เข้าระบบอัตโนมัติ

เอี้ยก้วย วีรบุรุษจ้าวอินทรี

เอี้ยก้วย
           เอี้ยก้วยเป็นบุตรชายของ เอี้ยคัง กับ มกเนี่ยมชื้อ ซึ่งเอี้ยคังถือเป็นตัวร้ายจากมังกรหยกในภาคก่อน กิมย้งได้นำทายาทของเขามาเป็นตัวหลักในการดำเนินเรื่องในภาคนี้ เอี้ยก้วยเกิดมาโดยไม่เคยได้พบเห็นหน้าบิดาของตนเอง เมื่อครั้งนั้น มกเนี่ยมชื้อ เสียความบริสุทธิให้แกเอี้ยคังบนยอดเขามือเหล็ก แล้วในที่สุดก็ได้ตั้งท้อง แต่เอี้ยคังก็มาเสียชีวิตซะก่อนที่เด็กจะเกิด มีหลายครั้งที่เอี้ยก้วยพยายามถามมารดาเกี่ยวกับเรื่องราวขอบบิดาของเขา แต่ มกเนี่ยมชื้อ ไม่เคยตอบได้แต่ร้องให้ เอี้ยก้วยวาดฝันว่าบิดาของเขาต้องเป็นยอดวีรบุรุษ แล้วอาจจะถูกลอบทำร้ายถึงแก่ชีวิตทำให้มารดาต้องอยู่เลี้ยงลูกเพียงลำพัง และต่อมา มกเนี่ยมชื้อ ก็เสียชีวิต หลังจากนั้น เอี้ยก้วยเหลือตัวคนเดียวต้องท่องโลกอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้เพียงลำพัง ชีวิตลุ่มๆ ดอนๆ เป็นชีวิตที่ต้องดิ้นรนต่อสู้เพื่อความ อยู่รอด ชีวิตวัยเยาว์อาภัพ รู้สึกตัวเองต้อยต่ำ บางที่ก็ถูกผู้คนเหยียดหยามรุมรังแก ส่งผลให้เขารังเกียจโกรธแค้นผู้คน แต่ด้วยความเฉลียวฉลาดของเขาทำให้สามารถเอาตัวรอดมาได้
           เอี้ยก้วยได้มาพบกับก๊วยเจ๋งและอึ้งย้ง ในช่วงอายุ สิบสามสิบสี่ปี ในตอนนั้น ก๊วยเจ๋งกับอึ้งย้ง สองสามีภรรยา เดินทางตามหาข่าวคราวของอึ้งเอี๊ยซือ และบังเอิญได้มาพบเอี้ยก้วย ซึ่งมีหน้าตาคล้ายกับเอี้ยคังอย่างมาก อึ้งย้งจึงได้ทำการทดสอบจนทราบว่าเป็นบุตรของเอี้ยคัง ก๊วยเจ๋งที่รู้สึกเสียใจต่อน้องร่วมสาบานมาตลอด พอพบเห็นเอี้ยก้วยก็ยินดียิ่งจึงรับไว้เลี้ยงดู ภายหลังได้ถูกส่งไปยังสำนักชวนจินก่าเพื่อฝึกวิชา แต่ก็ถูกกลั่นแกล้ง บัญเอิญได้มาพบยายซุนซึ่งเป็นคนจากสำนักสุสานโบราณ ด้วยนิสัยช่างเจรจาของเอี้ยก้วย ได้บอกเล่าเรื่องราวต่างๆในชีวิต แต่งเติมสีสันมากมายจนทำให้ยายซุนคล้อยตามและรู้สึกเวทนาในวิถีชีวิตของเด็กน้อยคนนี้ จึงขอร้องให้สาวน้อยเจ้าของสุสานโบราณคนปัจจุบัน เซียวเหล่งนึ่ง รับเอี้ยก้วยไว้เป็นศิษย์ ซึ่งน่าจะถือเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องอย่างแท้จริง
บุคลิกและนิสัยของเอี้ยก้วย

           เมื่อโตขึ้นมา เอี้ยก้วยมีใบหน้าที่หล่อเหลา บุคลิกเป็นคนสนุกสนาน พูดจาเก่ง มีนิสัยคึกคะนองชอบกระโดดโลดเต้น ชอบท่องเที่ยว นิสัยของเอี้ยก้วยนั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสีย เขาเป็นคนที่มีความเฉลียวฉลาด มีความมั่นใจในตัวเองสูง กล้าคิดกล้าทำไม่เกรงกลัวผู้ใด เรียนรู้ได้ไว มีความจำที่ดี และมีไหวพริบเป็นเลิศ ถ้าพูดถึงความเจ้าเล่ห์เพทุบาย เอี้ยก้วยจะเป็นรองก็เพียงอึ้งย้งคนเดียวเท่านั้น แต่ด้วยช่วงชีวิตในวัยเยาว์ถูกผู้คนเหยียดหยามรังแก ทำให้เมื่อโตขึ้น ออกจะมีนิสัยมองโลกในแง่ร้ายไปบ้าง บางทีก็ดูเหมือนจะต่อต้านสังคม กลายเป็นคนที่ไม่ค่อยสนใจขนบธรรมเนียมประเพณี อยากทำอะไรก็ทำ ไม่สนใจใคร บางที่ก็ดูเจ้าอารมณ์ มีอารมณ์ค่อนข้างแปรปรวนจนแม้ตัวเองก็ยังไม่เข้าใจ แต่ภายในจิตใจลึกๆนั้น เอี้ยก้วยเป็นคนดีมีน้ำใจ เปี่ยมไปด้วยคุณธรรม มีหลายๆครั้งที่ลงมือช่วยเหลือคนโดยไม่หวังผลตอบแทน

           แต่เอี้ยก้วยยังคงไม่เข้าใจนิสัยของตัวเองบางครั้งก็รู้สึกแปลกใจ ได้แต่ครุ่นคิดว่า 'ตัวเรานั้น ประสบเคราะห์กรรมถูกผู้คนข่มเหงรักแกตั้วแต่เล็ก แต่ในโลกก็ยังมีผู้ที่จริงใจต่อเราไม่น้อย เซียวเหล่งนึ่งไม่ต้องพูดถึง ยังมี ยายซุน ท่านผู้อวุโสอั้งชิกกง พ่อบุญธรรมอาวเอี้ยงฮง อึ้งเอี๊ยะซือ รวมทั้ง เทียเอ็ง เล็กบ่อซัง ตลอดจนกงซุนเล็กงัก ล้วนแต่จริงใจต่อเรา ชะตาวันเกิดของเราคงแปลกพิศดาร ไม่เช่นนั้นผู้ที่ดีต่อเราไฉนดีถึงเพียงนี้ คนที่ร้ายต่อเราเหตุใดถึงรายปานนี้ '

           ซึ่งในความจริงๆแล้วชะตาของเขาที่แปลกพิศดาร บุคคลที่พบพานหากมิใช่ดีต่อเขาถึงที่สุด ก็ต้องร้ายถึงที่สุด ล้วนสืบเนื่องจากนิสัยของตัวเขาเอง เอี้ยก้วยมีนิสัยพิกลผิดธรรมดา หากใครตีแผ่หัวใจเข้าคบหา เอี้ยก้วยก็จะปฏิบัติต่อคนนั้นอย่างจริงใจ หากแม้นสนทนาไม่ลงรอย ก็ยึดถือเป็นศัตรู เมื่อเอี้ยก้วยแสดงต่อผู้อื่นเช่นนี้ ผู้อื่นย่อมตอบแทนดุจเดียวกัน

ความรักคงมั่นสะท้านภพ

           ในด้านความรักนั้น เอี้ยก้วยถูกยกย่องให้เป็นบุรุษที่มีจิตใจมั่นคง รักมั่นต่อเซียวเหล่งนึ่งคนเดียว ตลอดทั้งเรื่องเอี้ยก้วยได้พานพบกับสตรีที่งดงามมากมาย แต่ละคนล้วนมีเสนห์แตกต่างกันไป บ้างก็เป็นสาวเรียบร้อยน่าทะนุถนอม บ้างก็เป็นสาวซนแก่นแก้ว บ้างก็แสนดี บ้างก็สง่าน่าเลื่อมใส และด้วยนิสัยของเอี้ยก้วยนั้น เป็นนิสัยในแบบที่ทำให้สตรีหลงใหลได้ นอกจากจะมีหน้าตาที่หล่อเหลาคมคายแล้ว สิ่งที่พิเศษสุดคือมีวาจาเป็นเอก เป็นคนที่คารมดี ทำให้ผู้หญิงยิ้มได้ อันเป็นคุณสมบัติสำคัญของผู้ชายเจ้าเสนห์ มีคนเคยกล่าวไว้ว่า เมื่อได้ที่คุณทำให้ผู้หญิงยิ้มหรือหัวเราะได้อย่างมีความสุข เท่ากับคุณได้หัวใจนางไปครึ่งนึงแล้ว เอี้ยก้วยได้ใจสาวๆมากมาย โดยไม่ต้องใช้ความพยายามอันใด เพียงใช้ชีวิตไปตามรูปแบบความเคยชินของตัวเอง ก็มีสาวมาตกหลุมรักยอมมอบกายถวายชีวิตให้ได้ เอี้ยก้วยอาจจะติดนิสัยชอบพูดจาเย้าแหย่หญิงสาวจนเคยชิน แต่ก็มิใช่ด้วยจิตคิดอกุศล เป็นเพียงความคะนองในวันหนุ่ม แต่ในใจจริงๆของเขานั้น มีเพียงเซียงเหล่งนึ่งเป็นหนึ่งในดวงใจ ความรักที่เขามีต่อเซียวเหล่งนึ่งก็ไม่เคยถูกบั่นทอนลงเลยแม้แต่น้อย กลับยิ่งเพิ่มพูนขึ้นทุกวันๆ

           ในตอนที่เซียวเหล่งนึ่งกระโดดลงหน้าผาไปและจารึกข้อความทิ้งไว้ให้เอี้ยก้วยรอคอย เซียวเหล่งนึ่งทำเช่นนั้นเพียงเพราะหวังให้ชายซึ่งเป็นที่รัก จะยังคงรักษาชีวิตต่อไปไม่คิดกระโดดตามลงมา เมื่อเวลาผ่านพ้นไปความคะนึงหาที่มีอยู่ย่อมถูกบั่นทอนลงไปบ้าง แต่ในความเป็นจริงหาเป็นเช่นนั้นไม่ แม้จะมีหญิงงามมากมายให้เลือก แม้เวลาจะผ่านไปเนิ่นนาน แม้จะไม่รู้ว่าการรอคอยนี้จะสูญเปล่าหรือไม่ แต่เอี้ยก้วยก็ยังคงมีรักมั่นคง เฝ้ารอคอยอยู่เนิ่นนาน ผ่านวันเวลาอันปวดร้าวด้วยพิษแห่งความคิดถึงคะนึงหา จวบจนเวลาผ่านพ้นมาถึงเวลาที่กำหนด เมื่อไม่พานพบหญิงซึ่งเป็นที่รัก เอี้ยก้วยก็ยังคงตัดสินใจกระโดดตามลงไปอยู่ดี ไม่ต่างจากเมื่อสิบหกปีก่อน

วรยุทธของเอี้ยก้วย

           ในด้านวรยุทธ เอี้ยก้วยเป็นตัวละครที่ได้เรียนรู้วิชาหลากหลายแขนง จากเหล่ายอดฝีมือแห่งยุคนั้นแทบครบทุกคน ตั้งแต่วิชาในสำนักสุสานโบราณของ ลิ้มเฉียวเอ็ง มายังวิชาสำนักชวนจินก่าของ เฮ้งเต้งเอี้ยง รวมถึงวิชาในคัมภีร์ที่เคยสั่นคลอนยุทธพบคือวิชาในคัมภีร์เก้าอิม ยังได้เรียนวิชากับเหล่ายอดฝีมือแห่งยุค ทั้ง อาวเอี้ยงฮง อั่งชิกกง และ อึ้งเอี๊ยะซือ และสุดท้ายยังได้วิชาของยอดคนในอดีต ต๊กโกคิ้วป้าย ทำให้เขาขึ้นเป็นยอดฝีมือเทียบเคียงกับยอดคนในยุคนั้นได้ตั้งแต่อายุยังน้อย ถือได้ว่าในอายุเดียวกัน ไม่มีใครเก่งเทียบเทียมเขาได้ แล้วเนื่องจากเอี้ยก้วยมีความเฉลียวฉลาด มีวิชาติดตัวมากมาย กับประสบการณ์ต่อสูอีกหลายครั้ง ทำให้สามารถคิดค้นบัญญัตวิชาขึ้นเองได้ ซึ่งนับเป็นความโดดเด่นต่างจากพระเอกคนอื่นในนิยายกิมย้ง

ก้าวสู้ความเป็น วีรบุรุษจ้าวอินทรี

           ภายหลัง ในช่วงเวลาที่รอเซียวเหล่งนึ่ง เอี้ยก้วยได้เดินทางท่องยุทธจักรไปกับพี่อินทรี ด้วยวรยุทธที่สูงส่งได้ประกอบวีรกรรมช่วยเหลือคนมากมาย ผู้คนที่ได้รับความช่วยเหลือต่างสำนึกในบุญคุณ เห็นว่าเอี้ยก้วยมักอยู่กับอินทรีเสมอ จึงเรียกว่าวีรบุรุษจ้าวอินทรี แต่ว่าเอี้ยก้วยหลังจากที่มีอายุมากขึ้น ความโออ้วดถือดีแบบเมื่อสมัยเยาว์วัยนั้นลดทอนลงไปมาก มีความถ่อมตัว คิดว่าตัวเองไม่ใช่วีรบุรุษอันใด จึงให้ผู้คนเรียกว่าเป็น ชาวยุทธจ้าวอินทรี แทน
เอี้ยก้วย เวอร์ชั้น หลิวเต๋อหัว

           หลิวเต๋อหัว เป็นดาราฮ่องกงที่คนไทยรู้จักดี เขาเป็นดาราที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งของเอเชีย ถ้าถามว่าจุดเริ่มของการก้าวสู้ความเป็นซุปเปอร์สตาร์ของเขาคนนี้เริ่มมาจากที่ใด นั้นก็ต้องตอบได้เลยว่าส่วนหนึ่งมาจากการได้รับบทเป็นเอี้ยก้วย ในมังกรหยกภาค 2 เวอร์ชั่นปี 1983 ซึ่งเวอร์ชั้นนี้เป็นหนังจีนชุดที่ได้รับนิยมอย่างสูงมาก จนหลายๆคนยกให้เป็นสุดยอดหนังจีนชุดตลอดกาล ด้วยฝีมือทางการแสดงที่ดีเยี่ยม หน้าตาที่หล่อเหลา เหมาะกับบท ส่งให้เขาโด่งดังเป็นพลุแตก และมีงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นดาวค้างฟ้า อยู่ในใจผู้คนตั้งแต่อดีตจวบจนมาถึงปัจจุบัน หลายๆสิ่งหลายๆอย่างที่ภาคนี้ทำไว้ถูกใช้เป็นต้นแบบให้กับภาคต่อๆไป
เอี้ยก้วย เวอร์ชั้น กูเทียนเล่อ

           กูเทียนเล่อ เป็นเอี้ยก้วยที่หลายๆคนให้ความเห็นว่าเป็นเอี้ยก้วยที่หล่อที่สุด หน้าตาของกูเทียนเล่อนั้นหล่อเหลาตรงตามบทประพันธ์ของท่านกิมย้ง บทของเอี้ยก้วยนั้นเป็นคนที่หล่อมีเสนห์ทำให้ผู้หญิงหลงใหลได้ มีนิสัยขี้เล่น มีความกะล่อน ชอบพูดจาหยอกเย้าสาวๆ เฉลียวฉลาด เจ้าเล่ห์เพทุบาย แต่ในบางทีก็จะดูเก็บกดหน่อยๆ อารมณ์รุนแรงในบางเวลา ซึ่งกูเทียนเล่อถ่ายทอดนิสัยเหล่านี้ออกมาได้อย่างเหมาะสม สิ่งที่โดดเด่นที่สุดนอกจากความหล่อกระชากใจสาวแล้ว คือบทบาทที่ตั้งใจทำออกมาให้เน้นที่ความซาบซึ้งในความรักของเซียวเหล่งนึ่งกับเอี้ยก้วย ซึ่งกูเทียนสามารถแสดงได้ลงตัวกับหลี่ยั่วถงมาก เป็นคู่ที่น่ารักและเหมาะสม และด้วยบทที่ซาบซึ่ง กับการแสดงที่ลงตัวนี้ ส่งให้ทั้งคู่เป็นที่ชื่นชอบ และเป็นเวอร์ชั่นที่ตราตรึงใจคนดูมาตั้งแต่เมื่อสิบปีก่อนจนมาถึงปัจจุบัน หลายๆคนก็ยังพูดถึงอยู่ หลังจากแสดงเรื่องนี้แล้วกูเทียนเล่อก็ยังคงมีงานเข้ามาอีกมากมาย กลายเป็นดาราแถวหน้าอีกคน ตามรอย หลิวเต๋อหัว เอี้ยก้วยคนก่อน
เอี้ยก้วย เวอร์ชั้น หวงเสี่ยวหมิง

           หวงเสี่ยวหมิง ต้องรับงานหนักเมื่อมาแสดงเป็นเอี้ยก้วยในเวอร์ชั่นล่าสุดนี้ ซึ่งเป็นเวอร์ชั้นที่มีคนจับตามองกันมาก ที่ต้องรับงานหนักเป็นเพราะเอี้ยก้วยในเวอรชั้นก่อนทั้งของ หลิวเต๋อหัว และ กูเทียนเล่อ ต่างก็ทำมาตรฐานไว้สูงลิบ ทั้งสองคนต่างก็โด่งดังมากจากเรื่องนี้ แล้วล้วนแต่กลายเป็นดาวค้างฟ้า มีแฟนคลับอยู่ทั่วเอเชีย แน่นอนว่าการมารับบทเอี้ยก้วยของหวงเสี่ยวหมิงย่อมต้องได้รับแรงกดดันมหาศาล ทั้งหลิวเต๋อหัว และ กู่เทียนเล่อ นั้นต่างก็มีดี เป็นเอี้ยก้วยที่เหมาะสมในยุคสมัยของตัวเอง มาถึงยุคปัจจุบันเป็นโอกาสของ หวงเสี่ยวหมิงบ้างที่จะสร้างชื่อ และดันตัวเองให้กลายเป็นอีกหนึ่งในดาราชั้นแนวหน้าของเอเชีย โดยก่อนที่จะได้รับเลือก หวงเสี่ยวหมิง ต้องเข้าชิงบทเอี้ยก้วยกับอีกหลายคน ได้แก่ เนี่ยหย่วน, หลิวเสียง นักกีฬาเหรียญทองโอลิมปิกประเภทวิ่งข้ามรั้ว 110 เมตร, ฮั่วเจี้ยนหัว ดาราวัยรุ่นจากเกาะไต้หวัน, และเซี่ยะถิงฟง ดารานักร้องจากฮ่องกง แต่ในที่สุด หวงเสี่ยวหมิง ก็ได้รับเลือก สำหรับเอี้ยก้วยภาคนี้หลายคนให้ความเห็นว่า หวงเสี่ยวหมิง ดูแก่ไป โดยเฉพาะช่วงแรกที่ต้องทำตัวเหมือนเด็ก ดูขัดต่อบุคลิก และยังแสดงคู่กับหลิวอี้เฟยที่หน้าดูเด็กยิ่งเห็นความแตกต่าง ในขณะที่อีกหลายคนบอกว่า หน้าตาหล่อเหลาดี บางส่วนดูคล้ายกู่เทียนเล่อ โดยส่วนตัวเห็นว่า หวงเสี่ยวหมิง ก็แสดงได้ดี ไม่ได้แย่อะไร เวลาเท่ก็เท่ได้ เวลาจะกะล่อนก็ทำได้เช่นกัน

หากต้องการนำข้อมูลออกไป กรุณาให้เครดิตและทำ link กลับมาที่เว็บนี้ด้วยครับ ขอบคุณครับ
https://www.yodyut.com/10/เอี้ยก้วย-จ้าวอินทรี


บทความที่เกี่ยวข้อง
กระทู้ที่เกี่ยวข้อง