พลังนาคคชสารปัญญาบารมีแบ่งเป็นสิบสามชั้น วิชาแรกตื้นเขินง่ายดาย ต่อให้เป็นคนเบาปัญญา ขอเพียงได้รับการถ่ายทอด ภายในปีสองปีจะฝึกปรือสำเร็จ ขั้นที่สองจะลึกล้ำกว่าขั้นแรกหนึ่งเท่า ต้องใช้เวลาสามถึงสี่ปี ส่วนขั้นที่สามลึกล้ำกว่าขั้นที่สองอีกหนึ่งเท่า ใช้เวลาถึงเจ็ดแปดปี ทบทวีคูณเช่นนี้ ยิ่งฝึกต่อไปยิ่งยากรุดหน้าก้าวไกล รอจนหลังชั้นที่ห้า คิดหวังรุดหน้าอีกชั้นหนึ่งมักต้องใช้เวลาพากเพียรนับสามสิบปีขึ้นไป

           ในนิกายมนตยาน ปรากฎลามะที่ปราดเปรื่องอยู่ทุกยุคสมัย แต่พลังนาคคชสารปัญญาบารมีทั้งสิบสามชั้นนี้ ยังไม่เคยมีคนฝึกปรือถึงขั้นสิบสาม วิชาฝีมือนี้รุดหน้าตามลำดับขั้น ความจริงไม่มีเหตุผลที่ฝึกไม่สำเร็จ หากแม้นผู้คนมีอายุยืนยาวหลายพันปี ต้องฝึกถึงชั้นสิบสามแน่นอน เพียงแต่ผู้คนมีอายุไขจำกัด ในลามะนิกายมนตยาน ก่อนจะสิ้นอายุขัย สามารถฝึกถึงชั้นที่เจ็ดและแปด ก็บังเกิดความร้อนรุ่มคิดรุดหน้า เมื่อเป็นเช่นนี้มักตกอยู่ในห้วงวิกฤติของการคิดรีบเร่งกลับไม่บรรลุ ในราชวงค์ซ้องเหนือ ชายแดนธิเบตเคยมีลามะรูปหนึ่งฝึกถึงชั้นที่เก้ายังบากบั่นต่อไป ขณะจะฝึกถึงชั้นที่สิบ พลันบังเกิดจิตมารไม่สามารถควบคุมตน ในที่สุดกรีดกรายร่ายรำเจ็ดวันเจ็ดคืนสะบั้นชีพจรตัวเองมรณภาพ

           กิมลุ้นกงซือเป็นบรรพชิตยอดอัจฉริยะ เมื่อตั้งใจศึกษาจึงมีความรุดหน้าอย่างรวดเร็ว กลับทะลวงผ่านอุปสรรคชั้นที่เก้า ยามนี้เข้าสู่ขอบเขตชั้นที่สิบ นับเป็นปรากฎการณ์อันน่าตระหนก แม้ไม่อาจบอกว่าไม่มีในอนาคตกาล แต่ก็ไม่เคยปรากฎในอดีตกาล ตามคำบรรยายในคัมภีร์นาคคชสารปัญญาบารมี ยามนี้แต่ละฝ่ามือที่ฟาดออก ล้วนมีอนุภาพเทียบเท่าสิบพญานาคสิบคชสาร กิมลุ้นก๊กซือสำนึกตัวว่า ในชีวิตนี้ยากจะมีความรุดหน้ากว่านี้ แต่ก็เข้าใจว่าสามารถพิชิตโดยไร้ผู้ต่อต้าน ต่อให้ฝึกปรือถึงชั้นที่สิบเอ็กก็เกินความจำเป็น