อยากแลกเปลี่ยนความรู้ทางประวัติศาสตร์ 4000ปี + ของจีนอ่านๆแล้วเก็บไว้คนเดียว เดียวมันลืมหมดอยากปลดปล่อยบ้าง แต่ผมก็รู้ไม่มากหรอกนะคับ เลยอยากมาแรกเปลี่ยนความรู้ ใครสงสัยเรื่องอารัยก็โพสๆไปได้เลยนะคับ เดียวแวะเข้ามาจะช่วยตอบ
เอาขึ้นหัวข้อเลยดีกว่าภาพนี้
คลิปแฟนพันธุ์แท้สามก๊ก
http://www.youtube.com/results?search_type=&search_query=%E0%B9%81%E0%B8%9F%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%B8%E0%B9%8C%E0%B9%81%E0%B8%97%E0%B9%89+%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B9%8A%E0%B8%81&aq=f
ความจริงจากแฟนพันธุ์แท้ พี่อาร์ท ชี้ชัด อ่านสามก๊กมาเพียง 13 - 14 รอบเท่านั้น ซึ่งอาจจะน้อยกว่าหลายๆคนในบอร์ดนี้ซะอีก
แลกเปลี่ยนความรทางประวัติศาสตร์ของจีน
vมังกรหลับv |
#1 vมังกรหลับv [ 22-06-2007 - 20:10:26 ] |
|
ชุนเฮง | |
|
ราชวงศ์ของจีนที่ครองราชยาวนานสุดคือราชวงไหนอะคับ แล้วนานเท่าไหร่อะคับ |
vมังกรหลับv |
#4 vมังกรหลับv [ 22-06-2007 - 21:03:54 ] |
|
น่าจะราชวงศ์โจวนะที่อยู่ก่อน ยุคจิ๋นซีจะเกิด ครองอยู่ประมาณ 800 ปี แต่ถ้าผิดพลาดอย่างไรผู้รู้ช่วยชี้แนะ |
ชุนเฮง | |
|
ยุคก่อนจิ๋นซีใช่เลียดก๊กไหมอะคับที่มันแบ่งออกเป็น7แคว้นแล้วจิ่นซีรวมแผ่นดินได้ |
vมังกรหลับv |
#6 vมังกรหลับv [ 22-06-2007 - 22:22:06 ] |
|
ราชวงศ์ดจวที่ผมว่านะ ก่อนหน้า เลียดก๊กคับ |
................ | |
|
ผมอยากรู้ว่า สมัยที่เอล็กซานเดอร์มหาราช กำลังเรือง อำนาจ ตรงกับราชวงศ์ ใดของจีนครับ และถ้าทัพของเอล็กซานเดอร์ ตอนนั้น เหนือกว่า ราชวงศ์จีน(ยุคนั้น) รึเปล่า ครับ |
เอี้ยนเฟย | |
|
สมัย อเล็กซานเดอร์มหาราชตรงกับสมัยสามก๊กครับ นักประวัติศาสตร์เชื่อว่า เหตุที่พระเจ้าอเล็กฯ ไม่เข้าตีประเทศจีนเนื่องจากกำลังทหารของยุค 3 ก๊ก มากกว่าหลายเท่า แล้วก็เป็นทหารอาชีพด้วยครับ รบกันบ่อยว่างั้นเถอะ อีกประการหนทางจากอินเดียไปจีนหรือจีนไปอินเดีย ลำบากมากถ้าเดินทางทางบก ขอแย้งนิดหนึ่งนะครับ ถ้าปฐมกษัตริย์คือ จิ๋น ซี ฮ่องเต้ ราชวงศืโจวเป็นการปกครองแบบชนเผ่าไม่น่าจะเรียกว่าผู้ปกครองหรอกครับ เป็นราชวงศืหุ่นเชิดซะมากกว่า |
... | |
|
ได้ความรู้ใหม่ๆเยอะเลย กษัตริย์องค์สุดท้ายของจีนคือใครอะคับใช่ ปูยี อะคับถ้าจำไม่ผิดนะแล้วครองราชยืได้กี่ปีแล้วทำไมถึงโดนโค่นอำนาจได้คับ |
vมังกรหลับv |
#10 vมังกรหลับv [ 24-06-2007 - 17:06:19 ] |
|
กษัตริย์ องศ์สุดท้ายก็ ปูยี หนะถูกแล้ว เรื่องล้มล้างก็น่าจะเป็นการปฏิวัติของพรรคก๊ก .... (อะไรสักอย่างนี้แหละ) ที่ ดร. ซุนยัดเซ็นต์ เป็นคนนำ |
vมังกรหลับv |
#12 vมังกรหลับv [ 26-06-2007 - 17:51:58 ] |
|
อี้เฟยทำไมน่ารักขนาดนี้ ไม่เคยชอบใครเท่าพี่อี้เฟยมาก่อนเลยในชีวิต มันทำผมหมดอารมกับผู้หญิงสวยๆทุกคนไปเลยรู้สึกงั้นๆไปเลย ใครพอจะรู้จักดารที่นิสัยดีๆน่ารักๆแบบอี้เฟยมั้งเพื่อจะทำให้ผมลืมอี้เฟยได้ เพราะยิ่งค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับเธอก็ยิ่งชอบเธอมากขึ้นทุกวันๆ สงสัยถ้าได้เห็นอี้เฟยตัวจริงๆคงขาดใจตายตรงนั้น เพราะความน่ารักของเธอแน่ๆ |
จางซันฟง | |
|
พรรค ก๊กมินตั๋ง ได้ช่วงชิงอำนาจ แข่งกับ คอมมิวนิส อ่ะครับ ตอนหลังคอมมิวนิสชนะ ก๊กมินตั๋งย้ายรกรากไปใต้หวัน ได้ไปเปนผู้นำที่ใต้หวันมั้ง เท่าที่จำได้ |
vมังกรหลับv |
#14 vมังกรหลับv [ 27-06-2007 - 17:10:04 ] |
|
ถูกกกกก แล้ว เจียงไคเช็คหนีไปที่ใต้หวันและก็จนป่านนี้ยังไม่เคยกลับมาอีกเลย ศพของเจียง ก็ยังอยู่ใต้หวัน ผมคิดว่าตอนนั้นเหมาน่าจะตามไปตีให้รู้กันไปเลยน่าจะดี นี่ก็น่าจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ปัจจุบันจีนกะใต้หวันไม่ค่อยจะกินเส้นกัน |
จอมยุทธ์มังกรน้อย |
#15 จอมยุทธ์มังกรน้อย [ 27-06-2007 - 17:47:02 ] |
|
ผมอยากรู้ว่าสมัยเจงกิสข่านอยู่ช่วงก่อนสถาปนากรุงสุโขไทย110 ปีป่าวครับ ซึ่งตอนไทยก็ยังไม่เป็นอาณาจักเลยยังตกภายใต้อํานาจของขอมอยู่ ที่ผมว่ามาถูกไหมครับ |
จูหยวนจาง | |
|
การปกครองสมัยราชวงศ์ถัง ได้รับการยกย่องว่าเป็นการปกครองที่ดีที่สุดของจีน ราชวงศ์อื่น ไม่มีการปกครอง มีแต่การช่วงชิงอำนาจเท่านั้น หลี่ซื่อหมิง องค์ถังไท่จงฮ่องเต้ ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักปกครองที่เก่งที่สุดในประติศาสตร์จีน แม้วาจะได้ชื่อว่าก่อศึกสายเลือด สังหารพี่น้อง แต่เป็นเรื่องที่มิอาจเลี่ยงได้ และความจริง ที่ควรได้เป็นฮ่องเต้ก็ไม่ใช่พระบิดาอยู่แล้ว แต่เป็นตัวหลี่ซื่อหมิงเองที่จัดการทุกอย่าง การปกครองสมัยราชวงศ์ถังและการแต่งกายตลอดจนวัฒนธรรม มีผลสะท้อนไปไกลถึงญี่ปุ่น กล่าวกันว่า ที่โตกุกาว่าเรืองอำนาจมาได้ถึงกว่าสามร้อยปี เพราะคัมภีร์เจินกวนเจิ้งเยาที่รจนาโดยอู๋จิง โดยคัมภีร์นี้ คือสิ่งที่รวบรวมกุศโลบายและคำแนะนำต่างๆ ที่มีในยุคเจินกวน การปกครองสมัยหมิง มีบางส่วนนำมาจากสมัยถังเช่นกัน แต่ไม่นำมาจากซ่ง เพราะแนวนโยบายอ่อนแอเกินไป ท่านมีความคิดอยางไรบ้าง เกี่ยวกับการนำแนวทางการปกครองของถัง มาใช้ในปัจจุบัน?(สมัยถังมีการปกครองที่เน้นการแยกอำนาจ และฟังคำทัดทาน) หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม จะมาเพิ่มวันหลัง หรือผู้รู้กรุณาชี้แจง (จอมยุทธที่ดี ต้องมีความรู้กว้างขวาง เผื่อจะได้เป็นใหญ่) กระทู้นี้ เพื่อวิจารณ์การปกครองของจูหยวนจาง (จากดาบมังกรหยก) |
จูล่ง | |
|
ผมเกลียดการปกครองของจีนมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว เช่น การสืบเชื้อสายกษัตริย์ มันไม่เวิร์ค อะไรจะเกิดมาปุบก็เข้าคิวปกครอง พอไม่ได้ก็ฆ่าพี่น้องกันเอง กษัตริย์ ทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ คิดจะฆ่าใครก็ได้ กินอยู่ฟุ่มเฟือย มีเมียทิ้งขว้างเป็นร้อยเป็นพัน สร้างขันทีวิปริต ขึ้นมาวุ่นวาย เกิดประเพณีคร่ำครึมากมาย อยากได้ยาอายุวัฒนะ ในเรื่องเจาะเวลาหาจิ๋นซี เซี่ยงเส้าหลงบอกว่า กษัตริย์ก็ควรอยู่ในกฎหมายเล่นเอาบัณฑิตอึ้งไปตามๆกัน ด้วยเหตุเหล่านี้มีส่วนทำให้จีนไม่เจริญเท่าที่ควร ทั้งที่ประวัติศาตร์ยาวนานไม่ด้อยกว่าใคร ดูในปัจจุบันจีนกลายเป็นคอมมิวนิสต์ มันช่างต่างกับอดีตราวฟ้ากับดิน จากการปกครองที่แบ่งชนชั้นรวยจนต่างกันเหลือเกิน กลายเป็นระบบเสมอภาคไปเลย ยังสงสัยว่าเป็นเพราะมันกดขี่กันมานานเกินไปรึเปล่า จูหยวนจาง ก็ไม่รู้ว่าดีหรือเลว เพราะบางท่านบอกว่าการบันทึกประวัติศาสตร์อาจมีอคติ แต่เชื่อว่าตัวท่าน เจ้าเล่ห์ อดทน ทะเยอทะยานสูง ขี้ระแวง ถึงได้ฆ่าคนไปเพียบ |
จอมยุทธ์มังกรน้อย |
#18 จอมยุทธ์มังกรน้อย [ 28-06-2007 - 14:32:02 ] |
|
ทุกสิ่งย่อมมีการเปลี่ยนแปลง มีเกิดย่อมมีดับ ไม่มีสิ่งใดคงทนตลอดกาล สิ่งที่ดีที่สุดในยุคหนึ่ง อาจใช้ไม่ได้ในอีกยุคหนึ่ง การปกครองสมัยถังก็เช่นกัน มีข้อดี ก็มีข้อเสีย หากจะว่าไป ระบบการปกครอง "แทบทั้งหมด" ของราชวงศ์ถัง โดยเฉพาะตอนต้น จนถึงยุคของถังเสวียนจงนั้น "ลอก" มาจากราชวงศ์สุยล้วนๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบแบ่งที่นา ระบบเก็บภาษี ระบบสอบขุนนาง ระบบการปกครองแบบ ๓ เสิ่ง ๖ ปู้ ๙ ซื่อ ๕ เจี้ยน ๑ ถาย เรียกว่า copy มาแทบทั้งดุ้น ระบบพวกนี้นั้นดี แต่เมื่อใช้ไปนานๆ ข้อเสียก็ค่อยๆเกิด มันไม่ได้เกิดที่ระบบ แต่เกิดที่คนนำไปปฏิบัติ ในยุคของหลี่ซื่อหมิน เป็นยุคที่ระบบต่างๆเหล่านี้อยู่ในช่วงที่กำลังดำเนินไปอย่างราบลื่น เพราะตัวหลี่ซื่อหมินเองรู้จักใช้คน แต่เมื่อเวลาล่วงไป แค่ถึงยุคของถังกาวจง ลูกหลี่ซื่อหมินเอง ปัญหาก็เริ่มเกิด ที่เห็นได้ชัดที่สุด คือ ระบบการเก็บภาษีและเกณฑ์ทหารโดยอิงระบบการแบ่งที่นาอันมีรายละเอียดดังนี้ ทางการจะแบ่งที่นาให้ชายหญิงทุกคนที่บรรลุนิติภาวะทำการไถหว่าน ที่นานี้มีทั้งนาข้าวและนาหม่อน จากนั้นก็จะเก็บภาษีตามสัดส่วนของที่นาที่ได้รับแบ่ง(อาจจะมีการอนุโลมแปรผันตามคุณภาพดิน) แล้วใน ๑ ปี ชายฉกรรจฺจะถูกเกณฑ์แรงงานประมาณ ๑ เดือน(จำนวนจำไม่ได้แน่ชัด แต่ประมาณนี้) ใน ๑ เดือนนี้ อาจจะโดนเกณฑ์ไปเป็นทหารประจำชายแดน ประจำถิ่นต่างๆ หรือเป็นแรงงานก่อสร้าง แต่ที่สำคัญคือ "เสื้อผ้า เสบียง และค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ผู้ถูกเกณฑ์ต้องออกเองหมด" เพื่อเป็นการลดภาระด้านรายจ่ายของประเทศ ข้อเสียของระบบนี้สำหรับประชาชนคือ ทำให้ประชาชนต้องรับภาระค่าใช้จ่ายหนักมาก โดยที่ทางการถือว่า ได้แบ่งที่นาให้ไปแล้ว(ดูเหมือนคนที่ถูกเกณฑ์จะได้รับเว้นภาษี แต่ผู้หญิงก็ต้องเสียภาษีด้วย) ข้อเสียต่อระบบทหารคือ ทำให้ได้ทหารที่ไม่ประจำ ไม่ชำนาญพื้นที่ผลัดเปลี่ยนกันมาตลอด และสุดท้าย เมื่อข้อเสียข้อหลังหนักหนากว่า พวกที่ถูกเกณฑ์ไปเฝ้าชายแดนไกลๆ ก็เริ่มโดนเกณฑ์เกินกำหนดเวลาไปโข เช่น ไม่ได้กลับบ้านเป็นปีๆ แทนที่จะถูกเกณฑ์แค่ ๑ เดือนตามความเป็นจริง ถึงตอนต้นยุคของบูเช็คเทียน ปัญหาจากระบบแบ่งที่นาได้รุนแรงขึ้นทุกขณะ โดยที่พบว่า ผู้ที่ตามกฎหมายควรได้รับแบ่ง ๔๐ ไร่ เป็นต้น กลับได้รับแบ่งจริงแค่ ๕ ไร่ หรือไม่ได้รับเลย แต่ยังต้องจ่ายภาษีของ ๔๐ ไร่ตามกฎหมายต่อไป และบางครอบครัว มีสมาชิกแค่คนเดียว แต่ดันได้แบ่ง ๙๐ ไร่ และต้องจ่ายภาษีของ ๙๐ ไร่ ทั้งที่ทำนาเองคนเดียวขนาดนั้นไม่ไหวเห็นๆ เมื่อมาถึงยุคถังเสวียนจง ที่ถือกันว่าเป็นยุคเจริญสูงสุดของราชวงศ์ถัง ระบบนี้ก็ถึงแก่กาลล่มสลาย ถังเสวียนจงได้เปลี่ยนระบบเก็บภาษีเป็นเก็บตามรายได้ และจำนวนที่ดินในครอบครองที่แท้จริง และเปลี่ยนจากระบบเอาคนที่ถูกเกณฑ์แรงงานไปเป็นทหารชั่วคราว มาเป็นรับสมัครทหารอาชีพ คราวนี้ ลางวิบัติของราชวงศ์ถังก็เริ่มต้น เพราะราชวงศ์ถังนั้นมีพื้นที่มาก กองกำลังชายแดนจึงมากตามไปด้วย เพื่อรับมือกับพวกชนกลุ่มน้อยรอบด้าน และบรรดานายพลเหล่านั้น เมื่อถึงยุคถังเสวียนจง ได้มอบอำนาจให้ครบ ๓ อย่าง คือ อำนาจปกครอง อำนาจเก็บภาษีประชาชนในเขตปริมณฑลที่ทหารคุ้มครอง และอำนาจทหารในมือ ทำให้พวกนี้สามารถก่อกบฏได้อย่างสบายมาก จากการประมวลของนักวิชาการที่วิจัยด้านนี้ พบว่า จำนวนของทหารรักษาชายแดนทั้งหมด เป็น ๘๕% ของกำลังทหารทั่วประเทศ ในขณะที่ทหารในกำมือของฮ่องเต้ มีเพียง ๑๕% เท่านั้น ข้อเสียอีกอย่างของราชวงศ์ถัง คือ การใช้ขันที อันเริ่มมาตั้งแต่ยุคถังไท่จงน่ะแหละ และใช้มาเรื่อยๆแบบหนักข้อขึ้นทุกที จนมาโดนขันทีกุมอำนาจเอาในสมัยหลังจากถังเสวียนจงในที่สุด ราชวงศ์ถังเจริญอยู่ได้ประมาณ ๑๐๐ ปี พอถึงปีการปกครองเทียนเป่าของรัชกาลถังเสวียนจง หลังเหตุการณ์กบฏอานสื่อ ราชวงศ์ถังก็เละตุ้มเป๊ะลงไปทุกวัน ทั้งขุนศึกชายแดนตัดแบ่งดินแดนตั้งตัวเป็นใหญ่ เงินภาษีไม่ส่งหลวง ขุนนางหลวงที่ส่งไปควบคุมถูกฆ่าส่งกลับ แล้วยังมีขันทีกุมอำนาจ ถอดตั้งฮ่องเต้ได้ตามใจชอบ แถมบรรดาขุนนางในราชสำนักก็ทะเลาะเบาะแว้งแบ่งพรรคแบ่งพวกกันเอง ราชวงศ์ถึงหลังยุคถังเสวียนจงก็แค่อยู่ไปวันๆเพื่อรอวันล่มสลายเท่านั้น ส่วนราชวงศ์ซ่ง ในตอนต้นนั้น เพราะอิทธิพลจากปลายยุคราชวงศ์ถังตามด้วยยุค ๕ ราชวงศ์ ๑๐ แว่นแคว้นที่ทำสงครามรบพุ่งกันไม่หยุดหย่อน ทำให้ซ่งไท่จู่ได้ดำเนินนโยบายปกครองแบบตัดอำนาจบรรดาขุนพล และก็ทำได้สำเร็จเสียด้วย ทำให้ตลอดสมัยซ่ง ไม่มีเหตุขุนพลกุมอำนาจแย่งบัลลังก์เลย บวกกับได้รับบทเรียนจากยุคราชวงศ์ถังเรื่องขันที ทำให้ราชวงศ์ซ่งระวังเรื่องขันทีเป็นพิเศษ และตลอดราชวงศ์ซ่งก็ไม่มีเหตุการณ์ขันทีกุมอำนาจเลยเช่นกัน ทั้งที่มีฮ่องเต้เด็กในราชวงศ์ซ่งเหนือถึง ๒ องค์ คุณ puppy น่าจะอ่านระบบการปกครองและบทความวิเคราะห์ระบบการปกครองของราชวงศ์ถังมาให้ละเอียดกว่านี้ ก่อนจะบอกว่า "การปกครองสมัยราชวงศ์ถัง ได้รับการยกย่องว่าเป็นการปกครองที่ดีที่สุดของจีน ราชวงศ์อื่น ไม่มีการปกครอง มีแต่การช่วงชิงอำนาจเท่านั้น" ราชวงศ์ฮั่นนั้น ในยุคฮั่นเหวินตี้กับฮั่นจิ่งตี้แห่งราชวงศ์ฮั่นตะวันตก และฮั่นกวงอู่ตี้กับฮั่นหมิงตี้ในยุคราชวงศ์ฮั่นตะวันออก เองก็ได้รับยกย่องว่าเป็นยุคที่บ้านเมืองร่มเย็นเป็นสุข ประชาชนอยู่ดีกินดีไร้ภัยสงคราม เพราะฮ่องเต้เป็นฮ่องเต้ที่ดี คำนึงถึงประชาชนเป็นหลัก ไม่แพ้ยุคของถังไท่จงเลย โดยเฉพาะยุคของฮั่นเหวินตี้กับฮั่นจิ่งตี้นั้น กล่าวกันว่า ข้าวในยุ้งฉางของชาวบ้านมีเต็มจนล้น จนมันเน่าแล้วก็ยังกินไม่ทัน เพราะยุคนั้น เก็บภาษีน้อยมาก แค่ ๑/๓๐ แถมมีอยู่ ๑๒ ปีที่ไม่มีการเก็บภาษีเลย แม้ว่าพอถึงยุคของฮั่นอู่ตี้ จะจัดการผลาญสมบัติที่พ่อและปู่สร้างไว้ให้จนเกลี้ยงคลัง เพราะทำสงครามกับพวกซยงหนูตลอดก็ตาม แต่เส้นทางสายไหมก็เกิดในยุคของฮั่นอู่ตี้นี่เอง และในยุคของฮั่นอู่ตี้ อาษาจักรจีนได้แผ่ขยายออกไปกว้างมาก เป็นตัวอย่างอย่างดีให้แก่ราชวงศ์ถังะเลยทีเดียว อย่าว่าแต่ระบบการปกครองของราชวงศ์ถังเอง ก็มีรากฐานส่วนหนึ่งมาจากราชวงศ์ฮั่นด้วย และแม้ราชวงศ์ซ่งจะมีกำลังทหารอ่อนแอ แต่ระบบการปกครองนั้นพัฒนาจนเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไป โดยเฉพาะราชวงศ์ซ่งเหนือ ตั้งแต่การคัดเลือกขุนนางโดยอิงการสอบเข้าเป็นสำคัญ มีแต่ขุนนางที่เข้าเป็นขุนนางได้โดยการสอบเข้าเท่านั้น ที่จะมีโอกาสได้ดำรงตำแหน่งสูงๆ ทั้งนี้เพื่อป้องกันเหตุการณ์ขุนนางที่เป็นราชนิกูลกุมอำนาจ เพราะในสมัยถังนั้น พวกที่ได้เป็นขุนนาง มักเป็นพวกลูกท่านหลานเธอ ทั้งราชนิกูลญาติฮ่องเต้เอง และบรรดาญาติพี่น้องของไทเฮา ฮองเฮา นางสนมทั้งหลาย รวมทั้งบรรดาราชบุตรเขย ทำให้เกิดความมักใหญ่ใฝ่สูงคิดชิงบัลลังก์ได้ง่าย ในขณะที่ขุนนางสมัยซ่งนั้นจะถือความจงรักภักดีเป็นหลัก อาจจะขัดแข้งขัดขากันเอง แต่ไม่เคยคิดชิงบัลลังก์ และราชวงศ์ซ่งยังมีกฎว่า ห้ามบรรดาราชนิกูล ญาติของบรรดาสนมของฮ่องเต้ รวมถึงไทเฮา ฮองเฮา ราชบุตรเขยทั้งหลาย ดำรงตำแหน่งมหาเสนาบดีเด็ดขาด รวมทั้งห้ามบรรดาญาติของฮองเฮา ไทเฮา และนางสนมเข้าไปในวังหลังเพื่อเข้าพบผู้หญิงในวังหลังด้วย แม้จะเป็นลูกสาว น้องสาว หรือหลานสาวของตัวเองก็ตาม และในราชวงศ์ซ่ง ฮ่องเต้จะมีกฎว่า จะไม่ประหารขุนนางบุ๋น จะมีแต่การลด , ปลดตำแหน่ง หรือเนรเทศเท่านั้น ขุนนางบุ๋นทุกคนจึงมีโอกาสตั้งตัวใหม่ได้ทุกเวลา โดยเฉพาะขุนนางตงฉินที่จะไม่ถูกขุนนางกังฉินใส่ร้ายจนถึงตายได้ง่ายๆ และในราชวงศ์ซ่งเหนือนั้น ฮ่องเต้ส่วนมากจะไม่ใช่ลูกชายคนโต แต่จะเป็นน้องชาย ลูกคนรองๆลงไป หรือหลานชาย(เพราะมีฮ่องเต้บางองค์ไม่มีทายาท) ไงๆก็ถือว่าถูกเลือกมาแล้วก่อนจะมานั่งแท่น และในราชวงศ์ซ่ง หากฮ่องเต้ไม่หนุนหลัง มหาเสนาบดียากยิ่งจะกุมอำนาจได้ เพราะจะมีกลุ่มขุนนางที่อ่องเต้ตั้งขึ้นเป็นพิเศษ ทำหน้าที่จับผิดบรรดาเสนาบดีที่อยู่ปลายยอดปิรามิดแห่งอำนาจทั้งหลายโดยเฉพาะ คำว่า "จับผิด" นั้น หมายถึง แค่มีข่าวลือว่ามหาเสนาบดี หรือขุนนางในราชสำนักคนไหนไปทำอะไรไม่ดี ขุนนางคนที่ถูกว่าก็ต้องนั่งอยู่บ้านรอรับการพิพากษาแล้ว แม้อาจจะพิสูจน์ได้ว่าเรื่องนั้นไม่มีมูลความจริง ขุนนางผู้ฟ้องร้องก็ไม่มีความผิดใดทั้งสิ้น เพราะทำไปตามหน้าที่ ทำให้บรรดาขุนนางในสมัยซ่งเหนือประพฤติตัวระมัดระวังเรียบร้อยกันกันค่อนข้างมาก และระบบของราชวงศ์ซ่ง ยังมีการจำกัดอำนาจของฮ่องเต้(โดยความสมัครใจของฮ่องเต้เอง) โดย คำสั่งของฮ่องเต้ ต้องได้รับการอนุมัติจากสภาขุนนางก่อน จึงจะสามารถประกาศใช้ได้ หากขุนนางเห็นว่าคำสั่งนั้นไม่เหมาะสม ก็สามารถปิดผนึกส่งกลับคืนให้ฮ่องเต้ได้ ไม่ว่าในราชวงศ์ใด ล้วนแต่ตั้งระบบที่เหมาะสมกับการปกครองในช่วงนั้นๆออกมากันทั้งนั้น แต่ไม่ว่าระบบมันจะดีแค่ไหน จะใช้ให้ได้ผลนั้น มันก็ขึ้นอยู่กับตัวคนนำไปใช้ด้วย ฉนั้น เมื่อเวลาล่วงไปสักพัก อาจจะไม่กี่สิบปี หรือร้อยกว่าปี ระบบก็จะเริ่มเสื่อม การปกครองจะเริ่มเหลวแหลก สุดท้ายราชวงศ์ก็จะล่มสลาย เป็นอย่างนี้ทุกราชวงศ์นั่นล่ะ ไม่เว้นแม้แต่ราชวงศ์ถัง |
จูล่ง | |
|
โอ… ได้อ่านบทความนี้ของคุณ จอมยุทธ์มังกรน้อย ได้ความรู้มากเลย ที่ว่า การปกครองที่เหมาะสมกับในช่วงนั้นๆ หมายถึงอย่างไรครับ ผมคิดว่า ถ้า การปกครองได้รับการยอมรับ บ้านเมืองก็จะเรียบร้อย แต่ถ้าไม่ดีเกิดการไม่ยอมรับ ก็จะเสื่อมสลาย และมีของใหม่เข้ามา เป็นวัฐจักรใช่ใหมครับ อืม.. เคยอ่านว่า ช่วงที่การปกครองเปลี่ยนเป็น คอมมิวนิสต์ ความจริงฝ่ายคอมมีทหารน้อยกว่ามากแต่รบชนะ ส่วนนึงมาจากการสนับสนุนของประชาชนด้วยรึปล่าว หากพรรคกระยาจกยังมีอยู่คงต้องต่อต้านคอมฯ เพราะจะทำให้พรรค ต้องสาบสูญไป เพราะปัจจุบันจีนคงไม่มีขอทานแล้ว(อันนี้คิดเล่น) อยากถามคุณ Linmou ว่าจีนมีแรงจูงใจให้คนขยันทำงานกันอย่างไร แล้วรายได้ ต่างกันมากไหม ระหว่างคนขยัน กับ คนทำงานเช้าชามเย็นชาม แล้วคนจีนคิดอย่างไรกับ พวกฮ้องเต้ที่ฆ่าคนเยอะๆ หรือเจงกิสข่าน ขงเบ้ง คือพวกเขาเกลียดหรือปล่าว หรือว่าไม่สนใจ ชื่นชมที่ผลงานการปกครองมากกว่า |
จูหยวนจาง | |
|
ผมไม่ได้กล่าวเองครับ แต่เขียนว่ามีคนกล่าวว่า ดังนั้น ผมก็แค่ลอกเขามาเขียนครับ เขากล่าวอย่างนี้ ไม่ใช่ผมกล่าวเอง และผมก็ไม่อาจจะวิเคราะห์ได้ละเอียดมากนัก แต่ที่ลอกราชวงศ์สุยมานั้น เป็นความจริงส่วนนึง แต่ที่บอกว่าเรียกได้ว่าดี ก็เพราะมีหลักการแยกอำนาจชัดเจนจนมีคำว่ายอำเภอตราเอียงครับ หลักการปกครองที่สำคัญที่สุดไม่ใช่รูปแบบแผนการสอบหรือการช่วงใช้ขุนนางนะครับ แต่เป็นหลักการแบ่งแยกอำนาจ และพวกขุนนางในสมัยถังก็มีหลักการแยกอำนาจที่ชัดเจน แม้แต่ฮ่องเต้ยังไปยุ่งสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้เลย กระทั่งจะตั้งนาอำเภอสักคนด้วยตัวเองโดยไม่ผ่านกระบวนการตามปรกติยังต้องแกล้งประทับตราเอียงๆ ซึ่งเป็นที่มาของคำว่านายอำเภอตราเอียง ซึ่งนายอำเภอพวกนี้จะต้องลาออกในไม่ช้าเพราะทนแรงกดดันไม่ไหว การปกครองที่ดีจะต้องมีหลักการแบ่งแยกอำนาจครับ มองเตสกิเออร์ได้อ้างว่าคิดหลักนี้ขึ้น แต่ผมเห็นว่าหลักการแบ่งแยกอำนาจมีมาแต่สมยถังแล้ว ซึ่งตรงนี้ล่ะครับ ทำให้เป็นการปกครองที่ดีที่สุด เพราะมีการแยกอำนาจและฟังคำทัดทานอย่างเด่นชัด ส่วนอื่นๆนั้นเป็นแค่องค์ประกอบที่แปรไปตามยุคสัย แต่ไม่ว่าจะเป็นการปกครองระบอบใด การแบ่งแยกอำนาจสำคัญที่สุดครับ นี่ผมพูดในฐานะนักการปกครองนะครับ ไม่ใช่นักประวัติศาสตร์ และที่นักการปกครองทุกคนยกย่องการปกครองแบบสมัยถัง ก็เพราะหลักการแบ่งแยกอำนาจนี้ จึงเรียกได้ว่าเป็นการปกครองที่ดีอย่างแท้จริง |