เก้ากระบี่เดียวดาย มี 9 รูปแบบการตั้งรับใช้ไหมคับ?

เก้ากระบี่ต๊กโก (เก้ากระบี่เดียวดาย)
เก้ากระบี่เดียวดาย เป็นหนึ่งในเคล็ดวิชาในตำนานของกิมย้ง ว่ากันว่าผู้บัญญัติมีฉายา ต๊กโกวคิ้วป่าย แปลว่า แสวงหาความพ่ายแพ้ ถูกอ้างถึงหลายเรื่อง ถ้าจะให้ว่ากันตามจริง อาจะนับได้ว่า เอี้ยก้วย ก็เป็นหนึ่งในผู้ที่เป็นทายาทของเค้าเนื่องจากได้พบหลุมศพพร้อมกระบี่ครบชุด ตั้งแต่กระบี่คมกริบ กระบี่หนัก และกระบี่ไม้ และยังได้ฝึกฝนเพื่อเพิ่มกำลังภายในด้วยแนวทางเดียวกันจากการแนะนำของอินทรีอีกด้วย แต่เอี้ยก้วยไม่ได้ฝึกท่ากระบี่นะ นั่นแปลว่ากระบวนท่าและเคล็ดวิชาทั้งหลายเอี้ยก้วยสะสมจากประสบการณ์แล้วคิดเองใหม่หมด ส่วนกำลังภายในเกือบทั้งหมดได้จากการรำกระบี่ในน้ำตก และในทะเล

เก้ากระบี่เดียวดาย ไม่ถึงกับไร้ผู้สืบทอด ฟงชิงหยางแห่งสำนักฮั้วซัวเป็นผู้สอนวิชานี้ให้แก่เหล็งหูชงอีกต่อหนึ่ง ตอนนั้นเหล็งหูชงมีกำลังภายในนิดหน่อย ฝึกไม่กี่ชั่วโมงก็เอาชนะดาบได้ หลังจากชนะเลยได้เรียนเก้ากระบี่เดียวดายทั้งชุด ก่อนฝึกจำได้ว่าฟงชิงหยางถาม จงใคร่ครวญให้ดี ฝึกแล้วอาจเสียใจภายหลัง การแสวงหาความพ่ายแพ้นั้นก็แย่เหมือนกัน ดูตัวอย่างจากต๊กโกวคิ้วป่ายได้

หลายคนเข้าใจผิดว่าเก้ากระบี่เดียวดายมี 9 กระบวนท่า จริงๆ แล้วเก้ากระบี่เดียวดายไม่ใช่ท่ากระบี่ แต่เป็นเคล็ดกระบี่ 9 เคล็ด
1. เคล็ดทำลายกระบี่
2. เคล็ดทำลายดาบ
3. เคล็ดทำลายทวนและกระบอง
4. เคล็ดทำลายโซ่และฉมวก
5. เคล็ดทำลายแส้
6. เคล็ดทำลายฝ่ามือ
7. เคล็ดทำลายเกาทัณฑ์ (อาวุธลับ)
8. เคล็ดทำลายลมปราณ
9. เคล็ดไร้ท่า ( กระบี่อยู่ที่ใจ แม้กิ่งไผ่ก็ไร้เทียมทาน )
อย่างที่บอกว่าเก้ากระบี่เดียวดายเป็นเคล็ดวิชา ไม่มีกระบวนท่าตายตัว ซึ่งโดยเนื้อแท้แล้ว เคล็ดทั้งหมดมีจุดมุ่งหมายเพื่อหาจุดอ่อนในจุดอ่อนนั่นเอง ความหมายของจุดอ่อนในจุดอ่อนก็คือ จุดอ่อนที่ไม่สามารถละเลยได้ ซึ่งตั้งอยู่บนสมมติฐานว่า ทุกกระบวนท่ามีจุดอ่อน จะมากน้อยขึ้นกับประสบการณ์ของผู้ใช้ เมื่อมองเห็นจุดอ่อนในจุดอ่อนเราก็สามารถจู่โจมจุดนั้น ผลก็คือคู่ต่อสู้ต้องป้องกันตัว ระหว่างป้องกันตัวก็จะมีจุดอ่อนเกิดขึ้นอีก เราก็โจมตีจุดอ่อนนี้อีก ทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ จนชนะ สรุปง่ายๆ ทุกกระบวนท่าสามารถทำลายได้ และเก้ากระบี่เดียวดายเป็นเคล็ดวิชาทำลายแบบหนึ่งต่อหนึ่ง ถ้าคู่ต่อสู้ใช้ 1 ท่าเก้ากระบี่เดียวดายก็มีเพียง 1 ท่า ถ้าคู่ต่อสู้ใช้ 100 ท่าเก้ากระบี่เดียวดายก็มี 100 ท่าเช่นกัน จึงได้ชื่อว่า “กระบี่ไร้พ่าย”

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเก้ากระบี่เดียวดายจะเป็นเคล็ดที่ไม่แพ้ แต่ไม่ได้บอกว่าจะชนะเสมอไป เมื่อใช้เก้ากระบี่เดียวดายจะเกิดกระบวนท่า ซึ่งสามารถถูกทำลายได้เช่นเดียวกัน หรือจะพูดตรงๆ ก็คือ เก้ากระบี่เดียวดาย มีโอกาสเสมอ เมื่อเจอกับคู่ต่อสู้ที่มีประสบการณ์สูงกว่า

หลักการสุดยอดของวิชากระบี่คือ
กระบี่อยู่ที่ใจหนึ่ง
กระบี่แรกต้องจู่โจมเข้าใส่จุดอ่อนที่สุดหนึ่ง
ปลายคมกระบี่ต้องถึงที่หมายด้วยระยะสั้นตรงที่สุดอีกหนึ่ง

กระบี่อยู่ที่ใจก็เพราะว่าใจกุมกระบี่
ใจหวั่นกระบี่ไหว
ใจกล้ากระบี่แกร่ง
ใจมั่นกระบี่แม่น
ใจแน่นกระบี่หนัก
ใจอ่อนกระบี่ล้า
ใจว่างกระบี่ไว


เหตุนี้เมื่อใจหวั่นไหวจึงต้องชักกระบี่ก่อน จุดอ่อนจึงถูกเปิดเผย
เพราะจุดอ่อนถูกเปิดเผยจึงเปิดช่องให้ถูกจู่โจม
เพราะเหตุที่ข้าศึกเข้าตีตรงจุดอ่อนที่สุดก่อน
ดังนั้น การจู่โจมไปที่จุดอ่อนที่สุด จึงถูกเป้าหมายที่สุดและได้ผลที่สุด
และเพราะเหตุที่ข้าศึกเข้าตีตรงจุดอ่อนจึงตั้งอยู่ในความประมาท
เพราะประมาทจึงต้องพ่ายแพ้
เพราะระยะสั้นตรงที่สุดปลายคมกระบี่จึงถึงที่หมายก่อน
เพราะปลายคมคมกระบี่ถึงที่หมายก่อน
แม้ข้าศึกชักกระบี่ก่อนก็ไม่มีโอกาสใช้กระบี่

ที่ผมรู้มาคือแบบนี้นะครับ วานท่านผู้อาวุโสตอบหน่อยว่าถูกไม่ถูกเช่นไร

อืม...ช่วงจุดอ่อนในจุดอ่อนนะครับ ที่ท่านบอกว่าถ้าพบจุดอ่อนอีก ก็จู่โจมไปเรื่อยๆ นั่นก็เป็นวิธีที่ถูกนะครับ แต่ว่า...ถ้าศุตรูสามารถปัดป้องได้ทั้งหมดล่ะ แล้วท่านมีอาการเหนื่อยล้าก่อนศัตรูท่านจะทำอย่างไร...

แล้วถ้าท่านต้องปะทะกับกระบี่ไทเก๊กล่ะ...(พอดีชำนาญ เลยเอามายกตัวอย่าง) ซึ่งท่วงท่าไม่แน่นอน และเน้นที่การปัดป้องมากกว่า เล้วเคล็ดไทเก๊ก 4 อย่างคือ ช้า เบา กลม และต่อเนื่อง ทำให้การป้องกันรัดกุมมาก ที่สำคัญคือใช้กำลังภายในในการเคลื่อนร่างกาย มากกว่าที่จะใช้กำลังกาย กำลังกายของท่านย่อมหมดก่อนอยู่แล้ว...แต่ที่ท่านกล่าวมาทั้งหมดก็นับว่าถูกทีเดียวครับ แต่ท่านไม่ได้กล่าวถึงกำลังภายนอก กำลังภายในและพลังวัตรเวลาสู้เลย ท่านกล่าวแต่เรื่องกระบวนท่า ถ้าท่านรู้เคล็ดวิชารู้กระบวนท่า แต่ไม่รู้เรื่องการใช้กำลังภายนอก กำลังภายใน มันก็ย่อมส่งผลให้ใช้วิชาได้ไม่เต็มอานุภาพครับ

แล้วผมยังไม่อาวุโลเลยนะครับ อายุอันดับท้ายๆของบอร์ดเลย...

ตอบพี่ท่าน คห.1-2 ครับ
เก้ากระบี่ต๊กโกและกระบี่ไทเก๊ก นั้นแนวทางคล้ายกันครับ คือเก้ากระบี่ต๊กโกนั้น แปรเปลี่ยนตามสภาวะของการต่อสู้ครับ(กระบี่ไทเก๊กนั้นต้อง ขอให้พี่ทานเปิดหูเปิดตา ข้าน้อยหน่อยแล้ว) 1 เคล็ดวิชาอาจมีเป็นหมื่นๆ กระบวนท่าครับ เพราะแต่ละครั้งที่ประมือ ไม่ว่าจะกับคู่ต่อสู้คนเดิมรึไม่นั้น กระบวนท่าก็ไม่เหมือนกันทุกครั้งครับ ดังเคล็ดวิชาไร้ท่าในลำดับที่9 ครับ

ที่ท่านบอกว่าแล้วถ้าปัดป้องได้หมดล่ะ
ในแต่ล่ะ ครั้งที่ร่ายรำกระบี่นั้นก็จะเกิดท่วงท่าขึ้นแน่นอนครับ ไม่เว้นแม้แต่เก้ากระบี่ต๊กโกด้วย ดังนั้นผมจึงบอกว่า ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของผู้ใช้เพลงกระบี่ ว่าจะมีความพลิกแพลงหาจุดอ่อนของคู่ต่อสู้ได้มากน้อยเพียงไรแล้วล่อหลอก เพื่อจู่โจมจุดอ่อนนั้นๆ ได้มากน้อยแค่ไหนซึ่งหากเจอคู่ต่อสู้ที่มีประสบการณ์ ก็พูดได้เลยครับว่า อาจจะไม่ชนะ แต่ก็ไร้พ่าย เพราะ เมื่อคู่ต่อสู้เริ่มลงมือ ผู้ใช้วิชาก็จะชิงจู่โจมจุดอ่อนที่เกิดตอนคู่ตอนสู้ใช้กระบวนท่าครับ
"หลักการสุดยอดของวิชากระบี่คือ
กระบี่อยู่ที่ใจหนึ่ง
กระบี่แรกต้องจู่โจมเข้าใส่จุดอ่อนที่สุดหนึ่ง
ปลายคมกระบี่ต้องถึงที่หมายด้วยระยะสั้นตรงที่สุดอีกหนึ่ง
กระบี่อยู่ที่ใจก็เพราะว่าใจกุมกระบี่
ใจหวั่นกระบี่ไหว
ใจกล้ากระบี่แกร่ง
ใจมั่นกระบี่แม่น
ใจแน่นกระบี่หนัก
ใจอ่อนกระบี่ล้า
ใจว่างกระบี่ไว


เหตุนี้เมื่อใจหวั่นไหวจึงต้องชักกระบี่ก่อน จุดอ่อนจึงถูกเปิดเผย
เพราะจุดอ่อนถูกเปิดเผยจึงเปิดช่องให้ถูกจู่โจม
เพราะเหตุที่ข้าศึกเข้าตีตรงจุดอ่อนที่สุดก่อน
ดังนั้น การจู่โจมไปที่จุดอ่อนที่สุด จึงถูกเป้าหมายที่สุดและได้ผลที่สุด
และเพราะเหตุที่ข้าศึกเข้าตีตรงจุดอ่อนจึงตั้งอยู่ในความประมาท
เพราะประมาทจึงต้องพ่ายแพ้
เพราะระยะสั้นตรงที่สุดปลายคมกระบี่จึงถึงที่หมายก่อน
เพราะปลายคมคมกระบี่ถึงที่หมายก่อน
แม้ข้าศึกชักกระบี่ก่อนก็ไม่มีโอกาสใช้กระบี่"

"เดี๋ยวมาตอบใหม่นะครับ ช่วงค่ำๆ..."

เก้ากระบี่เดียวดาย ใช้หลักรุกครับท่านแต่มันรับไปในตัวด้วยเป็นฝ่ายบุกว่างั้น คือตีจนเขารับไม่ได้มันเหมือนกับเจาะเกราะหาจุดอ่อน เจาะไปเรื่อยจนมันสิ้นหนทางรับ

ปล ถ้าเป็นในเรื่องกระบี่เดียวดายของเล่งหูช้งมันชนะกระบี่ไทเก๊กมาแล้ว แต่ส่วนตัวแล้วคิดว่ามันก็นิยายนั่นแหละกระบี่ไทเก๊กมันมีจริงแต่เก้ากระบี่เดียวดายกิมย้งเขียน ถ้าของจริงคงไม่รู้

อืม...นับได้ว่ายอดเยี่ยมนะครับ แต่ผมอายุ 15 ท่านอายุ 24 เรียกผมพี่เฉยเลย (จำผิดหรือเปล่าถ้าจำผิดขอโทษด้วยละกันนะครับ ไม่แน่ใจใช่ 24 มั้ย )

แล้วกระบี่ไทเก๊กมันมีกระบวนท่าระบุไว้ในคำภีร์เคล็ดวิชาซะที่ไหนเล่าท่าน...พลิกหาแล้วหาอีกยังไม่เจอซักกะท่าเลยท่าน...เจอก็แต่เคล็ด 3 ฝึก 3 ไม่ฝึก เคล็ด 4 อย่าง คือ ช้า เปา กลม ต่อเนื่อง และก็ สิ่งที่ต้องมี 5 อย่าง...เคล็ดวิชาไทเก๊กก็เป็นวิชาที่มีกระบวนท่าไม่แน่นอน ทั้งหมัดไทเก๊กและกระบี่ แต่ที่แน่นอนคือ ใช้กำลังศัตรูทำให้ศัตรูแพ้พ่ายภัยตนเอง ครับ...สรุปคือคล้ายๆกับที่ท่านกล่าวนั่นแหละครับ มันอยู่ทีประสบการณ์...

ตามความเข้าใจของเจ้าของกระทู้ ก็ค่อนข้างสมบูรณ์มากแล้วครับ

สิ่งที่ทำให้วิชาเก้ากระบี่เดียวดาย แตกต่างจากวิชาฝีมือทั่วไป มิใช่เพียงแค่ไร้ท่วงท่า หรือมี8เคล็ดทำลายและ1เคล็ดไร้ท่าหรอกครับ แต่วิชานี้เป็นเหมือนการถ่ายทอด เทคนิคที่ต๊กโกวรวบรวมมาชั่วชีวิต ที่ต๊กโกวได้ใช้ชีวิตของตัวเองเป็นรากฐานของวิชา ทำการปูพื้นตั้งแต่เริ่มต้นท่องยุทธจักร บอกเล่าเรื่องราวผ่านตัวกระบี่ ดังนั้นวิชานี้ คือ การฝึกให้คนที่ได้ใช้ต้องคิดและพลิกแพลงตลอดเวลา ในหัวต้องพยายามมองหาช่องว่างของอีกฝ่าย และทำลายจุดอ่อนที่พึงมี ในระยะเวลาอันสั้น เพื่อลดการสูญเสียกำลังภายใน เนื่องจากวิชานี้ไม่มีเคล็ดกำลังภายในครับ จัดว่าวิชานี้เป็นเคล็ดกระบี่ บวกกับเคล็ดเทคนิค(เชิงปัญญา) ก็ว่าได้

แล้วทีนี้ถ้าเกิดการเปรียบเทียบกับ เคล็ดไท้เก๊ก มันต่างกันตรงไหน? ความแตกต่างก็คือ 9กระบี่เวลาใช้ต้องเพ่งสมาธิครับ ต้องคำนวณในหัวตลอดเวลา แต่เคล็ดไท้เก๊กมีที่มาจากเต๋า รากฐานคือความใจเย็น สุขุม ดังนั้นจึงจะแตกต่างอย่างสิ้นเชิง ในเรื่องของต้นกำเนิดวิชา

พอพูดถึงกระบี่ไท้เก๊กนั้น ด้วยความที่รากฐานมาจากเต๋า จะยึดหลักไม่กระทำครับ... เพราะเต๋า ใจสงบ ไม่มีความรู้สึก แต่ด้วยความที่เต๋าสอนหลักแห่งความกลมกลืน หรือหยินหยาน แปลว่ายามที่เขารุกจู่โจมเราเข้ามา เราก็ต้องตอบโต้ด้วย ให้มันเกิดความกลมกลืน ในยามที่เรามองเห็นเคล็ดวิชาเราจดจำได้ เราก็ต้องลืมให้ได้ เพราะเต๋าคือธรรมชาติ ถ้าเราเข้าใจว่ากระบี่นั้นมายังไง เราก็จะตอบโต้ได้โดยที่เรามิจำเป็นต้องมีเคล็ดวิชาเลย นั่นคือหัวใจของไท้เก๊กครับ

...

เยี่ยมเลย

ที่ท่านฤทธานุภาพว่ามา ข้าก็ยกยกในฐานะวิชาสูงส่งของปรมจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ แต่จะว่าไปมันยากนักขอรับ ทำใจให้ว่างขณะที่อยู่กลางความเป็นความตาย เหมือนเปนวิชาชั้นสูงสำหรับพวกคนมีตบะ หรือ นักบวชที่จะควบคุมให้เป็นปกติในกรณีเจอศัตรูที่ร้ายการ มากๆ แล้วมันฟาอาวุทธชนิดรัวแหลกแลกชีวิต

ก็ทำให้ตนเองกลายเป็นคนไร้อารมณ์สิครับ ทำใจได้แน่...

คนชราคิดมากอย่างข้า ทำอย่างท่านคงยาก ก่อนอื่นข้าคงต้องไปฝึกบำเพ็ญกิริยา ฝึกกรรมฐานขั้นต้นก่อนกระมัง

... อ่า...

กระบี่ ไร้ ตา

...

9กระบี่เดียวดาย ต้องเจอเทพกระบี่ฟ้าคำรน ฟางจื้อหลง รับรองว่าหนาวแน่

จากเรื่องอะไรหรอ เทพกระบี่ฟ้าคำรน ฟางจื้อหลง พึ่งเคยได้ยิน

เคล็ด 9 กระบี่
1.เป็นเคล็ด ทำลาย ทั้ง 9 มิใช่ตั้งรับ

2.เคล็ด 9 กระบี่ มีแต่รุกไม่มีถอยทุกกระบวนท่าาล้วนบุกจู่โจมใส่ตำแหน่งที่ศัตรูมิอาจต้านรับ เป็นแนวทางเดียวกับกับที่เอี้ยก้วยเจอกระบี่คมในสุสานกระบี่
กระบี่คมกระบี่เล่มที่ 1 ข้อความดังนี้ “เกรี่ยวกราดรุนแรง ทำลายล้างทุกสิ่ง เมื่อวัยหนุ่มฉกรรจ์ ใช้ชิงชัยกับเหล่าผู้กล้าแคว้นฮ่อซวก”

3.เคล็ดทั้ง 9 ฟงชิงหยาง บอกว่าต๊กโกวบัญญัติ แต่ตอนเอี้ยก้วยเข้าสุสานกระบี่กลับไม่พบ ไม่รู้เอี้ยก้วยบัญญัติโดย ให้เครดิตต๊กโกวหรือเปล่า

4.ข้อเสียเคล้ด 9 ทำลาย หากเจอศัตรูที่ประสบการณ์สูงกว่า และไวกว่า เคล็ดทำลายทั้ง 9 นี้ก็มิอาจเอาชัย ต๊กโกวจึงได้ ฝึกกระบี่หนัก
กระบี่เล่มที่ 3 เป็นกระบี่สีดำมีน้ำหนักมาก ปลายโค้งมนไม่มีคม เมื่อเอี้ยก้วยเห็นจึงคิดว่า กระบี่แบบนี้ไหนเลยใช้ได้คล่องแคล่วถนัดมือ แต่ใต้กระบี่มีข้อความจารึกไว้ว่า “กระบี่หนักไร้คม ใช้ได้คล่องแคล่ว ฝีมือการสร้างไม่ประณีต ก่อนอายุสี่สิบใช้พิชิตทั่วแผ่นดิน”

เมื่ออายุมากขึ้น มิได้คิดแต่จะทำลาย แล้วสมัยหนุ่มยั้งพลั้งมือฆ่าคน สูงสุดสู่สามัญ ฝึกกระบี่หนักเพื่อเพิ่มความคล่องแคล่ว และลมปราณ หากเจอผู้ใช้วิชาแนวเดียวกันมิอาจเอาชัย เกรี้ยวกราดรุนแรงมีแต่รุกไม่่มีถอย มิอาจเพียงพอ ต้องมีลมปราณที่แกร่งกล้า และท่าร่างที่ว่องไว ราวกับกิมย้งจะแต่งว่ายิ่งอายุมาก ใจเย็นขึ้น หนักแน่น ทำอะไรคิดมากขึ้น