เข้าระบบอัตโนมัติ

อยากรู้เรื่องราวของเรื่อง 8 เทยอสูรมังกรๆ้า


  • 1
กระบี่ไร้คม
#1   กระบี่ไร้คม    [ 27-02-2017 - 10:47:08 ]    IP: 171.5.243.112

พอดีชอบอ่านมังกรหยกอะคับ เเล้วเจอท่า 18ฝ่ามือพิชิตมังกร แล้วเลยอยากรู้เรื่องนีพอไปค้นดู อ้าวมันเกี่ยวกับ 8เทพ แล้วผมหาอ่านไม่ได้เลยมาถามพวกท่านคับ



กระบี่ไร้คม
#2   กระบี่ไร้คม    [ 27-02-2017 - 10:47:52 ]    IP: 171.5.243.112




กระบี่ไร้คม
#3   กระบี่ไร้คม    [ 28-02-2017 - 07:20:10 ]    IP: 171.5.238.21

วันนี้ก้อยังว่างเช่นเดิม



18 ฝ่ามือพิชิตมังกร
#4   18 ฝ่ามือพิชิตมังกร    [ 03-03-2017 - 22:28:54 ]

คิอคุณอยากรู้ เรื่อง 8 เทพ หรือ ฝ่ามือพิชิตมังกรอ่ะคับ ถ้าเป็น ฝ่ามือพิชิตมังกรผมมีกระทู้ที่เคยเขียนเอาไว้

ส่วนเรื่อง 8 เทพอสูรมังกรฟ้า มีเป็นซีรีย์ให้ดูคับ ลองหาดูได้ตามยูทูป

ส่วนฝ่ามือพิชิตมังกรมันมีต้นกำเนิดมาตั้งแต่แปดเทพอสูรมังกรฟ้าแล้ว




18 ฝ่ามือพิชิตมังกร
#5   18 ฝ่ามือพิชิตมังกร    [ 03-03-2017 - 22:30:15 ]

18 ฝ่ามือพิชิตมังกร
18ฝ่ามือพิชิตมังกร หรือฝ่ามือสยบมังกร 18 ท่า
เป็นหนึ่งในวิชาที่มีชื่อเสียงสั่นคลอนยุทธภพมากเป็นวิชาที่หนักไปในทาง แข็งกร้าวผู้ใช้ต้องเป็นผู้ทีมีร่างแข็งแรงกำยำวิชานี้จึงไม่เหมาะกับผู้หญิง ตั้งแต่ยุค 8 เทพอสูรมังกรฟ้า จนถึงยุคมังกรหยกโดยในยุค 8 เทพอสูรมังกรฟ้า มีผู้ที่ใช้ฝ่ามือสยบมังกรได้อย่างคล่องแคล้วและช่ำชองที่สุดคือเฉียวฟง หรือ เซียวฟง โดยที่มาของ 18 ฝ่ามือพิชิตมังกรนั้น มีการสัณนิษฐานหลายกรณี ผมขอยกกรณีที่ผมรู้มาแล้วกัน โดย ฝ่ามือสยบมังกร มีที่มาจาก วิชากรงเล็บมังกร มีทั้งหมด 8 กระบวนท่า โดยที่เฉียวฟงที่ได้ไปฝึกวิชากัวเสี้ยนขู่ไตซือ ได้เรียนวิชา กรงเล็บมังกร แต่ด้วยเป็นผู้มีทักษะยุทธ จึงได้ดัดแปลงกรงเล็บมังกรจาก 8 กระบวนท่าเป็น 18 กระบวนท่า และมีอานุภาพร้ายแรงกว่าเดิม เรียก 18 ฝ่ามือสยบมังกร เฉียวฟง ถือได้ว่าเป็นผู้ใช้ฝ่ามือพิชิตมังกรได้ดีที่สุด เป็นหนึ่งในใต้หล้า ฝ่ามือพิชิตมังกรของเฉียวฟง สามารถถล่มกองทัพได้ในคราวเดียว ชื่อกระบวนท่าฝ่ามือสยบมังกร ของเฉียวฟงได้แก่
1. มังกรกลางนา
2. มังกรพิโรธ
3. มังกรชิงมุข
4. มังกรคายแก้ว
5. มังกรสะบัดหาง
6. มังกรกลืนสมุทร
7. มังกรวายุ
8. มังกรคู่ออกศึก
9. มังกรเขียวออกศึก
10.มังกรไร้เศียร
11.มังกรพันเศียร
12.มังกรถามทาง
13.มังกรหมื่นลี้
14.มังกรแฝงกาย
15.มังกรล้อมเงา
16.มังกรล้อมตะวัน
17.มังกรขนกหัว
18.มังกรร่ายรำ
ต่อมาในยุคมังกรหยก อังชิกง ประมุขพรรคยาจก ขึ้นรับตำแหน่ง ได้ทำการรวบรวม กระบวนท่าฝ่ามือสยบมังกร ที่เหลือเพียง 9 กระบวนท่า และใช้ความอัจฉริยะบัญญัติ กระบวนท่าเพิ่มอีก 9 ท่าครบตามชื่อวิชา แต่อานุภาพนั้นก็ลดลงไปจากเดิม ต่อมาอังชิกงได้ถ่ายทอดวิชานี้ ให้ก้วยเจ๋ง ซึ่งก้วยเจ๋งก็เป็นอีกคน ที่แตกฉานวิชานี้มากที่สุดคนหนึ่ง โดยความพิสดารอยู่ที่ก้วยเจ๋ง สามารถประยุกต์ใช้ฝ่ามือสยบมังกร ร่วมกับ คัมภีร์เก้าอิม และสองมือขัดแย้ง ทำให้ก้วยเจ๋งเพิ่มพลังทำลายของฝ่ามือสยบมังกร และออกระบวนท่าได้สองกระบวนทาพร้อมกัน นับได้ว่าเป็นความพิสดารที่ก้วยเจ๋งนำวิชามาประยุกต์ใช้ ทำได้มากกว่า เฉียวฟงและอังชิกง ชื่อกระบวนท่า 18 ฝ่ามือพิชิตมังกร แบบฉบับ อังชิกงและก้วยเจ๋ง
1.มังกรผยองได้สำนึก
2.มังกรบินอยู่สวรรค์
3.มังกรโรมรันกลางไพร
4.มังกรซ่อนกบดาน
5.เชี่ยวชาญข้ามแม่น้ำใหญ่
6.หงส์ร่อนพสุธา
7.ประดังโดยพลัน
8.สะท้านขวัญร้อยลี้
9.ทะยานสู่มหรรณพ
10.มังกรเทพสะบัดหาง
11.มังกรผงาดกลางทุ่ง
12.มังกรคู่ตักน้ำ
13.มัจฉาทะยานสมุทร
14.บังคับหกมังกร
15.เมฆหนาไร้ฝน
16.ลดสูญเสียเกิดผลลัพธ์
17.สัมผัสน้ำแข็งเหน็บหนาวกาย
18.มังกรพิโรธ
หลังจากนั่นเป็นต้นมา วิชานี้นั้นก็ลดความร้ายกาจ ลงไปจนสูญหายไปจากยุทธภพ
ที่ผมบรรยายมานั้นมาจากความรู้ความเข้าใจของผมเอง จากการดูและการอ่าน ถ้าผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี่ด้วย



18 ฝ่ามือพิชิตมังกร
#6   18 ฝ่ามือพิชิตมังกร    [ 03-03-2017 - 22:31:19 ]

ที่ผมอธิบายด้านบน เป็นต้นฉบับก่อนแก้ไขเนื้อเรื่องใหม่นะคับ

ส่วนเนื้อเรื่องที่แก้ไขใหม่ เปลี่ยนจากที่เฉียวฟง ดัดแปลงวิชามาจากกรงเล็บมังกร ให้เป็นประมุขพรรคกระยาจก อวงเกี่ยมทง ถ่ายทอดวิชานี้ให้เฉียวฟง เดิมมี 28 ท่า แต่เฉียวฟงปรับให้เหลือ 18 ท่า และมีอานุภาพรุนแรงกว่าเดิม



18 ฝ่ามือพิชิตมังกร
#7   18 ฝ่ามือพิชิตมังกร    [ 03-03-2017 - 22:39:51 ]

ถ้าข้อมูลน้อยไปผมเพิ่มให้อีกหละกัน แต่ถ้าอยากติดตามหนังจีน ตามเพจ facebook ด้านล่างเลยคับ


ประวัติฝ่ามือสยบมังกรสิบแปดท่าและการใช้ของยอดวีรบุรุษเฉียวฟงและก๊วยเจ๋ง !!
Cr. FB page ท่องยุทธจักรกิมย้ง wulin club
ผมลองหาข้อมูลเกี่ยวกับฝ่ามือสยบมังกรมาอ้างอิงเพิ่มนะคับ

ฝ่ามือสยบมังกรสิบแปดท่า นับเป็นวิชาสุดยอดวิชาฝ่ามือแกร่งก้าวที่สุดในแดนดิน มีแต่ละท่านั้นมีที่มาจากตำราแผ่นภาพอี้จิง ซึ่งเป็นตำราเสี่ยงทายของจีนโบราณ ยอดวิชานี้แม้เพียงแค่สิบแปดท่า แต่เพียงเรียนรู้ได้ท่าเดียวก็มีอานุภาพร้ายกาจยิ่ง หากเรียนรู้ครบสิบแปดกระบวนท่าร่ายรำต่อเนื่องตามติดจะปราศจากช่องว่างจุดอ่อน

วิชานี้ในนิยายไม่ได้ระบุชัดว่าผู้ใดคิดค้นขึ้น แต่ได้ระบุถึงอวงเกี่ยมทงประมุขพรรคกระยาจกรุ่นที่ 2 ถ่ายทอดให้แก่ศิษย์นามเฉียวฟงประมุขพรรคกระยาจกรุ่นที่ 3 ในการแก้ไขนิยายของกิมย้งครั้งที่ 3 ได้ระบุรายละเอียดเพิ่มเติมว่าวิชาฝ่ามือนี้มีถึงยี่สิบแปดท่า แต่เฉียวฟงได้ดัดแปลงเหลือเพียงสิบแปดท่าแต่เพิ่มอานุภาพให้ร้ายกาจยิ่งกว่าเดิม

วิชาฝ่ามือสยบมังกรสิบแปดท่ามีกระบวนท่าต่าง ๆ อาทิ "มังกรผยองได้สำนึก" อันเป็นท่าพื้นฐาน ท่านี้การใช้ต้องงอเท้าซ้ายเล็กน้อย มือขวาพับเข้าหาตัว กรีดวาดเป็นวงกลมจากนั้นผลักดันออก หากสัมผัสถูกกายคู่ต่อสู้เพิ่มพลังฝ่ามืออย่างฉับพลัน นับว่ามีอานุภาพแกร่งกร้าวดุดันที่สุดในสิบแปดท่า เคล็ดสำคัญของกระบวนท่านี้มิใช่อยูที่คำว่า "ผยอง" ซึ่งหมายถึงความแกร่งกร้าว แต่อยู่ที่คำว่า "สำนึก" กล่าวคือสามารถรั้งเข้าปล่อยกระบวนท่าออกได้ตามใจปรารถนา กระบวนท่านี้หากเพียงแค่มีกำลังอันแกร่งกร้าวก็เป็นเพียงวิชาฝ่ามือทั่วไป ซึ่งต่อให้พละกำลังผู้ใช้มากเพียงใดต้องมีวันถูกใช้หมดสิ้น ศัตรูจะฉวยโอกาสจู่โจมได้ แต่เนื่องจากท่านี้สามารถหยุดรั้งเก็บพลังแต่กลางคันได้ จึงนับว่ามีความลึกล้ำอย่างยิ่ง ท่านี้ตรงกับแผ่นภาพอี้จิงที่ระบุว่า "มังกรผยองได้สำนึก เอ่อล้นพ้นไม่ยืนยาว"

กระบวนท่า "มังกรเหินท่องเวหน" มาจากแผ่นภาพอี้จิงที่ระบุว่า "มังกรเหินท่องเวหน ประสบพานพบผู้มีบุญ" กระบวนท่านี้ลอยตัวขึ้นกลางอากาศ จู่โจมลงเบื้องล่างอานุภาพไพศาล กระบวนท่า "มังกรสะบัดหาง" กระบวนท่านี้หากศัตรูจู่โจมจากด้านหลัง เราฟาดฝ่ามือพาดขวางกลับหลัง มีอานุภาพร้ายกาจคุกคามศัตรูต้องถอยไป นับเป็นไม้ตายช่วยชีวิตในสิบแปดฝ่ามือสยบมังกร ตรงกับแผ่นภาพตำราอี้จิงว่า "ลี่หางเสือ" เปรียบเปรยว่าเท้าเราเหยียบใส่หางเสือ ซึ่งเสือร้ายย่อมหันหัวมาแว้งกัด อานุภาพย่อมร้ายกาจเป็นที่สุด แต่ผู้บัญญัติเห็นว่าคำในตำราอี้จิงสละสลวยเกินไปจึงตั้งชื่อใหม่ว่า "มังกรสะบัดหาง"

ในสมัยราชวงศ์ซ่งเหนือ (พ.ศ. 1503 -1669) ประมุขพรรคกระยาจกรุ่นที่ 3 เฉียวฟงได้ชื่อว่าเป็นสุดยอดฝีมือและเป็นยอดบุรุษผู้มีคุณธรรม เขาได้ใช้สิบแปดฝ่ามือสยบมังกรท่องทะยานทั่วแผ่นดิน นำพาศิษย์พรรคกระยาจกช่วยเหลืออาณาจักรซ่งขับไล่ศัตรูต่างชาติ แต่เมื่อวันหนึ่งเฉียวฟงทราบว่าตนเองมิใช่ชาวซ่ง แต่เป็นชาวซี่ตานแห่งอาณาจักรเหลียว เฉียวฟงจึงลาออกจากประมุขพรรคเปลี่ยนแซ่เป็นเซียวตามบิดาที่แท้จริง

ครั้งหนึ่งวัดเส้าหลินเกิดการชุมนุมชาวยุทธจักร เซียวฟงซึ่งเดินทางไปด้วยพลันพบว่า "อาจี่" น้องสาวของคนรักตนนามว่าอาจูซึ่งตายไปแล้ว ถูกติงชุนชิวเจ้าสำนักทะเลหมู่ดาวจับตัวไว้ซ้ำนางยังตาบอด เซียวฟงจึงได้สำแดงอานุภาพฝ่ามือสยบมังกรออกมาถึงขีดสุด !!

เซียวฟงมือซ้ายกรีดวาดเป็นวงกลม มือขวากระแทกออก นี่เป็นท่าที่แข็งกร้าวที่สุดในสิบแปดฝ่ามือสยบมังกรนาม "มังกรผยองได้สำนึก" ตอนนั้นเซียวฟงอยู่หางจากติงชุนชิวสิบห้าสิบหกวา ติงชุนชิวเห็นว่าต่อให้ฝีมือเซียวฟงกล้าแข็งกว่านี้ก็มิอาจพุ่งพลังฝ่ามือได้เกินห้าหกวา มิคาดเซียวฟงขณะฟาดฝ่่ามือออก ร่างก็รุกไล่เข้ามาอีกห้าวา สะบัดฝ่ามือออกอีกครั้ง พลังฝ่ามือแรกหนุนพลังฝ่ามือที่สอง ติงชุนชิวรู้สึกอึดอัดอกคล้ายถูกกำแพงโถมทับ เขาคาดว่าหากรับด้วยมือเดียวกระดูกมือต้องถูกกระแทกหักไป ไม่แน่ว่ากระดูกทั่วร่างจะแหลกสลายหมดสิ้น !!! จึงรีบโยนร่างอาจื่อขึ้นไป สองมือกรีดวาดเป็นครึ่งวงกลมคุ้มกันกาย รีบพลิ้วกายถอยไป

เซียวฟงรับตัวอาจื่อไว้ ขณะเดียวกันก็ฟาดฝ่ามืออกเป็นคำรบสาม พลังสองฝ่ามือแรกยังไม่สิ้นสุด พลังฝ่ามือที่สามก็บรรลุตามมาแล้ว ติงชุนชิวไม่กล้าปะทะโดยตรง มือขวาปาดเฉียง ปะทะริมฝ่ามือโดยตรงของเซียวฟง รู้สึกแขนขวาชา ลมปราณที่ทรวงอกอึดอัด รีบพุ่งถอยไปตามสภาวะ

จากนั้นเซียวฟงได้แสดงอานุภาพเอาชัยหยิวถานจือผู้สำเร็จวิชาเปลีย่นเส้นเอ็นและพลังหนอนไหมน้ำแข็ง ขณะที่เซียวฟงสู้กับหยิวถานจือ ทั้งสองปะทะกันหลายฝ่ามือ พลังไอเย็นของหยิวถานจือยิ่งมายิ่งลึกล้ำ เซียวฟงสยิวกายด้วยความหนาวเหน็บ สร้างความอึดอัดขัดข้องอย่างยิ่ง เซียวฟงพลันสะบัดออกอีกหลายฝ่ามือ ฉวยโอกาสที่หยิวถานจือยกฝ่ามือต้านทาน กวาดเท้าเตะใส่ กระดูกเท้าทั้งสองของหยิวถานจือหักโดยพร้อมเพรียง หยิวถานจือแม้มีพลังภายในลึกล้ำ แต่เพลงหมัดเท้าธรรมดายิ่ง จึงพ่ายแพ้ไป

ต่อมาเซียวฟงเห็นว่าวิชาฝีมือตนทั้งไม้เท้าตีสุนัขและฝ่ามือสยบมังกรเป็นมรดกของพรรคกระยาจก ตนเองมิได้เป็นประมุขพรรคกระยาจกแล้ว จึงได้ถ่ายทอดสองยอดวิชานี้ต่อซีจูีน้องร่วมสาบานตนและสั่งให้ผู้เฒ่าของพรรคกระยาจกสรรหาบุคคลผู้หนึ่งมารับตำแหน่งประมุขพรรคและมารับการถ่ายทอดยอดวิชาจากซีจุ๊ ต่อมาได้มีขอทานบุรุษหนุ่มผู้หนึ่งมาขอรับการถ่ายทอดสองยอดวิชานี้

เวลาผ่านไปการถ่ายทอดยอดวิชาก็ถดถอยลงเป็นเหตุให้ฝ่ามือสยบมังกรหายไปครึ่งหนึ่ง ในสมัยราชวงศ์ซ่งใต้ (พ.ศ. 1670 – พ.ศ. 1822) อาณาจักรซ่งเสียแผ่นดินทางเหนือให้พวกเผ่าหนี่เจินไปแล้ว ประมุขพรรคกระยาจกรุ่นที่สิบแปดอั้งชิกกงได้เรียนรู้ยอดวิชาฝ่ามือสยบมังกรเพียงครึ่งหนึ่งจากอาจารย์ ด้วยความเป็นอัจฉริยะเขาจึงคินค้นฝ่ามือที่เหลือเพิ่มเติมแต่ยังฝึกปรือไม่สำเร็จสุดยอด เขาได้รับฉายาว่า "ยาจกอุดร"

ระหว่างนั้นชาวยุทธจักรช่วงชิงสุดยอดวิชาคัมภีร์เก้าอิม (นพยม) เหล่ายอดฝีมือได้นัดประลองกันที่เขาหัวซาน อั้งชิกกงยังได้ประลองยุทธกับมารบูรพา พิษประจิม ราชันย์ทักษิณ เทพฤทธิ์ตรงกลาง ทั้งหมดประลองกันเจ็ดวันเจ็ดคืน สุดท้ายเทพฤทธิ์ตรงกลางเฮ้งเต้งเอี้ยงได้รับชัยชนะ ทุกคนต่างยอมรับท่านเป็นที่หนึ่งแห่งแผ่นดิน แต่อีกสี่ยอดฝีมือล้วนให้คำชมเชยวิชาสิบแปดฝ่ามือสยบมังกร

ภายหลังอั้งชิกกงมักทอดถอนใจ เขาเห็นว่าหากตนเองเพียรพยายามฝึกปรือวิชานี้ถึงที่สุดตำแหน่งยอดฝีมือแห่งแผ่นดินอาจเป็นของเขาแล้ว จากนั้นอั้งชิกกงได้สำเร็จยอดวิชานี้ ต่อมาอั้งชิกกงยังรับศิษย์นามก๊วยเจ๋งและสตรีนามอึ้งย้ง ก๊วยเจ๋งได้รับประสบการณ์พิศดารจำนวนมาก ฝึกปรือทั้งฝ่ามือสยบมังกรสิบแปดท่า หลักการท่าเท้าดาวเหนือของสำนักช้วนจินก่า หมัดสูญจำรัสอันสุดอ่อนหยุ่นและสองมือขัดแย้งที่ใช้สองวิชาได้พร้อมกันของเฒ่าทารกจิวแปะทง ศึกษายอดคัมภีร์เก้าอิม (นพยม) ก๊วยเจ๋งได้ตีความเคล็ดวิชาในคัมภีร์เก้าอิมหลอมรวมกับสิบแปดฝ่ามือสยบมังกร จนพัฒนาให้ลึกล้ำยิ่งขึ้น !!

ก๊วยเจ๋งฝึกฝ่ามือสยบมังกรทุกวี่วันมิได้ขาด เขาใช้เพียงท่ามังกรผยองได้สำนึกก็เปล่งอานุภาพสูงสุด ท่านี้งอเท้าซ้ายเล็กน้อย มือขวากรีดวาดเป็นวงกลมผลักตรงออกเบื้องหน้า ช่วงผลักฝ่ามือคล้ายแผ่พริ้ว แต่เมือสัมผัสถูกคู่ต่อสู้ จะมีพลังกระแทกติดตามมาอีกถึงสิบสามชั้น แต่ละชั้นจะมีพลังเพิ่มขึ้น นี่เป็นความสำเร็จที่ก๊วยเจ๋งศึกษาได้จากคัมภีร์เก้าอิมฉบับสมบูรณ์ เหนือล้ำกว่ายาจกอุดรผู้สอนวิชานี้ให้เสียอีก

ครั้งหนึ่งก๊วยเจ๋งและเอี้ยก้วยหลานชายเขาตกอยู่ในวงล้อมของทัพมองโกล ก๊วยเจ๋งยามนั้นอายุได้สามสิบกว่าปีแล้ว เขาฝึกวิชาฝ่ามือสยบมังกรขั้นเลิศเลอสูงสุด ยอดฝีมือฝ่ายมองโกลต่างต้องการสังหารก๊วยเจ๋งเพื่อได้รับชื่อว่าเป็น "ยอดฝีมืออันดับหนึ่ง" สี่ยอดฝีมือฝ่ายมองโกลประกอบด้วย ราชครูจักรทองฝีมือสูงส่งสุดยอด นีมอชิงยอดฝีมือชาวอินเดียผู้ใช้แส้งูเหล็กอันแหลมคม อีเคอซีพ่อค้าวาณิชผู้ใช้แส้อ่อนทองประดับเพรชเป็นอาวูธ เซียวเซียงจื้อผู้หน้าซีดราวซากศพใช้กระบองวิบัติเป็นอาวุธและยังมีเบ๊กวงจ้อผู้มีกำลังมหาศาลแต่ไม่นับเป็นยอดฝีมือ

ก๊วยเจ๋งพอดูออกว่าในสี่ยอดฝีมือ อีเคอซีฝีมืออ่อนด้อยกว่าผู้อื่นเล็กน้อย เขาพุ่งเข้าหาเซียวเซียงจื้อซึ่งมีอาวุธกระบอกพันเชือกสีขาวไว้ อาวุธมีลักษณะพิศดาร ก๊วยเจ๋งฟาดฝ่ามือทั้งสองใส่เซียวเซียงจื้อ ทำให้เซียวเซียงจื้อจี้กระบองเข้าใจกลางฝ่ามือก๊วยเจ๋ง แต่ก๊วยเจ๋งพลันเปลียนกระบวนท่าแต่กลางคัน ใช้ออกด้วยท่า "มังกรสะบัดหาง" ฝ่ามือขวาย้อนไปคว้าจับแส้อ่อนของอีเคอซี ขณะนั้นอีเคอซีกระชากแส้คืนไม่ได้ จึงพุ่งตัวตามแรงกระชาก มือหนึ่งใช้มีดสั้นแทงใส่ก๊วยเจ๋ง

ยามนั้นจักรทองกับปลายกระบองของเซียวเซียงจื้อจู่โจมมาถึง ก๊วยเจ๋งตวาดก้องใช้ลมปราณถ่ายทอดผ่านแส้อีเคอซี กระแทกอีเคอซีบาดเจ็บกระอักโลหิตออกมา อีเคอซีรีบถอยกลับนั่งสมาธิโคจรลมปราณรักษาอาการบาดเจ็บ เขาใช้เพียงท่าเดียวก็สยบหนึ่งยอดฝีมือได้ !!

ก๊วยเจ๋งหันไปต่อสู้กับยอดฝีมือทั้งสามที่หลงเหลือ ทั้งสี่ยอดฝีมือต่อสู้กันไม่มีจุดอ่อนช่องว่างสักน้อยนิด เบ๊กวงจ้อชายร่างใหญ่พลันใช้กระบองทองแดงฟาดใส่หลังก๊วยเจ๋ง แต่สี่ยอดฝีมือสู้กันผนึกพลังคล้ายเป็นตาข่ายใหญ่ที่มองไม่เห็น กระบองของเบ๊กวงจ้อถูกกระแทกออก ง่ามมือเขาฉีกขาด เอี้ยก้วยมีสัมพันธ์ที่ดีกับเบ๊กวงจ้อ จึงเข้าไปห้ามปรามและหลอกว่าก๊วยเจ๋งมีคาถาอาคม เบ๊กวงจ้อปัญญาโง่ทึบจึงยินยอมเชื่อเลิกต่อสู้ไป

ก๊วยเจ๋งยามนี้ใช้ฝ่ามือสยบมังกรสิบแปดท่าถึงขั้นสูงสุด พวกราชครูจักรทองเข้าใจว่าก๊วยเจ๋งใช้วิชานี้ต้องสิ้นเปลืองพลังภายในมากมาย ไหนเลยจะคาด ยี่สิบปีมานี้ก้วยเจ๋งคร่ำเตร่งฝึกปรือคัมภีร์เก้าอิมพลังภายในถึงขั้นสูงสุด ตอนแรกยังไม่เด่นชัด แต่หลายสิบกระบวนท่าให้หลังพลังฝ่ามือก๊วยเจ๋งบัดเดี๋ยวเบาบาง บัดเดี๋ยวหนักหน่วง รั้งเข้ากระจายออก พลิกแพลงจากฝ่ามืออันสุดแข็งเป็นสุดอ่อนอันเลิศเลอพิศดาร ความสำเร็จขั้นนี้แม้แต่อั้งชิกกงผู้เป็นอาจารย์ยั้งครุ่นคิดค้นคว้าไม่ได้ !! ก๊วยเจ๋งใช้ยอดวิชาสู้สามยอดฝีมือไม่มีท่าทีเพลี่ยงพล้ำแม้แต่น้อย

ด้วยพลังฝีมือของราชครูจักรทองความจริงก้ำกึ่งกับก๊วยเจ๋ง ทั้งสองหากต่อสู้กัน ต้องสู้นับพันกระบวนท่าถึงค่อยพิสูจน์แพ้ชนะ บวกกับอีกสองยอดฝีมือช่วยเหลือ ราชครูจักรทองสมควรได้ชัย แต่สิบแปดฝ่ามือสยบมังกรของก๊วยเจ๋งเข้มแข็งเกินไป ในกระบวนท่ายังแฝงท่าเท้าดาวเหนือของสำนักช้วนจินก่า เมื่อสู้ถึงยามคับขันร่างก๊วยเจ๋งพุ่งแฉลบไปมา คล้ายเจ็ดแปดคนก็ไม่ปาน !!

ต่อสู้ผ่านไปอีกหลายสิบกระบวนท่า จักรทองของราชครูเริ่มเปล่งอานุภาพ งูเหล็กของนีมอชิงเริ่มทวีความเกรี้ยวกราด ก๊วยเจ๋งเริ่มกังวลใจต้องการรีบฝ่าออกจากทัพมองโกล ทันใดเซียวเซียงจื้อพลันกระโดดและยิงควันพิษจากปลายกระบอง ทุกผู้คนรู้สึกมึนงงเล็กน้อยรีบถอยกายไป แต่ก๊วยเจ๋งกำลังภายในลึกล้ำกลับมิเป็นไร ใช้ออกด้วยท่า "พบมังกรกลางนา" ฟาดใส่เข่าเซียวเซียงจื้อที่กระโดดอยู่ เซียวเซียงจื้อรีบรั้งกระบอกกลับมาต้านรับ ถูกฝ่ามือก๊วยเจ๋งกระแทก จนต้องพลิ้วออกไปหลายเซียะ

ด้านนีมอซิงจู่โจมงูเหล็กใกล้ถึงตัวก๊วยเจ๋ง ดังนั้นก๊วยเจ๋งรีบใช้ท่า "มังกรซ่อนกบดาน" ฟาดใส่ทรวงอกมัน นีมอซิงรีบขวางแส้งูเหล็กตั้งรับ แต่พลังฝ่ามือนี้ของก๊วยเจ๋งอยู่ที่รอบฝ่ามือ นีมอซิงเห็นว่าที่ทรวงอกไม่มีพลังใดคุกคาม รู้สึกไม่ถูกต้อง ทันใดท้องน้อยนีมอซิงพลันถูกพลังรอบฝ่ามือก๊วยเจ๋งกระแทกหนักหน่วงคุกคาม จึงรีบกลิ้งกายถอยไป

ก๊วยเจ๋งรีบพาเอี้ยก้วยฝ่าวงล้อมกองทัพมองโกล แต่เอี้ยก้วยต้องการล้างแค้นก๊วยเจ๋งที่ฆ่าบิดาตน จึงแกล้งทำเป็นปวดท้อง ก๊วยเจ๋งจึงแบกเอี้ยก้วยกระโดดพุ่งสามสี่ครา บุกถึงเบื้องหน้ากุบไลข่านหวังจับตัวหัวหน้าทัพมองโกล ฝ่ามือก๊วยเจ๋งเกรี้ยวกราดฟาดจนทหารมองโกลปลิวกระเด็น เข้าใกล้ถึงตัวกุบไลข่าน เอี้ยก้วยพลันถามก๊วยเจ๋งว่าบิดาเขาสมควรตายหรือ ? ก๊วยเจ๋งไม่มีเวลาอธิบายจึงตอบว่า "บิดาเจ้าขายชาติ ใครก็ฆ่าได้"

เอี้ยก้วยโทสะพุ่งขึ้นใช้กระบี่หมายสังหารก๊วยเจ๋ง แต่เซียวเซียงจื้อพลันใช้กระบองขัดขวางไว้เนื่องเพราะเขาเกรงเอี้ยก้วยจะได้รับชื่อว่าเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่ง ต่อมาราชครูจักรทองและนีมอชิงก็เข้าจู่โจมก๊วยเจ๋ง

ยามนั้นฝ่ามือราชครูจักรทองปะทะกับก๊วยเจ๋ง เซียวเซียงจื้อพลันจู่โจมมา ก๊วยเจ๋งเป็นห่วงเอี้ยก้วยจึงใช้ออกด้วยท่า “มังกรสะบัดหาง” ฝ่ามือพาดถูกกระบองเซียวเซียงจื้อถนัดถี่ จนหน้าไร้สีเลือดของเขาถึงกับแดงก่ำ ก๊วยเจ๋งใช้พลังเจ็ดส่วนรับฝ่ามือราชครูจักรทอง ใช้สามส่วนฟาดใส่เซียวเซียงจื้อ ไม่มีพลังเหลืออีก นีมอซิงพลันจู่โจมงูเหล็กใส่ชายโครงก้วยเจ๋งแทงลึกไปหลายนิ้ว ก๊วยเจ๋งพลันบังคับกล้ามเนื้อหดเข้าและกระแทกออก งูเหล็กจึงจู่โจมไม่ได้อีก ก๊วยเจ๋งเตะใส่นีมอชิงกระดูกซี่โครงหักไปสามซี่ พลิกจากพ่ายแพ้เป็นได้ชัย

ราชครูจักรทองเห็นก๊วยเจ๋งบาดเจ็บพลันเพิ่มพลังฝ่ามือกระแทกใส่ก๊วยเจ๋งจนกระอักโลหิตเป็นทางยาว สุดท้ายสลบไป เอี้ยก้วยเห็นก๊วยเจ๋งช่วยชีวิตตน ไม่สนใจความแค้นฆ่าบิดาอีก จึงร่ายรำเพลงกระบี่เข้าปกป้อง สุดท้ายทั้งสองต่างบาดเจ็บแต่ก็ฝ่าวงล้อมออกจากทัพมองโกลได้

ต่อมาก๊วยเจ๋งยังได้ถ่ายทอดฝ่ามือสยบมังกรแก่เยลู่ฉีบุตรเขยตนอีกด้วย เยลู่ฉีเป็นประมุขพรรคกระยาจกรุ่นที่ยี่สิบเอ็ด แต่เรียนรู้ยอดวิชานี้ไม่ครบถ้วน ประมุขรุ่นต่อ ๆ มาเรียนรู้ได้เพียงสิบสี่ฝ่ามือ ร้อยกว่าปีต่อมาถึงรุ่นของซือฮ้วยเล้งเป็นประมุขพรรคกระยาจกเรียนรู้ได้เพียงสิบสองฝ่ามือ

ซือฮ้วยเล้งถูกเซ่งคุนจอมโฉดที่คิดคุมพรรคกระยาจกเข้าสังหาร ทั้งสองปะทะกันสิบสองฝ่ามือ เซ่งคุนบาดเจ็บจากไป แต่ซือฮ้วยเล้งบาดเจ็บเช่นกัน ต่อมาค่อยเสียชิวิต จากนั้นผู้เฒ่าพรรคกระยาจกได้เลือกซืออั้งเจี๊ยะ บุตรีซือฮ้วยเล้งขึ้นเป็นประมุขพรรค แต่ด้วยวัยเพียงสิบสองปี นางนับว่าเป็นประมุขพรรคที่อายุน้อยที่สุด ส่วนฝ่ามือสยบมังกรได้สืบทอดถึงรุ่นนางหรือไม่ ความนี้ก็มิอาจทราบได้ ทราบเพียงแต่ว่ายอดวิชานี้โด่งดังเป็นที่รู้จักกว้างขวางตราบจนทุกวันนี้…



  • 1
ตอบกระทู้
ชื่อ
รหัส กรอกตัวอักษร ตามภาพ
ข้อความ


emo-smile emo-happy emo-lol emo-enjoy emo-kiku emo-cool emo-hoho emo-drool emo-hungry emo-kiss emo-sorry emo-sad emo-cry emo-tear emo-question emo-doubt emo-shock emo-redface emo-plz emo-peevish emo-angry emo-moody emo-sneer emo-makefaces emo-good emo-touched emo-love emo-bore emo-tired emo-vomit
bold italic underline img link superscript subscript size color space justifyleft justifycenter justifyright quote box youtube