มาอ่านยอดจอมยุทธ ยุคต่างๆกันนะคร๊า

ยอดปรมาจารย์กิมย้ง

ปรมาจารย์ตั๊กม้อ

สมณะนาม พระโพธิธรรม เป็นองค์สังฆปรินายกที่นำหลักการแห่งนิกายเซนเข้ามาจากอินเดียใ นรัชสมัยของพระเจ้าบู้ตี้ในราชวงศ์เหลียงใต้ ก่อตั้งสำนักเส้าหลิน(เสียวลิ้มยี่) ขึ้นบนเขาซงซัวเป็นวัดที่เป็นศูนย์กลางของพระพุทธศาสนาที่โด่งด ังมากเสมอมา หลักการแห่งเซนคือการนั่งฌานเดินพลังลมปราณปรับการหายใจเดินเข้ าออก ท่านเองได้บัญญัติหลักวิชาการฝึกร่างกายในรูปแบบต่างๆเพื่อฝึกใ ห้ร่างกายแข็งแรง และสอนให้แก่หลวงจีนวัดเส้าหลิน ภายหลังต่อมาจึงเกิดเป็นยอดวิชาเส้าหลิน72วิชา อันเป็นกระบวนท่าต่างๆมากมายที่ใช้ในการต่อสู้ได้ตัวท่านตั๊กม้ อเองฝึกแตกฉานในพลังลมปราณ และกระบวนท่าต่างๆมากมายอาทิเช่น ท่านบัญญัติยอดลมปราณเปลี่ยนเส้นเอ็นอันมีพื้นฐานจากวิชาโยคะเป ็นยอดในใต้หล้า บัญญัติพลังเทพอรหันต์ปราบมารที่พลังอันกราดเกรี้ยวลงในตุ๊กตาด ินเผา ทั้งยังมีวิชาอย่างเช่น วชิระคงกระพัน(ระฆังทองคงกระพัน) ที่เป็นวิชาที่ต่อต้านได้ทุกการรุกโจมตี ท่านเองนับเป็นปรมาจารย์ผู้เป็นต้นกำเนิดคนแรกๆของวิทยายุทธบู้ ลิ้ม วัดเส้าหลินมีวิชาท่ากระบวน 72ท่ากระบวนเป็นที่รู้จักโดยทั่วไปในยุทธภพ แต่ก็มีวิชามารอันดุดันและเกรี้ยวกราดที่ท่านตั๊กม้อได้รู้มากจ ากศัตรูของท่านอีก 36กระบวนท่า ทั้งในเคล็ดคัมภีร์เทพอรหันต์ปราบมารยังมีท่า18อรหันต์ปราบมารแ ผงอยู่ เช่นนี้เองเส้าหลินจึงมีวิชามากมายเป็นรากฐานแก่ยุทธภพ จึงมีคำกล่าวที่ว่า “วิทยายุทธทั้งปวงมีที่มาจากเส้าหลินทั้งสิ้น”

ปรมาจารย์ต๊กโก้วคิ้วป้าย

จอมยุทธที่ไม่เคยพ่ายแพ้ ฉายา “มารกระบี่แสวงพ่าย” เพลงกระบี่รุดหน้าไม่มีถอย โจมตีไร้ป้องกัน เป็นเลิศในใต้หล้า ท่านเองสำเร็จหลักการใช้กระบี่ขั้นสูงสุด ใจไร้กระบี่มือไร้กระบี่พลังกระบี่ออกได้ตามใจนึกไร้ผู้ต่อต้าน ท่านเองในชีวิตทั้งหมดใช้กระบี่อยู่4เล่ม กระบี่เล่มแรกเป็นกระบี่คมเบา กระบี่เล่มที่สองเป็นกระบี่คมหนัก กระบี่เล่มที่สามเป็นกระบี่ทื่อหนัก และกระบี่เล่มที่สี่เป็นกระบี่ไม้ไร้คม ภายหลังนั้นสำเร็จหลักการใช้กระบี่ละทิ้งกระบี่ทั้งสี่เสีย อันกระบี่เล่มที่สามนี้ท่านได้ละทิ้งไปก่อน ด้วยว่าได้ปลิดชีพคนบริสุทธิ์เป็นกระบี่กาลกิณี ท่านเองบัญญัติวิชากระบี่เดียวดาย มีทั้งหมดแปดเคล็ดวิชาสยบอาวุธทั้งปวงในยุทธภพ ท่านเองได้เคยประลองกับผู้บัญญัติพลังเก้าอิม ท่านไม่เคยใช้กระบี่สยบลมปราณที่กราดเกรี้ยวเช่นนี้มาก่อนทำให้ การประลองออกมาไม่แพ้ไม่ชนะซะทีเดียว ท่านจึงได้ไปคิดค้นเพลงกระบี่ท่าที่เก้าใช้สยบลมปราณออกมา ส่วนอีกฝ่ายนั้นคิดค้นวิชากรงเล็บกระดูกขาวเก้าอิม ภายหลังมาประลองกันอีกครั้งหนึ่ง ท่าที่เก้าของเพลงกระบี่เดียวดายสามารถปลิดชีพของคู่ต่อสู้ได้ส ำเร็จ ต๊กโก้วเสียใจที่ได้พลั้งมือฆ่าคนดี จึงละทิ้งกระบี่ที่ใช้เสีย วิชานั้นต่อมาได้รับการถ่ายทอดกลายเป็นวิชา เก้ากระบี่เดียวดาย ทั้งท่านยังได้บัญญัติยอดวิชากระบี่มากมาย เพื่อนข้างกายของท่านคืออินทรีวิเศษ ที่ได้รับการเรียนรู้วิชากระบี่ของท่านมาด้วย วิชาหนึ่งที่ต่อมาได้รับการถ่ายทอดมาในยุคหลังที่โด่งดังอีกวิช าหนึ่งคือ กระบี่เหล็กนิลที่เจ้าอินทรีถ่ายทอดแก่เอี๊ยก๊วย วิชากระบี่ของท่านโดดเด่นลํ้าลึก ไร้กระบวนท่าไร้กระบี่ชนะกระบวนท่ากระบี่คม พลังกระบี่ปราณผสานรวมต่อสู้ได้อย่างใจนึก หาได้เคยพ่ายแพ้แก่ผู้ใดตลอดชีวิต แสวงหาหนึ่งเดียวเพียงพ่ายแพ้ เป็นหนึ่งยอดคนในยุทธภพที่หาคนเสมอมิได้ โดดเดี่ยวมาตลอดชั่วชีวิต ได้รับการยกย่องเป็นสุดยอดปรมาจารย์แห่งบู้ลิ้ม

ปรมาจารย์เตียซำฮง

วัยเยาว์นามเตียกุนป้อ เป็นศิษย์ที่ไม่ได้ฝึกวิชาของสำนักเส้าหลิน มีกักเอี๊ยงเป็นผู้ดูแล หลวงจีนกักเอี๊ยงมีหน้าที่ดูแลหอคัมภีร์อรหันต์ภายหลังพบคัมภีร ์พลังเก้าเอี๊ยงและได้ฝึกสำเร็จโดยบังเอิญ อันเตียกุนป้อฝึกสำเร็จเพลงหมัดอรหันต์เอาชนะสามเมธีฮ่อจ๋กเต๋า แห่งคุนลุ้นได้ ทำให้เกิดการเข้าใจผิดทำให้หลวงจีนกักเอี๊ยงต้องพาตนและแม่นางก ๊วยเซียงหลบหนีออกมา ต่อมาก่อนหลวงจีนกักเอี๊ยงมรณภาพ ได้ท่องคัมภีร์เก้าเอี๊ยงให้ทั้งสองฟัง ก๊วยเซียงเข้าใจ3ส่วนภายหลังในกาลต่อมาบัญญัติเป็นพลังเก้าเอี๊ ยงง่อไบ๊ และเตียกุนป้อเณรน้อยจำได้มากถึง 6ส่วน ต่อมาท่องยุทธจักรเดียวดาย แลเห็นธรรมชาติมากมาย ด้วยความมีอัจฉริยภาพทำให้สามารถบัญญัติวิชาไท้เก้กขึ้นจากการท ี่เห็นงูกัดกับพังพอนและเห็นกิ่งหลิวลู่ลม เน้นการสงบสยบเคลื่อนไหว อ่อนสงบแข็ง โอนอ่อนสยบเกรี้ยวกราด ยืมพลังสนองศัตรู เป็นวิชาที่โดดเด่นเหนือใคร ต่อมาพบภูเขาสามลูกตระหง่านอยู่กันงดงามนัก จึงขนานนามตัวเองใหม่ว่า “เตียซำฮง” และก่อตั้งสำนักขึ้นที่ยอดเขาบู้ตึ้ง รับศิษย์ทั้งหมดเจ็ดคน เรียกว่าเจ็ดผู้กล้าบู้ตึ้งอันได้แก่ ซ่งเอี๊ยเกียว ยู้เน้ยจิ้ว ยู้ไต้เง้า เตียซ่งโคย เตียชุ่ยชัว ฮึงหลีเต็ง และมกเซียกก บู้ตึ้งจึงมีชื่อเสียงทัดเทียมกันกับเส้าหลินเลยทีเดียว เมื่ออายุได้120ปีบัญญัติเพลงกระบี่ไท้เก้กและมวยไท้เก้กสอนให้ แก่หลานศิษย์เตียบ่อกี้ วิชาเป็นเลิศในกระบวน ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในยุทธภพ



ห้ายอดยุทธมังกรหยก


เฮ้งเต็งเอี๊ยง กลางเทพยดา

หนึ่งในห้ายอดยุทธในสมัยราชวงศ์ซ้องใต้ ฝีมือกล้าแกร่งเป็นหนึ่งในยอดคนทั้งห้า บำเพ็ญพรตบรรลุแตกฉาน ละวางสิ่งทั้งปวง เคยเอาชนะยอดคนทั้งสี่ในงานพิจารณ์กระบี่ ซึ่งหลังจากที่ได้เอาชนะอึ้งเอี๊ยซือ อั้งชิกกง ตวนตี่เฮง(ภายหลังคืออิดเต็งไต้ซือ)และอาวเอี๊ยงฮงได้แล้ว ก็ได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งในใต้หล้า ยากหาผู้ต่อกร เฮ้งเต็งเอี๊ยงได้รับมอบคัมภีร์เก้าอิมจินเก็ง อันเป็นพลังภายในฝ่ายโจมตีที่มีพลังดุดัน ลึกลํ้าพิสดาร หากทว่าด้วยใจที่ปล่อยวาง เฮ้งเต็งเอี๊ยงหมายให้ยุทธภพพบความสงบ ไม่มีการแก่งแย่งคัมภีร์พลังมารเล่มนี้อีกต่อไป จึงตั้งใจทำลายทิ้งไมี่นำมาฝึกฝน หากทว่ากลับไม่สำเร็จ คัมภีร์เกิดถูกลักขโมยและสูญหายไป ท่านเองมีศิษย์เจ็ดคนนามว่า เบ๊เง็ก เล้าชู่เ**่ยง คูชู่กี เฮ้งชู่อิก **ะไต่ทง ซุงปุ๊กยี๋ และ ถํ่าชู่ตวงขนานนาม เจ็ดพรตช้วงจิง ท่านเองมี จิวแป๊ะท้ง เฒ่าทารกเป็นศิษย์น้อง สำเร็จเพลง ดรรชนีเอกสุริยันฟ้ากำเนิด และพลังเต็งเอี๊ยงฟ้ากำเนิด พลังดรรชนีกระบวนลึกซึ้ง เป็นยอดวิชาดรรชนีที่กำราบได้ทุกผู้ทุกนาม และด้วยความที่เต็งเอี๊ยงได้รับการยกย่องมากที่สุดในบู้ลิ้ม ภายใต้นามแห่งเต็งเอี๊ยงยามที่ท่านยังไม่สิ้นนั้น เป็นชื่อที่ทุกผู้ต้องยำเกรง

มารบูรพา อึ้งเอี๊ยะซือ

ประมุขแห่งเกาะดอกท้อ ติดหนึ่งในห้ายอดยุทธ์สุดยอดแห่งแผ่นดินในสมัยซ้องใต้ นิสัยแปลกประหลาดไม่ยึดติดกฎเกณฑ์ หากทว่ามิเคยทำสิ่งใดผิดคุณธรรม หากเห็นว่าสิ่งใดถูกต้องแล้วย่อมกระทำได้ หาได้ขัดข้องประการใดไม่ นิสัยเช่นนี้คนทั่วไปจึงขนานฉายาให้ว่า “มารบูรพา” อึ้งเอี๊ยะซือเองชำนาญการวางแผน พิณ หมากรุก ค่ายกล ศิลป์และศาสตร์ทั้งปวงก็ต่างมีความสามารถในรอบด้าน เคยในใช้ค่ายกลประตูปราการดาราทองคำแปดทิศ (อิงชื่อตามค่ายกลต้นแบบของขงเบ้งที่ใช้ในการวางแผนผังรั้วบ้าน และที่ชีซีตันฮกเคยใช้ปราบโจหยิน) ปกป้องเมืองเซียงเอี๊ยง ขับไล่มองโกล ในชีวิตมีศิษย์หกคน หากทว่าลมทมิฬคู่พิฆาต (ตั้งเ**่ยงฮวง บ๊วยเถี่ยวฮวง) แอบลอบขโมยคัมภีร์เก้าอิมเล่มปลายจากตนไป จึงลงโทษตัดเอ็นศิษย์ทุกคนของตน อึ้งเอี๊ยะซือมีวิชาที่ใช้มากมายเช่น เพลงกระบี่ขลุ่ยหยก มือปัดจุดกล้วยไม้ ฝ่ามือกระบี่สยบผู้กล้า เท้าสลาตันกวาดใบไม้ พลังเทพคลื่นมรกต และดรรชนีเซ่งคุนที่โจทย์ขานว่าทัดเทียมเสมอด้วยดรรชนีสุริยันต ระ**ลตวน อี้งเอี๊ยะซือแม้มีนิสัยประหลาดไม่เข้ากับใคร แต่ก็ยึดถือนํ้าสัจจะและคุณธรรมเป็นหลัก วิชาศาสตร์ความรู้ที่มีนำมาใช้ประโยชน์เพื่อบ้านเมือง นับเป็นวีรชนแท้จริง

อาวเอี๊ยงฮง พิษประจิม

ฉายาอันดับที่ห้าแห่งยอดยุทธในสมัยซ้องใต้ จิตใจดำมืด ทะเยอทะยาน ถึงแม้ตนจะไม่ใส่ใจกับคุณธรรมที่พึงกระทำต่อยุทธภพ แต่ทว่าไม่เคยผิดต่อสัจจะอันเป็นหัวใจของชาวบู้ลิ้ม แม้อาวเอี๊ยงฮงภายในดูโหดร้าย ป่าเถื่อนเช่นนี้ แต่จิตใจภายในหาใช่คนเลวโดย** ตนเองเป็นประมุขสำนักเขาอูฐขาว ตนนั้นได้รับขนานนาม “พิษประจิม” ด้วยความที่ตนถนัดใช้วิชาพิษเป็นพิเศษ ตนเองทะเยอทะยานเป็นอันมาก หวังแย่งชิงคัมภีร์พลังเก้าอิมมาครอบครอง หลังจากพยายามทุกวิธี ได้จับเอาจอมยุทธยิงอินทรี ก๊วยเจ๋ง และอึ้งย้งอันจำเคล็ดคัมภีร์เก้าอิมได้คนละส่วนนั้นมาถ่ายทอดเค ล็ดวิชาให้ ทว่ากลับได้รับคัมภีร์มาแบบผิดๆ เป็นคัมภีร์อันจำต้องเดินพลังย้อนทวนชีพจร แต่ทว่า อาวเอี๊ยงฮง หาได้รู้ไม่ว่าเป็นคัมภีร์ผิดๆ ตนนั้นเป็นคู่อริด้วยอั้งชิกกงแห่งพรรคกระยาจกเสมอมา ทั้งคู่เคยประลองกันทั้งสิ้น 7ครั้ง อาวเอี๊ยงฮงสามารถเอาชนะอั้งชิกกงได้ถึง 5 ครั้ง ทว่าภายหลังในงานพิจารณ์กระบี่ครั้งที่2 ณ เขาฮั้วซัว เพื่อหายอดยุทธในบู้ลิ้มนั้น อั้งชิกกง ที่เคยพ่ายแพ้มาตลอดด้วยการออมมือให้นั้น ได้ใช้เพลงไม้เท้าตีสุนัขอันกลับกลอก พิสดาร เอาชนะอาวเอี๊ยงฮงได้อย่างรวดเร็ว ทว่าด้วยจิตใจที่เคียดแค้นของอาวเอี๊ยงฮง พลันเดินพลังเก้าอิมที่ตนเข้าใจผิดมานั้นในทันที และด้วยความปราดเปรื่องของอาวเอี๊ยงฮง คัมภีร์นั้นแม้จะเขียนมาผิดๆ อาวเอี๊ยงฮงเองก็เข้าใจผิดๆ แต่ทว่ากลับสำเร็จออกมาได้เช่นที่ผิดๆนั้น กลับกลายเป็นพลังย้อนทวนชีพจร อาวเอี๊ยงฮงเองเดินพลังกลับหัวชี้ขาสู้ฟ้า ธาตุไฟเข้าแทรกทำให้เป็นคนเสียสติ เอาชนะอั้งชิกกงและอึ้งเอี๊ยะซือได้อย่างน่าทึ่ง กลับถูกยกย่องเป็นหนึ่งในยุทธภพแทนที่เฮ้งเต็งเอี๊ยงที่ตายไป ต่อมาภายหลังอีก20ปี ประลองเอาเป็นตายกับอั้งชิกกงบนเขาฮั้วซัวอีกครั้งหนึ่ง พลันหมดแรงเสมอกัน สิ้นใจตายไปพร้อมกับอั้งชิกกงนั้นพร้อมด้วยรอยยิ้มที่สลายลงด้ว ยภาวะยอดคนเสียดายยอดคน มอบมิตรภาพสุดท้ายก่อนลมหายใจจะหมดลง

อั้งชิกกง ยาจกมังกรอุดร

มังกรเทพยดากงจู๊ใหญ่แห่งพรรคกระยาจกที่ใหญ่เป็นอันดับหนึ่งในแ ผ่นดิน ติดยอดห้าฝีมือแห่งบู้ลิ้มในราชวงศ์ซ้องใต้ สำเร็จเพลงฝ่ามือพิชิตมังกรครบทั้ง18ท่า พลังฝ่ามือเบิกโลกันตร์ ทำลายศัตรูราบคาบ อั้งชิกกงนั้นมีนิสัยชอบทานของอร่อยเป็นนิสัยเสีย ภายหลังลงโทษตัวเองตัดนิ้วชี้ทิ้งเสีย อั้งชิกกงนี้ พลังฝีมือเป็นเอกไม่เป็นรองอึ้งเอี๊ยะซือ เคยประลองด้วยอาวเอี๊ยงฮง7ครั้ง ในสี่ครั้งแรก อั้งชิกกงออมมือใช้เพียงฝ่ามือพิชิตมังกร18ท่า ประมือคู่ต่อสู้ ทำให้พ่ายแพ้แก่อาวเอี๊ยงฮง จนเคยทำให้สูญเสียพลังยุทธ จำต้องไปอาศัยอยู่ที่เกาะดอกท้อกับมารบูรพาเพื่อฟื้นฟูวรยุทธอย ู่ถึง2ปี ภายหลังในครั้งงานพิจารณ์กระบี่ อั้งชิกกงปลดปล่อยเพลงไม้เท้าตีสุนัข กระบวนท่าเพลงไม้เท้าพิษประจิมถอยร่นไม่เป็นกระบวน เอาชนะได้อย่างงดงาม อึ้งเอี๊ยะซือจึงเอ่ยปากยกย่องอั้งชิกกง ในฐานะที่เป็นลูกผู้ชายใจกล้าที่เสียสละเพื่อแผ่นดินเป็นอันมาก นํ้าใจก็งดงาม อ่อนน้อมถ่อมตน ไม่โอ้อวดในพลังฝีมือ อึ้งเอี๊ยซือเองยังยอมรับให้อั้งชิกกงเป็นใต้หล้าไร้ต่อกร หารู้ไม่ อาวเอี๊ยงฮงเดินพลังทวนชีพจรกลับมาล้างแค้นเอาชนะคนทั้งสองได้เ สีย ตำแหน่งใต้หล้าไร้ต่อกรนี้จึงตกแก่คนบ้าที่ผึกวิชาจนถูกธาตุไฟแ ทรก อั้งชิกกงเองไม่รับศิษย์ มีเพียงอึ้งย้ง ก๊วยเจ๋งและเอี๊ยก๊วยเท่านั้น ที่ได้รํ่าเรียนวิชาจากท่าน สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกรที่ถ่ายทอดนั้นองอาจ ลํ้าลึก หากสำเร็จถึงขั้นออกได้ตามใจเช่นอั้งชิกกงนี้แล้ว และด้วยจิตใจที่เปี่ยมคุณธรรมนี้ เรียกได้ว่าอั้งชิกกงเป็นมังกรเทพยดาแห่งบู้ลิ้มในสมัยซ้องใต้ท ี่เลิศด้วยประการทั้งปวง

อิดเต็งไต้ซือ สมณะทักษิณ

เดิมเป็นฮ่องเต้แห่งดินแดนต้าหลี่(ยูนนาน) นามเดิมว่า ตวนตี่เฮง เป็นกษัตริย์ต้าหลี่ในราชวงศ์ตวนอันเก่าแก่ สำเร็จดรรชนีเอกสุริยันประจำตระ**ลตวน นับได้ว่าเป็นยอดวิชาที่เป็นเอกะในยุทธภพ ฉายาแรกเริ่มคือ ราชันย์ทักษิณ พลังฝีมือเป็นรองก็แต่เฮ้งเต็งเอี๊ยง ทว่าต่อมาเกิดใจเคียดแค้นต่อเอ็งโกว พระสนมที่แอบลักมีชู้กับจิวแป๊ะท้งจนเกิดบุตรี ไม่ยอมรักษาบุตรีของนาง ทำให้ตนเองเกิดความเสียใจในสิ่งตนกระทำ ตัดสินใจละเรื่องทางโลก เข้าสู่พระธรรม บำเพ็ญจิตใจจนละได้ซึ่งกิเลศ ยืนมือเข้าช่วยอึ้งย้ง คิ้วโชยยิ่ม ไกล่เกลี่ยเรื่องราวความแค้นทั้งปวงที่มีต่ออดีตพระสนม และเหล่าผู้คนทั้งปวง เป็นการแสดงความใจกว้างที่น่ายกย่อง ทั้งยังไม่ร่วมประลองแย่งชิงตำแหน่งยอดยุทธในยุทธภพอีก ทำให้ผู้คนต่างเลื่อมใสในจิตใจของท่าน ทำให้ท่านเองได้รับการขานนามว่า สมณะทักษิณ หาใช่ด้วยฝีมืออันลึกลํ้าแต่เพียงอย่างเดียวไม่ แต่ด้วยจิตใจอันงดงามของท่านนั้นที่น่ายกย่องเป็นมากกว่า


ยอดฝีมือไร้ต่อต้าน



บูรพาไม่แพ้ ตังฮึงปู้ป้าย

จิตใจทะเยอทะยาน มีความปราดเปรื่องเป็นเลิศ สมัยที่ยิ้มอั้วเกี้ยเป็นประมุขนิกายเทพตะวันจันทรา ดำรงตำแหน่งเป็นรองหัวหน้าตึกวายุอัคนี ภายนอกจิตใจภักดี ภายในใฝ่หาทะเยอทะยานบารมี ด้วยความไว้ใจของยิ่มอั้วเกี้ยจึงได้รับแต่งตั้งเป็นที่ทูตซ้าย แห่งนิกาย และได้รับมอบคัมภีร์ทานตะวัน ต่อมาใช้แผนการชั่วร้ายจับยิ่มอั้วเกี้ยขังคุกใต้ดินที่ใต้ทะเล สาบซีหู(ไซโอ้ว) ตั้งตนเป็นประมุขนิกายเทพตะวันจันทรา สำเร็จคัมภีร์ทานตะวันสยบมาร ซึ่งจำเป็นต้องตอนจึงจะฝึกสำเร็จ ต่อมาเก็บตัวเงียบอยู่แต่ภายในผาไม้ดำ คงไว้แต่ชื่อที่สร้างแต่ความสะพรึงกลัว หารู้ไม่ บูรพาไม่แพ้กลับเป็นไม่ชายไม่หญิงแอบหลงรัก เอี๊ยไหน่เต้ง (หยางเหลียนถิง) ที่ทำหน้าที่ดูแลนิกาย เป็นต้นเหตุให้ตนเสียอำนาจประมุขให้แก่ยิ่มอั้วเกี้ย ประมือกันกับเหล่าจอมยุทธ์ ด้วยจิตที่แปรปรวนเกิดความห่วงในความปลอดภัยของเอี๊ยไหน่เต้ง พลาดมือเสียทีตายตกแก่กระบี่เหล่งหูชงนั้น นับเป็นตำนานของจอมยุทธ์ที่ยอมเสียสละทุกสิ่งเพื่ออำนาจและบารม ี และยังคงเป็นหนึ่งในยอดจอมยุทธ์ที่เคยตายไม่เคยแพ้เช่นนี้

เคียวฮง มังกรเคียวฮงเหนือ

ประมุขพรรคกระยาจก สำเร็จเพลงฝ่ามือพิชิตมังกรสิบแปดท่าขั้นสูงสุด ฝีมือไร้เทียมทาน ยากหาคนต่อต้าน ด้วยความที่มีร่างกายแข็งแรง และมีพลังกายเป็นเอก ทำให้ไม่เคยท้อต่อทุกอุปสรรค รากเหง้าตนหาใช่คนเมืองฮั่น แต่มีใจรักชาติบ้านเมือง หลังจากโดนคนภายในพรรคกลั่นแกล้งต้องร่อนเร่ในยุทธจักร ได้กระทำเป็นบุญคุณไว้กับเยลุกอั้งกีแห่งอ๋องเหลียว ต่อมาได้รับตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาแห่งเหลียวอ๋อง ตำแหน่งอ๋องแห่งทักษิณ เคยห้ามปราบการบุกของเหลียวต่อเมืองฮั่นหลายต่อหลายครั้ง ความรักที่ตนมีสับสนวุ่นวาย สตรีผู้เป็นที่รักตกตายไปด้วยมือตนเอง เกิดภาวะสับสน ภายหลังตกตายภายใต้เงื้อมมือตนเอง เป็นจุดจบอันน่าเวทนาของจอมยุทธที่เก่งกาจที่เรียกได้ว่ายอดคนท ี่พร้อมเสียสละเพื่อความผาสุกของบ้านเมืองที่ไม่ใช่ของตนซะทีเดียว

วีรชนไร้ต่อต้าน

ก๊วยเจ๋ง วีรชนยิงอินทรี

วัยเด็กใช้ชีวิตกำพร้าพ่อโดยอยู่กับแม่ อาศัยอยู่ที่ชายแดนเมืองเหลียวติดกับเมืองซ่ง ชาติกำเนิดที่แท้จริงเป็นคนฮั่น ก๊วยเจ๋งในยามเด็กแสดงออกอย่างชัดเจนว่าเป็นคนซื่อ ไม่ฉลาด แต่ซื่อสัตย์ และจริงใจ ต่อมาพบเหตุการณ์ผันผวนแปรเปลี่ยนชีวิตตนเองและมารดา สาบานตนเป็นพี่น้องร่วมเป็นตายกับทายาทแห่งข่านมองโกล เป็นที่โปรดปรานของท่านข่าน ถึงกับมั้นหมายบุตรีไว้ให้ และด้วยสาเหตุสืบเนื่องจากที่ นักพรตคูชูกีแห่งช้วงจิงก่า และเจ็ดประหลาดกังหนำท้าแข่งประลองฝึกยุทธ์ โดยตกลงกันภายในเวลาที่เอี๊ยคัง(อ้วงง้วนคัง) และก๊วยเจ๋งอายุครบ18ปีให้มาประลองกัน เพื่อหาผลผู้แพ้ชนะ เจ็ดประหลาดกังหนำ รับเอาก๊วยเจ๋งเป็นลูกศิษย์ ทว่าภายหลังก๊วยเจ๋งกลับสำเร็จยุทธเบื้องต้น จากนักพรตเบ๊เง็ก ชีวิตของก๊วยเจ๋งดูเหมือนจะเรียบง่าย หากไม่พบกับอึ้งย้ง ขงเบ้งหญิง ผู้ที่ทำให้ชีวิตของก๊วยเจ๋งเปลี่ยนแปลงไป ก๊วยเจ๋งและอึ้งย้งต่างผจญสารพันปัญหาต่างๆในยุทธจักรร่วมกัน ทั้งสองกราบอั้งชิดกง ยาจกอุดร เป็นอาจารย์ อันก๊วยเจ๋งฝึกสำเร็จเพลงฝ่ามือพิชิตมังกรสิบแปดท่า ทั้งยังได้สาบานตนเป็นน้องร่วมสาบานกับ จิวแป๊ะท้ง เฒ่าทารก สำเร็จเพลงหมัดว่างเปล่า และสองมือขัดแย้ง ฝีมือเป็นเลิศในแผ่นดิน อยู่ในระดับเดียวกับห้ายอดยุทธ์แห่งซ้องใต้ ต่อมาทำวีรกรรมนานาประการ ทั้งการนำทัพทดแทนคุณให้แก่ท่านข่าน จนถึงยอดวีรกรรมปกป้องเมืองเซียงเอี๊ยง จากการรุกรานของมองโกล ก๊วยเจ๋งและอึ้งย้งมีบุตรสามคน นามว่า ก๊วยพู้ ก๊วยเซียงและก๊วยพั้วลู้ คนทั้งปวงขานนามว่า วีรชนยิงอินทรี เพื่อยกย่องอยู่ในระดับเดียวกับยอดวีรชนอึ้งเอี๊ยะซือ อั้งชิกกง และขงเบ้งหญิง อึ้งย้ง .......“วีรบุรุษใครเห็นใครชื่นชม เป็นผู้ที่ปกครองประชาชนให้อยู่เย็นเป็นสุข ข้าคิดว่า คนที่ฆ่าคนมากมายอาจไม่ใช่วีรบุรุษเสมอไป” ก๊วยเจ๋งพูดกับเจงกิสข่าน (อ้างอิงจากหนังสือการ์ตูนมังกรหยกเล่มจบ).......“ เรื่องราวเริ่มต้นที่หมู่บ้านหนิวเจียและจบลงที่หมู่บ้านหนิวเจ ีย ยี่สิบปีผ่านไปเมืองซ้องก็ยังพบกับสงครามไม่รู้สิ้น ก๊วยเจ๋งใช้ชีวิตปกป้องบ้านเมือง กลายเป็นจอมยุทธ์วีรบุรุษแห่งยุค” กิมย้ง......

เตียบ่อกี้ เทพประมุขแห่งเม้งก่า

เตียบ่อกี้ เกิดท่ามกลางสภาพที่ยุทธจักรอยู่ในช่วงรอยต่อของยุค อันช่วงยุคที่แปรปรวนอย่างมากหลังจากสิ้นเหล่ายอดยุทธ์ในสมัยซ้ องใต้(ประมาณ100ปีก่อนเตียบ่อกี้เกิด) และด้วยความที่เกิดเป็นกลียุค ท่ามกลางความวุ่นวายทั้งปวง ย่อมมีวีรบุรุษเกิดขึ้นมาอย่างแน่นอน อันเตียบ่อกี้(เตียบ่ออ้วง) มีบิดาคือเตียชุ่ยชัว ศิษย์คนที่ห้าแห่งปรมาจารย์เตียซำฮง ส่วนมารดานั้น คือฮึงซูซู่ ธิดาของพญาอินทรีคิ้วขาว ฮึงเทียนเจี่ย ประมุขแห่งนิกายอินทรีฟ้า และด้วยความผันผวนของยุทธภพในขณะที่ก่อนเตียบ่อกี้จะเกิดได้ไม่ นานนั้น มีการแย่งชิงเทพศัสตราวุธสองชิ้น (กระบี่อิงฟ้า ดาบฆ่ามังกร) ส่งผลให้ยุทธภพนองเลือด ในที่สุดเหตุการณ์พลิกกลับ พญาราชสีห์ขนทอง เจี่ยซุ่น สามารถแย่งชิงดาบฆ่ามังกรจากนิกายอินทรีฟ้าได้สำเร็จ ต่อมาเหตุการณ์ชักพาให้เตียชุ่ยชัวและฮึงซูซู่ติดเกาะอัคคีนํ้า แข็งที่ขั้วโลกเหนือ พร้อมกับเจี่ยซุ่น นำพาเจี่ยซุ่นเป็นบิดาทูนหัวของเตียบ่อกี้ เมื่อเตียบ่อกี้เติบใหญ่ พบกับร้อยเรื่องพันปัญหาในยุทธจักร พานพบกับสตรีงามสี่นาง ได้แก่ จิวจี้เยียก ศิษย์เอกแห่งมิกจ๊อซือไถ่(ทำลายล้างสิ้น ประมุขรุ่นที่สี่สำนักง๊อไบ๊) เตียวเมี่ยง ธิดาแห่งลือเอี๊ยงอ๋องแห่งต้าเหลียว เสี่ยวเจียว สาวใช้แห่งเม้งก่า บุตรีแห่งไดอีซี้ พญามังกรแพรม่วง และฮึงลี้ บุตรีแห่งฮึงเอียอ้วง (ฮึงลี้เป็นลูกผู้น้องของเตียบ่อกี้) เตียบ่อกี้ทั้งรักทั้งชังเหล่าสตรีงามเหล่านี้ เตียบ่อกี้เองในวัยเด็กบาดเจ็บสาหัสจากพิษฝ่ามือลี้ลับ(โลกันตร ์) เป็นตายไม่แน่นอน ต่อมาโชคดีได้ฝึกวิชาพลังเทพเก้าเอี๊ยงสำเร็จ พลังภายในกล้าแกร่งเข้มแข็ง วาสนาชักพาให้เข้าช่วยเหลือเม้งก่ารับมือหกสำนักใหญ่แห่งตงง้วน (เส้าหลิน บู้ตึ้ง ง่อไบ๊ ฮั้วซัว คงท้ง คุนลุ้น) พร้อมกับพบคัมภีร์หนังแกะเคล็ดเคลื่อนย้ายจักรวาล สามารถฝึกสำเร็จขั้นสูงสุด กำราบทั้งหกสำนักราบคาบ ทูตซ้ายโชติช่วง เอี๊ยเซียว และพญาค้างคาวปีกเขียว ยกขึ้นเป็นเทพประมุขแห่งเม้งก่า ต่อมาสานความสัมพันธ์เม้งก่ากับเหล่าสำนักต่างๆให้เข้าใจกันโดย ดี ผจญปัญหาสารพัดตั้งแต่การช่วยเหลือพ่อบุญธรรมจากเงื้อมมือ เทพฝ่ามืออสนี เซ่งคุ่น กระทั่งยกกองกำลังห้ากองธงรับศึกจากต้าเหลียว วีรกรรมแต่ละชิ้นล้วนสง่างาม เต็มไปด้วยคุณธรรมที่น่ายกย่อง ภายหลังถูก จูง้วนเจียง(จูหยวนจาง) หัวหน้ากองกำลังปราบแผ่นดินในสังกัดเม้งก่า จงใจทำให้เกิดการเข้าใจผิด เตียบ่อกี้ถอนตัวออกจากเม้งก่า เป็นเหตุให้เม้งก่าล่มสลายในเวลาต่อมา จูง้วนเจียง(หมิงไถ่จูฮ่องเต้) สถาปนาตนเองเป็นฮ่องเต้หลังจากยกกองกำลังของเม้งก่าปราบปรามแผ่ นดินให้สงบลง เป็นไทจากการปกครองของชาวเหลียว ได้รับการยกย่องเชิดชูในฐานะปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์หมิง ประชาชนทั้งปวงหารู้ไม่หากไร้เตียบ่อกี้ เทพประมุขแห่งเม้งก่าแล้ว ตงง้วนคงจะหาได้เป็นไทและสืบสานตำนานแห่งบู้ลิ้มต่อไปไม่

เหล่งหูชง จอมยุทธเจ้าสำราญ

กำพร้าพ่อแม่ตั้งแต่วัยเยาว์ งักปุ๊กคุ้งฉายากระบี่วิญญูชน เจ้าสำนักฮั้วซัวสายปราณรับเข้าสำนัก ใจรักประดุจลูกคนหนึ่ง เหล่งหูชงเป็นศิษย์เอกสำนักฮั้วซัว เนื่องจากมีสติปัญญา รํ่าเรียนเพลงกระบี่ก้าวหน้ากว่าผู้อื่น หากทว่านิสัยไม่อยู่สุข ชอบหาความสำราญ เสพสุราไปวันๆ ตนเองและศิษย์น้องหญิง งักเล้งซังบุตรีแห่งงักปุ๊กคุ้ง มีความผูกพันกันมาแต่ไหนแต่ไร เรียกได้ว่าเป็นรักอันเกิดจากความใกล้ชิด ต่อมายุทธภพเกิดการแย่งชิงคัมภีร์กระบี่สยบมารแห่งตระ**ลลิ้ม งักปุ๊กคุ้งเข้าไกล่เกลี่ยรับเอาลิ้มเพ้งจือ ทายาทแห่งตระ**ลลิ้มที่เหลือรอดชีวิตเพียงคนเดียวเป็นลูกศิษย์ ต่อมาเหล่งหูชงถูกลงโทษให้อยู่บนผาสำนึกตนหนึ่งปี โชคดีได้ฝึกเพลงกระบี่เก้าเดียวดาย (เพลงกระบี่เดียวดายเก้าท่า เก้ากระบี่ต๊กโก้ว หรือเก้ากระบี่เดียวดาย) จากปรมาจารย์ฮวงเช็งเอี๊ยง(ฟงชิงหยาง) ผู้อาวุโสฮั้วซัวสายกระบี่ ต่อมาเกิดความผันผวน ถูกอาจารย์ที่ตนรักเชิดหุ่น ด้วยความจริงงักปุ๊กคุ้งเป็นคนทะเยอทะยานแต่ไหนแต่ไรมา ชักหุ่นลูกศิษย์รักของตนเอง บังคับให้ออกจากสำนัก ทั้งยังป้ายความผิดเรื่องการขโมยคัมภีร์กระบี่สยบมารให้ เพื่อหวังขโมยเอาคัมภีร์กระบี่มาฝึกเพลงกระบี่แต่คนเดียว เหล่งหูชงเกิดความรักต่อยิ้มเอี๊ยงเอี๊ยง ธิดาเทพตะวันจันทรา บุตรีแห่งยิ้มอั้วเกี้ย(เยิ่นหว่อสิงหรือ ยิ่มอั้วฮั้ง) เข้าร่วมแผนการของเ**่ยงมึ่งที้ เข้าช่วยยิ้มอั้วเกี้ยออกจากคุกใต้ดินบึงไซโอ้วโดยไม่ได้ตั้งใจ ทว่ากับได้ฝึกมหาเวทย์ดูดดาว ยอดลมปราณสลายพลังของยิ่มอั้วเกี้ย กลายเป็นยอดฝีมือในยุทธภพ ต่อมาทำบุญคุณไว้แก่สำนักเห็งซัว ติงเสี้ยนซือไถ่ยามใกล้สิ้นลม มอบตำแหน่ง เจ้าสำนักเห็งซัวให้ ต่อมาร่วมมือกับเหล่ายอดฝีมือแห่งเทพตะวันจันทรา ล้มล้างตงฟางปู้ป้าย เหล่งหูชงสังหารตงฟางปู้ป้ายได้เพลงกระบี่เดียวดายเก้าท่า ; ;ยกเอายิ้มอั้วเกี้ยกลับคืนตำแหน่งประมุข มิคาดต่อมาสำนักเห็งซัวต้องรวมเข้ากับห้าสำนักกระบี่(ซงซัว ไท้ซัว ฮั้วซัว ฮ่วงซัว เห็งซัว) งักปุ๊กคุ้งใช้เพลงกระบี่สยบมารพิชิตจ้อแน้เซียงแห่งซงซัว ก้าวสู่ตำแหน่งประมุขห้ากระบี่ขุนเขา ภายหลังงักปุ๊กคุ้งสิ้นใจตายภายใต้เงื้อมกระบี่งี้ลิ้ม(อี้หลิน ) แม่ชีน้อยแห่งเห็งซัว เหล่งหูชงเบื่อหน่ายชีวิตยุทธภพที่มีแต่บุญคุณความแค้นและการแย ่งชิง หลีกหนีออกจากยุทธภพ ใช้ชีวิตร่วมกับยิ้มเอี๊ยงเอี๊ยงอย่างเดียวดาย สร้างชีวิตที่งดงามปราศจากการเข่นฆ่า นิยามคำว่าธรรมะและอธรรม บุญคุณและความแค้นออกจากกันได้อย่างชัดเจน

อุ้ยเสี่ยวป้อ เทพยดามังกรเห็นหัวไม่เห็นหาง

อุ้ยเสี่ยวป้อนิสัยขี้เล่น ร่าเริง ลื่นไหล รู้จักการเอาตัวรอด แม้ตนจะเกิดในหอนางโลม แต่โชคดีพานพบกับตั้งกึ่งนํ้า หัวหน้าแห่งพรรคฟ้าดิน กบฏต่อต้านชิงฟื้นฟูหมิง ได้รับตำแหน่งใหญ่เป็นที่หัวหน้าสาขา ได้รับการถ่ายทอดยอดแห่งเคล็ดวิชามากมาย หากทว่าอุ้ยเสี่ยวป้อหาได้สำเร็จวิชาเหล่านี้เลยแม้แต่น้อย (แต่ว่าอุ้ยเสี่ยวป้อได้กราบเอาแม่ชีเก้านั้งเพื่อขอฝึกวิชาท่า เท้าเทพยดาร้อยแปร) ต่อมาพานพบยอดคนในแผ่นดินมากมาย เดินทางเข้าอาศัยเป็นขันที(ไม่ได้ตอน)ในวังหลวง กลับกลายเป็นสหายที่ดีแก่ฮ่องเต้คังซีแห่งราชวงศ์ชิง อุ้ยเสี่ยวป้อทำวีรกรรมถวายแด่ฮ่องเต้คังซีมากมาย ทั้งการล้มล้างอ๋องผิงซี(เง้าไป่ หรืออ้าวป้าย) การฉีกหน้ากากไทเฮาตัวปลอม ทำความดีทลายเกาะมังกรเทวะ ตีร่นกองทหารรัสเซียให้ล่าถอย ฮ่องเต้อวยยศให้เป็นที่เจ้าพระยา(กง)มีตำแหน่งศักดินาเป็นมหาอุ ปราช ตนเองพบรับกับสตรีงามทั้งหมด7นาง หนึ่งในนั้นคือเกี่ยงเล้งกงจู้(เจ้าหญิงเจี้ยนหนิง)พระขนิษฐาใน ฮ่องเต้คังซี อุ้ยเสี่ยวป้อรักนางเหล่านี้ด้วยใจจริง เป็นชายหนุ่มและสตรีงามแปดนาง(รวมมารดาอุ้ยเสี่ยวป้อด้วย) ที่อยู่ด้วยกันได้อย่างรักใคร่ ปรองดอง ทว่าต่อมาฮ่องเต้จับได้ว่าอุ้ยเสี่ยวป้อมีส่วนเกี่ยวข้องกับพรร คฟ้าดิน ทำให้อุ้ยเสี่ยวป้อต้องหลบหลี้หนีภัยไปอาศัยที่เกาะกลางทะเลพร้ อมด้วยภรรยาทั้งเจ็ด ต่อมากลับแผ่นดินใหญ่ใช้แผนการกระบี่เดียวไม่เห็นเลือดล้างแค้น ให้แก่อาจารย์(ตั้งกึ่งนํ้า) ก่อนจะกลับเข้าไปอยู่กับสหายรักฮ่องเต้คังซี ทว่าผ้าขาวแปดเปื้อนมิอาจกลับคืนขาวได้ดั่งเดิม อุ้ยเสี่ยวป้อตัดใจเดินทางพร้อมด้วยภรรยาทั้งเจ็ดและมารดา ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขที่เมืองต้าหลี่ ไม่ข้องแวะด้วยการเมืองอีกต่อไป ในจอมยุทธ์ผู้ท่องไปในบู้ลิ้มทุกผู้นาม อุ้ยเสี่ยวป้อนับเป็นมังกรเทพยดา แลเห็นหัวไม่เห็นหาง ใช้ชีวิตเปลี่ยมสุข ปากเป็นเอก ฝีมือเป็นรอง ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งที่ยิ่งใหญ่ในแผ่นดิน แยกแยะมิตรภาพ คุณธรรม บุญคุณ และความแค้นออกจากกันชัดเจน ตำแหน่งที่มี หยิบได้ก็วางได้ เสียสละทุกสิ่ง ทำการกตัญญูแก่มารดาและภรรยาสุดที่รัก ฉากในนิยายแสดงออกถึงมิตรภาพที่งดงาม ความรักที่ชื่นฉํ่า และการต่อสู้ที่เปี่ยมด้วยเล่ห์กลตามแบบฉบับอุ้ยเสี่ยวป้อ ผู้คนทั้งปวงยกย่องให้อุ้ยเสี่ยวป้อเป็นนิยายเล่มที่ดีที่สุดเล ่มหนึ่งของอาจารย์กิมย้ง

เอี๊ยก้วย คลุ้มคลั่งประจิม

บุตรชายของเอี๊ยคังและมกเหนียมชื้อ เหตุด้วยสูญเสียบิดาตั้งแต่วัยเยาว์ ใช้ชีวิตลุ่มๆดอนๆดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด วัยเยาว์ชีวิตอาภัพ ไม่มีความสุขเรียกได้ว่าเป็นเด็กมีปัญหา ต่อมาวีรชนยิงอินทรีก๊วยเจ๋งพาตนฝากฝังข้าสำนักช้วงจิง เพื่อให้รํ่าเรียนวิทยายุทธ ทว่ากลับถูกรังแก ต่อมาพบกับเซียวเหล่งนึ่งธิดาเทพหน้าหยกเย็นแห่งสุสานโบราณ เอี๊ยก้วยอยู่ภายใต้การดูแลของเซียวเหล่งนึ่งตามคำสั่งเสียของย ายซุง ต่อมาเรียกได้ว่าเป็นศิษย์อาจารย์กัน หากทว่าต่างมีใจให้กัน ความรักของทั้งสองก่อเกิดกันจนแน่นแฟ้นและมั่นคง ความรักเปลี่ยนแปลงนิสัยของคนทั้งคู่ไปเป็นคนละคน เอี๊ยก้วยเองเป็นเด็กฉลาด หัวไว ต่อมาเมื่อได้พบกับมารบูรพาอึ้งเอี๊ยะซือ จึงคบหากันเป็นสหายต่างวัย เอี๊ยก๊วยมีอาวเอี๊ยงฮงในยามเสียสติเป็นพ่อบุญธรรม มีวาสนาได้รํ่าเรียนวิชาพลังคางคกทั้งยังได้ฝึกเพลงไม้เท้าตีสุ นัขท่าจากอั้งชิกกง ทั้งยังโชคดีพานพบอินทรีเทพยดาที่สุสานกระบี่ เลือกใช้กระบี่เหล็กนิล ให้อินทรีเทพยดาสอนวิชาเพลงกระบี่เหล็กนิลให้ ฝีมือรุดหน้ารวดเร็ว กลายเป็นยอดฝีมือ เอี้ยก้วยเป็นจอมยุทธมือเดียว เพราะถูกก๊วยพู้ บุตรของก๊วยเจ๋งตัดแขนเอี๊ยก้วยขาดไป เช่นนี้เอี๊ยก้วยจึงกลายเป็นจอมยุทธอินทรีมือเดียวผู้น่าเกรงขา ม และด้วยความกดดันในเรื่องความรัก เซียวเหล่งนึ่งนัดหมายเวลา16ปีที่หน้าผารักมลาย เอี๊ยก้วยในเวลาต่อมามอบกระบี่เหล็กนิลให้แก่ก๊วยเจ๋ง (อึ้งย้งนำไปแยกส่วน ตีเป็นกระบี่อิงฟ้า ดาบฆ่ามังกร) ประพฤติตนเช่นคนเสียสติ หากทว่าเปี่ยมไปด้วยคุณธรรมงดงามน่ายกย่อง ใช้พลังฝีมือของตนทั้งหมดที่มีมาชั่วชีวิตบัญญัติฝ่ามือกำสรวญว ิญญาณสลาย พลังฝีมือเป็นเอกอุในยุทธภพ พลันเวลาครบ16ปี นัดหมายครบกำหนดมิคาดไม่พบเซียวเหล่งนึ่งที่ผารักมลาย ตัดใจกระโดดผาหมายฆ่าตัวตาย กลับได้พานพบสตรีผู้ที่ตนรักใช้ชีวิตอยู่ใต้ผานั้น ทั้งสองใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุข ปราศจากการข้องแวะของยุทธภพ ต่อมาผู้คนต่างขนานฉายา จอมยุทธอินทรี และอึ้งย้งก็ยกให้เอี๊ยก้วยเป็นที่ คลุ้มคลั่งประจิมแทนพ่อบุญธรรมที่เสียชีวิตไปพร้อมกับอั้งชิกกง จากการประลองที่เขาฮั้วซัว เป็นตำนานของจอมยุทธหนึ่งเดียวในใต้หล้าที่ยากหาเสมอเหมือน


หมดแร๊วค่ะ เครดิตคุณ Mark นะคะ

ปล. เดี๊ยนก๊อปมาให้อ่าน ผิดพลาดอะไร อย่ามาด่าเดี๊ยนนะคะ เพราะเดี๊ยนไม่ได้แต่งเอง ใครด่าเดี๊ยนจะโดนด่ากลับนะค๊า

สวยยยย

น่าอ่านมาครับคุณสวย ทั้งสวยทั้งน่ารักอย่างงี้ไม่กล้าด่าหรอกครับ

ขุดครับสาระๆ

ขอบคุณที่มาชี้แนะครับ คุณ สวยมากๆ อิอิ

อึ้งมากมาย โดยเฉพาะประวัติ ต๊กโก้วคิ้วป้าย ที่ประลองกับ อึ้งเซียะ นี่แสดงกว่าทั้ง 2 คนนี้ประลองกัน 2 ครั้ง ครั้งแรกสูสี แต่ครั้ง 2 เจอเพลงกระบี่ใหม่ของต๊กโกคิ้วป้าย เก้าอิม เลยสิ้นชื่อ

เคยอ่านที่บอร์ดอื่นแต่ไม่ละเอียดถึงเพียงนี้ แถมบอร์ดอื่นยังถกเถียกกันไม่เลิกว่าต๊กโกคิ้วป้าย กับ อึ้งเซียะ ไม่เคยสู้กัน เป็นข้อมูลที่แฟนคลับต่างประเทศตั้งกระทู้ไว้เฉยๆ

แต่เท่าที่อ่านดูข้อมูลแล้วสมเหตุสมผลดีครับ มีโอกาสเป็นไปได้สูงมากทีเดียว คนหาข้อมูลนี่ ไม่ธรรมดา อะห๊า ไม่ธรรมดา

ฮาจัง ใครด่าเดี๊ยนจะโดนด่ากลับนะค๊า สงสัยปากจัดน่าดู(ล้อเล่น)

คุณสวย มีสาระด้วย (อ่ะ ล้อเล่นๆ - -)
ข้อมูลแน่นมากๆ ครับ ของจริงหมดเลยเป่า หรือเอาที่เค้าวิจารณ์มา-*-
ตัวละครอื่นเห็นด้วยหมด อยากรู้เรื่อง อึ้งเซียะ กับ ต้กโก้ว อ่ะครับ - -

ข้อมูลดีมากคับดีจริงๆๆๆ

ก็ดี

10

อ่านเพลินเลยคับ ได้ความรู้มากๆ

เอามาอีกนะครับ