เข้าระบบอัตโนมัติ

ตกลงเรื่อง 8 เทพอสูรมังกรฟ้านี่ เนื้อเรื่องหลักเป็นของใครแน่ครับ ?


18 ฝ่ามือพิชิตมังกร
#61   18 ฝ่ามือพิชิตมังกร    [ 17-11-2016 - 13:36:12 ]

อันนี้เป็นประวัติของ คัมภีร์เก้าอิม จินเก็ง
เก้าอิมจินเก็ง หรือ คัมภีร์มารนพเก้า,นพเก้าจันทรา,นพยม แล้วแต่จะเรียกเป็นวิชาสายกำลังภายในและกระบวนท่าที่ปรากฏในเรื่อง มังกรหยกทั้ง 3 ภาคนับว่าเป็นคัมภีร์ที่มีความร้ายกาจ คัมภีร์เก้าอิม จินเก็ง เป็นคัมภีร์เก้าอิมนับว่าเป็นวิชาแนวทางลัทธิเต๋า อดีตซ่งฮุยจงฮ่องเต้ ( พ.ศ. 1643- พ.ศ. 1669) ซึ่งนับถือลัทธิเต๋าอย่างแรงกล้า มีพระบัญชาให้ขุนนางนามอึ้งเซี้ยงซึ่งเป็นชาวเมืองฮกเกี้ยนจัดทำแกะสลัก "ขุมวิชาเต๋าหมื่นวัฒนา" ผ่านไม้ไผ่เพื่อออกเผยแพร่ ซึ่งมีจำนวนมากถึง 5481 ม้วน เนื่องจากฮุยจงฮ่องเต้ศรัทธาในลัทธิเต๋าอย่างมาก อึ้งเซี้ยงยิ่งไม่กล้าจัดทำผิดพลาด ลงมือตรวจทานตัวอักษรคัมภีร์เต๋าห้าพันกว่าม้วนด้วยตนเอง อึ้งเซี้ยงเป็นยอดอัจฉริยะ เมื่อศึกษาวิชาลัทธิเต๋าโดยละเอียด พลอยสำเร็จยอดวิชาไม่รุ้ตัว

ต่อมาพื้นที่ใต้การปกครองของอึ้งเซี้ยงเกิดกบฏ นำโดยนิกายเม้งก่า (นิกายเรืองโรจน์) ซึ่งมาจากเปอร์เซีย นิกายนี้ไม่กินเนื้อสัตว์ เพียงกินมังสวิรัต ฮุยจงฮ่องเต้นับถือลัทธิเต๋าย่อมไม่พอพระทัย ส่งทหารไปปราบปรามนิกายเม้งก่าแต่ทหารซ่งเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ อึ้งเซี้ยงจึงยกทัพไปด้วยตนเอง สาวกนิกายเม้งก่าไม่กลัวตาย ทหารราชวงศ์ซ่งอ่อนแอใช้การไม่ได้ จึงพ่ายแพ้อีกครา อึ้งเซี้ยงไม่ยินยอมพร้อมใจ จึงบุกขึ้นนิกายเม้งก่าไปท้าประลองด้วยตนเอง ด้วยวิชาฝีมืออันลึกล้ำของเขา สังหารฑูต ผู้วิเศษในนิกายหลายคน

นิกายเม้งก่ามีขุมกำลังยิ่งใหญ่ เมื่อสาวกชั้นนำในนิกายพ่ายแพ้ใต้เงื้อมมืออึ้งเซี้ยง เหล่าบรรดาญาติมิตรสหายหลายสิบคน ต่างพากันมาล้างแค้นอึ้งเซี้ยง เข่นฆ่าครอบครัวอึ้งเซี้ยงหมดสิ้น อึ้งเซี้ยงเองก็ได้รับบาดเจ็บหลบหนีไป อึ้งเซี้ยงได้รับความคับแค้น หวนนึกถึงตนมีกำลังน้อยสู้พวกมากไม่ได้ จึงเก็บตัวอยู่บนเขาคิดค้นวิชาเพื่อรอวันล้างแค้น

เวลาผ่านไป อึ้งเซี้ยงพลันคิดค้นหลักวิชาแขนงหนึ่งซึ่งทำลายวิชาของเหล่าศัตรูหลายสิบคนนั้นได้หมดสิ้น สร้างความปิติยินดียิ่ง อึ้งเซี้ยงมั่นใจว่าด้วยวิชาที่เขาคิดค้นได้ ต่อให้ศัตรูมีพวกมากก็จะใช้วิชาที่คิดค้นคลี่คลาย ไม่เกรงกลัวศัตรูอีก

เมื่ออึ้งเซี้ยงลงจากเขาก็ตามล่าหาศัตรู มิคาดกลับไม่พบพานแม้แต่ผู้เดียว อึ้งเซี้ยงค้นหาไปทั่วทุกทิศทางในที่สุดพบศัตรูผู้หนึ่ง แต่ศัตรูผู้นั้นอึ้งเซี้ยงจำได้ว่าเป็นสตรีเยาว์วัยอายุสิบหกปีเท่านั้น มิคาดสตรีที่อยู่ตรงหน้ากลับมีอายุไม่ต่ำกว่าหกสิบปี !!

ที่แท้ระหว่างอึ้งเซี้ยงคิดค้นวิชาบนเขา หมกมุ่นใช้สมาธิ เวลาผ่านไปสี่สิบกว่าปีกลับไม่รู้ตัว เขาเห็นว่าตนเองชรามากแล้ว อีกไม่กี่ปีก็ตกตาย ยังจะคิดล้างแค้นอันใด เมื่อคิดได้เช่นนี้ เขามิได้คิดจะล้างแค้นอีก แต่ก็เสียดายยอดวิชาที่ตนคิดค้นขึ้น จึงบัญญัติยอดวิชา "เก้าอิมจินเก็ง" ซึ่งประกอบไปด้วยเคล็ดวิชาฝีมือของศัตรูอึ้งเซี้ยงทั้งหมดและอึ้งเซี้ยงยังจดบันทึกวิธีทำลายวิชาเหล่านั้นไว้หมดสิ้น ซึ่งวิชาเก้าอิมเป็นวิชาที่ครอบคลุมทุกสรรพสิ่งอย่างแท้จริง

อึ้งเซี้ยงแบ่งคัมภีร์เก้าอิมออกเป็นสองเล่ม โดยเล่มแรกบันทึกหลักการของพื้นฐานวิชาฝีมือและเคล็ดกำลังภายในขั้นสูง เล่มหลังจดบันทึกวิธีฝึกวิทยายุทธ โดยในครึ่งเล่มแรกยังจดส่วนท้ายของเล่มเป็นภาษาสันสกฤตเพื่อป้องกันหากคัมภีร์ตกไปอยู่ในเงื้อมมือคนชั่วช้า คนผู้นั้นมิอาจฝึกฝนฝีมือได้สำเร็จครบถ้วน

ในคัมภีร์ครึ่งเล่มแรกเป็นวิชาพื้นฐานวิชาลมปราณ เช่น "บทเปลี่ยนเส้นเอ็นชุบกระดูก" เป็นการปรับพื้นฐานกำลังภายในเมือปรับพื้นฐานสำเร็จจะมีพลังภายในกล้าแข็งเป็นพื้นฐานในการฝึกวิชาอื่นต่อไป "บทรักษาบาดเจ็บ" สามารถรักษาอาการบาดเจ็บจากการถูกกำลังภายในกระแทกทำร้าย โดยให้สองคนนั่งทาบฝ่ามือกันเป็นเวลาเจ็ดวันห้ามผู้ใดรบกวน อาการบาดเจ็บจะหายเป็นปลิดทิ้ง

ช่วงท้ายของครึ่งเล่มแรกยังบันทึกเป็นภาษาสันสกฤต เป็นยอดวิชา "ลมปราณเทพเก้าอิม" ซึ่งเป็นสุดยอดวิชากำลังภายใน หากฝึกสำเร็จจะมีพลังลมปราณเปี่ยมล้น ผู้ใดเสียพลังวัตรไปจะฟื้นได้โดยไว เช่น อิดเต็งไต้ซือเคยช่วยเหลืออึ้งย้งต้องฟื้นพลังถึงห้าปี แต่พอฝึกเคล็ดวิชานี้ใช้เวลาเพียงแค่สามเดือนก็ฟื้นฟูพลังได้ อั้งชิกกงได้รับบาดเจ็บสาหัสสูญเสียวิชาฝีมือได้ฝึกบทนี้พลังฝีมือก็ฟื้นคืนดั่งเดิม นับเป็นสุดยอดเทพลมปราณแดนดิน

ส่วนคัมภีร์ครึ่งเล่มหลัง เป็น วิทยายุทธภาคปฏิบัติ เช่น "วิชาฝ่ามือขยี้หัวใจ" ใช้ฝ่ามืออันร้ายกาจทำลายอวัยะภายในคู่ต่อสู้โดยปราศจากบาดแผลภายนอก "กงเล็บกระดูกขาว" สามารถเจาะได้กระทั่งหินผา "วิชาเคลื่อนย้ายวิญญาณ" สะกดจิตผู้คน "วิชาหมัดกำราบมาร" เมื่อร่ายรำเพลงหมัดออกจะมีอานุภาพมหาศาล พลังหมัดครอบคลุมเป็นวงกว้าง "หดเส้นเย็นย่อกระดูก" สามารถหดย่อเส้นเอ็นตนเป็นก้อนเล็ก ๆ ราวไร้กระดูก หากถูกจับมัดก็สามารถหลุดพ้นจากพันธนาการได้ แต่จำเป็นต้องฝีกบทเปลียนเส้นชุบกระดูกในครึ่งเล่มแรกก่อน

เนื่องจากอึ้งเซี้ยงแบ่งคัมภีร์เก้าอิมเป็นสองเล่ม ถ้าผู้ใดอ่านครึ่งเล่มแรกเข้าใจหลักพื้นฐานได้ฝึกลมปราณ แต่มิได้อ่านครึ่งเล่มหลังก็มิมีวิทยายุทธอันใดให้ฝึก แต่หากผู้ใดไม่ได้อ่านครึ่งเล่มแรกเพื่อศึกษาพื้นฐาน ต่อให้ฝึกวิทยายุทธในครึ่งเล่มหลังก็จะเข้าใจผิด สู่เส้นทางวิชามารไป อาทิ วิชาวิชากงเล็บกระดูกขาว ครึ่งเล่มหลังบันทึกข้อความ "นิ้วทั้งห้าใช้พลัง ทำลายทุกสิ่ง บดขยี้ศรีษะศัตรูทะลุราวดินเปื่อย" ซึ่งหากผู้ฝึกไม่เคยอ่านครึ่งเล่มแรก จะเข้าใจผิดว่าใช้กงเล็บทั้งห้าของตนเจาะทำลายศรีษะศัตรู ซึ่งความจริงหมายถึงให้ทำลายจุดชีวิตศัตรู มิใช่ไล่เจาะกระโหลกผู้อื่นเที่ยวฆ่าคน คัมภีร์เก้าอิมต้นกำเนิดมาจากลัทธิเต๋า ฝึกลมปราณสร้างอายุขัยยืนยาว ขับไล่มารขจัดอาถรรพณ์ ไม่มีวิชาอำมหิตชั่วร้าย

เมื่ออึ้งเซี้ยงจัดทำวิชาเก้าอิมเสร็จสิ้นก็ซูกซ่อนไว้ ไม่นานก็เสียชีวิตไปด้วยโรคชรา มิทราบเพราะเหตุใดคัมภีร์เก้าอิมปรากฏสู่ยุทธจักร เกิดการช่วงชิงกันเป็นเวลาหลายสิบปี เรื่องราวลุกลามใหญ่โต ชาวยุทธจักรเข่นฆ่าสังหาร เลือดนองทั่วแผ่นดิน ไม่มีผู้ใดฝึกคัมภีร์เก้าอิมได้สมบูรณ์ ผู้ได้ครอบครองฝึกได้เพียงหนึ่งเดือนครึ่งปี ก็ถูกตามล่าสังหาร จวบกระทั่งสุดยอดฝีมือทั้งห้าทิศต่างนัดชุมนุมประลองกันที่เขาหัวซาน ประกอบด้วย มารบูรพา พิษประจิม ยาจกอุดร ราชันย์ทักษิณและเทพฤทธิ์ตรงกลาง ทั้งห้าประลองกันท่ามกลางหิมะหนาวเหน็บถึงเจ็ดวันเจ็ดคืน สุดท้ายทั้งหมดยอมรับประมุขนิกายช้วนจินก่า เฮ้งเต้งอี้ยง ฉายาเทพฤทธิ์ตรงกลางฝีมือสูงส่งที่สุด ได้คัมภีร์เก้าอิมไปครอบครอง

เฮ้งเต้งเอี้ยงแม้ได้รับคัมภีร์เก้าอิม เขามิต้องการฝึกวิชาอันใดในคัมภีร์ เพียงแค่ต้องการหยุดมรสุมในยุทธจักรเท่านั้น เมื่อเขาตายไป ศิษย์น้องเขาเฒ่าทารกจิวแปะทงได้ไปครอบครองและต่อมาได้สอนวิชาในคัมภีร์เก้าอิมต่อน้องร่วมสาบานเขาก้วยเจ๋ง ส่วนจิวแปะทงได้ฝึกวิชาในเก้าอิมสำเร็จโดยไม่รู้ตัวในระหว่างที่สอนนี่เอง

ด้านพิษประจิมอาวเอี้ยงฮงมีนิสัยชั่วร้าย ต้องการฝึกวิชาในคัมภีร์เก้าอิมอย่างยิ่ง จึงพยายามบีบคั้นที่ก๊วยเจ๋งให้บอกเคล็ดวิชาในคัมภีร์ แต่ก๊วยเจ๋งกลับดัดแปลงแก้ไขคัมภีร์เก้าอิม เขียนแบบกลับตาลปัดสามคำจริงครึ่งคำเท็จให้อาวเอี้ยงฮงฝึก เช่น คัมภีร์ให้หายใจสูดลมปราณแปดครั้ง ก๊วยเจ๋งก็เขียนเป็นสิบหกครา คัมภีร์ให้หงายฝ่ามือชี้ฟ้า ก็แก้เป็นใช้เท้าหงายชี้ฟ้า เป็นเก้าอิมแบบย้อนกลับ

มิคาดอาวเอี้ยงฮงฝึกวิชาในคัมภีร์เก้าอิมแบบย้อนกลับเป็นเหตุให้เสียสติไป แต่ก็มีวิชาฝีมือลึกล้ำผู้คนจับทางไม่ออก ใช้เท้าแทนมือบ้าง ใช้ปากกัดคู่ต่อสู้บ้าง ฝีมือเป็นไปในอีกแนวทางหนึ่ง จนได้ชื่อว่ามีฝีมือร้ายกาจที่สุด ในการประลองที่เขาหัวซานครั้งที่สองแม้แต่ยาจกอุดรและมารบูรพาก็พ่ายแพ้ไป

สิบกว่าปีต่อมา ก๊วยเจ๋งฝึกวิชาในคัมภีร์เก้าอิมได้ครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว เขาได้พบกับพิษประจิมอาวเอี้ยงฮงซึ่งเสียสติ จึงได้ประมือกัน ถือว่าเป็นการประลองระหว่างเก้าอิมเที่ยงแท้และเก้าอิมย้อนกลับ

ยามนั้นอาวเอี้ยงฮงอยู่บนหลังคาคิดจะทำร้ายกัวเต็งอัก หนึ่งในเจ็ดประหลาดกังหนำผู้เป็นอาจารย์ก๊วยเจ๋ง ก๊วยเจ๋งพลันพุ่งกายขึ้นบนหลังคาเพื่อช่วยเหลืออาจารย์ตน เขางอเท้าซ้ายเล็กน้อย มือขวากรีดวาดเป็นวงกลมผลักตรงออกเบื้องหน้า เป็นท่า "มังกรผยองได้สำนัก" อันเป็นท่าที่ดุดันที่สุดในสิบแปดฝ่ามือสยบมังกร สิบกว่าปีมานี้ ก๊วยเจ๋งฝึกท่านี้ทุกวี่วันมิได้ขาด นับว่าบรรลุขั้นสุดยอดแล้ว ช่วงผลักฝ่ามือคล้ายแผ่พริ้ว แต่เมือสัมผัสถูกคู่ต่อสู้ จะมีพลังกระแทกติดตามมาอีกถึงสิบสามชั้น แต่ละชั้นจะมีพลังเพิ่มขึ้น นี่เป็นความสำเร็จที่ก๊วยเจ๋งศึกษาได้จากคัมภีร์เก้าอิมฉบับสมบูรณ์ เหนือล้ำกว่ายาจกอุดรผู้สอนวิชานี้ให้เสียอีก

ด้านพิษประจิมอาวเอี้ยงฮงสัมผัสได้ถึงพลังลมแผ่วเบาลอยถึงเบื้องหน้า แต่คุกคามจนเขาแทบหายใจไม่ออก อาวเอี้ยงฮงงอเข่าลงผลักฝ่ามือทั้งสองออก ใช้ออกด้วยท่าไม้ตายของเขานามพลังคางคก ฝ่ามือทั้งสามปะทะกัน ต่างสะท้านเฮือกใหญ่ ก๊วยเจ๋งรีบเพิ่มพลังตามติดเป็นชั้น ๆ อาวเอี้ยงฮงกู่ร้องสนั่นหวั่นไหว ร่างสั่นไหวไปมาพร้อมจะกระเด็นไปทุกขณะ พลังฝ่ามือก๊วยเจ๋งกระแทกใส่อาวเอี้ยงฮงเท่าใด พลังต่อต้านของอาวเอี้ยงฮงก็หนักหน่วงขึ้นตาม

ก้วยเจ๋งเมื่อสิบกว่าปีก่อนเคยพ่ายแพ้แก่อาวเอี้ยงฮง แต่สิบกว่าปีมานี้เขาฝึกเก้าอิมเที่ยงแท้ ส่วนอาวเอี้ยงฮงก็ฝึกแบบย้อนกลับซึ่งมีความพิศดารเช่นกัน แต่หนึ่งตรงหนึ่งย้อนกลับ ของเที่ยงแท้จะอย่างไรก็เหนือล้ำกว่า คัมภีร์เก้าอิมฉบับสมบูรณ์ผลักดันให้ก๊วยเจ๋งมีฝีมือสูงขึ้น ยามกระทันหันมิอาจบอกได้ว่าผู้ใดสูงล้ำกว่า

แต่ช่วงนั้นเป็นฤดูหนาวหิมะทับถมบนหลังคา พลังที่ทั้งสองปะทะกันพลันทำให้หลังคาซึ่งรับน้ำหนักจากหิมะมากอยู่แล้วพลันพังลงมา ร่างทั้งสองพลันตกวูบลงเหยียบใส่ขาของผู้หลับนอนอยู่บนเตียงจนขาหัก คนผู้นั้นได้รับความเจ็บปวดร้องโอดโอย ก๊วยเจ๋งเป็นคนมีคุณธรรมไม่ต้องการเหยียบขาผู้อื่นให้เจ็บปวดเพิ่ม ร่างจึงไม่มั่นคง แต่อาวเอี้ยงฮงนั้นเสียสติหาแยแสไม่ พลังฝีมือทั้งสองความจริงก้ำกึ่ง แต่ก๊วยเจ๋งร่างไม่มั่นคงจึงเสียเปรียบขึ้นมาร่างถอยหลังไปครึ่งนิ้ว

อึ้งย้งผู้เป็นภรรยาก้วยเจ๋งเห็นสามีเสียเปรียบ จึงพาดฝ่ามืออันแผ่พริ้ว ใช้ออกด้วยฝ่ามือเทพกระบี่บุปผาร่วงของเกาะดอกท้อ ฝ่ามือนี้ร้ายกาจยิ่งหากสัมผัสถูกตัวอวัยวะภายในต้องบอบช้ำสาหัส อาวเอี้ยงฮงผลักพลังทั้งหมดไปเบื้องหน้า ร่างก๊วยเจ๋งก็ถอยผงะออกมา อาวเอี้ยงฮงตะบบใส่อึ้งย้งด้วยท่าร่างเกรี้ยวกราด แต่ถูกเกราะอ่อนขนเม่นที่มีหนามแหลมที่อึ้งย้งใส่อยู่ อาวเอี้ยงฮงรู้สึกเจ็บปวดจึงรีบถอนมือออก

ยามนั้นก๊วยเจ๋งผลักพลังฝ่ามือออกมาอีกครา อาวเอี้ยงฮงก็ผลักดันฝ่ามืออกเช่นกัน ฝ่ามืออันแกร่งกร้าวของทั้งสองต่างฟาดใส่ถูกไหล่ซ้ายอีกฝ่ายอย่างถนัดถี่ ได้ยินเสียงโครมสนั่นร่างทั้งสองต่างถอยพุ่งชนผนังห้อง ผนังถึงกับพังทลายหลังคาเอียงแฉลบพังลงมาครึ่งหนึ่ง ทั้งสองต่างได้รับบาดเจ็บบอบช้ำกระอักโลหิตออกมา อาวเอี้ยงฮงกล่าวว่า "ฝ่ามือสยบมังกรอันร้ายกาจ" จากนั้นก็หนีไป....

ต่อมาก๊วยเจ๋ง อึ้งย้งสองสามีภรรยาได้เดินทางไปปกป้องเมืองเซียงหยางจากมองโกล หลายสิบปีต่อมากองทัพมองโกลกล้าแข็ง อึ้งย้งเห็นว่าเมืองเซียงหยางรักษาไว้ไม่ได้ ตอนนี้มองโกลกำลังกล้าแข็งยากจะต่อต้านต้องรอผ่านไประยะเวลาหนึ่งก่อน จึงสร้างกระบี่อิงฟ้าและดาบฆ่ามังกรขึ้นมา โดยใส่วิชาเก้าอิมฉบับสมบูรณ์อยู่ในกระบี่อิงฟ้า และซ่อนคัมภีร์พิชัยสงครามงักฮุยไว้ในดาบฆ่ามังกร กระบี่มอบให้บุตรสาวนามก้วยเซียง ดาบมอบให้บุตรชายนามก้วยพั่วลู่ หวังว่าในอนาคตผู้ใดมีวาสนานำดาบฆ่ามังกรกับกระบี่อิงฟ้าซึ่งมีความคมสุดยอด ใช้ดาบกับกระบี่เข้าปะทะกัน ดาบกระบี่จะหักสะบั้นค้นพ้นความลับในดาบและกระบี่ ช่วยขับไล่มองโกล

อึ้งย้งยังคัดลอกดัดแปลงวิชาเก้าอิมบางส่วนให้ฝึกได้รวดเร็วใส่ลงไปในกระบี่อิงฟ้าด้วย อาทิ วิชากงเล็บกระดูกขาว เนื่องจากนางต้องการให้ผู้ฝึกรีบปลดทุกข์ช่วยประชาจากเงื้อมมือต่างชาติ จึงบัญญัติทางลัดการฝึกไว้ แต่สุดท้ายผู้ฝึกต้องย้อนกลับมาปรับพื้นฐานวิชาจากเก้าอิมฉบับสมบูรณ์ เริ่มฝึกตั้งแต่ต้น สิบปีหรือยี่สิบปีให้หลังจึงจะเป็นสุดยอดฝีมือได้อย่างแท้จริง....

ร้อยกว่าปีต่อมาจิวจี้เยียกศิษย์สำนักง้อไบ๊ได้ฝึกวิชาทางลัดในเก้าอิมที่อึ้งย้งคิดค้นขึ้น นางอาศัยแค่วิชากงเล็บกระดูกขาวก็เป็นยอดฝีมือขึ้นมาได้ แต่สุดท้ายเนื่องจากนางไม่มีเวลาปรับพื้นฐานวิชาฝีมือ เป็นเหตุให้พ่ายแพ้ต่อศัตรูถูกทำลายวิชาฝีมือและสมปราณเก้าอิมทางลัดไป สุดท้ายคัมภีร์เก้าอิมตกอยู่ในเงื้อมประมุขนิกายเม้งก่าเตียบ้อกี้ ประมุขนิกายเตียบ้อกี้เห็นจิวจี้เยียกใช้กงเล็บกระดูกขาวอันชั่วร้ายเจาะศรีษะผู้คน ต้องการทำลายคัมภีร์เก้าอิมทิ้ง แต่เมื่อเขาลองพลิกอ่านดูพบว่าภายในมีเนื้อหาสาระลึกล้ำ เป็นสุดยอดวิชาแขนงหนึ่ง มิใช่อวิชาอันชั่วร้ายจึงมิได้ทำลาย ตั้งใจว่าจะไปถามเรื่องนี้กับเตียซำฮงปรมาจารย์สำนักบู๊ตึ๊งผู้เป็นอาจารย์ปู่ เนื่องจากเตียซำองอายุนับร้อยปีอาจรู้รายละเอียดเกี่ยวกับคัมภีร์เก้าอิม....เรื่องราวของคัมภีร์เก้าอิมก็ถูกกล่าวถึงเพียงเท่านี้



18 ฝ่ามือพิชิตมังกร
#62   18 ฝ่ามือพิชิตมังกร    [ 17-11-2016 - 13:36:56 ]

ส่วนอันนี้เป็น ประวัติของ คัมภีร์เก้าเอี๊ยง จินเก็ง
พลังเก้าเอี๊ยง จินเก็ง หรือ พลังนวภพ,คัมภีร์นพเก้าสุริยัน แล้วแต่จะเรียก เป็นวิชาสายกำลังภายในที่ปรากฏขึ้นในช่วงรอยต่อมังกรหยกภาค 2 และปรากฏเด่นชัดที่สุดในมังกรหยก ภาค 3 หรือดาบมังกรหยก
เก้าเอี้ยงจินเก็งความจริงมีที่มาไม่กระจ่างชัด แต่ในการแก้ไขนิยายของกิมย้งครั้งที่ 3 เมื่อสิบกว่าปีก่อน ได้เพิ่มที่มาของวิชาเก้าเอี้ยงเข้าไปดังนี้
หลังจากการประลองที่เขาหัวซาน เทพฤทธิ์ตรงกลางเฮ้งเต้งเอี้ยง เอาชนะสุดยอดฝีมืออีกสี่ท่านอันได้แต่ มารบูรพา พิษปัจฉิม ยาจกอุดร ราชันย์ทักษิณ ได้รับการยอมรับเป็นที่หนึ่งแห่งแผ่นดินและได้ครองครองคัมภีร์เก้าอิมอันเป็นสุดยอดวิชาของคนรุ่นก่อนบัญญัติไว้
ครั้งหนึ่งเฮ้งเต้งเอี้ยงเดินทางผ่านเขาซงซานที่ตั้งของวัดเส้าหลินพบบุรุษซึ่งมีสติปัญญาปราดเปรื่องผู้หนึ่งต้องการเห็นคัมภีร์เก้าอิมว่าทรงประสิทธิภาพปานใด จึงประลองสุรากับเฮ้งเต้งเอี้ยง บุรุษนั้นมีคอสุรากล้าแข็งยิ่ง เฮ้งเต้งเอี้ยงเป็นฝ่ายพ่ายแพ้จึงมอบคัมภีร์เก้าอิมให้อ่าน เนื่องจากบุรุษผู้นั้นศึกษาคำสอนลัทธิขงจื้อตั้งแต่เล็กจึงมีสติปัญญาเปรื่องปราดและมากด้วยความรู้ นับเป็นปราชญ์ผู้หนึ่งในลัทธิขงจื้อ ภายหลังเขาบวชเป็นนักพรตลัทธิเต๋าศึกษาหลักการของเต๋าได้รับความรู้เป็นอันมาก มิทราบเพราะเหตุใด ในยามวัยชราเขากลับออกบวชเป็นพระในศาสนาพุทธ ด้วยสติปัญญาอันยอดเยี่ยมของเขา จึงใช้หลักพื้นฐานของวิชาเก้าอิมซึ่งเน้นหลักของอิม (หยิน-ความเย็น) อย่างสุดขั้ว บัญญัติยอดวิชาหนึ่ง ซึ่งผสานระหว่างอิม (หยิน-ความเย็น) เอี้ยง (หยาง-ความร้อน) อย่างลงตัวกลายเป็นยอดวิชา เก้าเอี้ยงซิ้งกง (ลมปราณเทพเก้าสุริยัน) และจดเคล็ดวิชาเก้าเอี้ยงคั่นไว้ในลังกาอวตารสูตรเล่มต้นฉบับซึ่งเป็นคัมภีร์ธรรมะ ส่วนคัมภีร์เก้าเอี้ยงไปอยู่วัดเส้าหลินได้อย่างไรนั้น คงมีแต่คนของวัดเส้าหลินเท่านั้นที่ทราบได้

คัมภีร์ลังกาอวตารสูตรนั้นเป็นคัมภีร์ธรรมะของศาสนาพุทธนิกายมหายานเขียนด้วยภาษาสันสฤต หลวงจีนอัจฉริยะผู้นั้นกลับเขียนเคล็ดวิชาเก้าเอี้ยงด้วยภาษาจีนเป็นตัวบรรจงอักษรสวยงามคั่นอยู่ระหว่างบรรทัดของภาษาสันสฤกต ส่วนสาเหตุที่ตั้งชื่อว่าเก้าเอี้ยง (เก้าสุริยัน) เกิดจากเคล็ดท่อนหนึ่งในคัมภีร์ว่า "สูดความร้อนทั้งเก้า รวมจิตใจก่อเกิดพลัง ดังนั้นขนานนามว่าคัมภีร์เก้าเอี้ยงอันเที่ยงแท้"

หลักของวิชาเก้าเอี้ยงกลับแตกต่างกับวิชาต่อสู้ทั่วไปทั้งแผ่นดิน อาทิ "ไม่คล้อยตามตนเอง แต่คล้อยตามผู้อื่น คล้อยตามผู้อื่นจะดำรง สามารถชั่งน้ำหนักข้อดีด้อยผู้อื่นได้' หมายความว่าเป็นพบคู่ต่อสู้ คู่ต่อไปทางซ้ายก็ไปทางซ้ายตาม คู่ต่อสู้ไปขวาก็ไปทางขวาตาม ทำให้สามารถหยั่งรู้กำลังผู้อื่นได้ ผิดหลักวิชาต่อสู้ทั่วไปที่ชี้แนะว่าชิงลงมือก่อนได้เปรียบ เมื่อฝึกขั้นสูงถึงกับสามารถใช้ลมปราณคู่ต่อสู้กระแทกใส่คู่ต่อสู้เอง

ผู้ที่ฝึกพลังเก้าเอี้ยงสำเร็จสุดยอด มีเพียงมีพลังลมปราณกล้าแข็งสุดยอดเท่านั้น พลังเก้าเอี้ยงยังก่อเกิดเป็นพลังลมปราณให้ผู้ฝึกตลอดเวลา คล้ายมีพลังใช้ได้ไม่หมดสิ้น เมื่อพลังลมปราณที่ใช้หมดก็จะก่อตัวขึ้นใหม่อย่างรวดเร็ว ยิ่งมายิ่งกล้าแข็ง นับเป็นสุดยอดวิชาลมปราณอันดับหนึ่งในแผ่นดินอย่างแท้จริง

หลายสิบปีผ่านไปกักเอี้ยงไต้ซือหลวงจีนวัดเส้าหลินมีตำแหน่งเล็ก ๆ ในการดูแลหอไตรพลันได้พบวิชานี้โดยบังเอิญ ท่านอ่านลังกาอวตารสูตรตั้งใจศึกษาพระธรรมพลันพบวิชาเก้าเอี้ยงคั่นกลางอยู่ในลังกาอวตารสูตร เข้าใจว่าวิชาเก้าเอี้ยงเป็นวิชาที่ปรมาจารย์ตั๊กม้อเขียนขึ้น ไว้ใช้ฝึกลมปราณรักษาร่างกายให้สุขภาพแข็งแรงเท่านั้น จึงคร่ำเคร่งฝึกทุกวี่วันมิได้ขาด หลายสิบปีผ่านไปจึงสำเร็จยอมลมปราณเก้าเอี้ยงโดยไม่รู้ตัว

ต่อมากักเอี้ยงไต้ซื้อได้รับศิษย์ฆารวาสนามหนึ่งซึ่งอยู่ในวัยเพียงเจ็ดปีนามว่าเตียกุนป้อ กักเอี้ยงไต้ซือถ่ายทอดวิชาในคัมภีร์เก้าเอี้ยงให้เตียกุนป้อบางส่วน โดยเข้าใจว่าเป็นหลักการที่ทำให้สุขภาพแข็งแรงเท่านั้น เตียกุนป้อฝึกอยู่หลายปีค่อยมีความเร็จสำเร็จอยู่บ้าง

จวบจนกระทั่งเตียกุนป้ออายุสิบสอง กักเอี้ยงซือได้พบคนสองคนนามว่าเซียวเซียงจื้อและอีเคอซีซึ่งได้รับบาดเจ็บ ถูกทหารมองโกลทำร้าย กักเอี้ยงไต้ซือมีเมตตาจึงนำทั้งสองเข้ามารักษาที่หอไตร มิคาด นี่เป็นอุบายของเซียวเซียงจื้อและอีเคอซี ทั้งสองต่างเป็นยอดฝีมือที่รับใช้ราชสำนักมองโกล ทราบว่าวัดเส้าหลินเป็นผู้นำวิชาบู๊ทั้งแผ่นดินเต็มไปด้วยวิทยายุทธอันลึกล้ำ จึงออกอุบายให้ทหารมองโกลแสร้งเป็นทำร้ายตนและเข้ามารับการรักษาในวัดเส้าหลินจุดประสงค์เพื่อขโมยยอดวิชา

เซียวเซียงจื้อและอีเคอซีพักอยู่หลายวันพบเห็นเตียกุนป้อฝีกวิชาเก้าเอี้ยงจึงลอบจี้จุดเตียกุนป้อระหว่างนั่งอ่านลังกาอวตารสูตร จากนั้นขโมยสังกาอวตารสูตรทั้งสี่เล่มไป จากนั้นใส่ไว้ถุงน้ำมันและผ่าตัดท้องค่างขาวยักษ์ (ค่างเป็นสัตว์คล้ายลิงมีแต่มีมือเท้าเรียวเล็กกว่า) ซุกซ่อนคัมภีร์ไว้ในท้องค่างขาว

กักเอี้ยงไต้ซือทราบว่าคัมภีร์ลังกาอวตารสูตรถูกขโมย ซึ่งความจริงคัมภีร์ลังกาอวตารสูตรเป็นคัมภีร์ธรรมะทั่วไป พบหาได้ตามวัดต่าง ๆ แต่เล่มที่เซียวเซียงจื้อและอีเคอซีขโมยไปเป็นเล่มต้นฉบับที่ปรมาจารย์ตั๊กม้อเขียนขึ้น จึงมีค่ายิ่งสำหรับวัดเส้าหลิน จึงจำเป็นต้องออกตามทวงคืน

กักเอี้ยงไต้ซือและเตียกุนป้อเดินทางมาถึงเขาหัวซานเพื่อตามทวงคืนคัมภีร์จากเซียวเซียงจื้อและอีเคอซี ได้พบก๊วยเจ๋ง เอี้ยก้วย ก๊วยเซียง และบรรดายอดฝีมือต่าง ๆ อีกมาก แต่อีเคอซี เซียวเซียงจื้อซ่อนคัมภีร์ไว้ในท้องค่างขาว ทั้งหมดจึงหาไม่พบ เซียวเซียงจื้อเกิดจิตอำมหิตซัดฝ่ามือทุ่มพลังการฝึกปรือทั้งชีวิตใส่กักเอี้ยงไต้ซือ มิคาดกักเอี้ยงไต้ซือฝึกเก้าเอี้ยงสำเร็จ กำลังภายในกล้าแข็งโคจรทั่วร่าง ถึงกับสะท้อนพลังเซียวเซียงจื้อทั้งหมดกลับไป !! เซียวเซียงจื้อร่างลอยกระเด็นดุจว่าวป่านถึงกับสิ้นสติ แต่เมื่อหาคัมภีร์เก้าเอี้ยงไม่พบ ทั้งหมดได้แต่ปลดปล่อยทั้งสองไป

ด้านเซียวเซียงจื้อและอีเคอซีนำคัมภีร์เก้าเอี้ยงฉบับสมบูรณ์ซุกซ่อนอยู่ในห่อน้ำมันผ่าตัดไว้ในท้องค่างขาว ทั้งสองหลบหนีถึงแดนไซฮกสุดชายแดนตะวันตกของจีน แต่ด้วยความชั่วร้ายของทั้งสองจึงคิดแย่งชิงคัมภีร์เป็นของตนผู้เดียวจึงต่อสู้กัน เซียวเซียงจื้อบาดเจ็บอยู่ก่อนเสียชีวิตก่อน ส่วนอีเคอซีก็อาการสาหัส ก่อนตายได้พบสามศักดิ์สิทธิ์คุนลุ้นฮ่อจ๊กเต๋ายอดฝีมือของสำนักคุนลุ้น อีเคอซีสำนึกในบาปที่กระทำจึงฝากฮ๋อจ๊กเต๋ามายังวัดเส้าหลินเพื่อบอกกับกักเอี้ยงไต้ซือว่า "คัมภีร์อยู๋ในวานร" (จิ้นไจ้โหวตง) แต่ด้วยเสียงเลอะเลือนไม่ชัดเจนจากอาการบาดเจ็บ ฮ่อจ๊กเต๋าจึงฟังผิดว่า "คัมภีร์อยู่ในน้ำมัน" (จิ้นไจ้โอ๋วตง) ซึ่งฟังแล้วไม่เข้าใจ ส่วนค่างขาวหายสาบสูญไป เป็นเหตุให้ไม่มีผู้ใดทราบร่องรอยคัมภีร์เก้าเอี้ยงอีกเลย

ค่างข่าวได้ไปอยู่ในหุบเขา แต่เนื่องจากเคยถูกผ่าตัดซ่อนคัมภีร์เก้าเอี้ยงไว้ แผลผ่าตัดจึงเริ่มเพาะเป็นเชื้อโรคร้าย ทำให้เกิดเป็นฝีหนองขึ้น แต่ค่างขาวตัวนี้เป็นสัตว์วิเศษมีอายุยืนนับร้อยปี แม้ได้รับความเจ็บปวดแต่ยังไม่เสียชีวิต

จวบจนกระทั่งเก้าสิบปีต่อมา มีคนผู้หนึ่งพลัดตกลงมายังหน้าผา ค้นพบหุบเขานี้โดยบังเอิญคนผู้นั้นแซ่เตีย นามบ้อกี้ บุรุษนามเตียบ้อกี้ถูกพิษเย็นเยียบจากฝ่ามือภูติเร้นลับเข้าใจว่าตนเองต้องตาย แต่ได้พบกับค่างขาวเป็นโรคฝี เตียบ้อกี้เรียนรู้วิชาแพทย์อยู่ก่อนจึงลงมือผ่าตัดฝีที่ท้องค่างขาวให้ มิคาดกับพบคัมภีร์เก้าเอี้ยงสี่เล่มอยู่ในห่อน้ำมัน เตียบ้อกี้อ่านคัมภีร์เก้าเอี้ยงซึ่งเขียนคั่นอยู่ช่องว่างลังกาอวตารสูตร จึงได้ร่ำเรียนคัมภีร์เก้าเอี้ยง

สี่เดือนแรกเตียบ้อกี้ฝึกเล่มที่หนึ่งจนทะลุปรุโปร่งพิษเย็นเยียบที่เขาได้รับก็พลอยหายสิ้น เมื่อฝึกถึงเล่มที่สองก็ไม่เกรงกลัวความร้อนหนาวของอากาศอีก เมื่อเข้าเล่มที่สามมีเนื้อหาสาระลึกล้ำยากเข้าใจเขาใช้เวลาถึงหนึ่งปีเต็มค่อยฝึกสำเร็จ เล่มที่สี่กลับใช้เวลาถึงสามปี รวมแล้วใช้เวลาห้าปีเศษในการฝึกคัมภีร์เก้าเอี้ยงฉบับสมบูรณ์ เมื่อสำเร็จทั้งสี่เล่มแตกฉาน เตียบ้อกี้จึงฝังคัมภีร์เก้าเอี้ยงไว้และเขียนบนผนังศิลาว่า "ที่ฝังคัมภีร์ของเตียบ้อกี้" หวังว่าอีกร้อยปีพันปีอาจมีคนมาค้นพบคัมภีร์เก้าเอี้ยงที่เขาฝังไว้

หลังจากนั้นเตียบ้อกี้ลงจากเขา ได้รับประสบการณ์พิศดาร เข้าสู่เขตหวงห้ามนิกายเม้งก่า (นิกายเรืองโรจน์) เขาได้ฝึกวิชาเคลื่อนย้ายจักรวาลที่เขียนอยู่บนหนังแพะ วิชาเคลื่อนย้ายจักรวาลมีซึ่งมี 7 ขั้น ขั้นแรกต้องเวลาอย่างน้อย 7-14 ปี จึงฝึกสำเร็จ ขั้นที่สองต้องฝึกอีก 7 - 14 ปี เตียบ้อกี้เพียงแค่อ่านตามหนังแพะเพื่อทำความเข้าใจ พลังลมปราณเก้าเอี้ยงโคจรตามจุดชีพรโดยไม่รู้ตัว เตียบ้อกี้ถึงกับฝึกสำเร็จถึงหกขั้นในเวลาสามชั่วยาม ขณะประมุขนิกายเม้งก่ารุ่นอื่น ๆ พรากเพียรฝึกปรือหลายสิบปีก็ยังไม่สำเร็จเกินขั้น 4 นี่คือความวิเศษของลมปราณเทพเก้าเอี้ยง มีลมปราณเก้าเอี้ยงเป็นพื้นฐานฝึกวิชาใดก็ง่าย

จากนั้นเตียบ้อกี้ยังใช้วิชาเก้าเอี้ยงและเคลื่อนย้ายจักรวาลช่วยสาวกนิกายเม้งก่าซึ่งกำลังโดนหกสำนักใหญ่ฝ่ายธรรมะล้อมอยู่ เตียบ้อกี้เสนอหน้าออกประลองแทนสาวกนิกายเม้งก่า....

สำนักคงท้งประลองเป็นรายแรก ห้าเฒ่าแห่งสำนักคงฝึกหมัดเจ็ดทำร้าย แต่ลมปราณไม่กล้าแข็งพอจึงเป็นเหตุให้อวัยวะภายในรับบาดเจ็บ สองผู้เฒาคงท้งลอบต่อยหมัดเจ็ดทำร้ายใส่เตียบ้อกี้ทั้งหน้าหลัง เตียบ้อกี้หยิบยื่นพระคุณแทนความแค้น ถึงกับใช้พลังเก้าเอี้ยงถ่ายทอดพลังผ่านหมัดสองผู้เฒ่ารักษาอาการบาดเจ็บจากอวัยวะภายในให้ สำนักคุงท้งจึงถอยไป

วัดเส้าหลินส่งคงแซ่ไต้ซือหนึ่งสามมหาสมณะเส้าหลินประลองกับเตียบ้อกี้ คงแซ่ไต้ซือมีกงเล็บมังกรสามสิบหกท่าอันร้ายกาจ ช่วงแรกเตียบ้อกี้ได้แต่หลบฝ่ายเดียว แต่เตียบ้อกี้ฝึกเก้าเอี้ยงเป็นพื้นฐาน ฝึกวิชาอะไรก็ง่าย ถึงกับเลียนแบบกงเล็บมังกรของคงแซ่ไต้ซือ แม้จะเพียงผิวเผิน แต่ใช้ทีหลังบรรลุถึงก่อนเอาชนะคงแซ่ไต้ซือได้

เจ้าสำหัวซานใช้วิชางูเหยียวพันตูเป็นตายเข้าหาญหัก มือหนึ่งใช้กงเล็บเหยี่ยว มือหนึ่งทำท่าดุจงูฉก กระบวนท่าแม้ลึกล้ำแต่การฝึกปรือไม่เพียงพอ ยิ่งมิใช่คู่มือเตียบ้อกี้ ถูกเตียบ้อกี้ฟาดฝ่ามือแล้วฝ่ามือเล่าคุกคามแทบหายใจไม่ออก แม้จะกล่าวอันใดยังไม่ได้ เจ้าสำนักหัวซานมากเลห์ ใช้ยาพิษหนอนคุณไสทองอันร้ายกาจแอบซัดใส่ เตียบ้อกี้สูดได้กลิ่นพิษพลันศรีษะมึนงง รีบเป่าลมหายใจ พิษนั้นย้อนกลับไปเล่นงานเจ้าสำนักหัวซานทันที เตียบ้อกี้ฝึกเก้าเอี้ยงสำเร็จ พิษร้ายกลับมิอาจทำอย่างไรได้

เมื่อถึงตาสำนักง้อไบ๊ เจ้าสำนักง้อไบ๊มิกจ้อซือไถ่มีกระบี่อิงฟ้าอันแหลมคมสุดยอด เตียบ้อกี้ถือดาบเล่นหนึ่งยังได้แต่หลบเลี่ยงฝ่ายเดียว เมื่อได้จังหวะเขาพลันวิ่งวนรอบ ๆ เจ้าสำนักง้อไบ๊ ท่าเท้าคล้ายพายุ คล้ายอัสนี ลมปราณเก้าเอี้ยงถูกเร่งเร้าสมบูรณ์ เจ้าสำนักง้อไบ๊มิอาจแทงกระบี่ถูกได้ เหล่าศิษย์ง้อไบ๊เกรงอาจารย์ตนจะพ่ายแพ้ จึงพากันชักกระบี่จู่โจมใส่่ เตียบ้อกี้ท่าร่างรวดเร็วชิงกระบี่ศิษย์ง้อไบ๊ทั้งหลายซัดขว้างใส่เจ้าสำนักง้อไบ๊ ลมปราณเก้าเอี้ยงที่แฝงมากับตัวกระบี่ทำเอาเจ้าสำนักง้อไบ๊ซึ่งใช้กระบี่อิงฟ้าฟันกระบี่ที่พุ่งมาจนข้อมือปวดแปลบ

สำนักง้อไบ๊มีศิษย์สตรีนางหนึ่งนามจิวจี้เยียก นางเคยช่วยเตียบ้อกี้มาก่อน เตียบ้อกี้จึงมิได้ชิงกระบี่ในมือนาง ขณะลังเล เจ้าสำนักง้อไบ๊ใช้จังหวะนั้นแทงกระบี่ใส่เตียบ้อกี้จากด้านหลัง เตียบ้อกี้ใช้ดาบเข้าปะทะ ดาบถูกกระบี่อิงฟ้าฟันหักสะบั้น เขาจึงซัดดาบในมือออกด้วยพลังเก้าเอี้ยงถึงเก้าส่วน เจ้าสำนักง้อไบ๊ฃรู้สึกลมหายใจขัดข้อง รีบก้มศรีษะหลบเลี่ยง รู้สึกมีกระแสลมที่พุ่งมากับดาบกระโชกใส่ใบหน้านางจนปวดแปลบ เตียบ้อกี้ใช้จังหวะนั้นยื่นมือขวาตบฟาด เจ้าสำนักง้อไบ๊ฟันกระบี่อิงฟ้าตอบโต้ เตียบ้อกี้เปลี่ยนจากตบฟาดเป็นคว้าจับ ชิงกระบี่อิงฟ้าในมือนางอย่างง่ายดาย ง้อไบ๊จึงพ่ายแพ้ไป

นี่ตัวอย่างของสุดยอดวิชาลมปราณเก้าเอี้ยง สุดท้ายหกสำนักใหญ่พ่ายแพ้ถอยกลับไป เตียบ้อกี้ได้รับการแต่งตั้งเป็นประมุขนิกายเม้งก่า ฝีมือของเตียบ้อกี้ในยามนี้นับว่าไร้ผู้ต่อต้านแล้ว แต่ทั้งนี้ความเร็จเหล่านี้กล่าวได้ว่าเริ่มต้นมาจากเทพลมปราณเก้าเอี้ยงนั่นเอง



รุ่ง
#63   รุ่ง    [ 01-12-2016 - 23:35:19 ]    IP: 101.108.220.146

ขอบคุนมากครับ

ที่ปรมาจารย เฮ้งเตงเอี้ยง ฝึก คือ เก้าอิม ใช่ไหมครับ
อึ้งเอี้ยะซือ ก้อ ฝึก แต่ไม่ครบใช่ไหมครับ

ส่วน เก้าเอี้ยง คือ ที่ เตียบ้อกี้ ไปเจอในท้องลิง นึป่าวครับ



รุ่ง
#64   รุ่ง    [ 01-12-2016 - 23:38:42 ]    IP: 101.108.220.146

กระทู้ 63 ผมไม่ทันเหน กระทู้ 61 & 62 ครับ

เคลียรมากๆเลย ขอบคุนมากครับ



18 ฝ่ามือพิชิตมังกร
#65   18 ฝ่ามือพิชิตมังกร    [ 02-12-2016 - 03:35:51 ]

ไม่เป็นไรคับ ขอบคุณมากคับ



ต้วนอี้
#66   ต้วนอี้    [ 14-08-2017 - 19:22:42 ]    IP: 183.89.101.206

ต้วนอี้ไม่ได้ฝึกวิชาดูดพลัง!มันกินกบวิเศษเข้าไป!



ต้วนอี้
#67   ต้วนอี้    [ 14-08-2017 - 19:24:00 ]    IP: 183.89.101.206

เฮ้งเตงไม่ได้ฝึกเป้าอิ่ม



Shine
#68   Shine    [ 15-08-2017 - 18:18:24 ]

คัมภีร์ "นพเคราะห์" ของเต๋าบูชาดาวเทพนพเคราะห์ทั้งเก้า เป็นรากฐานของวิชา

- เก้ามัจจุราช
- เก้าสุริยัน (เก้าเอี๊ยง)
- เก้าจันทรา (เก้าอิม)
- กระบี่นพเก้า

เก้ามัจจุราชเป็นวิชาเต๋าดำ วิชามาร วิชาต้องห้าม ซึ่งใช้ฝึกเฉพาะต้องสู้ตายเท่านั้น
ปกติ เขาจึงไม่ให้ฝึกกันครับ (เช่น หากจะต้องสิ้นชาติแล้ว จำเป็นต้องใช้วิชานี้ครับ)
จึงมีคนมากมาย พยายามแก้ไขให้วิชาเก้ามัจจุราช ซึ่งเป็นวิชาร้ายกาจมาก ให้เป็น
วิชาที่สามารถฝึกได้ ไม่ใช่วิชาต้องห้ามอีก เช่น อึ้งเซียงก็อาศัยวิชาเก้ามัจจุราชมา
เป็นพื้นฐานในการคิดค้นวิชาเก้าอิม (แต่ในนิยายไม่มีบอกไว้ บอกแค่ว่าอึ้งเซียงคิด
ค้นเก้าอิม แต่ไม่ได้บอกว่าคิดอย่างไร เอามาจากไหน?) ซึ่งก็ไม่ต่างจากต๊กโกวคิ้ว
ป่ายก็ใช้แนวทางจากคัมภีร์นพเคราะห์ มาดัดแปลงเป็นวิชากระบี่นพเก้าเช่นกันครับ

ข้อมูลนี้ไม่ได้มาจากในนิยายนะครับ ดังนั้น อย่าถือสา อ่านผ่านๆ ไปก็พอครับ



ตอบกระทู้
ชื่อ
รหัส กรอกตัวอักษร ตามภาพ
ข้อความ


emo-smile emo-happy emo-lol emo-enjoy emo-kiku emo-cool emo-hoho emo-drool emo-hungry emo-kiss emo-sorry emo-sad emo-cry emo-tear emo-question emo-doubt emo-shock emo-redface emo-plz emo-peevish emo-angry emo-moody emo-sneer emo-makefaces emo-good emo-touched emo-love emo-bore emo-tired emo-vomit
bold italic underline img link superscript subscript size color space justifyleft justifycenter justifyright quote box youtube