คัมภีร์ทานตะวัน ของ ตงฟางปุ๊ป้าย

ก็นั่นแหละครับตัดแบบขันที(แล้วไอ้ที่เป็นแท่งๆนี่ไม่หวงรึไงครับ)แต่ยังไงก็ชอบครับรักมากมาย

อ้อ ... ข้าน้อยหวง "ทั้งไข่ ทั้งแท่ง" น่ะขอรับ

แสดงว่า ตัดของรักของหวงทิ้ง มันก็ตัดทั้งยวงนี่ขอรับ

แต่ตัดแบบขันที มันไม่ได้ตัดแบบทั้งยวงนะขอรับ !!

แล้วยานั่นก็ไม่ได้ทำให้ตังฮึงปุ่กป่าย มีอาการเบี่ยงเบนทางเพศ นะขอรับ !!!

ลองทดสอบ

คัมภีร์ทานตะวันเป็นของขันทีทำขึ้นก่อนเหตุการณ์ในละคร 300 ปีก่อน...เคล็ดวิชาที่สำคัญคือ การตัดองคชาติทิ้ง เพื่อให้ผู้ฝึกเพศชายที่มีพลังหยาง ได้รับพลิงหยินของเพศหญิงเสริมไป...ในฉบับนิยายได้กล่าวว่า ตงฟางปุ๊ป้าย ได้รับคำภีร์ทานตะวันจากเยียหวอสิง เป็นของกำนันในการทำความดีความชอบ และได้ทำการฝึก ทั้งอาบแช่น้ำยาว่านต่างๆ จนสำเร็จวิชา มาทำการแย่งชิงอำนาจจับเยียหวอสิงไปขังใต้ทะเลสาบ...หลังจากที่ครองความเป็นใหญ่...ได้ฆ่าทิ้งนางบำเรอของตนมากมาย เนื่องจากรับสภาพของตนเองไม่ได้ และหมดอาลัยตายอยากต่อทุกสิ่งเก็บตัวบนผาไม้ดำ เย็บปักถักร้อยไปเหมือนผู้หญิงทั่วๆไป....

ตงฟาง ตอนหำ ครับ เลยฝึกสำเร็จ ตามต้นฉบับ กิมย้งได้กล่าวไว้ เย่นหว่อสิง ไม่กล้าฝึกเพราะความเสียงสูง

ที่ตงฟางฝึกคือฉบับสมบูรณ์แล้วครับ ส่วนกระบี่ปราบมารคิดว่าไม่น่าจะสมบูรณ์เพราะมาจกาการท่องจำของศิษหัวซานทั้ง 2 คนที่ขัดแย้งกันว่าใครท่องผิดทำให้เนื้อหาไม่ต่อกันอะครับ ต่อมาหัวซานเกิดการฆ่าล้างสำนักชิงความเป็นใหญ่ก็มมีสาเหตุจากการขัดแย้งนี้เพราะตอนได้เห็นคำภีร์ทานตะวันนั้นมีเวลาน้อยเลยแบ่งกันท่องคนละครึ่งพอเอามารรวมกันเลยไม่ปะติดปะต่อกัน เพราะมันมีสายพลังวัชร กับสายกระบี่ เลยเป็นเหตุให้หัวซานแยกเป็น 2 พวกคือสายพลังวัชรกับสายกระบี่สู้กันสุดท้ายสายกระบี่พ่ายถูกฆ่าล้างเกือบหมดสายพลังวัชรก็นำโดยงักปุคุ้มอาจารย์ของพี่หลิงนะเหละครับ นั้นคือสาเหตุว่าทำไมเพลงกระบี่ของหัวซานกากที่สุดใน 5 ขุนเขากระบี่แต่ทำไมฟงซินหยางเก่งกระบี่โครตเทพเพราะเป็นศิษสายกระบี่และยังได้เรียนรู้ 9 กระบี่เดียวดายครับ ส่วนทำไมเยิ่นหว่อสิงถึงไม่ฝึกก็เพราะไม่กล้าตัดน้องชายอะครับ

เหตุใดพวกเจ้าจึงเข้าใจผิดกันไปยกใหญ่ เดิมคัมภีร์นี้คิดค้นโดยขันที วังหลวงต่อมา คัมภีร์ตกมาถึงวัดเส้าหลิน มีศิษย์ฮั้วซัว 2 คนลักลอบจดจำเคล็ดวิชาไปคนละครึ่ง ต่อมาเอามารวมกัน ต่างคนต่างจดจำได้ไม่หมด ต่างโทษกันเองว่าอีกฝ่ายแอบกั๊กไว้ ทั้ง 2 ตีความคัมภีร์ไปคนละทาง จึงเกิดแยกเป็นฝ่ายลมปราณ และฝ่ายกระบวนท่า สมณะใบไม้แดงเห็นวิชาเป็นพิษภัยจึงทำลายต้นฉบับทิ้งโยนเข้ากองไฟ และให้ศิษย์ตามไปเกลี้ยกล่อม ศิษยืฮั้วซัวทั้งสองว่ามิให้ฝึก ตอนนี้จะแบ่งเป็นสองประเด็น

หลังจากไปเกลี้ยกล่อม ศิษย์ฮั้วซัวสองคนนั้นคิดว่า ศิษย์เส้หลินคนนี้เคยฝึกวิชานี้มาก่อน จึงนำให้ดู จึงได้เห็น วิชาที่ทั้งสองแอบจดจำมา ตกกลางคืนจึงแอบจด เคล้ดวิชาลงในจีวร และด้วยความฉลาดเฉลียว สามารถนำทั้งสองส่วนมาสอดประสานเข้ากันได้และหลังจากลงเขาฮั้วซัว ได้เลิกจากการออกบวช เปลี่ยนชื่อเป็นลิ้มเอ็งโค้ว เปิดสำนักคุ้มภัย และเรียกวิชานี้ว่า เพลงกระบี่ปราบมาร 72 ท่า เนื่องจากต้องตอนตัวเองฝึกวิชา จึงไม่มีทายาท แต่รับบุตรมาเลี้ยง ตกทอดมาสู่รุ่นพ่อลิ้มเพ้งจื่อ

ส่วนศิษย์ฮั้วซัวทั้งสอง ด้วยความไร้ปัญญา และคัมภีร์มีความลึกล้ำ เคล้ดวิชาที่แบ่งกันจดจำมา ไม่สามารถสอดประสานต่างฝ่ายต่างโทษกันว่าจำมาผิด จึงรวมเป็นฉบับไม่สมบูรณ์ จึงแยก แยกเป็นฝ่ายลมปราณ และฝ่ายกระบวนท่า ภายหลังพรรคอสูร บุกขึ้นฮั้วซัว กำจัด ศิษย์ทั้งสองของฮั้วซัวได้ และได้นำคัมภีร์ไม่สมบูรณ์นี้กลับไป

สรุปไม่มีใครได้ฝึกคัมภีร์สมบูรณ์

ความจริง นิยายบอกว่าสองอาวุโสแห่งหัวซานจดจำได้ทุกตัวอักษร แล้วทำไมเมื่อเขียนออกมา มันถึงประติดประต่อกันไม่ได้ ก็ไม่เข้าใจ
อาจเป็นเพราะ การเรียบเรียง การลำดับความ ที่ผิดไปบ้าง แต่ยังไงซะเราถือว่าทานตะวันฉบับหัวซานนี้ครบสมบูรณ์ แต่สมบูรณ์ในแบบจิ๊กซอที่ยังต่อไม่เสร็จ อยู่ที่ว่าผู้ที่ได้ไปจะมีความสามารถพอที่จะเข้าใจแล้วประกอบจิ๊กซอนี้ได้หรือเปล่า และตงฟางปู้ป้ายก็เหมือนจะทำได้ มั้ง

1.ทานตะวันที่ตงฟางฝึก คือ สมบูรณ์แบบไม่สมบูรฌ์
ตัวตงฟางเอง ก็ฝึกก็เป็นถึง รองประมุข น่าจะมีวิชาดีๆเด็ดๆ บ้างละ
2. เพลงกระบี่ปราบมาร ้ป็นเพลงกระบี่ ที่ใช้ ทานตะวันเป็บแบบ ในการแตก ออกมาเป็นวิชา กระบี่

ทานตะวัน จริงๆ แล้วน่าจะเป็น แต่วิชาฝึกกำลังภายในมากกว่า ไม่น่ามีกะบวนท่า

ผู้หญิงฝึกไม่ได้ครับ ลมปราณคนละแบบกับผู้ชาย