เข้าระบบอัตโนมัติ

คัมภีร์ทานตะวัน VS คัมภีร์เพลงกระบี่ปราบมาร


ประมุขหอดารา
#1   ประมุขหอดารา    [ 13-01-2008 - 12:37:12 ]

เนื่องจากช่วงนี้ มีเดชคัมภีร์เทวดา เข้ามาฉายทางช่อง3 จึงขอนำ ตำนานและที่ไปที่มาเกี่ยวกับ คัมภีร์ทานตะวัน VS คัมภีร์เพลงกระบี่ปราบมาร มาให้ได้อ่านกัน โดยข้อความเกือบทั้งหมด เป็นข้อความที่ยกออกมาจากนวนิยายกระบี่เย้ยยุทธจักร ฉบับปรับปรุงล่าสุด เล่ม 3 หน้า 467 - 480 โดยมีการปรับแต่งคำบางคำเพียงเล้กน้อยเพื่อให้สามารถเข้าใจได้โดยง่าย

ตำนาน คัมภีร์ทานตะวัน VS คัมภีร์เพลงกระบี่ปราบมาร

ในยุทธจักรร่ำลือว่า คัมภีร์ทานตะวันเล่มนี้ แต่งโดยขันทีผู้หนึ่งในวังหลวงเมื่อรัชกาลก่อน สำหรับชื่อแซ่ของผู้อาวุโสท่านนี้ไม่สามารถสืบสาวได้ ยอดฝีมือเช่นเขา เหตุใดเป็นขันทีภายในวังยิ่งเป็นปมปริศนา วิทยายุทธที่จารึกในคัมภีร์กลับลึกล้ำยิ่ง สามร้อยปีมานี้ไม่มีผู้ใดสามารถฝึกวิชาฝีมือในคัมภีร์สำเร็จ เมื่อร้อยกว่าปีก่อน คัมภีร์เล่มนี้ตกเป็นของวัดล่างเสี้ยวลิ้มยี่ ที่เมืองโพวชั้ง มณฑลฮกเกี้ยน เจ้าอาวาสวัดล่างตอนนั้น อั้งเฮียะเซี่ยงซือ หรืออีกฉายาหนึ่งว่า มหาสมณะใบไม้แดง มีสติปัญญาเลิศล้ำ ด้วยพลังฝีมือและภูมิปฏิภาณของท่านผู้เฒ่า สมควรฝึกวิชาในคัมภีร์ได้จึงถูกต้อง แต่จากคำบอกของศิษย์ท่าน ผู้เฒ่าอั้งเฮียะเซี่ยงซือ ไม่ได้ฝึกสำเร็จ

ฟังว่าสำนักหัวซาน มีซือเฮียตี๋สองคน ไปเป็นแขกที่วัดล่างเสี้ยวลิ้มยี่ ไม่ทราบมีโอกาสอย่างไร กลับเห็นคัมภีร์ทานตะวัน เล่มนี้ คัมภีร์ทานตะวัน เมื่อเป็นยอดคัมภีร์วิทยายุทธ วัดล่างเสี้ยวลิ้มยี่ ย่อมไม่แสดงต่อผู้คน ซือเฮียตี๋สำนักหัวซานทั้งสองมีโอกาสเห็นย่อมต้องเป็นการขโมยดู

ตอนนั้นยามฉุกละหุก ทั้งสองไม่ทันพลิกดูคัมภีร์ทั้งเล่มพร้อมกัน ดังนั้นแบ่งเป็นท่องคนละครึ่ง เมื่อกลับเข้าสำนักหัวซาน ค่อยวิเคราะห์ค้นคว้าด้วยกัน มิคาดทั้งสองพอท่องวิทยายุทธในคัมภีร์ออกมากลับไม่ปะติดปะต่อกัน คนทั้งสองต่างเข้าใจว่าอีกฝ่ายหนึ่งท่องผิด ซือเฮียตี๋ที่ความจริงสนิทสนมกันฉันพี่น้อง ต่อมากลับกลายเป็นคู่อริ สำนักหัวซานก็แบ่งเป็นฝ่ายลมปราณ และฝ่ายกระบี่

ซือเฮียตี๋ผู้อาวุโสทั้งสอง คงเป็น งักเซียว และ ฉั่วจื้อฮง สองอาวุโส

งักเซียว เป็นต้นกำเนิดฝ่ายลมปราณ ฉั่วจื้อฮงเป็นต้นกำเนิดฝ่ายกระบี่ สำนักหัวซานแบ่งเป็นสองฝักฝ่าย นับเป็นเรื่องที่เนิ่นนานมาแล้ว

เรื่องที่ งักเซียว และ ฉั่วจื้อฮง แอบดูคัมภีร์ทานตะวัน อีกไม่นานถูกอั้งเฮียะไต้ซือพบเห็น ท่านผู้เฒ่าทราบว่าวิทยายุทธในคัมภีร์เล่มนี้ลึกล้ำไพศาล มิหนำซ้ำอันตรายยิ่ง ฟังว่าที่ยากลำบากที่สุดเป็นด่านแรก ( ผู้ฝึกต้องเฉือนความเป็นชายทิ้งไป ) ขอเพียงผ่านด่านแรกได้ หลังจากนั้นก็ไม่มีอุปสรรคใด วิทยายุทธในหล้าล้วนรุดหน้าตามลำดับขั้น ยิ่งฝึกยิ่งยากลำบาก ส่วนที่ยากลำบากที่สุดของคัมภีร์ทานตะวันกลับอยู่ที่ขั้นแรก ระหว่างฝึกปรือขอเพียงผิดเพี้ยนสักเล็กน้อย แม้ไม่ตายก็ต้องบาดเจ็บ ดังนั้น ท่านผู้เฒ่าจึงมอบหมายให้ โต่วง้วนเซี่ยงซือ ผู้เป็นศิษย์เดินทางสู่หัวซาน เกลี้ยกล่อมงักเซียว และฉั่วจื้อฮง อย่าได้ฝึกวิทยายุทธในคัมภีร์ทานตะวันที่ทั้งสองได้ลักลอบท่องจำออกมา

ซึ่งความจริง นี่ไม่อาจโทษว่าพวกเขาได้ ชนชาวเราเมื่อพบเห็นวิทยายุทธอันลึกล้ำ ไหนเลยไม่ฝึกปรือได้ การไปของโต่วง้วนเซี่ยงซือ กลับเกิดเรื่องขึ้น

โต่วง้วนเซี่ยงซือ ขึ้นเขาหัวซาน งักเซียว และ ฉั่วจื้อฮง ให้ความเคารพต่อเขา ยอมรับว่าแอบดูคัมภีร์ทานตะวัน ทางหนึ่งแสดงความเสียใจ ทางหนึ่งขอคำแนะนำจากเขา โดยหาทราบไม่ว่า โต่งง้วนเซี่ยงซือ แม้เป็นศิษย์ของ อั้งเฮียะเซียงซื่อ แต่ไม่ได้รับการถ่ายทอดวิชาฝีมือในคัมภีร์ ยามนั้นได้ยินพวกเขาท่องคัมภีร์ออกมา ก็แสร้งทำเป็นอธิบายแต่ในใจกลับลอบจดจำไว้ โต่วง้วนเซี่ยงซือ ความจริงมีไหวพริบปราดเปรื่อง พอฟังข้อความในคัมภีร์ประโยคหนึ่ง ก็อธิบายได้หลายประโยค กลับบอกกล่าวอย่างเป็นจริงเป็นจัง แล้วท่องจำข้อความจนขึ้นใจ พอตกกลางคืนตอนอยู่ในที่พักก็แอบบันทึกไว้บนกาสาวพัสตร์ ( จีวร ) ป้องกันคนอื่นรู้เห็นและมิให้ลืมเลือนไป
เช่นนี้เป็นว่า โต่วง้วนเซี่ยงซือ กลับล่วงรู้ข้อความในคัมภีร์ ของผู้อาวุโสแซ่งัก แซ่ฉั่ว แล้ว

แต่งักเซียวและฉั่วจื้อฮง ความจริงท่องจำได้ไม่มากนัก เมื่อบอกกล่าวออกจากปากก็ลดทอนไปอีก ฟังว่าโต่วง้วนเซี่ยงซือ อยู่บนหัวซานแปดวัน ค่อยกล่าวอำลา แต่ไม่ได้กลับวัดล่างเสี้ยวลิ้มยี่ หลังจากนั้นไม่นาน อั้งเฮียะเซี่ยงซือ ได้รับจดหมายจาก โต่วง้วนเซี่ยงซือ ฉบับหนึ่ง บอกว่ามันบังเกิดจิตผูกพันต่อทางโลกเลยตกลงใจคืนสู่เพศฆราวาสไม่อาจแบกหน้าพบพานซือแป๋อีก

เพราะเรื่องนี้ระหว่างวัดล่างเสี้ยวลิ้มยี่ กับสำนักหัวซาน เกิดการผิดพ้องหมองใจ เรื่องที่ศิษย์สำนักหัวซาน ขโมยดูคัมภีร์ทานตะวันก็โจษจันออกไป ไม่นานให้หลังสิบผู้อาวุโสนิกายอสูร( พรรคตะวันจันทรา )จึงยกกำลังบุกสำนักหัวซาน

ช่วงเวลานั้น สิบผู้อาวุโสนิกายอสูรบุกสำนักหัวซาน คิดหมายช่วงชิงคัมภีร์ทานตะวัน ตอนนั้นสำนักหัวซาน รวมเป็นห้าสำนักกระบี่ กับ ซงซาน ไท้ซาน เหิงซาน หานซาน สี่สำนักที่เหลือพอทราบข่าวก็รุดมาช่วยเหลือ เกิดการต่อสู้ที่เชิงเขาหัวซาน สิบผู้อาวุโสนิกายอสูรส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บกลับไป แต่งักเซียวและฉั่วจื้อฮง ก็ต่างเสียชีวิตในการต่อสู้ คัมภีร์ทานตะวันฉบับชำรุดบกพร่อง ที่คนทั้งสองเขียนขึ้น ก็ถูกนิกายอสูรช่วงชิงไป

งักเซียว และ ฉั่วจื้อฮง แห่งสำนักหัวซาน เขียนคัมภีร์ทานตะวันไม่นาน ก็ถูกสิบผู้อาวุโสนิกายอสูรฆ่าทิ้ง คัมภีร์ทานตะวันฉบับชำรุดบกพร่องนี้ ก็ถูกนิกายอสูรช่วงชิงไป ดังนั้นในสำนักหัวซาน ไม่เคยมีใครได้เรียนรู้วิทยายุทธในคัมภีร์ และก่อนหน้านั้นคนทั้งสองก็ต่างมองคัมภีร์คนละด้าน เน้นลมปราณ เน้นกระบี่ แตกต่างกันไป กลับอธิบายต่อเหล่าศิษย์เป็นเหตุให้สำนักหัวซานแบ่งแยกเป็น ฝ่ายกระบี่และฝ่ายลมปราณ สมควรบอกว่าคัมภีร์เล่มนี้เป็นของอัปมงคล

ลิ้มเอี่ยงโต่ว เป็นทวดของ ลิ้มเพ้งจื่อ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งสำนักคุ้มกันภัยบุญบารมี อาศัย เจ็ดสิบสองท่าเพลงกระบี่ปราบมาร สยบหมู่มิจฉาชีพ ซึ่งแท้จริงแล้ว เค้าคือ โต่วง้วนเซี่ยงซือ ผู้เป็นศิษย์ของ อั้งเฮียะเซี่ยงซือ

ความจริงผู้อาวุโสท่านนี้ก่อนออกบวช ใช้แซ่ลิ้ม แต่หลังจากคืนสู่เพศฆราวาส ก็กลับไปใช้แซ่เดิมใหม่ โดยตั้งชื่อให้ตนเองว่า เอี่ยงโต่ว ภายหลังตกแต่งภรรยากำเนิดบุตร ก่อตั้งสำนักคุ้มกันภัยประกอบกิจการระบือลือลั่น ผู้อาวุโสแซ่ลิ้มนี้ ประพฤติเที่ยงธรรม ช่วยผู้ตกทุกข์ได้ยาก แม้ไม่อยู่ในสถาบันสงฆ์ แต่ก็มีพระอยู่ประจำใจ

ไม่นานให้หลัง อั้งเฮียะเซี่ยงซือ ก็ทราบว่า เจ้าของสำนักคุ้มกันภัยแซ่ลิ้ม เป็นศิษย์ของท่านผู้เฒ่า แต่ระหว่างอาจารย์กับศิษย์ไม่มีการไปมาหาสู่อีก อั้งเฮียะเซี่ยงซือ ก่อนมรณะภาพ ได้เรียกตัวศิษย์ทั้งหมดเข้าพบ บอกต้นสายปลายเหตุของคัมภีร์ทานตะวัน ฉบับสมบูรณ์ เล่มนี้ จากนั้นโยนคัมภีร์เข้าเตาไฟทำลายทิ้ง โดยบอกว่าคัมภีร์เล่มนี้ลึกล้ำพิสดาร แต่สร้างปัญหาไว้มากเกินไป โดยเฉพาะด่านแรกยากผ่านได้ มิเพียงยากผ่านได้ถึงผ่านไม่ได้ หากตกทอดถึงอนุชนรุ่นหลังมิใช่วาสนาของยุทธภพ

คัมภีร์เพลงกระบี่ปราบมาร เป็นวิชาฝีมือที่ตีความจาก คัมภีร์ทานตะวันฉบับชำรุดบกพร่อง ของ สองผู้อาวุโสแซ่งัก แซ่ฉั่ว แห่งสำนักหัวซาน โดยทั้งสองคัมภีร์นี้มาจากต้นตอเดียวกัน คือ คัมภีร์ทานตะวัน ต้นฉบับเดิม ของวัดล่างเสี้ยวลิ้มยี่ ซึ่งทั้งสองคัมภีร์นี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของคัมภีร์ทานตะวันต้นฉบับเดิมเล่มนี้เท่านั้น


อ้างอิงจาก นวนิยายกระบี่เย้ยยุทธจักร เล่ม 3 หน้า 467 – 480




ประมุขหอดารา
#2   ประมุขหอดารา    [ 13-01-2008 - 13:03:15 ]

สรุปง่ายๆคือ

คัมภีร์ทานตะวัน ต้นฉบับเดิม ถูก วัดล่างเสี้ยวลิ้มยี่ทำลายไปนานแล้ว

คัมภีร์ทานตะวัน ฉบับชำรุดบกพร่อง เป็นของพรรคตะวันจันทรา

คัมภีร์เพลงกระบี่ปราบมาร เป็นของ ตระกูลลิ้ม



ฤทธานุภาพ©
#3   ฤทธานุภาพ©    [ 13-01-2008 - 15:04:06 ]

อันนี้นับเป็นข้อพิพาทหนึ่งที่การตีความมักแตกต่างกัน นั่นคือแง่ของคัมภีร์ทานตะวันฉบับไม่สมบูรณ์ที่พรรคตะวันจันทราเก็บไว้กับเพลงกระบี่ปราบมาร เป็นการยากที่จะบอกว่าอันไหนเหนือล้ำกว่ากันระหว่าง 2 อันนี้ แต่ถ้าเป็นความเห็นส่วนตัว ขอลงความเห็นว่าเพลงกระบี่ปราบมารดูจะมีความสมบูรณ์กว่าบ้าง ถ้าเทียบกับคัมภีร์ที่ชำรุดเชื่อว่ายังมีจุดอ่อนอยู่มากกว่า แต่อย่างไรก็ดี คัมภีร์ทานตะวันฉบับสมบูรณ์ย่อมเหนือล้ำเป็นที่สุด ถ้าไม่สาปสูญไปในขณะนั้น



มือกระบี่ไร้นาม
#4   มือกระบี่ไร้นาม    [ 13-01-2008 - 17:59:47 ]

ผมเองวิเคระห์เอง แบบที่ไม่น่าจะถูกต้องนะครับ คัมภีร์ทานตะวันฉบับไม่สมบูรณ์น่าจะเหนือกว่าฉบับสมบูรณ์ ดูได้จากวิชาทานตะวันของตังฮึงปุกป่าย ที่เหนือกว่าเพลงกระบี่พิชิตมารเจ็ดสิบสองท่าของงักปุกคุ้ง นี่คือการวิเคราะห์ของผม เพราะเหล็งฮู้ชงเองคนเดียวสามารถเอาชนะงักปุกคุ้งได้ โดยมีคนมาช่วยอะนะ แต่พอมาสู้กับตังฮึงปุกป่าย มีผู้ร่วมด้วยเป็น ยิ่มอั่วเกี่ย เทวทูตซ้ายแซ่เฮี่ยง ยิ่มเอี้ยงเอี้ยง กลับไม่ชนะวิชาทานตะวันแบบไม่สมบูรณ์ของตังฮึงปุกป่าย นี่คือความคิดของผม ซึ่งคัมภีร์กระบี่พิชิตมารเจ็ดสิบสองท่า บัญญัติขึ้นโดยลิ้มเอี้ยงโต้ว ที่เคยเป็นศิษย์วัดเส้าหลินฝ่ายใต้ แต่ลองมาคิดทบทวน วิชากระบี่พิชิตมาร ลิ้มเอี่ยงโต้วเข้าใจคัมภีร์ทานตะวันนี้เที่ยงแท้ที่สุด หากไม่นับขันทีเฒ่าสมัยราชวงศ์ถัง แต่งักปุกคุ้งฝึกเองกลับไม่เทียบเท่าตังฮึงปุกป่าย เหตุผล น่าจะมีอยู่ว่า ตังฮึงปุกป่ายฝึกมานาน ส่วนงักปุกคุ้งเพิ่งฝึก จึงไม่เก่งเท่าตังฮึงปุกป่าย แต่สองวิชานี้ กลับมีอานุภาพที่คล้ายกัน คือจู่โจมรวดเร็ว



มือกระบี่ไร้นาม
#5   มือกระบี่ไร้นาม    [ 13-01-2008 - 18:07:39 ]

ไม่รู้ว่าผมเข้าใจความหมายในนิยายผิดหรือเปล่า แต่อตนหลังจำได้ว่า ยิ่มอั่วเกี่ยหัวหน้านิกายสุริยันจันทรา ก็ได้ทำลายคัมภีร์นี้ หลังจากแย่งชิงตำแหน่งหัวหน้านิกายสำเร็จ อันยิ่มอั่วเกี่ย เคารพอยู่สองบุคคลครึ่ง คนแรกคือ ตังฮึงปุกป่าย คนที่สองคือเจ้าอาวาสเสี้ยวลิ้มปึงเจ่งไต้ซือ คนครึ่งเหลือ ไม่ได้หมายความว่ามีครึ่งเดียว แต่เขาให้ความเคารพแค่ครึ่งเดียว นั่นก็คือเจ้าสำนักบู๊ตึ๊งชงฮื้อเต้าเจี้ยง



ฤทธานุภาพ©
#6   ฤทธานุภาพ©    [ 13-01-2008 - 18:25:41 ]

คัมภีร์ทานตะวันฉบับสมบูรณ์ผู้ที่เข้าใจโจ่งแจ้งก็มีแต่ตัวผู้บัญญัติเองนะครับ ตามความเข้าใจของผม หลังจากนั้นก็ไม่เคยมีใครฝึกสำเร็จ

ของนิกายตะวันจันทราเหลือถึง7ส่วนจากของเดิมรึเปล่าก็ไม่รู้ ส่วนเพลงกระบี่ปราบมารก็เป็นการดัดแปลงและตีความตามความเข้าใจเองอีกหลายส่วนทำให้นอกจากด้อยอานุภาพลงแล้วยังดัดแปลงเพี้ยนไปจากเดิม ยังไงของแท้ที่ใครฝึกไม่สำเร็จน่าจะฉกาจที่สุด



สวย
#7   สวย    [ 13-01-2008 - 18:54:54 ]

ส่วนตัวคนสวยอย่างเดี๊ยนเองนั้นกลับคิดว่า คัมภีร์กระบี่พิชิตมารนั้น เกิดจากการตีความที่ต่างออกไปจากคัมภีร์ทานตะวันที่ไม่สมบูรณ์ เพราะจากการที่ได้ฟังแร๊วท่องจำไปต่ออีกที ซึ่งที่ได้ฟัง 2 อสุโวขี้ขโมยออกมานั้นก็ลดทอนความแม่นลงไปอยู่ ซึ่งก็คือแค่ไม่กี่ส่วนเท่านั้นเอง ส่วนคัมภีร์ทานตะวันแบบไม่สมบูรณ์ที่ 2 อวุโสขี้ขโมยลักจำมาจารึก แร๊วโดนนิกายตะวันจันทราขโมยไปแร๊วยิ่มอั้วฮั้งได้มอบให้ตงฟาง ที่ตงฟางฝึกได้เริ่ดถึงขั้นนั้น ถึงแม้ไม่สมบูรณ์และไม่ขั้นสุด ก็เพราะว่าตงฟางคงจะเป็นตุ๊ดมีพรสวรรค์และมีปัญญาในการตีความได้ลึกซึ้งที่สุดในบรรดาคนที่เคยได้รู้วิชานี้ เรยทำให้ตุ๊ดนางนี้ย์ใช้วิชาทานตะวันได้เริ่ดแร๊วไม่มีใครสู้ได้ในเวลานั้น

ปล. ตอนจบน่าจะเปลี่ยนให้เล่งฮู้ชงได้คัมภีร์ทานตะวันแบบสมบูรณ์ที่บังเอิญมีอีกฉบับไปฝึกแทนตอนจบนะคะ คงจะเริ่ดเรยเชี๊ยะ โฮะๆๆ



ประมุขหอดารา
#8   ประมุขหอดารา    [ 13-01-2008 - 20:04:04 ]

ถ้าถามว่าแบบไหนน่าจะร้ายกาจสุด ผมก็ว่า คัมภีร์ทานตะวัน ต้นฉบับเดิม น่าจะร้ายกาจสุด เพราะนอกจากขันทีผู้บัญญัติเอง ที่ฝึกสำเร็จหลังจากนั้นอีก 300 ปีไม่มีผู้ใดฝึกสำเร็จ แสดงว่าฉบับดั้งเดิมน่าจะมีอะไรพิเศษๆกว่าฉบับอื่นๆอยู่

เพราะลำพังแค่ขั้นแรก คือต้องเฉือนความเป็นชายทิ้งไป ถ้าเกิดคนที่โลภและเกิดกิเลสมากๆก็อาจจะตัดสินใจเฉือนทิ้งได้แบบไม่ลังเลได้ไม่ยากสักเท่าไหร่

ขนาดในยุคของ กระบี่เย้ยยุทธจักร ยังมีคนยอมเฉือนทิ้งถึงสามคน คือ ตงฟางปุ๊ป้าย งักปุ๊กคุ้ง และ ลิ้มเพ็งจื่อ

แล้วสามร้อยปีที่ผ่านมาก็น่าที่จะมีคนที่ใจถึงยอมเฉือนทิ้งมานับไม่ถ้วน แต่ก็ยังไม่มีผู้ใดฝึกเวอร์ชั่นดั้งเดิมได้สำเร็จ



มือกระบี่ไร้นาม
#9   มือกระบี่ไร้นาม    [ 13-01-2008 - 20:06:15 ]

สำหรับตัวผมเอง ผู้ที่เก่งสุดในวิชาทานตะวัน ผมคอดว่าน่าจะเป็น ตังฮึงปุกป่าย หากไม่นับขันทีเฒ่าราชวงศ์ถัง รองลงมาน่าจะเป็น ลิ้มเอี่ยงโต้ว งักปุกคุ้ง และ ลิ้มเพ้งจือ นี่หมายถึงรวมกระบี่พิชิตมารเจ็ดสิบสองท่า และพลังทานตะวันเลยนะครับ



มือกระบี่ไร้นาม
#10   มือกระบี่ไร้นาม    [ 13-01-2008 - 20:11:46 ]

ถ้าเกิดผมอยากรู้วิชาในกระบี่เย้ยยุทธจักร อยากรู้มากเลยว่าลมปราณเมฆม่วง มีฤทธิ์อะไรบ้าง ส่วนผมรู้ไม่กี่อย่าง รู้แค่ว่างักปุกคุ้งใช้วิชานี้ ไม่ค่อยให้เห็นอานุภาพเท่าไร และผมคดเองว่าน่าจะเหมาะกับการรักษา



ประมุขหอดารา
#11   ประมุขหอดารา    [ 13-01-2008 - 20:15:17 ]

ขอแก้ความเห็นที่ 4 นิดนึงนะครับ

คนที่ ยิ่นอั้วฮั้ง ให้การเคารพนับถือ มีสามคนครึ่ง นะครับ

คนแรกคือ ตงฟางปุ๊ป้าย ประมุขพรรคตะวันจันทรา
คนที่สองคือ ไต้ซือฟางเจิ้น เจ้าอาวาสสำนักวัดเส้าหลิน
และอีกคนคือ ท่านปรมาจารย์สายกระบี่แห่งสำนักหัวซาน ฟงชิงหยาง นะครับ
ส่วนที่นับถือเพียงครึ่งเดียวอีกหนึ่งคนคือ นักพรตชงซี เจ้าสำนักบู๊ตึ๊ง
เพราะ ท่านนักพรตชงซี สอนเหล่าลูกศิษย์ในสำนักได้ไม่ดีซักเท่าไหร่ทำให้สำนักบู๊ตึ๊งในยุคของเจ้าสำนักชงซี ไม่มีใครเลยที่มีฝีมือที่โดดเด่นมีชื่อเสียงขึ้นมา แต่หลังจากการประลองกันที่วัดเส้าหลินแล้ว เค้าก็นับถือนักพรตชงซี เพิ่มจากนับถือเพียงครึ่งเดียวเป็นนับถือ 7ส่วนแล้ว



ประมุขหอดารา
#12   ประมุขหอดารา    [ 13-01-2008 - 20:27:04 ]

ขอเสริมเกี่ยวกับ คัมภีร์ทานตะวันนิดนึงนะครับ นอกจากในนั้นคัมภีร์จะมีเคล็ดวิชายุทธอยู่แล้ว
ยังมีสูตรตำรับยาลับเฉพาะ ซึ่งผู้ที่ฝึกคัมภีร์ทานตะวัน ต้องปรุงยาตามตำรับในคัมภีร์แล้วทานควบคู่ไปกับการฝึกด้วยนะครับ ซึ่งพอทานแล้วนอกจากจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการฝึกยุทธในคัมภีร์ และกำลังภายในแล้วยังทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม เช่น หนวดเครา หรือ ขนต่างๆจะค่อยๆร่วงหลุด ผิวพรรณจะเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวลเหมือนสตรี น้ำเสียงจะเริ่มแหลมเล็กคล้ายสตรี สะโพกผายขึ้น หน้าอกโตขึ้น แบบสตรี อีกทั้งผู้ที่ฝึกสำเร็จวิชานี้ จะมีอายุยืนยาวขึ้นนับร้อยปี

ซึ่งถ้าเปรียบกับปัจจุบัน คงเปรียบได้กับ ยาจำพวกที่ช่วยเพิ่มฮอร์โมนเพศหญิง เช่น ยาคุมกำเนิด อะไรปรามาณนี้ล่ะมั๊ง



มือกระบี่ไร้นาม
#13   มือกระบี่ไร้นาม    [ 13-01-2008 - 20:31:57 ]

อ้อใช่ครับ ลืมไปว่ามีฮวงเช็งเอี๊ยงแห่งฮั้วซัวอีกคน และตอนหลังจากไปที่เสี้ยวลิ้ม ก็ได้นับถือเจ้าสำนักชงฮื้อเต้าเจียงเพิม่ขึ้นอีก ส่วนคนที่เกลียดมีใครบ้างนะครับ ผมจำได้ว่ามี จ้อแน่เซี้ยง และก็จำได้ว่า ยิ่มอั่วเกี่ยมีฉายาว่า เห็นฮวงหลบลี้ คนที่ให้ฉายานี้ใช้ สี่สหายกึงหนำใช่เปล่าครับ ส่วนเห็นฮวงหลบลี้ หมายถึง กลัวฮวงเช็งเอี๊ยงแห่งฮั้วซัว



สวย
#14   สวย    [ 13-01-2008 - 20:31:58 ]

คุณป๊อบถ้าว่างๆช่วยรบกวนพิมพ์คัดเฉพาะตอนประมือกับตงฟางปุ๊ป้ายมาลงหน่อยได้มิค๊า คือตัวเดี๊ยนเองเนี่ยเคยอ่านมานานมากแร๊ว แร๊วเป็นของที่พิมพ์มานานมากแร๊วด้วย กระดาษเหลืองๆขาดๆ ตัวเดี๊ยนเองยังจำไม่ได้ด้วยว่ามันมีเปลี่ยนอะไรไปบ้าง เพระตัวเดี๊ยนเองไม่มีหนังสืออยู่ในครอบครองค่ะ แค่เคยอ่านมานานมากจนลืมไปมากมายแร๊วค่ะ

เผื่อจะเป็นวิทยาทานกับคนที่ยังไม่ได้อ่านนวนิยายฉบับนี้ด้วยค่ะ



มือกระบี่ไร้นาม
#15   มือกระบี่ไร้นาม    [ 13-01-2008 - 20:33:05 ]

ผมอ่านฉบับเล่มสีแดงนะครับ น่าจะปับปรุงใหม่สุด แต่ฝีมือของตังฮึงปุกป่ายนี่เยี่ยมจริงๆ รวดเร็วมากๆ



สวย
#16   สวย    [ 13-01-2008 - 20:34:17 ]

เดี๊ยนอ่านหน้าปกสีอะไรยังจำไม่ได้เรยค่ะ โฮะๆๆ



มือกระบี่ไร้นาม
#17   มือกระบี่ไร้นาม    [ 13-01-2008 - 20:48:05 ]

เฮอะๆ



ประมุขหอดารา
#18   ประมุขหอดารา    [ 13-01-2008 - 20:56:12 ]


ส่วนหนังสือที่คุณสวยอ่านคาดว่า หน้าปกคงจะเป็นสีขาวนะครับ กระดาษข้างในคงจะเก่าๆเหลืองๆมีคราบเป็นดวงๆเล็กน้อย แถมกระดาษบางหน้าติดกันเล็กน้อย 555 ล้อเล่นนะครับ

ส่วนเรื่องที่ขอไว้ เอาไว้เดี๋ยวผม จะลองเอามาลงให้แล้วกันนะครับ ต้องขอไปลองเรียบเรียงดูก่อน เพราะต้อง คัดย่อๆเอาแต่เนื้อๆไม่งั้นพิมพ์หลังงอเลย แต่ที่อ่านผ่านตามาการต่อสู้ครั้งนี้ไม่ยาวเท่าไหร่ แต่อาศัยพูดเท้าความหลังกันซะเยอะ



มือกระบี่ไร้นาม
#19   มือกระบี่ไร้นาม    [ 13-01-2008 - 20:58:13 ]

นานจริงๆครับ



สวย
#20   สวย    [ 13-01-2008 - 20:59:03 ]

อ๊ายยย หนังสือไรคะเนี่ยมีคราบดวงๆดั้วะ 555

ยังไงก็ขอบคุณแอดวานซ์นะฮ๊าห์



ตอบกระทู้
ชื่อ
รหัส กรอกตัวอักษร ตามภาพ
ข้อความ


emo-smile emo-happy emo-lol emo-enjoy emo-kiku emo-cool emo-hoho emo-drool emo-hungry emo-kiss emo-sorry emo-sad emo-cry emo-tear emo-question emo-doubt emo-shock emo-redface emo-plz emo-peevish emo-angry emo-moody emo-sneer emo-makefaces emo-good emo-touched emo-love emo-bore emo-tired emo-vomit
bold italic underline img link superscript subscript size color space justifyleft justifycenter justifyright quote box youtube