เฉียวฟง (เคียวฮง, เซียวฟง) หนึ่งในพระเอกที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในนิยายของท่านกิมย้ง เป็นพระเอกที่มีบุคลิกเข้มแข็งเปิดเผยห้าวหาญไม่กลัวฟ้าดิน จิตใจกว้างขวาง ฝีมือสูงส่งล้ำเลิศ เป็นลูกผู้ชายอย่างแท้จริง แต่ต้องพบกับชะตากรรมอันพลิกผัน เรื่องราวที่เปลี่ยนชีวิตอันรุ่งโรจของเขาไปอีกแนวทางหนึ่ง ด้วยเนื้อหาที่เข้มข้นบีบคั้น ทำให้เป็นตัวละครที่จดจำของผู้อ่าน

เฉียวฟง 2013

บุคลิกลักษณะนิสัยของเฉียวฟง

           เฉียวฟงอายุ 30 ปีเศษ เป็นประมุขพรรคกระยาจก เชื่อชาติแท้จริงเป็นชาวซิตัน มีรูปร่างสูงใหญ่กำยำ ไหล่บ่ากว้าง หน้าสี่เหลี่ยมแฝงแววกร้านกรำแดดลม คิ้วดกหนาตาโต จมูกโด่ง ปากกว้าง ใบหูใหญ่ สีหน้าเหี้ยมหาญองอาจ ประกายตาเจิดจ้าดุจสายฟ้า ที่หน้าอกสักรูปสุนัขป่าอ้าปากแยกเขี้ยวอย่างดุร้าย อันเป็นสัญลักษณ์ประจำเผ่า ความโดดเด่นในบุคลิกเป็นที่เห็นได้ชัดเจน ดังในความตอนที่ต้วนอี้พบเฉียวฟงครั้งแรก

ชายฉกรรจ์อันเข้มแข็งนัก นี่คงเป็นชาวเหนืออันโอ่อาอาจหาญ ไม่ว่าแดนกังหนำหรือประเทศไต้ลี้ล้วนไม่มีบุคคลเช่นนี้ เปาปุกตั้งประโคมโอ่ว่า ม่อย้งกงจื้อเข้มแข็งองอาจ ชายฉกรรจ์ผู้นี้จึงคู่ควรรับคำ "เข้มแข็งองอาจอย่างแท้จริง"

เล่ม 2 หน้า 184

           เฉียวฟงมีจิตใจเข้มแข็งมาตั้งแต่ต้น นิสัยเปิดเผยห้าวหาญ มีคุณธรรม และชื่นชอบที่จะคบหาชายชาตรีที่มีความกล้าหาญองอาจ เขาโปรดปานในการร่ำสุรา สามารถดื่มสุราติดต่อกันได้ 40-50 ชาม ดื่มสุราจนเมามายส่วนหนึ่ง จะเพิ่มกำลังวังชาส่วนหนึ่ง

ประวัติของเฉียวฟง

           เฉียวฟงจริงๆแล้วแซ่เซียวเป็นบุตรชายของ เซียวหยวนซาน (เซียวเอี้ยงซัว) ซึ่งเป็นชาวซิตัน เมื่ออายุได้ 1 ปี บิดามารดาได้พาเฉียวฟงเดินทางไปบ้านของยายเพื่อร่วมงานเลี้ยง แต่ระหว่างทางพบกับการซุ่มโจมตีของชาวซ้องที่นอกด่านงังมึ้งกวน การโจมตีนี้เกิดจากความเข้าใจผิด ผู้นำขบวนโจมตีได้รับการแจ้งข่าวจากสหายท่านหนึ่งซึ่งมาทราบภายหลังว่าเป็นข่าวลวง โดยแจ้งว่าจะมีนักรบชาวซิตันเดินทางไปช่วงชิงคัมภีร์ที่วัดเส้าหลิน ผู้นำขบวนจึงรวบรวมผู้กล้ามาดักลอบทำร้าย จากเหตุการนี้ทำให้มารดาของเฉียวฟงเสียชีวิต บิดาของเฉียวฟงกระโดดลงเหวไป เหลืองทิ้งไว้แต่เฉียวฟงที่ยังแบเบาะ

เฉียวฟง 1996

           ผู้นำขบวนซึ่งคือ เฮี้ยงชื้อไต้ซือเจ้าอาวาสวัดเส้าหลิน ไม่อาจหักใจลงมือกับทารกไร้ความผิดได้ และรู้สึกสำนึกผิดต่อโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้น จึงตัดสินใจเลี้ยงดูทารกนี้โดยไปฝากให้กับ เคียวซาคุ้ย สองสามีภรรยา ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ ข้างเนินเขาด้านทิศตะวันออกของยอดเขาเสียวซิกฮง มณฑลฮ่อหนำ เป็นผู้อบรมเลี้ยงดูเสมือนเป็นพ่อแม่แท้ๆ โดยไม่บอกความจริงให้เฉียวฟงรู้

           แม้บ้านจะอยู่ติดกับวัดเส้าหลินแต่เฉียวฟงไม่เคยขึ้นเขาไปที่วัดเส้าหลินเลย เมื่ออายุได้ 7 ขวบ เฉียงฟงออกไปหาเกาลัดที่ภูเขาเสียวซิกฮง เผชิญกับสุนัขป่า ปรากฏหลวงจีนเสียวลิ้มยี่รูปหนึ่งนาม เสียนขู่ไต้ซือ (เฮี้ยงโค่วไต้ซื้อ) ได้ยื่นมือช่วยเหลือ ฆ่าสุนัขป่ารักษาบาดเจ็บให้แก่เฉียวฟง หลังจากนั้นเริ่มถ่ายทอดวิทยายุทธ์ให้ โดยกำชับห้ามเปิดเผยกับผู้ใดว่าเป็นศิษของท่าน ซึ่งความจริงแล้ว เสียนขู่ไต้ซือได้รับฝากจาก เจ้าอาวาสให้มาอบรมสั่งสอนไม่ให้เฉียวฟงเตลิดหลงทาง

           พออายุได้ 16 ปี ได้มีโอกาสพบกับ อวมเกี่ยมทง ประมุขพรรคกระยาจก และได้รับเฉียวฟงเป็นศิษ เนื่องจากเสียนขู่ไต้ซือมิให้เปิดเผยว่าเคยเรียนวิชากับท่าน ชาวยุทธทั่วไปเข้าใจเพียงว่าเฉียวฟงเป็นศิษของ อวมเกี่ยมทงเท่านั้น ในระหว่างที่อยู่ในพรรคกระยาจกเฉียวฟงประกอบคุณงามความดีตลอดมา ในหลายครั้งก็ได้รับวาสนาประจวบเหมาะ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ อวมเกี่ยมทง และ เจ้าอาวาสวัดเส้าหลิน ต่างคอยให้การช่วยเหลืออยู่ลับๆ เนื่องจากต้องการชดใช้ความผิด ด้วยการผลักดันให้เฉียวฟงเป็นวีรบุรุษผู้ทรงคุณธรรม

           ในวันที่ 7 เดือน 5 ปีที่ 6 รัชสมัยง้วนฮงฮ่องเต้แห่งไต้ซ้อง เฉียวฟงอายุ 22 ปี ได้รับตำแหน่งประมุขพรรคกระยาจกจาก อวมเกี่ยมทง ประมุขคนก่อน ก่อนได้รับตำแหน่งเฉียงฟงต้องผ่านการทดสอบ 3 หัวข้อ ประกอบความดีความชอบ 7 ประการ ในการชุมนุมบนภูเขาไท้ซัว เฉียงฟงโค่นศัตรูเข้มแข็ง 9 คน นำพาพรรครอดพ้นจากวิกฤตมาได้ หลายร้อยปีมานี้ ไม่เคยมีหัวหน้าพรรคกระยาจกคนใดที่ต้องผ่านการทดสอบอย่างลำบากเช่นนี้ หลังจากรับตำแหน่ง เฉียวฟงไม่เคยกลับมาที่เส้าหลิน เพราะด้วยฐานะของเขาถ้ามาจะต้องมีพิธีรีตองมากมาย แต่ทุกปีใช้คนจัดส่งเสื้อผ้าอาหารแก่บิดามารดาและอาจารย์เสมอ

           ในช่วงเวลา 8 ปี ที่เป็นประมุขพรรคกระยาจก เฉียงฟงทุ่มเทอย่างสุดความสามารถ ปรับปรุงพรรคกระยาจกจนรุ่งเรื่องเฟื่องฟู มีชื่อเสียงเกริกไกร พออายุ 30 ได้พบกับต้วนอี้ สาบานเป็นพี่น้องกัน หลังจากนั้นได้ประสบเหตุการที่ป่าเห็ง นั่นเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ในชีวิตของเขา อันเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวของเฉียวฟงใน แปดเทพอสูรมังกรฟ้า

เฉียวฟง ปี 1982

เฉียวฟง ปี 1996

เฉียวฟง ปี 2003

วรยุทธของเฉียวฟง

           เฉียวฟงเป็นยอดฝีมือแห่งยุค เขาได้รับการขนานนามเคียงคู่มากับมู่หยงฟู่เป็น "เฉียวฟงเหนือ มู่หยงใต้" แต่ในเรื่องก็ได้พิสูจน์แล้วว่าพลังฝีมือของเขาเหนือล้ำกว่า มู่หยงฟู่พอสมควร เฉียวฟงได้รับการถ่ายทอดวิชาฝีมือจาก เสียนขู่ไต้ซือหลวงจีนวัดเส้าหลินตั้งแต่อายุ 7 ขวบ ภายหลังได้เป็นศิษของ อวมเกี่ยมทง ประมุขพรรคกระยาจก ได้รับถ่ายทอดวิชาเพิ่มเติม เมื่อขึ้นรับตำแหน่งประมุขก็ได้วิชา ไม้เท้าตีสุนัข และ ฝ่ามือพิชิตมังกรสิบแปดท่า

           วิชาที่เฉียวฟงใช้ได้อย่างช่ำชองคือ สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร วิชานี้เป็นไปในแนวทางแกร่งกร้าวเหมาะกับคนองอาจเปิดเผย ซึ่งตรงกับตัวเฉียวฟงพอดี ส่วนวิชาตัวเบาของเขามีต้นกำเนิดจากสำนักเสียวลิ้ม ผ่านการแก้ไขจากอวมเกี่ยมทง เป็นแนวทางอันแกร่งกร้าว พอก้าวยาวๆออก ก็ไปไกลวาเศษ

           เฉียงฟงมีภูมิปฏิภาณเลิศล้ำมาแต่กำเนิด ไม่ว่ากระบวนท่าใด พอศึกษาก็เรียนรู้ พอเรียนรู้ก็แตกฉาน เมื่อเผชิญศัตรูก็สามารถพลิกแพลงใช้ได้อย่างแยบคาย แม้ในวิชาทั้วไปหากเฉียวฟงเป็นผู้ใช้ออกวิชานั้นก็จะเปล่งอานุภาพสูงล้ำ จุดเด่นที่สำคัญคือยิ่งสถานการณ์เลวร้ายเท่าไหร่ พลังซ่อนเร้นภายในกายของเขายิ่งปะทุออกมากเท่านั้น เวลาเผชิญศึกครั้งสำคัญเขามักจะดื่มสุรา ยิ่งดื่มยิ่งเพิ่มกำลังวังชา ด้วยระดับความสามารถของเขาในชีวิตยากพบพานผู้คนเปรียบติด นับแต่ออกท่องเที่ยวไม่เคยประสบความพ่ายแพ้มาก่อน

          เนื้อเรื่องในส่วนของเฉียวฟงนั้นมีความกดดันรันทดตลอดตั้งแต่ต้นจนจบ นับเป็นอีกความแยบยลของท่านกิมย้งในการสร้างสรรบุคลิกลักษณะของตัวละครประชันกับความเป็นไปในเนื้อเรื่อง

          เฉียงฟงถูกวางไว้เป็นตัวละครที่สมบูรณ์แบบเหมือนดังตะวันอันเจิดจ้า มีความแข็งแกร่งทั้งบุคลิกนิสัยใจคอและพลังฝีมือ ยากที่จะมีเรื่องราวมาสั่นคลอนได้ หากสถานการณ์บีบคั้นไปเกิดกับคนที่อ่อนแอ เรื่องราวคงจะไม่น่าสนใจเท่าไหร่เพราะเราจะคาดเดาอารมณ์และการตัดสินใจของเขาได้ง่าย หากตัวละครที่แข้มแข็งแกร่งกล้าเจอกับขวากหนามทั่วไป ก็คงผ่านไปได้ไม่ยาก

          แต่เมื่อสถานการ์อันบีบคั้น รันทด ไร้ทางออก เกิดขึ้นกับคนที่จิตใจเข้มแข็งมั่นคงที่สุดคนหนึง มันจึงเป็นเรื่องที่น่าติดตาม ว่าคนที่มีความกร่าวแกร่งองอาจสุดยอดจะตัดสินใจอย่างไรต่อสถานการณ์ที่บีบคั้นถาโถมไม่หยุดยั้ง