เข้าระบบอัตโนมัติ

อยากรู้จักถ้า 18ฝ่ามือพิชิตมังกรของเฉียวฟงขั้้นสูงสุด กับ ดรรชนีกระบี่6ชีพพะจรชั้นสูงสุด สู้กันแร้วไครจะชนะ


  • 1
พญามังกรเสื้อม่วง
#1   พญามังกรเสื้อม่วง    [ 28-05-2017 - 00:23:53 ]    IP: 49.230.229.160

ช่วยชี้แนะด้วย



กระบี่ไร้คม
#2   กระบี่ไร้คม    [ 03-06-2017 - 11:55:38 ]    IP: 182.232.229.95

ข้าพเจ้าว่าน่าจะเป็นดรรชนีขอรับเพราะวิชาดรรชนีเนี่คนฝึกต้องมีกำลังภายในสุงมากทำใก้ฝีมือน่าจะสุงด้วยครับ



18 ฝ่ามือพิชิตมังกร
#3   18 ฝ่ามือพิชิตมังกร    [ 05-06-2017 - 23:17:47 ]

ว่าด้วย 2 วิชานี่ วิชากระบี่ 6 ชีพจร เป็นวิชาที่มีความรุนแรงอยุในตัวอยุแล้ว ขนาดต้วนอี้ ที่แทบจะไม่รู้วรยุทธเลย เพียงแค่ได้รู้วิชานี้ก็สามารถต่อสู้กับยอดฝีมือในยุทธภพได้แล้ว
ส่วน 18 ฝ่ามือพิชิตมังกร นั้นวิชานี้ไม่ได้พลิกแพลงอะไร เป็นวิชาสายตรง แข็งกร้าว วิชานี้ต้องขึ้นอยู่กับผู้ที่ฝึกด้วย อย่างที่เห็นในนิยาย นั้น ผู้ที่บรรลุวิชานี้ มีไม่กี่คนเท่านั้น เช่น เฉียวฟง ก้วยเจ๋ง
แต่อย่างว่า 2 วิชานี้ไม่เคยได้ปะทะกันมาก่อน แต่จากคำพูดของ เฉียวฟงตอนหนึ่งที่ได้เห็น ต้วนอี้สู้กับ มู่หยงฟู่ แล้วใช้กระบี่ 6 ชีพจร เฉียวฟงเองถึงกล่าวว่า ถ้าเป็นตัวเขาในตอนนี้ก็คงจะรับ กระบี่ 6 ชีพจรไม่อยู่เป็นแน่แท้

จากคำกล่าวตรงนี้ ก็อาจจะวัดได้ว่า กระบี่ 6 ชีพจรนั้นอาจจะเหนือกว่า ฝ่ามือพิชิตมังกร



Shine
#4   Shine    [ 10-08-2017 - 10:56:00 ]

ต่อสู้ระยะสั้น หกดัชนีจะชนะ
ระยะยาว ฝ่ามือพิชิตมังกรชนะ


ที่หกดัชนีร้ายกาจ เพราะไม่มีใครรู้จักมัน ไม่มีใครรู้ทาง เป็นความลับเฉพาะตระกูล
แต่ถ้าใช้มากๆ คนเริ่มรู้ทาง ก็จะจับทางได้ มีทางแก้ได้ ยิ่งเฉียวฟงเป็นคนอดทนที่
ต่อสู้ได้นานๆ พอเริ่มบาดเจ็บมากๆ ก็ไม่ล้มไปง่ายๆ ก็จะเริ่มรู้ทางวิชาหกดัชนีได้ละ
ดังนั้น ถ้าต่อสู้ระยะยาวนาน หกดัชนีก็จะไม่ยากเกินรับมือ บวกกับผู้ใช้ก็หมดพลัง
ไปไม่น้อย ดังนั้น จะใช้หกดัชนี ก็ควรใช้แต่น้อยหรือพิชิตชัยให้รวดเร็วไม่งั้นแพ้นะ



เซราฟ
#5   เซราฟ    [ 23-01-2021 - 20:28:58 ]    IP: 1.47.44.35

ดรรชนีกระบี่หกชีพจร เป็นวิชาที่โกงมากๆ เพราะหลักการ ก็คือ ขั้นไร้กระบี่ของอสูรต๊กโกว ซึ่งต้องมีกำลังภายในสูงล้ำ ซึ่งในกรณีของขั้นไร้กระบี่ของอสูรต๊กโกว กว่าจะมาถึงขั้นไร้กระบี่ ด้านกระบวนท่าจะเข้าขั้นสุดยอด ตั้งแต่ขั้นกระบี่หนัก ยังบรรลุด้านกระบวนท่าขั้นสูงไปอีกในขั้นกระบี่ไม้ กว่าจะมาถึงขั้นไร้กระบี่ ซึ่งลมปราณแทนอาวุธ(แทนกระบี่เหล็กดำเลยนะครับ) ด้านกระบวนท่าก็สุดยอด จนการันตีว่าไม่แพ้ หรือไร้พ่ายเลย จากนั่น ขั้นไร้กระบี่เป็นการฝึกปรือการใช้กำลังภายในล้วนๆ

แต่ดรรชนีกระบี่หกชีพจร ไม่มีวิชาหรือแนวทางเพิ่มพูนกำลังภายในแบบอสูรต๊กโกว แต่เพราะคนยุคก่อนสามารถบรรลุมีกำลังภายในสูงล้ำได้ จึงสามารถใช้ดรรชนีกระบี่หกชีพจรได้ ท่านกิมย้งไม่ได้บรรยายมากกว่านี้ สรุปตามตำนานของจีนก็คือ คนยุคก่อนจะอายุยืนยาว อยู่กับธรรมชาติมาก จนได้ปราณที่มากมาย ซึ่งความคิดนี้สะท้อนมาเป็นเรื่องของอสูรต๊กโกว ซึ่งเอี้ยก้วยซึ่งได้ดีงูวิเศษช่วย แต่ไม่ได้ยอกว่าต๊กโกวใช้ดีงูวิเศษช่วยหรือไม่ ฝึกฝนกับธรรมชาติแบบที่เดาว่าต๊กโกวฝึกฝน จนมีลมปราณใกล้เคียงต๊กโกววัยชราในขณะที่เอี่ยก้วยอายุ 30-36 ปี ซึ่งคาดเดาว่า ตอนชราต๊กโกวควรมีกำลังภายในมากกว่าเอี้ยก้วย หรือพวกจิวแป๊ะทงมากๆ

ต้วนอื้อได้วิชาลมปราณขั่นเทพ ลมปราณภูตอุดร วิชาที่ต้วนอื้อชำนาญสุดจนกล่าวยกย่อง คือ ท่าเท้าท่องคลื่น ก็เป็นการโคจรปราณอย่างหนึ่ง ดังนั้น จะว่าต้วนอื้อไม่ฝึกฝนกำลังภายในไม่ได้ แต่ที่โกง คือ ดูดคนอื่นนั้นแหละ ทำให้ลมปราณเกินคนอายุ 100 ปีไปเลย พอลมปราณมาก ก็เข้าตำราต๊กโกว คือ เข้าขั้นไร้กระบี่ แต่ต้วนอื้อไม่ต้องคิดการใช้กำลังภายในที่มากมายให้เสียเวลาแบบเอี้ยก้วย แต่ได้เรียนวิชาดรรชนีหกชีพจรแบบผิวเผิน แต่แค่นั้นกระบวนท่าวิชานี้ มันก็สุดล้ำเพราะเป็นวิชาใช้ปราณระดับสูง อยู่แล้ว

สรุป ต้วนอื้อ จนจบก็ไม่ได้ใส่ใจฝึก แต่ด้านกระบวนท่าถือว่าเข้าขั่นสุดยอดโดยปริยาย แต่ว่าความเข้าใจด้านกระบวนท่าของต้วนอื้อ เท่ากับไม่มีครับ

ต่างจากเฉียวฟง ด้านกระบวนท่าถือว่า เข้าขั้นสุดยอดไปแล้ว แต่ว่าอ่อนด้านกำลังภายใน คือ มีกำลังฝึกปรือแค่20-30ปี เท่านั้น ห่างจากต้วนอื้อหลายขุม แต่ว่าวิชาฝ่ามือพิชิตมังกรมีความพิเศษครับ เป็นวิชาที่ จิต ชี่ กระบวนท่าร่างกาย ก่อเกิดพลังที่รุนแรงที่สุดในวิชาบู้ทั้งปวง เป็นรองฝ่ามือกำสรดวิญญาณสลายเพียงครึ่งขั้น ดังนั้น มันการันตีพลังโจมตีทางกายภาพที่รุนแรงที่สุดในวิชาบู้ทั้งปวง ดังนั้น ต่อให้ดรรชนีกระบี่หกชีพจรมีพลังปราณสูง แต่พลังทำลายมาจากปราณล้วนๆ เท่ากับไม่สามารถนำน้ำหนักของร่างกายหรืออาวุธมาคำนวณได้ แถมการใช้ปราณก็ไม่ได้เป็นแบบต๊กโกว ที่ใช้ปราณเข้ากับวัตถุ ร่างกาย กระบวรท่าเพื่อเสริมอานุภาพจนพลังทำลายเท่ากับหรือมากกว่ากระบี่เหล็กดำที่หนัก 32กิโลกรัม สรุปว่า ดรรขนีกระบี่หกชีพจรถึงรุนแรง แต่พลังทำลายไม่เท่าฝ่ามือพิชิตมังกร กับฝ่ามือกำสรด ที่ใช้ปราณสะสมน้อยกว่าก็ได้เพราะมีกระบวนท่าเข้ามามีส่วนในการสร้างพลังทำลาย

สรุป ถ้าเทียบตัวคน ต้วนอื้อ ไม่มีทางชนะเฉียวฟง หรือเอี้ยก้วย เพราะความเข้าใจด้านกระบวนท่า ต้วนอื้อไม่มี แถมพลังทำลายของวิชาฝ่ามือพิชิตมังกร กับฝ่ามือกำสรด สูงกว่า ต้วนอื้อ มีเพียงท่าเท้าท่องคลื่นเท่านั่นที่พิศดารแล้วได้เปรียบ เพราะคนที่บรรลุด้านกระบวนท่าขั้นสุดยอดก็ตาม ยังต้องใช้ตามองและคาดการณ์ซึ่งวิชาท่าเท้าท่องคลื่น มันเป็นวิชาโกง แต่ต้วนอื้อต้องหลับตาใข้ หรือไม่ใส่ใจกระบวนท่าฝ่ายตรงข้าม ดังนั้น เป็นวิชาท่าเท้าที่น่ากลัว สมกับที่ตอนท้ายท่านกิมย้ง ยกว่าต้วนอื้อเก่งวิชานี้ แต่ดรรชนีกระบี่หกขีพจร ที่ยากคาดเดา ก็ไม่ถึงกับขัดหลักการ คนที่บรรลุสุดยอดด้านกระบวนท่าจะอย่างไร ย่อมคาดเดาและป้องกันการโจมตีได้อยู่แล้ว ท่าเท้าท่องคลื่นไม่ใช่วิชาโจมตี ดังนั้น เพียงไม่สนใจ จับจังหวะแค่กระบี่ลมปราณที่เข้ามา เฉียวฟง (หรือระดับเดียวกับเอี้ยก้วย) สามารถสัมผัสปราณได้อยู่แล้ว แถมการที่เก่งด้านกระบวนท่า ก็แค่หลบกระบี่ ซึ่งกระบี่ของต้วนอื้อ เมื่อไม่เก่งด้านกระบวนท่า กระบี่ลมปราณแทบไม่เคยยิงใส่จุดตายเลย ดังนั้น เฉียวฟงตบต้วนอื้อสบาย

เว้นแต่ ต้วนอื้อใช่ท่าเท้าหนี ก็ถือว่าแพ้แล้ว

สรุป วิชาดรรชนีกระบี่หกชีพจร กับฝ่ามือพิชิตมังกร ก็มีจุดเด่น จุดดีของตนเอง ด้านกระบวนท่าวิชาดรรชนีกระหกขีพจร ถือว่ามีกระบวนท่าสุดยอดในตัววิชาอยู่แล้ว แต่ยังไม่ถือว่าเป็นความบรรลุด้านกระบวนท่าขั้นสูงหรือขั้นสุดยอดแต่อย่างใด ส่วนฝ่ามือพิชิตมังกร กระบวนท่า มีความรุนแรงที่เปล่งออกมาสูงกว่า รวบรัดกว่า

สุดท้ายอยู่ที่ผู้ใช้ ใครบรรลุด้านกระบวนท่ามากกว่ากัน ก็ชนะไปครับ

ส่วนตัว เฉียวฟงชนะต้วนอื้อแน่นอนครับ เพราะต้วนอื้อไม่ได้ต้องการฆ่าใคร จึงไม่ได้ฝึกฝน ด้านการบรรลุวิชายุทธ์ด้านกระบวนท่าต้องถือว่า ไม่มีเลย ต่อให้ต้วนอื้อจะใช้ ก็ไม่มีทางบรรลุได้ เพราะใจไม่รัก (จิวแป๊ะทง ถูกยกให้เป็นหนึ่งเหนือกว่าเอี้ยก้วย ทั้งที่จิวแป๊ะทงยกย่องเอี้ยก้วย ก็เพราะทุกคนเห็นว่า จิวแป๊ะทงมีใจรักในการเรียนรู้วิชานั่นแหละครับ โดยไม่ต้องมีเงื่อนไขอะไร)



เซราฟ
#6   เซราฟ    [ 23-01-2021 - 20:29:02 ]    IP: 1.47.44.35

ดรรชนีกระบี่หกชีพจร เป็นวิชาที่โกงมากๆ เพราะหลักการ ก็คือ ขั้นไร้กระบี่ของอสูรต๊กโกว ซึ่งต้องมีกำลังภายในสูงล้ำ ซึ่งในกรณีของขั้นไร้กระบี่ของอสูรต๊กโกว กว่าจะมาถึงขั้นไร้กระบี่ ด้านกระบวนท่าจะเข้าขั้นสุดยอด ตั้งแต่ขั้นกระบี่หนัก ยังบรรลุด้านกระบวนท่าขั้นสูงไปอีกในขั้นกระบี่ไม้ กว่าจะมาถึงขั้นไร้กระบี่ ซึ่งลมปราณแทนอาวุธ(แทนกระบี่เหล็กดำเลยนะครับ) ด้านกระบวนท่าก็สุดยอด จนการันตีว่าไม่แพ้ หรือไร้พ่ายเลย จากนั่น ขั้นไร้กระบี่เป็นการฝึกปรือการใช้กำลังภายในล้วนๆ

แต่ดรรชนีกระบี่หกชีพจร ไม่มีวิชาหรือแนวทางเพิ่มพูนกำลังภายในแบบอสูรต๊กโกว แต่เพราะคนยุคก่อนสามารถบรรลุมีกำลังภายในสูงล้ำได้ จึงสามารถใช้ดรรชนีกระบี่หกชีพจรได้ ท่านกิมย้งไม่ได้บรรยายมากกว่านี้ สรุปตามตำนานของจีนก็คือ คนยุคก่อนจะอายุยืนยาว อยู่กับธรรมชาติมาก จนได้ปราณที่มากมาย ซึ่งความคิดนี้สะท้อนมาเป็นเรื่องของอสูรต๊กโกว ซึ่งเอี้ยก้วยซึ่งได้ดีงูวิเศษช่วย แต่ไม่ได้ยอกว่าต๊กโกวใช้ดีงูวิเศษช่วยหรือไม่ ฝึกฝนกับธรรมชาติแบบที่เดาว่าต๊กโกวฝึกฝน จนมีลมปราณใกล้เคียงต๊กโกววัยชราในขณะที่เอี่ยก้วยอายุ 30-36 ปี ซึ่งคาดเดาว่า ตอนชราต๊กโกวควรมีกำลังภายในมากกว่าเอี้ยก้วย หรือพวกจิวแป๊ะทงมากๆ

ต้วนอื้อได้วิชาลมปราณขั่นเทพ ลมปราณภูตอุดร วิชาที่ต้วนอื้อชำนาญสุดจนกล่าวยกย่อง คือ ท่าเท้าท่องคลื่น ก็เป็นการโคจรปราณอย่างหนึ่ง ดังนั้น จะว่าต้วนอื้อไม่ฝึกฝนกำลังภายในไม่ได้ แต่ที่โกง คือ ดูดคนอื่นนั้นแหละ ทำให้ลมปราณเกินคนอายุ 100 ปีไปเลย พอลมปราณมาก ก็เข้าตำราต๊กโกว คือ เข้าขั้นไร้กระบี่ แต่ต้วนอื้อไม่ต้องคิดการใช้กำลังภายในที่มากมายให้เสียเวลาแบบเอี้ยก้วย แต่ได้เรียนวิชาดรรชนีหกชีพจรแบบผิวเผิน แต่แค่นั้นกระบวนท่าวิชานี้ มันก็สุดล้ำเพราะเป็นวิชาใช้ปราณระดับสูง อยู่แล้ว

สรุป ต้วนอื้อ จนจบก็ไม่ได้ใส่ใจฝึก แต่ด้านกระบวนท่าถือว่าเข้าขั่นสุดยอดโดยปริยาย แต่ว่าความเข้าใจด้านกระบวนท่าของต้วนอื้อ เท่ากับไม่มีครับ

ต่างจากเฉียวฟง ด้านกระบวนท่าถือว่า เข้าขั้นสุดยอดไปแล้ว แต่ว่าอ่อนด้านกำลังภายใน คือ มีกำลังฝึกปรือแค่20-30ปี เท่านั้น ห่างจากต้วนอื้อหลายขุม แต่ว่าวิชาฝ่ามือพิชิตมังกรมีความพิเศษครับ เป็นวิชาที่ จิต ชี่ กระบวนท่าร่างกาย ก่อเกิดพลังที่รุนแรงที่สุดในวิชาบู้ทั้งปวง เป็นรองฝ่ามือกำสรดวิญญาณสลายเพียงครึ่งขั้น ดังนั้น มันการันตีพลังโจมตีทางกายภาพที่รุนแรงที่สุดในวิชาบู้ทั้งปวง ดังนั้น ต่อให้ดรรชนีกระบี่หกชีพจรมีพลังปราณสูง แต่พลังทำลายมาจากปราณล้วนๆ เท่ากับไม่สามารถนำน้ำหนักของร่างกายหรืออาวุธมาคำนวณได้ แถมการใช้ปราณก็ไม่ได้เป็นแบบต๊กโกว ที่ใช้ปราณเข้ากับวัตถุ ร่างกาย กระบวรท่าเพื่อเสริมอานุภาพจนพลังทำลายเท่ากับหรือมากกว่ากระบี่เหล็กดำที่หนัก 32กิโลกรัม สรุปว่า ดรรขนีกระบี่หกชีพจรถึงรุนแรง แต่พลังทำลายไม่เท่าฝ่ามือพิชิตมังกร กับฝ่ามือกำสรด ที่ใช้ปราณสะสมน้อยกว่าก็ได้เพราะมีกระบวนท่าเข้ามามีส่วนในการสร้างพลังทำลาย

สรุป ถ้าเทียบตัวคน ต้วนอื้อ ไม่มีทางชนะเฉียวฟง หรือเอี้ยก้วย เพราะความเข้าใจด้านกระบวนท่า ต้วนอื้อไม่มี แถมพลังทำลายของวิชาฝ่ามือพิชิตมังกร กับฝ่ามือกำสรด สูงกว่า ต้วนอื้อ มีเพียงท่าเท้าท่องคลื่นเท่านั่นที่พิศดารแล้วได้เปรียบ เพราะคนที่บรรลุด้านกระบวนท่าขั้นสุดยอดก็ตาม ยังต้องใช้ตามองและคาดการณ์ซึ่งวิชาท่าเท้าท่องคลื่น มันเป็นวิชาโกง แต่ต้วนอื้อต้องหลับตาใข้ หรือไม่ใส่ใจกระบวนท่าฝ่ายตรงข้าม ดังนั้น เป็นวิชาท่าเท้าที่น่ากลัว สมกับที่ตอนท้ายท่านกิมย้ง ยกว่าต้วนอื้อเก่งวิชานี้ แต่ดรรชนีกระบี่หกขีพจร ที่ยากคาดเดา ก็ไม่ถึงกับขัดหลักการ คนที่บรรลุสุดยอดด้านกระบวนท่าจะอย่างไร ย่อมคาดเดาและป้องกันการโจมตีได้อยู่แล้ว ท่าเท้าท่องคลื่นไม่ใช่วิชาโจมตี ดังนั้น เพียงไม่สนใจ จับจังหวะแค่กระบี่ลมปราณที่เข้ามา เฉียวฟง (หรือระดับเดียวกับเอี้ยก้วย) สามารถสัมผัสปราณได้อยู่แล้ว แถมการที่เก่งด้านกระบวนท่า ก็แค่หลบกระบี่ ซึ่งกระบี่ของต้วนอื้อ เมื่อไม่เก่งด้านกระบวนท่า กระบี่ลมปราณแทบไม่เคยยิงใส่จุดตายเลย ดังนั้น เฉียวฟงตบต้วนอื้อสบาย

เว้นแต่ ต้วนอื้อใช่ท่าเท้าหนี ก็ถือว่าแพ้แล้ว

สรุป วิชาดรรชนีกระบี่หกชีพจร กับฝ่ามือพิชิตมังกร ก็มีจุดเด่น จุดดีของตนเอง ด้านกระบวนท่าวิชาดรรชนีกระหกขีพจร ถือว่ามีกระบวนท่าสุดยอดในตัววิชาอยู่แล้ว แต่ยังไม่ถือว่าเป็นความบรรลุด้านกระบวนท่าขั้นสูงหรือขั้นสุดยอดแต่อย่างใด ส่วนฝ่ามือพิชิตมังกร กระบวนท่า มีความรุนแรงที่เปล่งออกมาสูงกว่า รวบรัดกว่า

สุดท้ายอยู่ที่ผู้ใช้ ใครบรรลุด้านกระบวนท่ามากกว่ากัน ก็ชนะไปครับ

ส่วนตัว เฉียวฟงชนะต้วนอื้อแน่นอนครับ เพราะต้วนอื้อไม่ได้ต้องการฆ่าใคร จึงไม่ได้ฝึกฝน ด้านการบรรลุวิชายุทธ์ด้านกระบวนท่าต้องถือว่า ไม่มีเลย ต่อให้ต้วนอื้อจะใช้ ก็ไม่มีทางบรรลุได้ เพราะใจไม่รัก (จิวแป๊ะทง ถูกยกให้เป็นหนึ่งเหนือกว่าเอี้ยก้วย ทั้งที่จิวแป๊ะทงยกย่องเอี้ยก้วย ก็เพราะทุกคนเห็นว่า จิวแป๊ะทงมีใจรักในการเรียนรู้วิชานั่นแหละครับ โดยไม่ต้องมีเงื่อนไขอะไร)



  • 1
ตอบกระทู้
ชื่อ
รหัส กรอกตัวอักษร ตามภาพ
ข้อความ


emo-smile emo-happy emo-lol emo-enjoy emo-kiku emo-cool emo-hoho emo-drool emo-hungry emo-kiss emo-sorry emo-sad emo-cry emo-tear emo-question emo-doubt emo-shock emo-redface emo-plz emo-peevish emo-angry emo-moody emo-sneer emo-makefaces emo-good emo-touched emo-love emo-bore emo-tired emo-vomit
bold italic underline img link superscript subscript size color space justifyleft justifycenter justifyright quote box youtube