สตรีชุดเหลืองคือใคร(ดาบมังกรหยก)

ดึกดื่นไม่หลับไม่นอน ทำอะไรครับ
ยากนะครับสมัยนี้ ที่จะมาเจอกันเวลาเดียวกันในบอร์ดนี้

เงิน 2 บาทมีค่า เป็นแนวทางที่ 1
เงิน 500 บาทมีค่า เป็นแนวทางที่ 2
ทั้ง 2 แนวทางไม่ผิด เพราะเงินไม่ว่าจะ 2 บาทหรือ 500 บาท มีค่าทั้งคู่ แต่มันมีค่าไม่เท่ากัน นี่คือประเด็น
ประเด็นที่ผมบอกมาตลอดก็คือ เงิน 500 บาท มีจำนวนมากกว่าเงิน 2 บาท และมากกว่ามากด้วย ในขณะที่อีกฝั่งเอาแต่พยายามบอกว่าเงิน 2 บาทมีค่า ซึ่งผมรู้อยู่แล้ว

แม่นางชุดเหลือง เป็น เซียวเหล่งนึ่ง เป็นแนวทางที่ 1
แม่นางชุดเหลือง เป็น รุ่นเหลนลงไป เป็นแนวทางที่ 2
ทั้ง 2 แนวทางไม่ผิด เพราะจะเซียวเหล่งนึ่งหรือรุ่นเหลนลงไป มีความเป็นไปได้ทั้งคู่ แต่มันมีความเป็นไปได้ไม่เท่ากัน นี่คือประเด็น
ประเด็นที่ผมบอกมาตลอดก็คือ เป็นรุ่นเหลนลงไปมีความเป็นไปได้มากกว่าเป็นเซียวเหล่งนึ่งเยอะ ในขณะที่อีกฝั่งเอาแต่พยายามบอกว่า เป็นเซียวเหล่งนึ่งก็มีความเป็นไปได้ ซึ่งผมรู้อยู่แล้ว

การเปรียบเทียบของผมจริงๆมันถูกต้องอยู่แล้วครับ เพียงแต่คุณ อินทรีคิ้วขาว ก็ยังคงเบี่ยงประเด็นกลับไปที่จุดที่ไม่ถูกต้องอยู่

------------------------------

คนอายุ 100 ปี หน้าตาเหมือนคนอายุ 25 มันไม่สมเหตุสมผลครับ ถ้าจะให้สมเหตุสมผลจะต้องหาเงื่อนไขอื่นมาเพิ่ม ลำพังเงื่อนไขของตัวมันเองยังไงก็ขัดต่อเหตุผล และถ้าเงื่อนไขอื่นที่มาเพิ่มไปขัดต่อเหตุผลด้านอื่นอีก ก็ยังต้องพยายามหาเงื่อนไขอื่นมาเพิ่มอีกเรื่อยๆ ความน่าจะเป็นมันก็ต่ำลงเรื่อยๆ

อย่างไรก็ตาม ถ้าจะเปลี่ยนจากคำว่า "อะไรสมเหตุสมผลมากกว่า" เป็น "อะไรมีโอกาสเป็นไปได้มากกว่า" ก็ได้ ถ้าคุณต้องการ แต่ประเด็นก็ยังคงเดิม แค่เล่นคำเท่านั้น หรือจะเป็น "อะไรน่าเชื่อถือมากกว่า" ก็ยังได้ หรือ "อะไรสอดคล้องกับเนื้อเรื่องมากกว่า" ก็ได้ ผมก็ใช้ทั้ง 4 คำ หรือจะหาคำอื่นมาอีกก็ได้ เล่นคำตรงนี้ไปไม่ได้เกิดประโยชน์ เพราะประเด็นยังคงเดิม คือเรากำลังเปรียบเทียบระหว่าง 2 แนวทาง

- คุณอาจอ่านข้ามไปตรงนี้ แม่นางชุดเหลือง ยิ้ม เพราะเขาขำที่เห็นบ่อกี้ขี้คอหัวหน้าพรรคกระยาจก(ตัวปลอม) อยู่ ด้วยครับ อีกอย่างผมอยากให้คุณลองไปอ่านรายละเอียดเรื่องวิชาที่ทำให้หน้าเด็กเพิ่มเติมอีกครั้งครับ มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการวิเคราะห์อยู่
- การมีพลังฝีมือสูงส่งหลังจากได้ฝึกยอดวิชาเป็นอะไรที่สามัญมากๆเลยนะครับ ใครก็ตามที่ได้ฝึกยอดวิชาส่วนใหญ่ก็มักจะเก่งขึ้นผิดหูผิดตาเป็นธรรมดาที่สุด และอายุ 27-28 ก็ไม่น้อยนะเมื่อเทียบกับตัวละครอื่นๆ ก๊วยเจ๋งจบภาคแรกเป็นยอดฝีมือคนหนึ่งก็อายุราว 20 เอง เอี้ยก้วยสำเร็จกระบี่หนักโดยใช้เวลาฝึกแค่เดือนเศษตอนนั้นก็อายุ 20 บ่อกี้เองก็แค่ 21 ต้วนอี้ฝึกเท้าท่องคลื่นตอน 19 วิชาตัวเบาก็เลิศลอยแล้ว ต่อให้ตัดพวกพระเอกออกเพราะจะยกไว้เป็นกรณีพิเศษ ตัวละครอื่นๆเมื่อได้ฝึกยอดวิชาก็เก่งขึ้นมากเหมือนกัน อย่างจิวจี้เยียกเองก็พัฒนาขึ้นอย่างมาก จิวจี้เยียกอายุก็น้อยกว่าแม่นางชุดเหลืองเกือบ 10 ปีเลยนะ ถ้าได้ฝึกต่อเนื่องไปอีกเกือบ 10 ปี พลังฝีมือย่อมสูงกว่านี้มาก การได้ฝึกยอดวิชาแล้วดันไม่เก่งมาก นั่นต่างหากที่ผิดปกติ ถึงแม้จะมีความเป็นไปได้อยู่บ้างอย่างพวก บู๊ตงยู้ บู๊ซิวบุ้น ก๊วยพู่ แต่ก็ไม่เยอะครับ นี่ยังไม่นับว่าแม่นางชุดเหลืองอาจจะได้นอนเตียงหยกเย็นซึ่งจะเพิ่มพูนกำลังภายในขึ้นอีกมาก ตัวละครอื่นได้นอนเตียงนี้ไม่เท่าไหร่ เซียวเหล่งนึงพอ 18 ก็ยกเตียงให้เอี้ยก้วย เอี้ยก้วยเองก็นอนได้แค่ 2 ปี ถ้าแม่นางชุดเหลืองได้นอนมาตลอดจน 28 ก็นานโขอยู่

ก็ผมบอกไปแล้วไงครับ ว่าถ้ามันมีเหตุผลมารองรับว่าทำไมเป็นเช่นนั้น ถึงจะสมเหตุสมผล


เรียกว่าเป็นการพูดให้ถูกต้องดีกว่าครับ ไม่ใช่การเล่นคำ
ความสมเหตุสมผล ความน่าจะเป็น ความน่าเชื่อถือ มันคนละความหมายกันเลยครับ
และอย่างที่ คห.59บอก ความน่าจะเป็นมันเห็นได้ชัดเจนกว่า

แล้วเรื่องพลังฝีมือ ความสำเร็จของแม่นางชุดเหลือง มันขั้นสูงแล้วครับ
จิวจี้เยียกตั้งท่ากรงเล็บไว้บนหัวเจี่ยซุ่น อุ้ยเจ็กเซียวยังบอกว่าตัวเองวิชาตัวเบาสูงแต่ถ้าพุ่งเข้าหานาง นางคงชิงฆ่าเจี่ยซุ่นตายก่อน แต่แม่นางชุดเหลืองทำได้
การที่แม่นางชุดเหลืองพิชิตจิวจี้เยียกโดยง่าย หลายคนบอกว่าเพราะนางแตกฉานกรงเล็บกระดูกขาวแล้ว(ซึ่งตามนิยายแล้วจะใช้เวลา10-20ปีเลยทีเดียว)
และการที่คนคนนึงที่รู้กระบวนท่าฝ่ายตรงข้ามไม่ได้หมายความว่าจะพิชิตฝ่ายตรงข้ามได้ง่ายดายเสมอไป ความต่างชั้นของพลังฝีมือมันต้องต่างกันชัดเจนมากด้วย
พลังภายในของแม่นางชุดเหลือ นางโชว์แล้วว่าลึกล้ำจริง ตอนท้ายบ่อกี้ได้อ่านเก้าอิมยังคิดไปว่าแนวทางวิชาของแม่นางเสื้อเหลืองคล้ายกับว่าฝึกเก้าอิมมาจนสำเร็จแล้ว (เป็นอีกจุดหนึ่งที่มีการบอกตัวเลขสำหรับคนที่จะฝึกว่า ใช้เวลา20ปีเป็นอย่างน้อย)

เรื่องที่คุณเอาตัวละครอื่นมาเทียบ
ก๊วยเจ๋งตอนอายุ20 ได้เก้าอิมแบบสมบูรณ์และการเดินลมปราณแบบช้วนจินที่ส่งเสริมกับเก้าอิม ได้กินเลือดงูวิเศษ ได้ฝ่ามือพิชิตมังกรที่เป็นวิชาที่เหมาะกับเขาอีก และยังได้2มือพันตู
เอี้ยก้วยก็ฉลาดล้ำโลก ได้ดีงูมากมายมาส่งเสริมกำลังภายใน ได้เก้าอิมบางส่วน ได้คู่มืออย่างพี่อินทรีมาช่วยเป็นคู่ซ้อมทำให้เขาฝึกได้ถูกวิธี
บ่อกี้ความสำเร็จได้ขนาดนั้นเพราะได้เคลื่อนย้ายจักรวาลทำให้จำอะไรได้แม่นยำชัดเจนฝึกวิชาอะไรก็ง่าย ได้เส่งคุนมาช่วยทะลวงด่านสุดท้ายของเก้าเอี้ยงทะลวงจุดชีพจรทั่วร่าง ยังได้กินผลไม้วิเศษตอนฝึกเก้าเอี้ยงอยู่ในหุบเขา
และเพราะพวกเขาเป็นพระเอก จะเห็นได้ชัดว่าพระเอกของกิมย้งจะมีเหตุผลโน่นนี่นั่นมาทำให้เก่งไว คนทั่วไปกว่าจะเก่งได้ขนาดนั้น ถ้าไม่มีตัวช่วยคุณคิดว่าต้องใช้เวลาเท่าไร
หรือถ้าจะสมมติให้แม่นางชุดเหลืงได้ตัวช่วยเหมือนพวกพระเอก ก็แน่นอนว่าต้องลดความเป็นไปได้ลงไปอีก

เรื่องเตียงหยกเย็นนี้ (เคยถกกันไปแล้ว ไม่ส่งผลจริงในเรื่องเพิ่มพูลกำลังภายใน เพียงแค่อาจช่วยตอนฝึกให้ง่ายดาย ไม่โดนธาตไฟแทรก พิสูจน์แล้วด้วยเนื้อเรื่องของมันเองว่า ฝึก1ปีบนเตียงหยก=ฝึก10ปีไม่จริง)

--- - - - - - - - - - - - - - - - --- - - - - - - - - - - - - - - ---

เรื่องเงิน 500บาท กับ 2บาท
ผมว่ามันชัดเจนแล้ว ว่ามันผิดประเด็นไป จริงๆนะ
คุยกันในเรื่องความเป็นไปได้

เงิน500บาท กับ เงิน2บาท ..... ความเป็นไปได้ของมันคืออะไร ที่คุณจะเทียบ
คุณบอกว่า เงิน500บาทมีค่า เงิน2บาทก็มีค่า แต่500บาทมีค่ามากกว่า และไปบอกว่าคนอื่นพยายามเอาแต่บอกว่าเงิน2บาทก็มีค่า
ซึ่งคนอื่นเขาพูดถึงความเป็นไปได้ของแนวทางต่างๆ ว่าอันนั้น%มาก อันนี้%น้อย
แล้วการที่บอกว่าเงินทั้ง2จำนวนมีค่า ก็เป็นความจริง เป็นเรื่องของความจริงอย่างเดียว ยังไม่มีการเปรียบเทียบเชิงความเป็นไปได้
ตรงไหนที่มีการเปรียบเทียบความเป็นไปได้ของเงิน500บาท กับเงิน2บาท ?

เออ ถ้าบอก เอาเงินไปหยอดตู้เกม ครั้งละ1บาท
นาย ก มี500บาท เล่นได้500ครั้ง
นาย ข มี2บาท เล่นได้2ครั้ง
เพราะฉะนั้น นาย ก มีโอกาสชนะเกมมากกว่า เพราะเล่นได้หลายครั้งกว่า
แบบนี้จึงจะเห็นการเปรียบเทียบความเป็นไปได้

ก็ผมก็บอกอยู่ว่าลำพังตัวมันเองมันไม่สมเหตุสมผล ก็ถูกแล้วนี่ครับ
ผมอธิบายตรงนี้เพื่อที่จะบอกว่า การใช้คำว่า "ไม่สมเหตุสมผล" นั้นไม่ผิด เพราะด้วยเงื่อนไขนั้นมันไม่สมเหตุสมผลจริงๆ ถ้าจะให้สมเหตุสมผลจะต้องยกเงื่อนไขอื่นเพิ่มขึ้นมา ถ้าสิ่งที่ยกมายังไม่สมเหตุสมผลอีก ก็ต้องเปลี่ยนเงื่อนไขไปเรื่อยๆ ความเป็นไปได้ก็ลดลง

อีกอย่างผมก็ไม่ได้เห็นด้วยกับคุณนะครับ ว่าความสมเหตุสมผลมีค่าได้แค่ ถูกหรือผิด ผมคิดว่ามันก็มีระดับของมัน โดยเฉพาะกับเรื่องที่มีความซับซ้อนหรือมีข้อมูลต้องพิจารณาหลายด้าน เช่น แนวทางหนึ่ง มีส่วนที่เป็นเหตุผล 25 ส่วน ส่วนที่ขัดอยู่ 3 ส่วน ส่วนที่ประเมินไม่ได้ซัก 9 ส่วน กับอีกแนวทาง ส่วนที่ตรงตามเหตุผล 19 ส่วน ขัดเหตุผลอยู่ 8 ส่วน ประเมินไม่ได้ 10 ส่วน แบบนั้น 2 แนวทางก็มีความสมเหตุสมผลในระดับที่ไม่เท่ากันครับ หรือเรื่องบางเรื่องเราสามารถหาเหตุผลมาประกอบสนับสนุนเรื่องนั้นได้ 10 ข้อ อีกเรื่องหาเหตุมาประกอบได้แค่ 2 ข้อ แม้ทั้งคู่จะสมเหตุสมผล แต่ก็ไม่เท่ากัน ดังนั้นความสมเหตุสมผลเมื่อวัดโดยรวมแล้ว ไม่ได้มีแค่ถูกกับผิดครับ เพียงแต่ผมไม่อยากจะมานั่งเถียงเรื่องคำ กับคุณ เพราะมันนอกประเด็น

ดังนั้นจริงๆมันเป็นการเล่นคำเพื่อการถกเถียง ความหมายโดยภาพรวมสำหรับกระทู้นี้ จะใช้คำไหนมันก็เป็นไปในแนวทางเดียวกันครับ เว้นแต่จะแกล้งไม่เข้าใจ และผมก็ใช้หลากหลายคำ ทำไมถึงเลือกเฉพาะบางคำ ผมถึงได้บอกว่ามันเป็นการเล่นคำ เพราะดึงแค่บางคำมาเป็นประเด็น ถ้าผมจะทำแบบนั้นกับคุณก็ได้ ดึงเอาบางคำมา แล้วบอกว่าใช้ผิดหลักภาษาไทย แล้วเราก็จะเถียงกันไปมาเรื่อง คำ เรื่องหลักภาษา กระทู้ก็จะผิดประเด็นไป

จริงๆประเด็นนี้เราน่าจะผ่านกันไปได้แล้วนะ

------------------------------------------


ผมเห็นว่ามีข้อมูลที่ไม่น่าจะตรงอยู่หลายส่วนนะครับ

- พลังฝีมือของแม่นางชุดเหลืองขั้นสูงแล้ว ตรงนี้ไม่มีใครเถียง แต่อาจจะไม่ได้สูงจนโอเวอร์อะไร จากเนื้อเรื่องคลายกับว่านางได้ฝึกวิชา 9 อิม ถ้านางฝึกวิชามาตั้งแต่เด็ก นางก็ฝึกมาเกือบ 30 ปี ก็ไม่แปลกที่นางจะเก่ง หรือต่อให้ไม่ฝึก 9 อิม ถ้านางเป็นทายาทของเอี้ยก้วยกับเซียวเหล่งนึ่งจริง มีวิชาอีกมากให้ฝึก ดังนั้นนางอายุ 27-28 ก็สามารถเก่งมากได้โดยไม่ต้องฝึก 9 อิมด้วยซ้ำ

- การสยบจิวจี้เยียกจริงๆไม่จำเป็นต้องเก่งมากนักก็ได้ จุดหลักของจิวจี้เยียกคือความพิศดารของกระบวนท่า เรื่องกำลังภายในนางยังสู้ยู้เน้ยจิวไม่ได้เลย หลังจากยู้เน้ยจิวรู้เคล็ดความพิสดารก็พอที่จะสู้กับนางได้แล้ว ดังนั้นแม่นางชุดเหลืองถ้ารู้จักวิชากงเล็กกระดูกขาวอยู่แล้ว และพลังฝีมือแท้จริงไม่ด้อยกว่า ก็ไม่ยากเลยที่จะชนะได้

- ที่บ่อกี้บอกว่าฝึกตามลำดับซัก 10-20 ปี จะมีความสำเร็จอย่างสูง นั่นหมายถึง 9 อิมทั้งเล่มนะครับ ซึ่งมีอยู่หลายหลายวิชาในนั้น ลำพังกงเล็กกระดูกขาวไม่จำเป็นต้องฝึกนานขนาดนั้น ดังนั้นตรรกะที่ว่าแม่นางชุดเหลืองแตกฉานกงเล็กกระดูกขาวแปลว่าต้องฝึกมา 10 ปีแล้ว จึงไม่ถูกต้อง

- วิชาตัวเบาของสำสักสุสานโบราณก็เป็นเอกในแผ่นดิน ตอนเอี้ยก้วยฝึกก็ใช้เวลาไม่นาน แม่นางชุดเหลืองกล่าวไว้คล้ายกับว่านางมาจากสุสานโบราณ ดังนั้นการจะได้ฝึกวิชานี้ก็ไม่แปลก ดังนั้นการที่แม่นางชุดเหลืองมีความรวดเร็วพอที่จะไปช่วยเจียซุ่นจากจิวจี้เยียกได้ ก็ไม่ได้หมายความว่าต้องฝึกเป็น 10 ปี

- ผมบอกไว้แต่แรกแล้วว่าต่อให้ตัดพวกพระเอกออกไป คนส่วนใหญ่ที่ได้ฝึกยอดวิชาก็มักจะเก่งขึ้นอย่างมากเป็นธรรมดา ลองย้อยกลับไปอ่านดูเถอะครับ เรื่องไหนก็ตาม พวกที่ฝึกวิชาทานตะวันที่ไม่ใช่พระเอกในกระบี่เย้ย พวกที่ฝึกเปลี่ยนเส้นเอ็น พวกที่ได้ 9 อิมก็มีเพียบที่ไม่ใช่พระเอก ส่วนใหญ่ก็จะเก่งขึ้นอย่างรวดเร็ว และถึงแม้จะจริงอยู่ที่ 9 อิมฝึกยาก แต่ด้วยอายุของแม่นางชุดเหลือง ก็ไม่เห็นว่าจะขัดกับระยะเวลาเลยนี่

- เตียงหยกเย็นมีส่วนที่บอกว่าไม่ได้ผลด้วยเหรอครับ เท่าที่ผมอ่านในเรื่องก็บอกไว้ชัดเจนนี่ว่าเวลาคนฝึกวิชา พอนอนก็หายไป 9 ส่วน แต่ถ้าใช้เตียงนอกจากไม่หายยังมีส่วนเพิ่มพูนด้วย หรือผมข้ามอะไรไป?

- สิ่งหนึ่งที่คุณปักใจเชื่อคือแม่นางชุดเหลืองจะต้องอายุมากแล้วแต่ฝึกวิชาเลยหน้าเด็ก ทั้งที่ในเรื่องก็ไม่เห็นมีข้อมูลไหนที่ชี้ไปทางนั้นเลย

- สรุปว่า ต่อให้แนวทางทั้งหมดที่คุณยึดถือเป็นจริง สมมุติต้องสำเร็จ 9 อิมทั้งหมดเท่านั้นถึงจะจัดการกับจิวจี้เยียกได้ สมมุติว่าการฝึกให้สำเร็จ ต้องใช้เวลา 10-20 ปีจริงๆ และสมมุติเตียงหยกเย็นไม่มีผลใดๆจริงๆ ด้วยอายุของ แม่นางชุดเหลืองก็ยังอยู่ในขอบเหตุที่สมเหตุสมผลอยู่ดี ไม่จำเป็นต้องไปแต่งให้แม่นางชุดเหลืองฝึกวิชาหน้าเด็กอะไร

------------------------------------------

ผมยกตัวอย่างเรื่องเงิน 500 บาท กับ 2 บาท มา เพื่อเป็นตัวอย่างให้เห็นว่า เราเถียงกันคนละประเด็น ผมกำลังเปรียเทียบระหว่าง 2 เหตุการ ถ้าเป็นเงิน ก็เทียบระหว่าง 500 กับ 2 บาท โดยใช้ค่าเงินเป็นตัววัด แต่อีกฝ่ายเอาแต่บอกว่า 2 บาทมีค่า แต่เลี่ยงที่จะยอมรับตรงๆว่า 2 บาทน้อยกว่า 500 บาท บางทีก็เบี้ยงประเด็นไป หาว่าทำไมผมถึงไม่ยอมรับว่า 2 บาทมีค่า

ผมเปรียเทียบ "ค่าของเงิน" กับเรื่อง "ความเป็นไปได้" ไง

- คนอื่นไม่ได้พูดถึงอันไหน % มาก % น้อยครับ มีแต่ผมนี่แหละที่พยายามบอก พยายามเทียบว่าความเป็นไปได้มันไม่เท่ากัน อีกฝ่ายไม่ยอมเทียบด้วย เอาแต่บอกว่า มันเป็นไปได้ๆ ทั้งที่ผมก็บอกอยู่ว่ามันเป็นไปได้แทบทั้งนั้น แต่ไม่เท่ากัน

ตรงไหนที่มีการเปรียบเทียบความเป็นไปได้ของเงิน500บาท กับเงิน2บาท ?
- ก็ตรงผมนี่ไงครับ แต่เปรียบเทียบเป็นค่าของเงิน ระหว่าง 2 อย่าง แต่คนอื่นไปเถียงประเด็นอื่น ทั้งที่ประเด็นจริงๆคือการเปรียบเทียบระหว่าง 2 แนวทาง

ประเด็นทั้งหมดของตัวอย่างก็คือ ผม พยายามเปรียบเทียบข้อมูล 2 ชุด แต่คนอื่น เอาแต่พูดถึงข้อมูลชุดเดียว ว่าข้อมูลนั้นเป็นจริง แต่เลี่ยงที่จะเปรียบเทียบกัน


นี่ก็อีกประเด็นที่เราน่าจะผ่านกันไปได้แล้ว ไปถกกันในเนื้อเรื่องดีกว่า

ในนวนิยายจีน ที่มีความแปลกพิศดาล นั้นหาความสมเหตุสมผลนั้นยากยิ่ง เพราะครั้งจอมยุธอินทรี หลานเอี้ยก้วยหน้าตาไปไกล้เคียงกับก๊วยเจ๋งศิษข้าเหลือเกิน แต่แม่นางเล้งกลับหน้าตาสาวเหมือนสาวรุ่น17ตั้งแต่หลานเอี้ยเด็กจนแก่แม่นางเล็งน้อยก็คงสภาพอ่อนเยาคงเดิม

เอาหนา ทุกๆท่าน จะเป็นใครก็ช่าง ขอเเค่สวยก็พอ อิอิ

ผมว่าน่าจะเป็นเหลนเซียวเหล่งนึ่งนาาาาาา เพราะเซียวเหล่งนึ่งผ่านมาร้อยกว่าปีน่าจะกลายเป็นปุ๋ยไปแล้วมั้งงงงงงง

แต่สงสัยอยู่อย่างนึง นางเฒ่าทาริกา เทียนซานถงเหล่า กับ หลี่ชิวสุย จากแปดเทพฯมันมีอายุร้อยกว่าปีแล้วแม้จะฝึกวิชาที่ทำให้อ่อนเยาว์แล้วก็เหอะแต่ทำไมมันสองตัวยังวิ่งได้ยังเหาะเหิรเดินอากาศได้เหมือนเดิมเลยหว่าาาา

เฒ่าทาริกากับกับหลี่ชิวสุย อายุยังไม่ถึง 100 ครับ ในนิยายหลายเรื่องมีจอมยุทธอายุ 90 กว่าที่เดินเหินสบายอยู่เพียบ ในมักกรหยกก็มี พวก อึ้งเอียะซื้อ อิดเต็ง จิวแป๊ะทง หรือในดาบมังกรหยก จางซันฟง อายุ 110 ปี ก็ยังสบาย

คั้งแต่เกิดมาเพิ่งเคยเจอคนแบบคุณกระบี่หยกเย็น จริงๆ ขำว่ะ 5555555 เข้าใจละ ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างเลย ขอบคุณมาก

เอี้ยก๋วยและเซียวเหล่งนึ่งรู้จัก คัมภีร์เก้าอิม ตอนไหนอ่ะเอี้ยก๋วยและเซียวเหล่งนึ่งรู้จัก คัมภีร์เก้าอิม ตอนไหนอ่ะเอี้ยก๋วยและเซียวเหล่งนึ่งรู้จัก คัมภีร์เก้าอิม ตอนไหนอ่ะเอี้ยก๋วยและเซียวเหล่งนึ่งรู้จัก คัมภีร์เก้าอิม ตอนไหนอ่ะเอี้ยก๋วยและเซียวเหล่งนึ่งรู้จัก คัมภีร์เก้าอิม ตอนไหนอ่ะเอี้ยก๋วยและเซียวเหล่งนึ่งรู้จัก คัมภีร์เก้าอิม ตอนไหนอ่ะเอี้ยก๋วยและเซียวเหล่งนึ่งรู้จัก คัมภีร์เก้าอิม ตอนไหนอ่ะเอี้ยก๋วยและเซียวเหล่งนึ่งรู้จัก คัมภีร์เก้าอิม ตอนไหนอ่ะ

เข้ามาชม

ผู้น้อยชมชอบแนวทางของ ท่านกระบี่หยกเย็น ขอรับ
แม้เวลาจะผ่านไปกว่า 100 ปี แต่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
ที่แม่นาคชุดเหลือง จะเป็นเล้งยี้ หรือลูกเล้งยี้
เมื่อพิเคราะห์ในนิยายที่ กล่าวถึง วิชาสตรีหยก หรือ เฒ่าทาริกา
เล้งยี้ และ เอี้ยก้วย ต่างชมชอบฝึกปรือเคล็ดวิชาที่มีอยู่แล้ว และยังสรรค์สร้างวิชาใหม่ๆ
ประกอบกับ ทราบเรื่องราวที่เป็นความลับในยุทธภพ แทบจะทุกเรื่อง
และเมื่อพูดถึง พรรคยาจก และ ก้วยเซียง ก็พูดในแบบคนยุคเดียวกัน
และยังสยบ จิวยี่เจียก ได้ในกระบวนท่าเดียว
และอื่นๆ ..
ผู้น้อยจึงชมชอบแนวทาง ท่านกระบี่หยกเย็น ขอรับ

ล้ำเลิศ อ่านมาถึงรีนี้ขนลุกเลย ปวดเข้ขึ้นมาทันที

คำถามปัญญาอ่อนวะ

จับตวจ DNA เถอะครับ

บางตำราก็บอกเป็นเซียวเล่งนึง บางตำราก็บอกเป็นลูก แต่ไม่น่าจะใช่หลาน เอี้ยก้วยอาจจะยังไม่ตายก็ได้นะ ขนาดเจ้าสำนัก สราญรมย์ ในแปดเทพยังหนุ่มอยู่เลย ถ้าไม่ถ่ายทอดลมปราณให้ ซีจุ๊ จนหมด ก้คงไม่แก่ มีน้ำผึ้งหยก มีปลาที่เซียวเล่งนึงใช้รักษาพิษ มีวิชาลมปราณที่แข็งแกร่ง ถ้าเป็น รุ่นหลานความสัมพันธ์กับพรรคกระยาจกคงไม่แนบแน่นเท่านี้ นอกเสียจากจะสัมผัสมาด้วยคตัวเอง มีตอนนึงบอกว่า พรรคกระยาจก กับ สุสานโบราณ เป็นความเป็นมิตรต่อกัน ในครั้งก่อน นั่นก้คืออึ้งย้ง ก๋วยเซียง ทั้งมาช่วยชี้แนะง้อไบ ที่ก๋วยเซียงเป็นคนก่อตั้งมา วิเคราะห์กี่รอบ รุ่นหลานเอง น่าจะไม่น่าจะเข้าใจมาก

จอมยุทธ์พันหน้า ----เอี้ยก้วยรู้จักจากที่เฮงเต้งเอี้ยง สลักไว้ในสุสานโบราณ บางส่วน และได้เรียนจาก อ้าวเอี้ยงฮงบางส่วน รวมทั้งได้รับจากชี้แนะจากจิวแปะทง ที่ดัดแปลงมาเป็นสองมือขัดแย้ง จิวแปะทงเป็นอัจฉริยะวิชายุทธ เพียงศึกษาชั่วครู่ก้ฝึกสำเร็จได้เอง โดยไม่รู้ตัว จากเรื่องมังกรหยก 1 ที่ถูก มารบูรพา ขังไว้ในถ้ำ ไม่มีไรทำก้เอามือขวามือซ้ายสู้กันเอง โดยไม่รู้ว่าตัวเองคิดสุดยอดวิชาได้ ถึงอ้าวเอี้ยงฮงจะสอนมั่วๆ จากตำราที่อึ้งย้งแต่งให้ แต่เอี้ยก้วยเองก้รู้ว่าท่อนไหน มั่ว จากที่เอี้ยก้วยทัก แล้วอ้าวเอี้ยงฮง สติแตก หนีไป เอี้ยก้วยมาเจอเซียวเล่งนึง เซียวเล่งนึงก้ทิ้งอีก 5555+

เป็นหลานบุญธรรมของเอี้ยก้วย
เซียวเหล่งนึ่งเป็นหมัน

รู้ไปนั่น ว่าเซียวเหล่งนึ่งเป็นหมัน

ท่านกิมย้วยนี่จินตนาการล้ำเลิศจริงๆ