เข้าระบบอัตโนมัติ

จักรวาลของ กิมย้ง


อิตเต็งไต้ซือ
#1   อิตเต็งไต้ซือ    [ 07-05-2008 - 19:35:48 ]


8เทพ

แปดเทพอสูรมังกรฟ้า (จีนแต้จิ๋ว: เทียนเล้งโป๊ยโป๋ว ; จีนกลาง: 天龍八部เทียนหลงปาปู้ ; อังกฤษ: Demi-Gods and Semi-Devils) เป็นนิยายกำลังภายในของกิมย้ง

จำลอง พิศนาคะ แปลเรื่องนี้ในชื่อ มังกรหยก ภาค 5 เพื่อให้เข้าชุดกับมังกรหยก แต่ชื่อที่เป็นที่รู้จักมากกว่าคือ แปดเทพอสูรมังกรฟ้า ซึ่งเป็นฉบับแปลของ น. นพรัตน์ซึ่งเรื่องนี้ความจริงน่าจะเรียกว่ามังกรหยกภาค 1 ซะมากกว่าเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องราวก่อนยุคของก้วยเจ๋วซึ่งเป็นตัวเอกในมังกรหยกภาค 1

"แปดเทพอสูรมังกรฟ้า" เป็นผลงานลำดับที่ 11 ของกิมย้ง นับตั้งแต่ชื่อเรื่อง และที่มาของแรงบันดาลใจ แสดงความใฝ่ใจในพุทธศาสนาของเขา ชื่อภาษาจีน "เทียนหลงปาปู้" หมายถึง เทพและอมนุษย์ 8 จำพวก ในตำนานของพุทธศาสนานิกายมหายาน ซึ่งมีอิทธิฤทธิ์เฉพาะตนแตกต่างกันไป ประกอบด้วย

1. เทพ เป็นผู้มีบุญกุศล อาศัยอยู่ในสวรรค์ที่พรั่งพร้อม และอิ่มทิพย์ ทว่า ยังไม่อาจละกิเลสจากโลกียสุข เช่น ยังอยากได้หญิงงามของอสูร เป็นต้น

2. อสูร เป็นอมนุษย์ในภพภูมิที่หยาบกว่าเทพ หากเป็นชายจะสุดอัปลักษณ์ หากเป็นหญิงจะมีรูปโฉมสะคราญ อสูรมักทำสงครามกับเทพบ่อยครั้ง เพราะต่างริษยาในกันและกัน อสูรอยากได้สวรรค์และความอิ่มทิพย์ของเทพ เทพอยากได้นางงามและภักษาหารรสโอชาของอสูร ต่างสัประยุทธ์กันจนฟ้าดินปั่นป่วน

3. มังกร หรือนาค เป็นผู้สืบทอดพิทักษ์ศาสนา เปรียบกับพระชั้นผู้ใหญ่ หรืออุปถัมภกคนสำคัญ

4. ครุฑ เป็นนกที่ยิ่งใหญ่ เมื่อกางปีกออกจะครอบคลุมดินฟ้าสามแสนหกหมื่นลี้ และมีฤทธิ์มาก สามารถสร้างความสั่นสะเทือนให้แผ่นดินและจักรวาลได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แต่ในหนึ่งวัน ต้องกินมังกร 1 ตัว และลูกมังกร 500 ตัวเป็นอาหาร มักกล่าวกันว่า วีรบุรุษคนสำคัญคือครุฑมาเกิด

5. ยักษ์ เป็นภูตประเภทหนึ่ง อยู่ระหว่างพรมแดนของเทพ อสูร และมนุษย์ มีความแข็งแรง คล่องแคล่ว เป็นกำลังที่เคลื่อนไหวได้ทั้งดีและชั่ว บางยักษ์ช่วยคุ้มครองมนุษย์ บางยักษ์ชอบจับมนุษย์กิน

6. คนธรรพ์ เป็นเทพมังสวิรัติ ไม่แตะต้องเนื้อสัตว์สุรา แต่หลงใหลในความงามและกลิ่นหอม ส่วนตนมีฉายาและกลิ่นหอมชวนให้ผู้คนลุ่มหลง ทั้งยังแปลงกายเปลี่ยนรูปได้สุดหยั่งคะเน

7. กินนร เป็นเทพที่ชอบร้องรำทำเพลง และสร้างสีสันสำราญใจให้แก่ชาวสวรรค์

8. มโหราค เป็นอมนุษย์ชั้นต่ำต้อยที่สุด บ้างมีลำตัวเป็นมนุษย์ ศีรษะเป็นงู บ้างมีลำตัวเป็นงู ศีรษะเป็นมนุษย์ มีฤทธิ์มาก แต่ไม่มีใครอยากยุ่งเกี่ยวด้วยนัก

เทพอสูร 8 เหล่าในความเปรียบทางธรรม ยังหมายถึง ความเปิดกว้างโดยเมตตาของพระพุทธศาสนา ซึ่งไม่ว่าเผ่าพันธุ์วรรณะใด ล้วนมีสิทธิที่จะสดับฟังธรรมะของพระพุทธเจ้า สามารถแสวงหาความเข้าใจ ความหลุดพ้นจากทุกข์ และบรรลุธรรมได้โดยเสมอภาคกัน

กิมย้งเขียนเรื่องแปดเทพอสูรมังกรฟ้าในปี พ.ศ. 2506-2510 และปรับปรุงพิมพ์เป็นเล่มในปี พ.ศ. 2521 ฉบับภาษาไทย จำลอง พิศนาคะ แปลสำนวนแรกในปี พ.ศ. 2522 ใช้ชื่อว่า "มังกรหยกภาคบริบูรณ์" แต่เนื้อหาและเหตุการณ์ตามท้องเรื่องไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับมังกรหยกทั้ง 3 ภาคเลย ฉากหลังเป็นประวัติศาสตร์ช่วงก่อนมังกรหยกภาคแรกประมาณ 100 ปี

ก่อนหน้านั้น ราชวงศ์ซ้อง (ซ่ง) ดำเนินนโยบายลิดรอนอำนาจขุนศึก และนิยมลัทธิขงจื๊อใหม่ กำลังของส่วนกลางจึงไม่เข้มแข็งนัก ช่วงเวลาตามท้องเรื่องแปดเทพอสูรมังกรฟ้า แผ่นดินจีนแบ่งออกเป็น 5 อาณาจักร ของหลายชนเผ่า

ตรงกลางคือต้าซ้องของชาวฮั่น ด้านเหนือคือต้าเหลียวของชาวชี่ตัน ด้านใต้คือต้าหลี่ ด้านตะวันตกเฉียงเหนือคือซีเซี่ย และด้านตะวันตกเฉียงใต้คือถู่ฝาน ต่างฝ่ายต่างอยากกลืนอาณาจักรอื่น และอาณาจักรที่ล่มสลายไปแล้วอย่างเยี่ยน ก็มีคนคิดฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ ศึกสงครามจึงไม่สงบโดยง่าย

ตัวละครมีมาก เรื่องราวก็ซับซ้อน กิมย้งใช้วิธีเล่าถึงทีละคน ทีละเหตุการณ์ ไล่เรียงกันไป หากอุปมาเทพอสูร 8 เหล่า เป็นตัวละครต่างๆ อาจเปรียบได้ว่า

1. เทพ คือ ต้วนเจิ้งหมิง-ฮ่องเต้ต้าหลี่ ต้วนเจิ้งฉุน-อ๋องต้าหลี่ และ เยลุกี-ฮ่องเต้ต้าเหลียว เป็นผู้มีบุญบารมี แต่ยังไม่อาจละวาสนาติดพัน เช่น ต้วนเจิ้งหมิงไม่อาจละพันธะที่ผิดต่อต้วนเหยียนชิ่ง ต้วนเจิ้งฉุนไม่อาจละหญิงงามได้สักนาง และเยลุกีก็อยากรุกรานแผ่นดินต้าซ้อง

2. อสูร คือ ต้วนเหยียนชิ่ง-ผู้ถูกตัดสิทธิ์ในบัลลังก์ต้าหลี่อย่างไม่เป็นธรรม มู่หยงป๋อกับมู่หยงฟู่-บุตรชาย ยึดมั่นกับอาณาจักรที่ล่มสลายไปแล้ว จึงสร้างเวรก่อกรรมเพื่อทวงคืนสิ่งนั้น

3. มังกร คือ เจ้าอาวาสวัดเทียนหลง ซึ่งชักนำต้วนเจิ้งหมิงให้สละบัลลังก์ใฝ่หาความสงบทางธรรม หรือเสียนขู่ไต้ซือแห่งวัดเส้าหลิน สมณะผู้สั่งสอนวิทยายุทธ์และปลูกฝังคุณธรรมให้แก่เฉียวฟง และอู๋หมิงไต้ซือ ช่วยคลี่คลายความแค้นระหว่างเซียวหยวนซานกับมู่หยงป๋อ

4. ครุฑ คือ เฉียวฟง-ยอดคนผู้ยิ่งใหญ่และรันทด

5. ยักษ์ คือ เหล่าจอมยุทธ์ฝีมือร้ายกาจ บ้างดี บ้างร้าย บ้างทั้งดีและร้าย อย่างบรรดาชาวยุทธ์ที่บางครั้งถูกปลุกปั่นให้ทำร้ายคนบริสุทธิ์ด้วยความเข้าใจผิด

6. คนธรรพ์ คือ ต้วนอี้-ผู้มีจิตใจบริสุทธิ์ ไม่เป็นพิษเป็นภัยกับใคร เพียงหลงใหลในรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส เหมือนกับซีจุ๊-หลวงจีนที่ทำผิดวินัยสงฆ์โดยไม่ตั้งใจ ต่อมาได้เป็นราชบุตรเขยของอาณาจักรซี่เซี่ย

7. กินนร คือ เหล่านางงามของต้วนเจิ้งฉุน และบุตรสาวทั้งหลายของเขา ซึ่งงามหยดย้อย แต่ชีวิตเป็นทุกข์นัก เพราะต่างไม่อาจครองรักไว้คนเดียว

8. มโหราค คือ โหยวตั้นจือ เป็นคนมีฝีมือ แต่น่าสงสารที่สุด เพราะขาดปัญญาชี้นำที่ถูกต้อง เขาหลงใหลในสตรีนางหนึ่ง แต่นางกลับทำลายใบหน้าของเขาจนอัปลักษณ์ และเอาเปรียบโดยตลอด

ตัวละครแต่ละจำพวก คล้ายต่างคนต่างอยู่ และมีปัญหาต่างกัน แต่กลับเชื่อมโยงเกี่ยวข้องและประหวัดเป็นปมเดียวกัน จากการมองพ้นคุณธรรมน้ำมิตรของชาวยุทธ์ ลดขนาดความสำคัญของประธานและกรรมในเรื่องเล่าให้เล็กลง แล้วหันมามองว่าแต่ละคน แต่ละเหตุการณ์ มีส่วนประกอบของปัจจัยอะไรบ้าง สืบเนื่องกันมาอย่างไร และแสดงธรรมชาติของมนุษย์ในสภาวการณ์หนึ่งอย่างไร

แปดเทพอสูรมังกรฟ้าจึงไม่ใช่นิยายกำลังภายในที่ว่าด้วยการต่อสู้ระหว่างธรรมะกับอธรรม หากเป็นการต่อสู้ระหว่างคนกับชีวิตที่เป็นทุกข์จากกิเลสที่แตกต่างกัน และแปรเปลี่ยนไปสุดจะหยั่ง

==เรื่องย่อ==แปดเทพอสูรมังกรฟ้า


[แก้] ตัวละครสำคัญ
แปดเทพอสูรมังกรฟ้า มีตัวเอก 3 คนดังนี้

เฉียวฟง หรือ เซียวฟง
ต้วนอี้ หรือ ต้วนอื้อ
ซีจุ๊ หรือ ฮือเต็ก
ตัวละครอื่นๆ

ต้วนเจิ้นฉุน
มู่หยงฟู่
หวังอวี่เยียน หรือ เฮ้งอวิ้เหงียน
อาจู
อาจื่อ หรือ อาจี่
มู่หวั่นชิง
ติงชุนชิว หรือเต็งชุนชิว





อิตเต็งไต้ซือ
#2   อิตเต็งไต้ซือ    [ 07-05-2008 - 19:37:09 ]

มังกรหยก

มังกรหยก (อักษรจีนตัวเต็ม: 射鵰英雄傳; อักษรจีนตัวย่อ: 射雕英雄传; พินอิน: shè diāo yīng xióng zhuàn) เป็นนิยายกำลังภายใน แต่งโดยกิมย้ง มีภาคต่อในชุดเดียวกันอีกสองภาค คือ มังกรหยก ภาค 2 และดาบมังกรหยก แต่ชื่อเรื่องภาษาจีนและภาษาอังกฤษนั้นแยกกันเป็นคนละเรื่อง (ชื่อเรื่องภาษาอังกฤษ คือ The Legend of the Condor Heroes หรือ The Eagle-Shooting Heroes)

ฉบับแปลภาษาไทยมีหลายสำนวน ยึดตามฉบับที่ลิขสิทธิ์ถูกต้องแปลโดย น.นพรัตน์ ใช้ชื่อว่า ก๊วยเจ๋งยอดวีรบุรุษ จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์สยามอินเตอร์บุ๊คส์ ความยาว 4 เล่มจบ

ได้รับการดัดแปลงเป็นละครโทรทัศน์และภาพยนตร์หลายครั้ง รวมถึงวิดีโอเกมด้วย

ระวังเสียอรรถรส ข้อความด้านล่างนี้ มีการกล่าวถึง เนื้อเรื่อง หรือฉากจบ



เนื้อเรื่องย่อ
เรื่องราวเกิดในยุคราชวงศ์ซ้องของประเทศจีน แผ่นดินจีนเสื่อมโทรมในทุกด้าน อาณาประชาราษฎร์ยากแค้นลำเค็ญ ขุนนางฉ้อราษฎร์บังหลวง กดขี่ข่มเหงชาวจีนด้วยกัน เกี่ยวกับการผจญภัยของเด็กหนุ่มชื่อ ก๊วยเจ๋ง ที่เติบโตขึ้นมาในดินแดนของมองโกล และเดินทางกลับสู่ยุทธจักรในประเทศจีน ได้พบกับอึ้งย้ง ยังได้ฝึกวิชาต่างๆมากมาย และได้ขับไล่พวกมองโกล จากแผ่นดินจีน


ก๊วยเซาเทียนและเอี้ยทิซิม พี่น้องร่วมสาบาน ถูกใส่ร้ายป้ายสีว่าเป็นกบฎ พวกเขาต่อต้านการจับกุม เข้าสู้พวกทหารที่กลุ้มรุม กระทั่งก๊วยเซาเทียนเสียชีวิต บ้านเรือนถูกเผาผลาญย่อยยับ เอี้ยทิซิม หลีเพ้ง ภรรยาก๊วยเซ่าเทียน และเปาเสียะย้อ ภรรยาเอี้ยทิซิม หนีกระเซอะกระเซิง ไปคนละทิศละทาง ผู้หญิงทั้งสองกำลังตั้งครรภ์

หลีเพ้งให้กำเนิดก๊วยเจ๋ง ระเหเร่ร่อนไปเติบใหญ่ในแผ่นดินมองโกล ใต้ร่มใบบุญเจงกิสข่านผู้ยิ่งใหญ่

ขณะที่เปาเสียะย้อให้กำเนิดเอี้ยคัง ได้ดีมีสุขในวังไต้กิมก๊กของชาวแมนจู

ทั้งมองโกลและแมนจู ล้วนเป็นศัตรูผู้รุกรานและต้องการยึดครองแผ่นดินตงง้วน

ก๊วยเจ๋งและเอี้ยคังเติบโตขึ้นท่ามกลางสภาพแวดล้อมและการบ่มเพราะที่ต่างกัน จึงมีพฤตินิสัยไปคนละแบบ ก๊วยเจ๋งได้รับการสั่งสอนย้ำเตือนจาก หลีเพ้ง ผู้เป็นมารดา และ เจ็ดประหลาดกังหนำ ผู้เป็นอาจารย์ ให้แก้แค้นแทนบิดา และยึดมั่นในจิตวิญญาณจีน จึงยินยอมสะบั้นไมตรีกับพวกมองโกล ก็ไม่ยินยอมทำร้ายแผ่นดินตงง้วน อันเป็นมาตุภูมิ ขณะที่เอี้ยคัง หลงใหลในลาภยศสรรเสริญ ยินยอมรับศัตรูเป็นบิดา กระทั่งยังกล้าย่ำยีบีฑาชาวชนเชื่อชาติเดียวกัน ...

มังกรหยกถูกนักวิชาการด้านจีนศึกษาจำนวนมากวิเคราะห์ว่าแฝงด้วยเนื้อหาชาตินิยมและเชื้อชาิตินิยมของพวกฮั่น


ตัวละครในเรื่อง
ก๊วยเจ๋ง จอมยุทธอุดร ยอดวีรบุรุษแห่งตงง้วน
อึ้งย้ง ขงเบ้งหญิง
จิวแป๊ะทง เฒ่าทารก ศิษย์ผู้น้องแห่งเทพมัชฉิม
เอี๊ยคัง ผู้บิดาเอี้ยก้วย
เอี๊ยทิซิม ผู้เป็นบิดาเอี้ยคัง
ก๊วยเซาเทียน ผู้เป็นบิดาจอมยุทธก๊วยเจ๋ง
เจ็ดประหลาดกังน้ำ
นักพรตคิวชู่กี
อาวเอี๊ยงเค่ก
ตั้ง...งฮวง ลมทมิฬคู่พิฆาต ฉายา ศพทองแดง
บ๊วยเถี่ยวฮวง หรือ เหมยเชาฟง ลมทมิฬคู่พิฆาต ฉายา ศพเหล็ก
เค็กซา
อ้วนง้วนอั้งเลียก อ๋องแห่งกิมก๊ก
เจงกิสข่าน




ห้ายอดฝีมือแห่งยุค
เฮ้งเตงเอี้ยง (เทพมัชฉิม หรือ กลางอิทธิฤทธิ์) ผู้ก่อตั้งสำนักช้วนจินก่า ได้รับการยอมรับว่ามีฝีมือสูงที่สุดในห้ายอดฝีมือ
อึ้งเอี๊ยะซือ (มารบูรพา หรือ ตังเซี้ย- บางฉบับใช้ ภูตบูรพา) เป็นบิดาของอึ้งย้ง และเป็นประมุขเกาะดอกท้อ
อั้งชิดกง (ยาจกอุดร หรือปักข่าย- บางฉบับใช้ ขอทานเหนือ หรือ ยาจกเก้านิ้ว) ประมุขพรรคกระยาจก
อิดเต็งไต้ซือ (ราชันย์ทักษิณ หรือน่ำเต้- บางฉบับใช้อ๋องแดนใต้,ราชันย์ต้วน) เป็นอดีตจักรพรรดิแซ่ต้วนแห่งไต้ลี้ หรือ ต้าหลี่
อาวเอี๊ยงฮง (พิษประจิม หรือไซตั๊ก) จ้าวแห่งการใช้พิษ ผู้อยู่เหนือพิษทั้งปวง

[นิกายช้วนจินก่า
นักพรตทั้ง 7 แห่งนิกายช้วนจินก่า ซึ่งเป็นศิษย์ที่ได้รับการถ่ายทอดฝีมือจากเฮ้งเต็งเอี้ยงคือ

เบ้เง็ก ศิษย์คนที่ 1 ของเฮ้งเต็งเอี้ยง และเป็นเจ้าสำนักต่อจากเฮ้งเต็งเอี้ยง
คูชู่กี
เฮ้งชู่อิด
ท่ำชู่ตวน
เล่าชูเ...ยน
ฮึ่งไต้ฮง
ซุนปุกยี่ นักพรตหญิงแห่งชวนจิน




อิตเต็งไต้ซือ
#3   อิตเต็งไต้ซือ    [ 07-05-2008 - 19:40:38 ]

มังกรหยก2

เอี้ยก่วยเจ้าอินทรี หรือ มังกรหยกภาค 2 神雕侠侣 shen diao xia luu เป็นนิยายกำลังภายในภาคต่อของ มังกรหยก แต่งโดยกิมย้ง มีภาคต่อในชุดเดียวกัน ดาบมังกรหยก (ชื่อเรื่องภาษาอังกฤษ คือ The Return of the Condor Heroes) บางสำนวนแปลใช้ชื่อเรื่องว่า ลูกมังกรหยก

ฉบับแปลภาษาไทยมีหลายสำนวน ยึดตามฉบับที่ลิขสิทธิ์ถูกต้องแปลโดย น.นพรัตน์ ใช้ชื่อว่า เอี้ยก่วยเจ้าอินทรี จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์สยามอินเตอร์บุ๊คส์ ความยาว 4 เล่มจบ

ได้รับการดัดแปลงเป็นละครโทรทัศน์และภาพยนตร์หลายครั้ง รวมถึงวิดีโอเกมด้วย



เอี้ยก้วย เป็นลูกชายคนเดียวของเอี้ยคังและม้กเนี่ยมชื้อ เอี้ยคังได้เสียชีวิตไปเพราะซัดฝ่ามือแล้วโดนพิษจาก เสื้อเกราะของอึ้งย้ง เอี้ยก้วยอยู่กับแม่มีอาชีพจับงูขาย จนวันหนึ่ง แม่ก็โดนงูกัดตาย เอี้ยก้วยกลายเป็นเด็ก เร่ร่อนตัวคนเดียว แต่ด้วยความที่ฉลาดหลักแหลม และเจ้าเล่ห์แสนกล จึงเอาตัวรอดได้โดยการลักเล็กขโมย น้อย จนอายุ 13 ปี ได้พบกับก๊วยเจ๋ง ผู้เป็นพี่ร่วมสาบานของเอี้ยคัง มีศักดิ์เป็นลุงของเอี้ยก้วย จึงได้รับตัวไป อบรมที่เกาะดอกท้อ พร้อมๆ กับก๊วยพู้บุตรสาวคนเดียวผู้เอาแต่ใจ และสองพี่น้องตระกูลบู๊ ซึ่งเป็นศิษย์ของ ก๊วยเจ๋ง อึ้งย้ง

อึ้งย้งไม่ไว้ใจเอี้ยก้วยเนื่องจากเป็นลูกของเอี้ยคังผู้ทรยศบ้านเมือง และมีนิสัยกะล่อนคล้ายพ่ออีกด้วย จึงไม่ ยอมสอนวรยุทธให้ สอนแต่ปรัชญา หวังว่าเขาจะเป็นคนดีในอนาคต แต่กลับทำให้เอี้ยก้วยขุ่นเคืองใจที่อึ้งย้ง ลำเอียง ดีที่เขามีพื้นฐานวรยุทธที่อ้าวเอี้ยงฮงสุดยอดฝีมือในอดีตที่กลายเป็นบ้า ได้รับเอี้ยก้วยเป็นลูกบุญ ธรรม และสอนวรยุทธให้ จึงมีฝีมือพอตัว และมีเรื่องกับสองพี่น้องตระกูลบู๊บ่อยๆ จนอึ้งย้งต้องให้ก๊วยเจ๋ง ส่งเอี้ยก้วยไปอยู่กับสำนักช้วนจินก่า สำนักนักพรตลัทธิเต๋า ซึ่งมีความสัมพันธ์อันดีกับก๊วยเจ๋งมานาน แล้วก๊วยเจ๋งเองก็เป็นศิษย์ของคูชู่กี เจ้าสำนัก

เหมือนชะตากลั่นแกล้ง เอี้ยก้วยไม่ได้อยู่สุขสบายเลยในสำนักช้วนจิน โดนทั้งอาจารย์และศิษย์พี่กลั่นแกล้ง ต่างๆ นานา แถมยังไม่สอนวรยุทธให้ นอกจากเพียงให้ท่องเคล็ดวิชา จนเขาไม่สามารถเอาชนะศิษย์คนอื่นๆ ได้ ในวันประลองยุทธของสำนักเพื่อดูพัฒนาการของศิษย์แต่ละคน เอี้ยก้วยกลับใช้วิชาคางคกของอ้าวเอี๊ยงฮงได้ แทน แล้วเอี้ยก้วยก็หนีออกจากสำนัก มาถึงสำนักสุสานโบราณ

สำนักสุสานโบราณ มีเซียวเหล่งนึ่ง หญิงสาววัยเพียง 18 ปี เป็นเจ้าของ และยายซุน สาวใช้วัยชราผู้ดูแล ยายซุนได้ช่วยเหลือเอี้ยก้วย รักษาอาการบาดเจ็บ แต่เซียวเหล่งนึ่งผู้ถือกฎเคร่งครัด บอกให้ส่งเอี้ยก้วยกลับไป เพราะ สำนักนี้ไม่รับศิษย์ผู้ชาย ยายซุนจึงขอตามเอี้ยก้วยออกไปด้วย เพราะห่วงเอี้ยก้วยจะมีอันตราย จนต้องประมือ กับพวกนักพรตช้วนจิน บาดเจ็บจนเสียชีวิต ก่อนตายได้สั่งเสียให้เซียวเหล่งนึ่งรับดูแลเอี้ยก้วยไปจนชั่วชีวิต ซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่ยายซุนได้ขอ เหล่งนึ่งจึงยอมทำตาม รับเอี้ยก้วยเป็นศิษย์ แต่เอี้ยก้วยไม่ยอมเรียกอาจารย์ เรียกนางว่า "โกวโกว" ซึ่งแปลว่าอาหญิง

เซียวเหล่งนึ่งเป็นคนมีนิสัยเย็นชา ไม่ค่อยยิ้ม ไม่ค่อยหัวเราะ ไม่ดีใจ ไม่เสียใจ เป็นเพราะนางได้ฝึกวิชาของ สำนัก ซึ่งต้องละทิ้งความรู้สึกทั้งปวง นางฝึกตั้งแต่เด็ก จึงกลายเป็นนิสัยและบคุลิกส่วนตัว ไม่เหมือนกับ อาจารย์ของนาง หรือแม้แต่ศิษย์พี่ลี้หมกโช้ว ซึ่งเต็มไปด้วยกิเลสแม้จะออกบวชเป็นนักพรตหญิง เซียวเหล่งนึ่ง แม้เย็นชาแต่ก็เป็นคนจิตใจดี อ่อนโยน นางสอนวิชาให้เอี้ยก้วยโดยหมดสิ้น เอี้ยก้วยเป็นเด็ก ฉลาดหัวไว จึงพัฒนาฝีมือเร็วมาก

ความสัมพันธ์ของเอี้ยก้วยและเซียวเหล่งนึ่ง เป็นความผูกพันที่รู้สึกว่ามีกันและกันมานาน โดยไม่รู้ตัวว่านี่คือ ความรักแบบหนุ่มสาว เอี้ยก้วยเองก็เคารพเหล่งนึ่งในฐานะอาจารย์เสมอ แม้จะชอบหยอกเย้าบ้าง แต่ก็ไม่มี ผลอะไร เพราะเซียวเหล่งนึ่งไม่เคยมีปฏิกิริยาแบบคนอื่นๆ ทั้งสองเริ่มรู้ใจตัวเอง เมื่อลี้หมกโช้ว ศิษย์ผู้พี่ บุกเข้ามา เพื่อจะชิงคัมภีร์สตรีหยก สุดยอดวิชาของสำนักสุสานโบราณ เอี้ยก้วยแสดงความห่วงใยเซียวเหล่งนึ่งอย่างไม่คิด ชีวิต ทำให้เซียวเหล่งนึ่งซาบซึ้ง แต่ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจความรู้สึกนี้ด้วยกันทั้งคู่ จนกระทั่งนางได้ตัดสินใจปิดประตู พันชั่ง เพื่อปิดตายสุสานโบราณ ไม่ให้ทุกคนเข้าออกอีก ขังทั้งสี่คนไว้ คือ เอี้ยก้วย เซียวเหล่งนึ่ง ลี้มกโช้ว และอั้งเล้งปอ ศิษย์ของลี้หมกโช้ว

เอี้ยก้วยและเซียวเหล่งนึ่งพบทางออกอีกทางโดยบังเอิญ แต่ด้วยความดีใจจนเลินเล่อทำให้ลี้หมกโช้วและ ศิษย์ ตามออกมาได้ เอี้ยก้วยและเซียวเหล่งนึ่งสร้างบ้านอยู่ด้วยกันบนเขา ฝึกวิชาต่อจนพัฒนาขึ้น บางครั้ง ก็ดำน้ำ กลับไปดูคัมภีร์ในสุสานโบราณ แม้ทั้งสองร่วมเป็นร่วมตายกันมา มีความรักผูกพันกันมาก แต่ก็ยังไม่เข้า ใจและ ไม่รู้ตัวอยู่ดีว่าความรักที่ทั้งคู่มีต่อกันคือความรักแบบ หนุ่มสาว ทั้งสองยังคงรักษาอาการระหว่างศิษย์อาจารย์

วันหนึ่งอ้าวเอี้ยงฮงได้ตามหาเอี้ยก้วยจนพบ ด้วยสติที่ไม่ค่อยเต็มของอ้าวเอี้ยงฮง กลัวว่าเซียวเหล่งนึ่งจะแอบดู วิชา ของตนที่สอนให้เอี้ยก้วย จึงแอบสกัดจุดนางไม่ให้ขยับเขยื้อนไปไหนได้ แล้วค่อยพาเอี้ยก้วยไปถ่าย ทอดวิชา ในที่ห่างไกลออกไป ระหว่างนั้นอึ้งจื่อเพ้ง นักพรตสำนักช้วนจินที่มีใจต่อเหล่งนึ่งตั้งแต่แรกเห็น ได้ถือโอกาส เข้ามาล่วงเกินนางถึงขนาดพรากพรหมจรรย์ไป โดยที่เซียวเหล่งนึ่งคิดว่าเป็นเอี้ยก้วยเพราะที่นั่นไม่มี ใครอื่นอีก

เอี้ยก้วยกลับมาเห็นเซียวเหล่งนึ่งนอนอยู่พร้อมมีผ้าปิดตา จึงเปิดออก พบว่านางถูกสกัดจุด จริงๆแล้วเซียวเหล่งนึ่งรู้วิชา คลายจุดเองได้ แต่คนที่สกัดจุดเป็นอ้าวเอี้ยงฮงที่ใช้วิชากลับตาลปัตร นางจึงไม่รู้ เอี้ยก้วยจึงช่วยคลาย จุดให้ นางก็ให้เขาเลิกเรียกนางว่าโกวโกว ไม่ให้เรียกอาจารย์ เอี้ยก้วยงงมากเพราะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ยิ่งทำ ให้เซียวเหล่งนึ่งโกรธเพราะคิดว่าเขาไม่รับผิดชอบ จึงยื่นคำขาดว่าเคยคิดจะรับนางเป็นภรรยาหรือไม่ เอี้ยก้วยผู้ไม่ รู้เรื่องพาซื่อตอบว่าไม่เคย เขาเคารพนางเสมอมา ยิ่งทำให้นางโกรธจนกระอักเลือดและหนีจากไป

เอี้ยก้วยเพิ่งตระหนักถึงความรู้สึกตัวเองที่มีต่อเซียวเหล่งนึ่ง ก็เมื่อเสียนางไป ต่อแต่นี้เขาตั้งใจว่าหากพบนางเมื่อใด จะยินดีรับนางเป็นภรรยาให้ได้ ระหว่างไม่พบกับเหล่งนึ่ง เอี้ยก้วยเจออะไรหลายๆ อย่าง ทั้งยอดฝีมืออย่าง อั้งชิดกงและพ่อบุญธรรมอ้าวเอี้ยงฮง ซึ่งเป็นคู่ปรับกันมานาน ประลองกันโดยใช้เอี้ยก้วยเป็นผู้แสดงฝีมือ ทำให้เอี้ยก้วยได้ความรู้เพิ่มพูนอีกมาก สุดท้ายอาวุโสทั้งสองก็สิ้นใจพร้อมกันด้วยความปรองดองกันเป็นครั้งสุดท้าย

ผ่านเหตุการณ์อีกมากมายสุดท้ายก็กลับมาพบกับก๊วยเจ๋งอีกครั้งในงานชุมนุมชาวยุทธ์ สองพี่น้องแซ่บู๊ยังคง ไม่ชอบเอี้ยก้วยเหมือนเดิม และยิ่งอิจฉาที่ก๊วยเจ๋งให้ความสำคัญกับเอี้ยก้วย รวมถึงก๊วยพู้ที่สองพี่น้องตระกูล บู๊หลงรักนั้นดูจะพอใจเอี้ยก้วยด้วย อึ้งย้งกำลังตั้งครรภ์ลูกคนที่สอง จึงมอบตำแหน่งเจ้าสำนักพรรคกระยาจกให้ กับลู่อู่คา ร่างกายอึ้งย้งช่วงนี้ไม่ค่อยแข็งแรงนัก เอี้ยก้วยเข้าใช้พลังวัตรช่วยเหลือ อึ้งย้งรู้สึกแปลกใจที่เขา มีพลังวัตรสูงส่ง แต่ก็ไม่ได้ถามไถ่อะไรมาก เพราะรู้ดีว่า ถ้าเอี้ยก้วยอยากบอกเขาก็จะบอกเอง

ในงานชุมนุม ชาวยุทธ์จะเลือกผู้นำยุทธภพคนใหม่ แต่มีชาวมองโกลมาขัดขวาง ซึ่งก็คือกิมลุ้น ฮวบอ๋องพร้อม ศิษย์ทั้งสอง คือหลวงจีนตะละปาและองค์ชายฮั่วตู ก๊วยเจ๋งเคยประมือกับศิษย์สองคนนี้แล้ว แต่ไม่เคยพบ กิมลุ้น อึ้งย้งเสนอวิธีการเอาชนะมองโกล โดยให้ประลอง 3 รอบ ให้คนที่เก่งที่สุดสู้กับคนที่เก่งระดับกลาง แล้วคนที่เก่งระดับกลางสู้กับคนที่เก่งน้อยที่สุด แค่นี้ก็จะได้ชนะ 2 ใน 3 รอบ แต่ผลผิดคาดเมื่อฮั่วตูซึ่งฝีมือ ด้อยที่สุดในผู้ลงประลองฝ่ายมองโกล กลับใช้วิธีสกปรก ซัดอาวุธลับ ทำให้ชนะไป

ทันใดนั้นเซียวเหล่งนึ่งก็ปรากฏตัวกลางงาน เอี้ยก้วยยินดีจนลืมทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัว เข้าไปหานางแล้วพา ไปนั่งคุยกัน แต่การประลองเกิดรบกวนการพูดคุยและทำให้เซียวเหล่งนึ่งบาดเจ็บเล็กน้อย เอี้ยก้วยจึงโมโห ออกมาสู้กับฮั่วตูจนชนะ แล้วยังเอาชนะหลวงจีนตะละปาได้อีก จนเป็นที่ชื่นชมของชาวยุทธ เมื่อใครถามว่า ผู้ใดเป็นอาจารย์ของเขา เขาก็ตอบว่าเซียวเหล่งนึ่ง ผู้คนต่างขบขันเพราะคิดว่าเขาพูดเล่น ไม่มีทางที่เด็กสาว อายุไล่เลี่ยเขาจะเป็นอาจารย์ได้ แม้แต่อึ้งย้งยังไม่แน่ใจ คนที่ทราบดีคือนักพรตช้วนจินที่มาร่วมงาน

กิมลุ้นขอประลองกับเซียวเหล่งนึ่ง เพราะจะดูว่าสมควรจะได้รับตำแหน่งเจ้ายุทธภพหรือไม่ เหล่งนึ่งเห็นว่าเป็นการ เปิดหูเปิดตา แลกเปลี่ยนวิชา ไม่ได้คิดถึงเรื่องตำแหน่ง จึงยินดีรับคำท้า นางรับจักรทองของกิมลุ้นได้หลาย กระบวน แต่ฝีมือของกิมลุ้นสูงมาก สุดท้ายก๊วยเจ๋งจึงออกหน้าช่วยเหลือ จนกิมลุ้นแพ้ไป ชาวมองโกลกลับ ออกไปจากงานด้วยความอับอายและเจ็บแค้น

ในงานเลี้ยงฉลองชาวยุทธ์ต่างยกย่องให้เอี้ยก้วยและเซียวเหล่งนึ่งเป็นวีรบุรุษ ก๊วยเจ๋งคิดจะยกก๊วยพู้ให้แต่ง งานกับเอี้ยก้วย เรื่องจึงเกิดขึ้น เมื่อเอี้ยก้วยเปิดเผยว่า เขารักเซียวเหล่งนึ่งและจะแต่งงานกับนางคนเดียว เท่านั้น เหล่าชาวยุทธ์จากที่เคยยกย่อง กลับกลายเป็นประณามหยาดเหยียด เพราะประเพณีมีมาแต่โบราณว่า ศิษย์กับอาจารย์จะรักกันไม่ได้ เอี้ยก้วยและเซียวเหล่งนึ่งไม่เคยทราบถึงข้อนี้ ก๊วยเจ๋งโกรธมาก แถมเตียจี้เก่ง อดีตอาจารย์ที่ช้วนจิน ยังเอาเรื่องมาเปิดโปง ว่าเคยเห็นทั้งสองลอบมีสัมพันธ์กัน ( ครั้งที่ฝึกวิชาร่วมกัน ต้องถอดเสื้อผ้า)

เอี้ยก้วยไม่สนใจคำครหาของใคร พาเซียวเหล่งนึ่งออกมา แต่ก็เหมือนหนีไม่พ้น เมื่อก๊วยพู้ถูกกิมลุ้นจับตัวไว้ และอึ้งย้งก็ตกที่นั่งลำบาก เอี้ยก้วยจึงยื่นมือเข้าช่วย อึ้งย้งซาบซึ้งน้ำใจ และเห็นใจทั้งคู่ แต่ก็กลัวว่าอนาคตของ เอี้ยก้วยจะหม่นหมอง จึงบอกเซียวเหล่งนึ่ง จนนางตัดสินใจตีจากเอี้ยก้วยไป เพราะไม่อยากให้เขาถูกชาวยุทธ์ รุมประณาม แต่เซียวเหล่งนึ่งเองก็รักเอี้ยก้วยมาก ฝึกยุทธ์อย่างหักโหมจนธาตุไฟเข้าแทรก และสิ้นสติไป รู้สึกตัวอีก ครั้งก็มาอยู่ที่หุบเขาไร้รัก

กงซุนจี้ เจ้าหุบเขาหลงความงามของเซียวเหล่งนึ่งตั้งแต่แรกเห็น ต้องการแต่งงานกับนาง จึงทำดีกับนางสารพัด จนนางใจอ่อน ส่วนเซียวเหล่งนึ่งเองก็อยากลืมเอี้ยก้วยและมีชีวิตใหม่ จึงตกลง ระหว่างที่เอี้ยก้วยไม่พบนางก็คลั่ง เหมือนคนบ้า และได้พบกับเหตุการณ์อีกมากมาย ทั้งเล็กบ่อซัง เทียเอ็ง สองพี่น้องที่ต่างมีใจให้เอี้ยก้วย ลี้หมกโช้ว อาจารย์ป้าที่ต้องการแก้แค้นเล็กบ่อซังศิษย์ทรยศ อึ้งเอี๊ยะซือ ภูตบูรพาซึ่งมีนิสัยคล้ายเอี้ยก้วย และซาโกว ศิษย์ของอึ้งเอี๊ยะซือผู้สติไม่เต็ม แต่รู้เรื่องราวในอดีตเกี่ยวกับพ่อของเขา เอี้ยก้วยจึงหลอกถามจน ได้ความว่าการตายของพ่อเขาเกี่ยวข้องกับก๊วยเจ๋ง อึ้งย้ง

ความคิดแก้แค้นจึงบังเกิด จนไปเข้าร่วมกับพวกกิมลุ้นซึ่งกำลังรวบรวมยอดฝีมือจากที่ต่างๆ ให้กับกุบไลข่าน เอี้ยก้วยและยอดฝีมือ มีโอกาสเข้าไปในหุบเขาไร้รักโดยบังเอิญ เหมือนหนีกันไม่พ้น เขาได้พบกับ เซียวเหล่งนึ่งอีกครั้ง แต่เซียวเหล่งนึ่งกลับทำเป็นไม่รู้จักเขา เพราะต้องการตัดใจจริงๆ แต่สุดท้ายเพราะความรัก จึงยอมรับเอี้ยก้วย กงซุนจื้อโกรธมากคิดกำจัดเอี้ยก้วย จึงต่อรองกับเซียวเหล่งนึ่ง เซียวเหล่งนึ่งยอมแต่งงาน กับกงซุนจื้อเพื่อรักษาชีวิตเอี้ยก้วย แต่หารู้ไม่ว่าเป็นแผนชั่วของกงซุนจื้อ ลูกสาวของเขา กงซุนเล็กงัก กลับมีจิตใจดีคอยช่วยเหลือเอี้ยก้วย จนถูกพ่อกำจัดไปพร้อมกับเอี้ยก้วยลงมาในก้นเหว และได้พบกับ คิ้วโชยเซียะ หญิงชราหน้าอัปลักษณ์ ซึ่งเป็นภรรยาของกงซุนจื้อและเป็นแม่แท้ๆ ของกงซุนเล็กงัก

เอี้ยก้วยช่วยคิ้วโชยเซียะขึ้นไปได้และไปขัดขวางพิธีแต่งงาน เอี้ยก้วยให้เซียวเหล่งนึ่งกินยาถอนพิษดอกรักที่นาง บังเอิญโดน โดยไม่บอกว่าตัวเขาเองยังไม่ได้กิน สุดท้าย ด้วยความช่วยเหลือของคิ้วโชยเซียะ จึงชนะกงซุนจื้อได้ แต่ทำให้กงซุนจื้อตาบอดข้างหนึ่ง และหลบหนีไป คิ้วโชยเซียะกลับมาปกครองหุบเขาอีกครั้ง และต่อรอง เอี้ยก้วยว่าจะให้ยาถอนพิษถ้ายอมแต่งงานกับเล็กงักลูกสาวตน เอี้ยก้วยยอมตายดีกว่าจะทิ้งเซียวเหล่งนึ่ง นางจึงเปลี่ยนข้อเสนอซึ่งนั่นก็คือให้ไปฆ่าก๊วยเจ๋ง อึ้งย้ง ซึ่งเคยฆ่าพี่ชายนาง คิ้วโชยเซียะให้ยาไปกินก่อนครึ่งเม็ด เอี้ยก้วยจึงตกลง

ตลอดการเดินทาง เอี้ยก้วยเต็มไปด้วยความสับสน ใจนึงคิดอยากรักษาตัวเพื่อมีชีวิตอยู่กับเซียวเหล่งนึ่งนานๆและ ได้แก้แค้นให้พ่อไปในตัว แต่อีกใจเห็นก๊วยเจ๋งเป็นวีรบุรุษ ช่วยเหลือชาติบ้านเมือง จะเป็นคนชั่วได้อย่างไร อึ้งย้งมารู้ความจริงจากเซียวเหล่งนึ่ง จึงคิดช่วยเอี้ยก้วยด้วยการยอมมอบศีรษะให้ไปแลกยา แต่ขอให้นางคลอด ลูกก่อน ฝ่ายมองโกลใช้เล่ห์กลเข้ามาบุกค่ายของก๊วยเจ๋ง ซึ่งเป็นเวลาที่อึ้งย้งคลอดพอดี จึงฝากลูกสาว ก๊วยเซียงไว้กับเซียวเหล่งนึ่ง แล้วกำลังจะคลอดแฝดอีกคน

เซียวเหล่งนึ่งคิดเอาเด็กไปแลกยา แต่ระหว่างทางก็พบกิมลุ้นและประมือกัน สุดท้ายเด็กตกไปอยู่ในมือของลี้มกโช้ว แต่ลี้หมกโช้วกลับเอ็นดูเด็กคนนี้มาก และนึกตลอดเวลาว่านี่คือลูกของเอี้ยก้วยและเซียวเหล่งนึ่ง เรื่องวุ่นวายยิ่งขึ้น เมื่อสองพี่น้องตระกูลบู๊ทะเลาะกันเองเพราะก๊วยพู้ เอี้ยก้วยจึงมาช่วยตัดปัญหาโดยหลอกว่าเขาเอง จะแต่งงานกับก๊วยพู้ พอดีเซียวเหล่งนึ่งมาได้ยินเข้าจึงเสียใจมาก และยิ่งได้รับรู้จากการคุยกันของเตียจี้เก่งและ อึ้งจื่อเพ้งว่าคืนนั้นบนหุบเขาไม่ใช่เอี้ยก้วย แต่เป็นอึ้งจื้อเพ้งที่พรากพรหมจรรย์จากนางไป ทำให้นางหมด อาลัยตายอยาก ไปจากเอี้ยก้วยอีกครั้ง และคอยติดตามนักพรตทั้งคู่ทุกฝีก้าว

เอี้ยก้วยโมโหก๊วยพู้ที่บอกว่าเซียวเหล่งนึ่งจากไปแล้วและยังเก็บกระบี่ที่เซียวเหล่งนึ่งมอบให้อีก จนตบหน้านางเข้า ก๊วยพู้ซึ่งตลอดชีวิตมีแต่คนเอาใจ จึงโกรธมากจนใช้กระบี่จะฆ่าเอี้ยก้วย เอี้ยก้วยซึ่งกำลังอ่อนแอจากพิษ ดอกรัก จึงไม่มีแรงต่อสู้ เอาแขนเข้าป้องกัน จนแขนขวาถูกฟันขาดไป ก๊วยพู้ตกใจมาก ไปบอกพ่อกับแม่ ก๊วยเจ๋งโกรธจัดที่ลูกสาวเอาแต่ใจไม่ยั้งคิด แต่อึ้งย้งกลับคอยปกป้องลูก พาหนีไปอยู่ที่อื่นสักพัก

เอี้ยก้วยหนีมาพบกับอินทรียักษ์ ที่เคยอาศัยกับยอดฝีมือในอดีต ต๊กโกวคิ้วป้าย จึงได้มาเรียนวิชากับนกอินทรี และได้กระบี่เหล็กนิลไว้เป็นอาวุธคู่กายนับแต่นั้น

ฝ่ายมองโกลคิดจะใช้สำนักช้วนจินขยายอิทธิพลจึงตกลงกับเตียจี้เก่งผู้ละโมบ และทรยศ จนยอมจับศิษย์ใน สำนักที่ไม่เห็นด้วยทุกคนมามัดไว้และลงมือฆ่า พอถึงอึ้งจื่อเพ้ง เซียวเหล่งนึ่งกลับปรากฏตัวและขอลงมือเอง แต่นางกลับประมือกับยอดฝีมือนานาชาติที่กิมลุ้นหามา พร้อมด้วยตัวกิมลุ้นเอง อึ้งจื่อเพ้งเห็นเซียวเหล่งนึ่งพลาด ท่ากิมลุ้น จึงเอาตัวเข้าขวางและรับจักรทองไปเต็มๆ จนบาดเจ็บสาหัส นางเองก็โดนฝ่ามือของกิมลุ้นจนลอย กระเด็นไป เอี้ยก้วยออกมารับไว้พอดี นางดีใจมากคิดว่าชาตินี้จะไม่ได้เจอเขาอีก แต่เขากลับปรากฏตัวใน ยามคับขันพอดี

เอี้ยก้วยซึ่งตอนนี้มีวรยุทธเพิ่มพูนขึ้นมาก ก็จัดการกับพวกมองโกลสำเร็จ และตั้งใจหยามสำนักช้วนจิน ด้วยการแต่งงานกับเซียวเหล่งนึ่งในวิหารศักดิ์สิทธิ์ต่อหน้าปรมาจารย์เฮ้งเต็งเอี๊ยง ก่อนที่จะหนีกลับสุสานโบราณไป เอี้ยก้วยได้พาทารกน้อยก๊วยเซียงมาด้วย เพราะชิงจากลี้หมกโช้วได้ในขณะที่ลี้หมกโช้วประลองกับอึ้งย้ง

เซียวเหล่งนึ่งบาดเจ็บสาหัส อาการทรุดหนัก คิดว่าอยู่ได้อีกไม่นาน แต่เอี้ยก้วยกลับพบวิธีรักษาจากจดหมายที่ เฮ้งเต็งเอี๊ยงเขียนให้ลิ้มเฉียวเอ็ง อาจารย์ย่าของเซียวเหล่งนึ่ง ทั้งคู่เป็นคู่รักที่ไม่กล้าขัดประเพณี จึงได้แต่ เจ็บปวดทั้งสองฝ่าย กลับคอยแต่จะเอาชนะกัน เอี้ยก้วยรีบพาเซียวเหล่งนึ่งมารักษาตามวิธี แต่โชคร้าย ลี้หมกโช้ว ร่วมมือกับอึ้งย้ง พาก๊วยพู้ สองพี่น้องตระกูลบู๊ และเยลู่ฉี เข้ามาในสุสานเพื่อตามตัวก๊วยเซียงคืน จนทำให้ อาการบาดเจ็บของเซียวเหล่งนึ่งทรุดหนักจนเกินเยียวยา เอี้ยก้วยแค้นใจก๊วยพู้อย่างมาก ที่เป็นต้นเหตุของปัญหา ทุกเรื่องเสมอ จึงชิงทารกไปด้วยอีกครั้ง

ฝ่ายอึ้งย้งยังหาทางช่วยเอี้ยก้วยถอนพิษดอกรัก โดยเชิญนักบวชจากอินเดียผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร ไปหา ยาแก้ที่หุบเขาไร้รัก แต่ท่านก็ต้องเสียชีวิตด้วยฝีมือลี้หมกโช้ว ซึ่งแปรพรรคมาเข้าพวกกับกงซุนจื้อ เพราะ อยากได้ยาถอนพิษดอกรัก ที่นางก็เพิ่งโดน แต่นักบวชอินเดียได้พบสมุนไพรชนิดหนึ่งและกำไว้ในมือแน่น อึ้งย้งจึงเชื่อว่าสมุนไพรชนิดนั้น ซึ่งก็คือหญ้าไส้ขาด เป็นยาถอนพิษดอกรักได้

ทุกคนมารวมตัวกันที่หุบเขาไร้รัก เพื่อช่วยทวงยาจากคิ้วโชยเซียะให้เอี้ยก้วย แต่กงซุนจื้อมาชิงเอาไป เซียวเหล่งนึ่งจึงยอมไม่ได้ ออกไปประลองด้วยจนได้ยากลับมา แต่นางอ่อนแอมากอยู่แล้ว ยังใช้พลังอีก จึงทรุดหนัก เอี้ยก้วยไม่ยอมกินยาจึงเขวี้ยงลงเหวไป เซียวเหล่งนึ่งหมดสติไปด้วยความเสียใจ ทั้งลี้หมกโช้ว กงซุนจื้อ และคิ้วโชยเซียะต่างพบจุดจบในวันนั้น ด้วยผลกรรมที่ก่อมาเอง ทุกคนกลับมาสงบสุขอีกครั้ง รวมถึงเอี้ยก้วยที่ไม่สนใจความเป็นความตายแล้ว ขอให้ได้อยู่กับเซียวเหล่งนึ่ง เขาเองก็โดนพิษดอกรัก ไม่ยอมรักษาตัว เซียวเหล่งนึ่งก็ถูกพิษต่างๆ จนยากรักษา

อึ้งย้งได้พูดกับเซียวเหล่งนึ่งอีกครั้ง บอกว่ามีหญ้าไส้ขาดที่ช่วยเอี้ยก้วยได้ แต่เอี้ยก้วยไม่ยอมแน่ จึงให้ เซียวเหล่งนึ่งช่วยเกลี้ยกล่อมเพราะเอี้ยก้วยเชื่อฟังเซียวเหล่งนึ่งคนเดียว นางจึงตัดสินใจจากเอี้ยก้วยไปเป็นครั้งสุดท้าย โดยเขียนข้อความทิ้งไว้ที่หน้าผาว่าให้มาพบกันในอีก 16 ปีข้างหน้า แล้วนางก็กระโดดหน้าผาลงไป เพื่อไม่ให้เอี้ยก้วยได้เห็นว่านางตายและมีกำลังใจจะอยู่ต่อไป ซึ่งนางคาดว่าเวลาถึง 16 ปี แม้ทำให้ เขาเลิกรักนางไม่ได้ แต่คงพอช่วยให้เขาเลิกที่จะคิดสั้นตายตามนางได้ เอี้ยก้วยจึงยอมกินหญ้าไส้ขาด เพื่อรอเซียวเหล่งนึ่งอีก 16 ปี ภายในเวลา 16 ปีนี้ เอี้ยก้วยใช้เวลากับการช่วยเหลือผู้คน กำจัดความอยุติธรรม จนทุกคนยกย่องแต่ “ จอมยุทธอินทรี ” ซึ่งมีเอกลักษณ์คือมีแขนซ้ายเพียงข้างเดียว ใส่หน้ากากปิดบังโฉมหน้า และมีอินทรียักษ์อยู่ข้างกาย สาวน้อยก๊วยเซียงวัย 16 ปี ได้ยินได้ฟังเรื่องราวของจอมยุทธอินทรีก็เลื่อมใส คิดอยากพบเขา แล้วก็มีคนพาไปพบจริงๆ เอี้ยก้วยไม่ยอมเปิดเผยฐานะ แต่เมื่อเขารู้ว่าเป็นก๊วยเซียงน้อย ที่เขาเคยอุ้มเมื่อ 16 ปีก่อนก็เอ็นดู และให้เข็มสามเล่มเพื่อให้ขอสิ่งใดก็ได้จากเขาสาวน้อยรีบขอทันทีสองข้อ คือให้เขาถอดหน้ากาก เปิดเผยโฉมหน้าให้ดู เมื่อเอี้ยก้วยถอดหน้ากาก ก๊วยเซียงก็หลงรักเขาทันที และอีกข้อคือให้เขาร่วมงานวันเกิดของนางในอีกไม่กี่วันนี้ เอี้ยก้วยรู้ดีอยู่แล้วว่าก๊วยเซียงเกิดวันไหน และเป็นวันที่ใกล้วันนัดของเขากับเซียวเหล่งนึ่งด้วย

อึ้งย้งตกใจที่ลูกสาวคนรองก๊วยเซียงไปรู้จักสนิทสนมกับเอี้ยก้วย เพราะกลัวว่าเมื่อความจริงเปิดเผยว่านาง หลอกเขาไว้ว่ามีแม่ชีทางใต้มาช่วยเซียวเหล่งนึ่งไป จะทำให้เอี้ยก้วยแค้นขึ้นมาจนไม่มีใครหยุดเขาได้ แต่ก๊วยเซียง ไม่เชื่อว่าเอี้ยก้วยจะเป็นคนเช่นนั้น นางคิดว่านางหยุดเขาได้ จึงได้ออกตามหาเอี้ยก้วย ระหว่างทาง กลับพบกิมลุ้น เมื่อกิมลุ้นรู้ว่าเป็นลูกสาวก๊วยเจ๋ง อึ้งย้ง ก็คิดจะหลอกใช้ แต่กลับรู้สึกเอ็นดูเด็กคนนี้จนอยาก รับเป็นศิษย์

เอี้ยก้วยไปรอเซียวเหล่งนึ่งที่หน้าผา หนึ่งวันหนึ่งคืนเต็มๆ ก็ไม่พบ จนรู้ว่าที่แท้เซียวเหล่งนึ่งเขียนข้อความไว้หลอกเขา เพื่อให้เขามีชีวิตอยู่ต่อ เอี้ยก้วยตรอมใจจนผมหงอก จึงตัดสินใจกระโดดหน้าผาไป ก๊วยเซียงกับกิมลุ้นตามมาพบพอดี ก๊วยเซียงรีบกระโดดตามลงไป กิมลุ้นจะห้ามก็ไม่ทัน พวกอึ้งย้ง และยอดฝีมืออาวุโสตามหาก๊วยเซียงมาจน เจอกิมลุ้นและประมือกัน กิมลุ้นบอกความจริงว่าก๊วยเซียงกระโดดหน้าผาตามเอี้ยก้วยไปแล้ว อึ้งย้งจึงส่ง อินทรีลงไปสำรวจดูใต้ก้นเหว

เอี้ยก้วยและก๊วยเซียงไม่ตาย เพราะข้างล่างเป็นผืนน้ำเย็นจัด ก๊วยเซียงใช้เข็มเล่มสุดท้ายขอให้เอี้ยก้วย ไม่ว่าจะพบเซียวเหล่งนึ่งหรือไม่ก็ให้มีชีวิตอยู่ต่อ เขาก็ยอมตกลง และส่งก๊วยเซียงขึ้นไปกับอินทรี ตัวเขาเองตาม หาเซียวเหล่งนึ่งใต้เหวนี้ เพราะเชื่อว่าเมื่อเหล่งนึ่งกระโดดลงมาก็ควรจะไม่ตายเหมือนกัน

เขาดำน้ำจนไปโผล่ในสถานที่หนึ่ง จัดไว้เหมือนสุสานโบราณไม่มีผิด แล้วเขาก็ได้พบกับเซียวเหล่งนึ่งจริงๆ เหล่งนึ่งยังไม่ตาย และสามารถรักษาตัวจนหายได้ ด้วยหลักวิชาที่นางเคยฝึก และกินสมุนไพร พร้อมกับน้ำผึ้งหยก ที่นางเลี้ยงไว้จนอาการค่อยๆ ดีขึ้นและหายขาดในที่สุด นางละทิ้งทุกอย่างทำให้ยังคงความสาว ในขณะที่เอี้ยก้วยมีเรื่องทุกข์จนดูแก่ไปมาก แต่ตอนนี้เขาดีใจอย่างที่สุดแล้ว

ก๊วยเซียงเมื่อขึ้นมาด้านบนก็ถูกกิมลุ้นจับตัวไปอีก ขณะที่พวกอึ้งย้งลงไปตามหาเอี้ยก้วยที่ด้านล่าง กิมลุ้นใช้ ก๊วยเซียงต่อรองก๊วยเจ๋งให้เปิดประตูเมือง แต่ก๊วยเจ๋งเห็นแก่บ้านเมืองมากกว่าส่วนตัวก๊วยเซียงก็เข้าใจจุดนี้ พร้อมจะตายมากกว่าให้พ่อทำผิดต่อบ้านเมือง แล้วเอี้ยก้วยกับเซียวเหล่งนึ่งก็กลับขึ้นมาช่วยก๊วยเซียงไว้ได้ และสู้รบกับทหารมองโกลจนชนะ ทั้งกิมลุ้นและกุบไลข่าน สิ้นชีวิตในสนามรบครั้งนี้

เอี้ยก้วยเพิ่งมีโอกาสได้บอกกับทุกคนถึงเรื่องการตายของสองอาวุโส อั้งชิดกงที่ทุกคนตามหา พร้อมกับ อ้าวเอี้ยงฮงพ่อบุญธรรมของเขา จึงมีการตั้งยอดฝีมือทั้งสี่ทิศรุ่นใหม่ขึ้นมา ซึ่งก็คือก๊วยเจ๋ง แทนที่ยาจกอุดร อั้งชิดกง และเอี้ยก้วยแทนพิษประจิมอ้าวเอี้ยงฮง ส่วนอึ้งเอี๊ยะซือยังคงเป็นภูตบูรพาและ อิดเต็งไต้ซือเป็น ราชันทักษิณ

เอี้ยก้วยและเซียวเหล่งนึ่งได้จากไปจากยุทธภพตลอดกาล ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างสงบ

ตัวละคร
เอี้ยก้วย
เซียวเล้งนึ่ง
ก๊วยพู้
ก๊วยเซียง
ก๊วยพั่วลู่
ลี้มกโช้ว
อั้งเล้งปอ
กงซุนเล็กงัก
เล็กบ่อซวง
เทียเอ็ง
ลิ้มจิวเอง
ราชครูจักรทอง
ฮั่วตู





อิตเต็งไต้ซือ
#4   อิตเต็งไต้ซือ    [ 07-05-2008 - 19:43:04 ]

ดาบมังกรหยก

ดาบมังกรหยก (หรือ มังกรหยกภาค 3 หรือ กระบี่อิงฟ้า ดาบฆ่ามังกร) เป็นนิยายกำลังภายในภาคต่อของ มังกรหยก แต่งโดยกิมย้ง (ชื่อในภาษาจีน อักษรจีนตัวเต็ม: 倚天屠龍記; อักษรจีนตัวย่อ: 倚天屠龙记; พินอิน: yǐ tiān tú lóng jì) และชื่อในภาษาอังกฤษ คือ The Heavenly Sword and the Dragon Saber)

ระยะเวลาถัดจากมังกรหยก ภาค 2 สามถึงสี่ชั่วอายุคน เกี่ยวกับการช่วงชิงความเป็นใหญ่ในยุทธภพของสำนักง้อไบ๊ และสำนักบู๊ตึ้ง ตัวเอก เตียบ่อกี้ (บุตรชายเพียงคนเดียวของ จอมยุทธ์ที่ห้า แห่งสำนักบู๊ตึ้ง เตียชุ่ยซัว และ บุตรีของจ้าวอินทรีคิ้วขาว แห่งพรรคมาร ฮึงซู่ซู่) ซึ่งเป็นลูกหลานในบู๊ตึ้งต้องผจญภัยมากมาย และสุดท้ายได้เป็นประมุขนิกายเม้งก่า (บางสำนวนใช้ พรรคจรัสหรือพรรครุ่งเรือง) ซึ่งมีบทบาทในการกอบกู้ประเทศจากมองโกล โดยนางเอกในภาคนี้ชื่อหมิ่นหมิ่น(เตี๋ยเมี่ยง)เป็นลูกสาวของอ๋องมองโกล

ตัวละคร
เตียบ่อกี้
เตียบ่อกี้ หรือ จางอู๋จี้ (Zhang Wuji, 張無忌) เป็นลูกของเตียชุ่ยซัว (จางชุ่ยซาน) ศิษย์คนที่ 5 ของ เตียซำฮง (จางซานฟง) และเป็นหลานของ พญาเหยี่ยวคิ้วขาว ฮึงเทียนเจี่ย มีพ่อบุญธรรมคือ ราชสีห์ขนทองเจี่ยซุ่น โตในเกาะน้ำแข็งอัคคี สมัยเด็กเมื่อกลับสู่แผ่นดินใหญ่ โดนผ่ามือภูตเร้นลับ พิษเย็นเข้าในร่าง พ่อและแม่โดนชาวยุทธ ถามหาราชสีห์ขนทองที่ครอบครองดาบฆ่ามังกร จึงฆ่าตัวตาย เตียบ่อกี้ เติบโตมากับเตียซำฮง แต่เพราะพิษเย็นในร่าง จึงต้องทรมานอยู่เรื่อยตั้งแต่เด็ก วันหนึ่งเตียซำฮงได้ช่วยเหลือเซี่ยง้อชุนจากพวกชาวยุทธฝ่ายธรรมะ ทำให้เซี่ยง้อชุนซาบซึ้งใจมาก จึงได้อาสาพาเตียบ่อกี้ไปรักษากับหมอเทวดาแห่งเม่งก้านามว่าโอ้วแชงู้ที่หุบเขาผีเสื้อ ทำให้เตียบ่อกี้ได้รับการถ่ายทอดวิชาแพทย์ เมื่อเติบโต ได้มีโอกาสฝึกพลังเก้าเอี๊ยง(พลังเก้าสุริยัน) ซึ่งเสริมธาตุหยาง พิษไอเย็นที่เป็นธาตุหยินจึงหายไป และ ได้มีวาสนาได้ฝึกคัมภีร์เคลื่อนย้ายจักรวาล จึงได้ขึ้นเป็นประมุขนิกายเม้งก่า เนื่องจากเตียบ่อกี้เป็นชายหนุ่มรูปงามจึงมีสาวงามหลายคนมาหลงรัก คือ เตี๋ยเมี่ยงหรือหมิ่นหมิ่นเทอมู่เอ่อร์องค์หญิงแห่งมองโกล จิวจี้เยียกสาวงามศิษย์แม่ชีแห่งง้อไบ๊ ฮึงลี้หรือตูยี้ญาติผู้น้อง และเสี่ยวเจียวหญิงสาวผู้มีประวัติความเป็นมาอันลึกลับยิ่งนัก
เตี๋ยเมี่ยง
เตี๋ยเมี่ยงหรือจ้าวหมิ่น เป็นธิดาของจ้าวลื่ออ๋องแม่ทัพแห่งมองโกล มีชื่อเต็มว่า หมิ่นหมิ่นเทอมู่เอ่อร์ เล้งอ๋องได้รับบัญชาให้ทำหน้าที่ปราบกบฏ จึงได้มอบหมายหน้าที่นี้ให้กับองค์หญิงหมิ่นหมิ่นไปทำ หมิ่นหมิ่นได้พบกับเตียบ่อกี้หลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้ปะทะกันโดยตรง จนกระทั่งวันหนึ่งหมิ่นหมิ่นยกพวกไปบุกบู๊ตึ๊งโดยอ้างว่าตนคือเตียบ่อกี้แห่งเม้งก่า แต่คราวนั้นเตียบ่อกี้ซึ่งล่วงหน้ามารอก่อนแล้วได้แสดงถึงวรยุทธ์อันสูงส่งของตนให้ทุกคนประจักษ์ทำให้หมิ่นหมิ่นต้องล่าถอย เพื่อช่วยเหลือฮึงลี้เต้งผู้เป็นศิษย์น้องของบิดา เตียบ่อกี้จึงต้องยอมสัญญาว่าจะทำงานให้หมิ่นหมิ่น 3 ข้อ โดยที่ข้อแรกหมิ่นหมิ่นขอให้เตียบ่อกี้พาไปดูดาบฆ่ามังกร เตียบ่อกี้จึงจำเป็นต้องรับปากและพาไปเกาะน้ำแข็งอัคคี ในระหว่างเดินทางเตียบ่อกี้ได้พบแม่เฒ่ากิมฮวยกำลังบังคับให้จิวจี้เยี๊ยกตามนางไป เตียบ่อกี้ หมิ่นหมิ่น และเสี่ยวเจียวจึงต้องเดินทางไปเกาะงูศักดิ์สิทธิ์แทน บนเกาะงูศักดิ์สิทธิ์ จิวจี้เยี๊ยกซึ่งต้องการกระบี่อิงฟ้าดาบฆ่ามังกรตัดสินใจวางยาทุกคน ฆ่าฮึงลี้ญาติผู้น้องของเตียบ่อกี้ และนำหมิ่นหมิ่นไปลอยแพเพื่อเตรียมใส่ความ โชคดีหมิ่นหมิ่นรอดมาได้ ถูกเตียบ่อกี้เข้าใจผิดครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เตียบ่อกี้ก็ใจอ่อนเกินกว่าจะทำร้ายนาง อีกทั้งความผูกพันที่มีทำให้เขาไม่กล้าทำอะไรมากมายนัก ในวันแต่งงานของเตียบ่อกี้กับจิวจี้เยี๊ยก หมิ่นหมิ่นตัดสินใจตามไปขัดขวาง พร้อมทั้งขอให้ทำงานชิ้นที่สอง คือขอไม่ให้แต่งงานกับจิวจี้เยียกโดยใช้ราชสีห์ขนทองมาเป็นเครื่องมือข่มขู่ เตียบ่อกี้ไม่มีทางเลือกจึงต้องตามออกไป ในที่สุดเตียบ่อกี้ตัดสินใจออกจากเม้งก่าเพื่ออยู่กับหมิ่นหมิ่นอย่างสงบสุข และหมิ่นหมิ่นได้ขอสัญญาข้อที่สามคือขอให้เตียบ่อกี้เขียนคิ้วให้
เตียซำฮง
เตียซำฮงเป็นเจ้าสำนักของสำนักบู้ตึ๊ง ผู้คิดค้นวิชาไท้เก้ก มีชื่อเดิมว่าเตียกุนป้อ เป็นเด็กวัดของสำนักเสี้ยวลิ้ม (เส้าหลิน)มีหน้าที่คอยดูแลหอพระธรรมร่วมกับกักเอี้ยงไต้ซือผู้เป็นอาจารย์ กุนป้อและกักเอี้ยงไต้ซือได้มีโอกาสได้ฝึกพลังนวภพ(พลังเก้าเอี้ยง)จากคัมภีร์นวภพ(คัมภีร์เก้าเอี้ยง)ที่ปรมาจารย์ตักหม้อบัญญัติไว้ โดยทั้งคู่คิดเพียงว่าเป็นวิชาช่วนเสริมความแข็งแรงของร่างกายเท่านั้น และนอกจากพลังนวภพแล้วกุนป้อก็ไม่ได้ฝึกพลังการต่อสู้อื่นเลย ต่อมาเซียวเซียงจื้อและอีเคอซีแห่งมองโกลได้ใช้แผนชั่วร้ายเข้ามาในวัดและขโมยคัมภีร์นวภพออกไป กุนป้อและ กักเอี้ยงไต้ซือได้ออกตามหา จนเกิดการต่อสู้กัน ด้วยการชี้แนะจากเอี้ยก่วยบวกกับพลังปราณนวภพภายในตัวทำให้สามารถเอาชนะได้อย่างปาฏิหาริย์ แต่ปรากฏว่าไม่พบคัมภีร์นวภพที่ทั้งคู่ สองศิษฐ์อาจารย์จึงต้องกลับวัดไปมือเปล่า กักเอี้ยงไต้ซือโดนลงโทษโดยต้องแบกนำขึ้นลงจากวัดทุกวัน หลายปีต่อมา ฮ่อจกเต๋า หรือฉายาสามศักดิ์สิทธิ์คุนลุ้น ได้เดินทางมายังเสี้ยวลิ้ม เพื่อบอกว่า อีเคอซีและเซียวเซียงจื้อเดินทางมาถึงยอดเขาคุนลุ้น เกิดการต่อสู้เพื่อแย่งคัมภีร์นวภพกันจนล้มตายทั้งคู่ ก่อนตายอีเคอซีได้ฝากฮ่อจกเต๋ามาบอกเสี้ยวลิ้มว่า "คัมภีร์อยู่ในน้ำมัน" แต่เนื่องจากเกิดการขัดคอกัน ฮ่อจกเต๋าจึงคิดจะรับคำชี้แนะจากเสี้ยวลิ้ม กุนป้อได้มีโอกาสต่อสู้ และด้วยพลังนวภพที่ฝึกมาหลายปีบวกกับกระบวนท่าที่ได้รับมาจากเอี้ยก่วยอีกเล็กน้อย ทำให้กุนป้อเอาชนะฮ่อจกเต๋าได้ แต่เนื่องจากกฏของเสี้ยวลิ้มห้ามให้ศิษฐ์ในวัดห้ามแอบฝึกวิชาโดยไม่ได้รับอนุญาต กุนป้อจึงกลายเป็นศิษฐ์ทรยศ ด้วยความช่วยเหลือจากกักเอี้ยงไต้ซือ กุนป้อจึงหนีรอดมาได้ คืนนั้น ก่อนที่กักเอี้ยงไต้ซือจะมรณภาพ ได้ถ่ายทอดพลังนวภพให้กับกุนป้อ,ก๋วยเซียง และบ้อเส็กเซียงสือแห่งเสี้ยวลิ้มที่ฟังอยู่ด้านข้าง ต่งคนต่างจำได้คนละส่วน หลังจากนั้นก็มรณภาพ ไม่นานหลังจากนั้น กุนป้อก็เดินทางไปถึงภูเขาแห่งหนึ่ง เปลี่ยนชื่อตัวเองเป็นเตียซำฮงและก่อตั้งสำนักบู๊ตึ๊งขึ้น ส่วนก๋วยเซียงซึ่งได้รับฟังเคล็ดพลังนวภพจากกักเอี้ยงไต้ซือเช่นกันก็ได้บวชเป็นชี และก่อต้งสำนักง่อไบ๊ขึ้นเช่นกัน
จิวจี้เยี๊ยก
จิวจี้เยี๊ยกเดิมเป็นบุตรสาวคนแจวเรือ ในขณะที่ได้มีการปะทะกันระหว่างเซี่ยง่อชุนและชาวยุทธ์ฝ่ายธรรมะทำให้พ่อของนางต้องมาตายลง ระหว่างนั้นเตียซำฮงแห่งบู๊ตึ๊งได้เข้ามาช่วยหลือเซี่ยง่อชุนและได้พาจิวจี๊เยี๊ยกไปฝากฝังเป็นศิษย์ของแม่ชีมิกจ้อแห่งสำนักง้อไบ๊ จิวจี้เยี๊ยกมีความรักที่มั่นคงแต่เพียงเตียบ่อกี้ แต่โชคร้ายเนื่องจากเตียบ่อกี้ได้ขึ้นเป็นประมุขเม้งก่าซึ่งมีความแค้นกับแม่ชีมิ๊กจ้ออยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว ทำให้แม่ชีมิ๊กจ้อบังคับให้จิวจี้เยี๊ยกสาบานว่าจะไม่รักเตียบ่อกี้เด็ดขาด และจะไม่แต่งงานกันพร้อมทั้งมอบตำแหน่งเจ้าสำนักง๊อไบ๊ให้และบอกความลับเกี่ยวกับกระบี่อิงฟ้าและดาบฆ่ามังกร หลังจากที่แม่ชีมิ๊กจ้อมรณภาพลง จิวจี้เยี๊ยกถูกแม่เฒ่ากิมฮวยบังคับให้ไปเกาะงูศักดิ์สิทธิ์กับนาง ที่นั่นจิวจี้เยี๊ยกได้พบกับเตียบ่อกี้อีกครั้ง ซึ่งครั้งนั้นเตียบ่อกี้มากับเตี๋ยเมี่ยง และเสี่ยวเจียวเพื่อมาตามหาเจี่ยซุ่นผู้เป็นบิดาบุญธรรม จิวจี้เยี๊ยกรู้สึกตื่นเต้นมากเพราะที่เกาะนั้นมีทั้งกระบี่อิงฟ้าและดาบฆ่ามังกรอยู่ จิวจี้เยี๊ยกจึงวางแผนใส่ร้ายเตี๋ยเมี่ยงและขโมยกระบี่อิงฟ้าดาบฆ่ามังกรเพื่อเอาสุดยอดเคล็ดวิชาในนั้น เพื่อที่จะขับพิษผงสิบหอมที่อยู่ในร่างของจิวจี้เยี๊ยก เจี่ยซุ่นจึงขอร้องแกมบังคับให้เตียบ่อกี้หมั้นหมายกับจิวจี้เยี๊ยก และจะแต่งงานกันเมื่อกลับไปถึงแผ่นดินใหญ่ ในงานแต่งงานของจิวจี้เยี๊ยกกับเตียบ่อกี้ เตี๋ยเมี่ยงไม่อาจทนอยู่ได้จึงเข้ามาขัดขวางพร้อมทั้งทวงสัญญาข้อสอง ขอให้เตียบ่อกี้ล้มเลิกงานแต่งงานโดยหยิบเส้นผมของเจี่ยซุ่นออกมาขู่ เตียบ่อกี้จึงวิ่งออกจากงานแต่งงานไป จิวจี้เยี๊ยกจึงต้องกลับง้อไบ๊ด้วยความแค้นและฝึกวิชากงเล็บกระดูกขาวจนกระทั่งกลายเป็นผู้มีวรยุทธ์สูงส่ง เพื่อหวังที่จะล้างแค้นเตียบ่อกี้



เอี้ยเซียว
เอี้ยเซียว ทูตซ้ายแห่งพรรคจรัส หรือ นิกายเม้งก่า กีเฮียวพู้ คือ ศิษย์เอกแห่งสำนักง้อไบ๊ ความรักของทั้งคู่เป็นที่ประทับใจต่อผู้ที่ได้ชมได้อ่าน นอกจากนี้บุตรสาวของทั้งคู่ คือ เอี้ยปุ๊กหุ่ย ซึ่งในละครมักจะมีแคแรกเตอร์ที่น่ารัก เป็นที่จดจำไม่รู้เลือน
เอี้ยปุ๊กหุ่ย
เอี้ยปุ๊กหุ่ยเป็นลูกสาวของกีเฮียวพู้ และ เอี้ยเซียว หลังจากที่กีเฮียวพู้ถูกเอี้ยเซียวลักพาตัวไป เมื่อทั้ง 2 ได้อยู่ใกล้ชิดกันจนกลายเป็นความรัก เอี้ยปุ๊กหุ่ย เป็นน้องสาวที่เตียบ่อกี้รักมากคนหนึ่ง อยู่กับเตียบ่อกี้มาตั้งแต่เล็กๆ ได้มารู้ความจริงทีหลังว่าพ่อกับแม่ของตนทำผิดต่อฮึงหลีเต็ง และเห็นว่าฮึงหลีเต็งพิการจากฝีมือเซ่งคุน จึงเกิดความเห็นใจ สงสาร จนกลายเป็นความรักต่อกัน จึงได้ตกลงใจจะรัก และดูแลฮึงหลีเต็งต่อไปจนชั่วชีวิต เอี้ยปุ๊กหุ่ยมีหน้าตาคล้ายกับกีเฮียวพู้ผู้เป็นแม่มาก ชื่อของปุ๊กหุ่ย แปลว่า ไม่สำนึก, ไม่เสียใจ (ปู้หุ่ย) เพราะกีเฮียวพู้ไม่เคยนึกเสียใจเลย ที่รักเอี้ยเซียว
เสี่ยวเจียว
เป็นสาวน้อยลึกลับที่ไม่มีใครรู้ที่มาที่ไป เข้ามาอยู่กับนิกายเม้งก่าในฐานะสาวใช้ หน้าตาขี้เหร่ แต่แท้ที่จริงสวมกากไว้ ใบหน้าจริงงดงามมาก เป็นลูกสาวของแม่เฒ่ากิมฮวย และเป็นประมุขสาขาใหญ่นิกายเม้งก่าที่ เปอร์เซีย ฐานะที่แท้จริงเป็นเจ้าหญิง
ตูยี้, ฮึงลี้
ตูยี้ (จูเอ๋อ) หรือฮึงลี้ เป็นลูกพี่ลูกน้องของเตียบ่อกี้ เป็นลูกสาวของพี่ชายของฮึงซู่ซู่ หลงรักเตียบ่อกี้อยู่ข้างเดียว มีความแค้นต่อพ่อที่ทำให้แม่ของตัวเองต้องตาย ตูยี้มีหน้าตาอัปลักษณ์ เพราะฝึกวิชาแมงมุมพิษเพื่อจะเป็นเซียนพิษ ทำให้พิษทำลายโฉมหน้าของนางจนหมดสิ้น เลือดที่ไหลเวียนทั่วร่างกายล้วนเป็นพิษทั้งสิ้น ตูยี้เป็นศิษย์ของแม่เฒ่ากิมฮวย ตอนที่จิวจี้เยี๊ยกชิงดาบฆ่ามังกรกับกระบี่อิงฟ้า ตูยี้เป็นคนเดียวที่เป็นพยานรู้เห็น จี้เยี้ยกจึงฆ่าตูยี้เพื่อหวังปิดปาก แต่เหตุการณ์กลับกัน เพราะนอกจากตูยี้จะไม่ตายแล้ว เลือดพิษในตัวยังไหลออกไปหมด ทำให้ตูยี้คืนชีพขึ้นมา และหน้าตายังหายอัปลักษณ์อีกด้วย
มิกจ้อซือไถ้
แม่ชีมิกจ้อซือไถ้เป็นเจ้าสำนักแห่งง่อไบ๊มีชื่อเสียงโด่งดังในยุทธภพ มีฝีมือเก่งกาจแต่ได้ฉายาว่าถือดีงี่เง่า แต่มีกระบี่อิงฟ้าครอบครอง มีความแค้นต่อพรรคเม้งก่าโดยเฉพาะเอี้ยเซียว ก่อนตายได้บอกความลับของกระบี่อิงฟ้าและดาบฆ่ามังกร ให้กับจิวจี้เยี้ยกซึ่งเป็นเจ้าสำนักรุ่นที่ 4
แม่เฒ่ากิมฮวย
แม่เฒ่ากิมฮวย มีฉายาว่า "มังกรเสื้อม่วง" หรือ "มังกรแพรม่วง" เป็นแม่ของเสี่ยวเจียว เป็นกุมารีของประมุขสาขาใหญ่นิกายเม้งก่าที่เปอร์เซีย มีชื่อเดิมว่าไดอีซี่ ได้รับคำสั่งให้มาเข้าร่วมเม้งก่าในแผ่นดินตงง้วนเพื่อหาทางขโมยเคล็ดวิชาเคลื่อนย้ายจักรวาล นางประกอบความดีความชอบจนได้รับขึ้นชื่อเป็นอันดับ 1 จาก 4 เจ้าพิทักษ์โลกบาลแห่งเม้งก่า ต่อมานางออกจากเม้งก่าและไปใช้ชีวิตคู่อยู่กับท่านใบไม้เงินฮั่งโชยเฮียะ
เต็งเมี่ยงกุง
ศิษย์พี่ของจิวจี้เยี้ยก เป็นศิษย์ร่วมรุ่นกับกีเฮียวพู้ เป็นคนทะเยอทะยาน
โอ้วแชงู้
หมอเทวดา ผู้ถ่ายทอดวิชาการแพทย์แก่เตียบ่อกี้
แม่นางแซ่เอี้ย
เจ้าสำนักสุสานโบราณ ทายาทรุ่นหลานของเอี้ยก้วย และเซียวเหล่งนึ่ง วรยุทธ์ลึกล้ำสุดคาดเดา เอาชนะกรงเล็บกระดูกขาวของจิวจี้เยี้ยกได้ในกระบวนท่าเดียว ไม่เปิดเผยชื่อจริง ทิ้งท้ายคำพูดไว้เป็นปริศนาแก่เตียบ่อกี้ว่า "หลังภูเขาจงหนำ ในสุสานโบราณ คู่รักเจ้าอินทรี สาปสูญจากยุทธภพ" อีกทั้งยังขอฝากอนาคตของพรรคกระยาจกไว้ที่เตี้ยบ่อกี้อีกด้วย
ค้างคาวปีกเขียว
มีวิชาตัวเบาที่เป็นเลิศเเต่เนื่องจากฝึกวิชาฝ่ามือไหมเย็น จนธาตุไฟเข้าเเทรกทำให้ต้องดื่มเลือดของมนุษย์เพื่อคลายพิษของตัวเอง เคยดูดเลือดของเตียบ่อกี้สมัยเด็กด้วยความเข้าใจ ภายหลังได้เตียบ่อกี้ ใช้วิชาเก้าเอี้ยงช่วยขับพิษดังกล่าวให้ ค้างคาวปีกเขียวจึงซึ้งในพระคุณ ได้เป็นกำลังสำคัญตั้งใจฟื้นฟูนิกายเม้งก่า



อิตเต็งไต้ซือ
#5   อิตเต็งไต้ซือ    [ 07-05-2008 - 19:43:48 ]

เทพบุตรงูทอง

เทพบุตรงูทอง หรือ เพ็กฮวยเกี้ยม (จีนตัวเต็ม:碧血劍; จีนตัวย่อ: 碧血剑; พินอิน: Bì Xuě Jìan) เป็นนิยายกำลังภายในเรื่องที่สองของ กิมย้ง การแปลเป็นภาษาไทย ครั้งแรก โดย จำลอง พิศนาคะ และ ครั้งที่สองโดย น.นพรัตน์ ชื่อภาษาอังกฤษว่า The Sword Stained With Royal Blood



อิตเต็งไต้ซือ
#6   อิตเต็งไต้ซือ    [ 07-05-2008 - 19:45:59 ]

กระบี่เย้ยยุทธจักร

กระบี่เย้ยยุทธจักร (笑傲江湖) เฉี่ยเหงากังโอ๊ว หรือ เซี่ยวเอ้าเจียงหู (Xiao Ao Jiang Hu) ผลงานของกิมย้ง เรื่องนี้ น.นพรัตน์ แปล ครั้งแรกชื่อเรื่อง "ยิ้มเย้ยยุทธจักร"ในปี 1960 แต่พอต่อมาก็เปลี่ยนชื่อเป็น เดชคัมภีร์เทวดา ต่อมาจึงเปลี่ยนตามภาพยนตร์โทรทัศน์ว่า "กระบี่เย้ยยุทธจักร" เฉี่ย=ยิ้ม, หัวเราะ= เหงา แปลว่า ผยอง, หยิ่ง = กังโอ๊ว แปลว่ายุทธจักร รวมแล้วพอจะแปลเอาความได้ว่า "ยิ้มผยอง (ใน) ยุทธจักร" หรือ "ยิ้มผยอง หยันยุทธจักร ในความหมายของไทย "กระบี่เย้ยยุทธจักร" หมายความว่า "มือกระบี่มือหนึ่งแห่งแผ่นดินเยาะเย้ยความเป็นไปของยุทธจักร และ กฎเกณฑ์อันหลอกลวงของยุทธจักร" อันเป็นผลงานชิ้นใหญ่ชิ้นหนึ่งของกิมย้ง และ เรื่องนี้ "กิมย้ง"ยังไม่คล้ายคลึงประวัติศาสตร์ของจีนอย่างตายตัว หากแต่มีอยู่ทุกยุคทุกสมัย โดยกิมย้งได้เขียนนิยายที่เกี่ยวกับการเมืองเป็นครั้งแรก และ ครั้งเดียวของกิมย้ง

การวางโครงเรื่อง

"ธรรมะ อธรรม และวิญญูชนจอมปลอม" หมายความว่า ความแบ่งชนชั้นทางสังคมของธรรมะ และ อธรรม คนไหนนิสัยไม่ดี หรือ คบหาคนไม่ดีก็แบ่งเป็นฝ่ายอธรรม ทั้งที่ฝ่ายธรรมะจะมีแต่คนดี และ คนของฝ่ายอธรรมใช่ว่าต้องเลวร้ายเสมอไป คนฝ่ายธรรมะที่เลวร้ายก็มี คนที่ดีในฝ่ายอธรรมมันก็มี

"วิญญูชน" หรือ "วีรบุรุษ" ตามความหมายของพจนานุกรมไทยฉบับบัณฑิตราชสถาน หมายความว่า คนที่ได้รับยกย่องจากผู้คนในทางที่ดี

ส่วนวิญญูชนจอมปลอม คือ คนที่ไม่ใช่วีรบุรุษอันแท้จริง มักมีจุดประสงค์ร้ายเคลือบแฝงอย่างแน่นอน อย่างงักปุกคุ้งอาจารย์ของตัวเอกของเรื่อง คนอื่นมองภายนอกว่าเป็นคนดี เที่ยงธรรม ยุติธรรม แต่แท้จริงแล้วโกหกปลิ้นปล้อนหลอกลวงเพื่อให้ตัวเองเป็นใหญ่ในยุทธจักร คาดว่าหลายประเทศก็มีเหมือนกัน

แต่นักการเมืองคนหนึ่งของเวียดนาม ได้นำเอาคำว่า งักปุกคุ้ง อันเป็นวิญญูชนจอมปลอมไปกล่าวหานักการเมืองอีกคนหนึ่งเหมือนกัน

กระบี่เย้ยยุทธจักร เป็นเรื่องราวการแย่งชิงความเป็นหนึ่งในยุทธจักร ระหว่าง ธรรมะ และ อธรรม ท่ามกลางความขัดแย้งและการแย่งชิงอันรุนแรง เหล้งฮู้ชง จอมยุทธฝ่ายธรรมะ ศิษย์เอกของสำนักหัวซาน เป็นคนเปิดเผย ไม่ยึดติดกฎเกณฑ์ คบหาคนด้วยใจ ไม่สนว่าจะเป็นคนฝ่ายธรรมะหรือฝ่ายอธรรม จนถูกขับออกจากสำนัก แต่ยังไม่พ้นเข้าไปพัวพันเหตุความขัดแย้งต่างๆ ทั้งการชิงความเป็นใหญ่ภายในของฝ่ายธรรมะ และการชิงความเป็นใหญ่ภายในของฝ่ายอธรรม จนสับสนวุ่นวายว่าใครกันแน่ที่เป็นมาร ใครกันที่เป็นฝ่ายอธรรม และใครที่เป็นฝ่ายธรรมะ เพียงต้องการที่จะเป็นที่หนึ่ง ไม่เลือกวิธีการ งักปุ๊กคุ้ง เจ้าสำนักหัวซาน ผู้ได้ฉายาว่ากระบี่ผู้ดี ถึงกับทรยศครอบครัว และศิษย์ของตัวเอง จ้อแหน้เซี้ยง เจ้าสำนักซงซาน กำจัดทุกคนที่ไม่คล้อยตามตนเอง ก็เพียงต้องการได้ชื่อว่า เป็นอันดับหนึ่งในยุทธภพ

นวนิยายเรื่องนี้ เป็นนวนิยายที่ล้วนแฝงไว้ด้วย แนวคิดปรัชญาการดำรงชีวิต อีกทั้งยังมีการเสียดสีสังคมอยู่ตลอด แต่ก็หาได้ขาดอรรถรสของนวนิยายกำลังภายในไปแต่อย่างใด ในขณะที่เรื่องดำเนินไป จะเกิดคำถามขึ้นตลอดเวลา ถึงเรื่องของความถูกผิดในพฤติกรรมของตัวละครแต่ละตัว ตัวละครฝ่ายธรรมะ หรือตัวละครฝ่ายอธรรม ต่างมีความเป็นเอกลักษณ์ในตัวเอง โดยมีตัวละคร เหล้งฮู้ชง เป็นตัวดำเนินเรื่อง และเป็นตัวเปรียบเทียบ ว่าความสุขของชีวิตที่แท้จริงนั้น อยู่ที่ไหนกัน เนื้อเรื่องย่อโดยสังเขป
ระวังเสียอรรถรส ข้อความด้านล่างนี้ มีการกล่าวถึง เนื้อเรื่อง หรือฉากจบ

เหล้งฮู้ชง ศิษย์เอกของสำนักหัวซาน ได้พบและคบหากับ เค็กเอี๊ยง แห่งพรรคมาร โดยบังเอิญ และได้เข้าช่วยเหลือให้ความปรารถนาของ เค็กเอี๊ยง และ หลิวเจิ้นฟง แห่งสำนักเหิงซาน ที่ต้องการล้างมือจากยุทธภพ บรรเลงเพลง เย้ยยุทธจักร ที่ทั้ง 2 แต่งขึ้นเป็นจริงขึ้นมา ทำให้เริ่มขัดแย้งกับจอมยุทธฝ่ายธรรมะ และถูกอาจารย์ลงโทษให้ไปเก็บตัวอยู่บนผาสำนึกตนเป็นเวลา 1 ปี ห้ามลงจากเขาเด็ดขาด ที่ผาฯ นั้นเอง เหล้งฮู้ชง ได้พบกับ ปรมาจารย์สายกระบี่ ฟงชิงหยาง และได้รับการถ่ายทอด เก้ากระบี่ต๊กโกว ทำให้ฝีมือรุดหน้าอย่างรวดเร็ว จนถูกคนเข้าใจผิดว่า เหล้งฮู้ชง ขโมยฝึกวิชา เพลงกระบี่ปราบมาร ของตระกูลลิ้ม

ด้วยเหตุที่ถูกเข้าใจผิด จึงได้มีวาสนาได้ใกล้ชิดกับ หยิ้นอิ๋งอิ๋ง ธิดาเทพแห่งพรรคมารเข้า และก่อตัวเป็นความรัก ยิ่งทำให้ขัดแย้งกับชาวยุทธฝ่ายธรรมะมากยิ่งขึ้นไปอีก จนถูกอาจารย์ขับออกจากสำนักในที่สุด หลังจากนั้น ความรักของทั้งคู่ก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อช่วยอาการบาดเจ็บของ เหล้งฮู้ชง หยิ้นอิ๋งอิ๋ง ยอมบุกเข้าวัดเส้าหลินเพื่อขอความช่วยเหลือ โดยไม่สนถึงฐานะธิดาเทพของตน ยอมอยู่วัดเส้าหลิน 10 ปี แลกกับความช่วยเหลือ เหล้งฮู้ชง

ต่อมา เหล้งฮู้ชง ได้เข้าช่วยเหลือพ่อของ หยิ้นอิ๋งอิ๋ง ออกจากคุกใต้ทะเลทราบ โดยไม่รู้ว่าที่แท้พ่อของนางก็คือ หยิ้นอั้วฮั้ง อดีตประมุขพรรคมาร และได้เรียนวิชา มหาเวทดูดดาว เข้าโดยบังเอิญ เหล้งฮู้ชง ทราบข่าวว่า หยิ้นอิ๋งอิ๋ง ถูกกักตัวอยู่ที่วัดเส้าหลิน จึงรวบรวมเหล่าชาวยุทธบุกเส้าหลินเพื่อช่วยนางออกมา ต่อมา เหล้งฮู้ชง ได้เข้าช่วยเหลือ หยิ้นอั้วฮั้ง ชิงตำแหน่งประมุขพรรคมารคืนจาก ตงฟางปุ๊ป้าย และได้รับการชักชวนให้เป็นรองประมุขจาก หยิ้นอั้วฮั้ง แต่ว่า เหล้งฮู้ชง ปฏิเสธ แล้วจากมา

ในขณะเดียวกัน จ้อแหน้เซี้ยง เจ้าสำนักซงซาน ผู้นำแห่ง 5 ขุนเขากระบี่ ได้เริ่มดำเนินแผนรวมห้าขุนเขากระบี่เป็นหนึ่ง เพื่อก้าวสู่ความเป็นใหญ่ในฝ่ายธรรมะ แต่ ตึ้งอี้ซือไท้ เจ้าสำนักหานซาน คัดค้านไม่ยอมคล้อยตาม ตึ้งอี้ซือไท้ จึงถูก จ้อแหน้เซี้ยง ลอบทำร้าย โชคดีที่ได้ เหล้งฮู้ชง เข้าช่วยเหลือจึงรอดมาได้ แต่ในที่สุด ติ้งอี้ซือไท้ ก็ถูกสังหารจนได้ โดยคนชุดดำ และได้ทิ้งคำสั่งเสียให้ เหล้งฮู้ชง รับสืบทอดตำแหน่งเจ้าสำนักหานซาน หลังจากรับตำแหน่งเจ้าสำนักหานซาน และชักชวนชาวยุทธให้เข้าสำนักหานซานแล้ว จ้อแหน้เซี้ยง ได้เรียกประชุม 5 สำนัก เรื่องการรวมตัวกันของสำนัก 5 ขุนเขากระบี่ โดยการประลองกระบี่ ผลคือ งักปุ๊กคุ้ง สามารถชนะและสังหาร จ้อแหน้เซี้ยง ลงได้ แต่วิชาที่ใช้นั้น กลับเป็น เพลงกระบี่ปราบมาร ไม่ใช่เพลงกระบี่หัวซานแต่อย่างใด แผนการที่วางมานานของ งักปุ๊กคุ้ง จึงได้ถูกเปิดเผยออกมาในการประลองนี้

หลังจาก งักปุ๊กคุ้ง ได้ตำแหน่งประมุขพรรค 5 ขุนเขากระบี่แล้ว ก็ได้เริ่มแผนการขั้นต่อไป คือกำจัดพรรคมาร เพื่อสร้างความยิ่งใหญ่ให้แก่ตนเอง งักปุ๊กคุ้ง ชักชวน เหล้งฮู้ชง ให้เข้าร่วมกับตนเพื่อช่วยกำจัดพรรคมาร เหล้งฮู้ชง หลีกเลี่ยง โดยอ้างการส่ง ศิษย์หานซาน กลับสำนักหานซานก่อน แล้วจึงจะมาช่วยงาน พรรค 5 ขุนเขากระบี่ ระหว่างทาง ได้พบเข้ากับ ลิ้มเพ้งจือ กำลังจะสู้กับ อื้อชางไห่ เจ้้าสำนักชิงเฉิง และ มู่เกาฟง เพื่อแก้แค้นให้ พ่อแม่ ที่ตายไป โดยเพลงกระบี่ที่ใช้รวดเร็วและร้ายกาจ เป็น เพลงกระบี่ปราบมารนั่นเอง ลิ้มเพ้งจือ มีฝีมือร้ายกาจ แม้ อื้อชางไห่ และ มู่เกาฟง ร่วมมือกัน ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ ในที่สุด แม้ว่า ลิ้มเพ้งจือ จะเอาชนะและสังหารทั้งคู่ได้สำเร็จ แต่ก็ต้องพลาดท่าถูกเลือดพิษของ มู่เกาฟง ทำให้ตาบอด

หลังจากตาบอด งักเล้งซัง ติดตามดูแล ลิ้มเพ้งจือ อยู่ไม่ห่าง ลิ้มเพ้งจือ เล่าเรื่องราวทุกอย่างให้นางฟัง รวมทั้งเรื่องการเฉือนความเป็นชายเพื่อฝึก เพลงกระบี่ปราบมาร งักเล้งซัง มีใจรักมั่น แม้เสียใจ แต่นางก็ยังต้องการที่จะดูแล ลิ้มเพ้งจือ ต่อไป แต่เพื่อแก้แค้น งักปุ๊กคุ้ง ที่ขโมย คัมภีร์กระบี่ปราบมาร ไป ลิ้มเพ้งจือ จึงได้ลงมือสังหาร งักเล้งซัง อย่างเลือดเย็น แล้วหนีไปหลบซ่อนตัวเพื่อรอการแก้แค้น งักปุ๊กคุ้งต่อไป

หลังจาก งักปุ๊กคุ้ง ดำเนินการที่จะกำจัดพรรคมาร โดยหวังใช้ เหล้งฮู้ชง มาช่วยตนกำจัด หยิ้นอั้วฮั้ง แต่เมื่อถูก เหล้งฮู้ชง ปฏิเสธ จึงหันกลับมาหวังกำจัดแทน และเข้าขอความช่วยเหลือจาก วัดเส้าหลิน และ สำนักบู๊ตึ๊ง แต่ถูกปฏิเสธ งักปุ๊กคุ้ง จึงต้องสู้กับ พรรคมาร เพียงลำพัง ทางฝ่าย หยิ้นอั้วฮั้ง เองก็ต้องการให้ เหล้งฮู้ชง มาเข้ากับฝ่ายตนเช่นเดียวกัน จึงปล่อยข่าวเรื่องที่ เหล้งฮู้ชงช่วยเหลือ หยิ้นอั้วฮั้ง ถึง 2 ครั้ง 2 ครา หลังจากนั้นก็ได้พาตัว เหล้งฮู้ชง มาที่ ผาไม้ดำ และเสนอเรื่องการแต่งงานกับ หยิ้นอิ๋งอิ๋ง และรับตำแหน่งรองประมุขพรรคตะวันจันทรา แต่เพื่อไม่ให้ผิดต่อคุณธรรม เหล้งฮู้ชง จึงปฏิเสธอีกครั้งหนึ่ง ทำให้ หยิ้นอั้วฮั้ง โกรธเป็นอย่างมากถึงกับประกาศว่าจะไปถล่มสำนักหานซานด้วยตนเอง เหล้งฮู้ชง จึงจำต้องจาก หยิ้นอิ๋งอิ๋ง ณ ที่ผาไม้ดำ

ข่าวการปฏิเสธตำแหน่งรองประมุขพรรคตะวันจันทรา และตัดใจจาก หยิ้นอิ๋งอิ๋ง ของ เหล้งฮู้ชง เป็นที่ชื่นชมไปทั่วในความมีคุณธรรม ถึงกับยอมตัดใจจากคนรัก หลังจากกลับมาถึง สำนักหานซาน ไต้ซือฟางเจิ้นเจ้าอาวาสวัดเส้าหลิน และนักพรตชงซีเจ้าสำนักบู๊ตึ๊ง ได้พาศิษย์มาช่วยเหลือต้านการบุกโจมตีของพรรคมาร ไต้ซือฟางเจิ้น ได้มอบ คัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดจาก วิชามหาเวทดูดดาว โดยอ้างว่าเป็นคัมภีร์ของ ฟงชิงหยาง

หลังจากที่ เหล้งฮู้ชง สร้างกระท่อมไม้ไผ่บนเขาหานซาน เพื่อหวังเป็นกระท่อมพักกายอยู่อย่างสงบ หยิ้นอิ๋งอิ๋งได้มาหา เหล้งฮู้ชง หลังจากที่จากกันที่ผาไม้ดำ งักปุ๊กคุ้ง จึงถือโอกาสนี้จับตัว หยิ้นอิ๋งอิ๋ง ไปหัวซานเพื่อบีบให้ เหล้งฮู้ชง ไปติดกับ ในเวลาเดียวกัน ลิ้มเพ้งจือ เองก็ตรงมายังหัวซานเพื่อแก้แค้นเช่นกัน ในระหว่างการต่อสู้ของ ลิ้มเพ้งจือ กับ งักปุ๊กคุ้ง นั้นเอง ด้วยความช่วยเหลือของ งักฮูหยิน ทำให้ช่วย หยิ้นอิ๋งอิ๋ง ออกมาได้ แต่แล้วด้วยความหมดอาลัยตายอยากต่อ งักปุ๊กคุ้ง ผู้เป็นสามี จึงได้ฆ่าตัวตาย ระหว่างที่ เหล้งฮู้ชง และ หยิ้นอิ๋งอิ๋ง ฝังศพของ งักฮูหยิน แล้ว ก็เดินทางกลับหานซาน แต่กลับพบว่าสำนักหานซานถูก งักปุ๊กคุ้ง ถือโอกาสโจมตีและบังคับพาตัวศิษย์หานซานไปผาไม้ดำ เหล้งฮู้ชง และ หยิ้นอิ๋งอิ๋ง จึงตามไปที่ผาไม้ดำ

งักปุ๊กคุ้ง ได้เข้าจู่โจมผาไม้ดำ และได้ประมือกับ หยิ้นอั้วฮั้ง แม้ หยิ้นอั้วฮั้ง และทูตซ้าย ...งหมึ่งที จะลงมือพร้อมกัน ก็ไม่อาจเอาชนะ งักปุ๊กคุ้ง ได้ เมื่อ เหล้งฮู้ชง และ หยิ้นอิ๋งอิ๋ง มาถึงที่ผาไม้ดำ หยิ้นอิ๋งอิ๋ง เห็นผู้เป็นพ่อกำลังเสียท่า จึงยื่นมือเข้าช่วย แต่สุดท้ายก็ยังสู้ งักปุ๊กคุ้ง ไม่ได้ หยิ้นอิ๋งอิ๋ง บาดเจ็บ ...งหมึ่งที บาดเจ็บสาหัส ส่วน หยิ้นอั้วฮั้ง ต้องจบชีวิตลง งักปุ๊กคุ้ง เหมือนจะได้ในสิ่งที่ตนปรารถนา คือ ยอดฝีมืออันดับหนึ่งในแผ่นดิน และแล้วการต่อสู้ระหว่าง เหล้งฮู้ชง กับ งักปุ๊กคุ้ง ก็เริ่มขึ้น ในครั้งนี้ ทั้งคู่ต่างใช้ฝีมือที่มีอยู่ทั้งหมดเข้าสู้กัน แม้ เพลงกระบี่ปราบมาร จะร้ายกาจ แต่ก็ไม่อาจตั้งรับการบุกโจมตีของ เก้ากระบี่ต๊กโกว ได้ จึงต้องพ่ายแพ้และจบชีวิตไปในที่สุด

หลังจากศึกบนผาไม้ดำจบลง เหล้งฮู้ชง ได้สละตำแหน่งเจ้าสำนักให้แก่ อี้ลิ้ม ศิษย์เอกแห่งสำนักหานซาน รับสืบทอดต่อไป และไปใช้ชีวิตอยู่ในกระท่อมไม้ไผ่ ดื่มเหล้า บรรเลงบทเพลงเย้ยยุทธจักร กับ หยิ้นอิ๋งอิ๋ง ใช้ชีวิตอย่างสงบ






ตัวละครในเรื่อง
เหล้งฮู้ชง ศิษย์เอกแห่งสำนักหัวซาน เป็นคนไม่ยึดติดกฎเกณฑ์ มีนิสัยเปิดเผย ชอบช่วยเหลือคน วันไนึ่งได้มีวาสนาพบเจอกับ ฟงชิงหยาง ปรมาจารย์สายกระบี่สำนักหัวซาน สำเร็จวิชา เก้ากระบี่ต๊กโกว และได้พบรักกับ หยิ้นอิ๋งอิ๋ง ธิดาเทพแห่งพรรคตะวันจันทรา และยังเป็นผู้สืบทอดมหาเวทย์ดูดดาวของ หยิ้นอั้วฮั้ง โดยบังเอิญ หลังจากสิ้นสุดความวุ่นวาย ได้ปลีกตัวไปอยู่สันโดษกับ หยิ้นอิ๋งอิ๋ง
หยิ้นอิ๋งอิ๋ง ธิดาเทพแห่งพรรคตะวันจันทรา ลูกสาวเพียงคนเดียวของอดีตประมุขพรรคตะวันจันทรา หยิ้นอั้วฮั้ง ภายหลังได้พบรักกับ เหล้งฮู้ชง
หยิ้นอั้วฮั้ง อดีตประมุขพรรคตะวันจันทราถูก ตงฟางปุ๊ป้าย ได้ชิงตำแหน่งประมุขไป และถูกจับขังอยู่ในคุกใต้ทะเลสาบ 12 ปี ภายหลังออกมาได้โดยการช่วยเหลือของ เหล้งฮู้ชง กับ...งหมึ่งที หลังจากออกมาได้แล้ว ก็ชิงตำแหน่งประมุขคืนจาก ตงฟางปุ๊ป้าย
...งหมึ่งที ทูตซ้ายแห่งพรรคตะวันจันทรา คนสนิทของ หยิ้นอั้วฮั้ง เป็นผู้วางแผนการให้ เหล้งฮู้ชง ช่วย หยิ้นอั้วฮั้ง ออกจากคุกใต้ทะเลทราบ
งักปุ๊กคุ้ง ฉายา กระบี่ผู้ดี(จอมปลอม) เจ้าสำนักหัวซานสายลมปราณ และเป็นอาจารย์ผู้ชุบเลี้ยง เหล้งฮู้ชง มาตั้งแต่เด็ก ภายหลังเพียงเพื่อชิง เพลงกระบี่ปราบมาร จึงได้ใส่ร้าย เหล้งฮู้ชง และขับ เหล้งฮู้ชง ออกจากสำนัก ภายหลังสำเร็จ เพลงกระบี่ปราบมาร และได้ขึ้นเป็นประมุขพรรค 5 ขุนเขากระบี่
ตงฟางปุ๊ป้าย หรือ บูรพาไร้พ่าย ผู้สำเร็จ วิชาทานตะวัน แต่เพียงผู้เดียว ประมุขพรรคตะวันจันทรา ฝีมือไร้เทียมทาน แม้ หยิ้นอั้วฮั้ง เหล้งฮู้ชง ...งหมึ่งที และหย้ินอิ๋งอิ๋ง 4 คน จะร่วมมือกัน ก็ยังไม่สามารถเอาชนะได้ หากแต่ ตงฟางปุ๊ป้าย มัวห่วงคนรัก หยางเหลียนถิง จึงได้พลาดพลั้งถูกกระบี่ของ เหล้งฮู้ชง และตายอยู่เคียงข้าง หยางเหลียนถิง ตงฟางปุ๊ป้าย หลังจากได้ตำแหน่งประมุขพรรคตะวันจันทรา ก็ได้ใช้ชิวิตสันโดษอยู่บนผาไม้ดำ เย็บปักถักร้อย เล่นดนตรี โดยให้คนรัก หยางเหลียนถิง เป็นคนคอยดูแลพรรค
ฟงชิงหยาง ปรมาจารย์สายกระบี่แห่งสำนักหัวซาน ผู้สืบทอด เก้ากระบี่ หลังจากศึกนองเลือดระหว่างสายลมปราณและสายกระบี่ ก็ได้เร้นกายอยู่บนผาสำนึกตน จนได้พบกับ เหล้งฮู้ชง จึงได้ถ่ายทอด เก้ากระบี่ต๊กโกว ให้
ลิ้มเพ้งจือ ผู้สืบทอดสำนักคุ้มภัย ฟุ้เวย เจ้าของที่แท้จริงของ เพลงกระบี่ปราบมาร แต่ก็เพราะเพลงกระบี่ชุดนี้ ทำให้ต้องบ้านแตก ถูก อื้อชางไห่ ฆ่าล้างสำนัก เพื่อหวังจะชิง เพลงกระบี่ปราบมาร แต่ได้รับความช่วยเหลือจาก เหล้งฮู้ชง จึงได้รอดชีวิต ต่อมา งักปุ๊กคุ้ง รับเป็นศิษย์สำนักหัวซาน ได้แต่งงานกับงักเล้งซัง งักปุ๊กคุ้ง ใช้เล่ห์กลชิง เพลงกระบี่ปราบมารไปและคิดฆ่าตนปิดปาก นับว่ายังโชคดีรอดชีวิตมาได้ และยังพบ เพลงกระบี่ปราบมาร จากใต้ผาสำนึกตน หลังจากสำเร็จวิชา จึงได้เริ่มการแก้แค้น ผู้ที่ทำร้ายตนและครอบครัว
อี้ลิ้ม แม่ชีน้อย ศิษย์สำนักหานซาน วันหนึ่งถูก เถียนป๋อกวง จับตัวไว้หมายจะทำมิดีมิร้าย เหล้งฮู้ชง ได้เข้าช่วยเหลือ จึงได้แอบหลงรัก เหล้งฮู้ชง แต่เพราะตนเป็นผู้ออกบวช จึงได้แต่เก็บเอาไว้ในใจ ภายหลังได้รับสืบทอดตำแหน่งเจ้าสำนักหานซานต่อจาก เหล้งฮู้ชง
เถียนป๋อกวง โจรปล้นสวาท ฉายา ฉายเดี่ยวหมื่นลี้ เพราะ อี้ลิ้ม จึงได้รู้จักกับ เหล้งฮู้ชง หลังจากแพ้ให้ เหล้งฮู้ชง จึงต้องรับ อี้ลิ้ม เป็นอาจารย์ และได้คบหาเป็นเพื่อนกับ เหล้งฮู้ชง
จ้อแหน้เซี้ยง เจ้าสำนักซงซาน ผู้นำ 5 ขุนเขากระบี่ เป็นคนมักใหญ่ใฝ่สูง คิดเป็นเจ้ายุทธจักร โดยเริ่มต้นจากการรวม 5 ขุนเขากระบี่เป็นหนึ่งเดียว สุดท้ายต้องฝันสลาย ถูกงักปุ๊กคุ้งฆ่าตาย ในการประลองคัดเลือกประมุขพรรค 5 ขุนเขากระบี่
งักเล้งซัง ลูกสาวเพียงคนเดียวของ งักปุ๊กคุ้ง สนิทสนมและฝึกวิชากับ เหล้งฮู้ชง มาตั้งแต่เด็ก ทั้งคู่ต่างชอบพอกัน จนกระทั่ง ลิ้มเพ้งจือ เข้าสำนัก ด้วยความใกล้ชิดจึงได้เปลี่ยนใจไปรัก ลิ้มเพ้งจือ และแต่งงานเป็นสะใภ้ตระกูลลิ้ม แต่สุดท้ายก็ต้องตายด้วยมือของสามีนางเอง
ม่อต้า ผู้อาวุโสแห่งสำนักเหิงซาน มีฉายาว่า พิรุณราตรี เป็นศิษย์พี่ของเจ้าสำนักเหิงซาน หลิวเจิ้นฟง เพลงกระบี่ว่องไว เมื่อชักออกจากฝัก จะถูกเก็บอย่างรวดเร็ว ศัตรูไม่ทันได้ชักกระบี่ ก็ต้องลงไปนอนจมกองเลือดซะแล้ว ภายหลังรับตำแหน่งเจ้าสำนักเหิงซานต่อจาก หลิวเจิ้นฟง
ใต้ซือฟางเจิ้น เจ้าอาวาสวัดเส้าหลินคนปัจจุบัน เป็นหลวงจีนที่ทุกคนให้ความยำเกรง มีกำลังภายในสูง เป็นผู้ที่ช่วยบรรเทาอาการบาดเจ็บของ เหล้งฮู้ชง จากลมปราณ 8 สายที่อยู่ในตัว ภายหลังยังมอบคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น สลายผลร้ายที่เกิดจาก มหาเวทย์ดูดดาว อีกด้วย
นักพรตชงซี เจ้าสำนักบู๊ตึ๊งคนปัจจุบัน เป็นอีกผู้หนึ่งที่ทุกคนล้วนให้ความยำเกรง เป็นสหายของใต้ซือฟางเจิ้น และเป็นอีกคนที่คอยให้ความช่วยเหลือแก่ เหล้งฮู้ชง
งักฮูหยิน เป็นอาจารย์หญิงของ เหล้งฮู้ชง และเป็นผู้ที่ เหล้งฮู้ชง ให้ความเคารพดั่งแม่แท้ๆ เป็นจอมยุทธหญิงที่มีชื่อเสียง ภายหลังได้ฆ่าตัวตาย เพราะทนความเลวทรามของ งักปุ๊กคุ้ง ผู้เป็นสามีไม่ได้

เคล็ดวิชาในกระบี่เย้ยยุทธจักร
เก้ากระบี่เดียวดาย หรือ เก้ากระบี่ต๊กโกว วิชาของมารกระบี่ ต๊กโกวคิ้วป้าย แซ่ของเขาคือ "ต๊กโกว" มีฉายาว่า "คิ้วป้าย" แปลว่า "แสวงพ่าย" เพลงกระบี่เก้ากระบี่ต๊กโกว มีอยู่ 9 กระบวนท่า เพียง 1 กระบวนท่าก็สามารถผันแปรได้อีก 360 ท่า ทุกกระบวนท่าของเพลงกระบี่ชุดนี้มีแต่รุก กดดันให้คู่ต่อสู้ต้องเป็นฝ่ายตั้งรับ ใช้ไร้กระบวนท่าพิชิตกระบวนท่า โดยมีคติว่า "เมื่อไม่มีกระบวนท่า แล้วจะรับยังไง" ดังนั้น เก้ากระบี่ต๊กโกว จึงเป็นเพลงกระบี่ไร้พ่าย ตามเนื้อเรื่อง ผู้สืบทอดเพลงกระบี่ชุดนี้ คือ ฟงชิงหยาง หรือ ฮวงเชียงเอี๊ยง ปรมาจารย์สายกระบี่แห่งสำนักหัวซาน แต่ที่มาการสืบทอดเพลงกระบี่ของ ฟงชิงหยาง นั้น ไม่ได้กล่าวไว้ ภายหลังได้ถ่ายทอดวิชานี้ต่อให้กับ เหล้งฮู้ชง ขณะที่อยู่บนผาสำนึกตน
เพลงกระบี่ปราบมาร และ วิชาทานตะวัน ทั้ง 2 วิชา มีที่มาจากคัมภีร์ทานตะวัน ซึ่งสมัยก่อนมีขันทีคนหนึ่งเป็นคนเก็บซ่อนเอาไว้ ว่ากันว่าวิชาใน คัมภีร์ทานตะวัน สุดแสนวิเศษล้ำเลิศ 300 ปีที่ผ่านไม่มีผู้ใดฝึกได้สำเร็จเลย ต่อมาได้มีศิษย์ 2 คนของสำนักหัวซาน คือ งักซู่แห่งสายลมปราณ และ ไฉ้จื่อฟงแห่งสายกระบี่ ไปแอบอ่านคัมภีร์เข้า แล้วศึกษาจนคิดค้นวิชาออกมาเป็น 2 วิชา นั่นก็คือ เพลงกระบี่ปราบมาร และวิชาทานตะวัน แต่ก็นับว่าทั้ง 2 วิชาเป็นเพียงเศษเสี้ยวของคัมภีร์ของจริงเท่านั้น หากแต่ทั้ง 2 ไม่ได้ฝึกวิชาทั้ง 2 นี้ ต่อมาผู้เฒ่า 10 คนของพรรคตะวันจันทราได้ข่าวนี้เข้า จึงได้บุกมาหัวซานเพื่อชิงคัมภีร์ และได้ชิงวิชาทานตะวันไป งักซู่ และ ไฉ้จื่อฟง ก็ได้ตายในศึกนี้นี่เอง 10 ปีให้หลัง 10 ผู้เฒ่าแห่งพรรคตะวันจันทราได้บุกสำนักหัวซานอีกครั้ง แต่กลับถูกแผนร้ายกักขังไว้ในถ้ำบนผาสำนึกตนจนตาย ส่วนกระบี่ปราบมารได้ตกไปอยู่กับนักบวชเส้าหลินรูปหนึ่งนามว่า ตู้หย่วน ต่อมาได้เข้าสู่ยุทธภพ แต่งงานและเปลี่ยนชื่อเป็น ลิ้มเอี้ยงทู้ พ่อของ ลิ้มติ้งนั้ง หรือก็คือปู่ของ ลิ้มเพ้งจือ นั่นเอง
มหาเวทย์ดูดดาว เป็นวิชาสุดยอดอีกวิชา ผู้คิดค้นคือประมุข หยิ้นอั้วฮั้ง แห่งพรรคตะวันจันทรา เป็นวิชาที่ดูดพลังของคู่ต่อสู้ แล้วหลอมรวมมาเป็นของตนเอง วิชานี้ถูกคิดค้นขึ้นมาก็เพราะ หยิ้นอั๊วฮั้ง ไม่ต้องการที่จะฝึกวิชาทานตะวัน จึงคิดค้นวิชาที่สามารถเทียบเคียงกับวิชาทานตะวันได้ จึงได้ออกมาเป็นวิชามหาเวทดูดดาว ผู้สืบทอดวิชานี้มีเพียง เหล้งฮุ้ชง เพียงผู้เดียวเท่านั้น
คัมภีร์รัศมีม่วง คือวิชาลมปราณขั้นสูงสุดของสำนักหัวซานสายลมปราณ ผู้สืบทอดวิชาคือ งักปุ๊กคุ้ง เจ้าสำนักหัวซาน



อิตเต็งไต้ซือ
#7   อิตเต็งไต้ซือ    [ 07-05-2008 - 19:49:53 ]

บู๊ตึ๊ง

สำนักบู๊ตึ๊ง เป็นสำนักวิชากำลังภายในที่มีชื่อเสียงในนิยายกำลังภายในหลายเรื่อง โดยเฉพาะนิยายกำลังภายในของกิมย้ง


[แก้] ประวัติ
ในเรื่องดาบมังกรหยก บู๊ตึ๊งเริ่มมาจากหลวงจีนในวัดเส้าหลิน ชื่อว่า จางซางฟงหรือเตียซำฮง ซึ่งเดิมมีชื่อว่า เตียกุนป้อ เป็นศิษย์ของท่านอาจารย์ กี๊กเอี้ยงซึ่งมีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ อาจารย์กั๊กเอี้ยงสั่งให้เตียกุนป้อลงจากเส้าหลินเนื่องเพราะวัดมีภัย โดยมีผู้บุกรุกนามว่า สามวิเศษเขาคุนลุ้น ซึ่งภายหลังกลายเป็นเรื่องเข้าใจผิด โดยถ่ายทอดวิชาในคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นให้ ซึ่งถือว่าเป็นยอดวิชาลมปราณหลังกำเนิด (คู่กับซือชวยเก็ง หรือคัมภีร์ชะล้างไขกระดูก อันเป็นลมปราณก่อนกำเนิด) หลังจากลงจากวัด ได้พบกับก๊วยเซียงและร่วมทางกันช่วงหนึ่ง หลังจากนั้นได้ก่อตั้งสำนักชื่อว่าสำนัก บู๊ตึ๊ง และเปลี่ยนชื่อตนเองเป็น เตียซำฮง (ซำฮงหมายถึงยอดเขา 3ลูก) รับศิษย์รุ่นแรก 7 คน ซึ่งเป็นที่มีชื่อเสียงในยุทธภพมาก ชาวยุทธต่างขนานนามว่า 7 กระบี่บู๊ตึ๊ง หรือ 7 จอมยุทธบู๊ตึ๊ง วิชาที่โด่ดเด่นคือ วิชากระบี่และมวย โดยมีวรยุทธบางชุดของเส้าหลิน บางชุดดัดแปลง และมี ยอดวิชาของสำนักคือ กระบี่ไท่เก๊ก และมวยไท่เก๊ก ซึ่งเตียซำฮง บัญญัติขึ้นภายหลัง โดยสังเกตจากการต่อสู้ของ งูกับกระเรียน

ส่วนตามประวัติศาสตร์ อาจารย์ของเตียซำฮงเป็นนักพรตในลัทธิเต๋านามว่า ฮวยเหล็งจินหยิน และมวยบู๊ตึงกับเส้าหลินไม่ได้มีพื้นฐานเดียวกันอย่างเช่นในนิยาย เนื่องจากมวยไท่เก็ก เป็นภูมิปัญญาแบบจีนแท้ เน้นความอ่อนหยุ่น ธาตุหยิน ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว ส่วนมวยเส้าหลินมีต้นกำเนิดมาจากแถบอินเดีย โดยมีรากฐานมาจากโยคะ คัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น ก็มีรากฐานมาจากวิชาโยคะ และศาสตร์ของพุทธมหายาน เน้นความแข็งกร้าว ธาตุหยาง

สำนักบู๊ตึ๊งมีความยิ่งใหญ่เทียบเคียงวัดเส้าหลิน ถือเป็นเสาหลักของยุทธภพ เตียซำฮงมีความสนิทกับก๊วยเซียงเจ้าสำนักง้อไบ๊

หลานศิษย์ของเตียซำฮง คือเตียบ่อกี้ ได้รับตำแหน่งประมุขนิกายเม้งก่า มีบทบาทในการขับไล่ชาวมองโกลในนิยายด้วย


สำนักง้อไบ๊

สำนักง้อไบ๊ เป็นสำนักนางชีที่มีชื่อด้านกำลังภายใน ปรากฏในนิยายกำลังภายในของกิมย้ง ในภาษาจีนกลาง เรียกว่า เอ้อเหมย ซึ่งเป็นเขาที่มีอยู่จริง เชื่อกันว่าบนเขาเอ้อเหมยมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์สถิตย์อยู่ เป็นหนทางที่สามารถเชื่อมต่อกับสวรรค์ได้ เพราะบนยอดเขามักจะมีคนพบเห็นแสงสว่างที่เป็นรัศมีเรืองรองอยู่บ่อยๆ ซึ่งนั่นเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่แสงอาทิตย์ทำมุมตกกระทบกับยอดเขานั่นเอง


ประวัติ

ในนิยายเรื่องมังกรหยก ภาค 2 ก๊วยเซียง ลูกสาวคนที่สองของ ก๊วยเจ๋งกับอึ้งย้ง ได้รับทราบความจริงว่าเอี้ยก้วยญาติผู้พี่ที่ตนหลงรัก มีความแค้นกับพ่อแม่ แต่ในที่สุดเรื่องราวก็ได้คลี่คลาย และ เข้าใจกัน ในช่วงท้ายของ เรื่องกล่าวไว้ว่านางได้ก่อตั้งสำนักชีง้อไบ๊ ซึ่งมีชื่อเสียงทัดเทียมกับสำนักบู๊ตึ๊ง

ในเรื่องดาบมังกรหยก ประมุขง๊อไบ๊คือมิกจ้อซือไท่ ซึ่งครอบครองกระบี่อิงฟ้า หนึ่งในสองอาวุธสำคัญในเรื่อง

ชื่อของ ง้อไบ๊ ในภาษากลางอ่านออกเสียงว่า เอ้อเหมย

นอกจากปรากฏในเรื่อง มังกรหยก แล้ว ชื่อของเขา ง้อไบ๊ ยังปรากฏในเรื่อง นางพญางูขาว ด้วย ซึ่งเขาง้อไบ๊ หรือ เอ้อเหมย นี้ เป็นที่บำเพ็ญพรตของ นางพญางูขาว ไป๋ซู่เจิน นั่นเอง





อิตเต็งไต้ซือ
#8   อิตเต็งไต้ซือ    [ 07-05-2008 - 19:50:52 ]

ช้วนจินก่า

ช้วนจินก่า เป็นสำนักในนิยายกำลังภายในของกิมย้ง เรื่องมังกรหยก โดยมีสมาชิกเป็นนักพรต ก่อตั้งโดยเฮ้งเตงเอี้ยง

รายชื่อเจ้าสำนัก
เฮ้งเตงเอี้ยง หรือฉายา "กลางอิทธิฤทธิ์" ถูกเอ่ยชื่อถึงใน มังกรหยก
เบ๊เง็ก ฉายา "จ้าวสุริยัน" ปรากฏตัวใน มังกรหยก 2
คูชู่กี่ สืบทอดตำแหน่งเจ้าสำนักจากเบ๊เง็ก ในมังกรหยก 2
... ปัจจุบัน หวัง ลี่ ผิง


[แก้] วิชาฝีมือ
ท่าปิดประตูใหญ่ (ไต้กวงมึ้งเส็ก) เป็นกระบวนท่าอันสูงส่งของสำนักชวนจินก่า ใช้โดยศิษย์สองคนของสำนักชวนจินก่าในตอนที่ก๊วยเจ๋งจะพาเอี้ยก้วยไปฝาก (1-160)
เท้านกเป็ดน้ำสัมพันธ์ (อวงเอียเลี่ยงฮ้วงคา) เป็นเพลงเท้าใช้โดยศิษย์สองคนของสำนักชวนจินก่าในตอนที่ก๊วยเจ๋งจะพาเอี้ยก้วยไปฝาก (1-161)
หยั่งทะเลพิฆาตมังกร (ท้ำไอ้ตู้เล้ง) เป็นวิชากระบี่ ใช้โดนนักพรตสันทัด ตอนสู้กับก๊วยเจ๋ง (1-161)
สายลบหอบใบไม้ (ขี่ฮวงเซ่าเฮียะ) เป็นวิชากระบี่ใช้โดยนักพรตผอมซูบ ตอนสู้กับก๊วยเจ๋ง (1-161)
แหวกบุปผาปาดหลิว (ฮุงฮวยฮุกลิ้ว) เป็นวิชากระบี่ ใช้โดนนักพรตสันทัด ตอนสู้กับก๊วยเจ๋ง (1-166)
ถอนตัวกลางกระแสเชี่ยว (กิบลิ้วย่งถ่อ) เต็กเช้งตกใช้ตอนที่โดนเอี้ยก้วยยกถังอุจาระทุ่มใส่ (1-200)
ลมหอบใบไม้ร่วง (ฮวงเซ่าเลาะเฮียะ) เป็นเพลงเท้า ใช้โดยนักพรตหนุ่มของชวนจินก่าในตอนที่ประลองกับเอี้ยก้วย (1-239)
เช็ดถูผงธุลี (ไกบั้วติ้งโกว) เป็นเพลงกระบี่ ใช้โดยนักพรตหนุ่มของชวนจินก่าในตอนที่ประลองกับเอี้ยก้วย (1-239)
ไม่ติดค้างไม่คงเหลือ (บ้อเคี่ยมบ้ออื้อ) ใช้โดยนักพรตหนุ่มของชวนจินก่าในตอนที่ประลองกับเอี้ยก้วย (1-239)
หัตถ์ประตูพยัคฆ์ (โฮ้วมึ้งชิ่ว) เป้นฝ่ามือที่เต็กเช้งตกใช้ฟาดใส่เอี้ยก้วย ในงานประลอง (1-243)
สะพานเหล็ก (ทิปังเกี้ย) ฮักไต้ธงใช้ท่านี้ตอนสู้กับเซียวเหล่งนึ่ง (1-277)
สามห่วงสัมพันธ์ (ซาเลี่ยงฮ้วง) เป็นท่าไม้ตายของสำนักชวนจินก่า เตียจี้เก่งใช้ตอนสู้กับอี่จี้เพ้ง (1-326)
หนึ่งลมปราณแปลงซำเช็ง (เจ่กคี่ฮ่วยซำเช็ง) เป็นเพลงกระบี่ขั้นสูงล้ำของสำนักชวนจินก่า โถมแทงออกสิบแปดกระบี่ ทุกกระบี่ล้วนแยกจากหนึ่ง* เป็นสอง ขณะแทงออกมีเพียงกระบวนท่าเดียว พอขยับข้อมือท่ากระบี่ก็แยกออกเป็นสอง เอี้ยก้วยใช้ตอนสู้กับ ขอทานชรา(1-488)
เข็มสะกดสุริยัน (เตี่ยเอี้ยงจำ) เยลู่ฉีใช้ตอนสู้กับ (1-554)
ดาวใหญ่เตะดารา (ขวยแชถักเต้าสี่) เอี้ยก้วยใช้เพื่อขวางห้าอัปลักษณ์ไม่ให้เข้ามาทำร้ายร่างของอั้งฉิกกง (1-577
เหินข้ามภุเขาเทียนซัว (เทียนซัวปวยโต่ว) เป็นวิชาเท้าบทเรียนแรกของวิชาฝีมือสำนักชวรจินก่า เตียจี้เก่งใช้ตอนสู้กับเอี้ยก้วย (2-58)
ท่วงท่าถอยม้า (ถ่อเบ๊เส็ก) เป็นท่าหลบหลีกกระบวนท่าเหินข้ามภุเขาเทียนซัว (2-59)
วิชชูม่วงทะลวงเมฆ (จี่เตี๋ยงชวงฮุ้น) เป็นกระบวนท่าลึกล้ำ ฝ่ามือบรรลุถึงกลางคันพลันเปลี่ยนทิศทาง ความจริงฟาดใส่แก้มซ้ายชัดๆ ริมฝ่ามือกลับ* ฟันใส่ก้านคอด้านขวาของศัตรู (2-60)
ห่านป้าจู่โจมเฉียง (งังเกี้ยเซี้ยเค็ก) เอี้ยก้วยใช้ตอนต่อสู้กับกิมลุ้น 2-212
รุ้งขาวพาดผ่านฟ้า (แป๊ะฮ้งเก็งเทียน) เอี้ยก้วยใช้ตอนต่อสู้กับกิมลุ้น 2-212
ม้าย่ำบุปผาร่วง (เบ๊ฉกเลาะฮวย) เอี้ยก้วยใช้ตอนสู้กับกงซุนจี้ 2-453
เมฆขาวพ้นช่องเขา (แป๊ะฮุ้นชุกซิ่ว) เตียจี้เก่งใช้ท่านี้ กระโดดหลบจากการคร่ากุมของศิษย์สำนักชวนจินก่า (3-284)
มหาทีสู่บูรพา (ไต้กังตังขื่อ) เตียจี้เก่งใช้เพื่อจะปริดชีวิตเฮ้งจี่ทั่ง (3-284)
เจ็ดดาวร่วมชุมนุม (ฉิกแชจูหวย) เป็นกระบวนท่าที่ ห้านักพรตชวนจินก่าคิดค้นขึ้นเพื่อไว้รับมือเซียวเหล่งนึ่ง (3-311)





อิตเต็งไต้ซือ
#9   อิตเต็งไต้ซือ    [ 07-05-2008 - 19:52:18 ]

วัดเส้าหลิน

เส้าหลิน ในบทความนี้คือ วัดเส้าหลินในประเทศจีน สำหรับที่เป็นการ์ตูนและความหมายอื่นดูที่ เส้าหลิน (แก้ความกำกวม)

วัดเส้าหลินวัดเส้าหลิน เชี่ยวหลินสื่อ หรือ เสี้ยวลิ้มยี่ (จีน: 少林寺; พินอิน: Shàolínsì; ความหมาย "วัดป่าเยาว์", อังกฤษ: Shoalin Temple) เป็นวัดพุทธนิกายมหายานในประเทศจีนที่มีอยู่จริง มีชื่อเสียงอย่างมากเนื่องจากปรากฏในนิยายกำลังภายในหลายเรื่อง โดยเฉพาะในผลงานของกิมย้ง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเทือกเขาซงซาน ในอำเภอเติงเฟิง (Dengfeng) เมืองชานซี มณฑลเหอหนาน

ประวัติ
วัดเส้าหลินก่อตั้งใน พ.ศ. 1038 (ค.ศ. 495) ในช่วงราชวงศ์เว่ย รัชสมัยของพระเจ้าเสี้ยวเหวินตี้ (孝文帝) เพื่อให้พระภิกษุจากอินเดีย นาม ป๋าถัว (跋陀) มาพำนักและเผยแผ่พุทธศาสนา ในขณะนั้นพระอาจารย์ป๋าถัวมีศิษยานุศิษย์เป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตามหลังจากพระอาจารย์ป๋าถัวมรณภาพ ความเจริญของวัดเส้าหลินก็ค่อยๆ เสื่อมถอยลง วัดเส้นหลินมีชื่อเสียงขึ้นอีกครั้ง เมื่อปรมาจารย์ตั๊กม้อหรือ พระโพธิธรรมเถระ ซึ่งเป็นพระภิกษุชาวอินเดีย ได้จาริกมาเพื่อเผยแผ่หลักธรรมพุทธศาสนานิกายธฺยานะ (เซน) ในประเทศจีน ตรงกับรัชกาลพระเจ้าเหลียงบู้ตี้ (ประมาณ พ.ศ. 1070) ตามประวัติเล่าว่า หลังจากเข้าเฝ้าพระจักรพรรดิแล้ว พระองค์ไม่ทรงเข้าพระทัยในคำสอนของพระโพธิธรรม พระโพธิธรรมจึงได้เดินทางข้ามแม่น้ำแยงซีด้วยต้นอ้อลำเดียว ขึ้นเขาซงซานมายังวัดเส้าหลินและนั่งสมาธิในถ้ำหันหน้าเข้าฝาผนังอยู่ 9 ปีเต็ม ก่อนจะถ่ายถอดธรรมะให้แก่ศิษย์คือท่านฮุ่ยเข่อเพื่อสืบทอดเป็นพระสังฆปริณายกองค์ต่อไป

เชื่อกันว่าวิทยายุทธ์ของเส้าหลินสืบทอดมาจากปรมาจารย์ตั๊กม้อ โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากการที่ท่านเห็นว่าพระภิกษุจะต้องนั่งสมาธินานๆ โดยไม่ได้เคลื่อนไหวออกกำลังกายจะทำให้สุขภาพร่างกายเสื่อมทรุดได้ ดังนั้นท่านจึงอาศัยพินิจการเคลื่อนไหวตามธรรมชาติของสัตว์ต่างๆ มาดัดแปลงกำหนดเป็นท่าทางเพื่อการออกกำลังกายและใช้ป้องกันตัว วิทยายุทธ์อันล้ำลึกเหล่านี้ทำให้พระวัดเส้าหลินต้องเข้ามามีส่วนเกี่ยวพันกับเรื่องทางโลกในประวัติศาสตร์จีนหลายครั้ง เช่น ช่วงต้นศตวรรษที่ 7 ในยุคราชวงศ์สุย-ถัง พระวัดเส้าหลินได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือหลี่ซื่อหมิน เพื่อต่อสู้กับหวังซื่อชง และต่อมาเมื่อหลี่ซื่อหมินได้รับการสถาปนาเป็นจักรพรรดิถังไท่จงแห่งราชวงศ์ถัง พระสงฆ์ 13 รูปจึงได้รับเกียรติคุณให้ดำรงตำแหน่งสำคัญในราชสำนัก และวัดเส้าหลินก็ได้รับการอุปถัมภ์จากพระจักรพรรดิ ต่อมาในยุคของพระนางบูเช็กเทียน (武则天) ได้มีการสนับสนุนการเผยแผ่ศาสนาพุทธเป็นอย่างมาก วัดเส้าหลินก็กลายเป็นวัดอันดับหนึ่งในใต้หล้า (天下第一名刹) ไปโดยปริยาย

หลังจากประเทศจีนเข้าสู่ยุคสาธารณรัฐ วัดเส้าหลินก็ถึงยุคตกต่ำถึงขีดสุด เมื่อปี พ.ศ. 2470 (ค.ศ. 1927) ในช่วงที่จีนกำลังวุ่นวายกับการต่อสู้แย่งชิงอำนาจของเหล่าขุนศึก วัดเส้าหลินก็ถูกเผาทำลายครั้งใหญ่ โดยเพลิงได้ลุกโชนอยู่นานถึง 45 วัน สิ่งก่อสร้างในวัดเส้าหลินเกือบทั้งหมดถูกทำลายในกองเพลิง วิหาร ศาลา ตึกหลัก ๆ ได้ถูกเผาทั้งหมด ส่วนคัมภีร์วรยุทธ์ รวมถึงตำราและสมบัติล้ำค่าของวัดมากมาย ก็สูญหายไปในเพลิงอัคคีครั้งนั้น ปัจจุบันวัดเส้าหลินได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจีนที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก

วิชาฝีมือ

18 ฝ่ามืออรหันต์
พลังเคลื่อนย้ายลมปราณ
คัมภีร์เปลี่นเส้นเอ็น



อิตเต็งไต้ซือ
#10   อิตเต็งไต้ซือ    [ 07-05-2008 - 19:55:15 ]



พรรคกระยาจก เป็นพรรคในนิยายกำลังภายในหลายเรื่องของกิมย้งและโก้วเล้ง โดยสมาชิกพรรคเป็นขอทาน และมีประเพณีในพรรคเป็นพิเศษ พรรคกระยาจกในบางยุคมีสมาชิกมากจนเรียกได้ว่าเป็นพรรคอันดับหนึ่งของแผ่นดิน พรรคกระยาจกปรากฏในเรื่อง แปดเทพอสูรมังกรฟ้า และมังกรหยก


รายชื่อประมุขพรรค
เฉียวฟง - จากเรื่องแปดเทพอสูรมังกรฟ้า
อิ้วถังจื่อ - จากเรื่องแปดเทพอสูรมังกรฟ้า
อั้งฉิกกง - จากเรื่องมังกรหยก
อึ้งย้ง - จากเรื่องมังกรหยก
ลู่อูคา - จากเรื่องเอี้ยก่วยเจ้าอินทรี
เยลุกชี้ - จากเรื่องเอี้ยก่วยเจ้าอินทรี
ซูซาฮาเอ๋อซาน - ประมุขพรรคคนสุดท้าย จากเรื่องยาจกซูไม้เท้าประกาศิต

วิชาฝีมือ
พรรคกระยาจกมีวิชาที่มีชื่อเสียง 2 อย่าง คือ สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร และเพลงไม้ตีสุนัข


ประเพณีและพิธีต่างๆ ของพรรคกระยาจก

การเลือกสมาชิกพรรค
ใช้ระบบ กระสอบ กำหนดลำดับชั้นของสมาชิกในพรรค ระดับผู้เฒ่าซึ่งเป็นระดับสูงสุดจะมี 9 กระสอบ ศิษย์ระดับสูงที่มีบทบาทในพรรคจะมี 7 กระสอบขึ้นไป


การยอมรับประมุขใหม่
ประมุขคนใหม่จะต้องสืบทอดไม้เท้าตีสุนัข ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แสดงความเป็นประมุข และต้องได้รับการถ่มน้ำลายรดจากสมาชิกพรรคด้วย





อิตเต็งไต้ซือ
#11   อิตเต็งไต้ซือ    [ 07-05-2008 - 19:56:54 ]

นิกายเม้งก่า

เม้งก่า เป็นลิทธิที่มีจริงๆ ในประวติศาสตร์จีน ที่เผยแพร่มาจากเปอร์เชีย (ประเทศอิหร่าน ในปัจจุบัน)ในสมัยราชวงค์ถัง มีอีกชื่อหนึ่งว่า โซโรอัสเตอร์ และ จูหยวนจาง ก็เป็นสาวกลัทธินี้ด้วย

ห้าขุนเขากระบี่

ห้าขุนเขากระบี่ (The Five Mountains Alliance, 五嶽劍派) ปรากฏในภาพยนตร์จีนกำลังภายในเรื่อง กระบี่เย้ยยุทธจักร เป็นสมาพันธ์สำนักกระบี่ที่มีชื่อเสียงห้าสำนักซึ่งนำชื่อมาจากหนังสือฉบับ น.นพรัตน์แปล ได้แก่ ซงซัว ไท่ซัว ฮั้วซัว เห็งซัว และเหิงซัว แต่ละสำนักมีวรยุทธของตนเองที่เป็นเอกลักษณ์ แต่เนื่องจากมีอุดมการณ์เดียวกันจึงจับมือเป็นภาคีต่อต้านพรรคมารหรือก็คือพวกผาไม้ดำ ต่อมาจ้อแน่เซียงเจ้าสำนักซงซัวมีความคิดรวบห้าขุนเขากระบี่หนึ่งเดียว ให้ชื่อว่า พรรคห้าขุนเขากระบี่ เพื่อให้เป็นสำนักใหญ่เทียบเคียงได้กับ เส้าหลิน บู๊ตึ๊ง แต่เจ้าสำนักทั้งสี่ที่เหลือล้วนไม่เห็นด้วย เนื่องจากแต่ละสำนักมีประวัติยืนยาวมานาน อีกทั้งมีวรยุทธเป็นแบบเฉพาะตัวที่โดดเด่น หากรวมเป็นหนึ่งเดียวจะเป็นการไม่สมควร แต่กระนั้นงั๊กปุ๊กคุ้งเจ้าสำนักฮั้วซัวดูเหมือนจะคล้อยตามจ้อแน่เซียงที่สุด เพราะในใจลึกๆแล้ว เขาก็อยากเป็นผู้นำของพรรคห้าขุนเขากระบี่ไม่ได้ด้อยไปกว่าจ้อแน่เซี้ยงเลย








อิตเต็งไต้ซือ
#12   อิตเต็งไต้ซือ    [ 07-05-2008 - 19:59:49 ]

วิชาของกิมลุ้น

เท้านกเป็ดน้ำสัมพันธ์ (อวงเอียเลี่ยงอ้วงคา) เป็นท่าที่ฮั่วตูใช้หลบท่าเท้าบินจี้จุดของเซียวเหล่งนึ่ง (2-147)
เพลงกระบองทรงพลังที่สุด (บ้อเสียงตั่วลัดซู่ฮวบ) วิชากระบองของตาเอ่อปา ใช้ตอนสู้กับเอี้ยก้วยที่งานชุมนุม(2-163)
มือเดียวเบิกหลักหิน (ตัวเจี้ยไคปี) กิมลุ้นใช้สู้กับเซียวเหล่งนึ่ง ในตอนที่ เหล่งนึ่งกับเอี้ยก้วยพยายามช่วยอึ้งย้ง 2-208
มือทุ่มเหวี่ยงหลักหิน (ไต้จุกปีชิ่ว) กิมลุ้นใช้สู้กับเอี้ยก้วย 2-212
เหยียบย้อนเจ็ดดาว (ต้อต๊ะฉิกแชโป่ว) ท่านี้กิมลุ้นใช้พุ่งถอยออกจากถ้ำเพื่อหลบจากเข็มผึ้งหยกที่เซียวเหล่งนึ่งซัดมา (3-248)
แขนเสื้อพายุ (ไต้ฮวงซิ่ว) ฮั่วตูใช้ท่านี้พัดให้ไฟบนโคมไฟบนเวทีประลองดับ (4-374)
มือพิศดารแปดจู่โจม (คาชิ่วโป๊ยพะ) ท่าที่ฮั่วตูใช้จู่โจมเยลู่ฉี (4-374)
ตาขอทองห้อยแขวน (ต้อคั่วกิมเกา) ท่าที่กิมลุ้นใช้พยายามความตัวก๊วยเซียงตอนที่ ก๊วยเซียงกระโดดดลงผาตามเอี้ยก้วยไป (4-466

ประทับไม่ตาย

ประทับไม่ตาย คือชื่อวิทยายุทธ แขนงหนึ่ง ปรากฏในนิยายกำลังภายในเรื่อง มังกรคู่สู้สิบทิศ ประพันธ์โดย หวงอี้

ผู้บัญญัติวิชา และเป็นผู้ใช้ คือ สือจือเซวียน ซึ่งเป็นหนึ่งในแปดยอดฝีมือฝ่ายอธรรม โดยถือว่ามีพลังฝีมือจัดเป็นอันดับที่ 1 ได้รับฉายาว่า เทพอาถรรพ์ โดยสือจือเซวียน ได้ใช้วิชาของสำนักกุสุมาลย์ สำนักเสริมเติมฝ้า และวิชาของสถาบันสงฆ์ที่ได้แอบเรียนรู้มาบัญญัติเป็นประทับไม่ตาย

ประทับไม่ตาย เป็นวิชาผสานพลังเป็น-ตายรวมศูนย์ฝ่ามือโจมตีศัตรู ด้วยกระบวนท่าดุดัน รุนแรง เน้นโจมตีจุดตายให้ถึงแก่ชีวิตในการลงมือเพียงครั้งเดียว ซ้ำยังสามารถหยิบยืม ถ่ายเทพลังของศัตรู กลับไปทำร้ายเจ้าของพลังได้อีกด้วย เป็นวิชาที่ถือได้ว่าไร้พ่าย และร้ายกาจไม่เป็นรองวิชาใด ๆ

กระบวนฝ่ามือของวิชาประทับไม่ตายแบ่งเป็น 7 กระบวน คือ

ลมเย็นส่งศพทวงชีวิต
เป็นตายพลัดพลากไส้แทบขาด
ถึงประตูนรกแค้นไม่เลิก
ตะลุยแดนนรกไม่หวาดหวั่น
ตัดสินเป็นตายในตำหนักมัจจุราช
สะพานผ่านภพลืมชาติก่อน
ตกนรกหมกไหม้ไม่ผุดเกิด
สือจือเซวียน ได้บันทึกเคล็ดวิชาของประทับไม่ตายลงในม้วนบันทึก และให้ศิษย์ทั้งสองคนของตน คือ มือสังหารเงา และคุณชายมากรัก แย่งชิง เข่นฆ่ากันเอง ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ชนะ คือผู้ที่เก่งกาจที่สุด ได้เคล็ดวิชา สืบทอดเจตนารมณ์ของตนกลายเป็นเทพอาถรรพ์คนต่อไป



ลี้ม๊กโชว้สุสานโบราณ
#13   ลี้ม๊กโชว้สุสานโบราณ    [ 07-05-2008 - 20:01:59 ]

สุดยอดเลย คับท่าน

อิดเต๊งไต้สือ




ลี้ม๊กโชว้สุสานโบราณ
#14   ลี้ม๊กโชว้สุสานโบราณ    [ 07-05-2008 - 20:02:58 ]

แต่ อ่าน ยังไง ก้อมะหมด สักทีเลย คับ

ตาลาย แร้ว อ่านแค่ มังกรหยก กับ มังกรหยก2 ก้อ ตาจะบอดแระคับ



อิตเต็งไต้ซือ
#15   อิตเต็งไต้ซือ    [ 07-05-2008 - 20:06:39 ]

อาตมาจะนำมาไห้ อีก ถ้ามีอ่ะไร น่าสนใจ



อิตเต็งไต้ซือ
#16   อิตเต็งไต้ซือ    [ 07-05-2008 - 20:21:52 ]

กลางเทียมเทพเจ้า ....
เฮ้งเตงเอี้ยง .. ผู้ก่อตั้งนิกายช้วนจิน ในลัทธิเต๋า มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์

สำหรับในนิยาย เฮ้งเตงเอี้ยงเป็นปรมาจารย์ผู้ก่อตั้งนิกายช้วนจินก่า และเป็นอันดับหนึ่งของห้ายอดฝีมือแห่งยุคที่ชนะการประลองถกกระบี่เขาหัวซานครั้งแรก ซึ่งได้ครองคัมภีร์เก้าอิม แต่ไม่ปราถนาที่จะฝึกยอดวิชา เพียงแต่ต้องการไม่ให้ยุทธภพต้องวุ่นวาย จึงเก็บรักษาคัมภีร์ยุทธไว้ใต้เบาะ

เฮ้งเตงเอี้ยงเป็นศิษย์ผู้พี่ของเฒ่าทารกจิวแป๊ะทง มีศิษย์เจ็ดคน เฮ้งเตงเอี้ยงเป็นคนมีเมตตา ฉลาดหลักแหลม คิดค้นวิชามากมาย เช่น พลังกำเนิดฟ้า เพลงกระบี่ช้วนจิน และค่ายกลเจ็ดดาวที่เหล่านักพรตทั้งเจ็ดเคยใช้รับมือกับมารบูรพาอึ้งเอ๊ียะซือ วรยุทธของพิษประจิมโดยเฉพาะพลังคางคกแพ้ทางกับวรยุทธของเฮ้งเต้งเอี้ยง เมื่อรู้ว่าตัวเองจะอยู่ได้อีกไม่นาน เฮ้งเตงเอี้ยงจึงเดินทางไปต้าหลี่ ถ่ายทอดยอดวิชาช้วนจินให้ราชันย์ทักษินต้วนตี่เฮง เพื่อไว้กำราบพิษประจิมไม่ให้ทำชั่วเมื่อตนตายไป เฮ้งเตงเอี้ยงเป็นเจ้าของสุสานโบราณแต่ภายหลังได้ยกให้ลิ้มเซียวเอ็ง ซึ่งต่อมาลิ้มเซียวเอ็ง ก็เป็นผู้ก่อตั้งสำนักสุสานโบราณ ซึ่งเป็นอาจารย์ยายของลี้มกโช้ว และเซียวเล้งนึ่ง

ภูตบูรพา ....
อึ้งเอี้ยซือ .... เป็นบิดาของอึ้งย้ง เป็นประมุขเกาะดอกท้อ และเป็น 1 ในห้ายอดฝีมือ เป็นบุคคลเฉลียวฉลาดไม่ว่าจะบุ๋นหรือบู๊ มีฝีมือในด้านขลุ่ย, หมากรุก, หนังสือ, ภาพวาด,ค่ายกล แต่เป็นคนไม่ชอบผูกมัดไม่ยึดติดกับกฎเกณฑ์ประเพณีใด

ความรักที่มีต่อภรรยาที่ตายจากไปเป็นสิ่งเดียวในชีวิตที่เขายึดติด บุคลิกของก๊วยเจ๋งทั้งซื่อทั้งทึ่มทำให้เขาไม่ค่อยชอบ แต่ภายหลังได้พบเอี้ยก้วยที่มีลักษณะ คล้ายกับตนเอง (ธรรมะมีธรรม 7 ส่วน, อธรรมมีธรรมะ 7 ส่วน) ส่งผลให้คบหาเป็นสหายต่างวัย

ขณะที่การสู้รบป้องกันเมืองเซียงเอี๊ยงดำเนินอยู่ ชาวตงง้วนอาศัยเขาเป็นผู้นำขบวนในค่ายกลกลุ่มดาว 28 กลุ่ม ช่วยเหลือก๊วยเซียงได้สำเร็จและขับไล่มองโกลได้อีกด้วย

อึ้งเอี้ยซือ เป็นตัวแทนของปราชญ์เมธีแบบจีนแท้ๆ

ยาจกอุดร ....
อั้งฉิกกง.....เป็นหนึ่งในห้ายอดฝีมือที่ประลองยุทธเขาหัวซาน เป็นประมุขพรรคกระยาจก แตกฉานวิชาสิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร และเพลงไม้เท้าตีสุนัข รักคุณธรรม ชอบท่องเที่ยว และโปรดปรานอาหารเลิศรส ทำให้ครั้งหนึ่งเคยเสียงานใหญ่เพราะห่วงกิน จึงลงโทษตัวเองต่อหน้าศิษย์พรรคยาจกด้วยการตัดนิ้วชี้ข้างขวาตัวเองเป็นการไถ่โทษ จึงมีอีกฉายาว่า ยาจกเก้าดรรชนี อั้งฉิกกงโปรดฝีมือการทำอาหารของอึ้งย้งเป็นที่สุด จึงรับก๊วยเจ๋งและอึ้งย้งเป็นศิษย์ ถ่ายทอด 18 ผ่ามือพิชิตมังกรให้ก๊วยเจ๋ง และเพลงไม้ตีสุนัขให้อึ้งย้ง ภายหลังถูกพิษประจิมอาวเอี๊ยงฮงลอบทำร้ายจึงมอบตำแหน่งประมุขพรรคยาจกให้อึ้งย้งดูแลแทน ยาจกอุดรอั้งฉิกกงกับพิษประจิมอาวเอี้ยงฮงเป็นศัตรูกันมาโดยตลอด แต่เมื่อถึงวาระสุดท้ายทั้งสองกลับลืมความแค้นที่มีต่อกัน และจากไปพร้อมกันอย่างสงบ

พิษประจิม ....
อาวเอี๊ยงฮง .....เป็นหนึ่งในห้ายอดฝีมือที่ประลองยุทธบนเขาหัวซาน เชี่ยวชาญการใช้พิษ และสัตว์มีพิษต่างๆ แตกฉานพลังคางคก และเพลงไม้เท้าอสรพิษ พลังคางคกของอาวเอี๊ยงฮงแพ้ทางกับวรยุทธของเฮ้งเตงเอี๊ยงและราชันย์ทักษิณ โดยเฉพาะดรรชนีเอกสุริยัน

อาวเอี๊ยงฮงมีบุตรชายหนึ่งคนชื่ออาวเอี๊ยงโคก ซึ่งเกิดกับพี่สะใภ้ ภายหลังอาวเอี๊ยงโคกถูกเอี้ยคังฆ่าตาย อาวเอี๊ยงฮง เคยบังคับให้ก๊วยเจ๋งเขียนเคล็ดวิชาในคัมภีร์เก้าอิมจินเอ็งให้ตน แต่ก๊วยเจ๋งเขียนคัมภีร์ปลอมให้ อึ้งย้งจึงใช้อุบายบอกเคล็ดคัมภีร์เก้าอิมแบบทวนทิศให้อาวเอี๊ยงฮงฝึกตามจนอาวเอี๊ยงฮงถูกธาตุไฟแทรกกลายเป็นคนเสียสติ แต่ก็สำเร็จวิชาเก้าอิมแบบทวนทิศกลายเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งในการประลองยุทธเขาหัวซานครั้งที่สอง

ในภายหลังอาวเอี๊ยงฮงรับเอี้ยก่วยเป็นบุตรบุญธรรม

ราชันย์ทักษิณ .....
อิดเต็งไต้ซือ ....เดิมเป็นฮ่องเต้แคว้นต้าหลี่ชื่อ ต้วนตี่เฮง หนึ่งในห้ายอดฝีมือที่ประลองยุทธถกกระบี่เขาหัวซาน ฉายาราชันย์ทักษิณ แตกฉานวิชาการแพทย์ มีดรรชนีเอกสุริยัน ซึ่งเป็นวิชาที่พิษประจิมเกรงมากเพราะสามารถสยบพลังคางคกได้ ภายหลังออกบวชไม่ยุ่งเรื่องทางโลก ต่อมาอึ้งย้งเปลี่ยนฉายาให้ใหม่ว่า สมณะทักษิณ เดิมทีเชื้อพระวงศ์ไต้ลี้ในนิยายกำลังภายในของกิมย้ง ล้วนเป็นยอดฝีมือทั้งสิ้น นอกจากดัชนีเอกสุริยันแล้ว ยังมีกระบี่หกชีพจรที่เป็นสุดยอดวิชาดัชนีทั้งหก (มือ1ข้างกับนิ้วโป้งอีก1) แต่นอกจากตวนอื้อใน 8 เทพอสูรมังกรฟ้าแล้ว ยังไม่มีใครฝึกได้สำเร็จทั้งหกชีพจรในบุคคลคนเดียว (นั่นเพราะตวนอื้อบังเอิญฝึกลมปราณภูติอุดร ดึงเอาพลังของคนอื่นๆจำนวนมากมาเป็นของตนได้โดยไม่รู้ตัว )



อึ้งย้ง
#17   อึ้งย้ง    [ 07-05-2008 - 20:26:26 ]

อืม ข้อมูลเยอะดีจังเลย ขอบใจมากจ้า



อึ้งย้ง
#18   อึ้งย้ง    [ 07-05-2008 - 20:26:38 ]

อืม ข้อมูลเยอะดีจังเลย ขอบใจมากจ้า



อิตเต็งไต้ซือ
#19   อิตเต็งไต้ซือ    [ 07-05-2008 - 20:27:15 ]

อามิตาพุทธ ... ประสกชอบ อาตมาก็ดีใจ



อึ้งย้ง
#20   อึ้งย้ง    [ 07-05-2008 - 20:27:17 ]

กำ รีบไปหน่อยเผลอกดไปสองครั้ง



ตอบกระทู้
ชื่อ
รหัส กรอกตัวอักษร ตามภาพ
ข้อความ


emo-smile emo-happy emo-lol emo-enjoy emo-kiku emo-cool emo-hoho emo-drool emo-hungry emo-kiss emo-sorry emo-sad emo-cry emo-tear emo-question emo-doubt emo-shock emo-redface emo-plz emo-peevish emo-angry emo-moody emo-sneer emo-makefaces emo-good emo-touched emo-love emo-bore emo-tired emo-vomit
bold italic underline img link superscript subscript size color space justifyleft justifycenter justifyright quote box youtube