เข้าระบบอัตโนมัติ

เพลงกระบี่ต๊กโกว

ต๊กโกว, เอี้ยก้วย, เหล็กฮู้ชง, เก้ากระบี่เดียวดาย

          บทนี้จะเป็นการอธิบายถึง แนววิชากระบี่ของต๊กโกวคิ้วป่ายในแต่ละช่วงชีวิต โดยเป็นการเขียนเชิงวิเคราะห์ ใช้ข้อมูลจากทั้ง 2 เรื่องที่ชื่อของเขาปรากฎอยู่ คือ เอี้ยก้วยเจ้าอินทรี และ กระบี่เย้ยยุทธจักร โดยยืนอยู่บนสมมุติฐานว่า ต๊กโกวคิ้วป่ายจากทั้ง 2 เรื่องเป็นคนเดียวกัน

          ข้อมูลหลักที่ใช้คือ สิ่งที่ต๊กโกวคิ้วป่ายจารึกไว้ที่สุสานกระบี และคำอธิบายแนววิชาที่ใช้ออกผ่านทางตัวละครหลักทั้ง 2 เรื่อง คือ เอี้ยก้วย และ เหล็กฮู้ชง

          โดยสรุปแนวทางกระบี่ของต๊กโกวคิ้วป่าย แบบเป็น 4 ช่วงคือ 1. ช่วงกระบี่คม 2.ช่วงกระบี่หนัก 3.ช่วงกระบี่ไม้ 4.ช่วงไร้กระบี่ มีรายละเอียดดังนี้


กระบี่คม

          ข้อมูลจากสุสานกระบี่ของต๊กโกวคิ้วป่าย ได้บ่งบอกให้ทราบได้ว่า ในช่วงเริ่มต้นวิชากระบี่ของเขา เป็นการใช้กระบี่คม โดยกระบี่ 2 เล่มแรก ใช้ในช่วงอายุก่อน 30 ปี

          กระบี่เลมแรกจารึกไว้ว่า

          'เกรี่ยวกราดรุนแรง ทำลายล้างทุกสิ่ง เมื่อวัยหนุ่มฉกรรจ์ ใช้ชิงชัยกับเหล่าผู้กล้าแคว้นฮ่อซวก'

          กระบี่เลมที่ 2 จารึกไว้ว่า

          'กระบี่อ่อนกุหลาบหนูม่วง ใช้ก่อนอายุสามสิบ พลั้งมือทำร้ายผู้กล้าฝ่ายธัมมะ ถือเป็นสิ่งอัปมงคล โยนทิ้งลงสู่ก้นหุบเหว'

          วิชาในช่วงกระบี่คมนี้ ได้สืบทอดไปถึงยุคสมัยในเรื่อง กระบี่เย้ยยุทธจักร ผ่านทาง ผู้อาวุโสฟงชินหยางไปสู่ เหล็กฮู้ชง พระเอกของเรื่อง เรียกวิชานี้ว่า เก้ากระบี่เดียวดาย

          แนววิชากระบี่ทั่วหล้ามีความลึกล้ำไพศาล มียอดกระบวนท่าวิชากระบี่อยู่มากหลาย ทั้งแกร่งกร้าว อ่อนหยุ่น สลับซับซ้อน เรียบง่าย พิสดาร รวดเร็ว มั่นคง ฯลฯ แต่จุดสูงสุดเหนือล้ำกว่ากระบวนท่าวิชาทั้งปวงคือหลักการ ไร้กระบวนท่าเหนือกว่ามีกระบวนท่า อันเป็นแก่นแท้ของ เก้ากระบี่เดียวดาย นี้

          แนวทางของวิชานี้ไม่ยึดติดกับกระบวนแต่ใช้ความเข้าใจในสำนึกกระบี่ เน้นหาจุดอ่อนในกระบวนท่าของศัตรู ไม่ว่าศัตรูจะใช้วิชาไหน ใช้อาวุธอะไร เมื่อเริ่มใช้วิชาย่อมมีกระบวนท่า เมื่อมีกระบวนท่าย่อมมีช่องว่างจุดอ่อน เก้ากระบี่เดียวดายคือการมองให้เห็นถึงจุดอ่อนและจู่โจมใส่ตำแหน่งที่ศัตรูมิอาจไม่กลับไปต้านรับ เมื่อเป็นเช่นนี้ เก้ากระบี่เดียวดายจึงมีแต่จู่โจมไม่มีตั้งรับ หากศัตรูมีเพียงท่าเดียวตนเองก็มีเพียงท่าเดียว หากศัตรูมีร้อยท่าพันกระบวนเพลง ตนเองก็มีร้อยท่าพันกระบวนเพลง

          นับได้ว่าวิชา เก้ากระบี่เดียวดาย คือขีดขั้นสูงสุดของกระบวนท่าวิชากระบี่ สามารถสยบได้ทุกกระบวนท่าวิชายุทธของทุกอาวุธในโลกหล้า แต่กระนั้นวิชากระบี่ของต๊กโกวยังไม่ได้สิ้นสุดเพียงเท่านี้


กะบี่หนัก

          เมื่อเก้ากระบี่เดียวดาย เป็นขีดขั้นสูงสุดของกระบวนท่าทั้งปวง ไม่มีกระบวนท่าวิชาใดจะเหนือล้ำไปกว่านี้อีกแล้ว คำถามคือ ถ้ามีจอมยุทธที่มีสำนึกกระบี่เทียบเท่ากัน 2 คน ต่างก็บรรลุถึงขั้นสูงสุดของกระบวนท่าทั้งคู่ จะมีวิธีใดที่คนใดคนหนึ่งจะฝึกฝนเพื่อชนะอีกคนหนึ่งได้

          คำตอบนั้นแสนเรียบง่าย นั้นคือ ใครเร็วกว่าหรือแรงกว่าก็ชนะไป และนี่เป็นที่มาของกระบี่ในช่วงที่ 2 ของต๊กโกว คือการใช้กระบี่หนัก

          ต๊กโกวใช้กระบี่เหล็กบิลดำพิชิตทั่วแผ่นดิน ก่อนอายุ 40 ตามทีจารึกไว้ที่สุสานกระบี่

          'กระบี่หนักไร้คม ใช้ได้คล่องแคล่ว ฝีมือการสร้างไม่ประณีต ก่อนอายุสี่สิบใช้พิชิตทั้วแผ่นดิน'

          วิชากระบี่หนัก ใช้หลักการพื้นฐานเดียวกับกระบี่คม คือไม่ยึดติดกับกระบวนท่า ไม่ยึดติดกับความพลิกแพลงซับซ้อน เน้นที่ความเข้าใจในสำนึกกระบี่เป็นสำคัญ แต่สิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือความคล่องแคล่วและรุนแรง ตามความตอนนี้

พร้อมกันนั้นยิ่งมายิ่งรู้สึกว่า เพลงกระบี่ที่ร่ำเรียนมาพลิกแพลงซับซ้อนเกินไป ลวดลายหลากหลายเกินไป หวนนึกถึงต๊กโกวคิ้วป่ายจารึกข้อความบนหินเขียวว่า "กระบี่หนักไร้คม ใช้ได้คล่องแคล่ว" ห้วงจินตนาการยังเหนือกว่าท่าพิสดารทั้งหมดในแดนดิน
เล่ม 3 หน้า 333

ยิ่งกระบวนท่าหาความพิสดารไม่ได้ ฝ่ายตรงข้ามยิ่งยากต้านทานรับไว้ สมมุติเช่นเสือกกระบี่แทงตรง ขอเพียงใช้พลังกล้าแข็งดุดัน อานุภาพยังเหนือล้ำกว่าท่ากระบี่ที่พลิกแพลงพิสดารเช่นเพลงกระบี่สุรางคนางค์
เล่ม 3 หน้า 334


ทำไมเอี้ยก้วยถึงฝึกกระบี่หนักได้ ?

          ก่อนจะสูงสุดคืนสู่สามัญได้ต้องไปให้ถึงจุดสูงสุดก่อน ก่อนจะเข้าใจในหลักการไร้กระบวนท่าได้ ก็ต้องเข้าใจขอบเขตความซับซ้อนลึกล้ำของกระบวนท่าทั้งปวงก่อน

          เอี้ยก้วนนั้นไม่ได้เรียนเคล็ดทำลายกระบวนท่าทั้งเก้า ของเก้ากระบี่เดียวดายมาก่อน แต่สามารถพาตัวเองก้าวข้ามความซับซ้อนพิสดารของกระบวนท่า ไปสู่ความเรียบง่ายไร้กระบวนท่าได้ นั่นมิใช่เพียงเพราะฝึกฝนจากอินทรีวิเศษ หากแต่เป็นเพราะตัวเอี้ยก้วยเองก่อนจะมาถึงจุดนี้ก็นับได่ว่าเป็นผู้ที่มีความแตกฉานในวิชากระบี่อยู่แล้ว

          เพราะเขาได้เรียนรู้วิชา กระบี่ช้วนจิ้น ของปรมจารย์เฮ้งเต็งเอี้ยง ยอดฝีมืออันดับหนึ่งในยุคหนึ่ง และยังได้เรียนวิชากระบี่ที่ไว้สยบวิชากระบี่ของเฮ้งเต็งเอี้ยงอีก คือเพลงกระบี่สุรางคนางค์ ของลิ้มเฉียวเอ็งปรมจารย์อีกท่านหนึ่ง นอกจากนั้นยังมีโอกาสได้เรียนรู้เพลงกระบี่ขลุ่ยหยง ของ อึ้งเอี๊ยะซือ ยอดคนอีกท่านหนึ่ง จะเห็นได้ว่าเอี้ยก้วยได้เรียนรู้วิชากระบี่จากยอดคนแห่งยุคถึง 3 คน อีกทั้งยังเรียนรู้วิชาพิสดารอีกมากหลาย ทั้ง ไม้เท้าตีสุนัข วิชาเก้าอิม และอื่นๆ แม้ทุกวิชาที่เอี้ยก้วยเรียนรู้มาจะเทียบไม่ได้กับ วิชากระบี่หนัก แต่ทั้งหมดก็ถือเป็นรากฐานสำคัญ ที่ทำให้เขาก้าวข้ามมาถึงขอบเขตขั้นสูงสุดนี้ได้ ตามความที่กิมย้งอธิบายไว้

          เมื่อมีพลังฝีมือถึงขั้นนี้ คล้ายกับขึ้นสู่ภูเขาไท้ซัว เห็นว่าใต้หล้าเล็กยิ่ง หวนนึกถึงวิชาฝีมือที่ร่ำเรียนมา กลายเป็นไร้คุณค่าความหมายแล้ว
          จากนั้นเอี้ยก่วยครุ่นคิด หากตอนแรกปราศจากพื้นฐาน วันนี้ต่อให้มีประสบการณ์พิสดาร ก็ไม่สามารถบรรลุถึงขอบเขตขั้นนี้
เล่ม 3 หน้า 334

          การที่เอี้ยก้วยได้วิชานี้นับเป็นความประจวบเหมาะของทั้ง เวลา ตัวบุคคล และสถานการณ์ หากเป็นผู้อื่นพบเจออินทรีวิเศษ ก็ใช่ว่าจะศึกษาวิชากระบี่หนักจากอินทรีได้ ผู้นั้นจะต้องมีความเข้าใจในความพิสดารล้ำของยอดวิชากระบี่อยู่เดิม และยังต้องเป็นผู้มีสติปัญญาเฉลียวฉลาดอีกด้วย

          วิชากระบี่หนักเป็นขีดขั้นที่เหนือล้ำกว่ากระบี่คม มีความสมบูรณ์ทั้งในแง่กระบวนท่าและพละกำลัง แต่กระนั้นวิชากระบี่ของต๊กโกว ก็ยังไม่จบเพียงเท่านี้


กระบี่ไม้

          เหนือกว่ากระบี่คมคือกระบี่หนัก เหนือกว่ากระบี่หนักยังมีกระบี่ไม้ ต๊กโกวคิ้วป่ายสำเร็จถึงขั้นนี้ในช่วงอายุหลัง 40 ปี ตามข้อความที่จารึกไว้ ดังนี้

          'หลังอายุสี่สิบปี ไม่ยึดติดกับวัตถุ แม้แมกไม้ไผ่หินล้วนถือเป็นกระบี่ได้ นับแต่นี้พากเพียรฝึกปรือ เริ่มเข้าสู่ห้วงไร้กระบี่เหนือกว่ามีกระบี่ '

          วิเคราะห์จากข้อความที่จารึก ในขั้นกระบี่ไม้ ไม่ได้หมายความว่าจะต้องใช้กระบี่ไม้เท่านั้น แต่หมายความว่า ไม่ได้ยึดติดกับตัวกระบี่อีกต่อไป สามารถใช้อะไรแทนกระบี่ก็ได้ การฝึกฝนในขั้นนี้ไม่ได้มีหลักการอะไรเพิ่มเติม เพราะในด้านเพลงกระบี่นับว่าถึงขั้นสูงสุดมาแต่แรกแล้ว เพียงฝึกฝนตนเองเพิ่มพลังการฝึกปรือมากขึ้น กระบี่ที่ใช้ก็จะเบาลง จนสามารถใช้อะไรแทนกระบี่ก็ได้

ฝีมือฝึกซ้อมช่ำชอง ทราบว่าเพลงกระบี่ของกระบี่หนักสิ้นสุดแต่เพียงนี้ ไม่จำเป็นต้องฝึกปรืออีก ต่อให้กระบี่อสูรฟื้นคืนชีวิต เพลงกระบี่ที่ถ่ายทอดให้คาดว่ามีเพียงเท่านี้ ภายหน้ามีกำลังภายในเพิ่มพูนกระบี่ที่ใช้จะมีน้ำหนักเบาลงทุกขณะ ในที่สุดใช้กระบี่ไม้ประหนึ่งใช้กระบี่หนัก นั่นเป็นเพราะพลังการฝึกปรือเพิ่มพูนจากตื้นเขินเป็นลึกล้ำ ขึ้นอยู่กับการเพาะสร้างของตัวเอง ด้านเพลงกระบี่กลับบรรลุขั้นสุดยอดแล้ว
เล่ม 3 หน้า 338

          เอี้ยก้วยฝึกขั้นกระบี่ไม้นี่อยู่นาน โดยเริ่มต้นจากการฝึกกลางหิมะ จากนั้นฝึกกับอินทรีวิเศษอยู่ ประมาณ 1 ปี แล้วเดินทางไปที่ชายฝั่งทะเล ตอนนั้นเอี้ยก้วยสามารถใช้กระบี่ไม้ฟันต้นไม้ให้หักโค้นลงได้ แต่กระบี่ก็หักไปด้วย หากจะบรรลุ ต้องฟันต้นไม้หักได้โดยกระบี่ไม้ไม่เป็นอะไร

ภายหน้าฟันต้นไม้หักโดยที่กระบี่ไม่หักเสียหาย อย่างนั้นจะมีความสำเร็จใกล้เคียงกับผู้อาวุโสแซ่ต๊กโกวเมื่อครั้งกระโน้นแล้ว
เล่ม 4 หน้า 133

          จากนั้นเอี้ยก้วยได้ฝึกฝนวิชากระบี่ไม้อยู่กลางคลื่นซัด อีกถึง 6 ปี จึงเริ่มออกเดินทางท่องยุทธจักร


ไร้กระบี่

          โดยหลักการแล้ว ขั้นกระบี่ไม้ กับขั้นไร้กระบี่ จะถือว่าอยู่ในขอบเขตขั้นเดียวกันก็ได้ เพราะไม่ได้มีหลักการหรือแนวทางอะไรเพิ่มเติม ตามที่ต๊กโกวจารึกไว้แต่เพียงว่า นับแต่นี้พากเพียรฝึกปรือ เริ่มเข้าสู่ห้วงไร้กระบี่เหนือกว่ามีกระบี่

          ในเรื่องไม่ได้บ่งบอกอะไรไปมากกว่านี้ ขั้นไร้กระบี่มีลักษณะเป็นอย่างไรไม่ได้มีรายละเอียดให้ไว้ เอี้ยก้วยถือว่าสำเร็จถึงขั้นนี้หรือไม่ไม่ได้กล่าวถึง แม่กระทั่งตัวต๊กโกวเองก็ยังไม่ชัดเจนนัก เพราะบอกแต่ว่าพากเพียรฝึกปรือจะเริ่มเข้าสู่ห้วงไร้กระบี่ ขอบเขตขั้นนี้อาจเป็นเพียงจินตนาการ ของต๊กโกวก็อาจเป็นได้

          หรืออาจเป็นไปได้ว่าขั้นไร้กระบี่ เกิดขึ้นจาก เมื่อผู้ฝึกมีพลังฝึกปรือสูงพอ ก็จะไม่ยึดติดกับวิชากระบี่อีกต่อไป ไม่จำเป็นต้องถือกระบี่หรือถือสิ่งเทียมกระบี่ใดๆ แต่ใช้กำลังภายในของตัวเองแทน และนั่นน่าจะเป็นเหตุผลส่วนหนึ่งที่ เอี้ยก้วยแม้จะฝึกกระบี่ไม้จนคล่องแล้ว ยังต้องคิดค้นบัญญัติวิชาเพิ่มเติมขึ้นมาอีก นั่นคือวิชา ฝ่ามือกำสรดวิญญาณสลาย

          อย่างไรก็ตามส่วนที่พอจะบ่งบอกความสำเร็จของเอี้ยก้วยได้ก็คือ เขาได้เข้าใจแล้วว่า ต๊กโกวคิ้วป่ายมีความรู้สึกอย่างไรเมื่อฝึกกระบี่สำเร็จถึงขั้นนี้

ยามนี้เอี้ยก่วยถือกระบี่ไม้ แทงสวนระลองคลื่นยามน้ำทะเลหนุนสูง พลังที่แผ่พุ่งออกจากกระบี่ สามารถต้านปะทะกับคลื่นลูกใหญ่ที่โถมมาประทะหน้า อินทรีวิเศษแม่ทรงพลังมหาศาล ยังไม่อาจต้านทานกระบี่ไม้ของเขาสักสองท่าสามกระบวนเพลง ตอนนี้เอี้ยก่วยค่อยรับรู้ถึงอารมณ์ความรู้สึกในช่วงปัจฉิมวัยของกระบี่อสูรต๊กโกวคิ้วป่าย ครุ่นคิดขึ้น 'อาศัยเพลงกระบี่นี้ ทั่วทั้งแผ่นดินไหนเลยมีคู่มือต้านติด? มิน่าเล่าผู้อาวุโสแซ่ต๊กโกวสะทกสะท้อนอ้างว้าง ฝังกระบี่ในหุบเขาร้าง'
เล่ม 4 หน้า 134
หากต้องการนำข้อมูลออกไป กรุณาให้เครดิตและทำ link กลับมาที่เว็บนี้ด้วยครับ ขอบคุณครับ
https://www.yodyut.com/66/เพลงกระบี่ต๊กโกว


บทความที่เกี่ยวข้อง
กระทู้ที่เกี่ยวข้อง