไป ก็เอาอะไรไปไม่ได้

"เมื่อเจ้าเกิด มีสิ่งใดติดตัวมาด้วยเล่า เมื่อเจ้าไป ก็จงไปดังเช่นที่เจ้ามา"

ไม่มีผู้ใดอยู่ค้ำฟ้า มีสุข ก็ย่อม มีทุกข์ มีทุกข์ ก็ย่อม มีสุข สลับปรับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป ไม่สิ้นสุด

ไม่มีใครดีเลิศประเสริฐศรีได้ร้อยเปอร์เซ็นต์หรอก ทุกคน ย่อมมีดีและชั่ว อยู่ในตัวกันทุกคน

อย่ายึดติดกับสิ่งใดบนโลกใบนี้นักเลย

ทุกสิ่ง คือ อนิจจัง สังขารไม่เที่ยงแท้

เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร

จงให้อภัยแก่คนทุกคนที่ทำให้เกลียดหรือโกรธแค้น

การให้อภัย เป็นธรรมค้ำจุณโลก

ชีวิตคนเราก็มีแค่นี้ สิ่งที่ติดตัวเราไปจนตาย คือ ความรู้ เท่านั้นเอง


วัว ควาย เสือ กวาง และสัตว์บางชนิด ตายไปแล้ว เขา และ หนัง ของมัน ยังใช้ทำประโยชน์ได้ แต่คนเรา เมื่อตายไป ไม่มีสิ่งใด ใช้ทำประโยชน์ได้เลย คงเหลือไว้เพียงแต่ ความดีและความชั่ว ที่ทำไว้ เมื่อตอนยังมีชีวิตอยู่เท่านั้น





สยบทั่วเเผ่นดิน
#5   สยบทั่วเเผ่นดิน    [ 15-08-2009 - 19:29:02 ]


"รู้ไปก็ไร้ค่า ตาย....ก็ลืมหมด"

เมื่อตายไปก็ลืมสิ้น เมื่อยังไม่ตรัสรู้

มนุษย์เราดิ้นรนไปเพื่ออยู่รอดเหมือน ที่เป็นอยู่ตอนนี้ ทุกคนในที่นี้

ตายเอาอะไรไปมิได้คือสอนไม่ให้ยึดติดทรัพย์สิ่งของนอกกาย รูปลักษณ์ งดงาม อร่อย หอมหวาน

มีเชื่อเสียง ความต้องการ อยากเป็น ไม่อยากเป็น อยากได้ มิอยากได้ๆลๆ

ชีวิตเป็นทุกขื สุขก็มิใช่สุขแท้ พระพุทธเจ้าหาทาง เพื่อให้หลุดพ้นซึ่งทุกข์แท้จริง



สยบทั่วเเผ่นดิน
#6   สยบทั่วเเผ่นดิน    [ 15-08-2009 - 19:30:28 ]

วัว ควาย เสือ กวาง และสัตว์บางชนิด ตายไปแล้ว เขา และ หนัง ของมัน ยังใช้ทำประโยชน์ได้ แต่คนเรา เมื่อตายไป ไม่มีสิ่งใด ใช้ทำประโยชน์ได้เลย คงเหลือไว้เพียงแต่ ความดีและความชั่ว ที่ทำไว้ เมื่อตอนยังมีชีวิตอยู่เท่านั้น

///////////////////////////////////////////////////////////////

ไหนผู้ใดว่าไม่มี ความดีชั่ว มีก็เพราะความเชื่อของมนุษย์นี่หละ



มหาราช
#7   มหาราช    [ 15-08-2009 - 19:30:55 ]

ที่ท่านกล่าวมา ก็ถูกอยู่

แต่หมายถึง ความรู้ ยามเรามีชีวิตอยู่ต่างหาก เพื่อความอยู่รอด เช่นที่ท่านกล่าว ก็จำต้องอาศัยความรู้ ดุจเดียวกัน



มหาราช
#8   มหาราช    [ 15-08-2009 - 19:32:27 ]

เราแค่พูดตามสิ่งที่ร่ำเรียนมา ก็เท่านั้น




สยบทั่วเเผ่นดิน
#9   สยบทั่วเเผ่นดิน    [ 15-08-2009 - 19:35:37 ]

ออ....



มหาราช
#10   มหาราช    [ 15-08-2009 - 19:35:42 ]

แต่โดยรวมแล้ว

ทุกสรรพสิ่งในโลก ล้วน อนิจจัง




สยบทั่วเเผ่นดิน
#11   สยบทั่วเเผ่นดิน    [ 15-08-2009 - 19:36:03 ]

อามิตตาพุทธ..



มหาราช
#12   มหาราช    [ 15-08-2009 - 19:38:14 ]

เมื่อไม่มีความรู้ จะอยู่รอดได้อย่างไร จริงหรือไม่

(ขอนอกเรื่องนิด ท่านสยบทั่วแผ่นดิน ท่านว่า นิยายเรื่องใหม่ของข้าน้อย สมควรลงในเว็บนี้หรือไม่ กำลังภายใน แทบไม่มี มีแต่แนวสงคราม ในเรื่อง พยายามจะให้เป็นเช่นนั้น)

ถามหลายคนแล้ว เห็นบอกว่า ลองดู)



สยบทั่วเเผ่นดิน
#13   สยบทั่วเเผ่นดิน    [ 15-08-2009 - 19:40:12 ]

ความรู้จำเป็น เมื่อยังมีชีวิตอยู่น่ะใช่ อย่างน้อยก็ให้รู้เท่าทัน



มหาราช
#14   มหาราช    [ 15-08-2009 - 19:41:28 ]

ถูกแล้ว



เด็กชายไร้นาม
#15   เด็กชายไร้นาม    [ 15-08-2009 - 20:36:36 ]

เอ...คุ้นๆครับ ไม่แน่ใจว่าใช่คำแปลเพลงสามก๊กต้นฉบับหรือเปล่า ( ฉบับก่อนผมเกิดซะอีก ก็ฉบับที่ยังเป็ย วีดีโอ 44 ม้วนอยู่เลยครับ) ...อ่อ...ใช่ละครับ ประโยคสุดท้าย จำได้เลย



เด็กชายไร้นาม
#16   เด็กชายไร้นาม    [ 15-08-2009 - 20:39:26 ]

อืม...มาอ่านทุกประโยคอีกที...ใช่เลยครับ คำแปลเพลงสามก๊ก



นินจาโคงะ
#17   นินจาโคงะ    [ 16-08-2009 - 06:47:00 ]

สุกรผงาดโลก

อนิจจาไอ่หน้าตี๋หมีขั้วโลก

น่าเศร้าโศกสิ้นดีหรือจะขำ

สกุลกูอยู่ขำฟ้าว่ามีธรรม

กูจะนำกองทัพช้างอันเกรียงไกร

อ้างความรู้ร่ำเรียนมาว่าไม่ผิด

ดัดจริตอนิจจังหลงสังขาร

เห็นตัวเมียทำตาโตหน้าชื่นบาน

อ้างกงการฮ่องเต้ขี้เหร่จริง

มันบอกว่าอนิจจังมันไม่แน่

อาร์ทตัวแม่ต้องมองมันด้วยหวั่นไหว

หน้าเหมือนหมูอวดดีหมีจัญไร

จงรีบไปลงนรกเสียเถิดมืง

ปล บทกลอนจากมนุษย์สู่สัตว์เวน





นินจาโคงะ
#18   นินจาโคงะ    [ 16-08-2009 - 06:51:02 ]

คิดได้ไงฮ่าๆๆ



ฝ่ามืออัสนีบาต
#19   ฝ่ามืออัสนีบาต    [ 16-08-2009 - 15:59:05 ]

ข้าว่าถ้ายิ่งได้ฟังเพลงจบสามก๊กฉบับโทรทัศน์นะ จะซาบซึ้งกับกวี2บทนี้มาก



๑ยาจกอุดร๑
#20   ๑ยาจกอุดร๑    [ 16-08-2009 - 16:46:57 ]

เพลงชื่อ ลีสือเตอเทียนข่ง 历史的天空 มีคนแปลไว้ว่า "ห้วงแห่งประวัติศาสตร์
ร้องโดย เหมา อา หมิน (毛阿敏)

เนื้อเพลงภาษาจีน
暗淡了刀光剑影, อั้นต้าน เหลี่ยว ตาว กวง เจี้ยน อิ่ง
远去了鼓角争鸣. เหยี่วน ชวี่ เหลี่ยว กู เจี่ยว เจิ้งหมิง
眼前飞扬着一个个鲜活的面容. เอี่ยน เฉียน เฟย เอี่ยง เจ้อ อี๋ เก้อ เก้อ
เชียน ฮั๋ว เตอ เมี้ยนหยง
湮没了荒城古道, เอียน ม๋อ เหลี่ยว หวง เฉิน กู่ ต้าว
荒芜了烽火边城. ฮวง อู๋ เหลี่ยว เฟิง ฮว่อเปียน เฉิง
岁月啊, 你带不走 ซุ่ย ย่วย อา หนี่ ไต้ ปู โจ่ว
那一串串熟悉的姓名. หนา อี้ ชวน ชวน ชู ชิ เตอ ซิ่งหมิง
兴亡谁人定碍… ซิ่ง อวั้ง เสย เหริน ติ้ง
盛衰岂无凭碍… เฉิ้ง ไฉว ฉี่ อู๋ ผิง
一夜风云散哪…… อี๋เย้ เฟิง อวิ๋น ซ่าน
变幻了时空. เ...ยน ฮวาน เหลี่ยว ฉือ คง
聚散皆是缘碍… จวี๋ ซาน เจี๋ย ชื่อเหยีวน
离合总关情碍… หลี เหอ จง กวาน ฉิง
担当生前事碍… ต่าง ตาง เฉิง เฉียน ฉือ
何计身后评. เหอจี้ เฉิน โฮ้ว ผิง

长江有意化作泪, ฉาง เจียง โหย่ว อี้ ฮว้า จว้อ เล่ย
长江有情起歌声. ฉาง เจียง โหย่วฉิง ฉี่ เกอ เชิง
历史的天空闪烁几颗星, หลี่ ชือ เตอ เทียน คง ช่าน ชว้อ จี่ เค่อ ซิง
人间一股英雄气在驰骋纵横 เหริน เจียนอี๋ กู้ อิง ชง ชี่ ไจ้ ชื่อ เฉิง จง เหิง

เนื้อเพลงที่ ทองแถม นาถจำนงแปลเอาไว้

"พรายเงาง้าว เงากระบี่ ที่เลือนจางลบหายห่าง เสียงกลองเขาเป่าออกศึกแมหน้าคน ยังสดใส ใหม่รำลึกยังสดใส ในห้วงนึก เหมือนตาเห็นที่จมหายไปในท่าม ทะเลเหลืองที่เปล่าเปลือง รกร้าง

หอไฟเด่นแต่กาลกิน ไม่ลงคงอยู่เป็นยังคุ้นเห็น ก็เพียงชื่อ ที่ลือชารุ่งจำเริญ ล่มสลาย ใครกำหนดฤาไร้กฎไร้คน กำหนดหาสายลมพร่าง พัดหมู่ เมฆเคลื่อนคลาเหมือนมายา เปลี่ยนแปลงแห่งห้วงฝันได้ร่วมพบ พลัดพราก
ล้วนบุพเพพลัด-พบ หักเห ลิขิตสวรรค์กล้าหาญทำเรื่อง ต่อหน้าพลันอย่าประหวั่น คำพิจารณ์ หลังชีพวายแยงซี รี่ไหลไปแทนน้ำตาแยงซี
ครวญเพลงลงมา ไม่เคยหน่ายฟากฟ้า ประวัติศาสตร์ดาวพราวพรายวีรชนบทโลก ยังเริงร่าย ประชันใจฯ"

กินใจสุดๆครับ



  • 1
  • 2
ตอบกระทู้
ชื่อ
รหัส กรอกตัวอักษร ตามภาพ
ข้อความ


emo-smile emo-happy emo-lol emo-enjoy emo-kiku emo-cool emo-hoho emo-drool emo-hungry emo-kiss emo-sorry emo-sad emo-cry emo-tear emo-question emo-doubt emo-shock emo-redface emo-plz emo-peevish emo-angry emo-moody emo-sneer emo-makefaces emo-good emo-touched emo-love emo-bore emo-tired emo-vomit
bold italic underline img link superscript subscript size color space justifyleft justifycenter justifyright quote box youtube