เข้าระบบอัตโนมัติ

กระบี่เย้ยยุทธจักร (เขียนเล่นๆ ครับ)


  • 1
mini_joe
#1   mini_joe    [ 10-08-2010 - 01:34:58 ]

ขอนำบทประพันธ์สุดยอดเรื่องนึงของปรมจารย์กิมย้งมาขีดๆ เขียนๆ เล่นๆ หลังจากที่ผมได้อ่านนิยายกำลังภายในเรื่องนี้หลายครั้งหลายด้วยความชอบ กับกระบี่เย้ยยุทธจักรที่ผมยอมรับมาก่อนว่าผมไม่เคยได้อ่านฉบับจริงๆ เลยจนกระทั่งสำนักพิมพ์บูรพัฒน์ได้นำมาทำเป็นการ์ตูนและก็เป็นความบังเอิญที่ผมได้ไปหยิบขึ้นมาอ่านและหลังจากนั้นก็วางไม่ลงอีกเลย ทั้งชุดมีกี่เล่มผมจำไม่ได้ แต่ก็ตามอ่านจนจบด้วยความเข้าใจในเนื้อเรื่องอย่างลึกซึ้งมากกว่าเดิมแน่นอนว่างานเลี้ยงก็ต้องมีเลิกราจนในที่สุดก็ถึงวันนั้นจริงๆ ว่า moment ของการ์ตูนเล่มสุดท้ายได้เวียนมาถึง ผมจำไม่ได้น๊ะคับว่าทั้งเรื่องทั้งภาพและการแปลนั้นทำโดยปรมจารย์ท่านใดแต่บอกได้คำเดียว (หลายคำก็ได้) ว่าทำได้ดีมากๆ อ่านแล้วเกิดความประทับใจพร้อมกับความสงสัยอะอะไรทำให้ท่านกิมย้งผู้นี้นั้นมองโลกได้ลึกซิ้งเข้าถึงความเป็นมนุษย์ได้เฉกเช่นนี้ ผมได้กลับไปอ่านหนังสือแปลของ น.นพรัตน์ รวมทั้งไปหา VCD มาดู ยิ่งเพิ่มความเข้าใจได้มากกว่าเดิม ว่าแล้วก็เลยคันไม้คันมืออยากจะถ่ายทอดแนวคิดของผมเองลงใน Blog แห่งนี้ ก่อนอื่นผมต้องขอปูเรื่องพื้นฐานก่อนว่ากระบี่เย้ยยุทธจักรเนี่ย เป็นเรื่องของความขัดแย้งความต้องการอำนาจ เล่ห์เหลี่ยม ต่างๆ ของผู้คนสมัยที่มีเจ้าสำนัก บู้ลิ้มหรือสุดแต่ที่เราเรียกกัน ในยุคนั้นความเข้นข้นทางสังคมของจีนเก่านั้นมีความเข้มข้นสูงมาก จีนเก่าที่ว่าก็คือ ความกตัญญู การให้เกียรติผู้หญิง การยึดมั่นในความรัก น้ำมิตร คุณธรรม และอีกหลายๆ อย่าง ที่สมัยนี้โบราณไปหมดแล้ว โดยท่านกิมย้งสามารถจะแยกแยะคุณลักษณะนิสัยของตัวละครแต่ล๊ะตัวได้ออกมาอย่างน่าทึ่งมากๆ ลองสังเกตุดูกันน๊ะครับว่าวรรณกรรมที่เป็นอมตะนั้น ไม่มีวันล้าสมัยไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปีมาแล้วก็ตามบทที่เป็นหลักของกระบี่เย้ยยุทธจักรนี้คือความเป็นปัจเจกบุคลคนของพระเอก “เล่งฮู๊ชง” ซึ่งสำหรับผมแล้วมีความใกล้เคียงกับคนธรรมดาทั่วๆ ไปมากที่สุด เล่งฮู้ชงไม่ได้ดีจนเข้าใกล้เทพ หรือเลวจนน่าหมั่นไส้ แต่เล่งฮุ้ชงมีความโลเล ไร้เหตุผลจนบางครั้งก็กลายเป็นความอ่อนแอแบบน่ารำคาญ แต่บุคลิคของเล่งฮู้ชงนั้นโดดเด่น และสง่างามด้วยความที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน เป็นคนที่ยึดมั่นในหลักการของตนเอง นับถือผู้มีพระคุณ และแสวงหาแต่ความสงบ ที่สำคัญขี้เกรงใจคน อยากให้ลองไปหาการ์ตูนชุดนี้อ่านดูนะครับจะได้เข้าใจเรื่องราวและเห็นภาพชัดเจนมากกว่าอ่านจาก review ของผมหน้านี้เพียงหน้าเดียว

จริงๆ แล้วโดยส่วนตัวผมไม่ได้ชอบเล่งฮู๊ชงมากนักเพราะรู้สึกว่าหมอนี่โชคดีเกินไป ได้ของดีๆ เกือบทุกอย่างโดยที่ไม่ได้แสวงหาหรือพยายามอะไรเลย หรือนี่อาจจะเป็นสิ่งที่คนทั่วไปเรียกว่าวาสนาก็ได้ แน่นอนล่ะว่าคนเราแข่งอะไรกันก็ได้แต่ไม่สามารถแข่งวาสนากันได้ ที่สำคัญแฟนของของคุณชายเล่งฮู้ นี่สวยมาก สวยเกินกว่าที่คนธรรมดาอย่างท่านเล่งฮู้น่าจะได้ครอบครอง แต่ก็อีกล่ะเรื่องแบบนี้ ชะตาฟ้าลิขิต ในหนังเรื่องนี้มีตัวละครสำคัญๆ หลายตัวมากๆ ต้องลองไปหาอ่านดูแล้วก็ลองตั้งสติมองคนรอบข้างตัวเรา หรือให้สนุกกว่านั้นให้ลองสถานะการณ์บ้านเมืองของเราดู จะพบว่ามีหลายตอนและหลายเหตุการณ์ที่ไม่แตกต่างจากกระบี่เย้ยยุทธจักรเลย ยิ่งทำให้ผมสำนึกว่าบทประพันธ์เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ดีมากๆ ถึงมากที่สุดเรื่องหนึ่งที่ผมเคยอ่านมา เพราะเรื่องนี้ได้สะท้อนภาพของจิตใจคนในสังคมในรูปแบบต่างๆ และทำให้เราได้มีโอกาส ได้เข้าใจในหลายๆ รูปแบบของจิตใจคนที่ไม่มีวันหยั่งถึง ไม่ว่าจะผู้ดีจอมปลอม แบบงั๊กปุ๊กคุ้ง ที่ชอบสร้างภาพว่าตัวเองเป็นผู้ดี มีน้ำใจยึดมั่นในหลักการและคุณธรรมโดยที่ไม่หวังผลตอบแทน แต่ท้ายที่สุดเมื่อสถานะการณ์เข้ามาถึงจุดที่จะต้องอาให้ได้ ผู้เฒ่าแซ่งั๊กก็ได้เปิดเผยความเป็นตัวเองออกมาว่า หลังฉากเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งตรงกันข้ามกับสิ่งที่แสดงออก (คิดอย่างทำอย่าง) ฝรั่งเค๊าเรียกว่า (True Color หรือสีที่แท้จริง) งั๊กปุ๊กคุ้งหลงไหลในอำนาจมากถึงขนาดฆ่าคนขโมยวิชาและ ใส่ร้ายศิษย์ตัวเอง ที่สำคัญที่สุดยอมตัดอวัยวะเพศของตัวเองเพื่อฝึกยุทธ เค๊าทำเพื่ออะไรคำตอบนั้นไม่ยากเลย ก็เพื่ออำนาจ และความเป็นใหญ่ กิเลสขั้นสูงสุดหรือ มาสเตอร์พีซของท่านเจ้าสำนักงั๊ก คือต้องการรวมสำนักห้าขุนเขา เพื่อความเป็นหนึ่ง แน่นอนท่านงั๊กย่อมหมายตาตำแหน่งประมุขสูงสุด

งั๊กปุ๊กคุ้งเป็น character ที่หลากหลายมากนะคับเป็นคนที่มีความอิจฉาสูงมาก ไม่อยากให้ใครเกินหน้าเกินตาตนเอง ทำทุกอย่างเพื่อให้ตนเองอยู่เหนือผู้คนทั้งปวง (และที่สำคัญต้องดูดี) สังเกตุได้ว่าในกลุ่มของงั๊กปุ๊กคุ้งนั้นไม่มีใครเด่นกว่าตัวของงั๊กปุ๊กคุ้งเองเลย และเมื่อเล่งฮู๊ชงเด่นเริ่มมากขึ้นก็จะโดนผลักออกมาในแบบทันทีทันใด

ในการ์ตูนวาดไว้ค่อนข้างดีนะคับว่าหลังตัดอวัยวะเพศแล้วอาจารย์งั๊กซุ่มเสียงเปลี่ยนไป หนวดหลุด จนขนาดต้องเอาหนวดปลอมปะไว้ (บรรยายได้ดีจนการ์ตูนชุดนั้น่าเก็บสะสมมาก) จุดจบของงั๊กปุ๊กคุ้งก็ดูแล้วน่าอนาจมากๆ โดนแม่ชีน้อยเสียบทะลุจากด้านหลังขณะจะฆ่าเล่งฮู๊ชงและก็ตายไปด้วยความคับแค้น ก่อนตายหนวดเคราหลุด ลงมา เปิดเผยตัวจริง (ผมชอบเฟรมนี้ของการ์ตูนมากนะ ที่เปิดเผยสีที่แท้จริงของคนก่อนตาย)

เยิ่นหวอสิง (หัวหน้าพรรคสุริยัน จันทราจากค่ายฝาไม้ดำ) เองก็มีจุดจบที่น่าอนาจไม่แพ้กันคือป่วยตาย เนื่องจากใช้ร่างกายเกินขนาดซึ่งเป็นผลจากการโดนกักขังมานานจากฝ่ายตรงข้าม พอมีโอกาสกลับมาก็ไม่ยั้งเลยกับการสนองความต้องการของตนเอง จริงๆ แล้วถ้าท่านเยิ่นเก็บตัวเสวยอำนาจบารมีที่มีอยู่และใช้ชีวิตอีกแบบหนึ่ง ท่านก็จะมีชีวิตที่สุขสบายเป็นที่น่าอิจฉาของคนอีกหลายล้านคนทั่วโลก แต่ใครจะรู้ครับว่าวันนึงถ้าผมเป็นเยิ่นหวอสิงผมจะไม่ทำอย่างนี้เพราะประมุขเยิ่นนั้นก็เรียกได้ว่ามาเกือบจะถึงสู่จุดหมายปลายทางที่ตนเองวาดไว้แต่ขาดไปอีกเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้นคือเป็นประมุขของยุทธจักร เช่นเดียวกับคำโบราณที่ว่า “แผนงานถูกวางโดยมนุษย์ ความสำเร็จขึ้นอยู่กับฟ้า”

แต่ที่ผมว่าอนาจสุดก็คือตงฟางปุ๊ป้าย (บูรพาไร้พ่าย) ที่ฝึกวิชาสำเร็จแล้วก็กลายเป็นกระเทย แถมยังมีชู้รักที่เป็นผู้ชายเป็นตัวเป็นตน แต่อย่างไรก็ดีผมว่าตงฟางปุ๊ป้ายน่านับถือกว่างั๊กปุ๊คุ้งตรงที่ในที่สุดก็รู้ว่าตัวเองอยากได้อะไรซึ่งท้ายที่สุดก็เก็บตัวอยู่เฝ้าสำนักของตน ทว่ากว่าจะรู้นั้นก็ถลำลึกหรือสายเกินไปแล้ว จริงๆ แล้วตงฟานปุ๊ป้ายก็คงแค่อยากจะทำตัวเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่รอสามีกลับบ้านก็เท่านั้น

ในการ์ตูนเล่มสุดท้ายฉากที่ผมชอบที่สุดก็คือ ภาพจินตนาการของเล่งอู๊ชงหลังจากที่เหตุการณ์สงบไปแล้วมองกลับไปที่เก้าอี้กับดักที่เตรียมทำไว้รอรับเยิ่นหวอสิง (ซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว) ภาพก็วาดเสมือนว่ามีเยิ่นหวอสิงนั่งหัวเราะอยู่ เหมือนว่าสะใจในอำนาจที่ตัวเองได้ครอบครอง (จ้าวยุทธจักร) แล้วก็มีคำพูดเขียนไว้ ซึ่งผมประทับใจมากจึงขอลอกมาดังต่อไปนี้คับว่า

"ยอดยุทธยอมสละเพื่อทุกสิ่งช่วงชิงความเป็นใหญ่ ตั้งแต่โบราณถึงปัจจุบันเหล่าจอมยุทธต้องห้ำหั่นเพราะคำว่าอำนาจ สุดท้ายก็ไม่มีผู้ใดได้ครอบครองอำนาจที่แท้จริง

สิ่งเที่ยงแท้คือความไม่เที่ยง ครอบครองความยิ่งใหญ่สุดท้ายก็เหลือเพียง “ความว่างเปล่า”

อำนาจทำให้มนุษย์เสียสติ แต่ไหนแต่ไรจะมีคนซั๊กกี่คนที่ปลงทุกสิ่ง ให้อิสระแก่ตนเอง และยิ้มเย้ยยุทธจักร"

ย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้นใครจะรู้ว่านวยิยายเรื่องนี้มีจุดเริ่มมาจากบทเพลงในตำนานเพียงบทเดียวเท่านั้น แต่บังเอิญเป็นบทเพลงที่บรรเลงจากบุคลที่มาจากสองฝั่งของแนวความคิด....

สุดท้ายขอขอบคุณท่านปรมจารย์กิมย้งที่ได้เขียนเรื่องนี้ให้คนรุ่นหลังอย่างผมได้มีสิทธิอ่าน มีคนไม่กี่คนที่เกิดแบบธรรมดาแต่กลายเป็นตำนานอย่างท่านหลังเสียชีวิต ขอขอบคุณสำนักพิมพ์บูรพัฒน์ที่เลือกเรื่องนี้ขึ้นมาพิมพ์ ทำให้ผมได้รู้จักตัวจริงและภาพที่ชัดเจนมากขึ้นของบุคลอย่าง งั๊กปุ๊กคุ้ง ตงฟางปุ๊ป้าย เยิ่นหวอสิง ลิ้มเพ้งจือ และคนอื่นๆ ผมได้ทดลองมองไปกว้างๆ ก็จะได้พบกับตัวตนของคนเหล่านี้ที่มีอยู่ทุกหนทุกแห่งรอบๆ ตัวเรา ไม่ว่าจะเป็นคนสนิทมากหรือสนิทน้อย แต่ถ้าเลือกได้ระหว่างอำนาจกับการนั่งดื่มไวน์ ฟังเพลงเก่าๆ กับสหายที่รู้ใจ ผมแน่นอว่าขอเลือกอย่างหลัง เพราะกลัวว่าวันที่ได้อำนาจมาสุดท้ายก็เหลือแต่ความว่างเปล่า อันนี้ก็ต่างจิตต่างใจครับ

เขียนเล่นๆ ไม่ชอบใจก็ต้องขอโทษด้วยน๊ะครับ



go6len9
#2   go6len9    [ 20-08-2010 - 19:48:30 ]

ปรบมือให้ เม้นเม้น



imeime
#3   imeime    [ 21-08-2010 - 09:22:03 ]

เก่งจังเลย เก่งจังเลย



  • 1
ตอบกระทู้
ชื่อ
รหัส กรอกตัวอักษร ตามภาพ
ข้อความ


emo-smile emo-happy emo-lol emo-enjoy emo-kiku emo-cool emo-hoho emo-drool emo-hungry emo-kiss emo-sorry emo-sad emo-cry emo-tear emo-question emo-doubt emo-shock emo-redface emo-plz emo-peevish emo-angry emo-moody emo-sneer emo-makefaces emo-good emo-touched emo-love emo-bore emo-tired emo-vomit
bold italic underline img link superscript subscript size color space justifyleft justifycenter justifyright quote box youtube