
อยากได้ประวัติไมเคิลอ่ะ
|
เจ้านู๋จำไม |
#1 เจ้านู๋จำไม [ 30-06-2009 - 10:01:35 ] |
|
เอาเเบบละเอียดยิบเลยนะ ![]() |
๐คุณชายไร้เงา๐ |
#2 ๐คุณชายไร้เงา๐ [ 30-06-2009 - 12:04:02 ] |
|
20 ภาพย้อนรอยทรงจำของ ″ไมเคิล แจ็คสัน″ร่วมไว้อาลัย ราชาเพลงป็อปผู้ลาลับ >>http://www.online-station.net/news/55/27123.html ![]() RIP....คับ |
เจ้านู๋จำไม |
#3 เจ้านู๋จำไม [ 15-07-2009 - 11:45:53 ] |
|
![]() |
เด็กชายไร้นาม |
#4 เด็กชายไร้นาม [ 15-07-2009 - 13:06:05 ] |
|
...ไมเคิล.. ไมเคิล ฟาราเดย์ ![]() ประวัติ ไมเคิล ฟาราเดย์ เกิดเมื่อวันที่ 22 กันยายน ปี ค.ศ.1791 เป็นบุตรของช่างเหล็กชาวอังกฤษ เนื่องจากฐานะไม่สู้ดี เขาจึงได้รับการศึกษาน้อยยังไม่ทันเรียนสำเร็จก็ต้องออกจาก โรงเรียนกลางคัน และใช้ชีวิตอยู่ในสลัมแห่งหนึ่งไม่มีวี่แววว่าจะเติบโตขี้นเป็น นักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงไปได้ เมื่อมีอายุได้ 13 ปี ไมเคิลก็ไปทำงานเป็นเด็กส่ง หนังสือพิมพ์ และทำงานเย็บปกหนังสือในร้านขายหนังสือด้วย จากการงานนี้ทำให้เขา มีใจรักหนังสือและหาโอกาสอ่านอยู่เสมอ โดยเฉพาะหนังสือที่เกี่ยวกับวิชาไฟฟ้าที่เขา สนใจที่สุด และก็ลองทำการทดลองดูด้วยตนเอง และหาโอกาสไปฟังการบรรยายของ นักวิทยาศาสตร์ต่าง ๆ เสมอ โดยเฉพาะการบรรยายของเซอร์ฮัมฟรีย์ เดวี ซึ่งเขาจะไป ฟังทุกครั้ง และส่งจดหมายแสดงความประสงค์ที่จะขอไปเป็นเด็กรับใช้ของเซอร์อัมฟรีย์ เซอร์อัมฟรีย์ เดวีย์ เห็นชายหนุ่มมีความสนใจอย่างแรงกล้า จึงรับเข้าทำงานเป็นคนล้าง เครื่องมือวิทยาศาสตร์ในห้องเครื่องมือ ทำให้เขามีโอกาสศึกษาวิชาทางวิทยาศาสตร์จาก เซอร์อัมฟรีย์ จนเกิดความชำนาญจนได้รับหน้าที่เป็นผู้ช่วยและติดตามท่านเซอร์ไปในการ เดินทางไปบรรยายทุกครั้ง ในปี 1821 ขณะที่ฟาราเดย์ได้ทำการทดลองเรื่องแม่เหล็กไฟฟ้า เขาก็พบปรากฏการณ์อย่างหนึ่งที่กระแสไฟฟ้าเดินตามเส้นลวดแล้วทำให้เกิดอำนาจ แม่เหล็กรอบ ๆ เส้นลวดกระแสนี้เมื่อนำเอาเข็มแม่เหล็กไปวางไว้ใกล้กระแสนี้ก็จะหมุน ไปเรื่อยๆ ด้วยหลักอันนี้ ฟาราเดย์จึงทดลองประดิษฐ์ไดนาโมเล็กๆ ขึ้น อันเป็นต้นกำเนิด ของไดนาโมที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันไมเคิล ฟาราเดย์ ล้มป่วยเป็นโรคความจำเสื่อมในบั้นปลาย ของชีวิต และถึงแก่กรรมเมื่อ ปี ค.ศ.1867 ที่แฮมป์ตันคอร์ท เมื่ออายุได้ 76 ปี ผลงาน -เป็นผู้ให้กำเนิดไดนาโมในปี ค.ศ.1821 ชื่อ ไมเคิล ฟาราเดย์ ( Michael Faraday ) เกิดเมื่อ 22 กันยายน ค.ศ. 1791 ผลงาน ให้กำเนิดไดนาโมในปี 1821 ถึงแก่กรรม 25 สิงหาคม ค.ศ. 1867 ที่แฮมป์ตันคอร์ท ประวัติโดยย่อ ไมเคิล ฟาราเดย์มีฐานะไม่ดี เขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ได้รับการศึกษาน้อยแต่มีความพยายามมาก เขารักที่จะอ่านหนังสือโดยเฉพาะเกี่ยวกับไฟฟ้า เขามีโอกาสได้รับการศึกษาทางวิทยาศาสตร์จากเซอร์ฮัมฟรีย์ เดวี ในค.ศ. 1821ฟาราเดย์พบว่ากระแสไฟฟ้าเดินตามเส้นลวด ทำให้เกิดอำนาจแม่เหล็ก เมื่อนำเข็มแม่เหล็กไปวางใกล้ๆ เข็มแม่เหล็กจะหมุนไปเรื่อยๆ ฟาราเดย์จึงให้ทฤษฎีว่า " เมื่อกระแสไฟฟ้าเดินไปตามสายลวด จะทำให้เกิดอำนาจแม่เหล็ก " ฟาราเดย์จึงทดลองประดิษฐ์ไดนาโมขึ้นเป็นครั้งแรก ในค.ศ. 1825 ฟาราเดย์ทำการทดลองและค้นพบการทำให้ขดลวดตัดกับขดลวดอีกอันหนึ่ง เกิดเป็นอำนาจแม่เหล็กไฟฟ้า ใช้เป็นหลักของทรานสฟอร์เมอร์ ( หม้อแปลงไฟ ) และในปีเดียวกันนี้ เขาค้นพบการกลั่นน้ำมันเบนซินจากใบคาร์บูเร็ตของไฮโดรเจนและเป็นคนแรกที่สามารถทำให้ก๊าซคลอรีนกลายเป็นของเหลวได้ และพบการทำโลหะผสมเป็นคนแรก ใช้เหล็กและนิกเกิลผสมกัน เรียกว่า สแตนเลสสตีล ผลงานเขามีประโยชน์มากต่อประเทศชาติ นับเป็นนักวิทยาศาตร์ที่น่ายกย่องและสรรเสริญมากคนหนึ่ง ...ยังมีอีกหลายไมเคิลนะครับ |
นินจาโคงะ |
#5 นินจาโคงะ [ 15-07-2009 - 17:43:24 ] |
|
ไมเคิล แองเจลโล่ จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี ภาพสีชอล์กมีเกลันเจโรมีเกลันเจโล หรือชื่อเต็มว่า มีเกลันเจโล ดี โลโดวีโก บัวนาร์โรตี ซีโมนี (อังกฤษ: Michelangelo di Lodovico Buonarroti Simoni, 6 มีนาคม ค.ศ. 1475 - 18 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1564) เป็นจิตรกร สถาปนิก และประติมากรชื่อดังชาวอิตาลี ศิลปินที่เข้าถึง 3 ศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ของโลก เขาไม่เป็นเพียงผู้ที่เข้าถึงแต่เพียงศาสตร์ด้านวิจิตรศิลป์ แต่เขายังเข้าถึงความยิ่งใหญ่ของสถาปัตยกรรม และประติมากรรมอีกด้วย เกิดเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 1475 และเติบโตที่เมืองฟลอเรนซ์ ภายหลังเป็นผู้สร้างประติมากรรมหินอ่อนชื่อกระฉ่อนโลกนามว่า เดวิด (David) หลังจากที่ไปอยู่ที่กรุงโรมเมื่ออายุ 21 ปี และใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นถึง 5 ปี มีเกลันเจโล สร้างประติมากรรมรูปเดวิด ตอนอายุ 26 ปี จากหินอ่อนก้อนมหึมาที่ถูกทิ้งไว้กลางเมืองฟลอเรนซ์เป็นเวลาหลายปี จึงกลายเป็นที่ฮือฮาของชาวเมือง ด้วยเหตุผลที่ว่า ไม่มีใครกล้าพอที่จะแตะต้องมันนั่นเอง ความสำเร็จหลังจากงานชิ้นนี้ ทำให้ชื่อเสียงของเขาโด่งดังไปทั่วอิตาลี มีเกลันเจโลเดิมทีเป็นคนที่เกลียด เลโอนาโด ดาวินชี ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะมีอายุห่างกันถึง 23 ปี และไม่ค่อยได้พบกันบ่อยนัก (คล้ายกับ "การที่เสือสองตัวอยู่ในถ้ำเดียวกันไม่ได้") ในช่วงนี้ (1497-1500) เขาก็ได้สร้างประติมากรรมหินอ่อนอีกชิ้นหนึ่งที่มีชื่อว่า ปีเอตะ (Pietà) ซึ่งปัจจุบันอยู่ในวิหารเซนต์ปีเตอร์ (St. Peter"s Basilica) ที่กรุงโรม ตอนอายุได้ 30 ปี เขาได้ถูกเชิญให้กลับมาที่กรุงโรม เพื่อออกแบบหลุมฝังศพให้กับ พระสันตะปาปาจูเลียส ที่ 2 ซึ่งใช้เวลาประมาณ 40 ปี หลังจากแก้หลายครั้งหลายครา จนมาสำเร็จในปี 1545 ต่อมาในปี 1546 เขาเป็นสถาปนิกคนสำคัญในการสร้างมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ที่กรุงโรม ที่มีความยิ่งใหญ่และงดงามเป็นอย่างมาก ซึ่งถือเป็นสถาปัตยกรรมชิ้นเอกของโลก โดยเฉพาะส่วนที่เป็นโดม เขาใช้ชีวิตในบั้นปลายอยู่ในกรุงโรม ตลอด 30 ปี ช่วงนี้นั้นเองที่เขาเขียนภาพระดับโลกไว้มากมาย โดยเฉพาะ The Last Judgement (Last Judgment) ซึ่งเขาใช้เวลาในการเขียนภาพขนาดยักษ์นี้นานถึง 6 ปี มีเกลันเจโล บัวนาร์โรตี เสียชีวิตลงเมื่ออายุได้ 90 ปี ซึ่งมีคำกล่าวจาก พระสันตะปาปาจูเลียสที่ 2 ว่า "ทรงยินดีบั่นทอนชีวิตของท่านลง เพื่อแลกกับชีวิตของ มิเกลันเจโล ให้ยืนยาวออกไปอีก" |
เตียบ่อกี้ |
#7 เตียบ่อกี้ [ 24-07-2009 - 19:57:08 ] |
|
ไมเคิลจริงๆ ![]() ![]() |
อาซูมิ |
#8 อาซูมิ [ 24-07-2009 - 20:11:16 ] |
|
ไมเคิลตั๋ง ![]() ประวัติ - อายุ- 5ขวบ จบ-บ้านโป่งคอนแวน สถานะ- โฉด ปัจุบันอาชีพ-รับจ้าง ภูมลำเนา- เขมรใต้ บ้านเกิด-อุบลราชธานี โรงบาลที่เกิด-โรงบาลกลางจังหวัดลำปาง ที่อยู่ปัจุบัน-ร้อยเอ็ด บ้านเลขที่-123/321 ![]() |
|