เข้าระบบอัตโนมัติ

ฝ่ามือกำสรดวิญญาณสลาย

เอี้ยก้วย
           เป็นฝ่ามือที่เอี้ยก้วยเป็นผู้บัญญัติขึ้นเอง โดยหลังจากฝึกฝีมือกลางคลื่นทะเล หลายปีต่อมาจึงมีกำลังภายในรุดหน้าตามลำดับ มีอยู่วันหนึ่ง เอี้ยก้วยยืนอยู่ชายฝั่งทะเลเป็นเวลานาน ยามไร้เรื่องราวทดลองต่อยหมัดเตะเท้า เนื่องด้วยมีพลังการฝึกปรือล้ำลึก พอลงมือก็เปร่งอนุภาพไพศาล เพียงฝ่ามือเดียวถึงกับฟาดกระดองของเต่าทะเล ซึ่งอยู่บนชายหาดตัวหนึ่งแตกสลาย ดังนั้นใช้ความคิดบัญญัติเพลงฝ่ามือขึ้นมาชุดหนึ่ง ลงมือด้วยท่วงท่าแตกต่างกับวิชาฝีมือธรรมดาทั่วไป ความร้ายกาจอยู่ที่กำลังภายใน มีทั้งสิ้นสิบเจ็ดกระบวนท่า

           ในชีวิตเอี้ยก้วยได้รับการชี้แนะจากยอดฝีมือไม่น้อย เริ่มจากร่ำเรียนเคล็ดข้อความกำลังภายในจากสำนักชวนจินก่า จากนั้นเซียวเหล่งนึ่งถ่ายทอดเคล็ดวิชาในคัมภีร์สุรางคนางค์ให้ ระหว่างที่อยู่ในสุสานโบราณพบเห็นคัมภีร์เก้าอิม อาวเอี้ยงฮงก็ถ่ายทอดลมปราณคางคก และวิธีบังคับชีพจรย้อนกลับ อั้งชิกกงและอึ้งย้งถ่ายทอดวิชาไม้เท้าตีสุนัขให้ ส่วนอึ้งเอี๊ยะซืออธิบายวิชาดรรชนีศักดิ์สิทธิ์ และเพลงกระบี่ขลุ่ยหยกแก่เขา นอกจากวิชาดรรชนีเอกสุริยันแล้ว กล่าวได้ว่าศึกษาวิชาฝีมือของ ภูตบูรพา พิษประจิม ยาจกอุดร และกลางอิทธิฤทธิ์ สำหรับแนววิชาของสำนักสุสานโบราณ ก็เป็นมรรคาอีกสายหนึ่งนอกเหนือจากห้าสุดยอดฝีมือ ยามนี้พอหล่อหลอมรวมกัน ก็กำหนดเป็นอีกแนวทางหนึ่ง เพียงแต่เอี้ยก้วยหลงเหลือเพียงแขนเดียว ดังนั้นไม่อาศัยการเปลี่ยนแปลงของกระบวนท่าเข้าเอาชัย จงใจสวนทางกับหลักเหตุผลของวิชาบู๊

           เอี้ยก้วยตั้งชื่อเพลงฝ่ามือชุดนี้ว่า เพลงฝ่ามือกำสรดวิญญาณสลาย โดยนำมาจากข้อความในกาพย์เปียกฮู่ (กาพย์ลาจากจร) ของกังเอียม ที่ว่า 'เศร้ากำสรดวิญญาณสลาย คลาดคลาหายจากจรไปแสนไกล' และได้ใช้ฝ่ามือนี้ครั้งแรกตอนได้พบจิวแป๊ะธง

วิชาที่เอี้ยก้วยคิดค้นขึ้นเอง


           ก่อนที่จะคิดค้นวิชาฝ่ามือกำสรดวิญญาณสลายนั้น เอี้ยก้วยก็เคยได้คิดค้นวิชาเล็กๆน้อยๆขึ้นเองมาบ้างแล้ว อย่างในตอนแรกที่สู้กับราชบุตรฮั่วตู่ก็เคยได้ใช้ออก ดังความตอนนี้

เอี้ยก้วยถอยไปหลายก้าว ทรุดนั่งลงข้างกายเซียวเหล่งนึ่ง ยกมือขวาท้าวคาง โบกมือซ้ายเบาๆ ทอดถอนใจคำหนึ่ง สีหน้าปรากฎแววอ้างว้างเดียวดาย เป็นกระบวนท่าสุดท้ายอันเป็นการสิ้นสุดของเพลงหมัดหญิงงาม นาม เดียวดายในสุสานโบราณ ซึ่งเป็นเอี้ยก้วยบัญญัติขึ้นเอง นอกจากลิ้งเชียวเอ็งไม่ทราบ เซียวเหล่งนึ่งก็หาล่วงรู้ไม่
เล่ม 2 หน้า 170

           จากนั้นยังมีเมื่อครั้งที่ต่อสู้กับกงซุนจี้ เอี้ยก้วยก็ได้ใช้ออกด้วยเพลงกระบี่ที่คิดขึ้นเองอีกชุดหนึ่ง โดยเอื่อนเอ่ยบทกวีออกมาพร้อมกับร่ายรำเพลงกระบี่ไปด้วย ตามความตอนนี้

บทกวีนี้เอื่อนเอ่ยอย่างปลอดโปร่ง เพลงกระบี่กลับโอ่อ่าผ่าเผยโดดเด่นสง่างาม โดยเฉพาะสองท่าสุดท้านแผ่วพริ้วพิศดาร บัดเดี๋ยวซ้ายกลายเป็นขวา มุ่งขึ้นบนจู่โจมล่าง กระบวนเพลงเดียวสองกระบี่ ยากจำแนกสภาพจริงเท็จได้
เล่ม 2 หน้า 541

           เพลงกระบี้นี่คิดขึ้นจากหนังสือกวีเล่มหนึ่ง คราก่อนเอี้ยก้วยเห็นจูจื้อลิ้วดัดแปลงวิชาลายมือเป็นกระบวนท่าฝีมือ เลยลองดัดแปลงบทกวีมาเป็นเพลงกระบี่บ้าง

ประสบการณ์ในเชิงบู๊


           สิ่งที่ทำให้เอี้ยก้วยมีความรอบรู้ในวิชาบู๊มากมายจนสามารถบัญญัติวิชาขึ้นเองได้ นอกจากได้ร่ำเรียนวิชาต่างๆมากมายจากยอดคนแล้ว เอี้ยก้วยยังมีประสบการณ์ต่อสู้อย่างโชกโชน และยังมีโอกาสได้เห็นการต่อสู้ของจอมยุทธหลายต่อหลายคน ซึ่งสามารถนำมาเป็นประโยชน์กับตนเองได้ ดังเช่นตอนที่ได้เห็นก๊วยเจ๋งประทะกับ ราชครูกิมลุ้น ก๊วยเจ๋งได้ใช้ออกด้วยวิชาสิบแปดฝ่ามือสยบมังกรผสมผสานเข้ากับวิชาเก้าอิม ดังความตอนนี้

เอี้ยก้วยชมดูอยู่ด้านข้างในใจบังเกิดความเลื่อมใสเหลือประมาณ เอี้ยก้วยเคยฝึกปรือเคล็ดวิชาเก้าอิม เพียงแต่ขาดผู้ชี้แนะไม่ทราบว่ามีความล้ำลึกพิศดารถึงเพียงนี้ เมื่อได้เห็นเพลงฝ่ามือขอก๊วยเจ๋ง ทำใหคิดถึงแนวทางหมัดอันลึกล้ำไม่น้อย
เล่ม 3 หน้า 61

           หรือในตอนที่สู้กับกงซุนจี้ ก็ได้ฮิ้วโชวเชี๊ยะบอกให้หมุนตัวอ้อมไปด้านหลังกงซุนจี้ พอไปถึงด้านหลังแล้ว กลับบอกให้หมุนกลับไปด้านหน้า ดูไปเหมือนเป็นการเคลื่อนที่ ที่ไร้ความหมาย แต่พอหมุนตัวอยู่หลายรอบกลับได้พบว่าใต้ซอกแขนขวาของกงซุนจี้เกิดช่องโหว่ขึ้น

ฮิ้วโชวเชี๊ยะไม่ได้ชี้แนะเอี้เยก้วย พิชิตชัยอย่างไร หากแต่แนะนำเอี้ยก้วยค้นหาโอกาสพิชิตชัย จากสภาพที่ไม่อาจเอาชัยได้ ทั้งไม่ได้ระบุช่องโหว่ในกระบวนท่าของกงซุนจี้ หากแต่ให้เอี้ยก้วยล่อลวงกงซุนจี้จนเผยช่องโหว่ จากกระบวนท่าที่ปราศจากช่องว่างรอยโหว่ นางชี้แนะติดต่อกันหลายครั้ง เอี้ยก้วยก็เข้าใจแก่แท้ของวิชาฝีมือชั้นสูง ครุ่นคิดในใจ 'หากคู่ต่อสู้เป็นยอดฝีมือ ในกระบวนท่าไหนเลยมีช่องโหว่ให้ฉกฉวย คำชี้แนะของผู้อวุโสแซ่ฮิ้วนี้ นับว่าอำนวยประโยชน์แก่ผู้คนชั่วชีวิต'
เล่ม 2 หน้า 539

           ยังมีครั้งที่ได้พบเห็น ยอดคนอย่างอั้งชิกกงประทะกับอาวเอี้ยงฮง เป็นประสบการณ์ที่ยากจะพานพบ และอีกหลายๆครั้งจากหลายๆยอดฝีมือ ประสบการณ์เหล่านี้ล้วนแต่มีประโยชน์ ทำให้เอี้ยก้วยสามารถบัญญัติยอดวิชาอย่างวิชา ฝ่ามือกำสรดวิญญาณสลาย ขึ้นมาได้

สิบเจ็ดฝ่ามือกำสรดวิญญาณสลาย


ซิมเกียเน็กเถี่ยว ( เนื้อเต้นใจสะท้าน )
กีนั้งอิวเทียน ( วิตกทุกร้อนเกินเหตุ )
บ้อตังแซ่อู๋ ( เสกสรรปั้นเรื่องราว )
ทัวนี้ตั่วจุ้ย ( ยืดเยื้อชวนรำคาญ )
ไป๊ฮ้วยคงก๊ก ( วนเวียนหุบเขาร้าง )
ลักปุกชงซิม ( ใจสู้ขาดแรงหนุน )
เกียซีเจ้าเน็ก ( ซากศพเดินได้ )
ย้งนั้งจื่ออิว ( คนเขลาหาเรื่องใส่ตน )
ต้อเกี้ยเง็กซี ( ฝืนทวนความประพฤติ )
ฮุ่ยจิ้มบ้วงเจี๊ยะ ( ลืมกินไม่หลับนอน )
โกวเฮ้งเจียะเอี้ย ( เงาโดดเดี่ยวร่างเดียวดาย )
อิ้มหึงทุงเซีย ( กลืนความแค้นไม่ออกปาก )
ลักซิ้งปุกอัน ( จิตทั้งหกไม่สงบ )
ข้งทู้ม้วกโล่ว ( อับจนสิ้นหนทาง )
มิ่นบ้อนั้งเส็ก ( หน้าไร้แววผู้คน )
เสียยิบฮุยฮุย ( จิตฟุ้งซ่านรัญจวน )
ไง้เยียกบักโกย ( ตะลึงงันราวกิ่งไม้ )

รายละเอียดของกระบวนท่า

           ฝ่ามือนี้มีอยู่ทั้งหมดสิบเจ็บกระบวนท่า เอี้ยก้วยได้บอกชื่อกระบวนท่าทั้งหมดแก่จิวแป๊ะธง ภายหลังได้แสดงแต่ละกระบวนท่าให้ชมดู แต่ที่มีอธิบายในนิยายมีอยู่ ดังนี้

ซิมเกียเน็กเถี่ยว ( เนื้อเต้นใจสะท้าน )
           เป็นกระบวนท่าที่สิบสาม สามารถบังคับกล้ามเนื้อ ทรวงอกยุบเข้าด้านใน แล้วดีดกระดอนออกโจมตีศัตรู

กีนั้งอิวเทียน ( วิตกทุกร้อนเกินเหตุ )
           เป็นวิชาฝ่ามือที่ฟาดพาดเฉียง พลังฝ่ามือกลับกลายเป็นรูปโค้ง กระจายลงรอบด้านปกคลุมพื้นที่กว้างไพศาล ไม่สามารถหลบหลีกรอดพ้น ฝ่ามือนี้มีความรุนแรง แม้แต่จิวแป๊ะธง ถ้ามาเปรียบเทียบฝ่ามือต่อฝ่ามือแล้ว ฝ่ามือของจิวแป๊ะธงไม่กล้าแข็งแกร่งกร้าวเท่ากับพลังฝ่ามือของเอี้ยก้วย

บ้อตังแซ่อู๋ ( เสกสรรปั้นเรื่องราว )
           เคลื่อนไหวทั้งมือเท้า ซ้ายฝ่ามือ ขวาแขนเสื้อ ขยับสองเท้าพุ่งศีรษะชน แม้แต่ทรวงอกหลังไหล่ล้วนใช้กระบวนท่าออก ไม่มีส่วนใดไม่ทำร้ายศัตรู สิบกว่ากระบวนท่าจู่โจมถึงโดยพร้อมเพรียง ที่ว่ากระบวนท่าเสกสรรปั้นเรื่องราวมีเพียงท่าเดียวแต่แฝงท่าตามหลังสิบกว่าท่วงท่า

ทัวนี้ตั่วจุ้ย ( ยืดเยื้อชวนรำคาญ )
           แขนเสื้อข้างขวาโบสสะบัด ราวกับสายน้ำหลังไหล แต่มือซ้ายสะดุดลากถ่วง คล้ายกำลังลากดึงดินโคลนหนักหลายพันชั่งก็ปาน แขนเสื้อเป็นภาพลักษณ์ของทิศเหนือ มือซ้ายเป็นภาพลักษณ์ของกึ่งกลาง ประกอบด้วยความคล่องแคล่วหนักหน่วง

มิ่นบ้อนั้งเส็ก ( หน้าไร้แววผู้คน )
           เป็นกรนะบวนท่าหนึ่งแต่แฝงความเปลี่ยนแปลงมากหลาย สีหน้าปรากฎแววยินดี เดือดดาร โศกศัลย์ หรรษา เต็มไปด้วยความประหลาดพิกล ศัตรูพบเห็น ยากที่จะควบคุมจิตสำนึกตัวเองได้ เรายินดีศัตรูยินดี เรากังวลศัตรูกังวล สุดท้ายตกอยู่ในอาณัติของผู้ใช้วิชา นี่เป็นวิธีพิชิตศัตรูที่ไร้เสียงไร้เงา เปรียบกับการกู่ร้องสยบศัตรูยังเหนือล้ำกว่าขี้นหนึ่ง กระบวนท่านี้ดัดแปลงมาจากยอดวิชาย้ายวิญญาณในคัมภีย์เก้าอิม

ต้อเกี้ยเง็กซี ( ฝืนทวนความประพฤติ )
           เป็นกรนะบวนท่าที่มีการเปลี่ยนแปลงสามสิบเจ็ดแบบ มีต้นกำเนิดจากวิชาฝีมือของพิษประจิมอาวเอี้ยงฮง แต่ว่าล้ำลึกกว่า ในย้อนทวนมีท่าตรง ตรงและย้อนทวนหักล้างกันเอง สะกดข่มกันเอง มิอาจใช้เหตุผลอธิบายได้


หากต้องการนำข้อมูลออกไป กรุณาให้เครดิตและทำ link กลับมาที่เว็บนี้ด้วยครับ ขอบคุณครับ
https://www.yodyut.com/34/ฝ่ามือกำสรดวิญญาณสลาย


บทความที่เกี่ยวข้อง
กระทู้ที่เกี่ยวข้อง