ระดับวรยุทธของ ตัวละครตั้งแต่ภาคแรกจนจบภาค 2
จากการอ่านข้อมูลในเว็บบอร์ดต่างๆมาหลายต่อหลายปี มีการวิเคราะห์วิจารณ์เปรียบเทียบพลังฝีมือของตัวละครต่างๆในเรื่องมังกรหยกอยู่บ่อยครั้ง
แต่ว่าข้อมูลที่ผู้ร่วมวิเคราะห์ยกมากลับเป็นข้อมูลที่ผิดพลาดอยู่เสียเป็นส่วนใหญ่ ทั้งนี้ส่วนหนึ่งเกิดจาก บางท่านใช้ข้อมูลจากที่ดูในหนังในละครซึ่งไม่ตรงกับบทประพันธ์ บางท่านอ่านจากบทประพันธ์แต่จดจำข้อมูลมาผิด บางท่านข้อมูลถูกต้องมีการอ้างอิงตรงตามบทประพันธ์ แต่เป็นการดึงข้อมูลมาแค่แค่ส่วนเดียวไม่ได้ดึงข้อมูลส่วนที่แย้งมาด้วย จึงคิดว่ามันน่าจะดีถ้าจะมีใครซักคนวิเคราะห์ให้ข้อมูลเรื่องนี้อย่างชัดเจนตรงตามบทประพันธ์
ข้าน้อยจึงได้ทำการอ่านเรื่องมังกรหยกภาค 1 และ 2 ใหม่หมด โดยจุดประสงค์เพื่อทำข้อมูลเปรียบเทียบพลังฝีมือของตัวละครต่างๆโดยเฉพาะ และวิเคราะห์ทำออกมาเป็นกราฟเปรียบเทียบ โดยข้อมูลทุกอย่างมีการอ้างอิงชัดเจน โดยใช้ฉบับปรับปรุงใหม่ล่าสุดของ น.นพรัตน์เป็นหลัก
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องไม่ได้มีบอกค่าพลังฝีมือของตัวละครเป็นตัวเลขมาให้วัดระดับวัดความเหลื่อมล้ำกันชัดเจน ข้อมูลยังคงต้องอาศัยการวิเคราะห์ การกะระดับเอาอยู่ อีกทั้งข้อมูลเรื่องพลังฝีมือนั้นมีความซับซ้อนหลายรูปแบบ เช่น สถานการบางอย่างทำให้มีคนได้เปรียบเสียเปรียบ, บางคนวิชาพอๆกันแต่อีกคนฉลาดในการต่อสู้มากกว่า, บางทีก็มีวิชาที่แพ้ทางกัน, บางคนเก่งทางหนึ่งอีกคนเก่งอีกทาง และที่สำคัญที่สุด ในหลายๆครั้งข้อมูลในเนื้อเรื่องมีความขัดแย้งกันเองอยู่
การให้คะแนนในที่นี้ ถ้าข้อมูลไม่สอดคล้องกันจะเลือกให้น้ำหนักกับข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือมากกว่า และจะดูความสมเหตุสมผลตลอดทั้งเรื่อง
ข้อมูลนี้เกิดจากการวิเคราะห์ส่วนตัวเท่านั้น ไม่ควรยึดถือเป็นหลักในการอ้างอิงโดยสมบูรณ์
อย่าดูแต่แท่งกราฟอย่างเดียว ให้คลิกที่แท่งกราฟ
จะมีรายละเอียดบอกว่าข้อมูลมีที่มาอย่างไร พร้อมแหล่งอ้างอิงที่ชัดเจน
เริ่มเรื่องจนถึงก๊วยเจ๋ง 6 ขวบ
![](image/levelarrowbig.gif)
ก๊วยเจ๋ง อายุ 18 (เดินทางมาประลองกับเอี้ยคัง)
![](image/levelarrowbig.gif)
ก๊วยเจ๋งออกจากเกาะดอกท้อ
![](image/levelarrowbig.gif)
งานประลองที่หอควัญพิรุณ
![](image/levelarrowbig.gif)
จบภาคแรก
![](image/levelarrowbig.gif)
หลังจากจบภาคแรก 10 ปีเศษ ก๊วยเจ็งอายุ 30 เศษ เอี้ยก้วยอายุประมาณ 13-16
![](image/levelarrowbig.gif)
ตอนเอี้ยก้วย อายุ ประมาณ 18 (หลังจากออกจากสุสานใหม่ๆ)
![](image/levelarrowbig.gif)
ตอนเอี้ยก้วย อายุ ประมาณ 19 (ช่วงก่อนถูกตัดแขน)
![](image/levelarrowbig.gif)
ตอนเอี้ยก้วย อายุ ประมาณ 20 (หลังจากได้ดาบเหล็กนิลดำแล้ว)
![](image/levelarrowbig.gif)
ตอนท้ายเรื่อง หลังผ่าน 16 ปีแล้ว
![](image/bu.png)
กัวติงอักมีพลังฝีมือสูงที่สุดใน 7 ประหลาดแดนกังหนำ
อ้างอิง
1-126 กัวติ่งอักจัดอยู่อันดับแรกของเจ็ดผู้กล้าแดนกังหนำ พลังการฝึกปรือก็เหนือล้ำกว่าผู้อื่น
![](image/bu.png)
ในเรื่องมีบอกไว้ว่า ใน 7 ประหลาดแดนกังหนำ กัวติ่งอัก กับ จูชง มีพลังฝีมือสูงที่สุด เมื่อกัวติ่งอักเป็นอันดับแรก ดังนั้นจูชงจึงมีพลังฝีมือสูงเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม และน่าจะไม่ห่างจากกัวติ่งอักมากนั้น
อ้างอิง
2-21 ในหกประหลาดแดนกังหนำ กัวติ่งอีกกับจูชงมีพลังฝีมือสูงล้ำกว่าผู้อื่น
![](image/bu.png)
นอกจาก กัวติ่งอักกับจูชงแล้ว ในจำนวนที่เหลือ น่ำฮียิ้น มีพลังฝีมือสูงที่สุด ดังนั้นน่ำฮียิ้นมีพลังฝีมือเป็นอันดับ 3 ของกลุ่ม
อ้างอิง
1-265 เห็นเตียอาเซ็ง ฮั่วป้อกู่ ชวนกิมฮวดล้วยส่งเสียงหอบหายใจ หน้าผากปรากฎเหงื่อใหลซึมออกมา มีแต่น่ำฮียิ้นที่มีพลังฝึกปรือลึกล้ำกว่าและฮั้งเซี่ยวเอี้ยงมีท่าร่างแช่มช้อยปราดเปรียว ที่ยังไม่แสดงอาการเหน็ดเหนื่อยอ่อนล้า ศัตรูกลับยิ่งต่อสู้ยิ่งองอาจ
![](image/bu.png)
ในนักพรตช้วนจิน 7 คน คูชู่กีถือว่ามีพลังฝีมือสูงสุด
![](image/bu.png)
คูชู่กีเก่งขนาดที่ว่า เจ็ดประหลาดแดนกังหนำ กับ เจียวบักไต้ซือ รวม 8 คน รุมคูชู่กีคนเดียวยังทำได้แค่เสมอ ดังนั้นพลังฝีมือของคูชู่กียอมเหนือกว่า พวกเจ็ดประหลาดแต่ละคน หลายเท่า
อ้างอิง
3-331 พลังฝีมือของคูชู่กีจัดอยู่อันดับแรกในเจ็บบรรพชิต ท่าโบกปาดนี้กลับกล้าแข็งยิ่ง
![](image/bu.png)
บ๊วยเถียวฮวงพลังฝีมือน่าจะเหนือกว่าคูชู่กีอีก เพราะตอน 7 ประหลาดต่อสู้กับบ๊วยเถียวฮวงที่เขาร้างแดนมองโกล มีความยากลำบากมากกว่าตอนสู้กับ คูชู่กี
![](image/bu.png)
จากการคาดคำนวณของจูชง บอกไว้ว่า ตั้งเฮี้ยงฮวง(ศพทองแดง) มีพลังฝีมือเหนือ บ๊วยเถียวฮวง(ศพเหล็ก)
อ้างอิง
1-269 จูชงเห็นศพเหล็กมีฝีมือร้ายกาจถึงเพียงนี้ ดูจากท่าร่างของศพทองแดง คล้ายพลังฝีมือเหนือล้ำกว่าภรรยาอีก
![](image/bu.png)
ก๊วยเจ๋งเริ่มเรียนวิทยายุทธจาก 6 ประหลาดตอน 6 ขวบ แต่ด้วยสติปัญหาของก๊วยเจ๋งทำให้เรียนได้ช้า พออายุถึง 16 ได้รับการถ่ายทอดวิชาตัวเบากับกำลังภายในจาก เบ๊เง็ก ทำให้เรียนรู้วิชาจาก 7 ประลาดได้ง่ายขึ้น ฝีมือจึงรุดหน้า
![](image/bu.png)
พออายุใกล้ 18 ก็เดินทางสู่เมืองเกียเฮง พลังฝีมือในตอนนี้ยังเป็นรองเอี้ยคัง
![](image/bu.png)
7 ประหลาด เหลือเพียง 6 คน ใน 10 ปีมานี้ต่างฝึกฝนอย่างหนัก เพื่อไว้แก้แค้นบ๊วยเถียวฮวง ทุกคนจึงมีพลังฝีมือสูงขึ้นไม่น้อย
![](image/bu.png)
ในตอนที่สู้กับ บ๊วยเถียวฮวงรอบ 2 ที่หมู่ตึกเมฆคืนกลับ ทั้ง 2 ฝ่ายต่างมีพลังฝีมือสูงขึ้น
![](image/bu.png)
สู้กับพวกซัวทงเทียน แสดงให้เห็นว่า 6 ประหลาดพลังฝีมือยังอ่อนด้อยกว่า พวก ซัวทงเทียนพอสมควร ขนาด 2 รุม 1 ยังสู้ไม่ได้
![](image/bu.png)
6 ประหลาด มีค่ายกลที่ฝึกซ้อมกันที่มองโกล แต่ทั้งหมด 6 คน ยังสู้ ซัวทงเทียน แพ้เลี่ยงโฮ้วและอาวเอี้ยงโคก 3 คน ไม่ได้
อ้างอิง
2-285 คนทั้งเจ็ดแยกจากกันสิบกว่าปี ต่างฝ่ายต่างฝึกปรือจนฝีมือรุดหน้าก้าวไกล การต่อสู่ครั้งนี้ เปรียบกับการศึกบนภูเขาร้างกลางวิกาลเมื่อครั้งกระโน้น ยังดุร้ายกว่าหลายเท่า
2-21 น่ำฮียิ่นปักไม้คานลงกับพื้น ฟาดฝ่ามือต้านรับไว้ ผ่านไปหลายกระบวนท่า เห็นแน่ว่าไม่อาจต้านทานรับได้
2-21 แพ้เลี่ยงโฮ้วบันดารโทสะ สะอึกปราดเข้าหา ฟาดฝ่ามือทั้งสองข้างบังเกิดเป็นเสียงลมดังขึ้น ช้วนกิมฮวดไหนเลยต้านทานได้
2-21 ยามนั้น ผนึกกำลังกับช้วนกิมฮวด ต่อสู่กับแพ้เลี่ยงโฮ้ว แต่แม้เป็นสองต่อหนึ่ง ยังต้านทานรับไว้ไม่ได้
2-25 แต่ซัวทงเทียน แพ้เลี่ยงโฮ้วและอาวเอี้ยงโคกทั้งสามมีพลังฝีมือกล้าแข็ง หกประหลาดมิใช่คู่มือต้านติด
![](image/bu.png)
กลุ่มจอมยุทธฝ่ายไต้กิม ได้แก่ ซัวทงเทียน แพ้เลี่ยงโฮ้ว เนี่ยจื่ออง เล้งตี่เซี่ยงหยิน น่าจะมีพลังฝีมือพอๆกัน ขอเรียกกลุ่มนี้รวมๆว่า พวกซั่วทงเทียน
![](image/bu.png)
ยังมี โฮ้วทงไฮ้ อีกคนที่เป็นศิษน้องของ ซัวทงเทียน แต่พลังฝีมือ ห่างจาก พวกซัวทงเทียน มาก
![](image/bu.png)
มีช่วงตอนหนึ่งที่บอกไว้ชัดเจนว่า ซัวทงเทียนพลังฝีมือทัดเทียมกับ เล้งตี่เซี่ยงหยิน คือตอนที่ เล้งตี่เซี่ยงหยิน ถูกจิวแป๊ะทงโยน แล้วซัวทงเทียนเข้าไปรับ
![](image/bu.png)
เล้งตี่เซี่ยงหยิน ประมือกับ เฮ้งชูอิด พบว่าพลังฝีมือพอๆกัน เฮ้งชูอิดบาดเจ็บหนักจากฝ่ามือทรายพิษของเล้งตี่เซี่ยงหยินแทบรักษาชีวิตไม่รอด แต่เล้งตี่เซี่ยงหยินก็บาดเจ็บเช่นกัน
อ้างอิง
1-490 พญามังกรประตูปีศาจผู้นี้มีนามว่าซั่วทงเทียน พลังฝีมือสูงเยี่ยมกว่าโฮ้วทงไฮ้ผู้เป็นซือตี๋มากนัก
3-136 ทั้งสองความจริงมีพลังฝีมือคู่คี่ก้ำกึ่ง ซั่วทงเทียนอยู่ในสภาพยืนตรงช่วงชิงเป็นฝ่ายมีเปรียบ แต่เล้งตี่เซี่ยงหยินตระเตรียมพร้อมเพื่อจู่โจม ... จึงเกิดการหักกลบลบล้าง มีสภาพทัดเทียมกัน
1-503 เฮ้งชู่อิดลอบตื่นตระหนก ครุ่นคิดขึ้น "ลามะธิเบตรูปนี้มีกำลังภายในลึกล้ำนัก เรื่องราวไม่อาจชักช้า เราต้องช่วงชิงสยบผู้คนก่อน"
1-508 ในชีวิตเราพบวิชาฝ่ามือทราบพิษ ไม่ร้อยแต่ไม่เคยเผชิญกับวิชาที่ร้ายกาจถึงเพียงนี้ วันนี้แทบรักษาชีวิตไม่รอด
1-543 อาวเอี้ยงกงจื้อ มิต้องปิดทองใส่หน้าอาตมาแล้ว อาตมากับนักพรตผู้นี้ล้วนพลาดพลั้งเสียที มิว่าผู้ใดก็ไม่ได้ชัย
![](image/bu.png)
เอ็งชูอิดพลังฝีมืออยู่หนึ่งใน 3 ของ นักพรตที่มีพลังฝีมือเข้มแข็งที่สุดในช้วนจิน (อันดับ 1 คือ คูชู่กี)
![](image/bu.png)
ตอนประมือกับ พวกซัวทงเทียน ซัวทงเทียนคำนวณว่าพลังฝีมือของเฮ้งชูอิดไม่เป็นรองตน
![](image/bu.png)
มีอยู่ช่วงตอนหนึ่งบอกไว้ว่าพลังภายในคู่คีกับอาวเอี้ยงโคก ซึ่งอาวเอี้ยงโคก น่าจะเก่งกว่า พวกซัวทงเทียน ดังนั้นมีความเป็นไปได้ว่า เฮ้งชูอิดชะเหนือกว่า พวกซัวทงเทียนเล็กน้อย
อ้างอิง
2-44 สามซือเฮียตี๋พอประสบพบหน้า ล้วนใจสั่นสะท้าน คาดคิดไม่ถึงว่าบุคคลที่มีพลังฝีมือเข้มแข็งที่สุดของสำนักช้วนจินทั้งสามล้วนได้รับบาดเจ็บ
1-368 ท่านบำเพ็ญภาวนาในถ้ำเป็นเวลาเก้าปี แม่แต่คูชู่กีก็นับถือเลื่อมใสต่อพลังฝีมือของท่าน
1-497 พลังฝีมือของนักพรตนี้หาเป็นรองเราไม่ อาศัยเราสองซือเฮียตี๋ คงมิอาจรั่งตัวเดียรัจฉานน้อยนี้ไว้
1-491 เฮ้งชู่อิดเห็นฝ่ายตรงข้ามล้วนมีพลังฝีมือสูงเยี่ยม เมื่อครูอาวเอี้ยงโคกผู้นี้ยื่นมือกดใส่ ด้านกำลังภายในคู่คี่ก้ำกึ่งกับท่าน แต่กระแสพลังประหลาดพิศดาร
![](image/bu.png)
เบ๊เง็กไปที่มองโกลเพื่อไปสอนวิชากำลังภายในให้ก๊วยเจ๋ง เบ๊เง็กเป็นเจ้าสำนักช้วนจิน แต่ชื่อเสียงไม่เท่าคูชู่กี น้อยคนที่จะทราบถึงพลังฝีมือ
![](image/bu.png)
ในความคิดของ 6 ประหลาดคาดว่า เบ๊เง็กพลังฝีมือไม่เป็นรองคูชู่กี แต่ในความจริงมีแจ้งไว้ในเนื้อเรื่องว่า คูชู่กีมีพลังฝีมือสูงที่สุดในกลุ่ม
![](image/bu.png)
ในตอนที่ประทะกับ ซัวทงเทียนและพวก พบว่าพลังฝีมือไม่น่าจะเป็นรอง
![](image/bu.png)
ในมังกรหยกภาคแรกไม่ได้มีจุดเปรียบเทียบพลังฝีมือของเบ๊เง็กมากนัก แต่ในมังกรหยกภาค 2 มีช่วงตอนหนึ่งที่กล่าวพาดพิงถึง โดยบอกว่า "จูจื้อลิ้ว พลังฝีมือสูงกว่า เฮ้งชูอิด แต่ต่ำกว่า เบ๊เง็กและคูชู่กี" พลังฝีมือของเฮ้งชูอิดพอๆกับพวกซัวทงเทียน ถ้าเบ๊เง็กเหนือกว่าเฮ้งชูอิด นั้นก็ควรจะเหนือกว่าพวกซัวทงเทียนด้วย แต่ไม่เกินคูชู่กี
อ้างอิง
1-366 เห็นเบ๊เง็กมีฝีเท้าหนักแน่น ท่าร่างมั่นคง แสดงว่ามีพลังการฝึกปรือสมบูรณ์เปี่ยมล้น ล้วนครุ่นคิดขึ้น พลังฝีมือของท่านต้องไม่อ่อนด้อยกว่าคูชู่กีผู้เป็นซือตี๋ เพียงแต่คูชู่กีมีเกียรติภูมิสะท้านสะเทือนทั้งเหนือและใต้ ท่านกลับไร้ชื่อเสียงเรียงนามคาดว่าสืบเนื่องจากทั้งสองมีอุปนิสัยใจคอผิดแผกแตกต่าง
2-36 นิ้วมือเบ๊เง็กทั้งสามนิ้วพอกระทบถูกพัดจีบ อาวเอี้ยงโคกรู้สึกมีพลังลมปราณอันสมบูรณ์เปี่ยมล้นแล่นมาตามด้ามพัด สร้างความตื่นเต้นสงสัยยิ่งนัก รีบพุ่งตัวถอยไปด้านหลัง
2-36 สุ้มเสียงนี้อ่อนโยนยิ่ง แต่แฝงพลังเปี่ยมล้น ทุกถ้ายคำชอนไชเข้าโสตประสาทผู้คน ซัวทงเทียนและพวกกำลังต่อสู้อย่างดุเดือด พอฟังอดสะท้านใจมิได้ พากันเลิกรามือพุ่งถอยไป สำรวจมองเบ๊เง็กเป็นจุดเดียว
![](image/bu.png)
อาวเอี้ยงโคกเป็นลูกของอาวเอี้ยงฮง โผลมาครั้งแรกก็แสดงฝีมือ ห้ามศึกระหว่าง ซัวทงเทียนกับ เฮ้งชูอิด
![](image/bu.png)
พวกซัวทงเทียน และ เฮ้งชูอิด ล้วนนับถือเลื่อมใสในพลังฝีมือของ อาวเอี้ยงโคก จากตรงนี้แสดงว่า อาวเอี้ยงโคก พลังฝีมือไม่เป็นรองพวกที่กล่าวมา
![](image/bu.png)
จะอย่างไรหากเจอพวก 6 ประหลาดรุม อาวเอี้ยงโคกยังสู้ไม่ได้ เพราะ 6 ประหลาดเองก็มีพลังฝีมือสูงขึ้นมาก
![](image/bu.png)
ตอนที่คูชู่กีถูก 3 คนรุม คูชู่กีคาดคำนวณว่า อาวเอี้ยงโคกมีพลังฝีมือเหนือกว่าแพ้เลี่ยงโฮ้ว
![](image/bu.png)
มีอีกช่วงตอนหนึ่งกล่าวไว้ชัดเจน อาวเอี้ยโคกพลังฝีมือไม่เป็นรอง เบ๊เง็ก ซึ่งนั้นย่อมหมายถึงเหนือกว่า พวกซัวทงเทียนด้วย
อ้างอิง
1-490 เสียงฉาดเมื่อฝ่ามือทั้งสองข้างกระทบกัน ขณะจะแผ่พุ่งพลังพลักดันออก ที่ด้านข้างพลันปรากฎคนผู้หนึ่งหมุนตัวออกมา มือซ้ายกดใส่ข้อมือซั่วทงเทียน มือขวากดดันข้อมือเฮ้งชู่อิด แยกออกสู่ภายนอก คนทั้งสองรู้สึกสะท้านที่ฝ่ามือ
1-490 เฮ้งชู่อิดกับซั่วทงเทียนล้วนเป็นยอดฝีมือชาวบู๊ลิ้มแห่งยุค ทราบดีว่าอีกฝ่ายหนึ่งมีฝีมือสูงส่ง ยามนี้คนหนึ่งฟาดฝ่ามือ คนหนึ่งตอบโต้ด้วยฝ่ามือ ล้วนแฝงกำลังภายใน หาคาดไม่ว่ามีคนสามารถสอดมือมากระแทกฝ่ามือของทั้งสองแยกจากกัน
1-491 ทั้งหมดเห็นคนผู้นี้แสดงฝีมือเลอเลิศ ในใจลอบนับถือเลื่อมใส แต่ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่เคยได้ยินชื่อภูเขาอูฐขาวแดนไซฮกมาก่อน
1-502 กระบวนท่านี้แสดงออกถึงพลังฝีมืออันลึกล้ำ ก๊วยเจ๋งกับอ้วงง้วนคังยังไม่ใคร่รู้ซึ้งกระจ่าง แต่เฮ้งชูอิดกับซัวทงเทียนและพวก ล้วนลอบแตกตื่นเลื่อมใส โห่ร้องชมเชยด้วยใจจริง
2-40 ในศัตรูคู่ต่อสู้ มาตรว่าโฮ้วทงไฮ้อ่อนด้อยกว่า อาวเอี้ยงโคกกลับกอปรด้วยกำลังภายในและภายนอก ลงมือด้วยความพิศดารอำมหิต พลังฝีมือยังเหนือล้ำกว่าแพ้เลี่ยงโฮ้วอีก
2-612 วิชาฝีมือของดาวเอี้ยงโคก ความจริงไม่เป็นรองเบ๊เง็ก เฮ้งชู่อิด ซั่วทงเทียนและพวก ไม่ว่าพลังฝีมือและกระบวนท่า ล้วนสูงล้ำกว่าก๊วยเจ๋ง เพียงแต่วิชาสองมือแยกจู่โจมของก๊วยเจ๋ง เป็นวิชาพิศดารที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน ดังนั้นการลงมือทั้งสองครั้ง ล้วนบาดเจ็บภายใต้กระบวนท่าพิศดารนี้
![](image/bu.png)
บ๊วยเถียวฮวงหลังจากศึกที่เขาร้างแดนมองโกลถูกทำให้ตาบอด แต่ถึงตาบอด ในช่วง 10 ปีเศษนี้ก็ฝึกฝนพลังฝีมือรุดหน้าจากเดิมมาก
![](image/bu.png)
นางมีพลังฝีมือสูงกว่าเบ๊เง็ก เพราะเบ๊เง็กคนเดียวเอาไม่อยู่ ต้องให้รวม 6 ประหลาดกับก๊วยเจ็ง รวมเป็น 8 คน รุมถึงจะพอกำจัดนางได้ แต่ก็คงมีการสูญเสีย
![](image/bu.png)
ตอนรับมือจากการกลุ้มรุมของพวกซัวทงเทียน ตอนนั้นนางเดินไม่ได้เพราะผลจากฝึกวิชาผิดพลาด ทั้งยังอยู่ในอาการหิวโหย นางต่อสู้ไปด้วยยังแบ่งสมาธิมาถามเคล็ดวิชาจากก๊วยเจ๋งไปด้วย เมื่อเป็นแบบนี้ย่อมไม่อาจชนะพวกซัวทงเทียน แต่อย่างน้อยก็แสดงให้เห็นว่าพลังฝีมือของนางเหนือกว่าพวกนั้นแต่ละคนพอควร
อ้างอิง
1-364 กัวติ่งอักฟังจากปากคำเบ๊เง็ก ทราบว่าในสิบปีนี้ บ๊วยเถียวฮวงมีพลังฝีมือรุดหน้า เบ๊เง็กปากร้องขอให้หกประหลาดละเว้นชีวิตนางสักคราแท้ที่จริงคิดรักษาหน้าหกประหลาดไว้
1-363 พวกเราทั้งแปดผนึกรวมกำลังย่อมไม่ถึงกับพ่ายแพ้นาง แต่หากคิดกำจัดนาง เกรงว่าทางฝ่ายพวกเราก็ต้องเกิดการสูญเสีย
1-370 หากแม้นนางพบเห็นพิรุธลงมือในบัดดล ท่านเองแม้ไม่เป็นไร แต่วาเจนกงจู้คงไม่อาจรักษาชีวิตไว้ได้ ในหกประหลาดแดนกังหนำก็เกรงว่าเกิดการสูญเสีย
2-26 บ๊วยเถียวฮวงร่ายรำแส้เงิน ยามกระทันหันยอดฝีมือทั้งสี่ไม่อาจคุกคามเข้ามาในรัศมีแส้
![](image/bu.png)
ในเรื่องไม่มีบอกว่าในช่วงเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา คูชู่กีมีพลังฝีมือรุดหน้ามากน้อยแค่ไหน แต่จากการประมือกับพวกซัวทงเทียน พอจะบอกได้ว่าเหนือกว่าพอควร
![](image/bu.png)
อ้าวเอี้ยงโคก แพ้เลี่ยงโฮ้ว และ โฮ้วทงไฮ้ 3 คนรุม คูชู่กียังรับมือไว้ได้
อ้างอิง
2-34 ต้านรับด้วยความเข้มแข็ง ต่อสู้กันสิบกว่ากระบวนท่าเพลง บนศีรษะล้านเลี่ยนของซัวทงเทียนถูกนิ้วทั้งห้าของคูชู่กีปาดใส่ ฝากรอยประทับสีแดงห้าสาย ... ทราบว่าหากใช้มือเปล่าต่อสู้ ต้องมิใช่คู่มือนักพรตผู้นี้
2-34 ซั่วทงเทียนและพวกต้องสบตากันแวบหนึ่ง ครุ่นคิดขึ้น "มิน่าเล่านักพรตผู้นี้มีชื่อเสียงกระเดื่องดังถึงเพียงนี้ นับว่าฝีมือสูงเยี่ยมจริงๆ"
2-39 คูชู่กีอาศัยหนึ่งต้านรับสาม หาได้เพลี่ยงพล้ำเป็นรองไม่
2-45 แพ้เลี่ยงโฮ้วและพวกเห็นคูชู่กีพละกำลังอ่อนล้าลง ยังไม่ยอมสยบ สภาวะกระบี่คล้ายสายรุ้ง กระบวนท่าพิศดารุถึงขีดสุด อดลอบนับถือเลื่อมใสมิได้
![](image/bu.png)
อึ้งเอี๊ยะซืออยู่ในกลุ่มจอมยุทธที่เก่งที่สุดในเรื่อง ซึ่งกลุ่มนี้มีพลังฝีมือโดดห่างจากกลุ่มรองลงมาหลายเท่า กลุ่มรองลงมาที่ว่าก็คือ พวกซั่วทงเทียน บ๊วยเถียวฮวง คูชู่กี
![](image/bu.png)
อึ้งเอี๊ยะซือสามารถติดตามบ๊วยเถียงฮวงอยู่ด้านหลังหลายวันโดยนางไม่รู้ตัว สามารถตะปบคว้านางหอบหิ้วไปได้โดยนางไม่อาจขัดขืน แสดงว่าพลังฝีมือน่าจะมากกว่านางหลายเท่า
![](image/bu.png)
พวกซัวทงเทียน แม้มีพวกมาก แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าอึ้งเอี๊ยะซือ ยังต้องยอมสยบ ยอมคลานลอดใต้ขาอึ้งเอี๊ยะซือหนีเอาชีวิตรอด
![](image/bu.png)
7 บรรพชิตช้วนจิน ร่วมมือกัน โดยใช้ค่ายกลดาวเหนือที่เฮ้งเต็งเอี้ยงคิดค้นขึ้น ทำให้ 7 คน มีอานุภาพเพิ่มมากกว่าแค่ 7 คนรุมธรรมดามากนัก แต่ทั้งหมดยังคงทำได้แค่สู้เสมอกับอึ้งเอี๊ยะซือ
อ้างอิง
2-275 บ๊วยเถียวฮวงวกมือกลับหลัง ด้วยระดับความเร็วดุจสายฟ้า ทุกผู้คนไม่เห็นคนชุดเขียวถลันหลบอย่างไร ท่าตะกุยของนางกลับตะกุยพลาดผิด คนชุดเขียวมีความเคลื่อนไหวดุจภูตพราย กลับปราศจากสุ้มเสียงผิดปกติใด
2-275 บ๊วยเถียวฮวงโถมจู่โจมอย่างเร่งร้อน คนชุดเขียวคล้ายไม่เคลื่อนไหว ท่าถาโถมของบ๊วยเถียวฮวงกลับโถมใส่อากาศธาตุ สร้างความตื่นตระหนกแก่ทุกผู้คนยิ่ง เห็นว่าคนชุดเขียวนี้มีพลังฝีมือสูงส่งเหนือธรรมดา อย่างที่ในชีวิตไม่เคยพบพานมาก่อน
2-286 บ๊วยเถียวฮวงเสียทีที่มีพลังฝีมือติดตัว พอถูกคนชุดเขียวตะปบคว้าไว้กลับไม่อาจดิ้นรน รอจนทุกผู้คนรู้สึกตัว เพียงเห็นเงาหลังของทั้งสอง ทั้งหมดหันไปมองหน้า ชั่วครู่ไม่กล่าวว่ากระไร
2-297 กระดาษบางเบาคิดส่งไปไกล ยังยากเย็นกว่าทุ่มเหวี่ยงหินใหญ่หลายร้อยชั่งอีก ทุกผู้คนเห็นเช่นนั้น ล้วนยอมรับนับถือจนหมดหัวใจ
2-304 หกประหลาดแดนกังหนำเห็นอึ้งเอี๊ยะซือหนึ่งไม่หลบหลีก สองไม่ตอบโต้ ร่างไม่ขยับเคลื่อนไหว เพียงกระบวนท่าเดียวก็กระแทกกระดูกข้อมือก๊วยเจ๋งหลุดจากข้อ ในใจทั้งนับถือเลื่อมใส ทั้งห่วงใยกังวล
3-260 ซัวทงเทียน แพ้เลี่ยงโฮ้วและพวกล้วนเป็นจอมมารร้ายที่ฆ่าคนโดยไม่กระพริบตา แต่เมื่อสายตาของอึ้งเอี๊ยะซือกวาดผ่านหน้าตัวเอง อดสยิวกายด้วยความหนาวเหน็บมิได้
3-261 ทุกผู้คนถูกศักดานุภาพของอึ้งเอี๊ยะซือสยบจนระย่นย่อ กลับไม่กล้ารวมกำลังเข้ากลุ้มรุมจู่โจม แพ้เลี่ยงโฮ้วก้มศีรษะ มุดลอดหว่างขาอึ้งเอี๊ยะซือไปก่อน ซั่วทงเทียน.... สุดท้ายเป็นเฒ่าประหลาดเซียนโสมกับเล้งตี่เซียงหยิน ล้วนมุดลอดหว่างขาอึ้งเอี๊ยะซือออกไป พอออกพ้นจากประตูร้านพากันวิ่งเตลิดหลบหนี ไหนเลยกล้าเหลียวหน้ากลับไปแล้วซักแวบเดียว
3-332 นับตั้งแต่คูชู่กีฝึกฝีมือเป็นต้นมา ไม่เคยประสบความพ่ายแพ้ถึงเพียงนี้มาก่อน
3-333 ทั้งสองฝ่ายล้วนมีสภาพเฉกเช่นขี่อยู่บนหลังเสือ ได้แต่ลงมืออย่างสุดกำลังภายในครึ่งชั่วยาม อึ้งเอี๊ยะซือพลิกแพลงเพลงใช้ยอดวิชาสิบสามประการ ยังคงได้แต่สู้เสมอ ต่อสู้จนเสียงไก่ขันบอกอรุณ คนทั้งแปดยังไม่พิสูจน์ผลแพ้ชนะกัน
![](image/bu.png)
พลังฝีมือยู่ในระดับเดียวกับอึ้งเอี๊ยะซือ
![](image/bu.png)
อาวเอี้ยงฮงสามารถจับ เล้งตี่เซี่ยงหยินมาโยนเล่นได้ ซึ่งเล้งตี่เซี่ยงหยินมีพลังฝีมือระดับเดียวกับ ซัวทงเทียน แพ้เลี่ยงโฮ้ว เนี่ยจื่ออง
อ้างอิง
3-361 เขาทราบดีว่าหากต่อสู้กับอึ้งเอี๊ยะซือ ต้องหักล้างเกินกว่าหนึ่งพันสองพันกระบวนท่า ค่อยปรากฎผลแพ้ชนะ มิหนำซ้ำไม่แน่ว่าตัวเขาจะช่วงชิงเป็นฝ่ายมีเปรียบ
![](image/bu.png)
พลังฝีมือยู่ในระดับเดียวกับอึ้งเอี๊ยะซือและอาวเอี้ยงฮง
![](image/bu.png)
อั้งฉิกกงมีพลังฝีมือพัฒนากว่าตอนที่ วิจารณ์กระบี่เขาฮั้วซัวครั้งแรก พอควร แต่ยังคงสู้เสมอกับอาวเอี้ยงฮง
![](image/bu.png)
ตอนต่อสู่กับอาวเอี้ยงฮงที่เกาะดอกท้อ ใช้เกิน 1000 ก็ยังไม่รู้ผลแพ้ชนะ
อ้างอิง
2-128 ครั้งกระโน้นตอนวิจารณ์กระบี่กับ เฮ้งเต้งเอี้ยง อึ้งเอี๊ยะซือและพวกบนยอดเขาฮั้วซัว อั้งฉิกกงยังฝึกปรือเพลงฝ่ามือชุดนี้ไม่สำเร็จสมบูรณ์ แต่เฮ้งเต้งเอี้ยงและพวกก็ให้คำนิยมชมเชยต่อเพลงฝ่ามือชุดนี้ ภายหลังอั้งฉิกกงมักทอดถอนใจ หากแม้นตัวเองทุ่มเทความเพียรพยายามฝึกปรือตั้งแต่หลายปีก่อน อย่างนั้นตำแหน่ง ยอดฝีมือที่หนึ่งแห่งแผ่นดิน อาจไม่ตกเป็นของประมุขนิกายช้วนจินก่าเฮ้งเต้งเอี้ยง หากแต่เป็นของท่านแล้ว
2-491 หลังจากชุมนุมวิจารณ์กระบี่เมื่อยี่สิบปีก่อน คนทั้งสองหนึ่งอยู่ที่แผ่นดินตงง้วน หนึ่งอยู่ที่แดนไซฮก ไม่เคยติดต่อส่งข่าวกัน ต่างฝ่ายต่างไม่ล่วงรู้แนวทางฝีมือที่ฝ่ายตรงข้ามฝึกปรือขึ้นมาใหม่ ยามนี้พอประมือกัน ทั้งสองล้วนมีพลังฝีมือรุดหน้า แต่เมื่อเปรียบเทียบกัน พบว่ายังไม่แตกต่างจากยี่สิบปีก่อน ต่างมีปมเด่นของตน และบังเกิดข้อกริ่งเกรง ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่อาจพิชิตผู้ใดได้
2-492 เพลงหมัดพลังฝ่ามือพลิกแพลงเปลี่ยนแปลงถึงขีดสุด แต่ยังคงมีฝีมือทัดเทียม ยากที่จะพิสูจน์ความเหลื่อมล้ำต่ำสูงได้
2-497 อึ้งเอี๊ยะซื้อกล่าวเสียงกังวานว่า "ช้าก่อน ฉิกเฮีย ฮงเฮีย พวกท่านทั้งสองหักล้างกันพันกว่ากระบวนท่า ยังไม่ปรากฎผลแพ้ชนะ"
![](image/bu.png)
ก๊วยเจ๋งได้มาพบกับอั้งฉิกกง และได้รับการถ่ายทอดวิชา ฝ่ามือพิชิตมังกรมา 1 ท่า เพียงท่าเดียวก็พอจะตั้งรับ แพ้เลี่ยงโฮ้วได้
![](image/bu.png)
ต่อมาเรียนรู้เพิ่มเติมเป็น 15 ท่า เฉพาะเท่านี่พลังฝีมือก็เพิ่มพูนแซงหน้าเหล่า 6 ประหลาดไปแล้ว แม้พลังฝีมือที่แท้จริงจะยังไม่เทียบเท่าบ๊วยเถียงฮวง แต่เมื่อใช้ฝ่ามือสยบมังกรออก ยังต้านทางนางไว้ได้
![](image/bu.png)
ต่อมาได้รับถ่ายทอดเพิ่มครบ 18 ท่า แม้เพิ่มเพียง 3 ท่า แต่เมื่อร้อยเรียงรวมกัน พลังฝีมือเพิ่มทวีคูณ
![](image/bu.png)
พอไปเกาะดอกท้อ ได้วิชาเพิ่มอีกมากจากจิวแป๊ะทง ทั้ง เพลงหมัดสูญจำรัส สองมือขัดแย้ง และท่องเคล็ดวิชา 9 อิม ได้ทั้งเล่ม พลังฝีมือตอนนี้เหนือกว่าอาวเอี้ยงโคกแล้ว
![](image/bu.png)
ตอนที่ได้เห็น อั้งฉิกกงกับอาวเอี้ยงฮงต่อสู้กัน ก็ได้รับประโยชน์อีกมาก
อ้างอิง
2-120 มาตรว่าเด็กโง่งมเพียงรู้จักท่วงท่าเดียว แต่ตัวประหลาดเฒ่าก็ไม่อาจทำอย่างไรก๊วยเจ๋งได้ ทั้งสองอยู่ห่างกันวาเศษ ยามกระทันหันมีสภาพจับจ้องคุมเชิงกัน
2-189 ก๊วยเจ๋งท่องจดจำขึ้นใจมาตรว่าตีความแตกฉานเพียงหนึ่งหรือสองส่วน แต่ระดับฝีมือก็รุดหน้าก้าวไกลโดยไม่รู้สึกตัว ความสำเร็จในตอนนี้ หาเป็นรองซือแป๋ทั้งหกไม่
2-278 ทั้งสองหักล้างกันห้าสิบกระบวนท่า บ๊วยเถียวฮวงไม่อาจคุกคามเข้าใกล้แม้สักครึ่งก้าว
2-278 พลังฝีมือของนางความจริงเหนือล้ำกว่าก๊วยเจ๋งหลายเท่า เพียงแต่หนึ่งนั้นตาบอด ... สอง คิดล้างแคนให้แก่สามีบังเกิดความร้อนรุ่มใจ ... สาม ก๊วยเจ๋งเรียนรู้กระบวนท่าสูงส่งสิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร ทั้งสองจึงต่อสู้ได้อย่างคู่คี่ก้ำกึ่ง
2-336 ชั่วพริบตา ทั้งสองหักล้างกันสี่สิบกระบวนท่า ก๊วยเจ๋งทบทวนใช้สิบห้าฝ่ามือนี้อยู่หลายเที่ยว เพียงพอกับการป้องกันตัว แต่พลังฝีมือของอาวเอี้ยงโคกสูงเยี่ยมกว่าก๊วยเจ๋งมากนัก คิดเอาชัยกลับทำไม่ได้
2-345 ก๊วยเจ๋งพอเรียนรู้ทั้งสิบแปดฝ่ามือ เชื่อมโยงตั้งแต่ต้นจรดท้ายเปรียบกับสิบห้าฝ่ามือแรก มีอานุภาพเพิ่มพูนทวีคูณ อาวเอี้ยงโค้กพลิกแพลงใช้เพลงหมัดสี่ชุด ยังคงสู้เสมอกัน
2-493 อาวเอี้ยงโคกเห็นหนุ่มสาวนั่งคลอเคลียเคียงคู่...คิดโผพุ่งขึ้นไปเสี่ยงชีวิตกับก๊วยเจ๋ง แต่ทรวงอกยังปวดแปลบไม่อาจใช้กำลังได้ ทั้งคาดว่ามิใช่คู่มือก๊วยเจ๋ง
![](image/bu.png)
อึ้งย้งเดิมมีวิชาที่ได้จากอึ้งเอี๊ยะซือมาพอประมาณ ภายหลังยังได้เรียนวิชาจากอั้งฉิกกงอีกพลังฝีมือเพิ่มพูน ติดที่ว่านางไม่ตั้งใจเรียนรู้เท่าไหร่ ฝีมือจึงไม่พัฒนาไปมากเท่าที่ควร
![](image/bu.png)
ในตอนที่ก๊วยเจ๋งได้รับวิชาฝ่ามือมังกร 15 ท่า มีอยู่ช่วงตอนหนึ่งที่ระบุว่านางมีพลังฝีมือพอๆกับก๊วยเจ๋งในเวลานั้น ซึ่งตอนนั้นก๊วยเจ๋งเก่งกว่า กัวติ่งอักแล้ว ดังนั้นแสดงว่าอึ้งย้งในตอนนี้ก็เก่งกว่ากัวติ่งอักด้วย
อ้างอิง
2-118 อึ้งย้งแม้เรียนรู้เพลงหมัดท่องสราญรมย์อันพิสดารล้ำ แต่เพิ่งร่ำเรียน ยังไม่ช่ำชองชำนาน มิหนำซ้ำพลังฝีมือจะอย่างไรห่างไกลจากเท่าประหลาดเซียนโสม
2-301 นางทราบว่าพลังฝีมือระหว่างก๊วยเจ๋งกับนางคู่คี่ก้ำกึ่งกัน ขอเพียงทั้งสองหักล้างกันสักหลายสิบกระบวนท่า ต่อสู้เสมอกัน โทสะของบิดาจะสลายคลายเอง
![](image/bu.png)
ในช่วงแรกพลังฝีมือยังไม่เทียบเท่าพวกอึ้งเอี๊ยซือ แต่หลังจากคิดค้นวิชาสองมือขัดแย้ง อีกทั้งยังเรียนรู้ 9 อิมโดยไม่ตั้งใจ ทำให้พลังฝีมือรุดหน้า แซงอึ้งเอี๊ยะซือไปได้
![](image/bu.png)
ในตอนอยู่เกาะดอกท้อ อึ้งเอี๊ยะซือใช้พลังสิบส่วนเข้าสู้ สุดท้ายยังยอมรับว่าจิวแป๊ะทงเหนือกว่า ภายหลังยังมีโอกาสได้ประมือกันอีกที่หอควัญพิรุณ จิวแป๊ะทงจงใจไม่ใช่วิชา 9 อิม ก็ยังสู้ได้เสมอ
![](image/bu.png)
เคยแข่งวิชาตัวเบากับอาวเอี้ยงฮง เดินทางไปกลับ เมืองลิ้มอัน กับ เมืองเกียเฮง ในเวลาหนึ่งวันหนึ่งคืน
![](image/bu.png)
ที่หอควัญพิรุณมีช่วงตอนหนึ่งที่ยืนยันชัดเจนอีกครั้งว่า จิวแป๊ะทงมีพลังฝีมือจัดอยู่อันดับหนึ่ง ซึ่งในจำนวนคนที่อยู่ตรงนั้นมีทั้ง อึ้งเอี๊ยะซือ อาวเอี้ยงฮง ฮิ้วโชยยิ่ม รวมถึงอั้งฉิกกงที่สูญเสียวรยุทธด้วย ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า จิวแป๊ะทงมีพลังฝีมือเหนือกว่า จอมยุทธเหล่านี้
อ้างอิง
2-541 ท่าตะปบนี้ถึงกับแฝงพลังสิบส่วนหาคาดไม่ว่าจิวแป๊ะทงเบี่ยงกายคราหนึ่งก็หลบหลีกรอดพ้น
2-544 พลังฝีมือเราไฉนรุดหน้าถึงเพียงนี้? นี่หามีส่วนเกี่ยวข้องกับวิชาสองมือพันตูกันไม่ .... นี่เป็นวิชาในคัมภีร์นพยมชัดๆ
2-552 อึ้งเอี๊ยะซือกล่างว่า "แป๊ะทง ทองคำจำนวนนี้ให้ท่านไปจับจ่ายตามอำเภอใจ พลังฝีมือของท่านสูงล้ำกว่าอึ้งเอี๊ยะซือจริง เรานับถือเลื่อมใสอย่างยิ่ง"
2-548 ได้ยินเสียงลมฝ่ามือหวืดหวือ เงาฝ่ามือของอึ้งเอี๊ยะซือพุ่งฉวัดเฉวียนอยู่ข้างกาย แต่ไม่อาจกระทบถูกจิวแป๊ะทงแม้แต่น้อย
4-214 ยามนี้เห็นเพลงหมัดอีกฝ่ายหนึ่งแม้พิสดารล้ำ พลังกลับอ่อนโทรมลง เพียงสู้เสมอกับตน
3-277 จิวแป๊ะทงร้องว่า เฒ่าพิษร้าย ท่านจากเมืองลิ้มอันติดตามถึงเมืองเกียเฮง และจากเมืองเกียเฮงติดตามกลับมาถึงเมืองลิ้มอัน ในเวลาหนึ่งวันหนึ่งคืน ยังติดตามเฒ่าทารกไม่ทัน พวกเราพิสูจน์ผลแพ้ชนะแล้ว ยังประลองอันใด
4-217 ในคนทั้งหมด จิวแป๊ะทงมีพลังฝีมือจัดอยู่อันดับหนึ่ง แต่ในชีวิตเกรงกลัวงูที่สุด
![](image/bu.png)
ฮิ้วโชยยิ่มมีพลังฝีมือติดอยู่ในกลุ่มเดียวกับพวก อาวเอี้ยงฮง เคยได้รับเชิญไปงานวิจารณ์กระบี่เมื่อครั้งที่แล้ว แต่เขาไม่ได้ไป
![](image/bu.png)
ตลอดทั้งเรื่องฮิ้วโชยยิ่มมีโอกาสประมือกับไม่กี่คน คนที่ประมือด้วยบ่อยที่สุด และพอจะมีรายละเอียดให้วัดระดับได้ก็คือก๊วยเจ๋งนั่นเอง
![](image/bu.png)
การหาระดับพลังฝีมือของฮิ้วโชยยิ่ม มีข้อมูลที่ขัดแย้งกันอยู่บ้าง เพราะมีบางช่วงตอนบอกคล้ายกับว่าพลังฝีมือของฮิ้วโชยยิ่มใกล้เคียงกับพวกอาวเอี้ยงฮงมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการประเมินจากก๊วยเจ๋ง แต่จากลำดับพลังฝีมือในเนื้อเรื่องจริงๆพบว่าน่าจะยังมีความห่างกันพอสมควร เช่น ในขณะที่ก๊วยเจ๋งพอที่จะสู้ฮิ้วโชยยิ่มได้สูสี แต่พอก๊วยเจ๋งไปสู้กับอึ้งเอี๊ยะซือกลับพบว่าพลังฝีมือยังห่างไม่น้อย นั่นแสดงฮิ้วโชยยิ่มน่าจะห่างจากพวกอึ้งเอี๊ยะซืออยู่พอสมควรเช่นกัน
อ้างอิง
3-428 เมื่อเป็นเช่นนี้ สีผู้อวุโสพรรคกระยาจกล้วนทราบว่า พลังฝีมือของก๊วยเจ๋งกับฮิ้วโชยยิ่มคู่คี่ก้ำกึ่งกัน มาตรว่าก๊วยเจ๋งยังไม่เทียบเท่า แต่ก็อยู่ห่างไม่ไกลนัก
3-428 ฮิ้วโชยยิ่มพอรับหนึ่งกระบวนท่า ก็ทดสอบฝีมือแท้จริงของก๊วยเจ๋งออก วิจารณ์ตามพลังการฝึกปรือ ตัวเขาเหนือล้ำกว่าก๊วยเจ๋งครึ่งขั้น
3-461 เมื่อครู่ก๊วยเจ๋งอยู่บนยอดเขากุนซัวพบเห็นวิชาฝ่ามือเหล็กของฮิ้วโชยยิ่ม นับว่าแหลมคมดุดัน ลึกล้ำสุดเปรียบปาน หาเป็นรองจิวแป๊ะทง อึ้งเอี๊ยะซือ และ อาวเอี้ยงฮงไม่ ตัวเขาไม่อาจทัดเทียบเปรียบได้
3-471 การประฝ่ามือครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายนับว่าตัดสินความเหลื่อมล้ำต่ำสูง เมื่อคืนตอนอยู่ภูเขากุนซัว ... ทั้งสองคล้ายสู้เสมอกัน แต่นั่นเป็นเพราะการลงมือของก๊วยเจ๋ง แฝงพลังของค่ายกลฟ้าดาวเหนือ ยามนี้ประทะหักล้างอย่างหักโหม จะอย่างไรเป็นรองขั้นหนึ่ง
3-588 ก๊วยเจ๋งกล่าวว่า มิผิด ตอนอยู่บนภูเขากุนซัวกับยอดเขามือเหล็ก ข้าพเจ้าเคยประมือกับฮิ้วโชยยิ่ม หากสู้สืบไป ภายในห้าสิบกระบวนท่า อาจสามารถสู้เสมอ แต่ร้อยกระบวนท่าให้หลัง เกรงว่าไม่อาจต้านทานรับได้
4-98 ฮิ้วโชยยิ่มประฝ่ามือกับก๊วยเจ๋ง ความจริงช่วงชิงเป็นฝ่ายมีเปรียบทีละน้อย
![](image/bu.png)
หลังออกจากเกาะดอกท้อ ก๊วยเจ๋งไปติดที่เกาะร้างได้ศึกษาบทเปลี่ยนเส้นเอ็นชุบกระดูกของวิชา 9 อิม พลังฝีมือเพิ่มพูนขึ้นอีกมาก
![](image/bu.png)
ตอนรักษาตัวในห้องลับ 7 วัน ได้พบเห็น 7 บรรพชิตใช้ค่ายกลดาวเหนือสู้กับอึ้งเอี๊ยะซือ แนวทางสอดคล้องกับ 9 อิม จึงเป็นประโยชน์ต่อก๊วยเจ๋งมาก และยังได้เรียนรู้วิชาดรรชนีศักดิ์สิทของอึ้งเอี๊ยะซือไปด้วย
![](image/bu.png)
ที่งานเลือกหัวหน้าพรรคกระยาจก ก๊วยเจ๋งประทะกับฮิ้วโชยยิ่ม พบว่าพลังฝีมือคู่คี่กัน ซึ่งฮิ้วโชยยิ่มจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับพวก อาวเอี้ยงฮง จิวแป๊ะทง เลยทีเดียว
![](image/bu.png)
ตอนที่เฝ้ามองอิดเต็งไต้ซือรักษาอึ้งย้ง ก๊วยเจ๋งก็ได้เรียนรู้แนวทางวิชาอีกมาก
![](image/bu.png)
เทียบกับฮิ้วโชยยิ่ม พลังฝีมือตอนนี้ถึงจะยังไม่เท่าเทียมแต่ก็สูสี ถ้ามีอึ้งย้งช่วยด้วยจะสู้ได้เสมอ แต่เมื่อก๊วยเจ๋งเทียบกับอึ้งเอี๊ยะซือถือว่ายังห่างอยู่ไม่น้อย
![](image/bu.png)
พลังฝีมือของก๊วยเจ๋งตอนนี้นับว่าห่างจากพวกซัวทงเทียนมากแล้ว
อ้างอิง
3-114 ก๊วยเจ๋งฝึกปรือวิชาฝีมือในบทเปลี่ยนเส้นเอ็นชุบกระดูกของคัมภีร์นพยมถึงขั้นที่สอง มาตรว่าไม่ได้ร่ำเรียนเพลงหมัดกระบวนท่าใหม่ แต่พลังฝีมือพลันเพิ่มพูนเป็นสองเท่า
3-124 หักล้างอีกหลายกระบวนท่า พลังฝ่ามือของก๊วยเจ๋งคุกคามเฒ่าประหลาดเซียนโสมยิ่งมายิ่งล้าหลัง
3-330 ก๊วยเจ๋งพอได้รับการกระตุ้นเตือน เคล็ดวิชามากหลายในคัมภีร์นพยมภาคหลังพลันผ่านเข้ามาในห้องสมอง ข้อความที่ความจริงไม่เข้าใจ ยามนี้พอเห็นวิธีการใช้ฝ่ามือก่อตั้งค่ายกลของเจ็ดบรรพชิต พลันเข้าใจกระจ่าง
3-330 ยามนี้เห็นเจ็ดบรรพชิตช้วนจินโคจรพลังก่อตั้งค่ายกล เมื่อเปรียบเทียบกับหลักวิชาแนวทางลัทธิเต๋าในคัมภีร์ ทุกประการล้วนพ้องต้องกัน จึงเป็นประโยชน์อย่างแท้จริง
3-580 ยามนี้อิดเต็งไต้ซือเท่ากับแสดงตนอรรถาธิบาย ใช้วิชาอันลึกล้ำเผยความพิศดารนานับประการในคัมภีร์นพยมออกมา ก๊วยเจ๋งไม่ได้รับอนุญาต ย่อมไม่กล้าเล่าเรียนดรรชนีเอกสุริยันนี้ แต่ก็เข้าใจเคล็ดความพิสดารของคัมภีร์อีกมากหลาย
3-588 เพียงแต่ดูจากกระบวนท่วงท่าของไต้ซือ ข้าพเจ้าทำความเข้าใจกับส่วนที่ไม่เข้าใจในคัมภีร์นพยมเพิ่มพูนกว่าเดิม หากคิดเอาชัยฮิ้วทิเจี้ยย่อมเป็นไปไม่ได้ แต่คาดว่าสามารถยืดเวลาการต่อสู้ออกไปอีกครู่หนึ่ง
4-122 สายตายังเหลือบเห็นซัวทงเทียนกับแพ้เลี่ยงโฮ้วถอยร่นติดต่อกัน ภายใต้พลังฝ่ามือรุกเร้าจากก๊วยเจ๋ง ได้แต่ปิดป้องต้านทานถ่ายเดียว
4-190 ก๊วยเจ๋งแม้พบพานยอดคนหลายท่าน เรียนรู้วิชาพิศดารไม่น้อย แต่เปรียบกับประมุขเกาะดอกท้อ ที่เป็นปรมจารย์วิชาบู๊ท่านนี้ จะอย่างไรยังห่างไกลกันมากนัก
4-211 ก๊วยเจ๋งได้รับการช่วยเหลือจากอึ้งย้งสามารถสู้เสมอกับฮิ้วโชยยิ่ม
4-320 หากวิจารณ์พลังฝีมือของทั้งสอง ก๊วยเจ๋งยังเป็นรองขั้นหนึ่ง
![](image/bu.png)
อึ้งย้งตอนที่อยู่เกาะร้างพลังฝีมือยังเทียบกับอาวเอี้ยงโคกไม่ได้
![](image/bu.png)
หลังจากได้เรียนรู้ไม้เท้าตีสุนัข พลังฝีมือก็เพิ่มพูน พอจะรับการรุกของอาวเอี้ยฮงได้ระยะเวลาหนึ่ง
![](image/bu.png)
หลังจากนั้นใช้เวลา 7 วัน เรียนรู้วิชาเปลี่ยนเส้นเอ็นชุบกระดูกที่อยู่ในคำภีร์ 9 อิม พลังฝีมือเพิ่มพูนขึ้นอีกมาก ถึงตอนนี้สามารถสู้กับพวกซัวทงเทียนได้แล้ว
อ้างอิง
3-36 อาวเอี้ยงโคกแม้มีฝีมือสูงล้ำกว่านาง แต่เนื่องด้วยไม่อาจหักใจทำร้ายคนการลงมือจังสะดุดติดขัด
3-36 ชั่วพริบตา ทั้งสองหักล้างกันห้าสิบกระบวนท่า อึ้งย้งก็ตกอยู่ในห้วงคับขันติดต่อกัน
3-36 มาตรว่านางได้รับการถ่ายทอดวิชาฝีมือจากอั้งฉิกกงหลายแขนง แต่พอเรียนรู้ก็ผ่านเลย หลังจากนั้นไม่ทบทวนฝึกปรือ ดังนั้นอาวเอี้ยงโคกแม้รับบาดเจ็บ แต่ยังช่วงชิงเป็นฝ่ายมีเปรียบ
3-57 หาคาดไม่ว่าอึ้งย้งขยับสั่นพลิ้วไม้เท้าตีสุนัขในมือ กลับหวดใส่ตำแหน่งชายโครงของอาวเอี้ยงฮง สร้างความตื่นตระหนกแก่อาวเอี้ยงฮงยิ่ง
3-57 มาตรว่าไม่อาจทำร้ายฝ่ายตรงข้าม อาวเอี้ยงฮงใช้ติดต่อกันเจ็ดแปดกระบวนท่า ยังตะปบคว้าไม้เท้าของนางไม่ถูก
3-192 คาดคิดไม่ถึงว่าวิชาในบทเปลี่ยนเส้นเอ็นชุบกระดูกของคัมภีร์นพยมมีประสิทธิผลถึงเพียงนี้ เพลงไม้เท้าตีสุนัขของอึ้งย้งก็พลิกแพลงพิศดาร สามารถใช้ออกโดยไม่สิ้นสุด พัวพันจนซัวทงเทียนกับเล้งตี่เซี่ยงหยินมือไม้ปั่นป่วน
3-430 อึ้งย้งมีท่าร่างคล่องแคล่ว วิชากระโดดโลดแล่นสูงล้ำกว่าก๊วยเจ๋ง
4-120 อึ้งย้งครุ่นคิด ตอนนี้คนเหล่านี้มิใช่คู่มือก๊วยเจ๋งและนาง
![](image/bu.png)
อิดเต็งก็เป็นจอมยุทธที่อยู่ในระดับเดียวกับพวก อึ้งเอี๊ยะซือ จิวแป๊ะทง แต่ อิดเต็งตลอดทั้งเรื่องแทบไม่ได้ประทะฝีมือกับใครเลย จึงไม่สามารถวัดพลังฝีมือได้โดยตรง
![](image/bu.png)
หลังจากศึกวิจารณ์กระบีบนเขาฮั้วซัวครั้งแรกประมาณ 2 ปี เฮ้งเต็งเอี้ยงเดินทางมาถ่ายทอดวิชาธาติธรรมชาติให้อิดเต็ง เพื่อให้แน่ใจว่าอิดเต็งสามารถเอาชนะอาวเอี้ยงฮงได้ จากเหตุผลนี้ อิดเต็งควรมีพลังฝีมือสูงกว่า อึ้งเอี๊ยะซือ อั้งฉิกกง และ อาวเอี้ยงฮง
![](image/bu.png)
ก๊วยเจ๋งเคยได้รับการทดสอบพลังฝีมือจากอิดเต็ง พบว่าพลังฝีมืออิดเต็งสูงล้ำมาก คล้ายกับจะบอกว่าเหนือกว่าพวก อั้งฉิกกง จิวแป๊ะทง อีก
![](image/bu.png)
แต่เมื่ออึ้งย้งถามว่า คิดว่าใครในเหล่าจอมยุทธมีพลังฝีมือสูงส่งที่สุด ก๊วยเจ๋งไม่ได้ตอบว่าเป็นอิดเต็ง แต่บอกว่าเด่นล้ำกันคนละด้าน
![](image/bu.png)
อย่างไรก็ตามถ้อยคำอธิบายต่างๆในเรื่องก็ตรงไปทางที่ว่า อิดเต็งมีพลังฝีมือสูงกว่าพวกอยู่เล็กน้อย ซึ่งก็สอดคล้องกับเหตุผลที่กล่าวมา ดังนั้นจึงสรุปว่าพลังฝีมืออิดเต็ง เหนือกว่า พวกอึ้งเอี๊ยะซืออยู่เล็กน้อย
อ้างอิง
2-142 ความเข้มแข็งของพลังฝีมือราชันทักษิณ บิดาเจ้าและเรา ล้วนบังเกิดความกริ่งเกรงอยู่สามส่วน
3-569 ก๊วยเจ๋งครุ่นคิด "มาตรว่าสลายพลังที่แฝงมาไปได้แต่ผ่านพ้นชั่วขณะ พลังกระแทกสะท้อนของเรา กลับผลักดันเราไปยังเบื้องหน้า หากแม้นประมือกันจริงๆ เรายังรักษาชีวิตไว้ได้หรือ นับว่า ภูตบูรพา พิษประจิมขอทานอุดร ราชันทักษิณมีชื่อเสียงสมคำร่ำลือจริงๆ"
3-587 ก๊วยเจ๋งกล่าวอีกว่า ซือแป๋พวกเรา บิดาท่าน จิวตั่วกอ อาวเอี้ยงฮงและฮิ้วโชยยิ่มทั้งห้าท่าน ต่อให้มีฝีมือสูงกว่านี้ก็ไม่แน่ว่าจะเอาชัยอิดเต็งไต้ซือได้
3-587 ข้าพเจ้าเห็นว่าต่างฝ่ายต่างมีความสำเร็จพิเศษเฉพาะ ยากที่จะจำแนกความเลื่อมล่ำต่ำสูง
3-588 พลังฝีมือของอิดเต็งไต้ซือหาเป็นรองพิษประจิมไม่ อย่างน้อยสามารถสู้เสมอกัน ในความเห็นข้าพเจ้า วิชาจี้จุดย้อนกลับหลังของท่านผู้เฒ่านับเป็นดาวข่มของลมปราณคางคก
![](image/bu.png)
อังฉิกกงได้รับบาดเจ็บจากอาวเอี้ยงฮง เป็นระยะเวลานานพอสมควร แม้สุดท้ายจะใด้วิชา 9 อิมช่วยให้พลังฝีมือกลับมาดังเดิม แต่จะอย่างไรในแง่ความรุดหน้าของพลังฝึกปรือก็เสียเปรียบคนอื่นไปเกือบ 2 ปี
อ้างอิง
4-463 อาศัยเคล็ดวิชากำลังภายในที่บันทึกในบทรวมของคัมภีร์นพยมกรุยจุดชีพจรให้แก่ตัวเองใช้เวลาครึ่งปีรักษาอาการบอบช้ำภายใน และใช้เวลาอีกครึ่งปีฟื้นฟูพลังฝีมือ
4-469 ผ่านการรักษาตัวเกือบสองปี ค่อยทุเลาเป็นปกติ นับเป็นความพ่ายแพ้ครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต
4-481 อั้งฉิกกงย่างเข้าปัจฉิมวัยแล้ว ที่กลางหลังเคยถูกอสรพิษฉกกัด ถูกฝ่ามืออาวเอี้ยงฮงฟาดใส่ จะอย่างไรเป็นความสูญเสีย
![](image/bu.png)
ก่อนวิจารณืกระบี่เขาฮั้วซัวครั้งที่ 2 อาวเอี้ยงฮงก็ยังมีพลังฝีมือเหนือกว่าก๊วยเจ๋งอยู่
![](image/bu.png)
ช่วงท้ายเรื่อง บนเขาฮั้วซัว อาวเอี้ยงฮงฝึก 9 อิมย้อนกลับ ภายหลังแม้เสียสติแต่พลังฝีมือเพิ่มพูนขึ้น
![](image/bu.png)
พลังฝีมือที่เพิ่มขึ้นคาดว่าไม่น้อยเลย เพราะจากปกติต้องสู้กับอั้งฉิกกงถึง 1000 กว่ากระบวนท่าก็ยังไม่รู้ผล แต่ตอนท้ายเรื่องนี้ ใช้เพียง 10 กว่ากระบวนท่าก็ทำให้ก๊วยเจ๋งบาดเจ็บ และใช้ไม่ถึง 100 กระบวนท่าก็เอาชนะอึ้งเอี๊ยะซือได้
![](image/bu.png)
ถึงแม้ ไม่ถึงกับว่า 4 คน กลุ้มรุม อาวเอี้ยงฮงคนเดียว แต่ก็เป็นการพลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้ามาต่อสู้คนละหลายรอบอยู่ดี ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่ชนะ
อ้างอิง
4-322 ตัวเขากับก๊วยเจ๋งหากสู้กันตัวต่อตัว แม้กำชัยชนะเป็นมั่นนเหมาะ แต่เมื่อเพิ่มพูนขอทานโสโครกขบวนนี้มา ตัวเขายากที่จะมีเปรียบได้
4-485 ผ่านไปอีกหลายสิบกระบวนท่า อึ้งเอี๊ยะซือพ่ายแพ้ล่าถอยอีกผู้หนึ่ง
4-487 ผ่านไปเพียงสิบกว่ากระบวนท่า ที่หัวใหล่และเท้าของก๊วยเจ๋งถูกทำร้ายติดต่อกัน
4-487 เมื่ออั้งฉิกกงจับเค้าได้โดยคร่าวๆ ระหว่างที่ต่อสู้แม้ยังตกเป็นเบี้ยล่าง แต่ก็มีทั้งรับและรุก ในสามกระบวนท่าสามารถตีโต้กลับไปท่าหนึ่ง
4-490 อาวเอี้ยงฮง ขอทานเฒ่ายอมรับนับถือท่านแล้ว ท่านมีพลังฝีมืออันดับหนึ่งแห่งแผ่นดิน
![](image/bu.png)
ในช่วงครึ่งปีที่ตามหาอึ้งย้งจนกระทั้งกลับไปอยู่มองโกล แม้ก๊วยเจ๋งไม่ได้เรียนรู้วิชาอะไรเพิ่ม แต่ก็ยังหมั่นฝึกฝน พลังฝีมือก็เพิ่มขึ้นตามลำดับ
![](image/bu.png)
เมื่อพบอึ้งย้งก็ได้ศึกษาวิชา 9 อิม เพิ่มเติมกันอย่างจริงจัง
![](image/bu.png)
อาวเอี้ยงฮงจับก๊วยเจ๋งมาที่ห้องศิลา บังคับให้ฝึกวิชา 9 อิม เพื่อให้แสดงให้ดูจะได้ศึกษา ผ่านไปเดือนเศษ อาวเอี้ยงฮงศึกษาได้เล็กน้อย คนที่ได้ประโยชน์จริงๆคือก๊วยเจ๋ง พลังฝีมือขยับเข้าใกล้อาวเอี้ยงฮงเข้าไปทุกที
![](image/bu.png)
ที่เขาฮั้วซัวตอนท้ายเรื่อง ก๊วยเจ๋งประลองกับอึ้งเอี๊ยะซือ พลังฝีมืออยู่ในระดับที่อึ้งเอี๊ยะซือไม่สามารถจะออมมือได้ อึ้งเอี๊ยะซือลงมือเต็มกำลังใช้วิชาที่ใช้เวลาฝึกสิบกว่าปีเข้าสู้ กำลังจะได้ชัย พอดีครบ 300 กระบวนท่าซะก่อน จากตรงนี้พอจะวัดได้ว่า พลังฝีมือของก๊วยเจ๋งอยู่ในระดับที่ต่อกรกับอึ้งเอี๊ยะซือได้ 300 กว่ากระบวนท่า
![](image/bu.png)
การประลองกับอั้งฉิกกง ก๊วยเจ๋งก็รับได้ 300 กระบวนท่าเช่นกัน
อ้างอิง
4-387 เมื่อเป็นเช่นนี้ในระยะเวลาเดือนเศษ ก๊วยเจ็งมีพลังฝีมือรุดหน้าราวติดปีกบิน อาวเอี้ยงฮงต้องลอบกลัดกลุ้มกังวล ครุ่นคิดขึ้น หากเป็นเช่นนี้สืบไป เราไม่ทันตีความเคล็ดวิชาในคัมภีร์ พอต่อสู้กันกลับมิใช่คู่มือเด็กโง่งมผู้นี้แล้ว
4-395 จิวแป๊ะทงหักล้างกับก๊วยเจ๋งสิบกว่ากระบวนท่า รู้สึกว่าก๊วยเจ๋งมีพลังฝีมือรุดหน้าเพิ่มพูน ในใจทั้งแตกตื่นทั้งยินดี
4-477 เด็กโง่งมนี้ไฉนฝึกปรือฝีมือถึงขั้นนี้? หากแม้นเราอ่อนข้อสักเล็กน้อย อย่าว่าแต่มันสามารถต้านทานรับมือเกินสามร้อยกระบวนท่า เกรงว่าจะเพลี่ยงพล้ำพ้ายแพ้ใต้เงื้อมมือมัน
![](image/bu.png)
ในช่วงที่จากก๊วยเจ๋งเป็นระยะเวลานานหลายเดือน อึ้งย้งก็มีพลังฝีมือพัฒนาขึ้น
อ้างอิง
4-351 คราครั้งนี้ศึกษาค้นคว้าเคล็ดวิชาในคัมภีร์นพยมร่วมกันอย่างจริงจัง ผลจากการวิเคราะห์วิจารณ์ พบว่าในรอบปีมานี้พลังฝีมือของกันและกันล้วนมีความรุดหน้าเพิ่มพูน
![](image/bu.png)
อิดเต็งจนกระทั้งมาถึงท้ายเรื่องก็ยังไม่ได้ประมือกับใครให้วัดระดับฝีมือได้
![](image/bu.png)
ผลจากการรักษาบาดเจ็บให้อึ้งย้งทำให้สูญเสียพลังฝีมือไป ปกติต้องใช้เวลา 5 ปี ค่อยฟื้นฟู แต่พอได้วิธีจาก 9 อิม ใช้เวลาเพียง 3 เดือน ก็ฟื้นฟูดังเดิม แถมได้เรียนรู้ 9 อิมอีก ดูแล้วจากเหตุการนี้กำไรมากกว่าขาดทุน
![](image/bu.png)
จิวแป๊ทงนั้นมีพลังฝีมือสูงกว่า อั้งฉิกกง อึ้งเอี๊ยะซือ แต่จะสูงกว่า อาวเอี้ยงฮงตอนฝึก 9 อิมย้อนกลับหรือไม่ ไม่มีอะไรบอกไว้ในเนื้อเรื่อง
![](image/bu.png)
แต่ในมังกรหยกภาค 2 มีอยู่ช่วงตอนหนึ่งที่เอ่ยถึง คล้ายกับจะบอกว่าอาวเอี้ยงฮงมีพลังฝีมือสูงที่สุด ดังนั้นในที่นี่จึงให้ จิวแป๊ะทงมีพลังฝีมือด้อยกว่าอาวเอี้ยงฮงเล็กน้อย
อ้างอิง
4-561(ภาค2) ชุมนุมวิจารณ์กระบี่บนยอดเขาฮั้วซัวเป็นครั้งที่สอง นอกจากภูติบูรพา พิษประจิม ขอทานอุดร ราชันทักษิณทั้งสี่แล้ว ยังมีจิวแป๊ะทง ฮิ้วโชยยิ่มและก๊วยเจ๋งเข้าร่วม แต่ละคนล้วนมีพลังฝีมือลึกล้ำ มีปมเด่นเฉพาะตัว คิดกำหนดว่ามีฝีมือที่หนึ่งแห่งแผ่นดินยากที่จะระบุได้ แต่หากวิจารณ์ตามพลังฝีมือ อาวเอี้ยงฮงที่กลายเป็นคลุ้นคลั่งฟั่นเฟือน คล้ายมีวิทยายุทธ์กล้าแข็งที่สุด
![](image/bu.png)
ในหนังสือไม่ได้มีแจ้งรายละเอียดอะไรไว้ว่าในช่วง 10 ปี เศษ กัวติงอัก พัฒนาฝีมือเพิ่มขึ้นมากน้อยแค่ไหน แต่จากชีวิตในช่วงที่ผ่านมานี้ ช่วงแรกติดการพนัน หลังจากเป็นหนี้ก็ไปหลบอยู่ที่เกาะดอกท้อช่วยอึ้งย้งเลี้ยงก๊วยพู่ ดังนั้นพลังฝีมือคงจะไม่ค่อยได้มีโอกาสใช้ออก จึงคาดว่าฝีมือไม่ได้พัฒนาจากเดิมเท่าใดนัก
![](image/bu.png)
จากตอนที่ประมือกับกัวติ่งอักในช่วงต้นเรื่องของภาคนี้ ทราบว่า ลี้มกโช้ว ฝีมือไม่เป็นรอง บ๊วยเถียวฮวง
![](image/bu.png)
นางฝีมือสูงกว่าเซียวเล้งนึ่งพอสมควรในช่วงนั้น นั่นหมายความว่าควรจะเก่งกว่า ฮักไต้ทง และฮั่วตูด้วย
อ้างอิง
1-67 กัวติ่งอักประมือกับลี้มกโช้วหลายกระบวนท่าก็ทราบว่ามิใช่คู่มือของนาง ยามนั้นครุ่นคิดขึ้น 'ความสูงส่งของพลังฝีมือนางมารนี้ คล้ายไม่เป็นรองศพเหล็กบ๊วยเถียวฮวงเมื่อครั้งกระโน้น
![](image/bu.png)
เอี้ยก้วยตอนอยู่ชวนจินมีเพียงวิชาฝีมือเล็กน้อยที่ได้รับจากแม่ และวิชาคางคกแบบไม่สมบูรณ์ที่ได้จากอาวเอี้ยงฮง
![](image/bu.png)
หลังจากเข้าสุสานโบราณได้ประมาณ 2 ปี พลังฝีมือรุดหน้า ได้นอนเตียงหยกเย็น ฝึกฝนวิชาของสุสานโบราณ ฝึกวิชาของช้วนจิน และวิชาสาวหยก แต่จะอย่างไรก็ยังคงอ่อนด้อยกว่า พวก เตียจี่เก่ง
อ้างอิง
1-316 ผ่านพ้นไปสองเดือน เอี้ยก่วยเรียนรู้หมดสิ้น บวกกับได้รับความช่วยเหลือจากเตียงหยกเย็น มีความรุดหน้าอย่างรวดเร็ว เพียงแต่พลังการฝึกปรือยังอ่อนด้อยเท่านั้น
1-318 ทั้งสองใช้เวลาหลายเดือน เรียนรู้แก่นแท้วิชาฝีมือที่เฮ้งเต้งเอี้ยงจารึกทิ้งไว้ได้
1-323 เคล็กวิชาสุรางคนางค์แบ่งลำดับขั้นตอนในการฝึกปรือเป็นเก้าขั้น คืนนี้เซียวเล้งนึ่งฝึกถึงขั้นเจ็ด ส่วนเอี้ยก่วยฝึกถึงขั้นที่หก
1-329 ยามนี้พลังฝีมือของเอี้ยก่วยยังไม่เทียบเท่ากับอิงจี่เปี้ย
![](image/bu.png)
ก๊วยเจ๋งได้มีโอกาสได้ประมือกับฮั่วตูในช่วงต้นเรื่อง แล้วทราบว่าพลังฝีมือของฮั่วตูลึกล้ำกว่า เล้งตี่เซี่ยงหยิน หนึ่งในตัวร้ายจากภาคแรก
![](image/bu.png)
พลังฝีมือของฮั่วตู ไม่เป็นรองฮักไต้ทง แต่ไม่เหนือกว่าจูจื้อลิ่ว ซึ่งหมายความว่าต้องด้อยกว่า เบ๊เง็ก และ คูชู่กี รวมถึงอึ้งย้งด้วย
อ้างอิง
1-193 ก๊วยเจ๋งครุ่นคิดขึ้น "คนผู้นี้อายุไม่มากนัก กลับสามารถต้านทานท่าฉุดดึงของเรา แนวทางโคจรพลังของเขาคล้ายคลึงกับสำนักของลามะทิเบตเล้งตี่เซี่ยงหยิน แต่เปรียบกับเล้งตี่เซี่ยงหยินยังคล่องตัวประเปรียวกว่า"
1-196 ก๊วยเจ๋งครุ่นคิดขึ้น "แนววิชาฝีมือเป็นสำนักทิเบตจริงๆ นี่เป็นวิชาประทับหัตถ์ใหญ่ ฝ่ามือแม้ปราศจากพิษร้าย แต่พลังฝีมือยังลึกล้ำกว่าเล้งตี่เซี่ยงหยิน"
1-195 เสียงตวาดของคูชู่กีทำให้ฮัวตูได้ทราบ และครุ่นคิดว่า 'พรตเฒ่านี้มีพลังการฝึกปรือมิใช่ชั่ว ที่แท้เมื่อครู่พวกเขาไม่ได้ทุ่มเทอย่างสุดกำลัง
2-127 จู่จื้อลิ้วใช้พู่กันดุจสายฟ้า จี้ออกอีกครา คน ผู้นี้ใช้พู่กันแทนดรรชนี จี้ดรรชนีเอกสุริยันออก ราชบุตรฮั่วตูไหนเลยต้านรับได้ รู้สึกหัวเข่าชาด้าน ในที่สุดต้องคุกลง ใบหน้ากลับกลายเป็นขาวซีดไร้สีเลือด
2-101 ก๊วยเจ๋งทราบว่า เพลงไม้เท่าของภรรยาเลิศล้ำพิศดาร สามารถเอาชัยราชบุตรฮั่วตู
3-289 ซ่งเต็กฮึงจดจำออกว่า คนทั้งสองคือลามะตาเอ่อปากับราชบุตรฮั่วตู ซึ่งเคยบุกตำหนักเต้งเอี้ยง พลังฝีมือหาเป็นรองฮักไต้ทงและพวกไม่
3-311 ตาเอ่อปาและราชบุตรฮั่วตูมีพลังฝีมือ คู่คี่กับฮักไต้ทง แม้ไม่ลึกล้ำเท่าคูชู่กีกับเฮ้งชู่อิด แต่ก็ไม่ถึงกับถูกสะบัดเหวี่ยงไปในกระบวนท่าเดียว
![](image/bu.png)
ปัจุจับฮักไต้ทงพลังฝีมืออยู่ในระดับ 3 หรือ 4 ของช้วนจิน ดังนั้นฝีมือย่อมอยู่ในระดับเดียวกับ เฮ้งชูอิด
![](image/bu.png)
ฝีมือไม่เหนือไปกว่าฮั่วตู และยังเคยโดนฮั่วตูฟาดฝ่ามือใส่ตอนที่บุกช้วนจินครั้งแรกด้วย แต่ในเรื่องไม่ได้อธิบายไว้ว่าโดนได้อย่างไร
อ้างอิง
1-278 ฮักไต้ทงใช้เวลาหลายสิบปีฝึกปรือเพลงกระบี่ในสำนักช้วนจินนี้ ความสำเร็จในเชิงกระบี่จัดอยู่อันดับสามหรือสี่
3-289 ซ่งเต็กฮึงจดจำออกว่า คนทั้งสองคือลามะตาเอ่อปากับราชบุตรฮั่วตู ซึ่งเคยบุกตำหนักเต้งเอี้ยง พลังฝีมือหาเป็นรองฮักไต้ทงและพวกไม่
![](image/bu.png)
เซียวเล้งนึ่งเคยต่อสู่กับฮักไต้ทง พลังฝีมือแม้ยังไม่เทียบเท่า แต่ก็ใกล้เคียง
![](image/bu.png)
ตอนที่ยังอยู่ในสุสานโบราณ ยังศึกษาวิชาสาวหยกไม่เสร็จ ยังไม่รู้จัก 9 อิม ตอนนั้นพลังฝีมือยังเป็นรองลี้มกโช้วอยู่มาก
อ้างอิง
1-278 ฮักไต้ทงใช้เวลาหลายสิบปีฝึกปรือเพลงกระบี่ในสำนักช้วนจินนี้ ความสำเร็จในเชิงกระบี่จัดอยู่อันดับสามหรือสี่ แต่หักล้างกับโกวเนี้ยน้อยนางนี้หลายสิบกระบวนท่า กลับไม่อาจมีเปรียบแม้แต่น้อย
1-360 แส้ปัดกับสายรัดแพรล้วนเป็นวัตถุอันอ่อนนุ่มถึงที่สุด ดังนั้นเป็นการใช้ความอ่อนหยุ่นปะทะอ่อนหยุ่น แต่พลังฝีมือของลี้มกโช้วเหนือล้ำกว่ามากนัก
![](image/bu.png)
ในภาคสองนี้คูชู่กีแทบไม่ได้แสดงฝีมือ มีเพียงสู้กับเซียวเล้งนึ่งไม่กี่กระบวนท่า และไม่มีช่วงไหนระบุโดยตรงว่าคูชู่กีพัฒนาฝีมือไปมากน้อยเพียงไหนในช่วง 10 ปีเศษมานี้
![](image/bu.png)
เทียบเคียงความสามารถจากคนอื่น มีช่วงหนึ่งที่พาดพิงถึงว่า จูจื้อลิ้วมีพลังฝีมือต่ำกว่าคูชู่กี ซึ่งจูจื้อลิ้วพลังฝีมือสูงกว่าฮั่วตู และพอจะสู้กับลี้มกโช้วได้ ดังนั้นคูชู่กี่ควรมีพลังฝีมือสูสีกับลี้มกโช้ว
![](image/bu.png)
มีอยู่ช่วงตอนหนึ่งที่เหล่านักพรตกังวลว่าถ้าลี้มกโช้วบุกมาแค่คนเดียวยังต้องลำบากในการรับมือ ดังนั้นเป็นไปได้ว่าถ้าลำพังคูชู่กีคนเดียวอาจมีพลังฝีมือด้อยกว่าลี้มกโช้วเล็กน้อย
![](image/bu.png)
หลังจากจบภาคแรก ในช่วง 10 ปีเศษนี้ อาวเอี้ยงฮงยังคงฝึก 9 อิม ย้อนทวน พลังฝีมือเพิ่มพูนขึ้นอีก
อ้างอิง
1-106 ระหว่างนี้อาวเอี้ยงฮงฝึกปรือคัมภีร์นพยมย้อนทวน มีพลังการฝึกปรือรุดหน้าเพิ่มพูน
1-131 สองสามีภรรยาสนทนาถึงอาวเอี้ยงฮง เห็นว่าไม่พบกันสิบกว่าปี พิษประจิมมิเพียงไม่ชราร่วงโรย พลังฝีมือยังเหนือล้ำกว่ากาลก่อน
2-18 อาวเอี้ยงฮงแม้สติเลอะเลือนแต่ฝึกคัมภีร์นพยมย้อนกลับ พลังฝีมือยิ่งฝึกยิ่งประหลาด ยิ่งประหลาดยิ่งกล้าแข็ง
![](image/bu.png)
10 ปีเศษนี้ ก๊วยเจ๋งฝึกวิชาอยู่ที่เกาะดอกท้อ หลอมรวมวิชาต่างๆเข้าด้วยกัน พลังฝีมือเพิ่มพูนจนทัดเทียมอาวเอี้ยงฮงแล้ว ทั้งยังอยู่ในวัยฉกรรจ์อีกด้วย
อ้างอิง
1-111 ก๊วยเจ๋งทบทวนฝึกกระบวนท่านี้โดยไม่ว่างเว้น ตอนแรกเริ่มฝึกปรือก็ร้ายกาจยิ่ง บวกกับการมานะฝึกปรือในสิบกว่าปีนี้ นับว่าก้าวถึงขั้นสุดยอด
1-111 นี่เป็นเคล็ดความพิศดารที่ก๊วยเจ๋งได้คิดจากการศึกษาคัมภีร์นพยม เพียงนับกระบวนท่านี้ แม้แต่อั้งฉิกกงเมื่อครั้งกระโน้น ก็ไม่มีความสำเร็จถึงขั้นนี้
1-112 อาวเอี้ยงฮงฝึกคัมภีร์นพยมย้อนทวน มาตรว่ามีความสำเร็จ แต่หนึ่งเที่ยงตรง หนึ่งย้อนทวน จะอย่างไรวิชาเที่ยงธรรมเหนือล้ำกว่าอวิชชา คราครั้งนี้พอประมือกัน ก๊วยเจ๋งสามารถทะยานขึ้นมาเทียมบ่าเทียมไหล่กับฝ่ายตรงข้าม
1-117 คนผู้นี้กับก๊วยเจ๊ง ได้รับบาดเจ็บเท่าเทียมกัน เพียงแต่ก๊วยเจ๋งอยู่ในวัยฉกรรจ์ กำลังวังชากล้าแข็ง ฟื้นฟูทุเลาอย่างรวดเร็ว อาวเอี้ยงฮงกลับล่วงเข้าสู่ปัจฉิมวัย พละกำลังอ่อนโทรม ไม่อาจเทียบเปรียบกับกาลก่อน
1-167 ที่แล้วมาการลงมือของก๊วยเจ๋งล้วนออมรั้งยั้งมือ ยามนี้ขุ่นเคืองนักพรตสูงโปร่งใช้ท่ากระบี่ไร้มารยาท ก็แสดงยอดวิชาดรรชนีศักดิ์สิทธิ์ออกมา นี่เป็นไม้ตายของอึ้งเอี๊ยะซือ ระหว่างที่ก๊วยเจ๋งอาศัยบนเกาะดอกท้อหลายปีก็เรียนรู้แตกฉาน
![](image/bu.png)
อึ้งย้งเก็บตัวอยู่เกาะดอกท้อ 10 ปีเศษ นอกจากเฝ้าเลี้ยงก๊วยพู่แล้ว ยังฝึกฝนยอดวิชาต่างๆที่มีจนมีพลังฝีมือก้าวหน้าอย่างมาก
อ้างอิง
1-99 สองสามีภรรยาชำระใจฝึกปรือฝีมือบนเกาะดอกท้อ พลังการฝึกปรือบรรลุถึงขั้นสูงล้ำสุดยอด เสียงกู่ดังพร้อมเพรียง
![](image/bu.png)
จูจื้อลิ้ว มีบทบาทในภาคนี้มากกว่าภาคแรก ระดับฝีมือก็จัดว่าสูงมาก เป็นอันดับ 1 ในศิษของอิดเต็ง (ไม่นับฮิ้วโชวยิ่ม เพราะไม่ได้เป็นศิษในด้านวิชาต่อสู้)
![](image/bu.png)
ตอนประลองที่งานชุมนุม แม้ผลจะแพ้ไป แต่วัดที่พลังฝีมือยังเหนือกว่าฮั่วตู
![](image/bu.png)
มีช่วงตอนหนึ่งที่มีข้อมูลบอกเปรียบเทียบไว้ชัดเจนว่า จูจื้อลิ้ว เก่งกว่า เฮ้งชูอิด แต่ ด้อยกว่าคูชู่กี
![](image/bu.png)
ช่วงท้ายเรื่อง จูจื้อลิ้วแค้นอย่างหนักที่ลี้มกโช้วสังหารหลวงจีนชมพูทวีป จึงไล่โจมตีอย่างไม่คิดชีวิต ลี้มกโช้วกลับต้องเป็นฝ่ายถอยหนี แม้จะไล่ไม่ทันเพราะวิชาตัวเบาด้อยกว่า แต่มีบอกว่าพลังฝีมือของทั้งคู่โดดเด่นแตกต่างกันไป จากเนื้อความตอนนี้คาดว่าพลังฝีมือของจูจื้อลิ้วไม่น่าจะห่างจากลี้มกโช้วซักเท่าใด
อ้างอิง
2-111 ราชันทักษิณทรงผนวชเป็นอิดเต็งไต้ซือปฎิบัติต่อศิษย์เท่าเทียมกัน ถ่ายทอดวิชาฝีมือให้จนหมดสิ้น แต่เมื่อถึงตอนท้าย จูจื้อลิ้วเรียนรู้มากที่สุดโดยเฉพาะดรรชนีเอกสุริยัน ฝึกปรือถึงขั้นลึกล้ำพิศดาร
2-112 พลังฝีมือของจูจื้อลิ้วตอนนี้ยังไม่เท่าก๊วยเจ๋ง เบ๊เง็ก คูชู่กี แต่ก็เหนือล้ำกว่า เฮ้งชูอิด ฮักไต้ทงและพวกแล้ว
4-80 เอี้ยก่วยครุ่นคิดขึ้น "ด้วยพลังฝีมือของลี้มกโช้ว ไม่แน่ว่าจะสู้จูแป๊ะแปะไม่ได้ เหตุใดเกรงกลัวเขาถึงเพียงนี้?"
4-80 ทั้งสองมีพลังฝีมือโดดเด่นแตกต่างกัน แต่ด้านวิชาตัวเบาแสดงว่าลี้มกโช้วเหนือล้ำกว่ามากนัก
![](image/bu.png)
ลี้มกโช้วท่องยุทธจักรพลังฝีมือเพิ่มขึ้นตามการเวลา
![](image/bu.png)
เอี้ยก้วยกับเยลุกชี้ร่วมมือกันยังไม่อาจเอาชนะนาง
อ้างอิง
1-546 ไม่ทราบว่านางใช้ท่วงท่าอันรวดเร็วว่องไวใช้ออกด้วยฝ่ามือเบญจพิษอย่างไร การลงมือของนางครั้งนี้มิเพียงแต่ขอทานทั้งสองไม่รู้สึกตัว แม้แต่เอี้ยก่วยและเยลุกชี้ก็ไม่อาจเห็นชัดตา
1-455 ลี้มกโช้วอาละวาดทั่วยุทธจักร ชาวบู๊ลิ้มล้วนครั่นคร้าม ประการสำคัญมิใช่สืบเนื่องจากพลังฝีมือของนาง หากแต่อยู่ที่พิษร้ายของฝ่ามือเบญจพิษ กับเข็มเงินน้ำแข็งเย็นของนาง
![](image/bu.png)
เอี้ยก้วยเมื่อออกจากสุสานโบราณสำเร็จวิชามากมาย ทั้งวิชาของสำนักสุสาณโบราน วิชาของช้วนจิน วิชาสาวหยก วิชา 9 อิมบางส่วน วิชาพลังคางคก วิชาโคจรพลังย้อนกลับ อีกทั้งยังนอนเตียงหยกเย็นมาเป็นเวลาหลายปี กำลังภายในเพิ่มพูน ในนักบู๊วัยเดียวกันนับว่าเด่นล้ำ
![](image/bu.png)
อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับจอมมารหญิงแห่งยุคอย่างลี้มกโช้ว ยังคงอ่อนด้อยกว่ามาก ต่อให้ร่วมมือกับเยลู่ฉีก็คาดว่ายังมิอาจเอาชัย
![](image/bu.png)
ในตอนอายุเท่ากัน เอี้ยก้วยเก่งกว่าก๊วยเจ๋ง
อ้างอิง
1-462 เอี้ยก่วยอุ้มเล็กบ้อซังวิ่ง เล็กบ้อซังเห็นต้นไม้สองข้างทางถดถอยไปไม่หยุดยั้ง เอี้ยก่วยโลดแล่นด้วยระดับความเร็วดุจม้าป่า วิชาตัวเบาหาเป็นรองซือแป๋ไม่
1-483 เล็กบ้อซังเห็นเอี้ยก่วยกระทั้งมองดูยังไม่มองดู เพียงยื่นเหยียดเท้าเตะออก นักพรตทั้งสองก็ส่งเสียงครวญครางออกมา ในใจต้องลอบนับถือเลื่อมใส ครุ่นคิดขึ้น 'ส่าตั่งผู้นี้มีฝีมือเหนือล้ำกว่าเราสิบเท่า'
1-550 เอี้ยก่วย สำนึกตัวว่าตัวเองมิใช่คู่มือของลี้มกโช้วต่อให้เพิ่มเยลุกชี้อีกผู้หนึ่งยังยากที่จะเอาชัย
2-168 อึ้งย้งกล่าวว่า "ก่วยยี้มีประสบการณ์เหนือธรรมดา ครั้งกระโน้นตอนที่ท่านอยู่ในวัยเช่นเขา ยังไม่มีฝีมือถึงขั้นนี้"
![](image/bu.png)
พลังฝีมืออยู่ในระดับที่ เอี้ยก้วยตอนเพิ่งออกจากสุสานโบราณใหม่ๆ ไม่แน่ว่าจะเอาชนะได้
![](image/bu.png)
เป็นศิษของจิวแป๊ะทง อายุมากกว่าเอี้ยก้วยไม่เท่าไหร่แต่พลังฝีมือยังไม่เป็นรองซุนปุกยี่
![](image/bu.png)
สำหรับคนอ่านเยลู่ฉีเป็นเพียงตัวประกอบ แต่ในเนื้อเรื่องเขาถือเป็นบุรุษผู้เด่นล้ำในยุทจักร ในนักบู๊อายุเท่ากันถ้าไม่นับเอี้ยก้วย นับว่าเยลู่ฉีมีพลังฝีมือสูงส่งที่สุด
อ้างอิง
1-528 อ้วงง้วนเพี้ยทราบว่าเยลูกชี้มีความสามารถเหนือล้ำกว่านางสิบเท่า หวนนึงถึงนายทหารหนุ่มมองโกลเบื้องหน้านี้ แม้มีพลังฝีมือเข้มแข็ง ไม่แน่ว่าเอาชัยเยลูกชี้ได้
1-555 เด็กน้อยนี้ฝึกปรือวิชาฝีมือสำนักช้วนจินอย่างสมบูรณ์พร้อม มาตรแม้นไม่เทียงเท่าคูชู่กีเหล่าบรรพชิตที่เป็นบุรุษ แต่หาเป็นรองซุนปุกยี่ที่เป็นสตรีไม่
![](image/bu.png)
ตอนออกจากสุสานโบราณ พลังฝีมือเซียวเหล่งนึ่งยังสูงกว่าเอี้ยก้วย
![](image/bu.png)
ตอนที่ประลองกับกิมลุ้นที่งานชุมนุม รับ 10 กระบวนท่ายังยากลำบาก ในขณะที่ลี้มกโช้วพอจะรับมือกิมลุ้นได้ ดังนั้นสรุปได้ว่า แม้จะมีทั้งวิชากระบี่ช้วนจิน วิชาสาวหยก วิชา 9 อิม พลังฝีมือของนาง ในตอนนี้ก็ยังไม่เท่าลี้มกโช้ว
![](image/bu.png)
ในการคาดคำนวณของลี้มกโช้วนางเข้าใจว่าเซียวเหล่งนึ่งมีพลังฝีมือใกล้เคียงกับตน จึงมีความเกรงกลัวอยู่บ้าง
อ้างอิง
1-550 ลี้มกโช้วตอนที่สู้กับเอี้ยก้วยกังวลเพราะคิดว่า 'เด็กน้อยเลวร้ายนี้มีระดับความรุดหน้ารวดเร็ว ซือม่วยคงยอดเยี่ยมยิ่งกว่า'
![](image/bu.png)
กิมลุ้นเป็นตัวร้ายของภาคนี้ที่มีพลังฝีมือสูงส่ง มีอยู่หลายช่วงตอนที่บรรยายเปรียบเทียบพลังฝีมือของกิมลุ้นกับก๊วยเจ๋ง โดยก๊วยเจ๋งมีวิชาที่เหนือกว่า แต่กิมลุ้นมีกำลังภายในและภายนอกเยอะกว่า เมื่อสรุปออกมาถือว่าคู่คี่ก้ำกึ่งกัน
![](image/bu.png)
อย่างไรก็ตาม คำอธิบายกับเหตุการในเนื้อเรื่องมีขัดกันบ้าง เพราะแทบทุกครั้งที่เจอกัน กิมลุ้นมักเป็นฝ่ายเพลี้ยงพล้ำ และเพื่อความสมเหตุสมผลในตอนท้ายเรื่องจึงให้กิมลุ้นด้อยกว่าก๊วยเจ๋งเล็กน้อย
อ้างอิง
2-165 กิมลุ้นก๊กซือความจริงมีพลังมากกว่าก๊วยเจ๋ง พลังฝีมือก็ลึกล้ำกว่าแต่เพลงฝ่ามือวิชาการต่อสู้กลับสู้ไม่ได้
2-180 ทั้งสองล้วนเป็นสุดยอดฝีมือแห่งยุต ภายในหลายสิบกระบวนท่ายากที่จะพิสูจน์ความเหลื่อมล้ำต่ำสูง
3-34 ควรทราบว่ากิมลุ้นก๊กซือกับก๊วยเจ๋ง แม้มีพลังฝีมือคู่คี่ก้ำกึ่ง แต่ก๊วยเจ๋งเมื่อครั้งเยาว์วัยอยู่ที่มองโกล ได้รับถ่ายทอดวิชาเกาทัณฑ์จากมือเกาทัณฑ์เจอเป...
3-61 กิมลุ้นก๊กซือกับก๊วยเจ๋งความจริงมีพลังฝีมือคู่คี่ก้ำกึ่ง ก๊วยเจ๋งแม้ได้รับประสบการณ์พิศดารมากหลาย แต่กิมลุ้นก๊กซืออายุสูงวัยกว่ายี่สิบปี เท่ากับมีพลังการฝึกปรือมากกว่ายี่สิบปี หากทั้งสองต่อสู้กันตัวต่อตัว ต้องดำเนินถึงพันกระบวนท่า ค่อยพิสูจน์ผลแพ้ชนะ
![](image/bu.png)
ก๊วยเจ๋งมีพลังฝีมือพอๆกับกิมลุ้น
อ้างอิง
2-100 เหล่าผู้กล้าแดนตงง้วน มีอยู่กว่าครึ่งทราบว่าก๊วยเจ๋งมีพลังฝีมือน่าตระหนก ทั้งอยู่ในวัยเข้มแข็งที่สุด นับเป็นที่หนึ่งแห่งแผ่นดินได้ แม้แต่อั้งฉิกกงก็ไม่แน่ว่าจะเหนือล้ำกว่าก๊วยเจ๋ง
3-61 ในความกล้าแกร่งสุดยอด กลับแฝงประสิทธิภาพของความอ่อนหยุ่น นั่นเป็นความสำเร็จที่อั้งฉิกกงเมื่อครั้งกระโน้นยังตีความไม่ได้
![](image/bu.png)
อั้งฉิกกงเป็นอีกคนที่ได้รับผลประโยชน์จาก 9 อิม อย่างใหญ่หลวง พลังฝีมือพัฒนาจากตอนที่จบภาคแรกมาก จนทัดเทียมกับอาวเอี้ยงฮงแล้ว
![](image/bu.png)
อั้งฉิกกงกับอาวเอี้ยงฮงมาประลองกันพบว่าพลังฝีมือก้ำกึ่ง สุดท้ายทั้ง 2 เสียชีวิตพร้อมกัน
อ้างอิง
2-18 อั้งฉิกกงเคยได้ยินก๊วยเจ๋ง อึ้งย้ง ท่องเคล็ดวิชาบางส่วนของคัมภีร์นพยม เมื่อเทียบเคียงกับฝีมือดั้งเดิมก็มีความรุจหน้าใหญ่หลวง จะอย่างไรแนวทางเที่ยงธรรมเหนือกว่าย้อนทวน แม้เรียนรู้ไม่มากนัก แต่ความสำเร็จหาเป็นรองอาวเอี้ยงฮงไม่
2-18 เมื่อหลายสิบปีก่อน ทั้งสองมีฝีมือคู่คี่ก้ำกึ่ง หลังจากนั้นต่างมีประสบการณ์ของตัวเอง วันนี้เป็นการพบกันครั้งที่สาม พอประลองยังคงไม่พิสูจน์ความเหลื่อมล้ำต่ำสูง
2-21 ยามนี้ทั้งสองมีอายุสูงวัยขึ้น พละกำลังแม้เสื่อมถอย พลังฝึกปรือกลับบรรลุถึงขั้นสุดยอด
![](image/bu.png)
ลี้มกโช้วพลังฝีมือสูงขึ้นกว่าตอนที่ล้างตระกูลเล็กพอสมควร
![](image/bu.png)
แต่พวกเอี้ยก้วยก็พัฒนาขึ้นเหมือนกัน ตัวลี้มกโช้วยังไม่แน่ในว่าจะเอาชนะเอี้ยก้วยได้หรือไม่ ดังนั้นพลังฝีมือของลี้มกโช้วในช่วงนี้น่าจะไม่ห่างจากเอี้ยก้วยเท่าใด
อ้างอิง
3-486 ลี้มกโช้ว เมื่อครั้งกระโน้นที่เข่นฆ่าล้างตระกูลเล็กฝ่ามือเกรี้ยวกราดยิ่ง หลังจากผ่านการฝึกปรือหลายปียิ่งดุดันอำมหิตกว่าเดิม
3-117 ลี้มกโช้วครุ่นคิดว่า "เด็กน้อยนี้มีพลังฝีมือรุดหน้า พอดียืมมือลามะรูปนี้กำจัดเขา ไม่เช่นนั้นภายหน้าไม่สามารถสะกดพิชิตได้"
![](image/bu.png)
ช่วงเวลาปีเศษที่ท่องยุทธจักร เอี้ยก้วยได้รับประสบการมากมาย ได้เรียนรู้วิชาเพิ่มเติมอีกหลากหลาย ทั้ง วิชาไม้เท้าตีสุนัข ดรรชนีศักดิ์สิทธิ์ เพลงกระบี่ขลุ่ยหยก ฯลฯ ทำให้พลังฝีมือเพิ่มพูนอย่างรวดเร็ว
![](image/bu.png)
เทียบกับอึ้งเอี๊ะซื้อ เอี้ยก้วยมีความสำเร็จในกำลังภายในขั้นสูง เร็วกว่าอึ้งเอี๊ะซือกว่า 10 ปี
![](image/bu.png)
อึ้งย้งบอกว่าพลังฝีมือของเอี้ยก้วยไม่เป็นรองก๊วยเจ๋ง ( ตรงนี้คาดน่าจะหมายถึงก๊วยเจ๋งตอนอายุเท่าเอี้ยก้วย )
![](image/bu.png)
ระดับพลังฝีมือในช่วงนี้นับว่าเกือบจะใกล้เคียงกับลี้มกโช้ว
อ้างอิง
2-290 อึ้งเอี๊ยะซือครุ่นคิดว่า 'เราถือดีว่าเป็นอัจฉริยะประหลาด แต่ต้องอายุสามสิบปี ค่อยบรรลุถึงขอบเขตขั้นนี้ บรุษหนุ่มนี้กลับฝึกปรือสำเร็จก่อนเราสิบปีขึ้นไป ไม่ทราบว่าเขามีประสบการณ์พิศดารอย่างไร'
3-22 ก๊วยเจ๋งกล่าวว่า "ก่วยยี้ ทุเลาแล้วหรือ? คิดไม่ถึงเจ้ามีพลังการฝึกปรือถึงขั้นนี้ แม้แต่เราก็แทบคุ้มครองดูแลไม่ได้ "
3-128 นางบังเกิดจิตกริ่งเกรงต่อเอี้ยก่วย เห็นว่าการอยู่ในถ้ำมืดมิดกับเอี้ยก่วยมีอันตรายอยู่ทุกเมื่อ ด้วยพลังฝีมือของนางไม่แน่ว่าจะเอาชัยเอี้ยก่วยได้
3-351 อึ้งย้งกล่าวกับก๊วยเจ๋งว่า "หลายวันนี้ค้นหาโดยทั่ว ล้วนไม่พบพานร่องรอยของเขา หากเกิดเหตุเภทภัยใด สมควรพบเห็นเบาะแส พลังฝีมือของก่วยยี้หาเป็นรองท่านไม่ มาตรแม้นรับบาดเจ็บสาหัส คาดว่าคงไม่เป็นไร"
3-480 ลี้มกโช้วคิดว่า 'คาดว่ามีแต่สงบสุ้มเสียงไว้ จึงมีความหวังประสบผลไม่เช่นนั้นหากลงมือจริงๆ เกรงว่าตอนนี้มิใช่คู่มือของผู้หนึ่งผู้ใดในหนุ่มสาวทั้งสอง'
![](image/bu.png)
หลังออกจากสุสานโบราณในช่วงเวลาที่ท่องยุทธจักร ก่อนที่จะได้วิชา 2 มือขัดแย้ง ไม่มีช่วงตอนไหนในเนื้อเรื่องที่บอกว่าเล้งนึ่งมีพลังฝีมือสูงขึ้นอย่างไร แต่จากคำอธิบายเปรียบเทียบมีหลายช่วงตอนที่บอกว่าพลังฝีมืออยู่ไม่ห่างจากกับลี้มกโช้วเท่าใด ทั้งยังรับมือกิมลุ้นได้มากกว่าตอนที่งานชุมนุมชาวยุทธ ดังนั้นตามเหตุผลนี้ คาดว่าในช่วงระหว่างนี้เซียวเหล่งนึ่งมีพลังฝีมือพัฒนาขึ้นพอสมควร
![](image/bu.png)
พลังฝีมือของเซียวเหล่งนึ่งในแง่กระบวนท่านั้นยอดเยี่ยมกว่าลี้มกโช้ว แต่ในแง่กำลังภายในยังสู้ไม่ได้
![](image/bu.png)
จิวเคยบอกว่าเซียวเหล่งนึ่งมีฝีมือไม่ด้อยกว่าอึ้งย้ง แต่นั้นน่าจะหมายถึงอึ้งย้งตอนเป็นเด็กสาว เพราะจิวแป๊ะทงไม่ได้พบอึ้งย้มมาเป็นสิบปีแล้ว
อ้างอิง
3-246 พลังฝีมือของเซียวเล้งนึ่งเป็นแนวทางเดียวกับลี้มกโช้ว แต่กระบวนท่ายังแยบคายกว่า
3-255 จิวแป๊ะทงกล่างกับเซียวเล้งนึ่งว่า "ดูจากรูปโฉมและสติปัญญาของเจ้า คล้ายไม่เป็นร้องอึ้งย้งนั่น พลังฝีมือก็ไม่อ่อนด้วยกว่านาง"
![](image/bu.png)
เซียวเซียงจื้อ นีมอชิง และ อีเคอซี เป็นนักบู๊ที่ทางมองโกลเชื้อเชิญมา พลังฝีมือทั้ง 3 ใกล้เคียงกัน
![](image/bu.png)
ทั้ง 3 มีพลังฝีมือเหนือกว่า คูชู่กี
![](image/bu.png)
เซียวเซียงจื้อใช้เพียง 3 กระบวนท่า โค้นศิษระดับสูงของช้วนจิน 7 คน พ่ายแพ้ได้
![](image/bu.png)
ทั้ง 3 เคยประลองกำลังภายในกับกิมลุ้น ถือว่ายังเป็นรองอยู่
อ้างอิง
2-333 กิมลุ้นก๊กซือเห็นดวงตานีมอชิงเป็นประกายวับวาว ใบหน้าเซียวเซียงจื้อปลกคลุมด้วยแววสีเขียวชั้นหนึ่ง ทราบว่าทั้งสองมีพลังกานฝึกปรือลึกล้ำ ส่วนอีเคอซียิ้มแย้มแจ่มใส แสร้งแสดงเป็นคนคร้ำครึธรรมดา คนผู้นี้ยิ่งแสดงออกว่าไร้ความสามารถ เกรงว่ายิ่งมีพื้นฐานความสำเร็จ ไม่อาจดูแตลนได้
3-284 คนผู้นี้ใช้ติดต่อกันสามกระบวนท่า โค่นยอดฝีมือสำนักช้วนจินเจ็ดรูปพ่ายแพ้
3-312 กิมลุ้นก๊กซือและพวกทั้งสี่ ล้วนมีพลังฝีมือเหนือล้ำกว่าห้อบรรพชิตช้วนจิน
![](image/bu.png)
นีมอชิงมีพลังฝีมือพอจะสู้กับกิมลุ้นได้หลายกระบวนท่า อาศัยวิชาที่กิมลุ้นไม่เคยรู้จักเคยลงมือแล้วเกือบทำให้กิมลุ้นพ่ายแพ้
อ้างอิง
2-564 วิจารณ์ตามความสำเร็จของฝีมือ กิมลุ้นก๊กซือยังเหนือล้ำกว่านีมอชิง เพียงแต่ไม่เคยพบเห็นวิชาศากยะทุ่มคชสารนี้มาก่อน
2-564 หากแม้นสู้สืบไป ต้องพ่ายแพ้ใต้เงื้อมมือคนดำต่ำเตี้ยผู้นี้
![](image/bu.png)
อีเคอซี มีพลังฝีมือพอๆกับ เซียวเซียงจื้อ นีมอชิง แต่ดูจากหลายเหตุการ อาจจะด้อยกว่าพวกอยู่บ้างเล็กน้อย
![](image/bu.png)
มีช่วงหนึ่งตอนที่ต้องยกเรือข้ามหินใหญ่ มีบอกไว้ว่า อีเคอซี มีกำลัง (หมายถึงกำลังภายนอก) น้อยกว่าพวก
![](image/bu.png)
ในตอนสู้กับกระบี่บินว่อนของเซียวเหล่งนึ่ง คนที่พลาดพลั้งก่อนก็เป็นอีเคอซี
อ้างอิง
2-351 ผู้คนทั้งหกใช้กำลังโดยพร้อมเพรียง ในผู้คนทั้งหกมีแต่เอี้ยก่วยและอีเคอซีที่พละกำลังอ่อนด้อยกว่าบ้าง
3-56 ก๊วยเจ๋งดูจากท่าร่างและลักษณะในการชักอาวุธของคนทั้งสี่ พบว่าในคนทั้งสี่คล้ายกับอีเคอซีฝีมืออ่อนด้วยกว่า
3-306 อีเคอซีปรากฎแววละอาย กล่างว่า "ผู้น้องไร้ความสามารถ ปล่อยให้นางหลบหนีไป"
![](image/bu.png)
กิมลุ้นมีพลังฝีมือเหนือกว่าพวก เซียวเซียงจื้อ นีมอชิง อีเคอซี ไม่น้อย แต่ถ้าต้องเจอรุมก็คงรับไว้ไม่ไหวเหมือนกัน
อ้างอิง
2-561 กิมลุ้นคิดว่า ท่านแม้ถือดีในฝีมือ แต่หากยอดฝีมือทั้งห้านี่ผนึกกำลังจู่โจม ท่านมิเพียงไม่อาจต้านรับได้ ยังมีอันตรายถึงแก่ชีวิต
![](image/bu.png)
จิวแป๊ะทงจากตอนที่จบภาคแรกพลังฝีมือก็สูงล้ำอยู่แล้ว ผ่านเวลามาสิบกว่าปีพลังฝีมือยึ่งฝึกปรือยิ่งกล้าแข็ง
![](image/bu.png)
การลงมือกับเซียวเซียงจื้อและพวก หากมีเจตนาจะเอาชีวิต เพียงกระบวนท่าที่ใช้ซัดหอกก็สามารถเอาชีวิตพวกทั้ง 3 ได้
![](image/bu.png)
แม้ไม่เคยประทะฝีมือกับกิมลุ้นตรงๆ แต่ตลอดทั้งเรื่องมีอยู่หลายช่วงตอนที่เมื่อเทียบเคียงแล้ว พอจะบอกได้ว่ามีพลังฝีมือเหนือกว่ากิมลุ้นอยู่พอควร
อ้างอิง
2-338 พลังฝ่ามือของชายชราผู้นี้บรรลุถึงขั้นควบคุมใช้ออกได้ตามใจปรารถนา ทุกผู้คนในงานเลี้ยงสำนึกตัวว่าไม่สามารถกระทำได้
2-346 เซียวเซียงจื้อและพวกทั้งสามกลับตื่นตระหนกยิ่ง อดหน้าเปลี่ยนสีไม่ได้ หวนนึกถึงเมื่อครู่รับพลาดผิด หัวหอกวกโค้ง ชีวิตตัวเองเท่ากับหยิบยื่นให้แก่ฝ่ายตรงข้าม หากมิใข่หัวหอกเปลี่ยนเป็นตกลงสู่พื้น แต่เปลี่ยนเป็นปักใส่ท้องน้อยของตน ด้วยพลังซัดเหวี่นงของจิวแป๊ะทงนี้ ตนไหนเลยมีชีวิตอยู่ได้
2-382 เนื่องด้วยจิวแป๊ะทงมีพลังฝีมือสูงเยี่ยม ไปมาไร้ร่องรอย นอกจากเซียวเซียงจื้อยามหลับฝันนิทราถูกสยบไว้ แม้แต่กิมลุ้นก๊กซือและพวกยังไม่รู้สึกตัว
2-384 จิวแป๊ะทงนั่งคล่อมอยู่บนขื่อห้อง ส่งเสียงหัวร่อฮาๆ ขื่อห้องอยู่สูงจากพื้นระดับสามวา ภายในห้องโถงแม้มีมือดีมากหลาย แต่คิดทะยานขึ้นไปในคราวเดียว ล้วนสำนึกว่าทำไม่ได้
2-388 กิมลุ้นก๊กซือเห็นในห้องโถงมีสภาพชุลมุนวุ่นวาย พวกท่านมากันหกคน มีอยู่ห้าคนที่ลงมือ ยังไม่อาจทำอย่างไรได้
2-391 กิมลุ้นก๊กซือและพวกก็ละอายใจ ครุ่นคิดขึ้น 'เสียทีที่เราเป็นยอดฝีมือบู๊ลิ้ม ผนึกกำลังผู้คนพวกมากถึงเพียงนี้ ยังคร่ากุมเฒ่าชราที่คลุ้มๆ คลั่งๆ เช่นนี้ไม่ได้ นับว่าไร้ความสามารถจริงๆ'
3-224 ในชีวิตเฒ่าทารกชมชอบวิชาการต่อสู้ แต่ระหว่างนี้พลังฝีมือยิ่งฝึกปรือยิ่งกล้าแข็ง คิดเสาะหาคู่มือช่างยากเย็นจริงๆ
3-244 กิมลุ้นครุ่นคิดขึ้น 'เขาถูกแมงมุมหิมะลายของเรากัดทำร้ายกลับยังไม่ตาย คำพูดหลายประโยคนี้แฝงพลังการฝึกปรือลึกล้ำ สุดที่เราจะเทียบเทียมได้'
![](image/bu.png)
อึ้งเอี๊ยะซื้อในช่วงต้นไปถึงค่อนเรื่องไม่มีโอกาสได้ประมือกับยอดฝีมือระดับเดียวกัน จึงยากจะคาดเดาว่าพลังฝีมือพัฒนาไปใกล้เคียงพวก ก๊วยเจ๋ง อาวเอี้ยฮง และ อั้งฉิกกงแค่ไหน แต่ตอนที่ปราบลี้มกโช้วก็มีบอกไว้ว่าพลังฝึกปรือลึกล้ำกว่าเดิม
![](image/bu.png)
อึ้งเอี๊ยะซือก็เป็นอีกคนที่ได้รับคัมภีร์เก้าอิมบางส่วน ในเรื่องไม่ได้มีบอกไว้ว่าได้รับประโยชน์จากมันหรือไม่มากน้อยแค่ไหน แต่จากตอนท้ายเรื่องสามารถสู้กับเอี้ยก้วยได้สูสี ดังนั้นในช่วงตอนนี้ หากให้พลังฝีมือพัฒนามาใกล้เคียงกับพวก ก๊วยเจ๋ง ก็ไม่ขัดกับความสมเหตุสมผล
อ้างอิง
2-278 พละกำลังเสื่อมถอยไปตามวัย ด้านพลังการฝึกปรือกลับยิ่งฝึกยิ่งลึกล้ำ ลี้มกโช้วไหนเลยต้านทานรับได้
![](image/bu.png)
ในตอนที่สู้กับกิมลุ้น มีอธิบายว่า ฝีมือต่ำกว่ากิมลุ้นเพียงขั้นเดียว แต่จากความสมเหตุสมผล ควรจะต่ำกว่ากิมลุ้นพอสมควร เพราะลี้มกโชว์เหนือกว่าจูจือลิ้วไม่มากนัก และด้อยกว่าอึ้งย้ง อึ้งย้งด้อยกว่ากงซุนจี้ กงซุนจี้ด้อยกว่าเซียวเหล่งนึ่ง เซียวเหล่งนึ่งพอๆกับเซียวเซียงจื่อ เซียวเซียงจื่อถูกเอี้ยก้วยที่มีกระบี่นิลดำโค่นลงอย่างง่ายดาย ซึ่งเอี้ยก้วยยังคงด้อยกว่ากิมลุ้นอยู่ เมื่อไร่เรียงแล้ว ลี้มกโชว้ควรจะหากจากกิมลุ้นพอสมควร
อ้างอิง
3-114 วิจารณ์ตามวิชาฝีมือและพลังการฝึกปรือ กิมลุ้นก๊กซือล้วนเหนือกว่าขั้นหนึ่ง
3-115 นับว่าลี้มกโช้วท่องทะยานยุทธจักรมาชั่วชีวิต ผ่านศึกใหญ่น้อยหลายร้อยครั้ง ยังมีประสบการณ์ต่อสู้ช่ำชองกว่ากิมลุ้นก๊กซือ
3-486 กระบวนท่าฝีมือของลี้มกโช้ว แม้ไม่ลึกล้ำเท่ากับเอี้ยก่วยและเซียวเล้งนึ่ง แต่ด้านพลังการฝึกปรือ ย่อมกล้าแข็งกว่าหนุ่มสาวทั้งสองมากนัก
![](image/bu.png)
อึ้งย้งมีโอกาสได้แสดงฝีมืออย่างชัดเจนก็เมื่อตอนที่ประทะกับลี้มกโชว้เพื่อจะชิงตัวก๊วยเซียง จากการประมือกัน อึ้งย้งมีพลังฝีมือเหนือกว่าลี้มกโช้วอยู่เล็กน้อย
อ้างอิง
3-360 ผ่านไปหกเจ็ดกระบวนท่า ลี้มกโช้วรู้สึกว่ายากปิดป้องต้านรับ พลังฝีมือของนางความจริงเป็นรองอยู่บ้าง ยามนี้ยังอุ้มทารกหญิงอยู่ในมือ ยิ่งเคลื่อนไหวไม่สะดวก
3-362 อึ้งย้งพอประมือกับลี้มกโช้วสิบกว่ากระบวนท่า ทราบว่าพลังฝีมืออีกฝ่ายไม่แตกต่างจากนางเท่าใด
3-372 วันนี้ได้รับทราบยอดวิชาของเกาะดอกท้อ นับว่าไม่ธรรมดาจริงๆ อย่าว่าแต่ฝ่าเราถูกพิษ ต่อให้แข็งแรงเป็นปกติ ก็มิใช่คู่มือของนาง
![](image/bu.png)
กงซุนจี้เคยรับมือกับอึ้งย้งและลี้มกโชว้พร้อมกัน โดยมือข้างหนึงใช้กระบี่ดำรับมือแซ่ปัดของลี้มกโช้ว อีกข้างใช้ดาบทองรับมือไม้เท้าของอึ้งย้ง ผ่านไป 10 กระบวนท่า ทั้ง 2 สาวยังไม่อาจทำอย่างไรได้
![](image/bu.png)
เคยต่อสู่กับเซียงเล้งนึ่งตัวต่อตัว และพ่ายแพ้ไป ดังนั้นพลังฝีมือของกงซุนจี้ควรจะเหนือกว่า อึ้งย้งและลี้มกโช้วอยู่พอควร แต่ด้อยกว่าเซียวเล้งนึ่ง
![](image/bu.png)
บู๊ซำทง บูตงยู้ บู๊ซิวบุ้น เยลูกชี้ เยลุกอี่ อ้วงง้วนเพี้ย หากทั้ง 6 คนนี้รุมก็จะสามารถสู้กับกงซุนจี้ได้
อ้างอิง
3-459 ที่แท้นางลอบทดสอบพลังลมปราณกับอึ้งย้ง ดูว่าผู้ใดกระแทกอาวุธของชายกลางคนผู้นี้หลุดจากมือก่อน แต่ร่ำร้องถึงสิบ กงซุนจี้ยังทั้งรุกและรับดังเดิม
3-459 อึ้งย้งกับลี้มกโช้วสบตายิ้มให้แก่กัน ล้วนครุ่นคิดขึ้น "คนผู้นี้มีพลังฝีมือกล้าแข็ง ทั้งยังกลอกกลิ้งเจ้าเล่ห์ หากเราอยู่ตามลำพัง เกรงว่ามิใช่คู่มือเขา"
4-88 ก๊วยพู่เคยประมือกับกงซุ่นจี้ ทราบว่าคนผู้นี้มีฝีมือสูงเยี่ยม แม้แต่มารดายังมิใช่คู่มือด้วย
4-88 กงซุนจี้ยิ่งต่อสู้ยิ่งอกสั้นขวัญแขวญ ครุ่นคิดขึ้น "หากทราบแต่แรกว่านางเรียนรู้เพลงกระบี่อันร้ายกาจเช่นนี้เพิ่มเติมก็จะไม่ลงมือต่อนางแล้ว"
3-467 หากมิใช่บู๊ซำทงรับบาดเจ็บอยู่ก่อน ทั้งหกผนึกกำลังความจริงสามารถต่อสู้กับกงซุนจี้ แต่บู๊ซำทงพอรับบาดเจ็บที่เท้าก็เคลื่อนไหวไม่สะดวกผู้ที่มีฝีมือเข้มแข็งคงเหลือแต่เยลุกชี้คนเดียว
![](image/bu.png)
หลังจากเรียนรู้สองมือขัดแย้งของจิวแป๊ะทง พลังฝีมือของเล้งนึ่งรุดหน้าอย่างมหาศาล เพราะทำให้สามารถใช้เพลงกระบี่สุรางคนางค์ด้วยตัวคนเดียวได้
![](image/bu.png)
เคยเอาชนะ เซียวเซียงจื้อ นี่ม่อชิง อีเคอซี ที่ลงมือพร้อมกัน และยังทำให้กิมลุ้นต้องเพลี่ยงพล้ำ จะอย่างไรก็ตามในนิยายได้อธิบายไว้ชัดเจนว่า ที่เซียงเล้งนึ่งมีเปรียบ ล้วนเป็นผลจากการข่มขวัญ พลังฝีมือที่แท้จริงยังไม่อาจเทียบกิมลุ้นได้
![](image/bu.png)
ในแง่กระบวนท่าเซียวเหล่งนึงเลิศล้ำกว่าพวกเซียวเซียงจื้อ รวมไปถึงกิมลุ้น แต่ในแง่กำลังภายในยังอ่อนอยู่มาก
![](image/bu.png)
คู่ชู่กีและพวกทั้ง 5 เก็บตัวฝึกวิชาเพื่อโค้นล้มเซียวเหล่งนึ่ง แต่พอออกมาพบความร้ายกาจของเพลงกระบี่ที่เล้งนึ่งใช้ต่อสู้กับกิมลุ้นและพวกทั้ง 4 ถึงกับท้อแท้ เพลงกระบี่รวดเร็วแค่มองตามยังมองไม่ทัน คิดเอาชนะชั่วชีวิตคงไม่มีหวัง
![](image/bu.png)
สู้กับกงซุนจี้ตัวต่อตัว ในขณะที่ภายในมีพิษซ่อนเร้น พลังการฝึกปรือลดน้อยถอยลง แต่ยังคงสู้กับกงซุนนี้ได้
อ้างอิง
3-294 พอได้รับถ่ายทอดวิชาแบ่งแยกกระแสจิต สองมือพันตูกันเองจากจิวแป๊ะทง ก็มีพลังผีมือรุดหน้าเป็นเท่าตัว
3-294 ยามนี้เพลงกระบี่และพลังที่นางใช้ออก แม้ไม่เท่ากับผู้คนสองคนผนึกกำลัง แต่ระดับความเร็วกลับรวดเร็วกว่าหลายเท่าตัว
3-301 ผลจากการรุกรับสองระลอก คนทั้งสี่ล้วนทราบกระจ่างแก่ใจว่า เซียวเล้งนึ่งเสียเปรียบที่กำลังภานในไม่กล้าแข็งพอ พลังที่แฝงไปกับท่ากระบี่ไม่สามารถกระแทกอาวุธฝ่ายตรงข้ามพ้นห่าง
3-308 ซึ่งความจริง เซียวเล้งนึ่งลำพังคนเดียวใช้เพลงกระบี่สองประการ กระบวนท่าแม้รวดเร็ว จะอย่างไรอานุภาพไม่เท่าเทียม กับผนึกกำลังกับเอี้ยก่วย อย่างว่าแต่พลังฝีมือแท้จริงยังห่างไกลจากกิมลุ้นก๊กซือ แม้แต่เซียวเซียงจื้อและพวกทั้งสาม ก็พอที่จะเอาชนะนางได้
3-312 คูชู่กีและพวกใบหน้ากลับกลายเป็นซีดสลด ครุ่นคิดขึ้น 'แล้วกันไปเถอะ ที่แท้วิชาฝีมือของสำนักสุสานโบราณลึกล้ำถึงเพียงนี้ คิดเอาชนะนาง ชั่วชีวิตคงไม่มีหวังแล้ว'
3-312 ...หาคาดไม่ว่าท่ากระบี่พิสดารที่แสดงอยู่ตรงหน้า คิดชมดูให้กระจ่างชัดยังทำไม่ได้ ไหนเลยต้านทานทำลายล้างได้
3-316 คูชู่กีแม้มีพลังฝีมือลึกล้ำ แต่เพียงสามกระบวนท่า ก็ถูกเซียวเล้งนึ่งรุกไล่มือไม้ปั่นป่วน
3-317 ในห้าบรรพชิตช้วนจิน มีอยู่สี่ท่านรับบาดเจ็บ นับว่าพิสูจน์ผลแพ้ชนะแล้ว
4-87 สองมือใช้เพลงกระบี่สุรางคนางค์ใจพิสุทธิ์พร้อมกัน ความพิสดารของฝีมือ อาศัยดาบทองกระบี่ดำของกงซุนจี้ไหนเลยต้านทานได้
4-88 มีแต่ อิดเต็งไต้ซือ เอี้ยก่วย อึ้งย้งและจูจื้อลิ้วดูออกว่า ด้านกระบวนท่าเซียวเล้งนึ่งชิงเป็นฝ่ายมีเปรียบ
4-91 บู๊ซำทง จูจื้อลิ้วและพวกทราบแต่แรกว่าเซียวเล้งนึ่งมีฝีมือสูงเยี่ยม แต่ไม่ว่าอย่างไรก็คาดคิดไม่ถึงว่าจะลึกล้ำพิศดารถึงเพียงนี้
4-91 ส่วนสองเฮียม่วยตระกูลเยลุก สองพี่น้องตระกูลบู๊ เที้ยเอ็ง เล็กบ้อซังที่เป็นชนชั้นผู้เยาว์ ยิ่งชมดูจนตาลาลายละลาน เห็นเซียวเล้งนึ่งมีอายุไล่เลี่ยกับพวกตน ความสูงส่งของพลังฝีมือกลับไม่อาจคิดคำนวณ
![](image/bu.png)
เซียวเซียงจื่อ อีเคอซี นีมอชิง ฝีมืออยู่ในระดับเทียบเท่าหรือเหนือกว่าเซียวเล้งนึ่งเล็กน้อย
![](image/bu.png)
ทั้ง 3 พ่ายแพ้ให้กับเอี้ยก้วยภายในไม่มีกระบวนท่า ดังนั้นพลังฝีมือย่อมห่างจากเอี้ยก้วยตอนมีกระบี่หนักมากพอสมควร
อ้างอิง
3-387 กิมลุ้นก๊กซือเห็นเอี้ยก่วยโค่นนี่มอชิง เซียวเซียงจื้อ และอีเคอซีสามยอดฝีมือ เพียงกระบวนท่าเดียวก็ทำร้ายอีกฝ่าย บรุษหนุ่มผู้นี้ไฉนมีพลังฝีมือรุดหน้าถึงเพียงนี้
![](image/bu.png)
หลังจากแขนขาดแล้ว ได้ไปฝึกวิชากับอินทรีวิเศษอยู่เดือนเศษ พลังฝีมือรุดหน้าอย่างใหญ่หลวง บวกกับการได้กระบี่เหล็กนิลดำ ทำให้สามารถเอาชนะ พวก เซียวเซียงจือ นี่ม่อชิง อีเคอซี ได้อย่างง่ายดาย
![](image/bu.png)
ประทะกับฮิ้วโชยยิ่ม เสียเปรียบที่มีแขนเดียว แต่ได้เปรียบที่มีกระบี่เหล็กนิลดำ ต่อสู้สยบฮิ้วโชยยิ่มลงได้
![](image/bu.png)
เอี้ยก่วยเมื่อใช้กระบี่เหล็กนิลดำ สู้กับกิมลุ้น 40-50 กระบวนท่ายังสูสี แต่พอเปลี่ยนเป็นประทะกำลังภายใน พบว่า พลังฝึกปรือยังสู้กิมลุ้นไม่ได้
อ้างอิง
3-334 ตอนนี้เอี้ยก่วยแม้เพียงหลงเหลือแขนข้างเดียวแต่ทุกวันรับประทานดีงู ซึ่งไม่ทราบว่าอินทรีวิเศษจัดหามาจากที่ใด กำลังแขนกลับเพิ่มพูนขึ้นโดยไม่รู้ตัว
3-334 เมื่อพลังฝีมือถึงขั้นนี้ คล้ายกับขึ้นสูภูเขาไท้ซัว เห็นว่าใต้หล้าเล็กยิ่ง หวนนึกถึงวิชาฝีมือที่ร่ำเรียนมา กลายเป็นไร้คุณค่าความหมายแล้ว
3-452 อึ้งย้งกับลี้มกโช้วสบตากันวูบหนึ่ง ล้วนบังเกิดความตื่นตระหนก พวกนางทั้งสองย่อมทราบว่า คนผู้หนึ่งพอฝึกปรือกำลังภายในถึงขั้นลึกล้ำ สามารถบังคับแพรไหมดั่งกระบอก แต่ต่อให้พบพานอาจารย์เลิศล้ำ ตัวเองมีภูมิปฎิภาณเปรื่องปราด อย่างน้อยต้องมีพลังการฝึกปรือสามสี่สิบปี เอี้ยก่วยอายุยังเยาว์ กลับบรรลุถึงขั้นนี้
3-529 หวนนึกถึงอาศัยฝ่ามือเดียวของตนเอง ไม่สามารถต้านทานฝ่ามือเหล็กของหลวงจีนจีวรดำ จึงหมุนตัวกลับไปหยิบฉวยกระบี่หนักเหล็กดำ
3-531 เอี้ยก่วยฝึกท่ากระบี่กลางกระแสน้ำป่า รับประทานดีงูเพิ่มพลัง ได้รับการช่วยเหลือจากอินทรีวิเศษ เพลงกระบี่ที่เอี้ยก่วยฝึกปรือ มีส่วนคล้ายคลึงกับกระบี่อสูร ซึ่งครั้งกระโน้น พิชิตโดยไร้ผู้ต่อต้านยิ่ง
3-532 อิดเต็งไต้ซือยิ่งชมดูยิ่งตื่นใจ เห็นบุรุษหนุ่มผู้นี้มีอายุยี่สิบเศษ กลับสามารถสู้เสมอกับอดีตหัวหน้าพรรคมือเหล็กฮิ้วโชยยิ่ม ด้วยภูมิรอบรู้ของท่านกลับจดจำไม่ออกว่าเอี้ยก่วยฝึกปรือวิชาฝีมือสำนักใด
3-391 เมื่อหักล้างกำลังภายในกัน ก็ไม่อาจเปร่งอานุภาพของกระบี่หนักเหล็กดำออก ลามะรูปนี้ฝึกปรือฝีมือเป็นเวลานาน มีพลังการฝึกปรือลึกล้ำ เวลาพอนานเข้า ย่อมช่วงชิงเป็นฝ่ายมีเปรียบ
![](image/bu.png)
ที่เขาฮั่วซัวท้ายมังกรหยกภาคแรก ได้บวชเป็นหลวงจีนเปลื่ยนชื่อเป็น ชื้ออึง หลังจากนั้นไม่ได้ฝึกวิชาเพิ่มเติม ดังนั้นตามเหตุผลแล้วใน 20 ปีมานี้พลังฝีมือจึงไม่ควรเพิ่มจากเดิมมากนัก มีเพียงพลังฝึกปรือที่น่าจะเพิ่มขึ้นตามกาลเวลาเพียงเล็กน้อย
![](image/bu.png)
อึ้งย้ง บู้ซำทง และ เยลู่ชี้ เคยรวมพลังประทะกับฝ่ามือเดียวของฮิ้วโชยยิ่ม ฮิ้วโชยยิมไม่เคลื่อนไหว พวกทั้ง 3 กลับถอยไปหลายก้าว ดังนั้นพลังฝีมือสูงกว่า อึ้งย้ง บู๊ซำทง และเยลู่ชี้ ร่วมมือกัน
![](image/bu.png)
ต่อสู่กับเอี้ยก้วยที่มีแขนเดียวแต่ถือกระบี่นิลดำ สามารถรับมือได้กว่า 100 กระบวนท่า แต่สุดท้ายยังพ่ายแพ้ไป
อ้างอิง
4-36 ฝ่ามือทั้งสามข้างล้วนจู่โจมใส่ฝ่ามือซ้ายของหลวงจีนชื้ออึง หลวงจีนชื้ออึงยืนหยัดกับที่ไม่เคลื่อนไหว อึ้งย้งและพวกทั้งสามกลับถอยกายไปหลายก้าว
3-532 หักล้างกันร้อยกว่ากระบวนท่า รู้สึกว่าพลังกระบี่ของอีกฝ่ายเพิ่มพูนไม่หยุดยั้ง หลวงจีนชื่ออึงมีอายุสูงวัย เริ่มไม่อาจต้านทานรับได้
![](image/bu.png)
อิดเต็งโผล่มาตอนค่อนเรื่อง และก็เช่นเดียวกับภาคแรกคือไม่ค่อยได้มีโอกาสได้ประมือกับใครแบบชัดๆให้คาดคำนาณได้ว่าพลังฝีมือพัฒนาไปถึงระดับใด แต่ก็ทราบว่าเหนือกว่าฮิ้วโชยยิ่มอยู่เล็กน้อย
![](image/bu.png)
เอี้ยก้วยเมื่อพบอิดเต็งยังคิดว่า กำลังภายในของอิดเต็งสูงล้ำหาใครเทียบไม่ได้ ทั้งที่เอี้ยก้วยก็รู้จักยอดฝีมือ ทั้ง ก๊วยเจ๋ง กิมลุ้น อึ้งเอี๊ยะซือ อั้งฉิกกง อาวเอี้ยงฮง มาครบ ตามเหตุผลนี้ กำลังภายในของอิดเต็งดูน่าจะไม่ด้อยไปว่าพวก ก๊วยเจ๋งกิมลุ้น
![](image/bu.png)
ข้อมูล 2 ส่วนนี้จึงขัดกัน ข้อมูลหนึ่งบอกว่าอิดเต็งเหนือกว่าฮิ้วโชวยิ่มเพียงนิดเดียว อีกข้อมูลคล้ายกับว่าอิดเต็งมีพลังฝีมือไม่ด้อยไปกว่าพวกก๊วยเจ๋ง แต่จากการตอนท้ายเรื่อง อิดเต็งสามารถต่อสู้กับกิมลุ้นได้สูสี ดังนั้นในตอนนี้อิดเต็งควรมีพลังฝีมือไม่ด้อยไปกว่ากิมลุ้นจึงจะสมเหตุสมผลกว่า ทั้งยังสอดคล้องกับตอนจบในภาคแรกที่วิเคราะว่าพลังฝีมืออิดเต็งน่าจะมากกว่าฮิ้วโชยยิ่มและพวกพอควร
อ้างอิง
3-520 เอี้ยก่วยถึงกับใจหายวาบ ครุ่นคิดขึ้น 'หลวงจีนชรารูปนี้มีพลังฝึกปรือลึกล้ำถึงเพียงนี้ ทอดตาทั่วแผ่นดินไม่ทราบมีผู้ใดเทียบเทียมได้'
3-528 มือเหล็กของเขากับดรรชนีเอกสุริยันของอิดเต็งไต้ซือ ต่างมีปมเด่นของตน ครั้งกระโน้นได้รับการขนานนามคู่กันในยุทธจักร
3-528 ด้านพลังฝีมือต้องใช้วิชาเอกสุริยันเข้าต่อกร จึงเอาชัยสักครึ่งท่าหนึ่งกระบวนเพลง
![](image/bu.png)
ดูเหมือนว่าในเวอร์ชั้นการ์ตูนบางชุดแต่งเพิ่มว่า เซียวเหล่งนึงตอนอาศัยอยู่ใต้ผาลำใส้ขาด 16 ปี มีพลังฝีมือเพิ่มพูน ทำให้หลายคนเข้าใจผิด เพราะความจริงแล้วในนิยาย บอกไว้ว่าพลังฝีมือไม่ได้รุดหน้าแต่อย่างใด
อ้างอิง
4-418 เซียวเล้งนึ่งยิ้มพลางกล่าวว่า "สิบหกปีนี้แม้ไม่มีความรุดหน้า แต่คาดว่าวิชาฝีมือที่เคยเรียนรู้ยังคงอยู่"
![](image/bu.png)
พวก เซียวเซียงจื้อ นีมอชิง อีเคอซี ใน 16 ปีมานี้ต่างก็พัฒนาพลังฝีมือขึ้นอีก เทียบกับจอมยุทธทั่วแผ่นดินถือว่าท่องทะยานไปได้ทุกที่ไม่กลัวใคร มีเพียงแต่พวกจอมยุทธ์ในระดับเอี้ยก้วย ที่ 3 คนนี้ยังไม่อาจเทียบเปรียบติด
![](image/bu.png)
นีมอชิงถูกสังหารโดยเอี้ยก้วย ใช้พลังแกร่งกร้าวซัดปิ่นของก๊วยเซียงทุลุมือไปสังหารนีมอชิงตายคาที่ ส่วนเซียวเซียงจื้อ อีเคอซี ก็ถูก อึ้งเอี๊ยะซือ กับ เอี้ยก้วยจับโยนฆเล่นไปมาได้สบายๆ
อ้างอิง
4-418 เซียวเซียงจื้อผูกใจอาฆาตต่อความอัปยศของแขนหักบนภูเขาจงน้ำ สิบกว่าปีแม้มีพลังฝีมือรุดหน้า แต่สำนึกตัวว่ามิใช่คู่มือเปรียบติด
4-570 คนโฉดทั้งสองนี้ล้วนมีฝีมือโดดเด่น ทั่วทั้งแผ่นดินนอกจากอึ้งเต้าจู้อิดเต็งไต้ซือ ก๊วยแป๊ะแปะและพวกอีกไม่กี่ท่าน น้อยคนที่เป็นคู่มือของพวกเขา
4-581 ทั้งสองล้วนเคยรับความเจ็บปวดใต้เงื้อมมือเอี้ยก่วยมาแล้ว ทราบว่าแม้เพียงหนึ่งฝ่ามือก็ไม่อาจรับไว้ได
![](image/bu.png)
ในช่วงเวลา 16 ปี กิมลุ้นฝึกวิชานาคคชสารปัญญาบารมีถึงขั้นที่ 10 ซึ่งไม่เคยมีใครฝึกไปถึงขั้นนี้ได้ พลังฝีมือเพิ่มพูนอย่างใหญ่หลวง เมื่อมั่นใจว่าสามารถเอาชนะ พวกก๊วยเจ๋ง เอี้ยก้วยได้ ก็ติดตามมองโกลลงสู้แผ่นดินตงง้วน
![](image/bu.png)
ในเรื่องมีบอกไว้ว่า พลังฝีมือเพิ่มพูนเป็นเท่าตัว แต่เข้าใจว่าน่าจะเป็นคำเปรียบเปรยมากกว่า เพราะถ้าเพิ่มขึ้นเท่าตัวดูออกจะเกินเลยไป แต่ก็ย่อมหมายถึงว่าพลังฝีมือเพิ่มขึ้นจากเดิมอย่างมากมาย
อ้างอิง
4-414 ยามนี้เข้าสู่ขอบเขตชั้นที่สิบ นับเป็นปรากฎการณ์อันน่าตระหนก แม้ไม่อาจบอกว่าไม่มีในอนาคตกาล แต่ก็ไม่เคยปรากฎในอดีตกาล
4-415 ยามนี้เมื่อมีพลังฝีมือเพิ่มพูนเป็นเท่าตัวจึงฉวยโอกาสที่ท่านข่านมองโกลทรงออกศึกด้วยพระองค์เอง ตามเสด็จลงสู่ใต้คิดใช้ฝ่ามือทั้งสองโค่นเอี้ยก่วยสองสามีภรรยา
![](image/bu.png)
เอี้ยก้วยต้องรอเซียวเหล่งนึ่ง 16 ปี มีเวลาเหลือเฟือ จึงใช้เวลาช่วงนี้ฝึกวิชากระบี่ไม้ซึ่งเป็นขั้นที่เหนือกว่าใช้กระบี่หนัก เอี้ยก้วยใช้เวลา 1 ปีฝึกกระบี่ไม้กลางหิมะโปรย จากนั้นลงใต้ไปฝึกกระบี้ไม้กลางคลื่นซัดอีก 6 ปี รวมแล้วใช้เวลาถึง 7 ปี พลังฝีมือเพิ่มพูนมหาศาล
![](image/bu.png)
จากนั้นยังคิดค้นวิชาขึ้นเอง คือฝ่ามือกำสลดวิญญาณสลาย ในช่วง 10 กว่าปีนี้ ถือเป็นวิชาใหม่ที่ยอดเยี่ยมที่สุด
![](image/bu.png)
จากการประเมินของอิดเต็งไต้ซือ ในด้านกำลังภายใน เอี้ยก้วยเหนือกว่าจอมยุทธทั้งหมด
![](image/bu.png)
เอี้ยก้วยได้ประมือกับกิมลุ้นท้ายเรื่อง เอี้ยก้วยแม้จะเหลือมือเปล่าแขนเดียว ยังคงสู้กับกิมลุ้นที่มีจักรในมือได้ กิมลุ้นพบว่าหากสู้ต่อไปอีกซัก 100 กระบวนท่าเกรงว่าจะพ่ายแพ้ ดังนั้นพลังฝีมือของเอี้ยก้วยในช่วงนี้น่าจะเหนือกว่ากิมลุ้นอยู่เล็กน้อย
อ้างอิง
4-129 เอี้ยก่วยอ่านดูจนครุ่นคิดขึ้น 'เราถือกระบี่หนักเหล็กดำ ก็แทบพิชิตโดยไร้ผู้ต่อต้าน แต่ดูจากคำสั่งเสียของผู้อวุโสแซ่ต๊กโกว แสดงว่ากระบี่ไม้ยังเอาชนะกระบี่หนักหล็กดำ สุดท้ายไร้กระบี่เหนือกว่ากระบี่ไม้'
4-134 อินทรีวิเศษแม้ทรงพลังมหาศาล ยังไม่อาจต้านทานกระบี่ไม้ของเขาสักสองท่าสามกระบวนเพลง ตอนนี้เอี้ยก่วยค่อยรับรู้ถึงอารมณ์ความรู้สึกในช่วงปัจฉิมวัยของกระบี่อสูรต๊กโกวคิ้วป่าย ครุ่นคิดขึ้น 'อาศัยเพลงกระบี่นี้ ทั่วทั้งแผ่นดินไหนเลยมีคู่มือต้านติด? มิน่าเล่าผู้อวุโสแซ่ต๊กโกวสะทกสะท้อนอ้างว้าง ฝังกระบี่ในหุบเขาร้าง'
4-236 อิดเต็งไต้ซือต้องครุ่นคิด หลายแซ่เอี้ยผู้นี้มีกำลังภายในกล้าแข็งแกร่งกร้าว สุดที่ยอดฝีมือใดจะเทียบเทียมได้ ไม่ทราบว่าเอี้ยก้วยฝึกปรือได้อย่างไร?
4-539 เอี้ยก้วยแม้ไม่มีอาวุธ แต่ยังไม่ตกเป็นเบี้ยล่าง ระหว่างการต่อสู้ กิมลุ้นก๊กซือรู้สึกว่าหอสูงง่อนแง่นขึ้นมา ทราบว่าฐานล่างของหอถูกอัคคีเผาทำลายชั่วพริบตาก็จะถล่มทลาย เมื่อถึงเวลานั้นต้องตกตายพร้อมกับเอี้ยก้วยและก๊วยเซียง ทั้งยังเห็นว่าเพลงฝ่ามือของเอี้ยก้วย ยิ่งพลิกแพลงยิ่งพิศดาร หากหักล้างกันอีกร้อยกว่ากระบวนท่า เกรงว่าต้องถูกเอียก้วยสยบไว้
4-456 จิวแป๊ะธงสั่นศีรษะกล่าวว่า "มิใช่ มิใช่ วิชาฝีมือที่ดีที่สุดในหลายปีนี้ เป็นฝ่ามือกำสรดวิญญาณสลายของเด็กน้อยเอี้ยก้วย เฒ่าทารกละอายที่สู้ไม่ได้ เรื่องวิชาการต่อสู้อย่าได้เอ่ยถึงอีก"
![](image/bu.png)
อึ้งเอี๊ยะซือได้ประลองกับเอี้ยก้วยโดยตรงเลย ผลออกมาเสมอ
![](image/bu.png)
ถ้าว่าไปตามเหตุผลอาจจะดูขัดอยู่บ้าง เพราะทั้งกิมลุ้นและเอี้ยก้วยต่างคร่ำเคร่งฝึกฝนวิชาจนพลังฝีมือเพิ่มพูนอย่างมหาศาล แต่ผ่านไป 16 ปี อึ้งเอี๊ยะซือยังคงมีพลังฝีมือเทียบเท่ากับทั้ง 2 จะอย่างไรก็ตาม ข้อความในเรื่องระบุไว้ชัดเจนว่า "คู่คี่ก้ำกึ่ง ไม่มีผู้ใดเหนือล้ำกว่าผู้ใด" ไม่สามารถตีความเป็นอื่นได้ และในเรื่องก็ไม่ได้มีแจ้งไว้ว่าในช่วง 16 ปี อึ้งเอี๊ยะซือทำอะไรมาบ้าง อาจจะฝึกฝนเพิ่มเติมหรือมีประสบการณ์ที่ทำให้พลังฝีมือเพิ่มพูนอีกก็เป็นได้
อ้างอิง
4-420 ฝ่ามือกำสรดวิญญาณสลายใช้ถึงครึ่งหนึ่ง เพลงฝ่ามือเทพกระบี่บุปผาร่วงของอึ้งเอี๊ยะซื้อก็ตกเป็นรองแล้ว ดังนั้นอึ้งเอี๊ยะซือจึงเปลี่ยนเป็นวิชาดรรชนีศักดิ์สิทธ์ จึงต่อสู้ได้คู่คี่ก้ำกึ่ง ไม่มีผู้ใดเหนือล้ำกว่าผู้ใด
4-563 อึ้งย้งกล่าวว่า "อิดเต็งไต้ซือกับบิดาข้าพเจ้ามีพลังการฝึกปรือเพิ่มพูนตามกาลเวลาครั้งกระโน้นก็จัดอยู่ในห้ายอดคน วันนี้ยิ่งไม่ต้องสงสัย"
![](image/bu.png)
อิดเต็งไต้ซือประเมินว่าเอี้ยก้วยมีกำลังภายในสุดที่ตนจะเทียบได้ แต่เอี้ยก้วยเองก็เคยคิดเหมือนกันว่า กำลังภายในของอิดเต็งสูงกว่าตน สองข้อมูลนี้ขัดแย้งกัน ถือว่าหายกันไป
![](image/bu.png)
อิดเต็งเคยประมือกับกิมลุ้น ต่อสู่กันได้สูสี ดังนั้นแสดงว่าอิดเต็งก็เป็นอีกคนที่พลังฝีมือพัฒนาขึ้นอย่างมากจนทัดเทียบพวก กิมลุ้นเอี้ยก้วย ในเรื่องไม่ได้มีอธิบายไว้ว่าพัฒนาอย่างไร แต่บอกไว้ว่า ดรรชนีเอกสุริยันบรรลุถึงขั้นสุดยอดแล้ว คาดว่าในช่วงเวลา 16 ปีอิดเต็งก็ฝึกฝนอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
อ้างอิง
4-228 เอี้ยก้วยเพียงรับฟังท่านกล่าววาจาสองประโยค ในใจก็บังเกิดความนิยมเลื่อมใส ยอมรับว่าบรรพชิตสูงศักดิ์ท่านนี้มีพลังการฝึกปรือลึกล้ำ ตัวเขาไม่อาจเทียบเปรียบได้
4-236 เอี้ยก้วยเปร่งเสียงกู่ร้องดังยาวนาน ดำเนินเป็นเวลาชั่วน้ำเดือด มิเพียงไม่มีวี่แววอ่อนโทรมขาดหาย ตรงกันข้าม พลังเสียงยิ่งมายิ่งกล้าแข็ง อิดเต็งไต้ซื้อรับฟังจนลอบนับถือเลื่อมใส แม้รู้สึกว่าเสียงกู่ของเอี้ยก้วยออกจะรุนแรงไป มิใช่พลังธรรมอันเที่ยงแท้ แต่ท่านเมื่อตอนอยู่ในวัยฉกรรจ์ ยังไม่มีพลังลมปราณสมบูรณ์ถึงเพียงนี้ ยามนี้อายุสูงวัยเรี่ยวแรงเสื่อมโทรม ยิ่งไม่อาจเทียบเปรียบติดได้
4-471 ยามนี้อิดเต็งไต้ซือฝึกดรรชนีเอกสุริยันถึงขั้นสูงล้ำสุดยอด พลังลมปราณที่แผ่พุ่งจากดรรชนี คล้ายอ่อนโยนละมุนแท้จริงแกร่งกร้าวสมบูรณ์สุดเปรียบปาน
![](image/bu.png)
ก๊วยเจ๋งเป็นคนเดียวในกลุ่มจอมยุทธ ที่ตอนท้ายเรื่องไม่มีโอกาสได้ประมือกับใครเลย จึงยากจะวัดว่าพลังฝีมืออยู่ในระดับใด แต่อย่างไรยังมีข้อมูลที่เกี่ยวของกับพลังฝีมือของก๊วยเจ๋งอยู่ 2 อย่าง อันแรกบอกว่าตลอด 16 ปีมานี้ก๊วยเจ๋งไม่เคยใช้ฝ่ามือพิชิตมังกรออกเลย
![](image/bu.png)
อีกข้อมูลมากจากคำพูดของอึ้งเอี๊ยะซือ ที่กล่าวว่า วิชาในแนวแกร่งกร้าวที่พอจะทัดเทียมกับวิชาวิญญาณสลายของเอี้ยก้วย คือวิชาฝ่ามือพิชิตมังกรของก๊วยเจ๋ง จากข้อความนี้คล้ายกับว่าก๊วยเจ๋งมีพลังฝีมืออยู่ในระดับเดียวกับเอี้ยก้วย ซึ่งเท่ากับอยู่ในระดับเดียวกับกิมลุ้นด้วย
![](image/bu.png)
จากข้อมูลทั้ง 2 นี่เป็นอะไรที่ขัดต่อความสมเหตุสมผล เพราะช่วงก่อน 16 ปี กิมลุ้นกับก๊วยเจ๋งมีพลังฝีมือทัดเทียมกัน แต่ในช่วง 16 ปี กิมลุ้นคร่ำเคร่งฝึกฝนวิชาจนสำเร็จถึงขั้น 10 ที่ไม่เคยมีผู้ใดฝึกสำเร็จมาก่อน มีพลังเพิ่มพูนเท่าตัว ในขณะที่ก๊วยเจ๋งไม่เคยใช้ฝ่ามือออกเลย ตามเหตุผล กิมลุ้นควรจะมีพลังฝีมือเหนือกว่าก๊วยเจ๋งอยู่ไม่น้อย
![](image/bu.png)
เพื่อให้ใกล้เคียงกับความสมเหตุสมผลที่สุด ในที่นี้ขอเลือกให้คะแนนฝีมือของก๊วยเจ๋งพัฒนาขึ้นจากเดิมพอสมควร แต่ยังไม่เท่ากิมลุ้น
อ้างอิง
4-325 ก๊วยเจ๋งกล่าว "อธรรมไม่อาจชนะธรรมมะ หากแม้นคนเหล่านี้มีความคิดชั่วร้ายจริง พวกเราจะขอต่อกรกับพวกเขา เพลงไม้ตีสุนัขของท่านกับสิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกรของข้าพเจ้า กลับไม่ได้ใช้ออกมาสิบกว่าปี ไม่แน่ว่าจะใช้การไม่ได้ "
4-420 อึ้งเอี๊ยะซือกล่าว "เพลงฝ่ามือของเล่าตี๋ชุดนี้ หากวิจารณ์ถึงความหนักหน่วงแกร่งกร้าว ทั้วแผ่นดินนี้มีแต่สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกรของเขยเรา ที่สามารถทัดเทียบเปรียบได้ ส่วนเพลงฝ่ามือเทพกระบี่บุปผาร่วงของเล่าฮู กลับด้อยกว่าขั้นหนึ่ง"
![](image/bu.png)
ในเรื่องบอกไว้อย่างชัดเจนว่า จิวแป๊ะทงมีพลังฝีมือสูงกว่า อึ้งเอี๊ยะซือ อิดเต็งไต้ซือ
![](image/bu.png)
ตอนประมือกับกิมลุ้นก็ดูเหมือนจะเหนือกว่าเช่นกัน
![](image/bu.png)
นอกจากนี้ยังดูเป็นหนุ่มขึ้นอีกด้วย อาจเนื่องจากการกินสมุนไพรบำรุง
![](image/bu.png)
ดังนั้นสรุปได้ว่า จิวแป๊ะทงคือคนที่พลังฝีมือสูงที่สุดในเรื่อง
อ้างอิง
4-245 เมื่อสิบกว่าปีก่อน จิวแป๊ะทงก็มีผมเผ้าคิ้วเคราดั่งไหมเงิน มิคาดตอนนี้มิเพียงรูปโฉมไม่แปรเปลี่ยน มิหนำซ้ำผมเผ้า หนวดเครา ขนคิ้ว กลับกึ่งดำกึ่งขาว แสดงว่าเป็นหนุ่มกว่าเดิม
4-247 อยู่ในป่าเขา รับประทานรากไม้ซิ่วอู สมุนไพรฮกเหล็งและนมผุ้งหยก ซึ่งเป็นตัวยาบำรุง ผมเผ้าหนวดเครากลับเปลี่ยนสี
4-258 สี่กระบวนท่าพอพ้นผ่าน หนึ่งชราหนึ่งเยาว์วัยต่างนับถือเลื่อมใสต่อฝ่ายตรงข้าม เอี้ยก้วยครุ่นคิดขึ้น ศัตรูเข้มแข็งที่เคยเจอมานับผู้เฒ่าท่านนี้ตึงมือที่สุด คิดหมายเอาชัยไม่ง่ายดายจริงๆ หากแม้นต้องการพิสูจน์ผลแพ้ชนะ มิอาจไม่หักล้างกำลังภายในกัน เมื่อเป็นเช่นนั้น หากมิใช้ปรากฎเป็นสภาพหนึ่งตกตายหนึ่งบาดเจ็บ ก็อาจตกตายตามกันไปทั้งคู่
4-469 กิมลุ้นก๊กซือ พอกระแทกหมัดออก แฝงพลังนับพันชั่ง มาตรว่าไม่ทรงพลังเท่านาคคชสาร แต่ก็สุดที่เรือนร่างเลือดเนื้อ จะต้านทานได้ มิคาดพอปะทะกับพลังหมัดของจิวแป๊ะทง รู้สึกเว้งว้างว่างเปล่า ไม่อาจใช้กำลังได้
4-470 กิมลุ้นก๊กซือใช้ติดต่อกันหลายกระบวนท่า กลับคล้ายเกาไม่ถูกที่คันของศัตรูคู่ต่อสู้ กิมลุ้นก๊กซือคร่ำเคร่งฝึกปรือเป็นเวลาสิบกว่าปี พอลงมือกลับไม่ประสบผล ย่อมร้อนรุ่มใจยิ่ง
4-565 หากเอ่ยถึงความสูงเยี่ยมของฝีมือ แม้แต่อึ้งเอี๊ยะซือ อิดเต็งไต้ซือสำนึกตัวว่าอ่อนด้อยกว่าจิวแป๊ะทงอยู่สามส่วน
การให้น้ำหนักของข้อมูล มีความสำคัญยิ่ง
สาเหตุอย่างหนึ่งที่คนอ่านเถียงกันไปมาไม่จบทั้งที่ก็อ่านมาจากเรื่องเดียวกัน เป็นเพราะต่างดึงข้อมูลมากันคนละส่วน ในเรื่องนี้มีข้อมูลที่หลากหลายและก็มีหลายส่วนที่ขัดแย้งกัน เมื่อมีความขัดแย้งของข้อมูล สิ่งที่ต้องทำคือรวบรวมข้อมูลมาให้ครบรอบด้านก่อน แล้วค่อยมาวิเคราะห์ให้น้ำหนักกับมัน โดยแนวทางการให้น้ำหนักของข้อมูลตามแบบฉบับของขาพเจ้านั้นเป็นไปตามนี้
สมมุติเรารวบรวมข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับ จอมยุทธแดงและเขียว มาได้แบบนี้
A. ในนิยาย อธิบายเหตุการณ์ จอมยุทธแดงสู้ชนะจอมยุทธเขียว
B. กิมย้ง ได้บรรยายไว้ว่า "จอมยุทธเขียวเก่งกว่าจอมยุทธแดง แต่ที่แพ้เพราะ โน่น นั่น นี่ ...."
C. ยอดฝีมือท่านหนึ่ง ได้กล่าวไว้ว่า จอมยุทธแดงเก่งกว่าจอมยุทธเขียว
D. ยอดฝีมืออีกท่าน คิดในใจว่า จอมยุทธเขียวเก่งกว่าจอมยุทธแดง
E. ชาวยุทธคนนึงกล่าวว่า จอมยุทธแดงกับจอมยุทธเขียว เก่งเท่ากัน
ในข้อมูลทั้ง 5 ข้อนี้มีหลายส่วนที่ขัดกัน จำเป็นจะต้องให้ลำดับความน่าเชื่อถือ
ข้อมูลน่าเชื่อถืออันดับ 1
ข้อมูลที่น่าเชื่อถือที่สุดคือข้อ B นั้นคือการอธิบายจากตัวผู้ประพันธ์ เพราะในความคิดหรือคำพูดของตัวละครอาจเบี่ยงเบนไปด้วยเหตุผลร้อยแปดเช่น อคติ ข้อจำกัดในด้านความรู้ หรือแม้แต่การต่อสู้ที่เกิดขึ้นจริงในเรื่อง ผลของการต่อสู้ก็อาจจะแอบแฝงด้วยอะไรต่างๆมากมาย คำอธิบายจากผู้ประพันธ์จึงเป็นสิ่งที่น่าเชื่อถือมากที่สุด
ตัวอย่างที่ชัดเจนในกรณีแบบนี้ เช่น
- เซียวเหล่งนึง แม้ในการต่อสู้จริงที่เกิดขึ้นในเรื่อง จะเห็นว่าสามารถสู้ชนะการรุมของพวกกิมลุ้นได้ แต่ในความเป็นจริง กิมย้งได้อธิบายไว้อย่าละเอียดว่า ทั้งหมดเป็นผลจากการข่มขวัญ ฝีมือแท้จริงของเซียวเหล่งนึงอยู่แค่ระดับ เซียวเซียงจื่อ เท่านั้น
- หรือกรณี จิวจี้เยียกสามารถเอาชนะเตียบ่อกี้ได้ในการประลองที่เกิดขึ้นจริงในเรื่อง แต่กิมย้งได้อธิบายไว้ว่า ไม่ใช่เพราะจิวจี้เยียกเก่งกว่า แต่เป็นเพราะบ่อกี้ดึงพลังตัวเองกลับมาซัดตัวเองจึงแพ้ไป
ข้อมูลน่าเชื่อถืออันดับ 2
รองลงมากคือข้อมูล A การต่อสู้จริงที่เกิดขึ้นจริงในเรื่อง เพราะต่อให้ยอดฝีมือท่านไหนมาวิเคราะห์ว่าควรจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ แต่เวลาสู้จริงย่อมเห็นผลได้กระจ่างชัดกว่าแค่คำพูดหรือความคิด
ข้อมูลน่าเชื่อถืออันดับ 3
ถึงไม่มีการต่อสู้เกิดขึ้นจริงในเรื่อง แต่การวิเคราะห์จากยอดฝีมือก็เป็นข้อมูลที่มีความสำคัญ ในกรณีที่เป็นข้อมูลจากยอดฝีมือระดับเดียวกันหรือคนเดียวกัน สิ่งที่อยู่ในความคิดจะน่าเชื่อถือมากกว่าคำพูด เพราะคำพูดที่เอ่ยออกไปอาจเพื่อผลอะไรซักอย่าง เช่น พูดไปตามมารยาท พูดให้เข้าใจผิด พูดเพื่อผลประโยชน์ด้านอื่น ฯลฯ แต่สิ่งที่อยู่ในความคิดคือสิ่งที่เขาคิดจริงๆ ดังนั้น ข้อ D น่าชื่อถือว่าข้อที่เหลือ
ข้อมูลน่าเชื่อถืออันดับ 4
ในหลายๆครั้งกิมย้งใช้คำพูดหรือความคิดของตัวละครในเรื่องเปรียบเทียบความสามารถของแต่ละคน โดยไม่ต้องให้ตัวละครมาต่อสู้กันจริง ซึ่ง คำพูดของยอดฝีมือในการวิเคราะห์ระดับฝีมือย่อมมีความน่าเชื่อถือมากกว่าจอมยุทธทั่วไป ดังนั้นข้อมูล C จึงน่าเชื่อถือกว่าข้อมูล E
ตัวอย่างในกรณีนี้ เช่น
- เอี้ยก้วยกับก๊วยเจ๋งไม่ได้ประลองกันในตอนท้ายเรื่อง แต่กิมย้งเลือกที่จะบอกผ่านจากปากตัวละคร อึ้งเอี๊ยะซือ เพื่อบอกให้คนอ่านรู้ว่า เอี้ยก้วยกับ ก๊วยเจ๋งฝีมือพอๆกัน ซึ่งยอดฝีมือระดับ อึ้งเอี๊ยะซือ มีความน่าเชื่อถือพอที่จะพูดประโยคนี้ได้
ข้อมูลน่าเชื่อถืออันดับ 5
คำพูดหรือความคิดของชายยุทธิ์ทั่วไปที่ยังไม่เก่งนัก ก็ถือเป็นข้อมูลหนึ่ง แต่ความน่าเชื่อถือสู้อันอื่นไม่ได้
ระยะเวลาและการพัฒนาฝีมือเป็นเรื่องที่หลายคนมองข้าม
อีกประเด็นที่ทำให้การโต้แย้งกันในเว็บบอร์ดไม่จบซะทีทั้งที่ต่างคนก็มีข้อมูลยกขึ้นมาอ้างอิง แต่เป็นเพราะหลายคนลืมว่าตัวละครไม่ได้ฝีมือเท่าเดิมตลอดเวลา แทบทุกตัวละครเมื่อเวลาผ่านไปก็จะพัฒนาขึ้น มากน้อยต่างกันไป ถ้าหยิบตัวละครคนละช่วงเวลามาเปรียบกัยย่อมจะเกิดความผิดพลาด
ตัวอย่างที่ชัดเจน เช่น เฮ้งเต่งเอี๊ยง
หลายคนจดจำว่า เฮ้งเต่งเอี๊ยง ชนะการประลอง 5 จอมยุทธ ถือว่าเก่งสุดในยุทภพ แต่หลายคนลืมนึกไปว่า เฮ้งเต่งเอี๊ยง เสียชีวิตไปตั้งแต่ ก๊วยเจ๋งยังไม่เกิดด้วยซ้ำ กว่าเรื่องราวจะไปถึงจบภาค 2 พลังฝีมือของเหล่าจอมยุทธพัฒนาไปไกลแสนไกลแล้ว สมัยที่ประลองรอบแรกนั้น อังฉิกกงยังไม่สำเร็จวิชาฝ่ามือพิชิตมังกรเลย ในตอนที่อังฉิกกงเจอก๊วยเจ๋งครั้งแรกๆยังบอกเลยว่าถ้าเป็นตอนนี้ไปเจอก็ไม่กลัวแล้ว เพราะอั้งฉิกกงพัฒนาฝีมือมาแล้ว แต่ เฮ้งเต่งเอี๊ยง นั้นชิงตายไปเสียก่อน ซึ่งหลังจากนั้น อั้งฉิกกง ยังพัฒนาไปอีกด้วยเก้าอิม พอขึ้นภาค 2 ก็ยิ่งพัฒนาขึ้นไปอีกจนเทียบเท่าอาวเอี้ยงฮงเวอร์ชั่นธาตุไฟเข้าแทรก แต่ทั้ง อั้งฉิกกงและอาวเอี้ยงฮง ก็ชิงตายไปเสียตอนนั้น หลังจากนั้นยอดฝีมือระดับเดียวกันก็ยังพัฒนาฝีมือไปอีก กว่าจะผ่านช่วง 16 ปี พลังฝีมือของแต่ละคนไปไกลมากแล้ว แต่คนอ่านหลายคนก็ยังยึดติดและจดจำว่า เฮ้งเต่งเอี๊ยง เก่งสุดใน 5 ยอดฝีมือ ซึ่งกรณีแบบนี้มีอีกหลายคนมากๆ
หากต้องการนำข้อมูลออกไป กรุณาให้เครดิตและทำ link กลับมาที่เว็บนี้ด้วยครับ ขอบคุณครับ
https://www.yodyut.com/27/ระดับวรยุทธของ-ตัวละครตั้งแต่ภาคแรกจนจบภาค-2